คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 11 แค่เพื่อน(หรือมากกว่า)
ตอนที่ 11 แค่เพื่อน(หรือมากกว่า)
จัสตินได้ออกไปจากฮอกว๊อตส์เพื่อไปเรียนต่อที่อื่นเป็นเวลาหนึ่งปี ซึ่งเป็นระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น จริงอยู่ที่มีนักเรียนจำนวนไม่น้อย ได้ออกจากการเรียนที่นี่เพื่อไปเรียนต่อที่อื่นแต่ในที่สุดก็กลับมาที่เดิมเหมือนจัสติน แต่ทำไมถึงมีเพียงแค่จัสตินเท่านั้น ที่มีผู้คนต่างพูดถึงเขาเสมอ โดยเฉพาะสาวๆ
เฮอร์ไมโอนี่เดาได้ โดยที่ไม่ต้องมีสมมุติฐานใดๆมาประกอบให้ยุ่งยาก เนื่องมาจากความสุภาพ และที่สำคัญสำหรับสาวๆที่นี่คือความหล่อเหล่าสมบูรณ์แบบของเขานั่นเอง
“เฮอร์ไมโอนี่เธอนี่ช่างเป็นผู้หญิงที่โชคดีจริงๆ คิดดูสิชายหนุ่มที่ร้อนแรงที่สุดหนึ่งในสี่ของฮอกว๊อตส์ ต้องการให้เธอเป็นเพื่อนกับเขา”
จินนี่พูดขึ้นมาในระหว่างที่พวกเธอเดินไปทานอาหารกันในเที่ยงวันหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างเซ็งๆไปยังเด็กหญิงผมแดง ความจริงเธออยากจะบอกกับจินนี่ว่าเธอเองก็เป็นเพื่อนกับสองคนที่ร้อนแรงที่สุดในโรงเรียนอยู่แล้ว และหนึ่งในนั้นก็คือพี่ชายของเธอเอง เพราะฉะนั้นอย่าได้ผลักเธอไปหาคนอื่นอีก แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังคงไม่มีโอกาสที่จะท้วงติงเด็กสาวแต่อย่างใด เมื่อเธอได้ยินเสียงเรียกชื่อของเธอด้วยน้ำเสียงหวานสดใสจากเพื่อนร่วมหอของเธอเอง
“เฮ้ เฮอร์ไมโอนี่”
“ลาเวนเดอร์”เฮอร์ไมโอนี่และจินนี่ชะลอฝีเท้าเพื่อรอเด็กสาวที่วิ่งมาตามโถงทางเดินนั้น
“จะไปห้องโถงใหญ่กันงั้นเหรอ”ลาเวนเดอร์ถามเธอหอบเล็กน้อยจากการที่ต้องวิ่งมาในระยะทางที่ไกลพอสมควร
“ใช่ พวกเราจะไปทานข้าวกัน แล้วเธอล่ะ”เฮอร์ไมโอนี่ถาม
“ฉันก็เหมือนกัน ลงมาช้านิดเดียว ปาราวตี หนีฉันลงมาก่อนแล้ว”ลาเวนเดอร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยชอบใจนัก
“สวัสดี มีสเกรนเจอร์ มีสวิสลี่ย์และมีสบราวน์”เด็กสาวทั้งสามยืนตัวแข็งอยู่กับที่กับเสียงเรียกที่เย็นชาของศาสตราจารย์วิชาปรุงยาจอมเฮียบ
“สวัสดีค่ะศาสตราจารย์เสนป” เด็กสาวทั้งสามประสานเสียงทักทายเกือบจะพร้อมๆกัน
“ฉันมีบางอย่างที่จะพูดกับเธอหน่อยมีสบราวส์”เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แสนจะสุภาพซึ่งเต็มไปด้วยความเสแสร้งซึ่งพวกเธอรู้สึกถึงมันได้ดี
“ฉันเห็นคุณมักจะแขวนไปรอบๆกับเด็กนักเรียนชายคนอื่นๆในป่าต้องห้ามเวลากลางคืนอยู่เสมอๆ คุณคิดว่ากฎระเบียบในโรงเรียนนี้คงจะบังคับใช้กับคุณไม่ได้เลยสิน่ะ”เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่แฝงไปด้วยความอันตรายที่มีอยู่ในน้ำเสียงของเขา
“ไม่ค่ะ ศาสตราจารย์ “ ลาเวนเดอร์ตอบเสียงแผ่วเบา
“ดี เพราะว่าคุณจะต้องถูกฉันควบคุมตัวในคืนนี้ หนึ่งทุ่ม อย่าไปสายล่ะ”เขาออกคำสั่งและเดินไปยังคุกใต้ดินอย่างวางท่า
“ค้างคาวเฒ่าอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ดีนักในวันนี้”จินนี่พูดขึ้นขณะที่มองไปยังร่างที่เดินจากไปของศาสตาจารย์ที่แสนจะเย็นชา
“เขามักจะมีอารมณ์แบบนั้นอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วจินนี่”เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นเหมือนเห็นเป็นเรื่องปกติของศาสตราจารย์ที่ไร้อารมณ์คนนี้”ดีนะที่เขาไม่มีญานวิเศษตรวจจับความผิดปกติหรือพบข้อมูลเกี่ยวกับ....”เฮอร์ไมโอนี่เกือบจะหลุดปากพูดออกไปแล้ว แต่เธอยั้งคำพูดท่อนที่สำคัญไว้ได้ทัน เธอหยุดพูดและหันไปหาลาเวนเดอร์ ซึ่งมองสบตากับเธอเหมือนจะรู้ความนัยในสิ่งที่เธอจะพูด
“ทำไมเขาต้องรู้ด้วยล่ะ ในเมื่อมันเป็นความลับระหว่างเรา ไม่มีใครรู้ยกเว้นเธอกับฉันถูกไหม” ลาเวนเดอร์พูดขึ้นมาและมันทำให้กระแสเลือดของเฮอร์ไมโอนี่แทบแข็งตัว
“รู้เรื่องอะไรกันเหรอ”จินนี่ถามด้วยความสงสัยเธอจ้องมองสองสาวอย่างจับผิด และลาเวนเดอร์หันมายิ้มให้เธออย่างอ่อนหวาน แต่จินนี่ก็รู้ว่าเธอเพียงแค่เสแสร้งมันเท่านั้น
“โอ้ว มันก็แค่ ความลับเล็กๆของพวกเราน่ะ สาวน้อย”
โอ้ว...........ไม่ มันไม่ได้มีเพียงพวกเราที่รู้ มัลฟอยเองก็รู้ด้วยเช่นกัน ทุกอย่างมันเป็นความผิดที่ฉัน เฮอร์ไมโอนี่ร่ำร้องอยู่ภายในใจโดยที่ไม่ได้เปล่งเสียงโต้ตอบออกไป
ลาเวนเดอร์เอียงหัวของเธอเข้ามาใกล้ๆเฮอร์ไมโอนี่และกระซิบเบาๆเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน
“ฉันมีเรื่องที่จะสารภาพ ความจริงมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดน่ะ เฮอร์ไมโอนี่ ฉันเพิ่งมาแน่ใจจริงๆก็ตอนที่เธออยู่ในห้องสมุด และฉันเองก็ลืมบอกเธอไป ฉันขอโทษเธอด้วยนะ”
“ว่าไงนะ”เฮอร์ไมโอนี่แทบตะโกนไปยังลาเวนเดอร์และไม่ได้สนใจจินนี่ที่มองเธออย่างตกใจ “เธอไม่ได้”เฮอร์ไมโอนี่ชี้ไปที่ท้องของลาเวนเดอร์ค้างไว้อยู่แบบนั้น
“ใช่ ฉันโล่งใจจริงๆเลย”ลาเวนเดอร์ยิ้มแก้มแทบปริพร้อมกับถอนหายใจอย่างโล่งอก ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ยืนค้างเหมือนคนเป็นบ้าอยู่ตรงนั้น
ลาเวนเดอร์ไม่ได้ตั้งท้อง ทุกอย่างผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น และสิ่งที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่แทบร้องกรี๊ดออกมาตรงนั้นคือเสียงในหัวของเธอที่พูดซ้ำไปซ้ำมาเป็นคำพูดของมัลฟอย
“เธอเป็นทาสของฉัน เกรนเจอร์”
เมอลินส์ เฮอร์ไมโอนี่รู้ดี ว่าสิ่งแรกที่เธอจะต้องทำในทันทีคือต้องตามหามัลฟอยและบอกเรื่องนี้กับเขา และยุติข้อตกลงทุกอย่างของพวกเรา
“เฮ้ เดรโก ดูสิว่าใครอยู่ตรงนั้น”เสียงแหลมเล็กของแพนซี่มันแทบทำให้เฮอร์ไมโอนี่เส้นประสาทแทบแตกเฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองพวกเขาที่เดินผ่านพวกเธอเหมือนสิ่งปฏิกูล
“มาเถอะเฮอร์ไมโอนี่”จินนี่พูดพร้อมกับลากแขนของเธอให้ออกเดิน”ออกไปจากตัวเฟเร็ตและสุนัขของเขากันเถอะ”
“สุนัขเหรอ”แพนซี่กรากเข้ามาขวางทางจินนี่เอาไว้”เธอกล้าที่จะพูดแบบนี้กับฉันงั้นเหรอ”แพนซี่ส่งเสียงแหลมขึ้นมาอีกครั้ง แพนซี่และจินนี่เผชิญหน้ากันเหมือนไม่กลัวเกรงกันและกัน
ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังจะหยุดพวกเธอจากการต่อสู้กันนั้น
เดรโกคว้าแขนของเธอและกระชากตัวเธอเข้ามาใกล้ๆเขา
“ทาส”เดรโกกระซิบที่ข้างหูเธอ”อย่าลืมมันเสียล่ะ”
“ไม่นะ”เฮอร์ไมโอนี่ตอบกลับอย่างเร่งด่วน”ฉันอยากจะบอกอะไรกับนายบางอย่าง”แต่เดรโกไม่สนใจแม้แต่จะฟังเธอ เขาผลักเธอออกห่างและเดินหนีไป
“แพนซี่ มานี่” เขาเรียกแพนซี่ซึ่งหยุดกรีดร้องไปที่จินนี่และกระแทกเท้าเธออย่างขัดใจ ก่อนที่จะเดินตามหลังมัลฟอยไปติดๆ
“เมอลินส์ ฉันไม่รู้ว่ามัลฟอยเห็นอะไรในตัวยายนั่น” ลาเวนเดอร์ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรมาตั้งแต่ต้นพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง”แต่ว่า...เขาช่างดูดีและเร่าร้อนจริงๆ”
“ว่าไงนะ”เฮอร์ไมโอนี่ตกใจ จนพูดอะไรแทบไม่ออก
“ก็เธอดูสิ เขาออกจะเพอร์เฟ็ค หล่อ ฉลาด มีอำนาจ แถมรวยอีกต่างหาก ฉันว่าเขาน่าจะเป็นแฟนหนุ่มที่ดีเลยล่ะ ถึงแม้เขาจะมีข้อเสียตรงที่อยู่สลิธลีนแถมเขายังเป็นศัตรูกับกริฟฟินดอร์ก็ตาม แต่โดยรวมๆแล้วเขาค่อนข้างจะเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่สุดเลยล่ะในตอนนี้”ลาเวนเดอร์ พูดวิจารณ์เป็นฉากๆ เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอได้ยิน
“แต่ใครจะสนล่ะว่าพวกเราเป็นศัตรูกัน?ฉันจะจับเขา” ในที่สุดลาเวนเดอร์ก็ตัดสินใจอย่างมาดมั่น ท่ามกลางความตื่นตะลึงของเฮอร์ไมโอนี่และจินนี่
“เธอพูดถึงเรื่องอะไรกัน แฟนเธอก็ตั้งมากมายอยู่แล้วนะ”จินนี่พูดขึ้นมาอย่างเหลืออด
“พวกนั้นนะเหรอ ฉันเตรียมจะโละพวกเขาทิ้งไปแล้วล่ะ”ลาเวนเดอร์พูดออกมาอย่างไม่แยแส
“ลาเวนเดอร์เธอบ้าไปแล้วเหรอ”เฮอร์ไมโอนี่จับไหล่ของเธอ พยายามที่จะสั่นคลอนความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเธอ แต่เธอกลับดูไม่สะทกสะท้านในความคิดที่ร้ายแรงนั้น
“เอาล่ะฉันจะพิสูจน์ให้เขารู้ว่าฉันมีดีแค่ไหน”ลาเวนเดอร์พูดขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้มที่มุ่งมั่น เฮอร์ไมโอนี่มองเธออย่างตกใจในขณะที่ลาเวนเดอร์เดินแยกจากพวกเธอไปยังห้องโถงใหญ่
“ช่วยอวยพรให้ฉันโชคดีด้วยล่ะเฮอร์ไมโอนี่”
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
หลังอาหารเที่ยงเฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจที่จะคุยกับเดรโก เธอจะบอกเขาว่าลาเวนเดอร์ไมได้ท้องและขอให้เรื่องทุกอย่างจบลงแต่เพียงเท่านี้ และเธอยังจะต้องคุยกับเขาในกรณีที่เขาอยากสานต่อความสัมพันธ์กับลาเวนเดอร์ เธอจะต้องปกป้องกริฟฟินดอร์ ไม่ให้เขาดูถูกบ้านของเธอไปมากกว่านี้
เฮอร์ไมโอนี่เดินขึ้นบันไดและผ่านกลุ่มสาวๆที่ได้เรียกเธอไว้
“เฮอร์ไมโอนี่ใช่ไหม”มันเป็นสาวสวยจากบ้านฮัฟเฟิลพัฟซึ่งมักจะพูดคุยกับจัสตินที่โต๊ะอยู่เสมอ
“เธอเป็นเพื่อนของแฮร์รี่ พอตเตอร์ อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เธอคิดอะไรอยู่ถึงอยากจะเป็นเพื่อนกับจัสตินด้วยล่ะ”เธอจ้องมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตามุ่งร้ายก่อนที่จะผลักเธอชนเข้ากับกำแพงอย่างแรง เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วด้วยความสับสนเธอเฝ้ามองหญิงสาวที่เดินเข้ามาใกล้เธอ
“ใช่แล้ว”เพื่อนๆของหญิงสาวส่งเสียงสนับสนุนและมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรนัก
“เธอไม่ได้เป็นดาวเด่นอะไรสักนิดเพียงแค่แฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นที่นิยมต่างหากเธอก็เลยพลอยมีชื่อติดกระแสเขาไปด้วย”คนอื่นๆพูดขึ้นบ้างด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ทุกๆคนชอบจัสตินด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นทำไมเธอถึงไม่ยอมอยู่ห่างๆเขาเสียล่ะ”หญิงสาวคนเดิมพูดในขณะที่ชายตามองเธออย่างรังเกียจ
เฮอร์ไมโอนี่รุ้สึกโมโห สาวๆเหล่านี้คิดอะไรกันอยู่ เธอไม่ได้คิดที่จะรู้จัก หรือ คบกับจัสตินเสียหน่อย เธอรู้ดีว่าเขาดูดี หล่อ และสุภาพ แต่พวกเราก็เป็นเพียงแค่เพื่อนกันก็เท่านั้น
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ก่อนจะโต้ตอบเสียงกร้าวไปยังสาวๆพวกนั้น
“ถ้าเธอไม่โง่ เธอคงจะรู้ว่าฉันเป็นประธานนักเรียนหญิง ดังนั้นการที่พวกเธอกล้าข่มขู่ประธานนักเรียนหญิง ฉันสมควรรายงานศาสตราจารย์ประจำบ้านของพวกเธอหรือเปล่า”
“เธอไม่กล้าหรอก”หญิงสาวคนเดิมตอบกลับอย่างท้าทายในขณะที่เพื่อนๆของเธอเงียบกริบเมื่อเห็นสายตาเอาจริงของเฮอร์ไมโอนี่
“ลองดูก็ได้นะ ถ้าเธอคิดว่าฉันแหยขนาดนั้น”เฮอร์ไมโอนี่กอดอกและแกล้งแหย่สาวๆพวกนั้น เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ชอบการใช้กำลัง แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้เธอก็พร้อมที่จะต่อสู้กับคนไม่มีเหตุผลเหล่านี้
“ใช่ ฉันไม่ได้เป็นที่นิยม หรือดาวเด่นอะไร แต่ฉันก็ภูมิใจในตัวของฉันแบบนี้ ดังนั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องมายุ่งหรือบงการว่าฉันห้ามคบกับใคร เรื่องของจัสตินก็เหมือนกัน ฉันไม่สนและไม่แคร์ว่าเขาจะหล่อบาดใจแค่ไหน ดังนั้นเมื่อพวกเธอรู้แบบนี้แล้วเธอจะกลับไปหอนอนดีๆหรือจะให้ฉันหักคะแนนบ้านของเธอดีล่ะ”
หญิงสาวทั้งกลุ่มนิ่งอึ้งไปชั่วครู่พวกเธอมองหน้ากันและกันเหมือนกำลังตัดสินใจว่าจะทำยังไงต่อดีในเมื่อสิ่งที่พวกเธอได้ทำไม่ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับหญิงสาวเลยสักนิด แต่กลับกลายเป็นโดนเธอข่มขู่กลับมาแทน
หญิงสาวแสนสวยที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้ากลุ่มทำหน้าตาบูดบึ้งก่อนที่เธอจะตัดสินใจยกพวกกลับไปในตอนนี้
“ก็ได้พวกเราจะไป”หญิงสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจนัก เธอเดินนำหน้าเพื่อนๆออกไป แต่แล้วดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้
“อ้อแล้วรู้ไว้ซะด้วย จัสตินเขามีแฟนอยู่แล้ว ฮันนา แอบบอทไง เธอคงไม่มีโอกาสหรอก”หญิงสาวมีรอยยิ้มเยาะก่อนจะหมุนตัวจากไป
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะพูดไล่หลังพวกนั้นออกไปซึ่งความเป็นจริงเธอพูดให้กับตัวเธอเองมากกว่า
“พวกเธอต่างหากล่ะที่ไม่มีโอกาส”
“นั่นคือสิ่งที่เธอควรจะบอกพวกนั้น”เสียงที่พูดขึ้นจากเงามืด มันทำให้เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งด้วยความตกใจ
“ใครน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่เพ่งมองและดึงไม้คฑาออกมาจากเสื้อคลุม มีใครบางคนก้าวเดินช้าๆออกมาจากเงามืด และมันทำให้เธอมองเห็นเขาได้อย่างชัดเจน
“จัสติน”เฮอร์ไมโอนี่พึมพำเบาๆ
“เกิดอะไรขึ้นกับเธอเฮอร์ไมโอนี่ ตั้งแต่ฉันกลับมาเธอก็แสดงท่าทีเหมือนยังกับฉันเป็นคนแปลกหน้า ทั้งๆที่ฉันเองก็เรียนอยุ่ชั้นเดียวกับเธอตั้งหลายวิชา แต่เธอกลับทำตัวเย็นชาและเฉยเมยกับฉัน”เขาพูดขึ้นและมองมาที่เธอด้วยสายตาเศร้าๆและมันทำให้เธอรู้สึกผิด
“จัสติน ฉัน....”เธอแทบสาบานได้ว่าเห็นริ้วรอยปวดร้าว ในดวงตาสีน้ำตาลของเขา แต่ด้วยความทระนงตนและความดื้อดึงของเธอ มันกีดกั้นไม่ให้เธอได้ขอโทษ“นายจะให้ฉันทำยังล่ะ นายคงจะเห็นแล้ว ว่าแฟนคลับของนายมีปฎิกิริยาที่รุนแรงแค่ไหน”
“ฉันขอโทษที่ทำให้เธอลำบากใจเฮอร์ไมโอนี่ แต่มันไม่แฟร์เลยที่เธอจะปฎิเสธฉันเพราะพวกเขา”จัสตินยังคงมีรอยยิ้มอยู่ แต่รอยยิ้มของเขาไม่ได้สดสัยเหมือนเดิม เธอลดสายตาลง เพราะไม่สามารถสบสายตาเศร้าของเขาต่อได้
“จัสตินพวกนั้นระรานฉันพวกเขาทำให้ฉันลำบากใจ มันก็ไม่แฟร์กับฉันด้วยเช่นกันที่ทุกคนต้องมุ่งโจมตีฉัน เมื่อฉันยังไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย”
“โอ้ว....เป็นเพราะฉันสินะที่มาป้วนเปี้ยนใกล้ๆเธอ คอยช่วยเหลือเธอพวกนั้นเลยมุ่งเป้ามาทางเธอ”เขาพูดเสียงสูงเล็กน้อยแต่ก็สงบลงแทบจะในทันที
“จัสติน ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น”เฮอร์ไมโอนี่หายใจถี่ และพยายามหาทางแก้ตัวกับความปากเสียของตน
“ฉันเข้าใจ ฉันก็แค่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ “เขาชะงักและสูดลมหายใจลึกๆ “แต่ฉันคิดว่ามันคงจะดีกว่า ถ้าฉันจะวางเธอลง”เขาใช้นิ้วมือสั่นๆเสยผมและพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่มองหน้าเธอ “ฉันหมายถึงถ้าฉันถอยห่างจากเธอพวกนั้นอาจจะไม่ต้องมาระรานเธออีกพวกเขาอาจจะเป็นมิตรกับเธอมากขึ้นก็ได้” จัสตินใช้ความพยายามเป็นที่สุดเพื่อรักษาน้ำเสียงให้ราบเรียบ เพื่อหยุดไม่ให้ความรู้สึกเสียใจโผล่ขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเมื่อภายในตัวของเขามันรู้สึกเคร่งเครียดไปหมด
“ฉันอาจจะไม่ได้อยู่รอบๆเธอหรือใกล้เธอดังนั้นฉันจึงไม่สามารถดูแลเธอไปรอบๆได้อีก หากมีใครคิดทำร้ายเธอ ฉันคงช่วยเธอไม่ได้ ระวังตัวเองให้ดีๆด้วยเฮอร์ไมโอนี่”
“รอก่อน “ เฮอร์ไมโอนี่เป่าลมออกจากปากด้วยความหงุดหงิดใจ ทำไมนะจัสตินต้องทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเห็นแก่ตัวด้วย
“ฉันขอโทษ ความจริง ฉันไม่ควรเหวี่ยงใส่นาย มันไม่ใช่ความผิดของนายเลย ฉันควรจะคิดใหม่”
จัสตินอ้าปากค้างมองเฮอร์ไมโอนี่เหมือนไม่แน่ใจในสิ่งที่เขาคิด “เธอหมายความว่ายังไง”
“เราไม่ควรจะยอมพวกเขา เราจะไม่ยอมเล่นบทงี่เง่าติ่งต๋องพวกนี้ ตามที่พวกเขาต้องการ”ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีชมพูที่น่าดูที่สุดที่เขาเคยเจอผู้หญิงมา จัสตินสังเกตเห็นได้ว่าเธอถอนหายใจอย่างหนักเหมือนต้องการตัดสินใจอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ
“เมื่อเราจะป็นเพื่อนกันควรต้องแนะนำตัวก่อนเป็นอย่างแรกจริงไหม ฉันเฮอร์ไมโอนี่ จีน เกรนเจอร์ บ้านกริฟฟินดอร์ ยินดีที่ได้รู้จัก”
เฮอร์ไมโอนี่ยื่นมือของเธอเพื่อให้เขาจับ จัสตินยิ้มกว้าง เขามักจะชอบในเวลาที่เธอทำเสียงมาดมั่นแบบนี้เขาชอบแววตาเป็นประกายที่มุ่งมั่นของเธอ ชอบกิริยาอาการเป็นมิตรที่เธอมอบให้ มันน่าดูชะมัดในทุกๆอย่างที่เป็นเธอ
จัสตินรู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ โดยที่ไม่มีการต่อสู้จนถึงวินาทีสุดท้ายแน่ ชื่อเสียงของเธอขึ้นอยู่กับเรื่องนี้ ไม่มีทางที่เธอจะยอมถูกลากเข้าไป ในความเสแสร้งหลอกลวง ซึ่งมันจะทำให้เธอสูญเสียทั้งความเชื่อมั่นและเชื่อถือในตัวเอง
“ฉัน จัสติน ฟินช์-เฟล็ทชลีย์ จากฮัฟเฟิลพัฟ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน” เขายื่นมือมาเขย่ามือเล็กๆของเธออย่างสุภาพ
“เธอไม่กลัวสาวๆพวกนั้น แล้วเหรอ” เขาถามเหมือนอยากจะรู้
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเล็กๆพลางพูดขึ้นมาเหมือนไม่ใส่ใจมากนัก
“กลัวเหรอ โอ้ว ไม่ ฉันเพียงแค่รำคาญเท่านั้น และฉันพยายามหลีกหนีมันโดยแกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจ ที่จะเป็นเพื่อนกับเธอ ซึ่งพอฉันมาคิดๆดูแล้วมันไม่แฟร์เลยสำหรับพวกเรา ทำไมเราต้องทำความพอใจให้กับคนอื่นๆโดยที่ต้องฝืนใจตัวเองด้วยล่ะ “
จัสตินยิ้ม “เธอพูดถูกและการฝืนใจตัวเองมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เหมือนกับการที่ให้ฉันฝืนใจทำเป็นไม่สนใจเธอ”
เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงเธอรีบเมินสายตาไปทางอื่น แต่ไม่ก่อนที่จะเห็นเขายิ้มกริ่มอย่างเซ็กซี่ แบบเดียวกับที่เขายิ้ม จนพวกสาวๆเหล่านั้นมักหลงใหลได้ปลื้มไปกับเขา เฮอร์ไมโอนี่ทาบมือเหนือหัวใจซึ่งเต้นไม่เป็นจังหวะของตน และเตือนตัวเองว่า พวกเราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น
“เออ จัสติน การบ้าน ฉันมีการบ้านที่ต้องทำฉันควรต้องไปแล้ว”
เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เท้าของเธอจะถอยหนีห่างจากเขา แต่จัสตินกลับคว้าแขนของเธอและดึงเธอเบาๆมาประชิดกับร่างของเขา
“อยู่กับฉัน ได้โปรด”
เสียงออดอ้อนอันนุ่มนวลของเขา ทำให้ท้องไส้ของเธอเกร็งเครียด เธออยากปฎิเสธเขา แต่สำนึกบางอย่างมันกลับเตือนเธอ ให้นึกถึงความช่วยเหลือที่เขาเคยช่วยเธอจากมัลฟอย เธอคิดว่าเธอยังคงเป็นหนี้เขาอยู่ครั้งหนึ่ง ดังนั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงตกลงใจที่จะอยู่เป็นเพื่อนเขาต่ออีกสักพัก
เป็นครั้งแรกที่จัสตินและเฮอร์ไมโอนี่คุยกันอย่างจริงจัง จัสตินเป็นนักฟังที่ดี เขาจะนั่งฟังเธอและหัวเราะชอบใจเป็นบางครั้ง และในบางครั้งที่เขาจะสอดแทรกบางอย่างขึ้นมาจนกลายเป็นเรื่องตลกไป และมันทำให้เธอเริ่มผ่อนคลายลง เฮอร์ไมโอนี่เริ่มกล้าที่เปิดทัศนคติในเรื่องต่างๆกับจัสตินมากยิ่งขึ้นรวมทั้งสิ่งที่อยู่ภายในใจของเธอ
“เฮ้ ทำไมพวกเราถึงอุดอู้อยู่แต่ภายในปราสาทล่ะ เราไม่ลองไปเดินเล่นที่ร้านไม้กวาดสามอันกันดูบ้าง”เขาพูดขึ้นอย่างจริงจัง
“อะไรนะ”เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้วขึ้นด้วยความตกใจ”ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอก มันเป็นไปไม่ได้พวกเราไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปได้ในตอนนี้”
เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นในขณะที่ปัดปอยผมของเธอทัดหู ตอนนี้เธอมีปัญหสะสมอยู่หลายเรื่องแล้ว แต่โชคดีที่มันเป็นเพียงแค่ปัญหาเล็กๆ และถ้าหากบวกโชคเสียหน่อย เธอคงจะจัดการกับมันได้ ดังนั้นเธอเองจึงไม่อยากสร้างปัญหาใดๆเพิ่มขึ้นมาอีกแล้วในตอนนี้
“ทำไมถึงจะไม่ได้ล่ะ เฮอร์ไมโอนี่อย่าลืมนะว่าเธอเป็นปะธานนักเรียนหญิง เธอจะไปที่ไหนก็ได้ตามที่เธอต้องการ”เขาพูดถูก เธอพึ่งนึกขึ้นมาได้ อันที่จริงเธอสามารถไปไหนได้ทุกที่ เพราะมันเป็นสิทธิของประธานนักเรียนอยู่แล้ว
“มันก็ใช่ แต่ ฉันมีการบ้าน”เธอท้วงเขาเบาๆ
“ไม่เอาน่าเฮอร์ไมโอนี่เธอคงไม่ได้มีการบ้านที่จะทำในตอนนี้หรอกใช่ไหม”
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าอย่างลังเล ความจริงสองสัปดาห์มาแล้วที่ในหัวสมองของเธอเต็มไปด้วยการเรียนที่หนักอึ้ง รวมทั้งปัญาต่างๆที่เธอพยายามจะแก้ไข เธอควรจะใช้เวลานี้เพื่อพักผ่อนบ้าง บางที่ส่วนต่างๆที่มันขาดหายไปอาจจะเติมเต็มกำลังของเธอให้พร้อมที่จะต่อสู้ในวันต่อไปได้
“บางที่เราอาจจะหาสินค้าบางตัวที่พวกเราอยากได้ มาเถอะเฮอร์ไมโอนี่ ผ่อนคลายเสียบ้าง”เขามอบรอยยิ้มที่มั่นใจให้กับเธออีกครั้ง
เฮอร์ไมโอนี่คิดเรื่องนี้อย่างหนัก พลันเธอนึกถึงภาระหน้าที่ต่างๆที่เธอต้องรับผิดชอบ....แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับส่ายหน้าสลัดภาระต่างๆทิ้งไป ...ขอเป็นพรุ่งนี้ หลังจากที่เธอ ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในวันนี้อย่างเต็มอิ่ม เมื่อความรู้สึกตึงเครียดของเธอได้หมดไป เมื่อเธอมีสติและเหตุผลเป็นของตัวเธอเองอีกครั้ง เธอจะกลับมาทำงานรับผิดชอบนั้นต่อไป
แต่ว่าตอนนี้ เธอไม่สามารถรวบรวมสมาธิ ไม่มีวินัยมากพอที่จะควบคุม ความคิดที่กระซิบบอกเธอตลอดเวลาว่า ....ให้ปลดปล่อยความสุขให้กับตัวเองบ้าง....ความคิดนี้ได้นำความสุขพร้อมๆกับความตื่นตกใจมาให้กับเธออย่างมากมาย
ความสุขที่เธอจะได้ปลดปล่อยจากปัญหานานาที่มีรายล้อมรอบตัวเธอ ส่วนความตื่นตกใจสำหรับเธอนั้น คือเป็นครั้งแรกที่ยายหนอนหนังสืออย่างเธอจะแหกกฎ
“ฉันจะไป”
“ก็ดี แล้วฉันจะส่งนกฮูกมาหาเธอเย็นนี้นะ”
หัวใจของเฮอร์ไมโอนี่เริ่มเต้นแรงอีกแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมเธอถึงต้องกังวลกับมันด้วยนะ เขาคือจัสติน แค่เพื่อนเท่านั้นไม่ได้เป็นแฟนเธอเสียหน่อย
“ฉันไปล่ะ ฉันต้องเตรียมอะไรอีกหลายอย่างเลย”เธอพูดและเริ่มจะเดินจากไป
“เฮอร์ไมโอนี่”จัสตินเรียกเธอให้หยุดอีกครั้ง”ที่พวกเขาบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องฮันนา”เขาพูดอย่างช้าๆพลางมองดูเธอในขณะที่เธอเองก็จ้องมองเขารอคอยในสิ่งที่เขาจะบอกเธอ
“มันไม่ใช่เรื่องจริง”เขายิ้มให้กับเธอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะวิ่งจากไปอย่างมีความสุข ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เฮอร์ไมโอนี่เองก็ยิ้มให้อย่างมีความสุขเช่นกัน
เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีโอกาสได้รู้ตัวสักนิด ว่าการพูดคุยระหว่างเธอกับจัสติน ไม่ได้เป็นความลับใดๆเลย บุคคลที่สามที่ยืนเงียบๆอยู่ภายในเงามืด กำลังขบกรามแน่นด้วยความไม่พอใจต่อพวกเขาทั้งคู่
@@@@@@@@@@@@@@@
“กระโปรงที่ฉันได้รับจากงานวันเกิดอยู่ไหนนะ แล้วเสื้อเสวตเตอร์ของฉันล่ะ”เฮอร์ไมโอนี่ค้นหา ขว้างปาเสื้อผ้าของเธอเกลื่อนห้อง
“ชุดนี้ก็ไม่ดี”เธอพูดและเหวี่ยงเสื้อไว้บนเตียง”นี่ก็ไม่เข้ากันอีก”เธอถอนหายใจ เธอดูนาฬิกาข้อมือของเธออย่างวิตกกังวล สามโมงกว่าแล้ว จัสตินบอกว่าจะส่งนกฮูกมาหาเธอช่วงเย็นนี้ และมันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง เธอยังหาชุดสวยๆที่จะใส่ไปฮอกมี๊ดยังไม่ได้เลย
บางทีจินนี่อาจจะมีเสื้อผ้าบางชุดให้เธอยืมใส่ได้มากกว่านี้ เฮอร์ไมโอนี่คิดและยิ้มออกมาอย่างคาดหวัง เธอเก็บข้าวของเสื้อผ้าของเธอเข้าที่ และรีบออกจากหอของเธอตรงไปหาจินนี่ที่ยังคงอยู่ที่ห้องโถงใหญ่กับลูน่า
จินนี่ทำตาโตเมื่อเฮอร์ไมโอนี่กระซิบบอกเรื่องที่เธอและจัสตินจะออกไปฮ๊อกมี้ดด้วยกัน
“จริงสิ”จินนี่ตะโกนอย่างลืมตัว เฮอร์ไมโอนี่โน้มตัวคร่อมโต๊ะและทำเสียงให้เบาที่สุด เพราะเธอเองตระหนักได้ดีกว่าว่าทั้งเธอและจินนี่อยู่ท่ามกลางที่สาธารณะ
“ชู่วววว์ อย่าทำเสียงดังไปจินนี่ฉันไม่อยากให้ใครได้ยิน”
จินนี่พนักหน้าอย่างเข้าใจ
“ถ้าอย่างงั้นเธอขึ้นไปเลือกได้ตามสบายเลยเฮอร์ไมโอนี่ แล้วฉันจะรีบปลีกตัวตามไปให้ไวที่สุด”จินนี่กระซิบกลับพร้อมกับขยิบตาให้เธอ เฮอร์ไมโอนี่กอดจินนี่แน่นด้วยควมรู้สึกขอบคุณ
และนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เธอพอจะตั้งความหวังเอาไว้ได้ได้ในตอนนี้ว่าจินนี่คงมีเสื้อผ้าที่ดูดีสำหรับเธอ
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ชุดของจินนี่ไม่ได้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ผิดหวัง นางมอลลี่ค่อนข้างดูแลจินนี่ได้ดีกว่าลูกชายของเธอ อาจเป็นไปได้ที่เธอมีลูกชายจำนวนมากเสื้อผ้าของแต่ละคนจึงจำเป็นต้องใส่ตกทอดกันหลายรุ่น จินนี่โชคดีที่ไม่ใช่ผู้ชาย ชุดงานเต้นรำของรอนในปีสี่จึงไม่ต้องตกทอดมาสู่จินนี่
เฮอร์ไมโอนี่อมยิ้มเมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ เธอจำได้ดีว่ารอนบ่นถึงลูกไม้ของเสื้อที่ห้อยรุ่มร่ามจนดูน่าเกลียดและมันทำให้รอนอารมณ์เสียตลอดวัน
เฮอร์ไมโอนี่เลือกชุดที่เธอพอใจขึ้นมาสวมใส่ เสื้อสีแดงเรียบๆแต่เน้นขับผิวสีชมพูของเธอได้อย่างน่าทึ่งกระโปรงยีนส์สั้นเลยเข่าเล็กน้อยช่วยอวดย้ำเรียวขาสวยของเธอได้อย่างชัดเจน ซึ่งไม่บ่อยนักที่เธอจะอวดเรียวขาให้ใครๆได้เห็น
ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่หมุนซ้ายหมุนขวาอยู่ที่หน้ากระจกอยู่นั้น เธอได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่อยู่ชั้นล่าง อาจจะเป็นจินนี่ เพราะเธอบอกว่าเธอจะรีบปลีกตัวเพื่อที่จะมาช่วยเธอเลือกชุด
“จินนี่นั่นเธอหรือเปล่า”เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนถาม”ขึ้นมาบนนี้หน่อยสิ อยากให้เธอดูหน่อยว่าชุดนี้ดีไหม”
เฮอรืไมโอนี่หมุนตัวให้จินนี่ดู ก่อนที่เธอจะทำหน้าเหวอเมื่อคนที่อยู่หน้าประตูไม่ใช่จินนี่แต่กลับเป็น รอนแทน
“โอ้ว” เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง”ขอโทษรอนฉันนึกว่าเป็นจินนี่”เธอยิ้มอย่างเก้อเขินเมื่อเห็นรอนจ้องมองเธอไม่วางตา
“ไม่เป็นไร”รอนพูดพร้อมกับใบหน้าที่แดงพอๆกัน
“ฉันมองเป็นยังไงบ้าง”เธอถามพร้อมกับหันซ้ายหันขวาให้เพื่อนรักของเธอดู
“น่ารักดี”รอนตอบอย่างเขินๆ
“จริงเหรอ”เฮอร์ไมโอนี่ถามด้วยความประหลาดใจ เพราะรอนไม่เคยมองเห็นว่าเธอสวยหรือน่ารักมาก่อนเลย
“นี่คือมุมมองของผู้ชายที่เห็นว่าฉันดูดี งั้นฉันตกลงจะใส่ชุดนี้แหละ” เธอพูดและมองดูตัวเองในกระจกอีกครั้งอย่างพอใจ
เฮอร์ไมโอนี่คงจะไม่หยุดการชื่นชมตัวเองในกระจกหากเธอไม่ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่กระแทกบานกระจกหน้าต่างเสียงดัง
เฮอร์ไมโอนี่อมยิ้ม เมื่อเธอเห็นนกฮูกสีขาวที่เกาะอยู่ตรงขอบหนาต่างอย่างสง่างาม
คงเป็นข้อความจากจัสติน เธอคิดในขณะที่เธอเปิดกระจกและอุ้มเจ้านกฮูกตัวนั้นเข้ามาอย่างระมัดระวัง เฮอร์ไมโอนี่มองเจ้านกฮูกตัวนี้อย่างพินิจพิเคราะห์ เธอเคยเห็นเจ้านกฮูกตัวนี้มาก่อนหรือเปล่านะ ขนของมันมีสีขาวราวหิมะ มันคงมีราคาค่อนข้างแพงเอาการอยู่ เด็กนักเรียนโดยทั่วไปคงไม่มีปัญญาซื้อมาใช้แน่ๆ เฮอร์ไมโอนี่สลัดความคิดเรื่องนกฮูกออกไปจากสมองก่อนที่เธอจะดึงกระดาษข้อความออกจากขาของมัน
“นั่นมันคงไม่ใช่นกฮูกจากมัลฟอยหรอกใช่ไหม” รอนถามขึ้นอย่างวิตก เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งในคำถามของรอน เธอมองไปที่นกฮูกชั่วครู่ ก่อนมองหน้าของรอนด้วยความตกใจไม่แพ้กัน เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้พูดอะไร เธอคลี่กระดาษออกมาเพื่อดูข้อความในนั้นด้วยมือที่สั่นเทา
ทาสของฉัน ลงมาพบกับฉันที่ทางเดินจะไปห้องโถงใหญ่ตอนนี้ ถ้าเธอไม่ยอมมา รู้ใช่ไหมว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ....
D.M
เฮอร์ไมโอนี่อยากจะเป็นลม ทำไมเขาต้องการพบเธอในตอนนี้ด้วยล่ะ แล้วจัสตินล่ะ ฉันควรจะทำยังไงดี
“จดหมายใคร มันเป็นของมัลฟอยใช่ไหม เขาต้องการอะไร”หลายคำถามที่พรั่งพรูออกมาจากปากของรอน ค่อนข้างเคร่งเครียด และหูของเขาค่อนข้างเป็นสีแดงเล็กน้อย ซึ่งเธอเข้าใจได้แทบจะในทันทีถึงความรู้สึกของเขาในขณะนี้
เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถพูดหรือบอกอะไรกับรอนได้ในตอนนี้ เธอไม่อยากให้เขารู้ในเรื่องของสัญญาทาสที่เธอทำไว้กับมัลฟอย
“ฉันต้องออกไปทำธุระหน่อย มันเกี่ยวกับหน้าที่ของประธานนักเรียนน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่โกหก ใความเป็นจริงเธอไม่อยากโกหก โดนเฉพาะกับเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ
“ช่วยอะไรหน่อยได้ไหมรอน ถ้าหากจัสตินนกฮูกมาถึงฉัน นายเพียงแค่ตอบเขากลับไปว่าฉันจะรีบกลับมาให้ทันนัดของเรา”
เฮอร์ไมโอนี่มองดูรอนที่ขมวดคิ้วอย่างสับสนและกังวลใจก่อนที่เธอจะหยิบเสื้อคลุมและออกจากห้องพักอย่างเร่งรีบเธอหันกลับไปพูดกับรอนเบาๆเพื่อไม่ให้รอนเป็นกังวลจนเกินไปนัก
”อย่ากังวลเลยรอน แล้วฉันจะรีบกลับมา”
“เฮ้” เธอได้ยินเสียงรอนทักท้วง แต่เธอก็ไม่คิดจะสนใจฟังเขาแต่อย่างใด เพราะตอนนี้เธอกำลังรีบ
ความคิดเห็น