คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 11 เจอชายคนนั้น
Rescued 12 เจอชายคนนั้น
เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่เฮอร์ไมโอนี่เต้นผิดจังหวะและเผลอเหยียบเท้าเบลสจนนับไม่ถ้วนท่ามกลางเสียงหัวเราะของ เดรโก มัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกสับสนกับการทำความเข้าใจถึงวิธีการเต้นรำที่ถูกต้อง เธอทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ไม่ใช่ว่าเธอเหนื่อยกับการฝึกซ้อมเธอเพียงแค่เบื่อและไม่อยากฝึกซ้อมการเต้นรำที่ดูจะไม่คืบหน้าสำหรับเธอสักเท่าไหร่
”ฉันเต้นไม่ได้หรอก”เธอบอกพวกเขา เบลส นางมาเรียและเดรโก มองตากันและยิ้มให้กันเล็กน้อย”สาเหตุเพราะว่าฉันไม่มีความสามารถกับเรื่องพวกนี้ พวกคุณไม่เข้าใจมันหรือไง”เธอพูดค่อนข้างโมโหอยู่เล็กน้อย
มันเป็นเวลาเกือบสัปดาห์แล้วที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเดรโกในครั้งนั้น และเหตุการณ์นั้นผ่านมามันก็ทำให้คฤหาสน์ซาบินี่ที่ตึงเครียดเริ่มผ่อนคลายลง
มาเรียเลยถือโอกาสให้ทุกคนฝึกการเต้นรำในวันนี้เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดที่เกิดขึ้นมาหลายวัน มารียแกล้งทำหน้าตาขึงขังและออกคำสั่งต่อเด็กสาว
”ลุกขึ้น ที่รัก พวกเราจะแก้ไขปัญหานี้ด้วยกัน ฉันจะทำให้เธอเต้นรำให้ได้ เฮอร์ไมโอนี่”มาเรียกล่าวในขณะที่เฮอร์ไมโฮนี่ลุกขึนอย่างเกียจคร้าน มาเรียส่งสัญญาณให้เบลสและเฮอร์มโอนี่หันหน้าเข้าหากันอีกครั้ง ก่อนที่มาเรียจะทำสีหน้าครุ่นคิดสักครู่ และดึงเบลสออกมาและผลักเดรโกเข้าไปเผชิญหน้ากับเฮอร์ไมโอนี่แทน
”เอาล่ะปัญหาของเราก็คือ” มาเรียเงียบและขยิบตาให้เฮอร์ไมโอนี่”เธอเต้นผิดคู่ เพราะฉะนั้นเธอจะต้องเต้นกับเดรโกในตอนนี้”
เฮอร์ไมโอนี่ทำตาโตเหมือนไม่เห็นด้วย ส่วนเดรโกถอนหายใจแต่ก็มีรอยยิ้มที่ระบายอยู่นิดๆในขณะที่มาเรียยิ้มอย่างมีความสุขและบอกให้พวกเขาเข้าที่และเปิดเพลงอีกครั้งหนึ่ง
เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงเธอไม่คุ้นชินกับการเต้นรำกับเดรโก และความขุ่นเคืองในใจที่มีขึ้นกับเขาที่ผ่านๆมาทำให้เธอกระดากอายในขณะที่เด็กหนุ่มผมบลอนส์ได้โอบเอวและแตะมือเธอเบาๆเพื่อหยั่งเชิง เดรโกรู้สึกดีใจที่มารียเปลี่ยนคู่ให้เขาเต้นรำกับเฮอร์ไมโอนี่ หลังจากเหตุการณ์ณืที่เกิดขึ้นเขาพยายามหาโอกาสเข้าใกล้เธอโดยมีเบลสคอยช่วยเหลือแต่อุปสรรคอยู่ตรงที่แพนซี่ เพราะเดี๊ยวนี้หญิงสาวทั้งคู่สนิทสนมกันมากจนแยกกันแทบจะไม่ออก และการที่เบลสที่คอยจะช่วยกันแพนซี่ออกไปก็กลายเป็นว่าเบลสกลับตกบ่วงแห่งความรักกับแพนซี่เข้าให้เสียแล้ว ซึ่งเดรโกก็ไม่ได้ว่าอะไรกลับเห็นดีด้วย
เดรโกรู้ว่าแพนซี่เป็นคนดี พราะครั้งหนึ่งเขาเคยสนิทสนมกับเธอ พูดได้ว่าแพนซี่เคยเป็นคนที่เขารัก แต่เนื่องจากการที่ไม่ชอบการผูกมัดและการที่ไม่ชอบให้แม่เขาคอยบงการอนาคตเขาจึงตอบปฎิเสธแพนซี่ไปและทำให้เขาเองที่เข้าหน้าเธอไม่ติด แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเขาชอบเธอแต่เป็นแบบเพื่อนเท่านั้น และตอนนี้เขาเองก็คิดว่าแพนซี่ก็คิดกับเขาแบบนั้นเช่นกัน
สายตาของเดรโกจับจ้องอยู่ที่เฮอร์ไมโอนี่ เขาพยายามนึกถึงเหตุผลว่าทำไมช่วงปีหนึ่งเขาถึงรังเกียจเธอนัก สายเลือดเหรอ มันก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง เขาได้รับสายเลือดโดยตรงจากพ่อของเขา ลูเซียส มัลฟอย สายเลือดบริสุทธิ์ที่หยิ่งทระนง มันทำให้เขารังเกียจพวกมักเกิ้ลตลอดมา แต่หลังจากลูเซียส ถูกจับและเขาเลิกภักดีต่อโวลเดอร์มอร์ใช้ชีวิตอย่างสงบในสังคมพ่อมดแม่มดโดยทั่วไป และเขาก็เริ่มปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อมักเกิ้ล แท้จริงเขาเพิ่งรู้ตัวว่าเขาไม่ได้รังเกียจมักเกิ้ลแม้แต่น้อย แต่กลับตรงกันข้ามแล้วในตอนนี้ ตั้งแต่เขาได้ช่วยเหลือเธอและตั้งแต่ที่เฮอร์มโอนี่เข้ามาในชีวิตเขา เขารู้สึกตัวเองมีคุณค่า และเขารู้ได้ว่าเขาอยากปกป้องเธอ มันเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวและน่าแปลกมันทวีขึ้นเรื่อยในใจของเขา เขาเฝ้ามองเธออยู่ห่างๆ เหมือนคนที่เฉยเมยแต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนเห็น เขาเหมือนจะขาดใจตายเมื่อเธอหนีไป เขาเป็นห่วง เขาทุกข์ร้อน ในขณะเดียวกันเขาเหมือนเจ็บปวดลึกๆ และในครั้งนี้ที่เธอช่วยชีวิตเขาไว้มันเหมือนกับว่า หัวใจของเขา ชีวิตของเขา ที่เหนื่อยล้ามาตลอด หาที่พักพิงได้แล้วในตอนนี้ เพียงแต่เขาต้องรอ ให้หัวใจของเธอกลับมาแข็งแกร่งเหมือนเดิมเสียก่อน
เดรโกดึงความคิดของตัวเขากลับมาที่การฝึกซ้อมเต้นรำ เขาพยายามปรับเปลี่ยนท่าทางของเฮอร์ไมโอนี่เล็กน้อยและนำเธอเต้นหมุนไปรอบๆห้องเมื่อเพลงเริ่มขึ้น เดรโกเต้นโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆทั้งสิ้น แพราะเขามีทักษะและพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ใส่ใจในแต่ละขั้นตอนที่เธอขยับตามจังหวะทุกก้าว
เธอนับอยู่ในหัวของเธอ หนึ่ง สอง สาม หนึ่ง สอง สาม และก็สี่ เธอยิ้มในขณะที่พวกเขากำลังเต้นอย่างงดงามไปรอบๆห้องโดยมีเดรโก คอยบังคับร่างของเธอให้หมุนตามจังหวะที่เขานำไป มีบางครั้งที่เธอเกือบสะดุด แต่เดรโกก็คอยพยุงเธอไม่ให้ล้ม และพาเธอไปตามจังหวะของเพลงได้อย่างน่าทึ่ง เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกแปลกใจเมื่อเธอเต้นรำกับเดรโกมันน่าจะแย่ยิ่งกว่าเก่าแต่กลายเป็นว่าทั้งเธอและเดรโกกลับเป็นคู่ขาที่ มีจังหวะเข้ากันได้อย่างน่าทึ่ง เฮอร์ไมโอนี่เกือบจะส่งเสียงด้วยความสุข เมื่อเธอกำลังเต้นรำ และนั่นทำให้เดรโกมีรอยยิ้มเต็มใบหน้าอย่างอารมณ์ดี
เฮอร์ไมโอนี่มองไปและพบว่าเดรโกกำลังยิ้มให้เธอ และมันทำให้เธอรู้สึกเขิน
”นายยิ้มอะไร มัลฟอย”เธอถามอย่างโกรธๆแต่เขากลับหัวเราะเบาๆและก้มมองดูใบหน้าของเธอที่ตอนนี้แดงจนเหมือนผลบรีทูสแล้วตอนนี้
“ไม่มีอะไรเกรนเจอร์”เขากล่าวปฎิเสธเบาๆ”คุณทำได้ดีมาก แล้วในตอนนี้ ถึงแม้ว่า” เขาให้ข้อคิดเห็นอย่างใจเย็น ”แน่นอนคุณย่อมรู้อยู่แล้ว เพราะว่าคุณเต้นรำอยู่กับคนเก่งอย่างฉันไงล่ะ” เขากล่าวอย่งหยิ่งๆ ละมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่หายใจหนักๆและทำหน้าเบ้ใส่
เบลสได้ยินในสิ่งที่เดรโกพูด ในขณะที่เขาเต้นไปรอบๆกับแม่ของเขา เบลสหัวเราะเล็กน้อยก่อนตะโกนกลับไปแกล้งแซวเดรโกว่า
”ไม่ใช่เพราะนายเต้นดีหรอก เพราะว่าเฮอร์ไมโอนี่วางใจนาย เพียงเพราะว่านายเป็นเกย์ต่างหาก” เบลสกล่าวล้อเล่น แต่มันก็ได้ผลที่ประโยคนั้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะคิกคัก
เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะและเดรโกยิ้มกว้างเขาชอบเสียงหัวเราะของเธอ
”ไม่ มันเพราะฉันต่างหาก เห็นไหมล่ะเฮอร์ไมโอนี่ วิธีนี้ทำให้เธอเต้นได้ดีขึ้น ”มาเรียออกเสียงหัวเราะในขณะที่เย้าแหย่เธอบ้าง
ทุกคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ในตอนนั้นมีเสียงเคาะประตูและประตูก็เปิดออก แพนซี่ก้าวเข้ามาและยิ้มให้กับทุกคนในห้อง
”เฮ้ เฮอร์ไมโอนี่คุณกำลังเต้นรำอยู่นี้”เธอร้องอุทานอย่างมีความสุขเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่มีสีหน้าเบิกบานขึ้นกว่าทุกๆวันที่ผ่านมา
“ฉันรู้ว่ามันดูแปลก แต่ฉันกำลังพยายามปรับตัวอยู่ ”เฮอร์ไมโฮนี่กล่าวในขณะที่เธอสะดุดเล็กน้อยในจุดที่เธอยืน
เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงเมื่อเดรโกฉุดเธอไว้ไม่ให้ล้มตัวของเธอเลยเซปะทะเข้ากับอกของเดรโก และเดรโกก็ยังยิ้มให้กับเธอ แพนซี่ดูมีประกายแห่งความสุขเมื่อเห็นทั้งคู่มีปฎิกิริยาเคมีใส่กัน
มาเรียหยุดเต้นกับเบลสและกอดแพนซี่เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาใกล้
”เธอรู้วิธีการเต้นรำใช่ไหมแพนซี่”มาเรียถามเด็กสาว แพนซี่พยักหน้าและยิ้ม
”ดีแล้วงั้นเธอเต้นกับเบลสนะ ช่วยเขาหน่อยเถอะ”มาเรียกล่าว และดึงมือแพนซี่เหวี่ยงไปที่เบลส ในขณะที่เบลสเองก็รอรับร่างของแนซี่ไว้ในวงแขนของเขาอยู่ก่อนแล้ว
“ไฮ้ เบลส”แพนซี่ พูดเอียงอายเล็กน้อย ในขณะที่เบลสจับเอวเธอและยิ้มให้
“แพนซี่” เขาทักทายและค่อนข้างเกิดอาการเขินเต็มที่
เดรโกและเฮอร์ไมโอนี่มองดูพวกเขายิ้มให้กันและกันมันเหมือนกับแสงสว่างที่ส่องออกมาจากพวกเขาทั้งคู่ ใช่ แสงแห่งความรัก
“มัลฟอยคุณคิดว่า แพนซี่และเบลสพวกเขาไปด้วยกันได้ไหม”เฮอรืไมโอนี่ถามเบาๆอย่างมีความหวัง เขามองที่เฮอร์ไมโอนี่และยิ้มให้พร้อมกับผงกศรีษะของเขาเล็กน้อย
”เออ นายคิดว่ามันดีแล้วเหรอ นายกับแพนซี่นะ เออ...”เฮอร์ไมโอนี่กระซิบ ถึงแม้เธออยากให้แพนซี่ลงเอยกับเบลสก็เถอะแต่อีกใจเธอก็อดเป็นห่วงความรู้สึกของเดรโกไม่ได้ อย่างน้อยพวกเขาก็เคยมีวันดีๆร่วมกันมาก่อน แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็หยุดชะงักในความคิดของเธอเมื่อเธอเห็น เดรโกยิ้มฟันขาวเหมือนไม่ทุกข์ร้อนใจมาทางเธอและหมุนเธอไปรอบๆจนเฮอร์ไมโอนี่ร้องเสียงหลง ต่อมา เขาดึงหลังเธอจนหงายไปด้านข้างโดยมือของเขาประคองหลังเธอไว้และเขาก็ก้มตัวของเขาจนใบหน้าแทบชิดเธอ เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ หัวใจของเธอเต้นโครมครามอยู่ภายใน เฮอร์ไมโอนี่ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าขาวๆของเขาที่อยู่ใกล้กับเธอจนเฮอร์ไมโอนี่ต้องเบนสายตาไปจับอยู่ที่ขนตางอนยาวที่เห็นอย่างเด่นชัดของเขา เธอได้ยินเสียงหัวเราะจากแพนซี่และเบลส ในขณะที่เดรโกกระซิบบอกกับเธอเบาๆว่า
“ใช่ ฉันเห็นดีด้วยกับพวกเขาทั้งสองคน”
แล้วเดรโกก็เหวี่ยงเธอกลับมายืนตรงๆเผชิญหน้ากับเขาเหมือนเดิม
เฮอร์ไมโอนี่ รู้สึกตึงเครียด ใจของเธอแทบไม่อยู่กับตัว “นาย
”พวกนายไม่มีปัญหาอะไร ใช่ไหมเพื่อน”เบลสหัวเราะไปที่เดรโกในขณะที่เดรโกหันกลับมายักคิ้วให้พวกเขา
แพนซี่ส่ายหัวของเธอและหัวเราะเบาๆอย่างสนุกสนาน
”เพียงแค่ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เฮอร์ไมโอนี่ ”แพนซี่บอกในขณะที่เบลสดึงเธอให้หมุนไปตามจังหวะเพลง อย่างไรก็ตามคำพูดของแพนซี่มีความหมายมากว่าที่คิด เธอไม่ได้ตั้งใจจะพูดถึงการเต้นรำแต่เธอพูดถึงบางสิ่งที่เธอเห็น ระหว่างเดรโกและเฮอร์ไมโอนี่
เดรโกแตะเอวเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้งและพวกเขาก็เริ่มเต้นแบบวอลส์ แต่ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่เอาใจใส่อยู่นั้นเธอก็สะดุดเท้าของเธอเองซึ่งอยู่ในรองเท้าส้นสูงและเธอก็ล้มลงบนพื้นโดยมีเดรโกล้มทับตัวเธออยู่ข้างบนสุด
”โอ้ว “เธอส่งเสียงครางและพยายามดันตัวเดรโกให้ลงไปจากตัวเธอ”มัลฟอยลงไปจากตัวฉัน”
เดรโกม้วนตัวลงจากเธอและนอนถัดจากเฮอร์ไมโอนี่ไปบนพื้นแพนซี่และเบลสต่างหัวเราะในขณะที่พวกเขาต่างยึดเกาะกันและกันไว้เพื่อลุกขึ้น
”เกรนเจอร์ เธอนี่ จริงๆเลย ”เดรโกบ่น แต่ก็มีรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากของเขา
“ฉันขอโทษ “เธอกล่าวเสียงอ่อยๆแล้วลุกขึ้นนั่งอย่างลำบาก เฮอร์ไมโอนี่เหลียวซ้ายขวาเมื่อไม่เห็นมาเรียกลับเข้ามายังภายในห้องเธอจึงถอดรองเท้าส้นสูงที่มาเรียให้เธอใส่เต้นรำออกไปทั้งสองข้าง
”มันลำบากมากเลยนะที่ต้องใส่รองเท้าส้นสูงเพื่อเต้นรำน่ะ ฉันไม่ถนัดเอาเสียเลย”เฮอร์ไมโอนี่บ่นอุบ
แพนซี่และเบลสยิ้มไม่หุบเมื่อได้ยินเฮอร์ไมโอนี่บ่น เฮอร์ไมโอนี่เหลียวมาดูเดรโกที่ยังคงนอนแผ่อยู่บนพื้นห้องอยู่
”นายไม่เป็นไรแน่นะ เดรโก”เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่เป็นไร เพียงแค่เจ็บเล็กน้อย”เดรโกบอกกับเธอ ก่อนลุกขึ้นนั่งเช่นเดียวกัน”ฉันต้องถามเธอมากกว่าว่าเป็นอะไรไหมเพราะฉันทับตัวเธอทั้งตัวเลย ”
“ไม่มีอะไรแตกหัก แต่มีเลือดไหลนิดหน่อย ฉันคิดว่าบางทีแค่แผลถลอกน่ะ”เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะเฝื่อนๆเมื่อเห็นเขายิ้มมาที่เธอ
“ช่างน่าสงสารจริงๆ”แพนซี่ช่วยเธอลุกขึ้น”เธอไม่เป็นไรนะ เฮอร์ไมโอนี่ความซุ่มซ่ามไม่ได้ทำให้เธอเจ็บ แต่เขาต่างหากที่เป็นคนทำเธอ”แพนซี่บอกและชี้ไปที่เดรโก ทำให้เดรโกถึงกับสะดุ้ง
“ฉันไม่ได้ซุ่มซ่ามนะ แพนซี่”เขาเถียงแต่สาวๆกลับไม่มีใครสนใจที่จะฟังเขา มีเพียงแต่เบลสที่ยืนอมยิ้มอยู่ข้างๆแพนซี่และหันมามองเดรโกอย่างเห็นใจ
“ฉันไม่เป็นไรหรอก แพนซี่ เพียงแค่แผลถลอกนิดหน่อยเอง ฉันว่าจะไม่ยอมสวมรองเท้าส้นสูงอีกเลย”เธอกล่าวในขณะที่เธอมองไปยังรองเท้าทีแดงสดสวยที่วางอยู่บนพื้นด้วยท่าทีที่ขยาด
เบลสหัวเราะและเดินมาช่วยเพื่อนของเขาลุกขึ้น
”ผู้หญิง มักจะหาเรื่องเจ็บตัวเพียงเพื่อทำให้ตัวเองดูดีมันเป็นเรื่องที่ไร้สาระจริงๆ”เดรโกพูดพร้อมกับหัวเราะให้กับเบลสที่ตรงมาช่วยฉุดเขาขึ้นมา
”แต่มันดูมีสีสันดีออกจริงไหมเพื่อนโดยเฉพาะกับผู้หญิงสวยๆด้วยแล้ว” เบลสพูดเพิ่มเติมเบาๆมันทำให้เดรโกหัวเราะชอบใจและตบไปที่ไหล่ของเขาเบาๆ โดยทีสาวๆมองตามพวกเขาอย่างสงสัยว่าพวกหนุ่มๆพูดนินทาอะไรพวกเธอหรือเปล่า
“วันนี้เราเต้นรำกันพอแล้วหรือยัง”เฮอรืไมโอนี่ถาม เพราะเธอเริ่มอึดอัดกับชุดยาวๆที่มาเรียให้ใส่ตอนที่ฝึกการเต้นรำ ”ฉันอยากเปลี่ยนชุด”พวกเขาพยักหน้าและเฮอร์ไมโอนี่รีบวิ่งออกไปยังห้องของเธอและกลับเข้าในเวลาไม่นานนักด้วยเกางเกงยีนส์สีดำและเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นตามไสร์คการแต่งตัวที่เรียบง่ายของเธอ
“ในตอนนี้เราควรจะทำอะไรกันต่อดี”แพนซี่ถามและแสดงความคิดเห็น ”ฉันคิดว่าเราควรไป สูดอากาศข้างนอกบ้างดีไหม อย่างเช่นไปกินไอศกรีมกันบ้างน่ะ”เธอแนะนำ และมันเป็นความคิดที่เข้าที เพราะทุกคนตกลงในทันที
พวกเขาร่ายเวทมนต์และมันนำพวกเขามายังตรอกไดแอกอน พวกของเดรโกพาสาวๆตรงไปยังสถาณที่ๆพวกเขามักมากินกันบ่อยๆร้านไอศกรีมเบอเน็ต บาตี้ร์ เดรโกพาพวกเขามาที่โต๊ะว่างด้านในโดยมีสาวเสิร์ฟคนสวยเดินตรงมายังกลุ่มของพวกเขา เธอส่งสายตามาที่เดรโกและเบลส เหมือนยังกับพวกเขาเป็นอาหารน่ากิน
“คุณจะรับอะไรดีค่ะ” เธอถามเด็กหนุ่มทั้งสองเสียงหวานหยาดเยิ้มและส่งสายตาเจ้าชู้มายังพวกเขาทั้งสองอีกด้วย
“ฉันขอ เบอดี้ บ๊อตส์ ไอศครีมทุกรส “เดรโกสั่ง และเบลสเองก็สั่งเหมือนกับเดรโก
“ฉันขอ ไอศกรีมคาราเมล “แพนซี่บอกและมองสาวเสิร์ฟเหมือนไม่พอใจนิดๆ
“ส่วนฉันเอาเป็นไอศกรีมช๊อกโกแล๊ต”เฮอณ์ไมโอนี่สั่งเป็นคนสุดท้าย พร้อมกับหัวเราะไปที่เดรโกและเบลสที่มองสาวเสิร์ฟอย่างหนุ่มๆเจ้าชู้ทั่วๆไป
“คุณสองคนนี่มีรสนิยมที่แปลกดีนะ” เฮอณ์ไมโอนี่แกล้งแซวพวกเขาเล่น
“เกรนเจอร์ก็แค่เล่นๆน่า” เดรโกพูดเสียงยานคาง”เธอจะคาดหวังกับอะไรมากมายนัก”l
สาวเสิร์ฟกลับมาพร้อมกับไอศกรีมของพวกเขา และเดรโกก็จ่ายเงินให้กับสาวคนนั้น หญิงสาวผละออกไปและโฉบสายตาอย่างมีเสน่ห์มาให้เดรโก แต่เขากลับยิ้มให้เฉยๆพอมีมารยาท
หนุ่มสาวทั้งสี่กินไอศกรีมของพวกเขาพร้อมทั้งหัวเราะให้กันและกันอย่างมีความสุข พวกเขาผลัดกันเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับวิธีการเต้นที่ดูไร้สาระ พร้อมทั้งวิธีที่เฮอร์ไมโอนี่จะเต้นโดยที่ไม่ทำร้ายคู่เต้นและตัวเองต้องได้รับบาดเจ็บอีก และแน่นอนมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่สนุกสนานไปกับพวกเขา
ความสนุกสนานคงจะไม่โบยบินออกห่างจากพวกเขา ถ้าประตูไม่ได้เปิดขึ้นเสียก่อน เสียงกระดิ่งที่หน้าประตูทำให้เฮอร์ไมโอนี่ละสายตาจากเดรโกที่กำลังพูดหยอกล้อแพนซี่ หันไปมองคนที่เข้ามาใหม่ และเมื่อเธอเห็นชายร่างยักษ์ที่เดินเข้ามามันทำให้เธอแทบจะส่งเสียงกรี๊ดร้องออกมาดังๆ แต่เธอก็ทันได้ใช้มือของเธอปิดปากไม่ให้เสียงเล็ดรอดออกมาเสียก่อน
เดรโกรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดของเธอเมื่อเธอใช้มืออีกข้างคว้ามือของเขาด้วยความหวาดกลัว มือของเธอสั่นจนน่ากลัวในขณะที่เดรโกจับมือของเธอไว้แน่นเช่นกัน เขาเหลียวกลับไปมองข้างหลังเขาและเห็นในสิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่เห็น เบลสและแพนซี่เห็นวิกเตอร์และเพื่อนๆของเขาในขณะที่เดรโกยืนขึ้นในทันทีเขาถอดแจ๊กเก็ตของเขาและคลุมไปที่ตัวเฮอร์ไมโอนี่เขาดึงฮู๊ด ขึ้นเพื่อซ่อนใบหน้าของเธอและดึงผมของเธอลงมาปิดอีกชั้นหนึ่ง
“ไปกัน”เดรโกกระซิบเบาๆไปที่พวกเขา พวเขาทั้งหมดยืนขึ้นแขนของเดรโกโอบไปรอบๆเฮอร์ไมโอนี่เสมือนเป็นเครื่องปกป้องให้แก่เธอ
แต่มันสายไป ! วิกเตอร์หยุดสายตามาที่พวกเขา และสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ บางอย่าง
”เฮอร์มี่ นินนี่”เขาถามอย่างไม่แน่ใจแต่สายตาของเขาหรี่แคบในขณะที่เขาปิดเส้นทางระหว่างกลุ่มของเขาและกลุ่มของเดรโกลง
เบลสเดินเข้ามากั้นกลางและยิ้มให้วิกเตอรือย่างใจเย็นก่อนพูดปฎิเสธเสียงนุ่มนวล
“อ้อ ไม่ใช่หรอกวิกเตอร์ ฉันเสียใจ คุณเข้าใจผิดแล้ว นี่คือน้องคนเล็กของฉัน “เบลสกล่าว ”เธอชื่อเจนิส” และเบลสก็ถามต่อไปอย่างรวดเร็ว ”คุณเจอเฮอร์ไมโอนี่บ้างไหม แม่ของฉันไม่เจอเธอที่งานเลี้ยงเลย เธอต้องการพบเฮอร์ไมโอนี่น่ะและพวกเรากันเหมือนกัน”
วิกเตอร์มองดูซ้ำอีกครั้งจนแน่ใจ เขาแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียด และจ้องมองเบลสอย่างดูถูก
” คุณ ขโมยเธอไปจากฉัน ถอยออกไป”วิกเตอร์ตะคอกใส่และผลักเบลสไปให้พ้นๆทาง และดินตรงมาที่เดรโกซึ่งกอดเฮอร์ไมโอนี่ที่ตัวสั่นเทาไว้แน่น จนวิกเตอร์ถึงกับกำหมัดแน่นอย่างนึกหึงหวงของๆตัวเอง
“มานี่ เฮอร์มี นินนี่”เขาออกคำสั่งเสียงดังลั่น
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหมือนข้างในกระเพาะของเธอบิดเป็นเกลียวอย่างเจ็บปวด ร่างกายของเธอสั่นระริกจนน่าสงสาร เธอซุกตัวเข้าไปหาเดรโกมากขึ้น จนทำให้วิกเตอร์ที่เห็นแบบนั้นถึงกับทำตาลุกพองจนนัยน์ตาแทบจะระเบิด
“ไม่” เดรโก พูดเสียงดังสวนกลับวิกเตอร์อย่างไม่กลัวเกรง “ดูเหมือนเธอไม่ต้องการเห็นหน้าคุณ คุณมันพวกขยะ ออกไปให้พ้นๆเธอซะ”เขาคว้าเฮอร์ไมโอนี่มากอดไว้แน่น
โดยที่วิกเตอร์ดึงไม้วิเศษออกจากตัวและร่ายคาถาเข้าใส่เดรโกในทันที เดรโกถูกกระแทกปะทะกับฝาผนังโดยมีไม้กายสิทธิ์ของวิกเตอร์ชี้ไปที่ลำคอของเขา
“แกจะรู้อะไร ”วิกเตอร์คำราม”แกมันไอ้ตัวร้าย พูดจาเลอะเทอะ เฮอร์ไมโอนี่ เป็นของฉัน เธอจะต้องไปกับฉัน”เขาแผดเสียง และกระทุ้งไม้กายสิทธิ์ของเขาไปทีคอชายหนุ่มโดยแรงและเปล่งเสียงอย่างพอใจไปที่ชายหนุ่มส่งเสียงครางอย่างเจ็บปวด
“ไม่”เฮอร์ไมโอนี่ตะโกน”วิกเตอร์หยุด”
ความคิดเห็น