ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter FIC SUMMER (ฤดูร้อนฤดูรัก) เดรโก/เฮอร์ไมโอนี่

    ลำดับตอนที่ #12 : CHAPTER 12 จุดจบของการเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 53


    Summer of Definate Insanity12  จุดจบของการเริ่มต้น
     
    เป็นเวลาเกือบๆหนึ่งเดือนแล้วที่จินนี่ได้คุยกับเฮอร์ไมโอนี จินนี่พบว่าเฮอร์ไมโอนีตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ ถึงแม้ว่าเธอจะแสดงท่าทางว่าสบายดีต่อหน้าเพื่อนๆและทุกๆคนที่เธอพูดคุยด้วยก็ตาม แต่สำหรับจินนี่แล้ว เธอเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นความจริง ในตอนแรก จินนี่คิดว่าคงไม่มีอะไร อีกไม่กี่วันเฮอร์ไมโอนี่คนเดิมก็จะกลับมา ดังนั้นจินนี่จึงทำเป็นมองไม่เห็น แต่ตอนนี้เธอคิดว่าเธอต้องการให้เฮอร์ไมโอนีกลับมาเป็นคนเดิมโดยเร็วที่สุดเพราะว่าเฮอร์ไมโอนีเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ และ รอนรวมทั้งแฮร์รี่ด้วย

    และในวันหนึ่งหลังจากที่จินนี่อยู่ในห้องครุ่นคิดเรื่องของเฮอร์ไมโอนี่ตามลำพังอยู่นั้น แฮร์รี่และรอนก็เข้ามาหาเธอ

    “จินนี่พวกเรามีเรื่องอยากให้เธอช่วย” รอนเป็นคนเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่ทรุดตัวนั่งลงที่ขอบเตียงของจินนี่

    “มีเรื่องอะไรเหรอ” จินนี่ถามอย่างสงสัย

    “เรื่องของเฮอร์ไมโอนี่ เออ เธอรู้ไหม ว่าทำไมเฮอร์ไมโอนี่ถึงดูเศร้านัก” แฮร์รี่ถามจินนี่พลางมองเธออย่างครุ่นคิด

    “ฉัน เออ ...” จินนี่ออกอาการตะกุกตะกัก ความจริงเธอเองไม่เคยอยากโกหกแฮร์รี่ เพราะเธอรู้ว่าแฮร์รี่จะรู้ทันเธอเสมอยามที่เธอโกหกเขา เหมือนเช่นในตอนนี้

    “เธอรู้” แฮร์รี่หรี่ตามองเธอ และยิ้มให้เธออย่างมีบางอย่างแอบแฝงอยู่

    “เออ คือ” จินนี่พูดและหลบตาแฮร์รี่และรอน

    “ถ้าเธอรู้เรื่องนั้นระหว่างเฮอร์ไมโอนี่กับเดรโก มันก็ดีเราจะได้ไม่ต้องอธิบายให้เธอฟังอีก” รอนพูดเสียงเรียบในขณะที่จินนี่ทำตาพองใส่พวกเขาอย่างตกใจ

    “พวกพี่รู้งั้นเหรอ “
    แฮร์รี่และรอนพยักหน้าความจริงแฮร์รี่เองก็เพิ่งรู้เมื่อเร็วๆนี้จากรอนว่าเดรโกและเฮอร์ไมโอนี่มีความรักให้ต่อกันเพราะแฮร์รี่แอบเห็นว่าเฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้ในบางครั้งจนเขาเองไปปรับทุกข์กับรอนและในที่สุดรอนเองที่ทนเก็บเรื่องราวต่างๆของเฮอร์ไมโอนี่ไว้ไม่ได้ เขาเลยเล่าให้แฮร์รี่ฟังและพวกเขาก็ยังคงเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเองจนมาถึงวันนี้ที่พวกเขาทนเห็นเพื่อนรักของเขาทุกข์ใจอีกต่อไปไม่ได้แล้ว

    “ดังนั้นพวกเราจึงมานี่เพื่อให้เธอช่วยจินนี่”
    จินนี่พยักหน้าแต่ก็คงไม่เข้าใจพวกเขาอยู่ดี

    “เราจะช่วยพวกเขายังไงล่ะพี่รอนพี่แฮร์รี่”

    “พวกเราช่วยเขาไม่ได้หรอกจินนี่นอกจากพวกเขาต้องช่วยกันเอาเอง”แฮร์รี่พูดและหันมายิ้มให้กันและกันก่อนที่จะเล่าถึงแผนการให้จินนี่ฟัง

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@
     
    หลังจากวันนั้นอีกสองสามวันขณะที่จินนี่เดินไปที่ห้องของเฮอร์ไมโอนี่ เพื่อไปหาเธอ แต่จินนี่กลับพบเธอระหว่างทางเดินของระเบียง จินนี่ยิ้มร่าและเดินไปหาเธอ

    “เฮ้ ไมโอนี” จินนี่ทักทายเธอและเข้าไปกอด

    “เฮ้” เฮอร์ไมโอนี่กอดตอบและแปลกใจที่จินนี่ทำไมถึงดีใจที่เจอเธอทั้งๆที่พวกเขาเจอกันทุกวันอยู่แล้ว แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ทันได้คิดอะไร

    “เธอเป็นอย่างไรบ้าง?” จินนี่เอามือเธอออกมาจากกระเป๋ากางเกงและยื่นมือของเธอมาจับที่มือของเฮอร์ไมโอนี

    เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าแปลกใจ เมื่อเธอรู้สึกว่ามือของจินนี่เปียกชื้นระหว่างที่จับมือของเธอไว้แน่น และทำให้มือของเธอเย็น เธอมองไปที่จินนี่อย่างสงสัยและก่อนที่เธอจะทันได้รู้สึกตัวจินนี่ดึงเธอเข้ามาใกล้ และมืออีกข้างของจินนี่ก็ถือไม้กายสิทธิ์ของเธอจ่อมาที่เอวของเฮอร์ไมโอนี่และร่ายคาถาอย่างรวดเร็ว เฮอร์ไมโอนี่จ้องหน้าจินนี่ค้างและทันใดนั้นเธอก็หมุนตัวด้วยความเร็ว   เธอหลับตาลงอย่างมึนงงและคิดถึงอาหารกลางวันที่อยู่ในท้องเธอจนเธอรู้สึกผะอืดผะอมจนอยากอาเจียน แต่เมื่อ เธอรู้สึกว่าเท้าของเธอสัมผัสกับพื้น, เฮอร์ไมโอนี่เอียงทำท่าจะล้มแต่มีวงแขนแข็งแรงของใครบางคน มารับเธอไว้ เธอรีบทรงตัวของเธออย่างรวดเร็ว และลืมตาขึ้นเพื่อมองคนที่ช่วยเหลือเธอ
     
    ผู้ชายคนที่ช่วยเธอไว้ ผละห่างจากเธอเมื่อเธอทรงตัวได้และลืมตาขึ้น ผู้ชายคนนั้นยืนห่างจากเธอเพียงไม่กี่ฟุตทำให้เธอได้เห็นใบหน้าของเขาได้เต็มตา ผู้ชายผมสีบลอนส์ทอง ที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี ผู้ชายคนที่เธอหลับตาลงเมื่อใดมักจะเห็นแต่ใบหน้าของเขาลอยไปมาในความคิดของเธอทุกที เฮอร์ไมโอนี่ต้องการจะหลับตาลงและหนีไปไกลๆกับภาพแห่งความฝันนั้น
     
    ไม่ ! มันไม่ได้หายไปอย่างที่เธอคิด
     
    ชายหนุ่มผมสีบลอนด์ที่เจิดจ้าเหมือนกับแสดงแดดที่กำลังจะลับขอบฟ้า ยังอยู่ตรงนั้น ที่เดิมที่เขายืนอยู่ ทำไมเดรโก มัลฟอย ถึงอยู่ที่นี่ อยู่ตรงหน้าเธอ เฮอร์ไมโอนี่หยุดความคิดที่แสนประหลาดนี้และมองไปรอบๆตัวเธอ   พวกเขาอยู่ในห้องอาหาร ใช่แล้ว
     
    ห้องอาหารของกริมโมลด์เพลส มันเป็นสถานที่ที่เธอคุยเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับมัลฟอยเมื่อเธอกลับมาครั้งแรกให้เหล่าบรรดาภาคีรับรู้   และ เป็นสถานที่ ที่เธอต่อว่าลูปินที่พยายามให้เธอทำตามคำสั่งโดยการให้เธอไปพักร้อนร่วมกับเดรโกที่ชายหาด
     
    ไม่ ! จินนี่คงไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้หรอกน่ะ?
     
    จินนี่
     
    โอ, ฉันอยากที่จะฆ่าเธอจริงๆ.....เฮอร์ไมโอนีคิด
     
    เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหมือนมีคนมองมาที่เธอ และกำลังมองเธอในทุกๆการเคลื่อนไหว อะไรที่ทำให้เธออยากที่จะทำ? อะไรที่ทำให้เธออยากจะพูดกับเขา? เธอหายใจเข้าลึกๆ และหันกลับมาเพื่อสบตาของเขา
     
    ดวงตาสีเทาปะทะกับดวงตาสีน้ำตาลของเธออย่างเย็นชา
     
    เฮอร์ไมโอนีเขี่ยเท้าของเธอไป-มา เพื่อลดความกังวล, และตัดสินใจนิ่งเงียบเพื่อรอให้เดรโกเป็นคนพูดขึ้นมาก่อน แต่หลังจากที่ความเงียบอันน่าอึดอัดผ่านไปหลายนาที ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเดรโกจะเอ่ยคำพูดอะไรออกมานอกจากสายตาที่มองเธออยู่ตลอดเวลาเท่านั้น เฮอร์ไมโอนีรู้สึกถึงผีเสื้อที่บินวนเวียนภายในท้องของเธอไปมา เธอพยายามควบคุมสติของเธอ แต่ไม่สามารถทำได้ เธอพยายามอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ   โอ..ทำไมมันประหลาดอย่างนี้ เธอจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
     
    เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอย่างลำบาก เดรโกยังไม่ไปไหน เขายังยืนอยู่ตรงนั้นและมองมาที่เธอ
     
    เธอมองไปที่เขาอีกครั้ง “มัลฟอย” เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
     
    เขายังคงมองมาที่เธอโดยไม่มีคำพูดใดๆ เฮอร์ไมโอนีมองเข้าไปในในดวงตาของเขาและพยายามมองทะลุผ่านอารมณ์ที่เยือกเย็นราวน้ำแข็งของเขา แต่ก็ไม่สามารถที่จะอ่านมันออกได้
    “มัลฟอย, ฉันรู้ว่าเราอยู่ที่นี่เพราะเหตุผลบางอย่าง และเราไม่สามารถออกไปได้จนกว่าเวทมนต์จะ-”
     
    มัลฟอยมองมาที่เธอพร้อมกับพูดว่า “ฉันรู้”
     
    “งั๊นเรามาคุยกันดีมั๊ย!” เธอตัดสินใจพูดขึ้นมาจนได้ แต่สิ่งที่เธอได้คำตอบกลับมามันทำให้เธอตัวเย็นวาบด้วยความเสียใจ
     
    “ฉัน, ไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ”เสียงของเดรโกดูห่างเหินจนทำให้เธอช๊อคไปชั่วขนาด
     
    เฮอร์ไมโอนีไม่มีอะไรที่จะพูดอีก เธอไม่คาดหวังว่าเขาจะพูดดีๆกับเธอหรอกนะ เธอเตรียมใจไว้แล้ว แต่ทั้งๆที่เธอเตรียมใจกับคำพูดที่ไม่มีเยื่อใยของเขาแล้วก็ตาม แต่คำพูดนี้มันก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดได้เหมือนกัน เฮอร์ไมโอนี่เลิกที่จะแสร้งทำอีกต่อไปว่าเธอไม่ได้แคร์เดรโก เธอเกลียดการขอโทษก็จริงแต่ถ้ามันทำให้เธอได้มีโอกาสได้เขากลับมา เธอก็พร้อมที่จะคุกเข่าขอโทษเขา เธอรู้สึกเครียดที่ตั้งความหวังว่าเขาจะไม่โกรธเธอ ซึ่งเธอรุ้ดีว่ามันคงจะเป็นไปได้ยาก 
     
    “มัล-” เธอกลืนน้ำลาย “เดรโก ฉัน- ฉันขอโทษ กับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรา ตลอดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา” ทำไมเธอจึงพูดออกไปแบบนั้น? มันเหมือนกับว่าลิ้นของเธอได้ชาไปแล้ว
     
    เขามองมาที่เธอด้วยสายตาที่เชือดเฉือน นี่! เธอกำลังขอโทษเขา และเขากำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาที่เชือดเฉือนตอบกลับมา ใช่! เธอรู้ว่าเธอสมควรได้รับมัน
     
    “ก็สมควรแล้วนี่ นั่นน่ะ มันเป็นความผิดของเธอ” เสียงของเดรโกแข็งกระด้างส่งกลับมาที่เธอ
     
    เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้างรู้สึกสับสน นี่ เขาไม่ได้ขอโทษฉันกลับใช่ไหม?แถมยังโทษว่าเป็นความผิดของเธออีก เฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลายก้อนใหญ่ ก่อนจะพูดสำทับอีกครั้งทั้งๆที่เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย  
    “ขอโทษ เดรโก ฉันขอโทษ” เฮอร์ไมโอนี่พูดซ้ำไปซ้ำมาอย่างสับสน
     
    “เธอไม่ควรทำแบบนี้กับฉัน” เดรโกตะโกนขึ้นมาอย่างสุดเสียงเหมือนไม่สามารถคุมสติที่เย็นชาของเขาได้อีก
     
    เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้ง และอ้าปากค้าง ในขณะที่มองเดรโก “ฉัน- อะไร – ฉันไม่ได้!”
     
    “ใช่, เธอทำ”เขาตวาดมาที่เธอโดยไม่สนใจว่าเธอจะรู้สึกเจ็บปวดสักแค่ไหน
    เฮอรืไมโอนี่กำมือแน่นเธอรู้สึกเจ็บปวด แต่เธอก็ต้องทน มันสาสมแล้วกับสิ่งที่เธอปฎิเสธเขามาตั้งแต่ทีแรกแต่เธอก็อยากอธิบายให้เขาเข้าใจ
    “เดรโก, ฉันไม่แน่ใจว่านายจะเข้าใจฉันหรือเปล่าในสิ่งที่ฉันทำลงไป แต่......”
    เฮอร์ไมโอนี่ไม่ทันพูดอธิบายอะไรเพราะเดรโกเหมือนไม่พยายามที่จะฟังเธอสักเท่าไหร่

    “เธอกำลังดูถูกฉันอยู่น่ะ เกรนเจอร์” เขาพูดพร้อมชำเลืองมาที่เธอเหมือนต่อว่า
     
    “ไม่! ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันไม่คิดว่าเธอจะเข้าใจแน่ว่าทำไมฉันถึงทำอย่างนั้น”
    “ฉันยอมรับมัน เกรนเจอร์ เธอเล่นตลกกับฉัน เธอเป็นเพียงผู้หญิงคนเดียวที่ฉันพบและทำให้ฉันเจ็บปวด เป็นเพียงคนเดียวที่เล่นตลกกับฉันได้ และเธอรู้สึกภูมิใจในตัวเองใช่ไหม?”
     
    นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดหวังไว้ ความผิดหวังในน้ำเสียงของเขา และระบายออกมาด้วยความโกรธแค้นต่อทั้งหมดที่เขามี

    “เดรโก ได้โปรดฟังฉัน” เธอขอร้องและเดินมาจับแขนเขาไว้ในขณะที่เขาสะบัดตัวออกห่างจากเธอด้วยความรู้สึกที่สับสน

    “ทำไมฉันต้องฟังเธอ?” เขาถอยหลังจากเธอไปสองสามก้าวและพยายามมองไปที่อื่นที่ไม่ใช่ใบหน้าของเธอ

    “เพราะนายยังไม่เข้าใจ ฉันไม่ได้เล่นตลกกับนาย! ใช่! , ฉันไม่รู้ว่าฉันพยายามที่จะ ฉันพยายามที่จะ....”
    เสียงของเธอสั่นเครือตอนท้ายประโยค และหายไปในลำคอ
     
    เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ เธออยากที่จะอธิบายเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เธอเกลียดการทำแบบนี้ที่สุด
     
    เธอหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับอธิบายว่า “ในตอนแรกฉันกังวลมากที่รู้ว่าต้องไปใช้ชีวิตช่วงซัมเมอร์กับนาย   ฉันไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น....” เธอหยุด และไม่แน่ใจว่าจะเล่าต่ออย่างไรดี เธอเป็นนักพูดที่ดี, เป็นแม่มดที่เก่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เธอสามารถเรียนรู้ได้จากในตำรา แต่การพูดออกมาจากใจ และความรู้สึกนั้น เธอไม่เก่งมากนัก
     
    เธอตัดสินใจที่จะบอกมันออกมา เธอหลับตาลงและพูดว่า “ฉันไม่ได้เล่นตลกกับนาย”   เธอต้องากรที่จะมองเขา เพื่อดูปฏิกิริยาของเขา แต่เธอก็กลัวในสิ่งที่เธอจะได้เห็นความโกรธแค้นและไม่ให้อถัยของเขา
     
    “แล้วยังไงต่อ?”
     
    เขากำลังทรมานเธอ เธอรู้
     
    “ฉัน- ” เธอกลืนน้ำลายอีกครั้ง “ฉันเล่นตลกกับนาย” เธอเสี่ยงที่จะเปิดตามองเขา
     
    เขาหรี่ตามองเธอด้วยสายตาที่เคร่งเครียด ราวกับว่าพยายามที่จะค้นหาสิ่งที่เธอโกหกที่ซ่อนอยู่บนใบหน้าของเธอและคำพูดนั้น เดรโกกำลังจะเปิดปากพูด

    “ให้ฉันเป็นคนพูดก่อน” เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมาก่อนที่เขาจะพูดอะไรแทรกเข้ามา “ฉันไม่ได้เล่นตลกกับนาย ในสิ่งที่ฉันทำ ฉันพยายามที่จะปฏิเสธมัน เสแสร้งความรู้สึกว่าไม่ใช่ แต่สุดท้ายฉันก็ต้องยอมรับว่าฉันชอบนาย แต่นั่นไม่ได้เป็นปัญหา   ทั้งหมดมันซับซ้อน ถ้าหากฉันปล่อยตัวเองให้เข้าไปเกี่ยวพันกับนาย ฉันรู้, ฉันรู้ว่า ฉันไม่ควรแคร์ว่าคนอื่นๆจะคิดอย่างไร, ฉันไม่ควรแคร์ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในสิ่งที่ฉันทำ แต่ฉันไม่สามารถทำได้, ฉันไม่สามารถทำได้....มัน...มันเป็นหนทางที่ฉันต้องเดิน   อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนนั้น ตอนที่นายพยายามจะจูบฉัน....ฉันกลัวว่าฉันจะถูกทอดทิ้งฉันจึงติดสินใจที่จะไม่สานต่อเรื่องระหว่างเรา อย่างที่ฉันพูดว่าเรื่องราวมันซับซ้อน ดังนั้นฉันจึงเดินหนีไป ฉันขอโทษ จริงๆแล้วฉันยอมรับว่าตอนที่ฉันหันหลังกลับฉันไม่คิดถึงความรู้สึกของนายเลย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฉันขอโทษ    ฉันไม่คิดว่านายจะแคร์ความรู้สึกของฉันมาก   ฉันอยากจะคุยกับนายในวันรุ่งขึ้นแต่..... อย่างที่นายรู้ว่าเราได้รับข่าวสำคัญจากแฮร์รี่และฉันก็ไม่มีโอกาสที่จะทำ มันไม่เหมือนกับนายที่กระตือรือร้น เพื่อที่จะคุยกับฉัน ฉันหมายถึง เมื่อฉันกลับมาฉันพยายามที่จะลืมนาย ฉันพยายามที่จะลืมนาย แต่ฉันทำไม่ได้ ฉันเพิ่งรู้วาฉันไม่สามารถทำได้......” เธอหายใจเข้า และมองไปที่เขา
     
    เดรโกมองเธอ และยังคงมองหาสิ่งที่เธอโกหก ในที่สุดเขาก็พูดขึ้นมาว่า “อะไรที่ทำให้เธอต้องการพูดกับฉัน? เพื่อให้ฉันขอโทษเธองั๊นหรอ? เพื่อให้ฉันยินดีที่เธอกลับมาด้วยการอ้าแขนรับ? อะไรที่เธอต้องการให้ฉันทำกันแน่ เกรนเจอร์?”
     
    เฮอร์ไมโอนีกระพริบตา “ฉัน---”
     
    “ไม่ เธอควรจะพูดในสิ่งที่เธอต้องการพูด ฉันรอฟังเธออยู่”เดรโกพูดพร้อมกับเดินตรงมาใกล้ๆเธอ
     
    “ฉันก็กำลังจะตอบคำถามนายอยู่นี่ไง !”
     
    “ฟังน่ะ, เธอทำให้ฉันเจ็บปวด ฉันต้องเจ็บปวดในสิ่งที่ไม่คาดคิด มีชีวิตอยู่ในแบบที่ฉันไม่เคยเป็นมาก่อน เธอทำให้ฉันเสียความรู้สึก” เดรโกหยุดไปชั่วครู่ เขาไม่แน่ใจว่าจะพูดอย่างไรต่อไปดี เขาเป็นคนที่อธิบายความรู้สึกไม่เก่งมากนักเพราะมันทำให้เขารู้สึกอึดอัด และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นจะเข้ามารับรู้ถึงความรู้สึกข้างในของเขา เขาถอนหายใจและเอามือลูบหน้าตัวเอง มันอาจจะดีกว่าถ้าเฮอร์ไมโอนีไม่เห็นหน้าของเขา ดังนั้นเขาจึงหันหน้าหนีไปทางอื่น
     
    เขาคิดชั่วครู่หนึ่งว่าเขาจะพูดอย่างไรดี เพื่อให้แน่ใจว่ามันเป็นสิ่งที่เขาต้องการพูดจริงๆ เขาตัดสินใจที่จะบอกมันออกมาจากปากของเขา    “ฉัน- ฉันตกหลุมรักเธอ ฉันก็หมือนกัน ฉันพยายามที่จะปฏิเสธความรู้สึกนี้ ที่มีต่อเธอ” เขาหยุด และก็ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมา เขาหันกลับมาและมองไปที่ตาเธอ “นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด และก็จบแล้ว” เขาจบแบบดื้อๆ
     
    เฮอร์ไมโอนีกระพริบตาสองสามครั้งก่อนที่น้ำตาของเธอจะไหลลงมาอาบแก้ม เธอหายใจเข้าเพื่อควบคุมอารมณ์ “เป็นไปไม่ได้” เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน
     
    “ถ้ามันเป็นไปแล้ว?”เสียงของเดรโกแผ่วเบาลั่นเครือ
     
    “เป็นไปไม่ได้ที่จะจบเพียงแค่นี้? มันยังมีอะไรมากกว่านี้ เดรโก”เฮอร์ไมโอนี่มองตาของเขาที่ฉายความสับสนมาที่เธอ เขาส่ายหน้าแล้วถอนหายใจเสียงดัง

    “อะไรที่มากกว่านี้? ไม่มีอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว!”
     
    “อะไร....ฉันเองก็ตกหลุมรักนายเหมือนกัน” เสียงของเธอแผ่วเบา
     
    เดรโกเลิกคิ้วขึ้นสูงและส่ายหัวไป-มาเหมือนไม่เชื่อในคำพูดของเธอ เฮอร์ไมโอนี่สะอึกสะอื้น
    เธอรู้สึกเหนื่อยล้าและรู้สึกลำคอเริ่มตีบตันจนพูดอะไรแทบไม่ออก

    “ไม่ อย่าส่ายหัวไป-มากับฉัน! พูดอะไรบ้างซิ!”
     
    “เธอต้องการให้ฉันพูดอะไร? ให้ฉันเชื่อเธองั๊นหรอ? เราควรที่จะลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้แล้ว”เดรโกตัดสินใจพูดแล้วหันหลังให้เธออย่างอ่อนแรง
     
    “อะไรที่จะทำให้นายเชื่อฉัน?”เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างหมดหวัง
     
    เขาหัวเราะเสียงดังเหมือนคนบ้าและหันมาหาเธออีกครั้งก่อนที่จะพูดวาจาที่เชือดเฉือนใส่เธอ “ฉันไม่ได้เชื่อคนง่ายๆ เฮอร์ไมโอนี เธอเป็นคนหนึ่งที่ฉันเคยเชื่อ แต่เธอก็มาทำลายความเชื่อถือที่ฉันมีให้”
     
    เฮอร์ไมโอนีอ้าปากจะตอบแต่ก็ไม่มีเสียงใดๆลอดออกมา เธอหุบปากลงและมองไปที่เดรโกด้วยสายตาอ้อนวอน แต่เดรโกยังคงหลับตาลงเหมือนไม่อยากเห็นเธออีก
     
    “ฉันตกหลุมรักนาย, นั่นคือความจริงเดรโก ”
     
    เธอไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไปแล้ว น้ำตาเธอไหลอาบแก้ม นี่มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอคาดไว้ ใช่ , เมื่อไม่กี่เดือนก่อนมันควรที่จะเป็นอย่างที่เธอคิด   เธอโกรธตัวเองพร้อมกับน้ำตามี่ไหลอาบแก้ม เธอจะเลิกง่ายๆยังนี้หรอ? เขาก็ควรที่จะเลิกง่ายๆเช่นกัน เหตุผลนี่ไม่สามารถที่จะทำให้เธอหยุดคิดเรื่องของเขาได้เพราะว่าเธอรู้สึกผิดในสิ่งที่เธอได้ทำลงไป ซึ่งเป็นความเจ็บปวดที่เธอเห็นจากเขาในคืนนั้น และวันนี้เธอก็สมควรแล้วที่จะได้รับมันกลับคืนมาเช่นกัน
     
    เดรโกไม่แคร์ว่าเธอจะรู้สึกอย่างไรมาก่อนแต่เฮอร์ไมโอนีไม่เหมือนเขา เธอแคร์คนอื่น เธอไม่อยากทำให้คนอื่นเจ็บปวดโดยไม่จำเป็น 
     
    เธอเห็นสายตาที่เจ็บปวดของเขา มันเป็นสิ่งเดียวที่เธอคิดมาตลอด แต่ตอนนี้เขาไม่ได้คิดถึงมันแล้ว ดูเขาสบายดี มันไม่จำเป็นที่เธอจะต้องรู้สึกผิดอีกต่อไปแล้ว ไม่มีเหตุผลใดๆอีกแล้ว เธอก็ควรที่จะเลิกคิดเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขาได้แล้ว เธอไม่ควรคิดอะไรกับเขาอีกแล้ว
     
    ไช่...ลืมความรู้สึกผิดนี่ไปซะ ไม่มีอะไรที่จะต้องทำอีกต่อไปแล้ว   มันเป็นเรื่องเล็กน้อย เหตุผลที่เธอยังคงทำอยู่คืออะไร? เพราะว่าเธอรักผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาจริงๆ นี่เป็นความจริงที่ออกจากปากของเธอ แต่เขาไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด และเธอก็ต้องการที่จะพิสูจน์ให้เขารับรู้ และมันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะทำ แต่เขาจะเชื่อเธอหรือเปล่าเธอเองก็ไม่รู้แต่เธออยากพิสูจน์ให้เขารับรู้เท่านั้น
     
    เฮอร์ไมโอนีตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายเธอเดินมายืนอยู่ตรงหน้าเดรโก เดรโกมองไปที่เธออย่างเคร่งขรึม เขายังจำได้อย่างชัดเจนตอนที่เธอเดินมาที่เขา ตอนนั้นเขาอยู่ปี 3 เธอได้ชกเขาเข้าที่ตรงจมูก และตอนนี้เธอก็ช่างเหมือนภาพตอนนั้นจริงๆ
     
    เฮอร์ไมโอนีใช้มือ.......ดึงหัวของเดรโกลงมาจนกระทั่งปากของเขาประกบกับปากของเธอ เธอยืนเขย่งปลายเท้า เธอจูบเขาเบาๆ พยายามที่จะแสดงให้เขาเห็นว่าเธอรักเขามากแค่ไหน   ริมฝีปากของเดรโกตอบสนองเธออย่างช้าๆและเริ่มเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆเขาบดขยี้ริมฝีปากของเขาเข้ากับเธอเหมือนกระหายมาเป็นเวลานาน แขนของเขาที่ทิ้งไว้ข้างๆตัวเริ่มโอบรัดอยู่ที่เอวของเธอ ส่วนแขนของเธอโอบรอบคอของเขาขณะที่มือของเธอก็สอดไปที่ผมของเขา แขนของเขากอดรัดเธอแน่นยิ่งขึ้นเพื่อให้เข้ามาหาเขา เขาอุ้มเธอขึ้นมาจากพื้นและพาเธอไปที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับวางเธอลงโดยที่ยังไม่หยุดการจูบ ที่เร่าร้อนนั้น
     
    พวกเขาหยุดจูบเมื่อรู้สึกได้ถึงอากาศหายใจที่ลดน้อยลงไปทุกที และพวกเขาต้องการให้ปอดได้รับอากาศเพื่อหายใจต่อ   เดรโกมองไปที่นัยตาของเธอ
     
    “ยังคงไม่เชื่อฉันอีกหรอ?” เฮอร์ไมโอนีถามพร้อมกับมองเขาอย่างไม่แน่ใจว่าเขาจะเชื่อเธอหรือไม่
     
    เดรโกมองเธอด้วยแววตาเป็นประกายเขาส่ายหน้าช้าๆพร้อมกับพูดว่า
    “ไม่, ฉันไม่คิดว่าฉันเชื่อเธอ ” 

    เขาเริ่มจูบเธออีกครั้งและกระซิบที่ข้างหูเธอ 
    “ฉันคิดว่าฉันต้องพิสูจน์ตัวของเธอมากกว่านี้” 

    เฮอร์ไมโอนีตัวสั่นเทิ้มและยิ้มอย่างดีใจ เธอจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความรักของเธอที่มีต่อเขา ลำตัวของพวกเขาแนบชิดกันมากกว่าเดิมเดรโกใช้ตัวของเขาดันตัวเฮอร์ไมโอนี่นอนราบไปบนโต๊ะ...............................
    และทุกอย่างก็อบอวลไปด้วยความรักความเข้าใจ โดยที่เดรโกเป็นผู้พิสูจน์ความรักครั้งนี้ด้วยตัวของเขาเองอย่างช้าๆ

    “ฉันรักเธอ เฮอร์ไมโอนี่”
    “ฉันเองก็รักเธอ เดรโก “
    เสียงกระซิบแผ่วเบาของกันและกันล่องลอยไปในอากาศและจางหายไปมีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่สอดประสานกันอย่างช้าๆและเนิ่นนาน

    ใครจะคิดว่าซัมเมอร์นี้จะทำให้เกิดความรักเบ่งบานขึ้นมา? ความรักที่แสดงให้เห็นว่าอย่างน้อยคุณก็คาดหวังกับมัน
     
                                 ””””””END”””
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×