คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 นัยน์ตาสีดำ (Midnight Eyes)
ตอนที่ 2 นัยน์ตาสีดำ (
เมื่อทอม ริดเดิ้ล ตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมา ความฝันแปลกประหลาดก็เป็นหนึ่งในสิ่งท้ายสุดที่อยู่ในใจเขา การได้เป็นประธานนักเรียน ทอม ริดเดิ้ล จึงมีห้องนอนของตัวเองพร้อมกับห้องน้ำส่วนตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาอยากเป็นประธานนักเรียน เขาชอบความสันโดษมากกว่าการอยู่รวมกลุ่มกันตลอดเวลา กระนั้นก็มีหลายครั้งที่เขาอยู่คนเดียวกับความคิดที่เกินจะรับมือไหว เขาจะอาบน้ำที่เย็นเยือกเสมอๆ ก็ในเมื่อน้ำอุ่นไม่เคยลงมาถึงคุกใต้ดิน
ทอมครุ่นคิดถึงจุดมุ่งหมายที่อยู่ในใจของเขาในวันนี้ เขาได้เริ่มวางแผนงานเลี้ยงสุดสยองในวันฮาโลวีนที่ได้รับมอบหมายมา พยายามชักชวน ไรออน มัลฟอย ให้มอบวัตถุดิบการปรุงยาแก่เขา อ่านหนังสือเรื่องการสกัดใจ(Legilimency) ที่เขาขอยืมมาจากศาสตราจารย์ทูนิสตร้าให้จบ และฝึกคาถาความทรงจำระดับสูงกับ เกรกอรี่ ลองบัตท่อม ที่เขาลืมทำไปเมื่อคืนก่อน นั่นเป็นระดับต้นๆ ของการบ้านที่ทำเป็นประจำ การอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ ส.พ.ส.บ.(N.E.W.T.s) และควิดดิช แต่งานประจำที่โรงเรียนก็กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับทอมไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้ตำแหน่งที่หนึ่งทุกๆ วิชาจากทั้งโรงเรียน เหล่าอาจารย์ก็ล้วนแต่ให้การบ้านที่ยากกว่าคนอื่นแก่เขามาทำ ถึงพวกเขาจะไม่รู้ตัว เขาก็สอบผ่านอย่างง่ายดายอยู่ดี
บางทีความน่าเบื่อนี้เองที่ผลักดันให้ทอมเริ่มเรียนเวทมนตร์คาถาที่เขาไม่รู้จักเท่านั้น บางทีอาจจะเป็นเพราะเหตุผลอื่น เวทมนตร์มืดเป็นสิ่งที่ซับซ้อนที่สุดในบรรดาเวทมนตร์คาถาต่างๆ อย่างเห็นได้ชัด และทอมก็พบว่าเขาหลงใหลไปกับมัน เขาได้ชักชวนพรรคพวกให้เข้าร่วม อีกอย่างหนึ่งพวกเขาได้เริ่มมีการชุมนุมทุกสัปดาห์เพื่อศึกษาเวทมนตร์คาถาต้องห้ามและเรียนรู้จากเขาด้วย
เขาเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่เพื่อรับประทานอาหารเช้า และนั่งที่ประจำที่โต๊ะสลิธีริน เพื่อนๆ หลายคนในบ้านพยักหน้าให้เขาขณะที่เขาเดินผ่านไป ‘มิตรภาพ’ ไม่ใช่คำที่เขาจะใช้พรรณนาถึงความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับคนพวกนั้น คนส่วนใหญ่เคารพนับถือเขาด้วยความเกรงกลัว อีกอย่างพวกสลิธีรินไม่มีการผูกมิตร พวกเขาเป็นแค่หุ้นส่วนทางการเมือง
ขณะที่ทอมกำลังคุยเบาๆ กับไรออน เขาก็รู้สึกได้ถึงสายตาจับจ้องที่มาจากด้านหลัง เขารู้ได้ทันทีว่าใครเป็นเจ้าของมัน นับตั้งแต่เขาทำให้ รูเบอัส แฮกริด ถูกไล่ออกตอนอยู่ชั้นปีที่ห้า ดัมเบิลดอร์ก็คอยจับตาดูเขาเรื่อยมา อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ดูเหมือนเป็นคนเดียวเท่านั้นในฮอกวอตส์ที่มองทะลุเปลือกนอกของทอมได้อย่างถูกต้อง สำหรับอาจารย์คนอื่นๆ แล้วทอมเป็นเด็กวัยรุ่นที่เอาจริงเอาจัง เป็นคนหนุ่มที่ทะเยอทะยานคนหนึ่ง และเป็นเด็กนักเรียนที่โดดเด่น มีเพียงดัมเบิลดอร์เท่านั้น ที่ดูเหมือนจะรู้ว่ามีบางอย่างมากกว่านั้น อันตรายมากกว่านั้น
ขณะที่ทอมเดินไปเข้าชั้นเรียนแรกของเขา เขารู้สึกถึงสายตาคู่ที่แปลกออกไปกำลังจับจ้องเขาอยู่ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันเป็นของใครก็ตาม เขาหมุนไปรอบๆ แน่นอนว่าต้องมีใครอยู่ด้านหลังเขาแน่ เขาเห็นแสงสีน้ำตาลแวบหายไปบริเวณหัวมุมแต่ก็ไม่คิดจะตามไป อย่างไรก็ตามมันทำให้เขานึกสงสัยว่า เด็กนักเรียนคนไหนในฮอกวอตส์ที่กล้ามาย่องตามเขาไปทั่ว ถ้าเขาจำความฝันเมื่อคืนก่อนได้ เขาคงจะสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวด้วยกันได้
-------------------------------------------------
เฮอร์ไมโอนี่รีบหลบที่หัวมุมเมื่อทอมหมุนตัวมา หายใจเสียงเบาด้วยความระมัดระวัง เธอตัดสินใจว่าการติดตามเขาไปอย่างโจ่งแจ้งนี้ถ้าจะใช้ไม่ได้อีกแล้ว เขามีตาที่หัวด้านหลังด้วย บ้าชะมัด!
เฮอร์ไมโอนี่แทบจำทอมไม่ได้เมื่อเธอเห็นเขาในทีแรก ขณะนี้ในวัย 17 ปี ทอมมีผมหนาดกดำที่ตัดกันอย่างสวยงามกับผิวซีดๆ ของเขา เขาตัวผอมสูงและเดินด้วยท่าทางสง่างามดูอันตรายที่ทำให้เธอนึกถึง เดรโก มัลฟอย อย่างแรง เขามีโหนกแก้มสูงแข็งแรง และขากรรไกรมั่นคง แต่ดวงตาของเขาโดดเด่นเป็นที่สุด เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีสีอะไรจะมาบรรยายมันได้นอกจากท้องฟ้ายามเที่ยงคืน กับรอยแต้มเบาบางสีน้ำเงินเข้ม ถ้าเขาไม่ได้ฆ่าหนึ่งในเพื่อนสนิทของเธอไปอย่างไร้ความปราณีแค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เธอจะเห็นเขา เฮอร์ไมโอนี่คงจะพบว่าเขามีเสน่ห์น่าดึงดูดไปแล้ว อย่างเดียวเท่านั้นที่เฮอร์ไมโอนี่นึกสงสัยคือ เขาเป็นคนเดียวกันกับลอร์ดโวลเดอมอร์ ด้วยนิ้วมือผอมยาวผิดปกติ แล้วเธอก็ได้ยินบางคนเรียกชื่อเขาก่อนที่เธอจะมั่นใจ
โชคไม่ดี เฮอร์ไมโอนี่ได้พาตัวเองกลับไปในวันแรกของการเปิดเทอมที่ฮอกวอตส์ เธอตั้งใจจะย้อนกลับไปมากกว่านั้น แต่ก็พลาดจากจุดหมายไปสองสามปี เธอแทบจะพูดได้ว่าเธอได้มาถึงในราวๆ ปี ค.ศ.1944 แต่ก็ยังมั่นใจไม่ได้ เธอตื่นขึ้นมาในท่านอนแผ่กลางลานโล่งๆ ในป่าต้องห้าม ที่เดียวกับที่เธออยู่เมื่อตอนที่โวลเดอมอร์ฆ่าแฮร์รี่ เธอไม่รู้ว่าผลกระทบของการย้อนเวลาไปนานแสนนานจะเป็นอะไร สิ่งเดียวที่ดัมเบิลดอร์บอกเธอคือ อย่าทำมันเด็ดขาด ไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ เธอตัดสินใจเดินขึ้นไปโรงเรียนและดูว่าจะเจอโวลเดอมอร์ – ทอม! เธอเตือนสติตัวเองและติดตามเขาไปเรื่อยๆ ขณะนี้เธอย้อนเวลากลับมาห้าสิบปีในอดีตสำเร็จแล้ว เธอนึกไม่ออกว่าจะทำอะไร เธอจำเป็นต้องฆ่าทอม ริดเดิ้ล ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม ถึงแม้เฮอร์ไมโอนี่จำได้ว่าใช้เครื่องย้อนเวลาพาตัวเธอถอยกลับไป กระนั้นก็นึกไม่ออกว่าเธอมาถึงที่นี่ได้อย่างไร และคิดว่าเธอคงต้องสลบไป
เธอตัดสินใจจะเดินขึ้นไปที่หอคอยดูดาว ในเมื่อทุกคนอยู่กันในชั้นเรียนแล้วตอนนี้ เท่าที่เฮอร์ไมโอนี่รู้ยังไม่มีใครเห็นเธอเลย เธอได้ปรับเปลี่ยนเวลามานานพอที่จะเข้าใจว่า ตราบใดที่เธอยังไปไหนมาไหนโดยที่ไม่มีใครเห็น ก็จะไม่มีอะไรในเวลานี้เปลี่ยนแปลง ถ้าเธอถูกพบเห็น อย่างไรก็ตาม เธอมีเครื่องมือและความสามารถในการเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งอดีตและปัจจุบัน ดัมเบิลดอร์ยังบอกเธอว่าห้ามไม่ให้ใครเห็น ช่วงเวลาเดียว ความผิดพลาดเพียงนิดเดียว มิสเกรนเจอร์ มันเปลี่ยนแปลงอนาคตของคนคนหนึ่งได้ หรือแม้แต่อนาคตของโลกทั้งใบเลย
เธอมาถึงหอคอยดูดาว และจ้องมองออกไปจากหน้าต่างบานใหญ่สีน้ำตาลแดงทางทิศเหนือของหอคอย ที่ไกลๆ ด้านล่างนั้นเธอเห็นเด็กผู้ชายตัวใหญ่ ผมรุงรัง อายุราวๆ 15 ปี กำลังเดินย่ำตัดสนาม ทันทีทันใดเธอก็นึกถึง...แฮกริด! เธอยิ้มกว้าง ในที่สุดก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
เฮอร์ไมโอนี่นั่งลงซุกหน้าเอาไว้ในมือ เธอรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เธอต้องทำ แต่แค่ไม่รู้ว่าจะไปทำได้อย่างไร พูดง่ายๆ คือเธอต้องฆ่าทอม ริดเดิ้ล ไม่ เธอคิดอย่างอารมณ์เสีย ฉันจำเป็นต้องฆ่าเจ้าปีศาจ สิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายนี้จะฆ่าเพื่อนๆ ของฉัน ถ้าฉันไม่ฆ่ามันก่อน นั่นทำให้ฟังดูง่ายขึ้น
ความจริงก็บอกอยู่แล้ว เธอหวาดกลัวมาก เธอเคยเข้าไปยุ่งกับเวลามาแล้วก่อนหน้านี้ และเธอกับแฮร์รี่ก็หลุดออกมาได้อย่างหวุดหวิด ตอนนี้ซิ ฉันไม่มีแม้แต่แฮร์รี่ เธอคิดอย่างหดหู่ใจ เธอหวาดกลัวกับความจริงที่ว่าในอนาคต แฮร์รี่ รอน พ่อแม่ของเธอ และเป็นไปได้ที่ทุกๆ คนที่เธอรักนั้นตายกันหมด เธอยังกลัวพอๆ กันกับความจริงที่ว่า ชีวิตของพวกเขาพร้อมกับชีวิตของคนอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วนอยู่ในกำมือของเธอ
การเป็นเด็กผู้หญิงที่รู้จักเหตุผลอย่างที่เธอเป็นนี้ เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจว่ามีสองวิธีที่จะทำให้ภารกิจของเธอบรรลุผล วิธีแรกซ่อนอยู่ในเงามืด คอยจับตามองเขาและรอจนถึงเวลาเหมาะๆ ที่จะโจมตี ถึงยังไงเขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเกือบเป็นไปไม่ได้ที่จะติดตามเขา และเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่รู้ว่ามันจะนานแค่ไหนกว่าที่เขาจะอยู่คนเดียว และง่ายดายต่อการจู่โจม ถ้ามันนานกว่าสองสามวันนับจากนี้ เธอไม่รู้ว่าจะไปกินไปนอนทีไหน และไม่แน่ใจว่าเธอจะอยู่โดยไม่ให้มีคนเห็นได้ ทางเลือกที่สองนำไปสู่สิ่งที่เธอทำเสมอเมื่อมีปัญหา คือไปหาดัมเบิลดอร์ บอกเขาถึงทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้น หรือถ้าจะพูดให้ถูก ทุกๆ อย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นและหวังว่าเขาจะเชื่อเธอ ไม่แน่ดัมเบิลดอร์อาจจะช่วยสงเคราะห์เธอให้ฆ่าทอม ริดเดิ้ล ก็เป็นไปได้ ดัมเบิลดอร์รู้ดีเสมอว่าต้องทำอะไรในสถานการณ์คับขัน
เฮอร์ไมโอนี่ผุดลุกขึ้นยืน ตัดสินใจว่าการไปหาดัมเบิลดอร์เป็นทางเลือกที่ดีกว่าแน่นอน เธอหยุดชะงักเมื่อพบว่ามีช่องโหว่เล็กๆ ในแผนของเธอ เวลาเป็นสิ่งน่าพิศวง มันเดินทางเป็นวงกลม งั้นทำไมดัมเบิลดอร์ในอนาคตถึงไม่เคยรู้จักเฮอร์ไมโอนี่เลย ถ้าเธอได้เดินทางย้อนเวลากลับไปจริงๆ ด้วยการเอะใจ เธอจำได้ถึงบางอย่างที่เขาเคยพูดกับเธอครั้งหนึ่งเป็นการส่วนตัว เธอทำให้ฉันนึกถึงใครบางคนที่ฉันเคยรู้จักมากเหลือเกิน มิสเกรนเจอร์
มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ หรือดัมเบิลดอร์ในอนาคตเคยเห็นเธอมาก่อนแล้วจริงๆ กันแน่? เธอตัดสินใจแล้วก็หยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาจากกระเป๋า หายใจลึกๆ เฮอร์ไมโอนี่เตรียมตัวเตรียมใจเพื่อทำบางอย่างที่เธอสัญญากับตัวเองว่าเธอจะไม่มีวันทำ นี่มันแตกต่าง นี่มันสำคัญ
“Rectus Capillus” เธอกระซิบ รู้สึกถึงการจัดทรงผมใหม่บนหนังศีรษะ เธอพูดต่อไปว่า “Occulus Apparo” และแว่นตาอันหนึ่งก็ปรากฏบนฝ่ามือของเธอ เธอสวมมันเข้าไปและหันหน้าเข้าหาหน้าต่าง เธอร้องและกระโดดถอยหลังด้วยความประหลาดใจ นั่น...ฉันเองหรือ?
เรือนผมสีน้ำตาลเข้มเหมือนน้ำผึ้งเหยียดตรงเข้ามาแทนที่ผมหยักศกของเธอ และแว่นตาที่ใส่ทำให้ดวงตาเธอดูแหลมคมมากขึ้น เธอมองดูความกลมกลืนและถ้าเป็นไปได้ยังดูอายุมากขึ้นอีกนิดด้วย เธอแทบจำตัวเองไม่ได้ ดูเหมือนคนละคนกันอย่างสิ้นเชิง เธอทำหน้าบึ้ง ฉันเกลียดแบบนี้ ฉันรู้สึกเหมือนเป็นปาราวตี กับลาเวนเดอร์ก่อนงานเต้นรำวันคริสต์มาสเลย
ด้วยความรู้สึกงุ่มง่าม เธอเริ่มออกเดินไปหาห้องทำงานของดัมเบิลดอร์อย่างแน่วแน่เมื่อมาถึงรูปปั้นหินการ์กอยล์ เธอลูบผมให้เรียบและจัดแว่นให้ตรงอย่างประหม่านิดๆ เธอดูแตกต่างพอไหม?
“กบช็อกโกแลต” เธอพูดอย่างมีความหวัง ก่อนที่จะจำได้ว่าดัมเบิลดอร์ชอบขนมหวานของพวกมักเกิ้ล
“อือ...มาส์บาร์! ไม่ใช่ เลม่อนดร็อป!”
“ฉันชอบของพวกนั้นมากทีเดียว ถ้าถามฉันนะ” มีเสียงหนึ่งพูดมาจากข้างหลังอย่างชัดเจน เธอหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ผู้มีผมสีน้ำตาลแดงเมื่อวัยหนุ่ม “อาจารย์ใหญ่ดิพพิต ปฏิเสธไม่ชิมพวกมัน ไม่รู้กี่ครั้งแล้วที่ฉันขอให้เขาลองดูซักอัน”
อาจารย์ใหญ่รึ? เธอลืมไปได้อย่างไรกัน? ดัมเบิลดอร์ยังไม่ได้เป็นอาจารย์ใหญ่จนกระทั่งหลังจากชัยชนะในการต่อสู้กับกรินเดลวัลด์
“ฉันขอถามชื่อเธอได้ไหม สาวน้อย? และถ้ามันไม่หยาบคายเกินไปนะ อะไรพาเธอมาที่นี่?”
“หนูชื่อ เฮเลน เนสโธว์ ค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่แต่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ยืดไหล่ให้ตรงอย่างที่เธอทำเสมอๆ เมื่อคุยกับบุคคลที่มีอำนาจ ทันใดนั้นภายในท้องเธอก็รู้สึกหล่นวูบ และการบอกดัมเบิลดอร์ถึงภารกิจของเธอนั้นต้องเป็นความคิดที่ไม่ดีแน่ๆ เขาต้องคิดว่าเธอบ้ามากกว่าจะเชื่อเรื่องวกวนเกี่ยวกับเจ้าแห่งศาสตร์มืด กับเครื่องย้อนเวลาแน่ๆ แล้วเรื่องยินยอมให้ฆาตกรรมนักเรียนของขานะรึ? ดัมเบิลดอร์ไม่มีวันที่จะเห็นด้วยไม่ว่าภายใต้สถานการณ์ใดก็ตาม ทันใดเธอรีบคิดหาเหตุผลที่น่าเชื่อถือสำหรับการมาอยู่ตรงนี้
“หนูอยากจะสมัครเรียนที่ฮอกวอตส์ค่ะ จริงๆ นะค่ะ” เธอจบอย่างรวดเร็ว สมัครเรียนที่ฮอกวอตส์รึ? ฉันคิดอย่างอื่นที่ดีกว่านี้ไม้ได้แล้วรึไง?
“อย่างงั้นรึ มิส...เนสโธว์?” ดัมเบิลดอร์ถาม มองเธอตรงๆ เป็นครั้งแรก เธอไม่พลาดสายตาที่ใช้ความคิดของเขาเลย “ฉันไม่มั่นใจว่าจะเป็นไปได้ เมื่อดูจากอายุของเธอ บอกฉันหน่อยว่าเธอหาทางมาที่นี่ได้อย่างไร? เธอมีประสบการณ์เกี่ยวกับเวทมนตร์คาถาหรือเปล่า?”
เฮอร์ไมโอนี่หยุดชะงัก เธอจะอธิบายเรื่องหกปีของการฝึกฝนเวทมนตร์คาถาที่เธอผ่านมาแล้วอย่างไร? จะอธิบายว่าเธอมาที่นี่ได้อย่างไร? จิตใจของเธอเริ่มทำงานอย่างควบคุมไม่ได้
โชคดีมาก ทำให้เธอไม่ต้องมีคำตอบทันทีโดยผู้มาใหม่ เธอเกือบจะอ้าปากค้างเมื่อเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินมาจากหัวมุม คนที่เธอพยายามหลบเลี่ยง และเป็นคนที่เธอกำลังพยายามฆ่าอยู่เช่นกัน ทอม ริดเดิ้ล
ความคิดเห็น