คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2: Malfoy?
Heart of Ice Chapter 2: Malfoy?
เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ หาวนอน เธอวางหนังสือลง และมองไปยังนาฬิกาดิจิตอลขนาดเล็กของเธอด้วยความตกใจ มันเป็นเวลาตีหนึ่งแล้ว เธอบ่นพึมพำกับตัวเองว่าจะต้องตื่นเช้าในวันถัดไป เฮอร์ไมโอนี่ยืน และอุ้มแมวของเธอขึ้นมา...ครุกแชงก์ เธอเริ่มต้นพูดกับมันด้วยเสียงสูง
“ไม่ต้องกังวลที่รัก เราจะตื่นนตรงเวลากันใช่ไหม? ใช่! เราจะตื่นทัน! ใช่เราจะตื่นทันเวลา!”
ในทันใดแสงวาบปรากฏขึ้นมาจากภายนอกหน้าต่าง และหายวับไปเพียงแค่ชั่วขณะ มันทำให้เฮอร์ไมโอนี่อดสงสัยไม่ได้ เพราะเธอไม่ได้ยินเสียงรถที่ผ่านไปเลย แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายนัก เธอเหนื่อย และเห็นได้ชัด เธอไม่ได้ใส่ใจมัน
“เมี๊ยวววว!!!”
ครุกแชงก์ร้องเสียงแหลมยาว เสียงคล้ายกับแบนชี (วิญญาณผู้หญิงที่ร้องครวญครางเตือนว่าคนในบ้านกำลังจะตาย) เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งตกใจกระโดดตัวโยน และวางครุกแชงก์ลง ซึ่งในตอนนี้มันส่งเสียงร้องคล้ายเสียงหวอ ไซเรน และมันเริ่มวิ่ง กลับไป กลับมา ระหว่างเฮอร์ไมโอนี่กับทางเข้าประตู
“ก็ได้ ก็ได้” เธอถอนหายใจ
“แต่ต้องเงียบๆนะ ทำได้ไหม แกจะทำให้พ่อแม่ฉันตื่น! สัญญาสิ!”
แมวไม่สนใจเธอ และมันยังคงทำไปตามสัญชาติญาณ ในบางครั้งเฮอร์ไมโอนี่ก็แน่ใจว่าสัตว์ที่ดูเหมือนไร้เดียงสา ทำแบบนี้ก็แค่เพื่อกวนใจเธอเท่านั้น เฮอร์ไมโอนี่คว้าเสื้อคลุมสีแดงเบาบางคลุมรอบร่างกายที่ได้สัดส่วนของเธอ และเปิดประตูออกไป
ครุกแชงก์พุ่งออกประตูไปราวสายฟ้าแลบ มันรีบวิ่งออกไปยังทางเดินด้วยความเร็วสูงสุด มันหยุดในทันที่ เมื่ออยู่ตรงทางเท้า มันนั่งลง และจ้องมองเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังตามมา
“เมี๊ยว!!!”
ครุกแชงก์ร้อง เฮอร์ไมโอนี่ชำเลืองมองและเข้าใจว่ามีบางสิ่งที่อาจเป็นเป้าสายตาของเจ้าแมวลาย คืนนี้มันน่าจะเป็นคืนธรรมดาๆเหมือนทุกๆวัน แต่ว่า...นี่ไม่ใช่คืนที่ปกติอีกต่อไปแล้ว เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งตกใจ และวิ่งออกจากบ้านเพื่อดูในสิ่งที่ครุกแชงก์พยายามส่งสัญญาณบอกให้เธอรู้ สิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอต้องอ้าปากค้าง
“โอ้ เมอร์ลิน! ค- -คน นี่!”
เธอคุกเข่าลงด้วยความตื่นตระหนก และค่อยดึงเสื้อคลุมสีดำออกจากสิ่งที่เธอคิดว่าจะต้องเป็นศีรษะ เฮอร์ไมโอนี่ส่งเสียงร้องเล็กๆออกมา ในขณะที่เส้นผมสีเงินยุ่งเหยิงถูกเผยให้เห็น ตามมาด้วยใบหน้าของผู้ชายที่เต็มไปด้วยเลือด ครุกแชงก์วิ่งไปมาอย่างรีบร้อน มันกระแซะเข้าหาชายคนนั้นแล้วส่งเสียงร้องครางอย่างพึงพอใจ
“คุณค่ะ เป็นยังไงบ้าง”
เฮอร์ไมโอนี่ร้องถามอย่างอ่อนแรงด้วยความตกใจ มือของเธอกำลังสั่นในขณะที่เธอขยับเสื้อคลุมของเขาออก
“คุณค่ะ ถ้าคุณได้ยินฉัน พยายามส่งเสียงด้วย ตกลงไหมค่ะ”
เธอร้องออกมาอย่างวิตก ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ยิ่งเวลาทุกวินาทีผ่านไป เธอก็ยิ่งตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ เฮอร์ไมโอนี่คว้าไม้กายสิทธิ์และพึมพำว่า
“ลูมอส!”
เพื่อเธอจะได้เห็นหน้าของชายคนนั้นได้ดีและชัดเจนยิ่งขึ้น แสงเรืองจางๆจากปลายไม้กายสิทธิ์ เผยให้เห็นหน้าของใครบางคนที่ทำให้เธอสะดุ้งตกใจมากกว่าสิ่งอื่นใดที่ทำได้
“มัลฟอย นายเองเหรอเนี่ย!” เธออ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น
“โอ้! พระเจ้าช่วยนายเองเหรอ มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่ยืนขึ้นอย่างสั่นๆ สังเกตเห็นว่ามีรอยเลือดอยู่บนเสื้อคลุมของเธอ เธอชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่พื้นดิน และรู้สึกได้ถึงความสูญเสีย ขณะที่เดรโก มัลฟอย จมอยู่ในกองเลือด เสื้อคลุมและร่างกายของเขาชุ่มโชกไปด้วยเลือดสีแดงฉาน
“ฉันต้องไปหาดัมเบิลดอร์” เธอพูดเสียงเบาลืมเรื่องการเป็นศัตรูกันที่โรงเรียนไปโดยสิ้นเชิง เฮอร์ไมโอนี่วิ่งเข้าไปในบ้าน โชคดีที่เตาผิงของเธออยู่ในเครือข่ายผงฟลูสำหรับเหตุฉุกเฉิน
เธอคว้าผงฟลูเต็มกำมือออกจากขวดโหลเซรามิกเล็กๆ ที่วางอยู่บนหิ้งเตาผิงและโยนมันลงสู่เตาไฟ พร้อมกับตะโกนว่า
“ดัมเบิลดอร์ อัลบัส ดัมเบิลดอร์!”
เกิดแสงวาบขึ้นและจากนั้นใบหน้าของอาจารย์ใหญ่ซึ่งเป็นที่รักปรากฏอยู่ในห้องนั่งเล่นของเธอ เขาดูเหนื่อย เธอรับรู้ได้ ดวงตาของเขาไม่เป็นประกายเหมือนที่เคย และมันทำให้เธอตกใจ ที่เห็นศาสตราจารย์ สเนปอยู่ข้างหลังเขา และสเนปดูแย่กว่าด้วยซ้ำ
“นั่นใช่คุณเกรนเจอร์หรือเปล่า” เขาถามอย่างประหลาดใจ พิจารณาใบหน้าของเธออย่างตั้งใจ
“ใช่ค่ะ ได้โปรด! คุณต้อง...ต้อง...มา มาเดี๋ยวนี้!” เธอพูดพร้อมกับสะอึกสะอื้น
“เกิดอะไรขึ้น” สเนป ถามดูไม่มีท่าทางตกใจอยู่บนใบหน้าของเขาเลย
“มัลฟอยค่ะ! เขาอยู่ที่นี่และ...” ทั้ง สเนป และดัมเบิลดอร์กระเด้งตัวขึ้นทันที
“ฉันเข้าใจแล้ว เราจะไปฮอกมี้ดส์ และปรากฏตัวที่นั่น ฉันจะไปใน 2 นาที ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เธอผงกหัวพูดอะไรไม่ออก
“ขอบคุณ คุณเกรนเจอร์” ดัมเบิลดอร์พูดก่อนที่จะหายวับไป
เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิด เขากำลังจะตาย เดรโก มัลฟอย กำลังจะตาย เขาตายไม่ได้! เขาเป็นแบบนั้นมาตลอด ภาพของ มัลฟอยที่กำลังเดินอยู่ตามทางเดินของฮอกวอตส์ในลักษณะกวนๆ ของเขาเกิดขึ้นโดยไม่ได้เชื้อเชิญในความคิดของเฮอร์ไมโอนี่ ภาพของมัลฟอยที่กำลังแหย่รอนกับแฮร์รี่ ภาพที่เขากำลังแสยะยิ้มใส่เธออีกฟากของห้องในขณะที่ สเนป ชมเชยเขาในวิชาปรุงยา เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัวไล่ความคิดเหล่านั้นออกไป และฝืนตัวเองให้คิดอย่างจริงจัง เธอรีบไปที่ตู้ และวิ่งกลับมาพร้อมกับผ้าห่มสะอาดผืนหนึ่ง ย่อตัวลงข้างๆมัลฟอย และครุกแชงก์ที่นอนอิงแอบอย่างสบายอยู่ใต้คางของเขา เฮอร์ไมโอนี่เริ่มต้นโดยการถอดเสื้อคลุมที่เต็มไปด้วยเลือดออกมาอย่างระมัดระวัง พยายามไม่ส่งเสียงร้องในขณะที่เธอเห็นบาดแผล และรอยฟกช้ำปรากฏให้เห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เธอคิด...
‘ก็แค่เหมือนกับวิชาพยาบาลของแม่มดที่เธอเคยเรียนมา’ เฮอร์ไมโอนี่สูดลมหายใจเข้าและจดจ่อ...
“เธอทำบ้าอะไร เกรนเจอร์!”
“อุ๊ย!” เฮอร์ไมโอนี่หงายหลังสะดุ้งตกใจ และในทันทีที่เธอหายตกใจแล้ว อย่างไรก็ตามเธอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะดีใจที่ได้ยินเสียงน่ารำคาญนั้น
“มัลฟอย นายยังไม่ตาย! ฉันต้องถอดเสื้อคลุมนี่ออกจากตัวนาย... มันเปื้อนเลือดเต็มไปหมด...” ดวงตาของเดรโกเบิกกว้างสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการคือ การที่เกรนเจอร์สวมบทนักสืบ ค้นหาบาดแผลในตัวเขา
“ไม่!” เขาตอบกลับโดยเร็ว
“แค่ถอยออกไป เกรนเจอร์ ฉันไม่เป็นไร” เฮอร์ไมโอนี่มีน้ำตาที่เต็มทั้งสองตาของเธอ
“แต่ฉันมีผ้าห่มให้นายนะ!” เธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อเห็นใบหน้าดื้อดึงของเขา
“ฟังนะ ฉันรู้ว่านายไม่ต้องการให้ฉันแตะต้องตัวนาย เพราะฉันไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์พอ แต่ถ้านาย ไม่ยอมให้ฉันช่วย- - -”
“บ้าที่สุด เกรนเจอร์ ฉันไม่เป็นไร! และฉันก็ไม่ได้ใส่ใจกับเลือดของเธอมากนักหรอก ก็แค่... เธอไม่จำเป็นต้องดู” เขาพึมพำ
“ฉันไม่ได้กำลังจะเป็นลมนะ ขอทีเถอะ เผื่อว่านายไม่ทันสังเกต มันมีเลือดอยู่รอบตัวนายเต็มไปหมดและฉันยังมีสติดีอยู่! ได้โปรดเถอะ มัลฟอย...” เธอเริ่มร้องไห้
“นายอาจจะตายได้นะ นายเข้าใจไหม” เดรโกเงยหน้ามองใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของศัตรูด้วยความตกใจ และเขาสงสัยว่าเธอร้องไห้ทำไม เธอสงสารเขาหรือไง ความคิดนี้ทำให้เขาโกรธมาก
“ถึงฉันตาย แล้วมันเกี่ยวกับเธอยังไง เรื่องใหญ่นักเหรอ! มีหลายอย่างที่แย่กว่านี้อีก เธอรู้ไหม แค่เธอออกไปให้ห่างเสื้อคลุมเปื้อนเลือดของฉันก็พอ” เดรโกพูดด้วยแรงที่เขามี เขากำลังสูญเสียเลือดอย่างรวดเร็ว และเขารู้ดีว่าอีกไม่นานนี้เขาคงจะไม่ได้สติ เขาเพียงแค่ต้องการแน่ใจว่าเมื่อถึงเวลานั้น เกรนเจอร์คงจะไม่เห็นแขนของเขา..
.
“เมี้ยววว!”
เสียงร้องดังมาจากข้างๆหูของเดรโก มันทำให้เขาสะดุ้งเล็กน้อย เขาเหล่ตาลงไปมอง และเห็นก้อนกลมๆขนาดใหญ่สีน้ำตาลแดงอมเหลืองขนฟูฟ่องนอนอยู่ใต้คางของเขา แมวใช่ไหม เขารับรู้ด้วยความพึงพอใจเล็กๆ เดรโกเข้ากันได้ดีกับแมวเสมอ พวกมันรักอิสระ ลึกลับ และเจ้าเล่ห์ เขาเข้าใจพวกมัน
“ว่าไง เจ้าแมว” เขากระซิบ ดุนมันด้วยคางของเขา มันส่งเสียงรางครางยาวๆ ครั้งหนึ่งเป็นการตอบรับ เขาหัวเราะเบาๆ
“เห็นไหมเกรนเจอร์ แมวยังไม่วิตกกังวลเลย เธอน่าจะเรียนรู้อะไรสักอย่างจากมันนะ” เขาเหลือบมองไปที่ศัตรูของเขา สนุกที่ได้เห็นความสับสนงุนงงปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ
“มันเป็นคนที่พบนาย แต่... ครุกแชงก์เกลียดทุกๆคน!” เธอกระซิบ ส่งสายตาแปลกๆให้เดรโก
“ในบรรดาคนทุกคนที่มันสามารถเลือกที่จะชอบได้ มันเลือกนายเหรอนี่” อย่างไรก็ตามมันทำให้เดรโกโกรธ เขาคิด ‘เธอเป็นใครกันมาดูถูกเขาตอนที่กำลังจะตายแบบนี้’
“ดีล่ะ” เขาหัวเราะแบบถากถาง และแน่ใจว่าการกระทำนี้จะไม่เป็นเหตุให้เขาต้องหดตัวด้วยความเจ็บปวด
“ฉันดีใจที่รู้ว่า สภาพของฉันที่กำลังจะตายไม่ได้หยุดเธอจากการเป็นเลือดสีโคลนแย่ๆแบบปกติที่เธอเป็นเลย” เขาต้องประหลาดใจที่เธอร้องไห้อีกครั้ง
“เห็นแก่เมอร์ลินเถอะ เฮอร์ไมโอนี่! เกิดอะไรขึ้นกับเธออีกล่ะเนี่ย!” เดรโกสับสนกับพฤติกรรมของสาวผมสีช็อกโกแลตคนนี้จริงๆ เธอยังไม่คุ้นเคยกับคำพูดดูถูกของเขาอย่างนั้นเหรอ หลังจากหกปีเต็มของพวกเขาที่ฮอกวอตส์นี่นะ?
“นายจะตายไม่ได้นะ!” เธอตะโกนเสียงสั่น
“ฉันเกลียดนาย เดรโก มัลฟอย และฉันก็รู้ว่านายเกลียดฉัน แต่นายอยู่ตรงนั้นเสมอ อยู่ทะเลาะกับเรา! แฮร์รี่จะแข่งกับใครในควิชดิช และใครจะทำให้รอนอารมณ์เสียล่ะ! แล้วใครจะแข่งเอาคะแนนกับฉันล่ะ และ- - - และ- - -” จากนั้นน้ำตาของเธอไหลลงมาอีกครั้ง เดรโกกำลังบอกเธอว่ามันฟังดูโง่แค่ไหน แต่แล้วก็เกิดแสงไฟสว่างจ้าตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่กำลังใกล้เข้ามาอย่างเร็ว
“ผู้เสพความตาย…”
“เกรนเจอร์! เกรนเจอร์! ออกไปจากที่นี่ พวกมันจะฆ่าเธอ!” เขาพยายามตะโกน แต่เสียงของเขาที่เปล่งออกมาเป็นแค่เพียงเสียงแหบห้าว เธอเงยหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นสะบัดไม้กายสิทธิ์ออกมา ดวงตาแห่งความแน่วแน่ของเธอปรากฏขึ้น
“ใครก็ตามที่ทำกับเธอแบบนี้ คนพวกนั้นก็คงไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่!” เธอตอบ ดวงตาของเดรโกเบิกกว้าง ‘เธอช่างกล้าหาญจริงๆ แถมยังโง่ ยัยโง่เอ้ย!’
“เฮอร์ไมโอนี่!” เขาพูดด้วยอาการที่ทรุดหนัก พยายามทำให้เธอสนใจ เธอชำเลืองมองไปที่เขา
“เวลาดีจริงๆ ที่นายเรียกชื่อแรกของฉัน! ตอนนี้” เธอตอบกลับโดยเร็ว เหมือนตกใจ เดรโก กลอกตา
“ถ้าเธอต้องตาย มันก็เป็นความผิดของเธอเอง” เขาบ่นพึมพำด้วยเสียงแหบแห้ง เดรโกเตรียมตัวตาย แต่รู้สึกแปลกๆในช่องท้องเมื่อเขาคิดถึง ‘เกรนเจอร์ ที่กำลังจะตายไปด้วย มันไม่มีความหมายอะไรกับเขา’ เขาคิดกับตัวเองอย่างสบสน แต่ในเวลานี้ เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเธอเห็นผู้ที่มาเยือน
“ศาสตราจารย์ ดัมเบิลดอร์! ศาสตราจารย์ สเนป!” เธอร้อง
“เร็วค่ะเขาเสียเลือดไปมากแล้ว...” เดรโกกวาดตามองเมื่อได้ยินชื่อ สเนป สเนปเป็นหนึ่งในพวกนั้น สเนปเป็นผู้เสพความตาย สภาพการณ์ตรงข้ามกับการคาดคิดที่ว่า ผู้ที่มาช่วยชีวิตเขาอาจจะฆ่าเขา ทำให้เดรโกขบขันอย่างมาก และเขาพบว่าตัวเองกำลังหัวเราะเบาๆ เขาเงยหน้าขึ้นและมองเห็นสายตาเป็นกังวลของ ดัมเบิลดอร์ เดรโกคิด ‘ทำไมดัมเบิลดอร์ต้องสนใจเขาด้วยล่ะ’
จากนั้นทุกอย่างก็เริ่มหมุน เขารู้สึกว่าหัวของเขาเริ่มที่จะเบา และภาพที่เห็นเริ่มเลือนราง เขาหันไปมองเกรนเจอร์ และคิดว่าเขาติดหนี้เธอ อย่างน้อยที่สุดก็คือ ที่เธอพยายามจะช่วยเขา และคิดว่าการแยกจากกันครั้งสุดท้ายของเขาควรจะสุภาพสักหน่อย
“ขอบคุณ เกรนเจอร์” เขาพูดเสียงเบาราวกับกระซิบอย่างแข็งกระด้าง
“ฉันชอบแมวของเธอ” และเป็นครั้งที่สามในวันนี้ ที่ทุกอย่างว่างเปล่า..
ความคิดเห็น