ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry potter I never regretted that she lovers (เดร/เฮอร์)

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 11: ฝืนใจ(ปรองดอง)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.35K
      12
      4 ต.ค. 54

    Chapter 11: ฝืนใจ(ปรองดอง)

    เฮอร์ไมโอนี่กระพริบตาของเธอหลายครั้งก่อนตั้งสติไล่ความมึนงงออกไป แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ รอดผ่านใบไม้แยงตาเธอเล็กน้อย เฮอร์ไมโอนี่ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะหายงง

    เธอลุกขึ้นนั่งและพยายามมองว่าเธออยู่ที่ไหน เธอกวาดสายตาของเธอไปรอบๆโดยเร็ว และเธอก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นร่างหนึ่งที่คุ้นตา นอนหงายไม่ห่างไกลไปจากเธอมากนัก เฮอร์ไมโอนี่คลานเข้าไปใกล้ๆเขา และพิจารณาชั่วครู่ ถึงแม้ว่าใบหน้าของเขาจะดูมอมแมมไปบ้างทรงผมจะดูยุ่งๆไปนิดแต่เธอจำเขาได้ดีทีเดียว ศัตรูตลอดกาลของเธอ เดรโก มัลฟอย นอนร่างไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้นเธอผงะหงายหลังออกไปนิดหนึ่ง แต่สามัญสำนึกที่ดีทำให้เธอจับตามองเขา เพื่อความมั่นใจว่า เขายังไม่ตาย  นัยน์ตาของเดรโกปิดสนิทแขนทั้งสองของเขาวางบนหน้าอกอย่างสงบ ถ้าไม่เป็นเพราะหัวใจที่กระเพื่อมน้อยๆตามลมหายใจของเขา เธออาจจะคิดว่าเขาตายไปเสียแล้ว  

    “มัลฟอย” เธอเรียกเขาเบาๆ เดรโกยังคงนิ่ง ร่างกายไม่กระดุกกระดิกเลยสักนิด

    “นายบาดเจ็บหรือเปล่า”เงียบไม่มีเสียงตอบรับจากศัตรูของเธออีกตามเคย

    “ขยับตัวสิ บ้าจริง ทำอะไรก็ได้มัลฟอย ส่งสัญญาณหน่อย ได้โปรด” เดรโกยังคงไม่มีปฎิกิริยาใดๆในการตอบโต้กับเธอเลยแม้แต่น้อย  เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากอย่างครุ่นคิดก่อนตัดสินใจบางอย่าง

    “ตื่นสิ”เธอพูดและตบแก้มเขาฉาดใหญ่ เฮอร์ไมโอนี่ไม่คิดที่จะตั้งใจทำร้ายเขา แต่เธอคิดว่าวิธีนี้อาจจะทำให้เขาตื่นขึ้นมาก็ได้ แต่เธอคิดผิดทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม

    เฮอร์ไมโอนี่เริ่มใจเสีย เธอกวาดสายตามองไปทั่วป่า เธอควรจะทิ้งเขาไว้ที่นี่ อีกไม่นานสัตว์ป่าก็คงจะได้กลิ่นของเขาและมาลากเขาไปขย้ำเอง แต่ เขายังไม่ตายนี่ ! เธอจะทิ้งเขาไว้ที่นี่ไม่ได้ ถึงแม้เขาจะเป็นคนไม่ดีในสายตาของเธอแต่เขาก็สมควรได้รับโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่เท่าเทียมกับเธอ  เฮอร์ไมโอนี่ร่ำร้องอยู่ภายในใจ เธอกวาดสายตามองไปรอบๆอีกครั้งอย่างพิจารณา พวกเธอนอนสลบอยู่กลางป่าในสถานที่โล่งแจ้ง ซึ่งไม่เป็นการดีเลยกับการหลบหลีกสัตว์ร้ายที่น่ากลัวเฮอร์ไมโอนี่ล้วงเข้าไปในเสื้อคลุมและความหาไม้วิเศษของเธอ เมอลินร์ มันว่างเปล่า เฮอร์ไมโอนี่ใจหายวูบ เธอรีบกวาดสายตาไปตามพื้น และหวังไว้ในใจลึกๆว่ามันคงจะหล่นอยู่แถวๆนั้น เฮอร์ไมโอนี่เริ่มมองหาในพื้นที่ที่กว้างขึ้น แต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะได้รับชัยชนะในการค้นหาในครั้งนี้เลย เธอถูกดึงเข้ามายังสถานที่ๆไม่รู้จัก เธอเข้ามาอยู่กับศัตรูอันดับหนึ่งของเธอ และที่แย่ไปกว่านั้น เธอไม่มีไม้คฑาของเธอเองอีก เธออาจจะทำตกไปตอนที่วิ่งหนีมัลฟอย หรือไม่ก็ทำตกตอนที่ชุลมุนกันอยู่ในห้องโถงใหญ่ ก่อนที่พวกเธอจะถูกดูดเขามาที่นี่

     เฮอร์ไมโอนี่ก้มลงมองดูร่างของเดรโกอีกครั้งเธอถอนหายใจเมื่อมองร่างที่ใหญ่โตของเขาเธอไม่มีแรงพอที่จะลากเขาไปหลบที่พุ่มไม้ใดพุ่มไม้หนึ่งได้ เพื่อให้หลบพ้นสายตาของสัตว์ป่า เพียงแค่มีไม้วิเศษมันคงจะง่ายกว่านี้เยอะเลย ซึ่งตอนนี้เธอไม่มี

    แต่ !เดี๋ยวก่อน

    เธออาจจะไม่มีไม้วิเศษ แต่ มัลฟอยอาจจะมีมัน บางทีมันอาจจะเก็บไว้ที่ใดที่หนึ่งในเสื้อคลุมนั้น เฮอร์ไมโอนี่หอบหายใจแรงๆก่อนที่เธอจะตัดสินใจลองค้นดูไม้วิเศษในเสื้อคลุมของเขา เฮอร์ไมโอนี่เขยิบเข้าไปใกล้เดรโกและเริ่มค้นหาตามตัวของเขา ในขณะที่เธอเลิกเสื้อคลุมของเขา เพื่อดูว่าไม้คฑาจะอยู่ที่กระเป๋ากางเกงของเขาหรือเปล่านั้น

    แทบจะในทันที แขนแข็งแรงของเดรโกตวัดรอบเอวของเธอและกระชากตัวเธอล้มลงบนตัวเขาก่อนที่เธอจะตั้งตัวได้ทันเรือนร่างโปร่งบางของเฮอร์ไมโอนี่แนบกับร่างของเขาอย่างชิดใกล้เสียแล้ว หน้าอกอิ่มของเฮอร์ไมโอนี่สะท้อนขึ้นลงอย่างแรงตามภาวะตื่นตกใจของเธอ ซึ่งมันสัมผัสกับหน้าอกของเขา จนเขารู้สึกได้ และที่สำคัญกลิ่นผิวกายเฉพาะของเธอ ที่ทำให้เขาตระหนักถึงว่าเป็นเธอ เฮอร์ไมโอนี่  เกรนเจอร์ ศัตรูของเขา

    เดรโกพลิกตัวของเธอกักตัวเธอให้อยู่ภายใต้ร่างของเขา และสิ่งนี้มันทำให้เฮอร์ไมโอนี่ตกใจจนแทบจะทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ ก่อนที่เธอจะรวบรวมสติและรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เธอดิ้นรน และพยายามดันไหล่ของเขาออก แต่ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย

    “ออกไปจากตัวฉันนะ มัลฟอย” เธอพูดเกือบจะตะโกนใส่หน้าของเขา

    “เมื่อกี้เธอทำอะไรฉันเกรนเจอร์”เดรโกหน้าบึ้งปากของเขาเม้มสนิทอย่างดุดันสายตามีแววเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายในขณะที่มองเด็กสาวใต้ร่างของเขา

    “ฉ ฉ ฉันไม่ได้ทำอะไรนาย... ปล่อยฉัน”เฮอร์ไมโอนี่หอบหายใจอย่างลำบากเมื่อรู้สึกได้ถึงน้ำหนักตัวใหญ่โตของเขาที่ทิ้งทับเธออยู่ด้านบน

    “โกหก เธอตบหน้าฉันเกรนเจอร์ แล้วยังจะหาไม้คฑาเพื่อมาทำร้ายฉันอีก ”เขาพูดรอดไรฟันอย่างดุดัน

    ”เธอรู้ไหมคนที่ทำร้ายพวกเรามัลฟอยสมควรได้รับบทเรียนแบบไหน”เขาพูดพร้อมรอยยิ้มเยาะ ที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกกลัว

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    ประตูห้องของสำนักงานใหญ่ถูกเหวี่ยงเปิดออก ร่างสูงปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตุ มัลกอลนากัลป์เหลือบตาขึ้นมอง เธอคาดว่าอาจจะได้พบกับศาสตราจารย์คนใดคนหนึ่งที่เธอพอจะคุยด้วยได้ในตอนนี้ แต่เมื่อเธอได้พบกับดวงตาสีน้ำเงินเข้มลึกที่จับจ้องเธอ มันกลับกลายเป็นของคนเพียงคนเดียวที่เธอคุ้นเคย และนั่นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้มัลกอลนากัลรู้สึกดีใจเป็นครั้งแรกในวันนั้น

    โอ้ว อัลบัสศาสตราจารย์มัลกอลนากัลป์เรียกชื่ออาจารย์ใหญ่ด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับลมหายใจถี่กระชั้นที่เต็มไปด้วยความดีใจเป็นที่สุด

    มินอว่าเขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและสาวท้าวเข้ามายังด้านใน

    ดีใจที่เห็นคุณกลับมา ฉันสับสนไปหมดไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดีกับสถานการณ์แบบนี้

    ภาพความวุ่นวายของฮอกวอตส์วาบเข้ามาในสมองของเธอ ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง แต่เธอก็สลัดความวิตกนี้ออกไปก่อนที่ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์จะสังเกตุเห็น

    ผมรู้มันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเราทุกคน พวกนักเรียนของเราเป็นยังไงกันบ้างดัมเบิลดอร์ถามพร้อมกับนั่งเก้าอี้ประจำที่นั่งของตน

    ส่วนใหญ่จะยังคงตกใจกันอยู่ ฉันให้ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่หอนอนของแต่ละบ้าน ห้ามทุกคนเข้ามาใกล้บริเวณห้องโถงใหญ่ ส่วนเรื่องอาหารจะเป็นหน้าที่ของพวกเอลฟ์ที่จะคอยบริการพวกเขาเองในแต่ละบ้าน ส่วนบริเวณห้องโถงใหญ่ทั้งหมดเราปิดใช้ชั่วคราว เพราะฉันไม่อยากเห็นนักเรียนของเราเกิดปัญหาขึ้นมาอีก

    ดัมเบิลดอร์พยักหน้าด้วยความพึงพอใจคุณทำได้ดีมากมินอว่า”เขาพูดขึ้นอย่างช้าๆ ” คราวนี้คุณคงสามารถเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ผมฟังได้แล้ว ก่อนที่คนจากกระทรวงจะมาตรวจสอบที่นี่”

    ความตึงเครียดในน้ำเสียงของเขามันเพิ่มความกังวลให้กับมัลกอลนากัลป์มากยิ่งขึ้น ความหวาดกลัวเกาะกุมหัวใจเธออีกครั้ง มันเกาะกุมอย่างหนักหน่วงจนแทบจะดึงเอาอากาศของเธอออกไปจากร่างจนหมด

    คุณหมายความว่า กระทรวงรู้เรื่องนี้แล้วอย่างงั้นเหรอ

    ดัมเบิลดอร์พยักหน้าอย่างช้าๆ ดวงตาของมัลกอลนากัลป์จับที่เขานิ่ง ริมฝีปากของเธออ้าปากค้างด้วยความตกใจ

    “กระทรวงรู้เรื่องนี้แทบจะในทันทีที่ผมรู้  ผมคาดเดาว่าอย่างเร็วสุดน่าจะเป็นพรุ่งนี้ที่ตัวแทนของกระทรวงจะเข้ามาตรวจสอบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่”

    โอ้ว อัลบัส คนพวกนั้นต้องหาเรื่องปิดโรงเรียนของเรา”เธอหอบหายใจและพ่นลมหายใจด้วยความรู้สึกเหนื่อยอ่อนมัลกอลนากัลทรุดนั่งที่เก้าอี้ข้างตัวอย่างหมดแรง

    อย่าเพิ่งวิตกไปมินอว่า คุณควรจะเล่าเรื่องให้ผมฟังดีกว่าในตอนนี้เขากล่าวออกมาอย่างช้าๆราวกับว่ามันเป็นเหตุการณ์ปกติ

    มันจะดีกว่าถ้าคุณจะเห็นด้วยตาของตัวคุณเอง ดังนั้นฉันจึงดึง แพนซิพจากแฮร์รี่เอามาไว้ที่นี่แล้ว

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    “ไม่ ...ฉัน”เฮอร์ไมโอนี่พยายามที่จะพูดอธิบาย แต่ทว่าเดรโกไม่ได้ให้โอกาสกับเธอริมฝีปากของเขาปิดประกบปากอวบอิ่มของเธออย่างถนัดถนี่ เขาตั้งใจจูบเพื่อสกัดกั้นคำพูดโกหกของเธอไว้ แต่รสชาติของเธอมันกลับร้อนวาบไปทั่วตัวเขา เร่าร้อนและเย้ายวนใจ

    เฮอร์ไมโอนี่ตัวแข็งกับการระเบิดอารมณ์ของเขา เธอโทษตัวเธอ เธอน่าจะปล่อยเขาให้ตาย ทิ้งเขาไว้ที่นี่ แต่เธอกลับพยายามที่จะช่วยเขา แต่เขากลับคิดว่าเธอกำลังจะทำร้ายเขา เฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่นภายใต้ร่างของเขาด้วยความโกรธ และความอายผสมปนเปกัน 

    เดรโกยังคงจูบเธอลึกล้ำมากยิ่งขึ้น เรียกร้องเพื่อให้เธอโอนอ่อนเขา ในขณะที่สมองของเฮอร์ไมโอนี่กำลังเตลิดเธอครางเสียงแผ่วเบาและการตอบสนองของเธอมันทำให้เขาแทบลืมหายใจเขาปล่อยตัวไปเพื่อคื่มค่ำกับรสชาติของเธอมากยิ่งขึ้น

    เฮอร์ไมโอนี่มึนงงกับสติของเธอ เธอเผยอริมฝีปากเชื้อเชิญเขา และเขาก็สนองตอบ ริมฝีปากของเขาเข้าไปสำรวจในโพรงปากของเธออย่างเต็มใจ

    พระเจ้า อะไรที่ทำให้เธอสนองตอบกับจูบที่เร่าร้อนรุนแรงของเดรโก เฮอร์ไมโอนี่พยายามบังคับความคิดเกี่ยวกับเดรโกให้หลุดออกไปจากจิตใจของเธอ โดยอ้างเหตุผลว่าเพราะความเหนื่อยล้าของเธอ เหนื่อยล้าที่จะต้องต่อสู้กับเขาและต่อต้านเขา อีกทั้งประสบการณ์ที่อ่อนด้อยของเธอในเรื่องเพศตรงข้ามก็มีส่วนที่ทำให้อารมณ์เหล่านั้นเข้าครอบงำเธอ จนเธอลืมเวลา สถานที่และอันตรายต่างๆที่อยู่รอบตัว

    และลืมไปว่าผู้ชายที่กำลังกอดจูบเธอยู่ในตอนนี้คือศัตรูของเธอ เสียงครางเบาๆอย่างพอใจของเดรโกมันทำให้เธอรู้สึกตัว เฮอร์ไมโอนี่เบี่ยงใบหน้าของเธอจนหลุดออกจากริมฝีปากของเขา และพยายามต่อสู้ดิ้นรนขัดขืนอีกครั้ง

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    มันหนาวน่าดูเมื่อตอนที่แฮร์รี่เดินลงมาจากหอนอน เขาคว้าเสื้อคลุมออกมาสวม และเดินลงมาที่ห้องนั่งเล่นรวมของบ้าน รอนยังคงคุยติดพันอยู่กับเซมัสและเนวิลล์ รวมทั้งเพื่อนบ้านอีกสองสามคน เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทุกคนรู้สึกวิตกกังวลแต่สำหรับแฮร์รี่เขารู้สึกมากกว่า ในตอนนี้เขาไม่อยากพูดคุยกับใครแม้กระทั่งรอน เขาเพ่งมองเปลวไฟที่คุกกรุ่นอยู่เบื้องหน้า ราวกับว่าจะมีใครเดินออกมา ใช่ เขาปรารถนาให้เฮอร์ไมโอนี่เดินออกมา และโผข้าสู่อ้อมกอดของเขาเหมือนทุกๆครั้งที่พ้นจากอันตราย  แต่คราวนี้ไม่! เธอไปแล้ว เธอหายวับไปกับสายตาของเขา เหมือนกับชีวิตส่วนหนึ่งของเขาขาดหายไป เขาเพิ่งจะรู้แจ้งในตอนนี้ว่าเฮอร์ไมโอนี่สำคัญกับชีวิตของเขาขนาดไหน

    ทุรนทุราย ทุกข์ร้อนยามที่ไม่มีเธอ น่าแปลกเขาควรจะรู้สึกแบบนี้กับจินนี่ ยามที่เขาห่างจากเธอ แต่มันไม่ใช่เลย มันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกแบบเด็กหนุ่มทั่วๆไป มึนงง สับสน แต่ไม่ใช่ทุกข์ทรมานแบบนี้

    เมอลินร์เขาควรจะทำยังไงดี! เขาจะต้องหาทางเอาตัวเธอกลับมา แต่ทางไหนล่ะ เขาไม่รู้ แฮร์รี่ไม่ใช่คนที่ฉลาดพอในเรื่องทฤษฎีมากนัก ถ้าสลับกันเป็นให้เขาถูกดูดเข้าไปยังหลุมดำนั่น และให้เฮอร์ไมโอนี่อยู่ที่นี่ เขากล้าพนันได้หมดในกริงกอตส์ ว่าเฮอร์ไมโอนี่คงจะนำเขากลับมาได้อย่างปลอดภัยอย่างแน่นอน

    อยู่ ๆภาพของมัลฟอยวาบเข้ามาในใจของแฮร์รี่ ทำให้เขานิ่วหน้าอย่างขัดใจ ไม่ดีเลย  เฮอร์ไมโอนี่ถูกดึงเข้าไปกับมัลฟอย เขาไม่รู้ว่าไอ้ชาติชั่วนั่นมันจะทำเรื่องเลวร้ายอะไรกับเธอบ้างหรือเปล่า แต่แฮร์รี่ก็เชื่อมั่นว่า เฮอร์ไมโอนี่เข้มแข็งพอที่จะตอบโต้มัลฟอยถ้าเขาคิดจะทำอะไรกับเธอ แต่ถ้าไม่ใช่อย่างที่เขาคิดล่ะ  ยังไงเสียเฮอร์ไมโอนี่ก็คือผู้หญิง  มันคงไม่ดีแน่ แฮร์รี่พยายามสลัดความคิดนั้นออกไปจากหัวสมองของเขา

    ในขณะที่เขาขยับกระชับเสื้อคลุมตัวหนา เขาได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคน ลงบันไดจากหอนอนตรงมาทางเขา

    ให้ตายสิ !  ทำไมถึงไม่ปล่อยให้เขาอยู่เพียงลำพังบ้างนะ เขาคิดพร้อมสบถเบาๆ คิ้วของแฮร์รี่ขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจ นัยน์ตาวาวโรจน์ด้วยแรงอารมณ์ ในขณะที่เขาเสยผมสีดำยุ่งๆที่ชื้นจากความร้อนของเปลวไฟแบบลวกๆ

    แฮร์รี่ฉันรู้ว่านายกังวลเรื่องเฮอร์ไมโอนี่ แต่ ฉันเชื่อว่าเฮอร์ไมโอนี่จะปลอดภัย อย่าลืมว่าเธอมีกึ๋นพอรอนพูดปลอบใจอย่างสงบเท่าที่เขาพอจะทำได้ เขารู้ดีเท่าที่แฮร์รี่รู้เช่นกัน สถานการณ์ยุ่งเหยิงนี้เป็นสถานการณ์อันตรายที่เคร่งเครียดอย่างยิ่ง แต่รอนก็พูดเรื่องจริงกับความเชื่อที่ว่า เฮอร์ไมโอนี่ฉลาดพอที่จะเอาตัวรอดได้จากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้

    ฉันรู้ว่าเธอมีกึ๋นพอแต่ฉันก็อดเป็นห่วงไม่ได้ อย่าลืมรอน มัลฟอยก็อยู่กับเธอด้วย ฉันไม่ไว้ใจมัน

    มัลฟอยนะงี่เง่า รอนยกมือขึ้นห้ามก่อนที่แฮร์รี่จะทันได้ประท้วงเฮอร์ไมโอนี่ฉลาดกว่าเห็นๆ

    รอน นายไม่เข้าใจแฮร์รี่กำหมัดแน่นในขณะที่เขาพูดมัลฟอยนะทั้งชั่วช้าและเจ้าเล่ร์ เขาทำอะไรได้ทุกอย่างถ้ามันเป็นผลดีสำหรับตัวเขา

    นั่นไง นายก็รู้ว่ามัลฟอยเป็นคนยังไง แล้วนายไม่คิดหรือไงว่าคนฉลาดอย่างเฮอร์ไมโอนี่จะไม่รู้ดีไปกว่าพวกเรา เธอรับมือกับมัลฟอยได้แน่

    แล้วเรื่องอื่นล่ะ เธอไปอยู่ที่ไหน  มันอาจจะเลวร้ายไปกว่าที่เธอเคยเจอมา หรือเธออาจจะถูกขังไว้ในที่มืด เธออาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในโลกนี้ที่เธอไม่คุ้นเคย ฉันไม่อยากจะคิดต่อเลยรอน

    รอนจนมุมเขาผงกหัวยอมรับอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก เห็นได้ชัดว่าการปลอบใจของเขา ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นเลย เขาคาดหวังว่าเธอจะปลอดภัย และดัมเบิลดอร์จะพาเธอกลับมาโดยเร็ว

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    หยุดนะมัลฟอยเฮอร์ไมโอนี่พูดจนเกือบจะตะโกนใส่เขาเมื่อเธอสามารถสูดลมหายใจได้ทั่วปอดแล้ว จากการจูบที่ดุเดือดของเขามันทำให้เธอแทบหยุดลมหายใจเสียตรงนั้น เดรโกผละริมฝีปากของเขาออกจากเธอด้วยความนึกเสียดายกับริมฝีปากที่หอมหวานนั้น เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอแววตาของเขาระยิบระยับและดูขึ้เล่น

    ไม่ เขาพูดและยิ้มเล็กๆที่มุมปาก แววตาเป็นประกาย บอกเหตุผลมาก่อนสิว่าทำไมฉันต้องทำตามที่เธอพูดด้วยเกรนเจอร์

    นายควรมองไปรอบๆตัวก่อนมัลฟอยเธอพูดและผลักไหล่ของเขาออกเมื่อรู้สึกตัวได้ว่ามือไม้ของเขาที่ยังคงยุ่มย่ามอยู่บนตัวเธอ แต่! พระเจ้าร่างแข่งแกร่งของเดรโกไม่ขยับเขยื้อนสักนิด เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอย่างหมดหวัง

    ดูซะก่อนว่าเราอยู่ที่ไหน ที่นี่ไม่ใช่ฮอกวอตส์นะ

    เดรโกขมวดคิ้วเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอบอก เขานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆบริเวณนั้น เขาอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ล้อมรอบตัวเขามันไม่ใช่ห้องโถงในฮอกว๊อตส์ มันเป็นสถานที่ๆเขาไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย

    ที่นี่ที่ไหนเขาพูดเสียงดังแล้วเรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

    ปล่อยฉันก่อนสิเธอพูดประท้วงและดันไหล่ของเขาอีกครั้ง

    ก็ได้ เขามองเธอเขม็งก่อนจะขู่เธอแต่อย่าคิดว่าฉันไม่กล้าทำอะไรเธอนะเกรนเจอร์ เธอค้างฉันมาหลายเรื่องแล้ว และเธอต้องจ่ายคืน

    เขาผละออกจากเธอ เฮอร์ไมโอนี่กลิ้งตัวออกห่างจากเขาโดยเร็ว เธอยืนขึ้นและปัดเศษใบไม้ที่ติดตามตัวเธอโดยไม่พยายามมองเขา

    เอาล่ะขอฉันคิดก่อนเดรโกกอดอกและหลับตาเหมือนพยายามรวบรวมจิกซอที่หายไป

    เราเข้ามาที่นี่โดยถูกหลุมดำบ้าบออะไรสักอย่างดูดเข้ามาเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่นักแล้วหล่นปุ๊ก ลงมาอยู่ที่นี่เขามองไปรอบๆอีกครั้งอย่างแปลกใจ

    แล้วที่นี่ที่ไหน ป่าต้องห้ามหรือยังไง

    ถ้าเป็นป่าต้องห้าม ฉันคงจะดีใจมากกว่านี้มัลฟอย อย่างน้อยเราก็รู้ว่าป่าต้องห้ามมีสัตว์ชนิดไหนที่อันตรายและไม่อันตรายบ้างและพืชต้นไหนที่มีพิษหรือไม่มีพิษ แต่ที่นี่เราไม่รู้อะไรเลย

    เฮอร์ไมโอนี่ถอนลมหายใจโดยแรงอย่างหงุดหงิด เกิดความเงียบไปชั่วขณะหนุ่มสาวทั้งสองต่างมองหน้ากันและกันอย่างใช้ความคิด ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มรู้สึกได้ว่า ความเงียบไม่ได้แก้ปัญหาอะไรได้เลยในตอนนี้

    เอาล่ะแล้วตอนนี้จะเอายังไงในที่สุดเดรโกก็เป็นคนเอ่ยปากขึ้นมา เฮอร์ไมโอนี่ลังเลคิดกลับไปกลับมา แต่ก็ไม่แน่ใจนัก เธอไม่ชอบอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เลย ให้ตายเถอะ!

    เฮอร์ไมโอนี่นิ่งคิด แต่ไม่ว่าเธอจะชอบหรือไม่ก็ตามเธอได้ลงเรือลำเดียวกับเขาไปแล้ว เธอจะต้องใช้สมองของเธออย่างรอบคอบ และเธอยังจะต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง ว่าเธอไม่ได้ผจญภัยกับเพื่อนรักทั้งสองอีกต่อไปแล้ว แต่เธอต้องร่วมเดินทางและเผชิญอันตรายร่วมกันกับคู่หูคนใหม่ ซึ่งเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของเธอ เดรโก มัลฟอย

    “ฉันว่าเราควรสำรวจป่าดูก่อน”เธอพูดน้ำเสียงจริงจัง”อย่างน้อยเราก็ต้องหาของกินบางทีอาจจะเจอคนหรืออะไรที่พอจะช่วยให้เรารู้ได้ว่าที่นี่ที่ไหน”

    “เกรนเจอร์ เธอคิดว่าที่นี่ จะมีคนงั้นเหรอ”เดรโกพูดด้วยน้ำเสียงแดกดัน

    “ตราบใดที่เรายังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับป่านี้ เราควรจะมีความหวัง” เดรโกยิ้มเล็กน้อย เขารู้จักเธอดีพอในระดับหนึ่ง จากการที่ต้องต่อสู้กับพวกเธอมานานหลายปี เฮอร์ไมโอนี่เป็นนักสู้เต็มตัว เธอมักจะไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ โดยไม่มีการต่อสู้จนถึงนาทีสุดท้าย  เธอมักมีชื่อเสียงในเรื่องนี้ และสิ่งนี้นี่เองที่ทำให้เขารู้สึกชื่นชอบเธออยู่เงียบๆ

    “เธอพูดก็ถูก”เดรโกยิ้มโกงๆอย่างพวกเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะชี้นิ้วเข้าไปในป่า “แต่ถ้าเรายังมัวแต่เดินหาของกินกันฉันว่าพวกเราอดตายกันพอดี”

    “แล้วนายจะเอายังไง”เฮอร์ไมโอนี่ถามเธอมองเขาด้วยสายตาคมกริบ เดรโกยิ้มกวนๆก่อนเดินเข้าใกล้และกระซิบ

    “ฉันมีไม้คฑาเกรนเจอร์ ฉันจะใช้เวทมนต์เพื่อเรียกของกินมา  มันฉลาดกว่ากันเยอะ ที่เราจะเดินหาผลไม้ในป่าที่เราไม่คุ้นเคยกันแบบนี้”

    เฮอร์ไมโอนี่ขยับกายออกห่าง สายตาของเธอมองฝ่าเข้าไปยังป่าทะมึนที่อยู่ข้างหน้า

    “ก็ได้พ่อคนฉลาดงั้นก็แสดงเลยสิ”เดรโกยึดตัวขึ้นเล็กน้อย แสดงสีหน้าอย่างมาดมั่นก่อนเหวี่ยงไม้คฑาชี้ตรงไปยังป่าด้านหน้า พลางเปล่งเสียงที่แสดงถึงความมั่นใจอย่างเต็มที่

    “แอ๊กซิโอ ผลไม้”ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นในครั้งแรก เดรโกขมวดคิ้วด้วยท่าทางสับสนก่อนเปล่งเสียงขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง

    “แอ๊กซิโอผลไม้”เงียบ!

    “แอ๊กซิโอของกิน”ความพยายามของเดรโกในครั้งที่สามดูเหมือนไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกันกับในในครั้งแรกและครั้งที่สองสิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้พวกเขายืนเซ่อกันชั่วครู่

    ประหลาดที่นี่ไม่มีอะไรพอที่จะกินได้เลยหรือไงเขาแกล้งพูดพึมพำแก้เก้อในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่เอียงคอมองไม้คฑาของเดรโกอย่างแปลกใจ ก่อนที่เธอจะพูดอย่างใช้ความคิด

    มีเหตุผลอยู่เพียงสองข้อ  ป่านี้หรือไม่ก็ไม้ของนายมัลฟอย ที่มันมีปัญหา

    เธอพูดบ้าอะไรเขาคำรามเสียงดังบ่งบอกถึงความไม่พอใจ ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่เข้าใจได้ดีว่า เขาดูไม่ประทับใจอย่างยิ่งกับเหตุผลของเธอ

    อย่าเพิ่งฉุนเฉียวสิคุณชาย นายลองเสกคาถาอะไรอย่างอื่นดูสิว่ามันทำงานไหม

    เฮอร์ไมโอนี่พยักพะเยิดไปทางไม้ของเขา เดรโกนิ่งคิดชั่วครู่ก่อนที่ทำตามที่เธอเรียกร้องอย่างรวดเร็ว

    ลูมอสเดรโกเสกแสงสว่างที่ปลายไม้แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับไม้ของเขาเลยแม้แต่น้อย เดรโกหันไปสบตากับเฮอร์ไมโอนี่ก่อนลองดูอีกครั้ง

    ลูมอสเดรโกแทบปาไม้ของเขาทิ้งเมื่อไม้คฑาประจำตัวของเขาไม่สามารถเสกอะไรได้ตามที่เขาต้องการมันเหมือนเศษไม้ที่หาค่าอะไรแทบไม่ได้เลย

    ไม้ของฉันพังแล้วเขาตะโกนอย่างหัวเสียดวงตาสีเทาของเขาส่อแววขุ่นเคืองอย่างเห็นได้ชัด

    มันยังไม่พังหรอก มัลฟอยเธอพูดพร้อมกับมองดูไม้คฑาที่มัลฟอยถืออย่างพิจารณา

    อะไรของเธอตอนแรกเธอบอกว่าไม้ของฉันอาจมีปัญหาแล้วตอนนี้ก็บอกว่ามันยังไม่พังอีก ไหนลองสาธยายให้ฟังหน่อยสิ ยายหนอนหนังสือเขาพูดเสียงตวัดเริ่มจากความเข้าใจไปเป็นรำคาญใจ  

    เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย แม้เธอจะต้องการสันติในยามนี้ แต่ช่วยไม่ได้เลยที่เธอจะคิดว่า จริงๆแล้ว มัลฟอยไม่ใช่นักบุญ เขาคอยจะเป็นหนามแหลมที่คอยทิ่มแทงเธอยามที่มีโอกาส

    ที่ฉันบอกว่าไม้คฑาของนายยังไม่พังเพราะว่าไม้ประจำตัวของพ่อมดแม่มดแต่ละคน ไม่มีทางที่จะพังหรือชำรุดได้ง่ายๆถ้ามันไม่หักหรือโดนคาถาอื่นๆทำลาย แล้วไม้ของนายก็ไม่ได้หักหรือชำรุดอะไรนี่

    งั้นเธอจะบอกว่าเพราะป่านี้งั้นเหรอเขาถามพร้อมกับเหยียดยิ้มอย่างช้าๆ

    ฉันคิดว่าไม้คฑาไม่มีปฎิกิริยาตอบสนองในป่านี้นะสิ

    สีหน้าแววตาตื่นตระหนกปรากฏบนใบหน้าของเขาแวบเดียว แน่นอน! มันเป็นสิ่งที่เดรโกไม่เคยคาดคิดมาก่อน เขาเป็นพ่อมดนะ และมีไม้คฑาไว้เพื่อใช้งาน แต่นี่ไม้คฑาของเขามันเหมือนกิ่งไม้ชำรุดๆอันหนึ่งเท่านั้น

    ให้ตายสิ! เราจะอยู่โดยไม่มีไม้คฑาไม่ได้หรอกนะเกรนเจอร์ นี่มันเกิดเรื่องบ้าบออะไรกันขึ้นที่นี่ ลมหายใจของเขาติดขัดลึกลงไปในอก ความเงียบสงบ ใช่ ! เขาแค่ต้องการความเงียบ สักแค่ไม่กี่นาทีเพื่อให้เขาได้สงบ และเลิกคิดถึงเรื่องการติดขังในสถานที่ๆเขาไม่คุ้นเคยโดยที่ไม่มีทางออก

    ฉันคิดว่าป่านี้ต้องมีคาถาสะกดเวทมนต์อย่างแน่นอน

    อะไรนะ คาถาอะไรเขาขมวดคิ้ว

    คาถาสะกดเวทมนต์ ใช่! มันเป็นคาถาสะกดโบราณ มันจะสะกดคาถาเวทมนต์ของพ่อมดหรือแม่มดไม่ให้เกิดขึ้น เพื่อป้องกันการต่อสู้ หรือป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นภายในป่าแห่งนี้เฮอร์ไมโอนี่อธิบายอย่างช้าๆให้เดรโกได้ฟังโชคดีที่เธอเป็นนักอ่านตัวยง ดังนั้นจึงไม่เป็นการยากเลยที่เธอจะรอบรู้สิ่งต่างๆนอกเหนือจากหนังสือเรียนที่เธอเคยเรียนมา

    ใครจะบ้ามาเสกคาถากลางป่าแบบนี้เดรโกโวยวายขึ้นมาพร้อมกับเตะดินเตะหญ้าที่อยู่ใต้เท้าของเขาเพื่อระบายอารมณ์

    นายควรที่จะดีใจนะ มัลฟอย

    อะไรน้ำเสียงของเขาออกจะมีหางเสียงห้วนสั้น แบบที่เตือนให้เธอรู้ว่าเขากำลังข่มอารมณ์ไว้อย่างเต็มที่

    ฉันจะบอกกับนายว่าถ้ามันเป็นคาถาสะกดเวทมนต์จริงๆงั้นก็แสดงว่าป่านี้ต้องมีคนอยู่นะสิ

    เธอภาวนาไม่ให้เขาโต้แย้งอะไรเธอไปมากกว่านี้เพราะดูเหมือนว่าเธอกำลังจะเสียการควบคุมตัวเองไปอย่างรวดเร็ว

    ความคิดของเดรโกหมุนคว้าง เดรโกพยายามที่จะบังคับปะติดปะต่อความคิดเพื่อตีความในสิ่งที่เขาได้ยิน

    ใช่เธอพูดก็ถูก แต่ปัญหาคือเขาอยู่ที่ไหนเขาประกาศออกมาอย่างประชดประชัน

    นั่นเป็นสิ่งที่เราต้องค้นหามัลฟอย ถ้าเราเจอพวกเขาเราก็จะรู้คำตอบว่านี่คือที่ไหนและเราจะกลับบ้านไปได้โดยวิธีใด

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    ช่วงนี้เอลฟ์ทุกคนต่างทำงานหนักอาหารค่ำถูกเสิร์ฟผ่านไปยังหอนอนของแต่ละบ้านแทนที่จะมุ่งตรงไปยังห้องโถงใหญ่เหมือนอย่างเคย แต่ละบ้านล้วนแล้วแต่พูดกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องของหลุมดำและชะตากรรมของเด็กสองคนที่ถูกดึงเข้าไป

    ที่ห้องนั่งเล่นรวมของบ้านสลิธิรีนถูกเสกให้เป็นห้องอาหารชั่วคราวทุกคนพร้อมที่จะร่วมกินอาหารและเสวนากันถึงเรื่องนี้

    นายว่าตอนนี้สองคนนั่นจะเป็นยังไงกันบ้าง เบลสกอยล์ถามทั้งๆที่มีแฮมอบอมอยู่เต็มปาก

    ไม่รู้สิเบลสฝืนใจตอบ อันที่จริงเขาอยากอยู่เงียบๆมากกว่าเพราะเขาเองกำลังช๊อกกับเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อนี้

    ฉันว่าสองคนนั่นต้องตีกันตายแน่ พวกเขาเป็นศัตรูกันไม่ใช่เหรอ วันนั้นที่ห้องโถงใหญ่ก็เกือบจะฆ่ากันอยู่แล้วหนึ่งหนุ่มในสลิธิรีนพูดขัดขึ้น

    หรือไม่บางทีเขาอาจจะพักรบและหันหน้ากันมาจูบปากแทนก็ได้อีกคนหนึ่งพูดขึ้นทีเล่นทีจริงพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง

    หนุดพูดนะ เดรโกไม่ทำอะไรอย่างงั้นแน่เสียงกรีดร้องดังลั่นมาจากหัวโต๊ะ ซึ่งทุกคนไม่ต้องมองก็รู้ว่าใคร เสียงร้องแหลมราวกับผีแบนซี่ แบบนี้มีคนเดียวในโลก แพนซี่ พาร์กิสัน

    ใจเย็น แพนซี่ ใครๆก็รู้ว่าเดรโกเกลียดเลือดสีโคลนยังกับอะไรดีบางที่พวกเขาอาจจะชี้ไม้คฑาเข้าหากันเพื่อรอเสกคาถากรีดแทงอยู่ก็ได้ ใครจะรู้” อมาธาร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างครื้นเครงรอบด้าน

    ในขณะที่วินเวิร์ดที่ฟังเรื่องราวต่างๆอยู่เงียบๆนั้นกระแทกช้อนของเขาลงบนจานด้วยเสียงอันดัง จนทุกคนสะดุ้ง อมาธาร์กระพริบตาอย่างงงงัน ก่อนจะจับแขนข้างหนึ่งของเขาเอาไว้ เมื่อเขาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนเก้าอี้ของเขาหงายหลังล้มลง วินเวิร์ดกระตุกแขนของเขาออกจากการจับของอมาธาร์ก่อนที่จะหันหลังเดินกลับไปที่หอนอนชาย

    วินเวิร์ดอมาธาร์ร้องเรียกเสียงแปร่ง

    ฉันสบายดี แค่อยากอยู่เงียบๆเขาพูดเสียงห้วนก่อนที่จะเดินตึงๆหายไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×