ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic แปลHarry potter Hogwarts Twilight (เซดริก/เฮอร์ไมโอนี่)

    ลำดับตอนที่ #12 : Chepter : 12 การจ้องมองอย่างระมัดระวังของแวมไพร์

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 53


    บทที่ 12 การจ้องมองอย่างระมัดระวังของแวมไพร์
           
    ภารกิจครั้งสุดท้ายกำลังจะเริ่มต้นในไม่ช้า แม้แต่แวมไพร์อย่างเซดริกก็ยังรับรู้ได้ รอน และแฮร์รี่รวมทั้งสก๊อตส์ได้รับการผ่อนปรนจากการอ่านหนังสือเพื่อทบทวนบทเรียนจากเฮอร์ไมโอนี่โดยเฉพาะสก๊อตส์รื่นเริงเป็นพิเศษเขาต่างระดมบรรดาพวกฮัพเฟิลพัพให้ไปที่สนามควิคดิชเพื่อแข่งขันกันอย่างสนุกสนาน
     
            จะมีก็แต่เซดริกเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ถูกเฮอร์ไมโอนี่ลงโทษให้ทบทวนบทเรียนอยู่กับเธอ ใช่ว่าเซดริกจะไม่ชอบกับความคิดนี้ของเฮอร์ไมโอนี่ เขาอยากอยู่กับเธอตามลำพัง เฮอร์ไมโอนี่อ่านหนังสือเล่มใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้าของเธอและกัดริมฝีปากเป็นบางครั้งเมื่อเจอกับหัวข้อยากๆซึ่งเธอจะตั้งหน้าตั้งตาสนใจกับมันอย่างเงียบๆ โดยมีเซดริกจะจ้องมองเธอตลอดเวลา และอาการที่เธอกัดริมฝีปากมันทำให้เซดริกรู้สึกว่าเธอดูเซ็กซี่อย่างมาก
     
    ในขณะที่เซดริกจ้องมองเธอนั้นเฮอร์ไมโอนี่สังเกตเห็นอยู่ตลอดเวลาและนั่นมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามองเธอเสียด้วย แทนที่เธอจะเขินอายเธอกลับถลึงตาจ้องมองเขาอย่างดุดันเพื่อให้เขามีสมาธิในการอ่านหนังสือของเขาดั่งเดิม
     
            “เซดริก” เฮอร์ไมโอนี่บ่นพึมพำระหว่างที่เขายิ้มให้เธอ ก่อนที่จะเอามือเท้าคางแล้วจ้องมองเธอต่อไปอย่างตั้งใจ
     
            “คิดอะไรอยู่” เขากล่าวระหว่างที่เธอ เหลือบตาขึ้นมองดูเขาระหว่างที่ทัดผมไปไว้ข้างๆใบหู
     
            “ฉันไม่มีเวลามาเล่นด้วยหรอกนะ เธอก็เหมือนกันล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆซึ่งทำให้เชดริกหัวเราะคิกคัก และมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่อารมณ์ไม่ดีนัก
     
            “เธอคิดว่าพอตเตอร์จะมีภาษีดีกว่าแวมไพร์อย่างฉันที่จะผ่านภารกิจครั้งนี้ไปได้ดีหรือเปล่า”เฮอร์ไมโอนี่ตวัดสายตามาที่เขาพร้อมกับกัดริมฝีปากเป็นเส้นตรง หัวคิ้วของเฮอร์ไมโอนี่ขมวดมุนอย่างวิตก
     
    รอยยิ้มหายไปจากริมฝีปากของเซดริกเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวที่แพร่ออกจากแววตาของเธอ เธอมองไปที่อื่นโดยพยายามที่จะหันกลับมาสนใจหนังสือตามเดิม
     
            “เกรนเจอร์ฉันไม่ปล่อยให้พอตเตอร์เป็นอะไรหรอก……. ฉันบอกแล้วว่าฉันสัญญากับดับเบิลดอร์ไว้แล้ว”
     
    “แต่เธอจะคอยระวังแฮร์รี่หรือตัวเธอเองได้ยังไง ถ้าเธอไม่รู้ว่าใครใส่ชื่อแฮร์รี่ไว้ในถ้วยนั่น”เฮอร์ไมโอนี่กล่าวอย่างไม่สบายใจ โดยหันหน้ามาเผชิญหน้ากับเขา
            เชดริกอยากจะพูดกับเธอว่าหลายเดือนที่ผ่านมานี้ เธอเครียดมากเกินไปแต่เพราะความกลัวในดวงตาของเธอทำให้เขาหยุดความคิดนั้น
     
            “อย่ากังวลเลย เกรนเจอร์ ดัมเบิลดอร์กำลังพยายามหาตัวคนที่ทำอยู่”
     
            “ใช่สิ แต่ว่าตอนนี้เขาก็ยังคงหาคนทำไม่ได้อยู่ดี  อีกอย่างมันไม่ใช่แฮร์รี่เท่านั้นที่ฉันห่วงแต่เป็นเธอด้วย กฎเดียวของถ้วยอัคคีนั้นใช้บังคับกับเธอด้วย ไม่ใช่แค่แฮร์รี่คนเดียว ความจริงดับเบิ้ลดอร์แน่ใจว่าถึงเธอจะเจตนา ใส่ชื่อตัวเองลงไปในถ้วยไม่ว่าจะยังไงเธอก็ไม่โดนเลือกแน่ เพราะในสิ่งที่เธอเป็น แต่สุดท้ายเป็นยังไงล่ะเธอกลับถูกเลือก” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงและปนด้วยความหวาดกลัวในจิตใจ
     
            เซดริกเขยิบตัวมาข้างหน้าเพื่อสัมผัสมือเธอ และเขาก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลยที่เธอไม่ได้ถอนมือของเธอออกจากเขาเหมือนในตอนแรกๆ และเขาก็มีความสุขกับการตอบรับสัมผัสของเขาจากเธอเพราะถ้าเขาโดนปฎิเสธการสัมผัสนั้นเขาคงจะเสียใจและทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆตัวเขาคงยากขึ้นกว่าเดิม
     
            “เธอไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะ” เชดริกกล่าวระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจแล้วเอามืออีกข้างกุมขมับไว้ด้วยความทรมานใจ
     
            “ฉันเป็นห่วงคนที่ฉันแคร์…….. ฉันแค่หวังให้เธอยอมรับในข้อนั้น” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
     
            เชดริกปล่อยมือเธอ แล้วจึงกอดอกแน่น
     
            “ฉันไม่เห็นความจำเป็น”
     
            “เพราะนั่นมันเป็นสิ่งที่พวกมนุษย์เขาทำกันนะสิ” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวพร้อมกับจ้องเขา ตลอดบ่ายที่ผ่านมาทุกๆการสนทนาอย่างน้อยก็มักจะมีการปะคารมกันบ้างครั้งคราวกับข้อเท็จจริงที่ว่าเขาต้องการให้เธอปลอดภัยระหว่างที่เธอไม่สนใจอะไรนอกจากความปลอดภัยของเขาและพอตเตอร์เท่านั้น
     
            ความจริงในข้อนี้ได้กระทบเชดริกอย่างจัง ความตาย! ทำไมทุกคนต้องตาย ยกเว้นเขา เขาต้องการตัดความเจ็บปวดในการที่จะสูญเสียเธอจากความตาย แต่ในที่สุดเธอก็กลับมาสู่ความเป็นมนุษย์และการตายเพราะอายุไขซึ่งเขาไม่มีอำนาจที่จะช่วยเหลือเธอได้ ถึงแม้ว่าเขายังไม่ได้บอกรักเธอแต่เขาก็คิดว่ามันชัดเจนอยู่แล้ว และเขาก็ต้องการให้เธอเข้าใจว่าที่เขาผลักไสเธอเพราะเขารักเธออย่างแท้จริง
     
    เฮอร์ไมโอนี่พอจะเดาออกเมื่อเธอเห็นเซดริกนิ่งเงียบไป เขากำลังกังวลเกี่ยวกับบางสิ่งอยู่
           
    “เชดริก ฉันจะไม่พูดกับเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก เธอไม่ได้ทำให้ฉันเจ็บปวดและฉันก็รู้ว่าเธอจะไม่ทำ ความเป็นจริงแล้วฉันจะได้รับอันตรายทุกครั้งเพียงแค่ฉันยืนอยู่ใกล้ๆแฮร์รี่ แต่ฉันจะไม่ได้รับอันตรายถ้าฉันอยู่ใกล้ๆเธอ” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวหลังจากนั้นก็พุ่งความสนใจกลับไปยังหนังสือของเธอ ระหว่างนั้นที่เชดริกจ้องมองที่เธอ
           
    “ยังไง”
                   
    “เพราะฉันเป็นแม่มดที่ฉลาดที่สุด และฉันก็ไม่เคยพลาดจากสิ่งที่ฉันคิดนะสิ” เธอเผลอกล่าวเสียงดังโดยเริ่มหน้าแดงเมื่อได้ ยินเสียงคนไอจากห้องสมุดเพื่อปรามให้เธอหยุดทำเสียงรบกวนคนอื่นๆ
           
    “เด็กดื้อ” เชดริกพึมพำระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่วางท่าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ จากนั้นก็หันไปที่หนังสือต่อ
     
            จากนั้นไม่กี่นาที เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอย่างดัง ก่อนที่จะหันไปทางเชดริกที่ยังคงจ้องมองเธออยู่ด้วยแววตาที่ไม่เข้าใจและกังวลลึกๆพร้อมกับกอดอก
     
            “ให้ตายเถอะเชดริก ถ้าเธอไม่อยากที่จะเป็นเพื่อนฉันเพราะเธอกังวลว่าเธออาจจะทำให้ฉันได้รับอันตรายล่ะก็ ทำไมเธอถึงยังอยู่ตรงนี้ โต้เถียงกับฉันอยู่ล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวระหว่างที่เชดริกไม่ได้เอ่ยคำพูดอะไรออกมาเพียงแค่หันไปที่เธอและจ้องมองเธอเท่านั้น
     
            “ฉันคิดว่าฉันพูดชัดเจนแล้วนะ” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวก่อนที่จะปิดหนังสือแล้วยัดลงกระเป๋า เชดริกมองดูเธอเมื่อเธอยืนขึ้นและพยักหน้าให้กับเขา
     
            “ฉันหิวแล้วล่ะ และฉันเชื่อว่าคนที่ฉันเรียกว่าเพื่อนคงยังไม่โผล่หัวเข้าไปในห้องโถงแน่นอนหรือไม่ฉันก็คงต้องไปลากพวกเขาออกมาจากอะไรที่พวกเขาทำและนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากจะทำด้วยตนเอง “เฮอร์ไมโอนี่พูดก่อนที่ เช็คดริกจะหัวเราะออกมากับเสียงบ่นของเธอ
     
            โดยที่เธอยังไม่ทันจะหายใจ  เชดริกก็เก็บของอย่างรวดเร็วแล้วมายืนอยู่ข้างๆ เธอและทำในสิ่งที่ตัวเขาปรารถนาเป็นที่สุดเขาคว้าเอวของเฮอร์ไมโอนี่ และประทับริมฝีปากบดขยี้ลงไปที่เรียวปากของเธอเต็มๆ
     
            เฮอร์ไมโอนี่เบิกตากว้างและสูดเอาอากาศหายใจอย่างหนักเมื่อเซดริกผละริมฝีปากออกจากเธอแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ซบหน้าของเธอลงไปกับอกแกร่งของเขาพลางถอนหายใจ
     
    “ทำไมเธอถึงชอบจูบฉันนักนะเซดริก”
     
    “ไม่รู้สิ ปากเธอหวานมั้ง “เขาพูดพร้อมกับกอดเธอไว้แน่น
     
    “เธอเคยจูบโซ หรือเปล่า”
    เซดริกอึ้งไปเขารู้สึกได้ถึงหัวใจของเฮอรไมโอนี่ที่เต้นแรงและเร็ว
     
    “เคย แต่ความรู้สึกมันแตกต่างกันมาก ฉันชอบที่จะจูบกับเธอมากกว่าใครๆเฮอร์ไมโอนี่ ฉันอยากกอดเธอ อยากจูบเธอและอยากร่วม...”เซ็ดริกหยุดคำพูดไว้แค่นั้นจนทำให้เฮอร์ไมโอนี่สงสัย เธอผละออกจากอ้อมกอดของเซดริกและมองหน้าเขาที่ยิ้มกริ่มให้เธอ
     
    “อยากร่วมอะไรทำไมไม่พูดให้จบ”
     
    “พูดไม่ได้เด็กน้อย เธอยังไม่ประสากับมัน รออีกหน่อยฉันจะสอนเธอเอง”
     
    เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงจัดเธอไม่ได้ไม่ประสาจนไม่รู้ในสิ่งที่เซดริกพูด เฮอร์ไมโอนี่ตีแขนเขาเบาๆก่อนผละออกมาจากตัวเขา
     
    “คนบ้า คิดลามกอยู่ละสิ “
     
            เฮอร์ไมโอนี่คว้ากระเป๋าของเธอและเดินมุ่งหน้าตรงไปยังทางออกด้วยใบหน้าที่เป็นสีเข้ม   โดยมีเชดริกเดินตามเธอมาติดๆโดยยังคงยิ้มอยู่
     
            ถึงแม้ว่าเขาจะมีความสงสัยในใจแต่เชดริกก็รู้ว่าถึงแม้ เธอจะตายจากเขาไปเพราะอายุไขหรืออะไรก็ตามแต่เขาก็จะไม่เปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ใดๆทั้งสิ้นกับเธอ เขาจะยังคงรักเธอคลอดไป
     
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
     
            สำหรับภารกิจสุดท้ายนี้ดูเหมือนจะเป็นวันที่หฤโหดสำหรับเขา เพราะพ่อแม่ของเขาจะเข้าร่วมชมการแข่งขันครั้งนี้ด้วย
     
            เอมอส ดิกกอรี่ ทำตัวนิ่งเฉยเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนเขาไม่ได้แสดงอาการเขินอายใดๆ ทั้งสิ้นจากกลุ่มคนที่พูดคุยกับเขา เสียงหัวเราะของเขานั้นดังสนั่นไปทั่วห้องโถงใหญ่ และการกล่าวชื่นชมลูกชายของเขาเองนั้นสามารถได้ยินไปทั่วจนเชดริกต้องจ้องมองมายังพ่อของเขาอย่างเขินอาย
     
            ส่วน คาร่า ดิกกอรี่ พรากลมหายใจของผู้คนไม่ว่าจะทั้งผู้ชายหรือผู้หญิง ผมสีดำสนิทยาวลงไปจนถึงกลางหลังดวงตาสีฟ้าใสของเธอดูระยิบระยับและดูเหมือนจะเพ่งเล็งผู้คนด้วยความเย็นชาแต่คาร่าก็มีข้อดีในตัวเธอเองเหมือนกัน เสียงหัวเราะและน้ำเสียงที่ทรงพลังของเธอที่ดึงดูดผู้คนแทนที่จะทำให้พวกเขาหันกลับไปด้วยความกลัว
     
     
            ตอนนี้เช็คดริกนั้นมาอยู่ข้างๆ พ่อแม่เขาระหว่างที่พ่อแม่เขา คุยกับอาจารย์บางคน โดยพ่อและแม่ของเขานั้นยิ้มไม่หุบเมื่อได้ยินว่า เชดริกนั้นเป็นเด็กดีแค่ไหน เชดริกมองไปรอบๆ ก็เห็นสก๊อตส์กำลังแกล้งวางท่าใส่เขาอยู่ ขณะที่เฟร็ดกับจอร์จกำลังหัวเราะกันอย่างสนุกสนานเมื่อคุณนายวิสลี่ย์กำลังตำหนิรอนและพยายามที่จะกอดแฮร์รี่
     
            สก๊อตส์มองสบตา เชดริกแล้วจึงพยักหน้าไปยังเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังมองดูคุณนายวิสลี่ย์พยายามที่จะกอดแฮร์รี่ให้ได้ โดยที่แฮร์รี่เองก็พยายามดึงตัวเขาออกมาจากเธออย่างยากลำบาก เฮอร์ไมโอนี่มองดูแฮร์รี่แล้วยิ้มๆเพราะไม่รู้ว่าจะช่วยเพื่อนรักของเธอได้อย่างไร ดูเหมือนว่าเธออยากที่จะดึงแฮร์รี่ออกมาด้วยตัวของเธอเองแต่ก็ติดที่ผู้ใหญ่ดูจะเอ็นดูแฮร์รี่เสียจนเธอไม่กล้าเกินเลยไปแบบนั้น
     
            “นั่นสินะหญิงสาวที่เอ็ดเวิร์ดเล่าให้พวกเราฟัง” คาร่ากล่าวโดยยืนข้างๆ ลูกชายของเธอโดยเชดริกก้มหน้าลงเพราะความเขินระหว่างที่เอมอสหัวเราะอย่างดัง โดยไม่แม้แต่จะเก็บซ่อนความสนใจตัวหญิงสาวคนนี้
     
            “เธอกล้าหาญชาญชัยมาก….. อัลบัสเล่าเรื่องเธอให้ฉันฟังแล้วล่ะ”เอมอสกล่าว
     
            “ทำไม” เชดริกมองดูพ่อเขา ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยคำถามระหว่างที่พ่อเขาหัวเราะคิดคักพร้อมกับตบที่บ่าลูกชาย
     
            “ไม่เอาน่าเชดริกอย่างกับว่าลูกจะเจอใครสักคนได้ทุกวันซะหน่อย อีกอย่างเอ็ดเวิร์คก็เล่าให้เราฟังถึงเรื่องที่ลูกถามเขามากมายเกี่ยวกับการตกหลุมรักสาว” เอมอส กล่าวระหว่างที่เชดริกจ้องมองไปที่พื้นด้วยความอายเต็มที่
     
            “ฉันไม่ชอบเครื่องแบบนักเรียนของเธอสักเท่าไหร่ อีกอย่างฉันมั่นใจว่าถ้าเราทำบางอย่างกับผมของเธอที่ดู เอ่อ โป่งพอง แม้แต่คนที่แก่ที่สุดในพวกเราก็ต้องมองเธอเป็นรอบที่สองแน่“คาร่ากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูมีความหวังของเธอ
     
            เชดริกรู้ว่าแม่ของเขาอยากได้ลูกสาว แต่ถึงแม้ว่าจะผ่านไปหลายร้อยปีแล้ว เขาก็ยังไม่เจอใครที่จะมาเติมเต็ม ความต้องการนี้
     
            “แม่คงไม่คิดที่จะเขาใกล้เธอหรือแม้แต่พยายามที่จะเป็นแม่ของเธอหรกน่ะ ใช่ไหม”เชดริกกล่าวอย่างไม่พอใจ และหวั่นใจ พ่อแม่ของเขามองเขาด้วยความประหลาดใจจากนั้นก็ยิ้มอย่างขบขันกับความหวาดวิตกที่แสดงออกทางใบหน้าของลูกชายของเขา
     
    “ไม่แน่นอนลูกชาย………. เราไม่ทำลายความหวังของลูกหรอก” เอมอสกล่าวแต่เชดริกก็ไม่ชอบที่พ่อเขายิ้มให้อย่างนั้น
     
            “สวัสดีครับคุณและคุณนายดิกกอรี่” สก๊อตส์กล่าวระหว่างที่เขายืนอยู่ต่อหน้าทั้งสาม เชดริกมองไปยังเอมอสและคาร่าที่ยิ้มให้กับเด็กหนุ่ม
     
            “สก๊อตส์พวกเราคิดถึงเธอมากนะ ” คาร่ากล่าวก่อนที่เชดริกจะก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขนสก๊อตส์ไว้
     
    “เดี๋ยวเราไปคุยกับพอตเตอร์กันก่อน” เชดริกกล่าวระหว่างที่พ่อและแม่ของเขาพยักหน้าก่อนที่จะยิ้มให้เมื่อคนทั้งสองหายไปในฝูงชน
     
    เมื่อพวกเขาเข้าไปอยู่ในกลุ่มของพวกวิสลี่ย์ เซดริกตรงเข้าไปยังอ้อมกอดของเฮอร์ไมโอนี่ที่อ้าแขนรับเขาตั้งแต่เห็นเขาเดินมาาตั้งใกลแล้ว จากนั้นเชดริกก็โอบเอวเฮอร์ไมโอนี่จากข้างหลังไว้ตลอดไม่ยอมปล่อย ระหว่างที่รอนจ้องมองภาพทั้งคู่ด้วยความอิจฉาเล็กๆ
     
    “โรคจิตหรือไงพวกเธอ…… นี่มันยังเช้าอยู่เลยนะทำประเจิดประเจ้อไปได้” รอนพึมพำก่อนที่จะจ้องเขม็งไปยังเชดริก
     
    “โรนัลด์” คุณนายวิสลี่ย์ตำหนิลูกชายเธอก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะหันมาจ้องมองเขาและยิ้มให้แบบเขินๆ
     
    “ฉันขอโทษถ้าฉันเป็นห่วงเพื่อฉันโรนัลด์…. ฉันอดคิดไม่ได้ว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวก่อนที่เชดริกจะหัวเราะแล้วโอบเธอเอาไว้แนบชิดกว่าเก่าใต้วงแขนของเขา
     
    “เฮอร์ไมโอนี่ไม่เป็นอะไรหรอกฉันสัญญา เราศึกษากันมาหลายครั้งแล้ว”แฮร์รี่พูดขึ้นเหมือนปลอบโยนเด็กตัวเล็กๆที่กำลังหวาดผวากับความมืด
     
    เฮอร์ไมโอนี่สะอื้นจากนั้นเธอหันหน้าหนีจากแฮร์รี่แล้วมากอดเซดริกไว้แน่นเรียกเสียงฮือฮาจากเพื่อนๆ ทั้งสองของพวกเขา
     
    “พอตเตอร์พูดถูกแล้ว จำไว้ว่เราทำอย่างนี้เพราะอะไร “ เชดริกกล่าวระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่ผละจากเขาเมื่อรู้สึกตัวว่าเธอเป็นผู้หญิงขี้แยไปเสียแล้วในวันนี้
     
    เชดริกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยระหว่างที่มองดูเพื่อนๆและพ่อแม่ของเขารวมทั้งเฮอร์ไมโอนี่หัวเราะเล่นกัน
     
    แต่ในทันใดนั้นสิ่งที่ทำให้เซดริกถึงกับสะดุ้งและตกใจกลัวเมื่อมีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นในหัวของเขา
     
    “ใกล้เวลาแล้ว หัวหน้าจะผงาดขึ้นและพอตเตอร์จะต้องตาย”
     
     
    เสียงร้องดังขึ้นในหัวเขาทำให้เชดริกต้องกุมศรีษะ ด้วยความเจ็บปวด เขามองไปรอบๆเพื่อมองหาต้นตอของความคิดนั้นแต่เขาก็ค้นพบกับความว่างเปล่า
     
    เชดริกมองไปที่พ่อแม่ของเขา แต่เขากลับเจอสายตาที่มองมาทางเขาแปลกๆ ใบหน้าของพ่อเขาเต็มไปด้วยคำถาม เพราะเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเชดริกระหว่างที่แม่ของเขากำมือของพ่อไว้แน่น ซึ่งถ้าเป็นมนุษย์ทั่วไปก็คงจะทำให้มือหักไปแล้วจากพละกำลังของแวมไพร์ โดยความหวาดกลัวนั้นปกคลุมในดวงตาของเธอ
     
    เชดริกจ้องมองไปยังแฮร์รี่เป็นครั้งสุดท้ายด้วยความกังวล ซึ่งแฮร์รี่นั่นพยักหน้าให้กับบางอย่างที่คุณวิสลี่ย์บอกเขา
     
    เอมอสนั้นไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้นตลอดทางที่พวกเขามุ่งหน้าไปยังเขาวงกต
     
    แวมไพร์ทั้งสามพูดคุยกันอย่างรวดเร็วถึงสิ่งที่พวกเขาได้ยินและรู้สึก ซึ่งคาร่าเริ่มจะจิตหลอนเพราะเธอบอกว่าเธอเห็นแสงสีเขียวและความตายรายรอบไปทั่วๆบริเวณนั้น
     
    เอมอส เซดริก และดับเบิลดอร์ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการที่จะทำให้เธอสงบจิตใจ ก่อนที่เธอจะออกคำสั่งว่าทั้งเซดริกและแฮร์รี่ต้องออกจากการแข่งขันครั้งนี้ เฮอร์ไมโอนี่นั้นเห็นด้วยกันกับคาร่าเมี่อเธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และสิ่งที่ทำให้ครอบครัวดิกกอรี่อ้าปากค้างด้วยความแปลกใจก็คือเฮอร์ไมโอนี่ล่วงรู้ว่าพวกเขาเป็นอะไร เซดริกนั้นนิ่งเฉยในข้อเท็จจริงที่ว่าพ่อแม่เขารู้ว่าเธอรู้ถึงความลับของพวกเขาและดูท่าทางดับเบิลดอร์เองก็ไม่ได้แปลกใจเลยที่เธอรู้เนื่องจากความชาญฉลาดของเธอที่มีอยู่
     
    เหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ภารกิจจะเริ่มขึ้น เซดริกและดับเบิ้ลดอร์ต่างพากันบอกเหตุผลให้คาร่าและเฮอร์ไมโอนี่ ฟังถึงสาเหตุที่ไม่ว่าเขาหรือใครๆก็ออกจากการแข่งขันนี้ไม่ได้
     
    โดยที่ดับเบิลดอร์อ้างว่าถ้าจะมีใครที่สามารถช่วยคุ้มครองแฮร์รี่ ได้นั่นก็ต้องเป็นเซดริกซึ่งเคยสัญญาเอาไว้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะคอยดูแลแฮร์รี่ให้เพื่อความมั่นใจว่าเขาจะไม่เป็นอะไร
     
            “เซดริก” เอมอสกล่าวอย่างไม่พอใจซึ่งทำให้เซดริกหันมายังพ่อของเขาโดยแสดงให้เห็นว่าตอนนี้เขาหันมาสนใจเซดริกอย่างเต็มที่
     
            “พ่อไม่ชอบเลย……. แม่เขาไม่เคยพูดผิด” เอมอสกล่าวระหว่างที่เซดริกพยักหน้าและมองหาไปรอบๆบริเวณนั้น เพื่อมองหาคนๆหนึ่งที่เข้ามาในความคิดและเข้ามารบกวนจิตใจเขา
     
            “ผมสัญญาว่าจะดูแลพอตเตอร์และตัวเองครับ…… ผมไม่มีวันทำลายสัญญาที่ให้ไว้กับดับเบิลดอร์หรอกและ”เซดริกหยุดพูดโดยจ้องมองไปยังพ่อของเขาที่กำลังหัวเราะอยู่อย่างแปลกใจ
     
            เอมอสหันมายังลูกชายเขาด้วยใจที่จดจ่อ เขาตบลงเบาๆที่แขนของเซดริกแล้วมองไปยังเด็กสาวจากบ้านกริฟฟินดอร์ที่ตอนนี้กำลังประคองคาร่าอยู่
     
            “มันไม่เป็นอะไรหรอกที่ลูกจะมีความรู้สึกให้กับมนุษย์” เอมอสกล่าวระหว่างที่เซดริกมองไปยังพ่อของเขาและเฮอร์ไมโอนี่ ความหวาดกลัวเกี่ยวกับความรักของเขาได้คืบคลานเข้ามาหาเขาทีละน้อยๆ
     
            “พ่อ”
     
            “ฟังนะเซดริก……. พ่อโชคดีที่ได้เจอแม่ของลูก เราเจอคนที่เหมือนกับเรา แต่สิ่งที่น่าเศร้าก็คือลูกของพวกเราคงจะไม่เป็นอย่างนั้น ดูเหมือนว่าเธอกันเอ็ดเวิร์ดจะได้รับภาระที่หนักที่สุด เพราะทั้งสองคนได้ตกหลุมรักกับมนุษย์ แม้ว่าคนหนึ่งจะเป็นมนุษย์ส่วนอีกคนเป็นแม่มดก็ตาม” เอมอสกล่าว โดยเชดริกไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่จ้องไปยังพื้นด้วยความครุ่นคิด
     
            “แต่มันก็….. ก็ไม่เป็นไรหรอกนะที่จะรักเธอ” เอมอสกล่าวระหว่างที่เซดริกเงยหน้าขึ้นจ้องมองพ่อเขา โดยไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับคำพูดของพ่อเขาดี เสียใจหรือดีใจกันแน่
     
            “แต่ถ้าผมทำร้ายเธอเข้าล่ะ”
     
            “ถ้าลูกทำ…… ก็เท่ากับลูกได้ทำร้ายหัวใจของลูกเอง” เอมอสกล่าวระหว่างที่เซดริกมองพ่อเขาด้วยสายตาที่มีคำถาม
     
            “เซดริกตอนที่พ่อและแม่ของลูกเปลี่ยนสภาพลูก เราได้ขอมากมายเพื่อให้ลูกละทิ้งสัญชาตญานที่จะมาพร้อมกับความกระหาย เราให้ชีวิตใหม่กับลูกแต่ยังคงสั่งให้สู้ในสิ่งที่ลูกควรทำ…… เรารู้ว่าลูกอายเมื่อเรากล่าวชื่นชมลูกในกิจกรรมโรงเรียน แต่เราไม่สามารถชื่นชมลูกในสิ่งที่เราอยากจะให้ทำจริงๆ พ่อกับแม่ใช้เวลาเป็นร้อยปีในการที่จะหยุดดื่มเลือดจากมนุษย์ ซึ่งลูกนั้นเรียนรู้ที่จะไม่ดื่มเลือดมนุษย์มาตั้งแต่ต้น ดังนั้นพ่อจึงรู้ว่าลูกไม่สามารถทำร้ายเธอได้หรอก” เอมอสกล่าวระหว่างที่เขาหันไปมองเฮอร์ไมโอนี่เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งเธอกำลังยิ้มให้กับบางสิ่งที่คุณนายวิสลีย์กล่าว
     
            “แม้ว่าจากข้อเท็จจริงลูกจะไม่มีอะไรในชีวิตของลูกที่จะเป็นปรกติอีกแล้ว” เอ
    มอสกล่าวระหว่างที่เซดริกมองดูเขาด้วยความประหลาดใจ
     
            “เชื่อในข้อเท็จจริงเถอะที่ว่ามนุษย์สามารถทำให้เราประหลาดใจได้ และสามารถพูดได้ เลยว่าเด็กสาวคนนั้นสามารถทำให้เราประหลาดใจมากที่สุด แม้ว่าพลังของลูกจะใช้กับเธอไม่ได้ แต่พ่อสามารถบอกได้เลยว่าเธอรักลูก” เอมอสกล่าวระหว่างที่เซดริกหัวเราะ โดยเขายังคงยิ้มอยู่เมื่อมองสบตากับเฮอร์ไมโอนี่
     
            “ผู้เข้าแข่งขันกรุณามายืนอยู่หน้าทางเข้าเขาวงกต คุณดิกกอรี่และพอตเตอร์ที่ได้ที่หนึ่งจากการแข่งขันครั้งที่แล้วสามารถเริ่มต้นได้ก่อน”ดับเบิลดอร์กล่าวเสียงดัง ทำให้เอมอสนั้นเดินเข้าไปอยู่กับพ่อมดเฒ่า ผู้ที่มองดูแฮร์รี่อย่างไม่ให้คลาดสายตา เซดริกกัดฟันขณะที่มองดูพ่อของเขา
     
            เซดริกก้าวเข้าไปข้างหน้าและยืนอยู่ข้างๆเฮอร์ไมโอนี่ โดยไม่สนใจสายตาของครัมที่มองเขาอย่างมุ่งร้าย ในขณะที่แฮร์รี่มีความกังวลอยู่เต็มใบหน้า
     
            “ไม่ต้องกังวลพอตเตอร์ฉันสัญญาที่จะดูแลเฮอร์ไมโอนี่เองถ้านายเป็นอะไรไป” เซดริกแกล้งพูดระหว่างที่แฮร์รี่หัวเราะก่อนที่จะมองไปที่คนอื่นๆ
     
            “เฮอร์ไมโอนี่บอกว่านายจะไม่พูดแบบนั้น” แฮร์รี่พูดเบาๆระหว่างที่เซดริกหัวเราะในลำคอ โดยที่ดวงตาสีเทาของเขายังคงสำรวจเขาวงกตตรงหน้าอยู่
     
            “เธอพูดอย่างนั้นจริงๆเหรอ” เซดริกถามระหว่างที่แฮร์รี่พยักหน้ายิ้มๆ เมื่อนึกถึง
    เฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งเซดริกไม่อยากที่จะมองเธอเพราะไม่ต้องการเห็นความกังวลบนใบหน้าเธออีก
     
            “ใช่ เธอแคร์นายนะ…. มากด้วย” แฮร์รี่กล่าว ระหว่างที่เซดริกนั้นมองไปที่แฮร์รี่และเห็นแฮร์รี่จ้องมองดูเขาวงกตที่อยู่ข้างหน้าเช่นกัน
     
            “มันรบกวนจิตใจนายเหรอ” เซดริกถามและมองไปที่เขาวงกตนั้นระหว่างที่ดับเบิลดอร์ยังคงพูดกับกลุ่มคนทั้งหลายอยู่แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้สนใจที่จะฟัง
     
            “ไม่หรอก….. อย่างน้อยก็ไม่มากเท่าที่มันควรจะเป็น” แฮร์รี่กล่าวโดยยังคงจ้องไปยังเซดริกระหว่างที่แวมไพร์กลืนน้ำลายแต่ก็ยังคนจ้องมองเขาอยู่
     
            “ทำไมล่ะพอตเตอร์” เซดริกกระซิบก่อนที่แฮร์รี่จะมองมาทางเขาแล้วยักไหล่
     
            “เฮอร์ไมโอนี่เชื่อใจนาย…… เธอเชื่อนายที่จะดูแลฉัน ดังนั้นฉันก็จะเชื่อนายด้วยเช่นกัน” แฮร์รี่กล่าวโดยหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาเพื่อเตรียมพร้อม ซึ่งทำให้เซดริกทำตามเช่นกัน
     
            “แต่”เซดริก อยากจะพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่เขาก็สะดุด เมื่อเขาได้ยินคำพูดก็ออกมาจากความคิดของแฮร์รี่  “ฉันคงไม่ต้องฆ่านายหากว่านายหักอกเธอหรอกนะ”
     
    เพราะความคิดของแฮร์รี่ ทำให้เซดริกปะทะกับสายตาของแฮร์รี่อย่างเด็ดเดี่ยว
     
            “เพราะถึงอย่างไรฉันก็รู้ว่านายไม่ทำร้ายเธอหรอก” แฮร์รี่กล่าวก่อนที่จะจ้องมองเซดริกโดยไม่มีอาการของความหวาดกลัวหรือความโกรธบนใบหน้าเขา
     
            “เสี้ยววินาทีหนึ่งฉันคิดว่าฉันสามารถทำร้ายนายได้ เพราะว่านายไม่เหมือนกับพวกเราใช่ไหม ? นายไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป” แฮร์รี่กึ่งพูดกึ่งถามซึ่งทำให้เซดริกพูดอะไรไม่ออก เมื่อเขาได้สแกนความคิดของแฮร์รี่อีกครั้งแล้วเขาก็มั่นใจว่าเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้บอกแฮร์รี่ถึงความลับของเขา ซึ่งทำให้เซดริกรู้สึกประทับใจในตัวแฮร์รี่มากขึ้น
           
    ก่อนที่เขาจะได้ตอบคำถามหรือตั้งคำถามไปยังแฮร์รี่ ทันใดนั้นก็มีเสียงนกหวีดดังขึ้นและประตูทางเข้าเขาวงกตก็เปิดออก
     
            “พอตเตอร์อยู่ใกล้ๆ ฉันไว้นะ” เซดริกสั่งโดยมองเข้าไปในเขาวงกตและรู้สึกได้ว่าแฮร์รี่นั้นพยักหน้าตอบก่อนที่พวกเขาจะก้าวเข้าไปในเขาวงกตและถูกดูดเข้าไปในความมืด
     
            ความมืดได้เข้าปกคลุมเซดริกเมื่อเขาพยายามมองหาแฮร์รี่ ซึ่งตอนนี้เขาวงกตได้แยกพวกเขาออกจากกันแล้วโดยสิ้นเชิง
     
            “พอตเตอร์” เซดริกเรียกก่อนที่จะหมุนไปรอบๆ เพื่อมองหาทางกลับไปหาแฮร์รี่ที่จุดเดิม  เซดริกมุ่งไปข้างหน้าเมื่อเขาได้ยินเสียงเชียร์ก่อนที่จะมีเสียงๆหนึ่งโผล่เข้ามาในหัวของเขาอีกครั้งหนึ่ง
     
            “นายท่านจะกลับมา….. และพอตเตอร์จะต้องตาย”
           
     
    TBC
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×