ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Harry Portter BELONG TO NOWHERE (harry/hermione)

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 10:คู่ทุกข์คู่ยาก

    • อัปเดตล่าสุด 26 มิ.ย. 53


    BELONG TO NOWHERE Chapter  10 คู่ทุกข์คู่ยาก

     

    ซิเรียสอ่านทวนข้อความเดิมอีกหลายครั้ง เหมือนไม่อยากจะเชื่อมือของเขาที่จับหนังสือเล่มนั้นเริ่มสั่นขึ้นมาเล็กน้อย

    ฉันคิดว่าในหนังสือเล่มนั้นมันคงหมายถึง การผูกมัดชัวนิรันดร์ซีเรียสพูดขึ้นมาหลังจากที่พยายามทำความเข้าใจไปกับมัน

    “หมายความว่าไงซีเรียส”ท๊องส์ถามเขาค่อนข้างแปลกใจ

    ฉันถามเธออย่างงี้ดีกว่า เลือดที่เฮอร์ไมโอนี่ใช้คือเลือดในนามของมิตรสหายใช่หรือไม่

    ท๊องส์ผงกศีรษะให้เขาใช่เธอคือเพื่อนและฉันคือครอบครัว ซีเรียส

    ซิเรียสถอนหายใจก่อนเคลื่อนมือของเขาผ่านผมดำยาวอย่างหมดหวังและมองดูเด็กผู้หญิงที่นอนไม่ได้สติอยู่บนพื้นในเงาสลัวๆของห้องด้วยความรู้สึกไม่สบายใจนัก

    ท๊องส์ฉันไม่สามารถผูกมัดเธอได้ เธออายุเพียงแค่สิบหกปีเท่านั้น โอ้ เมอลิน

    เธออายุสิบแปดท๊องส์พูดพึมพำและเหล่มองเขาด้วยความสงสัย

    แต่จะยังไงก็ตาม ฉันก็ยังแก่กว่าเธอ เธอไม่ควรจะมาแบกภาระการผูกพันเพื่อฉัน มันเป็นเรื่องที่ต่ำทรามเกินไป”ซีเรียสพูดด้วยน้ำเสียงที่อึดอีดและดูคลุมเครือ

    ฉันไม่รู้ว่าคูณพูดถึงเรื่องอะไรนะซีเรียส แต่เราจะต้องออกไปจากที่นี่ก่อนที่จะมีใครมาเจอ ฉันจะต้องใช้เวทมนต์เพื่อทำให้เธอฟื้นขึ้นมาก่อนท๊องส์กำลังร่ายเวทมนต์แต่ซิเรียสกลับห้ามเธอไว้เสียก่อน

    อย่าท๊องส์ท๊องส์มองไปที่เขาอย่างประหลาดใจ

    ซีเรียสมองท๊องส์ก่อนส่ายหน้าเบาๆไม่รู้สิท๊อง แต่ฉันมีความรู้สึกว่า พวกเราไม่ควรใช้เวทมนต์กับเธอ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

    ท๊องส์ครุ่นคิดเพียงชั่วครู่ก่อนพยักหน้าเห็นด้วยกับซีเรียสคุณพูดก็ถูก แต่ยังไงซะพวกเราก็ต้องออกไปจากที่นี่ ฉันคิดว่าเราไม่ควรปรากฏตัวให้ใครเห็นพวกเรา

    ต่อมาเธอได้เคาะไม้เรียวของเธอ ไปที่วัตถุที่ใข้ในพิธี เพื่อรวบรวมมันใส่ย่ามและหยิบผ้าฝืนใหญ่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเธอและคลุมตัวซีเรียสเอาไว้

    มานี่สิ”เธอกล่าวในขณะที่ซีเรียสประคองร่างของเฮอร์ไมโอนี่ไว้ ท๊องส์จับเขาไว้มือหนึ่งและท่องคาถาหายตัวไป

    ในเวลาต่อมา พวกเขาก็ได้ออกมาอยู่ข้างนอกของกระทรวงเวทมนต์อย่างปลอดภัย

    บุคคลแปลกหน้าสามคนปรากฏตัวอยู่ ณ สถานที่ ที่ไม่มีมนุษย์ธรรมดาคนไหนได้รู้จัก ด้านหน้า ของกริมโมเพลส  หญิงสาวดูท่าทางกังวลเล็กน้อย ราวกับว่าเธอกำลังคิดเกี่ยวกับบางสิ่ง

     เรารีบเข้าไปกันเถอะ รีมัสอาจจะอยู่ข้างใน ฉันคิดว่าบางทีคุณควรที่จะคลุมหน้าของคุณด้วยหมวกของเสื้อคลุมเสียก่อนดีกว่านะซีรีอัสหัวเราะเมื่อท๊องส์ใส่หมวกครอบลงบนหัวของเขามันคลุมหัวและใบหน้าของเขาจนมิด

    มูนนี่ที่น่าสงสารเขาคงจะหัวใจวายกันพอดีถ้าได้เจอฉัน ซีเรียสพูดติดตลก

    ในขณะนั้นผู้ที่ถูกกล่าวถึง รีมัส ลูปินกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ที่มีท้าวแขนและ กำลังดื่มบัตเตอร์เบียร์เขารู้สึกประหลาดใจว่าท๊องส์อยู่ที่ไหน เมื่อเขาได้ยินเสียงประคูข้างหน้าเปิด

    เขาประหลาดใจมากเมื่อเขาเห็นท๊องส์ที่ดูหมดแรงเข้ามาในห้องรับแขกและมีคนที่สวมหมวกคลุมปิดหน้าอยู่ด้านข้างของเธอและที่เลวร้ายกว่านั้นบุคคลนั้นกำลังประคองเฮอร์ไมโอนี่ไว้ที่วงแขน

    โอ้ว เมอลิน เกิดอะไรขึ้นท๊องส์รีมัสถามท๊องส์

    เอาไว้ที่หลังรีมัสท๊องส์พูดแล้วพยักหน้าให้กับคนที่สวมหมวกผู้นั้นให้พาเด็กสาวขึ้นไปชั้นบนสุด ชายสวมหมวกปิดหน้าประคองเฮอร์ไมโอนี่เดินตรงไปยังชั้นบนทันที

    รีมัสรู้สึกสับสนกับพวกเขาเล็กน้อยทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ

    คนคนนั้น และกลิ่นตัวของเขาเป็นกลิ่นที่รีมัสคุ้นเคยเป็นที่สุด เขารู้จักกลิ่นนั้นดี

     แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน! เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

    รีมัสสั่นหัวเล็กน้อยแล้วเดินตามคนแปลกหน้าขึ้นไป ท๊องส์ผ่านเข้าไปในครัว เธอต้องการใช้เตาผิงข้างกำแพงนั้นเธอจะต้องไปตามมัลกอลนากัลป์มาเพื่อรับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

    ชายแปลกหน้าวางเฮอร์ไมโอนี่ลงบนเตียงของแฮร์รี่ในขณะที่รีมัสเดินเข้ามาใกล้พวกเขา

    เออ คุณรีมัสกล่าวรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงที่เคอะเขินนี่ไม่ใช่ห้องของเฮอร์ไมโอนี่ ที่นี่เป็นห้องของแฮร์รี่

    ไม่คนแปลกหน้ากล่าวสั้นๆ และมันทำให้รีมัสสะดุ้ง สาเหตุผลน้ำเสียงนั้นเขารู้จักมันได้ดี

    โอ้ว มันเป็นไปไม่ได้รีมัสผงะถอยหลังและร้องคราง

    นี่เป็นห้องของฉันมูนนี่บุคคลแปลกหน้ากล่าวพร้อมกับที่เอาหมวกที่คลุมหัวออก

    ซีเรียส รีมัส ลูปินพูดเสียงเบาจนเกือบกระซิบนั่นเป็นคุณจริงๆเหรอ

    โธ่ มูนนี่เขากล่าวพร้อมกับยิ้มไปที่รีมัสซึ่งแสดงสีหน้าตกใจ

    นี่ฉันจะไม่ได้รับอ้อมกอดจากเพื่อนสนิทเลยหรือไงหลังจากที่รีมัสหายตกใจแล้วเขาจึงตรงเข้ามากอดซีเรียสไว้แน่นด้วยความดีใจแกมสงสัย

    ซีเรียส พวกเราคิดถึงคุณมาก แต่คุณกลับมาได้ยังไงกัน วิธีไหนรีมัสถามพร้อมถอยหลังออกมาและสำรวจดูซีเรียสอย่างพิจารณา

    พวกเราได้รับการช่วยเหลือจาก เฮอร์ไมโอนี่ แต่ว่าเธอ....

    รีมัสยิ้มและมองไปที่เด็กหญิงบนเตียงนอนแต่ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึมและซีดเผือดในเวลาต่อมา

    “เกิดอะไรขึ้นกับเธอ

    ซีเรียสกำลังจะตอบแต่เหลือบเห็นท๊องส์เดินเข้ามาในห้องตามด้วยศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลป์เมื่อมัลกอลนากัลมองเห็นซีเรียส แบล๊ค ยังมีชีวิตอยู่เธอถึงกับยืนตะลึงและรู้สึกตกใจอยู่ครามครัน

    มันเป็นความจริง สิ่งที่คุณบอกฉันมันเป็นเรื่องจริงนิมพาโดรามัลกอลนากัลพูดออกมาอย่างเหลือเชื่อ

    ถูกต้องค่ะ สิ่งที่ฉันบอกมันคือเรื่องจริง และฉันคือทิองส์ไม่ใช่ นิมพาโดราท๊องส์กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย

    คุณรู้อะไรไหม พอตเตอร์ วิสลีส์และเกรนเจอร์ตลอดเวลาเด็กๆพวกนั้นเป็นทุกข์เกี่ยวกับเรื่องของคุณเสมอมาซีเรียสยิ้มอย่างภูมิใจ ทำไมเขาจะไม่รู้พวกเด็กๆนั่นรักเขามากแค่ไหนและเขาเองก็เหมือนกัน

    แต่ช่วยบอกความจริงกับฉันว่าเกิดอะไรขึ้นมัลกอลนากัลป์ มองทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นเพื่อต้องการคำตอบ และท๊องส์เองจึงเป็นฝ่ายเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นเสียเอง

    ภาระผูกพันมัลกอลนากัลป์และรีมัสตะโกนร้องออกมาในเวลาเดียวกัน ท๊องส์ยื่นหนังสือที่มีข้อความที่หายไปและปรากฎขึ้นมาให้มัลกอลนากัลดู ศาสตราจารณืใหญ่รีบคว้าหนังสือขึ้นมาดูอย่างรวดเร็วสายตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล

    และต่อมาเธอก็เป็นลมยังงั้นใช่ไหม มัลกอลนากัลป์ถาม

    ใช่ครับซิเรียสตอบกลับความคิดครั้งแรกเราคิดว่าเป็นเพราะอารมณ์ความเครียดของเธอแต่ต่อมาฉันก็คิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องอื่นโดยเหตุนี้ฉันจึงไม่ให้ท๊องส์ใช้เวทมนต์กับเธอ เพราะมันอาจจะทำอันตรายกับเธอได้

    มันเป็นภาระผูกพันมินอลว่า พึมพำ

    อะไรนะซีเรียสถามค่อนข้างกังวล

    มันคือภาระผูกพัน คุณและมีสเกรนเจอร์มีความผูกพันซึ่งกันและกัน ซีเรียสฉันถามคุณหน่อยคุณในตอนนี้ร็สึกอย่างไรกับเธอ คุณในตอนนี้คิดกับเธออย่างไร

    เออ...ก็ดีชีเรียส พูดตะกุกตะกักเล็กน้อย ผมชอบเฮฮร์ไมโอนี่นะ....งแต่ เออ ฉันไม่คิดว่า เอ้อ บางทีดับเบิ้ลดอร์...”ซีเรียสชะงักเมื่อมองเห็นทุกคนมีสีหน้าแปลกๆ

    “.อะไร ทำไมคุณถึงมองกันแปลกๆ”เขาถามห้วนๆ

    เออ ซีเรียส เออ ฉันจะพูดว่ารีมัสกลินน้ำลายและมองซีเรียสเขม็ง

    ซีเรียสคิ้วขมวดเขากอดอกมองดูเพื่อนของเขาก่อนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

    เกิดอะไรขึ้นรีมัส

    ซีเรียส ดับเบิ้ลดอร์ตายแล้วรีมัสกลั้นใจพูดและมองซีเรียสที่ตอนนี้ใบหน้าของเขาซีดเผือดไปหมดแล้ว

    อะ อะไร  ยังไง เมื่อไร

    เสนปฆ่าเขา รีมัสกล่าว

    อะไรนะซีเรียสอุทานเสียงดังและแทบจะกระโจนเข้าไปหาเพื่อนของเขา ถ้าไม่ใช่รีมัสเดินมาหาเขาเสียก่อน

    คุณได้ยินที่ผมพูดนั่นแหละ ซีเรียส รีมัสยืนยันเสนปฆ่าดับเบิ้ลดอร์ แต่ มันไม่ใช่อย่างนั้น ตามความเป็นจริงดับเบิ้ลดอร์เป็นคนสั่งให้ฆ่าเอง ดับเบิ้ลดอร์ได้มีจดหมายและหน่วยความจำส่วนหนึ่งในแพนซีฟแต่เราจะพูดเรื่องนี้ในภายหลัง

    ก็ได้ แต่ฉันจะต้องรู้เรื่องนี้ทุกเรื่อง มันนานแค่ไหนแล้วกับเรื่องเหล่านี้ซีเรียสพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

    หนึ่งปีครึ่งมัลกอลนากัลป์พูดน้ำเสียงจริงจัง “แต่อย่างไรก็ตามเราจะต้องเอาใจใส่เกรนเจอร์กันเสียก่อน ฉันไม่คิดว่าฉันจะทำสิ่งใดได้ บอกตามตรงฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้มาก่อนแต่ฉันคิดว่าฉันรู้ว่าใครสามารถช่วยเราได้และตอนนี้ฉันคงต้องขอตัวก่อน

    และเธอก็ออกจากห้องไปอย่างรีบเร่งโดยไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากของเธออีกเลย ท๊องส์.รีมัส,ซีเรียส มองหน้ากันและกัน แต่ไม่ได้พูดสิ่งใดเพียงแต่รอคอยศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลอย่างใจจดใจจ่อเท่านั้น

    ประมาณสิบนาทีต่อมารีมัสกับท๊องส์เริ่มมีการพูดคุยกับซีเรียสเพื่อคั่นเวลา แต่เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้นเมื่อมัลกอลนากัลป์กลับมายังห้องนอนอีกครั้งแต่คราวนี้เธอไม่ได้มาเพียงลำพัง ข้างๆของเธอเป็นศาสตราจารณ์ร่างเล็ก ศาสตราจารณ์ฟลิกวิค เมื่อฟลิกวิคมองไปที่ซิเรียสเขาส่งเสียงอุทานแหลมเล็กอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนที่จะหันมาที่ท๊องส์

    ขอฉันดูหนังสือเล่มนั้นหน่อย มีสท๊องส์ศาสตราจารณ์ที่หลงใหลในตำรากล่าวขึ้น

    โอ้ว ค่ะ จริงสิท๊องส์พูดขึ้นและคว้าหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆแล้วยื่นหนังสือให้แก่ฟลิกวิคผู้ซึ่งอ่านมันอย่างรวดเร็วหลังจากอ่านหนังสือจบฟลิกวิคก็ปิดมันและเดินไปยังเฮอร์ไมโอนีเขาชี้ไม้กายสิทธิ์ของเขาไปที่เธอและเริ่มคุยเสียงสูงๆต่ำๆเขาคุยในภาษาที่ไม่มีใครอื่นจะเข้าใจได้

    เขาพูดอะไรซีเรียสกระซิบโดยไม่เจาะจงใคร

    เขากำลังพูดภาษาก๊อบลินมัลกอลนากัลป์ตอบกลับ

    ซีเรียสจะพูดบางอย่างเมื่อฟลิกวิคเริ่มพูดเสียงดัง และเป็นภาษาอังกฤษ

    มีสเกรนเจอร์อยู่ในอันตรายเธอกำลังนอนหลับบอกฉันคุณแบล็กคุณมีเวทมนต์พิเศษใดๆหรือไม่

    ฮะ ผมไม่รู้ซีเรียสทำหน้าเหรอหราและแปลกใจในคำถามของชายร่างเล็กนิดหน่อย

    คุณเห็นมิสท๊องส์อยู่ที่นี่เปลี่ยนสภาพไหมฟลิกวิคถาม และมันทำให้ซีเรียสพอจะเข้าใจ เนื่องจากเขาเป็นเอนิเมจัสและผู้ที่เป็นเอนิเมจัสจะมีความสามรถพิเศษที่จะมองเห็นร่างเอนิเมจัสของผู้อื่นได้เช่นกัน

    โอ้วใช่ ฉันเป็นอนิเมจัสซีเรียสอุทานออกมา

    เด็กผู้หญิงที่น่าสงสาร”ฟลิกวิคส่ายหน้าและพูดขึ้นมาอย่างเศร้าสร้อย

    อะไรพวกเขาถามเสียงดัง

    เกิดอะไรขึ้น ฟิลเลียสมัลกอลนากัลป์ถาม

    คุณดูนี่สิมินอว่า”ชายร่างเล็กซี้มือไปที่ร่างหญิงสาว” มีสเกรนเจอรไม่ได้นอนอยู่บนเตียงนั้น เธอคือ.... ฉันจะพูดว่าอย่างไรดี มันเป็นผลจากการทำงานของภาระผูกพันธ์ระหว่างเธอกับซีเรียส สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับเธอมากนัก แต่....

    แต่อะไรซิเรียสถามเหมือนต้องการจะรู้

    คุณและเธอต้องร่วมมือกันฟลิกวิคพูดความกมายดูคลุมเครือ

    แต่ฉันไม่ได้ชอบเธอนี่ซีเรียสกล่าวเสียงแหบแห้ง

    คุณได้เกิดใหม่แล้วในตอนนี้ และคุณก็เป็นส่วนหนึ่งของพิธี คุณได้ดื่มน้ำยาซึ่งผสมไปกับเลือดของเธอ นั่นแสดงว่าคุณมีส่วนหนึ่งของเธอเลือดของเธอและจิตวิญญาณของเธอฟลิกวิกพยายามอธิบายอย่างลำบากเล็กน้อย

    พระเจ้าช่วย แต่ท๊องส์ก็ด้วย ฉันดื่มเลือดเธอเช่นกัน

    มีสเตอร์แบล็ค มีสท๊องส์เป็นสายเลือดเดียวกันกับคุณ เธอเป็นเครือญาติของคุณ และเธอก็ไม่ได้เป็นคนแรกที่สะกดคุณ”

    ซีเรียสหน้าซีดเผือดเมื่อเขาเริ่มเข้าใจในสิ่งที่ชายร่างเล็กไอธิบายไป

    ฟลิกวิคหันมาทางมัลกอลนากัลป์ที่หน้าซีดไม่แพ้กันกับคนอื่นๆเท่าไหร่นัก

    “ในตอนนี้ มินอร์ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่สามรถกลับไปเรียนที่นั้นได้อย่างน้อยๆก็สองสามวันนี้

    ศาสตราจารณ์ฟลิกวิค คุณยังไม่ได้บอกผมเลยว่าเกิดอะไรกับการแปลงร่างของผมซีเรียสถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่เข้าใจในเรื่องนี้เมื่อศาสตราจารณืถามถึงร่าเอนิเมจัสของเขา

    ฟลิกวิคยิ้มให้ซีเรียสเล็กน้อยเธอจะกลายเป็นเอนิเมจัสเหมือนคุณ จะอย่างไรก็ตามการเปลี่ยนสภาพของเธอมันคงจะสร้างความเจ็บปวดมากกว่าของคุณ เมื่อคุณกลายร่างเป็นเอนิเมจัสในครั้งแรก

    เจ็บปวดยังไงฮะรีมัสถาม

    ฟลิกวิคถอนหายใจแล้วกล่าว เธอจะเป็นเอนิเมจัสในคืนหนึ่ง

    เธอคงไม่สามารถรับมือกับความเจ็บปวดนั้นได้มัลกอลนากัลถอนหายใจอย่างรู้สึกสงสารและหดหู่

    ฉันรู้ดังนั้นฉันจึงคิดว่าฉันจะช่วยเธอบางอย่างเพื่อลดความเจ็บปวดโดยใช้คาถาระหว่างที่เธอเปลี่ยนร่าง มันเป็นเทคนิคบางอย่างที่ฉันได้รับการสอนจาก บรรพบุรุษกอบลินของฉัน”ฟลิกวิคพูดอย่างภาคภูมิใจในตระกูลของเขาก่อนจะหันมาทางซีเรียสแล้วถาม

     บอกฉันสิว่า เอนิเมจัสของคุณคืออะไร

    เออ ผมเป็นสุนัข

    ฟลิกวิคมีรอยยิ้มที่หน้าและพยักหน้ารับรู้เล้กน้อย

    มีสเกรนเจอร์ก็จะเป็นสุนัขเหมือนคุณ สุนัขเพศเมีย คู่ทุกข์คู่ยากของคุณซีเรียส เบิกตากว้าง

    คู่เหรอ ไม่ เธอไม่ใช่คู่รักของฉัน เธอยังคงเป็นเด็กอยู่เลย"ฟลิกวิคสั่นหัวของเขาไปมา

    มีสเตอร์แบล็ค

    โปรดเรียกฉันว่า ซีเรียส

    ถูกต้องซีเรียส แต่คุณกำลังเข้าใจผิดกับคำว่า คู่ทุกข์คู่ยากและความผูกพัน คุณและเธอมีความผูกพันกันในตอนนี้แต่สิ่งนั้นมันไม่ใช่ที่จะต้องทำกับคู่รัก หรือข้อผูกมัดกับความรัก

    ซีเรียสคลายความเครียดลงขณะที่ฟังฟลิกวิคอธิบาย

    คุณมีความรู้สึกผูกพันแต่ไม่ใช่เกี่ยวกับเรืองรักใคร่ ส่วนเธอมีความรักความผูกพันธ์ไปแล้วกับใครบางคนที่ฉันเองก็ไม่รู้ มันเป็นเพียงแต่สิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นหรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้

    ซีเรียสผงกศรีษะรับและถอนลมหายใจเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดที่มีมานาน

    ดีแล้ว ถ้าเช่นนั้น ฉันคิดว่าพวกเราควรจะต้องออกไป....”มัลกอลนากัลป์พูดค้างแค่นั้นเมื่อชายร่างเล็กพูดขัดขึ้นเสียก่อน

    ไม่   ซีเรียสจะไม่ออกห่างจากมีสเกรนเจอร์ เขาจะต้องอยู่ข้างๆเธอในขณะที่เธอเปลี่ยนร่าง....เออ.....นกฟีนิกซ์จะไม่กลับมาฟลิกวิคพูดขึ้นมาอย่างช้าๆและทำให้ท๊องส์ถึงกับตาโต

    โอ้ว ใช่ ท๊องส์ร้องอุทานฉันลืมมันไปเลย

    บอกฉันมีสท๊องส์ คุณเป็นผู้ใช้เลือดในนามของครอบครัวชื่อของใครที่คุณพูดถึงฟลิกวิคถามและมองเธอ

    ฉันใช้ชื่อของรีมัสท๊องส์พูดไปตามตรง

    และถ้าจะให้ฉันเดามีสเกรนเจอร์ควรจะพูดถึงชื่อของพอตเตอร์สินะฟลิกวิคเดาได้ถูกต้องเมื่อท๊องส์พยักหน้ารับ

    ใช่ค่ะ

    พอตเตอร์ จะต้องไม่รู้เรืองที่เกิดขึ้นนี้ จนกว่านกสีน้ำเงินจะกลับมาเขาพูดเสียงต่ำและค่อนข้างขึงขัง

    แต่ทำไมล่ะท๊องส์ถามอย่างสงสัยและดูเหมือนทุกคนเองก็เช่นกัน

    เขาคือเหตุผล...เหตุผลของมีสเกรนเจอร์สำหรับพิธีนี้คือมีสเกรนเจอร์นำซีเรียส แบล็คกลับมาไม่ใช่เพราะตัวเธอเองแต่เพื่อพอตเตอร์ ดังนั้นพอตเตอร์ต้องไม่รู้เรื่องใดๆสิ่งนี้มันเป็นข้อผูกมัดระหว่างมีสเกรนเจอร์และซีเรียส ซึ่งมันจะไม่สมบูรณณ์ถ้าพวกเขารับรู้

    คูณหมายถึงว่าและพวกเขาจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อ นกสีน้ำเงินกลับมาแล้วยังงั้นเหรอครับซีเรียสถามด้วยความสงสัย

    แต่ถ้าแฮร์รี่ค้นพบในสิ่งที่พวกเราทำกันก่อนที่นกสีน้ำเงินจะกลับมาเล่ารีมัสถามขึ้นบ้างและดูเหมือนคำถามจะตรงใจกับทุกๆคน

    นั่นนกสีน้ำเงินจะกลับมาเช่นกัน เพียงแต่จะมาเอาชีวิตของเกรนเจอร์ไปเท่านั้น

    คราวนี้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างมองหน้ากันและกันอย่างเคร่งเครียดกว่าเดิม

    เช้าวันถัดมาที่ฮ๊อกวอตส์

    ห้องโถงใหญ่

    รอน ฉันคิดว่าเราควรคอยเฮอร์ไมโอนี่แฮร์รี่พูดเป็นครั้งที่ร้อยแล้วในวันนี้เขากำลังวิตกเกี่ยวกับความฝันของเขาความฝันที่เกี่ยวกับเฮอร์ไมโอนี่ ซีเรียส และนกสีน้ำเงิน

    แฮร์รี่เพื่อนรักรอนกล่าวเฮอร์ไมโอนี่บอกพวกเราตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วว่าเธอมีอะไรต้องทำก่อนอาหารเช้าพวกเราไม่จำเป็นต้องคอยเธอ

    ฉันรู้  แต่เธอมาสายมากเลย กริฟฟรินดอร์ทั้งหมดอยู่ที่นี่กันแล้วแฮร์รี่ตอบกลับ รู้สึกสบายใจเมื่อเห็นดีนอยู่ที่นี่เช่นกัน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้อยู่กับเขา

    รอนกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง เมื่อแอนโทนี่ กอดสตีลเขามาใกล้พวกเขา

    แฮร์รี่ รอน เมื่อคืน เฮอร์ไมโอนี่หลับอยู่ที่หอกริฟฟรินดอร์หรือเปล่า

    แฮร์รี่มองไปที่ประธานนักเรียนชายอย่างตกใจ

    ไม่ .. ทำไม

    เธอไม่ได้นอนที่หอประธานนักเรียนเมื่อคืนนี้ ตามความเป็นจริง เธอบอกว่าเธอต้องการจะคุยกับรอน และ แอนโทนี่มองไปที่รอนอย่างสงสัย

    และ อะไรแฮร์รี่รีบถามอย่างเป็นกังวล

    แอนโทนี่ยักไหล่และก็ไม่เห็นกลับไปอีกเลย

    แต่เธอไม่ได้มาคุยกับรอนเมื่อคืนนี้ จริงไหมรอนรอนไม่ได้ตอบแฮร์รี่ตอนนี้เขากำลังหน้าซีด

    รอนแฮร์รี่ถามซ้ำและมองหน้ารอนอย่างแปลกใจเมื่อรอนจับเขาและลากออกไปจากโต๊ะแฮร์รี่ฉันต้องการที่จะคุยกับนาย เพียงลำพัง

    แฮร์รี่ รอน บางทีเฮอร์ไมโอนี่อาจจะหลับอยู่ในห้องต้องประสงค์จินนี่กล่าวอย่างมุ่งร้ายเธอต้องการให้พวกเขาเข้าใจว่าเฮอร์ไมโอนี่แอบไปทำอะไรกับดีนละอ่อนเพลียจนหลับไป

    ไม่...ฉันอยู่ในห้องต้องประสงค์เมื่อคืนฉันกำลังฝึกคาถาและเมื่อฉันกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นรวมรอนกำลังทำเรียงความอยู่กับเซมัสและดีนนั่นทำให้จินนี่สงบปากสงบคำลงข้ดข้องใจ

    แฮร์รี่รอนกระตุ้นเขาอีกครั้งฉันต้องการคุยกับนาย

    แฮรืรี่ รอน และกอสตีลเดินออกไปจากโต๊ะกริฟฟรินดอร์ แอนโทนี่ เดินไปยังโต๊ะเรเวคอล ในขณะที่รอนและแฮร์รี่ออกไปจากห้องโถงใหญ่ จินนี่ต้องการจะไปกับพวกเขาแต่รอนบอกว่าพวกเขาอยากอยุ่เป็นการส่วนตัวมากกว่า

    ภายนอกห้องโถงใหญ่

    เอาละคราวนี้บอกฉันสิรอน นายต้องการจะพูดอะไรกับฉันแฮร์รี่กอดอกและจ้องเขม็งไปที่รอนอย่างจริงจัง

    นายรู้ไหม เมื่อคืน เออ เธอมาหาฉันรอนพูดตะกุกตะกักเหมือนมีชนักติดหลัง

    แต่เมื่อกี้นายบอกแฮร์รี่กล่าวอย่างโมโห

    รอนส่ายหน้าอย่างอัดอั้น เธอไม่ให้ฉันบอกนาย เธอบอกกับฉันว่า เธออยากให้ฉันช่วย

    ช่วยอะไร แฮร์รี่ถามรู้สึกกลัวกับคำตอบเล็กน้อย

    เธอต้องการเสื้อคลุมล่องหนขอนายมนที่สุดรอนก็พูดโพล่งออกมา

    อะไร…..แต่แฮร์รี่หยุดพูดทันทีเมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังเข้ามาใกล้หอประชุมใหญ่และตรงที่เขายืนอยู่  แฮร์รี่ไม่รู้อะไรหรือทำไมถึงทำให้เขาต้องทำแบบนี้แต่อย่างรวดเร็ว เขาและรอนหลบซ่อนอยู่ข้างหลังเสาต้นใหญ่ และอแบมองดูผู้ที่เดินมานั่นคือศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลและศาสตราจารณ์ฟลิกวิตศาสตราจารณ์ร่างเล็กที่ดูเหมือนเหนือยมากจากอะไรสักอย่าง

    เธอเป็นอย่างไรบ้างฟิลเลียสมัลกอลนากัลถามอย่างกังวลเมื่อเห็นสีหน้าอันอ่อนเพลียของชายร่างเล็กเชื้อสายกอบลิน

    ฉันไม่เป็นอะไร มินอว่า แต่อย่างน้อย เธอก็ไม่อยู่ในความเจ็บปวด มีสเกรนเจอร์เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมากฟลิกวิคกล่าวชม

    ใช่  ฉันรู้

    มักกอลนากัลป์ จะเปิดประตูห้องโถงใหญ่แต่ก็ชะงักเมื่อฟลิกวิคพูดอะไรบางอย่าง

    แต่จำไว้มินอว่าพอตเตอร์จะต้องไม่รู้อะไรที่เกิดขึ้น

    มินอว่า มัลกอลนากัลป์ พยักหน้า แล้วพวกเขาก็เข้าไปด้านในห้องโถงใหญ่โดยที่ไม่รู้ว่าคนที่เขาเอ่ยถึงมองลอดเสาออกมาด้วยสีหน้าสงสัยเป็นทวีคูณ

    ข้างหลังเสา รอนและแฮร์รี่ มองกันและกันอย่างกังวล

    ฉันจะต้องค้นพบให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฮอร์ไมโอนี่ รอน เก็บคำพูดของฉันไว้ ฉันจะต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”แฮร์รี่กล่าวย้ำอย่างมั่นใจพลางครุ่นคิดไปที่เพื่อนรักของเธอเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×