ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic แปล harry potter / Strange and beautiful เซดีก/เฮอร์ไมโอ

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 10 : ทุกแห่งที่เธอไป ให้ฉันไปกับเธอด้วย…

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 500
      4
      16 พ.ค. 54

    Strange and beautiful

     

    บทที่ 10

    ทุกแห่งที่เธอไป ให้ฉันไปกับเธอด้วย

                รอน วีสลีย์ รู้ว่ามีหลายสิ่งในโลกนี้ที่เขาไม่เข้าใจ และไม่อาจเข้าได้   เขานึกเอาเองตั้งแต่เข้ามาสู่ ฮอกวอตส์  เขาเริ่มขี้เกียจมากขึ้นอีกนิดจากปกติที่เขาเป็น    รอน คาดหวังว่าเพื่อนรักของเขาจะพยายามเข้าใจกับสิ่งต่างๆ และเขาจะทำตามอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าเสมอใน golden trio เขาไม่ใช่ตัวตั้งตัวตีที่จะทำอะไรได้อย่างแน่นอน และเขารู้ดี   เขาพอใจกับมันโดยส่วนใหญ่ที่ทำเช่นกัน

    ในขณะที่เขานั่งอยู่ในห้องทำงานของดัมเบิลเดอร์กับแฮร์รี่   ทั้งคู่กำลังฟังในสิ่งที่อาจารย์ใหญ่กำลังอธิบายเกี่ยวกับเฮอร์ไมโอนี่ และเซดริก ดิกกอรี่ อย่างตั้งใจ   รอนทำอะไรไม่ได้เลย เขาได้แต่สงสัยว่าแฮร์รี่จะปวดหัว เหมือนสมองกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆเหมือนเขาไหม   เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่กำลังฟัง  เฮอร์ไมโอนี่ และเซดริกถูกผูกจิตวิญญาณเหรอ?   มันหมายความว่าอะไรกันแน่ล่ะ  เขาได้ยินการอธิบายโดยละเอียด  แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่อาจตามมันทัน    เซดริกและเฮอร์ไมโอนี่รู้จักกันมาเป็นศตวรรษ และใช้ชีวิตร่วมกันมาก่อนเมื่อชาติที่แล้วเหรอ?   นั่นเป็นเรื่อน่าหัวเราะมากที่สุดเรื่องหนึ่งที่รอนเคยได้ยินมา   เรื่องไร้สาระส่วนใหญ่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาอยู่เสมอ เรื่องราวต่างๆมักไกลเกินความจริงและมันมาจากพี่ชายฝาแฝดของเขา

    แต่เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ได้รับรางวัลใหญ่   เขาจ้องไปที่ดัมเบิลเดอร์   ในขณะที่ศาตราจารพูดเกี่ยวกับเฮอร์ไมโอนี่และเซดริก  เรื่องชีวิตของพวกเขาที่อยู่ด้วยกันในแต่ละชาติ และผลกระทบจากคาถาผูกจิตวิญญาณที่มีต่อพวกเขาทั้งสอง    อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายในตัวเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหานี้  แต่เขายังคงไม่อาจเชื่อในสิ่งที่ได้ฟัง  มันเป็นความคิดเรื่องการเชื่อมโยงระหว่างคนสองคน   โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเฮอร์ไมโอนี่เป็นส่วนหนึ่งในนั้น  ที่สุดแล้วมันก็ยังดูเหมือนมาจากเรื่องที่แต่งขึ้น

                            “บางทีการมองความทรงจำในแพนชิพจะช่วยได้”  ดัมเบิลเดอร์เสนอ เมื่อเขารู้สึกถึงความสงสัยที่เกิดขึ้นมากมายจากเด็กหนุ่มทั้งคู่ ที่กำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา   ชายแก่ยืนขึ้นช้าๆ และโบกแขนไปที่เพนชิพที่วางอยู่ในมุมที่เขาศึกษาในทุกค่ำคืน ดัมเบิลดอร์พยายามที่จะทำให้เกิดความเข้าใจอย่างชัดเจนที่สุดแก่นักเรียนของเขา

    อัลบัส ดัมเบิลเดอร์ ไม่เคยสับสนและเขารู้ว่าจะต้องฉกฉวยโอกาสนี้ไว้ เพื่อให้นักเรียนของเขารอดจากความตาย   ในตอนนี้แม้ว่าเวทมนตร์ระหว่างเซดริกกับเฮอร์ไมโอนี่จะถูกผูกมัดกับการกระทำสุดท้าย อย่างไรก็ตามมันไม่มีทางที่จะทำลายสิ่งผูกมัดนี้  มันยั่งยืนมาหลายศตวรรษ และแม้กระทั่งคนอย่างดัมเบิลเดอร์ที่มีความสามารถก็ไม่มีทางที่จะหยุดมันได้  สุดท้ายเวทมนตร์นี้จะอยู่กับพวกเขาตลอดไป ไม่มีวันสิ้นสุด  ไม่มีทางทดแทน และมันทำให้พวกเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์เสมอ  จนกระทั่งไม่มีสิ่งใดอื่นหลงเหลือ  เว้นแต่ความตาย  จนกว่าชีวิตใหม่ของพวกเขาจะเริ่มต้นขึ้นอีก  เพื่อเวทมนตร์จะได้เข้าครอบงำอีกครั้งหนึ่ง

                “มาซิ” ดัมเบิลเดอร์กล่าว และ ชี้ให้เด็กชายทั้งคู่ไปที่เพนชิพ  

    “เอาล่ะ  ในทีแรกมันยากที่จะเชื่อ แต่ทุกสิ่งที่เธอเห็นได้เกิดขึ้นจริงๆ  คนที่พวกเธอจะได้เห็น คือเฮอร์ไมโอนี่ และเซดริกจริงๆ แต่พวกเขาไม่ใช่คนที่พวกเธอรู้จัก”

    แฮร์รี่และรอนมองกันและกัน   รอนส่ายหัวเล็กน้อยเพื่อแสดงความไม่เชื่อของเขาในสถานการณ์ทั้งหมด   ในทางกลับกันแฮร์รี่เปิดใจเชื่อกับความเป็นไปได้แบบแปลกๆนี้มากกว่าเล็กน้อย   ในช่วงหลังมานี้เฮอร์ไมโอนี่กำลังมีท่าทีไม่เหมือนเดิม   เธอจะแอบหลบออกไปเงียบๆเพื่อไปอยู่กับเซดริกและหัวเราะกับเรื่องตลกที่ไม่มีใครรอบข้างเธอสามารถได้ยิน และเขียนภาษาที่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้จัก  นับตั้งแต่ภารกิจที่สองที่เซดริกช่วยชีวิตเธอจากก้นบึ้งของทะเลสาบ  ก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับเพื่อนรักของเขาที่เหมือนเดิม  เขาอยากรู้ว่าทำไม  เขาอยากจะรู้ว่าทำไมเฮอร์ไมโอนี่กรีดร้องเรียกชื่อโวลเดอมอร์ในคืนนั้นจากฝันร้ายของเธอ

     

    ค.ศ. 1860   ลอนดอน

    เอ็มม่า  เกรนเจอร์ จัดที่นั่งให้ลูกสาวของเธอ ให้นั่งใกล้กับลอร์ดเซดริก ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ และ ในตอนนี้  ในขณะที่แขกทุกคนรับประทานอาหาร  พูดคุยเสียงดัง หัวเราะกับเรื่องตลกในสังคมที่พวกเขาเล่าสู่กันฟัง   การกระทำของเอ็มม่าไม่ยากที่จะถูกสนใจ  ซึ่งเธอรู้ดีว่าเป็นการไม่สุภาพแต่ด้วยความพยายามของเธอ มันจะเป็นที่สังเกตในคืนนั้น

                เฮอร์ไมโอนี่อายุ 18 ปี และถึงเวลาที่เด็กสาวอย่างเธอจะต้องแต่งงาน   ลอร์ดเซดริก ดิกกอรี่ ลูกชายคนเดียวของครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเพิ่งกลับมาจากการเดินทางแรมปีไปอินเดีย และช่วยสร้างดินแดนให้แก่พระราชินี และอาณาจักรแห่งอังกฤษ    ทั้งเอ็มม่าและสามีของเธอ โรเบิร์ต เกรนเจอร์รู้ดีว่าพวกเขาเป็นคู่ที่สมบรูณ์แบบ ทั้งสองครอบครัวเมื่อดองกันจะมีทั้งความมั่นคง อำนาจ และความเคารพนับหน้าถือตา   การดองกันของเฮอร์ไมโอนี่และเซดริกจะเป็นการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้น

                เซดริกตระหนักถึงการปรากฏตัวของหญิงสาวผู้เลอโฉมที่นั่งอยู่ด้านซ้ายของเขา  ชุดที่เธอใส่เป็นสีฟ้ามุกซึ่งเข้ารูปร่างขอบบางของเธออย่างสมบรูณ์แบบ  ผิวของเธอขาวเนียนไร้ที่ติ กระที่กระจายตัวบนสันจมูกของเธอ  ดวงตาสีน้ำตาลขนาดใหญ่ และรอยยิ้มอ่อนโยนของเธอ ทั้งสดใสและเชื้อเชิญ  ซึ่งไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่น   ผมของเธอรวบขึ้นเป็นมวยแน่นเรียบๆด้านหลัง  เธอ คือสิ่งที่สวยงามที่สุด ที่เขาเคยเห็นมาตลอดชีวิต และตลอดการเดินทาง

                เขาไม่ได้ตั้งใจมองเธอในขณะที่พวกเขากำลังทานอาหาร  แต่เขาพบว่ามันยากอย่างที่สุด และ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะละสายตาไปจากเธอ   เขาอาจจะดูเหมือนคนโง่  ในสายตาของแขกคนอื่นๆ   แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่เขาเป็นแบบนี้  เขาจ้องไปที่เธอ และด้วยเหตุผลบางอย่าง   เซดริกรู้สึกคุ้นเคย   รู้สึกเหมือนกับว่ามันเคยเกิดขึ้นและเขาเคยเห็นเธอมาก่อนหน้านี้แล้ว    เขารู้ว่าสิ่งที่เขารู้สึกมันไม่มีเหตุผล  เขาไม่เคยพบ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์มาก่อนคืนนั้น  และไม่รู้จักเธอในแบบที่ร่างกายและความคิดของเขาแสดงออกมาว่ารู้จักเธอ

                นิ้วมือของเขาปรารถนาอยากสัมผัสเธอ  แม้ว่าเขาจะรู้ว่ามันไม่เหมาะสมมากเพียงไรก็ตาม    พ่อของเธออาจจะไม่ทำอะไรอื่นนอกจากโยนเขาออกไปจากบ้าน และห้ามไม่ให้เขาเข้าใกล้เธออีก   นั่นเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดที่จะเกิดขึ้นถ้าเซดริกกล้าแตะต้องเธอ    เขากำหมัดแน่น  ข้อมือของเขาใกล้จะเปลี่ยนเป็นสีขาว   มันไม่สำคัญว่าเซดริกเป็นคนสำคัญแค่ไหนในการขยายอาณาจักร หรือ ว่าเขาเป็นที่พอพระทัยของราชินี     สิ่งสำคัญคือ เกียรติของเฮอร์ไมโอนี่ และ การแตะต้องเธอจะทำให้เกิดมลทิน   เซดริกไม่อยากทำแบบนั้นกับเธอ

                ด้วยเหตุผลบางอย่าง  เขาเหมือนจะรู้ว่าเธอชอบการถูกลูบข้างในข้อศอกทั้งสองข้างของเธอ และ เธอจั๊กจี้ด้านหลังเข่า   

    “เฮอร์ไมโอนี่บางทีลูกน่าจะพา ลอร์ดดิกกอรี่ไปชมสวนดีไหม?   ดอกไม้กำลังบานรับอากาศที่อบอุ่นและอากาศสดชื่นจะทำให้รู้สึกพอใจหลังจากอุดอู้อยู่ในห้องกินข้าวเป็นเวลานาน” 

                เฮอร์ไมโอนี่ข่มอารมณ์ไม่กลอกตา และรู้ว่ามันไม่ใช่ท่าทีเฉกเช่นสุภาพสตรีโดยส่วนใหญ่พึงกระทำ  ดังที่แม่ของเธอเรียกมันอย่างสุภาพ   ไม่มีความลับใดที่เอ็มม่า และแม้แต่โรเบิร์ตพ่อของเธอล่วงรู้    พวกเขาเห็นคำนำหน้าของเซดริก  ความมั่งคั่ง และตำแหน่งของเขา ซึ่งจะมีความสำคัญมากขึ้นเพราะดินแดนของราชินีขยายไปทั่วโลก และพวกเขาพยายามเอาเซดริกมาเป็นลูกเขยในทันใด   เธอรู้สึกไม่ดีกับมัน    เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดอะไรเลยใช่ไหม   พ่อแม่ของเธอจะเคยคิดซักครั้งไหมว่าเธอไม่อยากแต่งงานกับเซดริก ดิกกอรี่  เธอไม่แม้แต่รู้จักเขา    ทำไมเธอควรถูกบังคับให้ใช้ชีวิตทั้งชีวิตกับคนแปลกหน้า   เพียงแค่ความก้าวหน้าทางการเมือง และทางสังคมของครอบครัวเธอ

                แต่เมื่อเขาลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้  แขนของเขาปัดถูกแขนของเธอโดยบังเอิญ  เธออ้าปากค้าง และ ทันใดนั้น  ภาพแปลกๆเกิดขึ้นในหัวของเธอ   ภาพดวงตาสีเทาและริมฝีปากที่ยื่นออกมา   ริมฝีปากที่เธอรู้ว่าเธอเคยจูบมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน    เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกตกใจ, สะดุ้ง และถูกกระตุ้นแปลกๆ เธอเงยหน้าขึ้นมองเซดริก และเห็นว่าเขากำลังจ้องลงมาที่เธอ    ดวงตาของเขาพร่ามัว และอัดอั้นไปด้วยความรู้สึก    เธอตัวสั่นในขณะที่เธอดูเหมือนว่าจะอ่านความคิดของเขาออก และเขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าเธออย่างกระหายด้วยสายตาของเขา   เขาเห็นในสิ่งที่เธอเห็น ภาพการจูบกัน ภาพเนื้อเปลือยเปล่าที่สัมผัสกัน   ภาพร่างการประสานกัน   XXXXXXXXXXXXXXกันอย่างแนบชิด   ทั้งดูเหมือนจะรู้ว่าภาพต่างๆที่เห็นเป็นของอีกฝ่าย และ มาจากการสัมผัสเดียวกัน

                “ได้ค่ะ  แม่” เฮอร์ไมโอนี่พูด และยืนขึ้น  สงสัยว่าเสียงของเธอจะไม่สั่นไปมากกว่านี้ และเธอพยายามอย่างหนักที่จะไม่ล้มลง  แม้ว่าเข่าของเธอกำลังสั่นสะท้านอยู่ภายใต้ชุดที่เธอใส่  

    “ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะพา ลอร์ดดิกกอรี่ไปชมสวน”

                เธอเดินออกจากห้องทานอาหาร และรู้สึกว่าเซดริกอยู่ด้านหลังเธอ   ในขณะที่เธอเดินลงไปตามทางเดิน เพื่อไปยังประตูด้านหลังที่นำไปสู่พื้นที่สวยงามของพ่อเธอ   เธอหายใจแผ่วเบาเมื่อเธอรู้สึกว่ามือของเขาอยู่บนหลังของเธอในทันที   รอยเว้าเผยให้เห็นถึงเนื้อหนังจากชุดที่เธอใส่   ผิวระหว่างกระดูกสะบักของเธอถูกเผยให้เห็น และในตอนนี้  เขาสัมผัสเนื้ออันเปลือยเปล่าของเธอ   แต่เธอไม่ห้ามเขา ร่างกายของเธอรู้สึกเหมือนกับว่ามันติดไฟจากการสัมผัสครั้งหนึ่งจากเขา   เธอไม่คิดที่จะหยุดเขา

                “ผมรู้จักคุณ” เขาพูดพึมพำ และเขยิบเข้าไปอยู่ด้านหลังเธอจนหน้าอกของเขาชนด้านหลังของเธอ และ ริมฝีปากของเขาอยู่ใกล้หูของเธอมากที่สุด   มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะยืนอยู่ตรงทางเดินสนามของบ้าน ที่คนอื่นสามารถมองเห็นได้ชัดเจน   สมองของเขาถูกครอบงำโดยสมบรูณ์ด้วยสิ่งอื่น และความเหมาะสม คือ สิ่งสุดท้ายที่เขาจะใส่ใจ

                “ฉันจะรู้จักคุณได้อย่างไร” เธอถามด้วยเสียงกระซิบ   ดวงตาของเธอปิดลงในขณะที่เธอรู้สึกว่ามือของเขาค่อยสัมผัสสะโพกของเธอ และวางลงที่หน้าท้องของเธอชั่วขณะก่อนที่จะค่อยเขยิบขึ้นไปยังหน้าอกของเธอ   

    “เราเคยทำเช่นนี้มาก่อน”

                หัวใจของทั้งคู่เต้นแรง  เต้นรัวอยู่ในอก และพวกเขาหายใจอย่างหนักหน่วง   ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่ามือของเขา และริมฝีปากของเขาอยู่ที่เธอ เขาหมุนตัวเธอไปรอบๆ  แขนของเธอโอบล้อมรอบคอของเขาในทันที  ในขณะที่ปากของเขาประกบกับปากของเธอแน่น  จูบในทุกๆลมหายใจจากปอดของเธอ   มันรุนแรง  กระหาย  ทั้งคู่ไม่อาจเข้าใกล้อีกฝ่ายได้เพียงพอ   นิ้วมือของเธอยึดเส้นผมด้านหลังของเขาไว้ และ เขานำเธอไปด้านหลัง   จนกระทั่งเธอถูกกดปะทะกำแพง   แม้ว่าพวกเขาจะไม่อาจหายใจได้อีก  แต่พวกเขาไม่หยุดจูบกันและกัน

                แฮร์รี่ และ รอนทั้งคู่เมินหน้าหนีจากเพนชิพ  ในขณะที่เพื่อนรักของเขาใกล้ชิดกับเซดริกที่ตรงนั้น  ในทางเดินในที่ที่จะเป็นบ้านพ่อแม่ของเธอ    แฮร์รี่ขมวดคิ้ว นั่นคือเฮอร์ไมโอนี่ และเซดริกอย่างแน่นอน แต่เป็นศตวรรษก่อน     มันเกิดขึ้นได้อย่างไร  มันจะเป็นไปได้ยังไง  หัวของเขาเริ่มปวดจากการคิดเกี่ยวกับมัน   เขาได้แต่นึกภาพว่าเซดริก และ เฮอร์ไมโอนี่จะรู้สึกอย่างไรใน 2-3 เดือนหลังมานี้ นับตั้งแต่ที่เวทมนตร์เกิดขึ้นกับพวกเขาจริงๆ  

    “บ้าที่สุด” รอนกล่าว ปลายหูของเขาแดงก่ำด้วยความอายที่ได้เห็นเฮอร์ไมโอนี่ในสถานะดังกล่าว    “เวทมนตร์ได้ผลอย่างนั้นเสมอหรือไง  เร็วอย่างนั้นเลยเหรอ?”

                “นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างในชีวิตชาติหนึ่งของพวกเขาที่การเชื่อมโยงระหว่างพวกเขาแทบจะเกิดขึ้นในทันใด” ดัมเบิลเดอร์กล่าว  

    “โดยปกติแล้วมันใช้เวลา 2-3 วัน และบางครั้งกินเวลาเป็น 2-3 สัปดาห์ ก่อนที่คาถาจะมีอำนาจอย่างเต็มที่ระหว่างพวกเขา”

                แฮร์รี่ส่ายหัวเล็กน้อย  พยายามลบภาพเฮอร์ไมโอนี่ถูกเซดริกผลักเข้ากำแพง และจากนั้นหันกลับไปหาศาสตราจารย์ของเขา  

    “มันจะจบลงอย่างไรในชาตินี้  ชีวิตของพวกเขาจะเป็นอย่างไรครับ”

                “พวกเขาแต่งงานกันภายใน 2 สัปดาห์ และ เฮอร์ไมโอนี่จะย้ายไปอินเดียกับเซดริก พวกเขาจะอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 3 ปี และพวกเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่สุดในช่วงเวลานั้น”   ดัมเบิลเดอร์กล่าว และใช้มือตบที่ด้านหลังเขา

    แต่เฮอร์ไมโอนี่จะตายด้วยอุบัติเหตุจมน้ำอย่างน่ากลัว และเซดริกจะตายใน 2 วันต่อมา”

                แฮร์รี่คิ้วขมวด เขาเหลือบมองไปที่เพนชิพก่อนจะมองกลับไปที่ดัมเบิลเดอร์ 

    “ศาสตราจารย์ฮะ  เวทมนตร์นี้มาจากที่ไหน  ทำไมต้องเป็นเฮอร์ไมโอนี่และเซดริกล่ะ”   

                “พวกเขาจะ.....” รอนกระแอม และคิ้วของเขาขมวดเช่นกัน  

    “ตายใช่ไหม” เขาถามเสียงเบาๆ

                “ใช่  โชคไม่ดีเลยที่เป็นเช่นนั้น แต่เราทุกคนก็ต้องตาย คุณวีสลีย์ นั่นเป็นส่วนง่ายๆ” ศาสตราจารย์ที่แก่กว่า และฉลาดกว่าพูดก่อนหันหน้าไปหาแฮร์รี่ 

    “มันเริ่มต้นจากที่ไหนและเมื่อไหร่  ฉันเสียใจที่ไม่อาจรู้ได้  มีหลายชีวิตที่ถูกคัดสรร และมีบางชีวิตที่ฉันจำเป็นต้องเรียนรู้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น  ฉันจำเป็นต้องเข้าใจคาถาอย่างสมบรูณ์ก่อนที่ ฉันจะสามารถเริ่มต้นช่วยพวกเขาได้”  

    “คุณรู้ใช่ไหมว่าพวกเขาร่วม...”   

    “ใช่” ดัมเบิลเดอร์ตอบ ในขณะที่หน้าของรอนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเพราะคำถามที่เขาพยายามถาม

                “พวกเขาร่วมรักกัน และคาถาจะมีพลังสูงสุดเพราะมัน  ความคิดของพวกเขา  หัวใจของพวกเขาในตอนนี้ถูกเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน  ไม่มีคาถาใดที่มนุษย์รู้จัก ที่จะทำลายมันได้  เวลานี้พวกเขาอ่านความคิดของกัน และกันได้   ความทรงจำของพวกเขากำลังขยายย้อนกลับไปยังชีวิตเมื่อชาติที่แล้วในอดีต   เมื่อพวกเขาแยกจากกันร่างกายของพวกเขาจะพบกับความเจ็บปวดแบบที่ไม่มีมนุษย์คนไหนจะเข้าใจได้   ถ้าคนหนึ่งตาย อีกคนไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้”

                แฮร์รี่ และรอนอยู่ในความเงียบอีกครั้ง   ในขณะที่แต่ละคนพยายามทำความเข้าใจกับคำพูดของศาสตราจารย์   และแฮร์รี่พูดขึ้นก่อน 

    “เราจะช่วยพวกเขาได้อย่างไร ครับ  ศาสตราจารย์”

                ดัมเบิลเดอร์จ้องไปที่เด็กหนุ่มทั้งสอง และยิ้มให้จางๆ  ดัมเบิลดอร์รู้ว่าพวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเพื่อนรัก และรู้ดีว่าตัวเองต้องการให้พวกเขาช่วยเช่นกัน

    “ฉันอาจจะมีแผน”

                เฮอร์ไมโอนี่ร้องครางอยู่เบื้องล่างเขา  ในขณะที่ริมฝีปากของเขายังคงเข้าโจมตีร่างกายเธอ  ในขณะที่เขาค่อยเลื่อนตัวลงไปยังลำคอของXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX  ในแต่ละครั้งที่พวกเขาจูบกันหรือเมื่อเกิดความผูกพันกันอย่างใกล้ชิด ทางอารมณ์ที่รุนแรงของการร่วมรัก   พวกเขาจะเห็นภาพชีวิตเมื่อชาติที่แล้วที่พวกเขาเคยอยู่ด้วยกันแวบขึ้นมาเสมอ และในที่สุดพวกเขาสามารถที่จะแยกความแตกต่างว่าภาพที่เห็นเป็นภาพในชีวิตชาติไหน  พวกเขาไม่หวาดกลัว หรือสับสนกับภาพเหล่านั้นที่กำลังแสดงอยู่ตรงหน้าพวกเขาอีกต่อไปแล้ว  พวกเขายินดีรับภาพเหล่านั้น และเริ่มตื่นเต้นเมื่อพวกเขาค้นพบสิ่งใหม่จากมัน

                กลิ่นหอมซึ่งลอยอยู่ในอากาศเหนือเตียงห้องพยาบาลที่เธอนอน  เซดริกเคยได้กลิ่นดอกไม้นี้เมื่อหลายเดือนก่อนที่ควิดดิชเวิร์ดคัพ   การได้กลิ่นทำให้เขามองเห็นภาพที่เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อมือของเขาปัดถูกเฮอร์ไมโอนี่มันทำให้เขาสับสนมาโดยตลอด  แต่เวลานี่เขารู้แล้วว่ากลิ่นมาจากอะไร   มันมาจากชีวิตของพวกเขาที่อยู่ด้วยกันที่อินเดีย  ในสนามหญ้าเล็กๆที่บ้านของพวกเขาในบอมเบย์  เฮอร์ไมโอนี่ปลูกดอกไม้ทุกที่ และกลิ่นจะพัดผ่านหน้าต่างห้องนอนของพวกเขาในตอนเช้าตรู่ และมันจะส่งกลิ่นเพื่อปลุกเขาอยู่เสมอ

                เฮอร์ไมโอนี่บอกเขาว่ามัน คือ ดอกแซฟฟรอน ครอคัสที่เธอได้กลิ่นมันในบางครั้งเช่นจากช่วงชีวิตที่อยู่ในอินเดียกับเขา  เธอจำได้ว่าดอกไม่สีม่วงงดงามเป็นดอกไม้ที่เธอชอบ เธอปลูกมันมากมาย   จากการมองเห็นภาพต่างๆในอดีต  มันทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าหลังจากที่เธอจมน้ำ  ในพิธีศพของเธอ เซดริกนำดอกแซฟฟรอน ครอคัสมาวางเรียงรอบตัวเธอก่อนที่พวกเขาจะเผาเธอจนเป็นเถ้าถ่าน   และเซดริกตายหลังจากนั้น 12 ชั่วโมงและ ศพของเขาถูกเผาเช่นกันเดียวกันก่อนที่เถ้าถ่านของทั้งคู่จะถูกโปรยลงสู่มหาสมุทร

                ในเวลานี้ห้องพยาบาลเงียบสงัดและมืดมิด เว้นแต่เสียงหอบที่หนักหน่วง และแสงวาบสีแดงที่เกิดจากแผลเป็นของพวกเขา  นิ้วมือของเฮอร์ไมโอนี่ยังคงดึงเส้นผมของเขาไว้ และจับยึดหัวของเขาแน่น  ในขณะที่เขาบรรจงสร้างความสนใจทั้งหมดไปบนXXXXXXXXXXXXXXX  ดวงตาของเธอหรี่แคบลงและเธอสูญเสียการควบคุม   เธอไม่แม้แต่รู้สึกถึงการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของพวกเขาออกจนหมด  เธอหายใจหอบ  มือของเฮอร์ไมโอนี่ยึดกล้ามเนื้อของเขาไว้แน่น XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX    ครั้งหนึ่งร่างกายของเขาสั่นไปด้วยความกระหาย ต้องการเธอ   XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX และเตียงห้องพยาบาลเริ่มส่งเสียงดังเล็กน้อย  ในขณะที่ร่างกายของพวกเขาเคลื่อนที่ไปด้วยกัน มันกลมกลืนกันอย่างสมบรูณ์แบบ   XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX    เขามองไปที่เด็กสาวที่อยู่ใต้ล่าง  ลอนผมสีน้ำตาลของเธอกระจัดกระจายอยู่บนหมอน และทั้งร่างของเธอระยิบระยับด้วยหยดเหงื่อ  ตั้งแต่ใบหน้าที่อ่อนโยนของเธอไปสู่หน้าอกกลมกลึงXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX  เธอเป็นสิ่งสวยงามที่สุดที่เขาเคยเห็นมา

    XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX   ทั้งคู่ไม่คิดว่าจะมีใครเดินเข้ามาหาพวกเขาอีก   ทั้งคู่ไม่คิดถึงอะไรเลยเว้นแต่การคิดถึงกันและกัน

                XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX   เขาไม่อาจเข้าใกล้เธอได้อย่างเพียงพอ  มันไม่เคยพอเลยสำหรับเขา แม้ว่าเขาจะรู้สึกถึงเลือดที่สูบฉีดในร่างกาย  แต่จังหวะและความร้อนที่คุ้นเคยขับดันให้เขายิ่งดุดันขึ้นไปอีก XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXทุกๆการสัมผัสมันส่งคลื่นผ่านร่างกายเธอ ฉูบฉีดเร่งเร้าให้ผ่านทุกๆเส้นประสาท  ความกระหายส่งผ่านออกจากปากของเธอด้วยเสียงร้องคราง  XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX  มันทำให้เธอหายใจออกอย่างแรงด้วยความตกใจ และเธอปลดปล่อยลมหายใจออกจากปาก ในขณะที่เขาจูบเธออย่างหนักหน่วง

                “เฮอร์ไมโอนี่” เขากระซิบ  “เฮอร์ไมโอนี่” เขาฝังหน้าลงที่คอของเธอ และ ดูดผิวของเธอด้วยปาก  ในขณะที่เขาXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

                “เซดริก!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องเรียกในขณะที่เธอยึดร่างกายของเขาให้ใกล้ชิดร่างกายเธอ เธอรู้สึกได้ถึงXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX   เซดริกจูบใบหน้าของเธอทุกหนทุกแห่ง ที่ซึ่งริมฝีปากของเขาจะไปถึงได้ในขณะที่ร่างกายของพวกเขาทั้งคู่สั่นสะท้านจากการถึงจุดสุดยอดพร้อมกัน   พวกเขาถึงพร้อมกันเสมอทุกครั้ง

                “ฉันรักคุณ” เธอกระซิบ  ขาของเธอและแขนของเธอยังคงโอบล้อมตัวเขาไว้แน่น   ลมหายใจของเธออ่อนช้าลง  ค่อยๆช้าลง  จนกลับสู่ปกติ   เซดริกยกหัวขึ้นเพื่อดูว่าเธอกำลังร้องไห้หรืออย่างไร  แต่เธอส่ายหัว และยิ้ม 

    “นั่นไม่เพียงพอเท่าที่ฉันรู้สึกหรอก  ฉันรักคุณ  และมันน่าจะมีอะไรที่หนักแน่นกว่านี้ ที่ฉันจะพูดกับคุณได้”

                เซดริกยิ้ม และจูบเบาๆลงตรงริมฝีปากของเธอ   เขาไม่ได้พูดถึงมัน  แต่เธอรู้ว่าเขารู้สึกในแบบเดียวกัน

                ทั้งคู่ตกอยู่ในความเงียบสงบอีกครั้ง  ริมฝีปากของพวกเขายังคงเชื่อมโยงกัน  แต่ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง  เมื่อทันใดนั้นเกิดเสียงร้องของเด็กดังกึกก้องแทรกผ่านความเงียบของห้องพยาบาล เซดริกยกหัวขึ้น และถึงแม้จะรู้ว่าไม่มีอะไรอยู่รอบๆก็ตาม   แต่เขาก็มองไปรอบๆห้องที่ว่างเปล่ารอบตัวพวกเขาอีกครั้ง   เสียงร้องของเด็กทารกดังขึ้นและเฮอร์ไมโอนี่สูดลมหายใจสั่นระริก

                “เซดริก” เธอกระซิบ และ เขาหันหน้าไปมองเธอ 

                “เสียงลูกของเรา”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×