ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry potter I never regretted that she lovers (เดร/เฮอร์)

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter : ความหึงหวงเป็นเหตุ

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 53


    Harry potter I never regretted that she lovers (เดร/เฮอร์)

    Chapter 10  ความหึงหวงเป็นเหตุ

    เดรโก มัลฟอย สะบัดตัวไปมาอย่างรุนแรงด้วยท่าทางอึดอัดกับเชือกเวทมนต์ที่รัดเขาอยู่ในเวลานี้ เขานั่งเผชิญหน้าอยู่ไมไกลกับเด็กสาวบ้านเรเวคอลเพื่อนสาวของเกรนเจอร์  เขารู้สึกหงุดหงิดและโมโห เมื่อสายตาของเขาจับจ้องไปที่เธออย่างมุ่งร้าย

    ในขณะนั้นแคทเธอลีนนั่งมองเขาอย่างอึดอัดและไม่ไว้ใจ เดรโกพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะไม่แสดงอาการโวยวายอะไรนอกจากการโกรธเกรี้ยวผ่านสายตาเย็นชาของเขาอย่างชัดแจ้งท่าทางโกรธเกรี้ยวของเขาไม่ได้ซ่อนเร้นมิดชิดนัก เพราะเขาไม่พยายามจะซ่อนมันและแคทเธอลีนก็รู้จักในตัวตนของเขาดีเขาหยิ่งจองหองและยโสโอหังเป็นนิสัยอยู่แล้วและแคทเธอลีนคงต้องระวังตัวหนักหน่อย

    "”มื่อไหร่เธอจะปล่อยฉันเสียที" เดรโกถามอย่างเหลืออดหลังจากเกิดความเงียบงันอันหน้าอึดอัดอยู่นาน

    “ต้องรอเฮอร์ไมโอนี่ก่อน”เธอพูดอย่างระวัง

    “แล้วเมื่อไหร่ล่ะ ยายเลือดโสโครกนั่นถึงจะมาเสียที”เขาทำเสียงแข็งอย่างโมโห

    “ฉันไม่รู้”แคทเธอลีนส่ายหน้าและหลุบตาลงต่ำเพื่อหลบสายตาของเดรโกที่จ้องมองเธอ

    เดรโกหลับตาลงเล็กน้อยเพื่อสงบสติอารมณ์ในตอนนี้ สงบไว้เป็นการดีที่สุด เขาคิด ความโมโหโทโสอาจทำลายทุกสิ่งได้ มันเป็นข้อคิดอย่างหนึ่งที่พ่อของเขามักจะสอนเขาเสมอยามที่อารมณ์โมโหเข้าครอบงำ

    “ถามจริงๆเถอะ ยายนั่นไปทำอะไรที่ไหน ทำไมต้องมัดฉันด้วย”เธอลังเลที่จะตอบทำให้เดรโกหัวเราะเบาๆ”ถูกมัดไว้แบบนี้เธอคิดว่าฉันจะไปทำอะไรใครได้”

    แคทเธอลีนจ้องกลับ สีหน้ายังอ่านไม่ออก “เฮอร์ไมโอนี่ก็แค่ไปเอาของ ของๆเธอกับเพื่อนๆเธอเท่านั้น”เธอพูดในท้ายที่สุด

    “ของอะไร ที่ไหน”เขาซักพลางขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด

    “เออ”แคทเธอลีนนิ่งเงียบชั่วอึดใจ

    “ว่าไง”เดรโกกระตุ้น

    เธอนิ่งเงียบไปนานก่อนจะพูดขึ้นอย่างลังเล

    “ก็นายเอาคางคกของเนวิลล์ไปแล้วก็ข้าวของอีกสองสามอย่าง”

    “คางคกของลองบัตทอมนะใช่ แต่ของเกรนเจอร์คืออะไร”เขาเลิกคิ้วเหมือนสงสัยในอะไรบางอย่างแต่ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นเบิกตากว้างด้วยความตกใจ”นี่เธอคงจะไม่บอกฉันใช่ไหมว่ายายเกรนเจอร์เข้าไปเอาคางคกอุบาทนั้นในห้องของฉันที่หอนอนสลิธลีนน่ะ”

    “ฉันกำลังจะบอกแบบนั้น”เธอยิ้มเฝื่อนๆเดรโกชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ

    “พวกเธอคิดบ้าๆอะไรกัน บ้าเอ๋ย ยายนั่นเข้าไปได้ยังไงกัน”

    “เฮอร์ไมโอนี่แค่เอาผมของนายไปแล้วปรุงน้ำยาสรรพรสเพื่อปลอมตัวเป็นนายก็เท่านั้น”เดรโกหัวเราะเล็กน้อยเมื่อฟังเธอพูดจบ เขาน่าจะรู้จักเกรนเจอร์ดีพอ เก่ง กล้าสามารถและฉลาดเหลือล้ำแต่เขากลัวว่าความฉลาดของเธอจะทำให้เธอไม่เฉลียวใจและพลั้งเผลอจนทำให้เธอถูกจับได้ เดรโกเผลอตัวนิ่วหน้า แต่! เดี๊ยวก่อน ทำไมเขาต้องเป็นห่วงเธอด้วย เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเสียหน่อย เธอเป็นได้ก็แค่เลือดสีโคลนสกปรกกับหนึ่งในศัตรูของเขาเท่านั้น ถ้าเธอโดนจับได้เขาน่าจะดีใจถึงจะถูกสิ แต่....ตอนนี้.....เขากลับกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก

    “ให้ตายสิ เก่งกล้ากันจริงๆไม่กลัวว่าจะถูกจับได้หรือยังไงกัน”เขาพูดออกอาการหงุดหงิด

    “ฉันรู้.. แต่ “แคทเธอลีนหยุดพูด เมื่อเธอรับรู้ถึงเสียงบางอย่างที่ดังอยู่ใกล้ๆบริเวณนั้น

    “เมี้ยว เมี้ยว” เดรโกและแคทเธอลีนต่างมองหน้ากันและเอียงหูฟังอย่างตั้งใจอีกครั้ง

    “เสียงแมว หวังว่าคงจะไม่ใช่คุณนายนอริสหรอกนะ ”เดรโกพูดขึ้นในขณะที่แคทเธอลีนหน้าซีดนั่งตัวแข็งทื่อ ราวโดนสาปเธอค่อยๆหันไปมองและจับตานิ่งอยู่ทางเข้าของซุ้มต้นไม้อย่างลุ้นระทึกและในทันใดนั้นเสียงแหบห้าวต่ำลึกของใครคนหนึ่งซึ่งดังขึ้นไม่ไกลจากจุดที่พวกเธอซ่อนตัวอยู่ดังขึ้น

    มีอะไรผิดปกติเหรอ หวานใจตอนนี้เรามีเวลาอีกนิดก่อนจะไปพบกับศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลนะถ้าแกพบอะไรผิดปกติก็รีบๆเข้าหน่อย

    แย่ละเสียงฟินท์เธอเอามืออุดปากตัวเองเหมือนไม่ต้องการให้ลมหายใจของเธอถูกเจ้าแมวปีศาจจับทิศทางได้

    เดรโกฉีกยิ้ม ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาภายในสมองเจ้าเล่ห์ของเขา

    ฉันว่านะแคทเธอลีน ทางที่ดีเธอควรรีบปล่อยฉันก่อนดีกว่าก่อนที่ไอ้แมวบ้านั่นจะพาไอ้ภารโรงโรคจิตเข้ามาและเห็นสภาพของฉันในตอนนี้

    แต่....เฮอร์ไมโอนี่ไม่ให้ฉันปล่อยนายนี่

    ฟังนะ ถ้าฟินท์เข้ามาและเห็นฉันในสภาพแบบนี้เธอจะอธิบายกับฟินท์ว่ายังไงแคทเธอลีนกัดริมฝีปากตัวเธอเอง รู้สึกผิดนิดๆถ้าจะปล่อยมัลฟอยไป แต่ถ้าฟินท์มาเจอพวกเธอในสภาพแบบนี้ คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาคำอธิบาย หรือข้ออ้างอะไรที่ฟังดูดี แคทเธอลีนลองคิดหาเหตุผลแก้ตัวที่พอจะฟังขึ้นมาสักข้อ แต่...เธอก็คิดไม่ออก  มาถึงที่สุดในตอนนี้มันคงไม่มีประยชน์อีกแล้วที่จะรั้งตัวเดรโกเอาไว้ เธอคิดพลางถอนหายใจ

    แต่...

    อย่าลืมสิแคทเธอลีน ปีสุดท้ายแล้วเธออยากโดนกักบริเวณงั้นเหรอ ฉันว่าครอบครัวเธอคงจะไม่ยินดีกับมันสักเท่าไหร่หรอกใช่ไหม อีกอย่างการโดนกักบริเวณมันไม่น่าสนุกสักเท่าไหร่ด้วย

    แคทเธอลีนพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจเธอเคยได้ยินเสียงโอดครวญด้วยความหวาดกลัวเรื่องการโดนกักบริเวณจากเพื่อนๆของเธออยู่บ่อยๆ มันฟังดูน่าหวาดกลัวนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากฟินท์ซึ่งไม่เคยปราณีเด็กนักเรียนคนไหนมาก่อน

    ถ้าฉันปล่อยนาย....แล้วเดรโกนิ่งเงียบเหมือนกำลังใคร่ครวญบางอย่าง ในที่สุดเขายิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ร์โดยที่แคทเธอลีนไม่ทันได้สังเกต

    ต่างคนต่างไป ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก และฉันจะไม่เอาเรื่องพวกเธอด้วย

    เธอตวัดสายตาขึ้นมองเขาและพยายามตัดสินว่าทำไมจู่ๆเขาถึง....ใจดีนัก เธอลังเลสายตาเลื่อนจากเขาไปทางเสียงนั่นและกลับมาที่เขาอีกครั้ง

    สัญญานะมัลฟอย

    โธ่เว๊ย เธอจะถ่วงเวลาอีกนานไหมเสียงของเขาเริ่มไม่สบอารมณ์

    ก็ได้ ก็ได้ ฉันจะปล่อยนายเธอยืดตัวขึ้นและชี้ไม้วิเศษไปที่เขาพร้อมกับท่องคาถาคลายเชือกให้กับเขา วู้เดรโกคำรามขึ้นอย่างพอใจ เขาขยับตัวไล่ความปวดเมื่อยเล็กน้อย

    ทำไงต่อดีล่ะมัลฟอยแคทเธอลีนถามอย่างหวาดวิตกเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของฟินท์เดินเข้ามาใกล้ทุกขณะ เดรโกหันไปมองรอบๆโพรงและชี้ไปทางด้านหลังของโพรงไม้นั่น

    ออกทางด้านหลังเร็วเข้าแคทเธอลีนรีบลนลานคลานไปยังจุดที่เดรโกชี้มีช่องว่างในแนวของพุ่มไม้บริเวณด้านหลัง ทั้งแคทเธอลีนและเดรโกคลานหายออกไปจากโพรงไม้นั้นอย่างเฉียดฉิวเมื่อฟินท์และแมวของเขาย่างเท้าเข้ามายังพุ่มไม้ด้านในพอดี

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    “เธอมีปัญหาอะไรกับฉัน เกรนเจอร์”วินเวิร์ดถามขณะที่จับข้อศอกเพื่อให้เฮอร์ไมโอนี่หันกลับมา

     ปล่อยนะ!”เฮอร์ไมโอนี่สบัดแขนพร้อมกับถอยหลังหนี “นายมันทุเรศที่สุด นายเองก็มีนิสัยไม่ต่างอะไรกับพี่ชายนายเท่าไหร่หรอก คนฉวยโอกาส”วินเวิร์ดเม้มริมฝีปากแน่นครู่หนึ่งอย่างเคืองๆจากนั้นจึงผ่อนคลายลง เขายกมือขึ้นทั้งสองมือเหมือนยอมแพ้

    “แล้วนั่นเธอจะไปไหน”

    “ฉันจะกลับหอ ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีก”

    คำพูดของเธอทำให้มีรอยยิ้มบางๆผุดขึ้นที่ริมฝีปากของเขาก่อนจะกว้างขึ้นกว่าเดิม

    “เธอจะไปแบบนี้เหรอ” “เขามองเธอไปทั่วทั้งตัว มีรอยยิ้มร้ายๆผุดขึ้นที่ริมฝีปากของเขา “เธอคงไม่คิดว่าพวกสลิธลีนจะใจดีปล่อยให้เธอเดินออกไปได้ง่ายๆหรอกนะ”

    เฮอรืไมโอนี่ตระหนักถึงคำพูดของเขา เธอเปลี่ยนร่างเป็นตัวตนของเธอแล้ว ไม่ใช่เดรโก มัลฟอยที่จะเดินเหินออกไปข้างนอกได้อย่างสบายใจอีกต่อไป

    “บ้าจริง”เฮอร์ไมโอนี่สบถคำหยาบออกมาอย่างหมดหวัง

    “เธอไม่ได้พกน้ำยาสรรพรสมาเผื่อไว้กรณีฉุกเฉินหรอกเหรอ เกรนเจอร์ไม่น่าเชื่อนะ แบบนี้มันไม่ใช่วิสัยของเธอเลยนี่” ถ้อยคำเยาะเย้ยของเขามันทำให้เธอรู้สึกโกรธ

    “ฉันคิดว่ามันคงจะใช้เวลาไม่นาน”เธอมองไปรอบๆห้องอย่างไม่สบายใจนัก “แต่ เพราะนาย”เสียงของเธอห้วนอย่างไม่ค่อยจะพอใจนักเมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าเป็นเพราะเด็กหนุ่มคนนี้ที่ทำให้เธอต้องอยู่ในสถาณการณ์ที่ลำบากในตอนนี้

    “มาเถอะ”เสียงของเขากระด้างพอๆกับวงแขนที่จู่ๆก็เข้ามาโอบรอบเอวของเธอและกระตุ้นให้เธอเดินไปกับเขา” ฉันจะพาเธอออกไปเอง”

    “นี่...เดี๊ยวก่อนสิ”เฮอร์ไมโอนี่ทิ้งน้ำหนักไปที่ส้นเท้าขณะที่พูดเพื่อติดเบรกและขืนตัวเองเบี่ยงตัวออกไปจากเขา เธอลังเลและมองกลับไปยังวินเวิร์ดด้วยความรู้สึกที่ว้าวุ่นใจ

    เด็กหนุ่มชะงักจากนั้นจึงหันมาเผชิญหน้ากับเธอ

    “นายจะทำยังไง ถึงจะพาฉันผ่านคนพวกนั้นออกไปได้”

    เกิดแววตาขบขันอย่างเย็นชาปรากฎขึ้นในดวงตาของเขา

    “ฉันมีวิธีก็แล้วกัน ถ้าเธอจะเชื่อใจฉัน”

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    มันเป็นภาษาโบราณที่ออกมาจากปากของเด็กหนุ่ม  คาถาที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยได้ยินมันมาก่อนเลยในชีวิต ความเป็นจริงแล้วคาถาการหายตัวเป็นศาสตร์ชั้นสูงที่จะมีการเรียนการสอนในหลักสูตรของฮ๊อกว๊อตส์ในปีนี้ ซึ่งเธอเองได้เคยศึกษามาก่อนหน้านั้น ก่อนที่จะมีการเรียนการสอนเกิดขึ้นเสียอีก แต่มันยากเกินกว่าที่เธอเองจะสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ เธอจึงพับวิชานี้เก็บไว้ศึกษาในชั้นเรียนต่อไปเพื่อที่จะได้มีโอกาศสอบถามอาจารณ์ผู้สอนได้ยามที่เธอติดขัด

    ถึงแม้เธอจะยังไม่มีโอกาสได้มีโอกาสศึกษามันอีกเลยก็ตามที แต่เธอเองก็มีความมั่นใจได้ว่า คาถาที่วินเวิร์ดใช้มันไม่ใช่คาถาวิชาการหายตัวของฮ๊อกว๊อตส์อย่างแน่นอน มันเป็นภาษาที่มาจากที่อื่น ที่เธอไม่คุ้นเคย

    กว่าจะผ่านห้องนั่งเล่นรวมสลิธลีนมาได้ก็ไม่ใช่ว่าจะง่ายนักถึงแม้ว่าวินเวิร์ดจะเสกคาถาหายตัวให้กับเธอแล้วก็ตาม แต่เธอเองก็ต้องคอยหลบเลี่ยงผู้คนที่เรื่มเข้ามากันมากขึ้นตามลำดับ เนื่องจากเป็นช่วงเย็นที่หมดเวลาการเรียนการสอนแล้ว ทุกคนจึงมุ่งหน้ากลับหอ เพื่อเก็บอุปกรณ์การเรียนและเตรียมตัวสำหรับอาหารค่ำที่ใกล้จะมาถึงอีกไม่นาน

    เฮอร์ไมโอนี่จับจ้องอยู่ที่ประตูทางออก ในขณะที่ขาของเธอก้าวตามวินเวิร์ดไปอย่างมุ่งมั่น เฮอร์ไมโอนี่ปล่อยให้เขาจับมือเธอจูงไปเรื่อยๆ เพื่อต้องการหนี่ให้พ้นออกจากหอที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เป็นอันตรายในขณะที่อีกมือหนึ่งของเธอกำกระเป๋าที่ใส่สิ่งของที่เป็นของเธอและเพื่อนๆไว้แน่นราวกับกลัวว่ามันจะถูกใครบางคนโขมยมันไปจากเธอ

    เมื่อวินเวิร์ดพาเธอหลบหลีกออกมาพ้นจากห้องนั่งเล่นรวมสู่ประตูทางออกของบ้านสลิธลีนแล้วเธอถึงกับสูดอากาศหายใจได้เต็มปอด วินเวิร์ดยังคงจูงเธอมาตามระเบียงทางเดินซึ่งเป็นทางที่จะมุ่งไปสู่ห้องโถงใหญ่ซึ่งอยู่อีกไม่ไกลนัก ฉับพลันเฮอร์ไมโอนี่กระตุกแขนเขาเพื่อให้หยุดเดิน แต่เขาดูเหมือนไม่รู้สึกหรือแกล้งทำเป็นไม่รุ้สึก เพราะเขาไม่แม้แต่จะชะลอฝีเท้าลงเลย ในขณะที่เธอต้องเดินฝ่าฝูงชนอย่างยากลำบากเพียงชั่วครู่วินเวิร์ดดึงเธอเข้ามายังซอกแคบๆที่ค่อนข้างลับตาคนและเริ่มต้นปลดคาถา คลายเวทมนต์ออกจากตัวเธอ

    วินเวิร์ดปลดคาถาได้อย่างชำนาญราวกับว่ามันไม่ได้เป็นของใหม่สำหรับเขา แววตาของเฮอร์ไมโอนี่ที่จับจ้องอยู่ที่วินเวิร์ด หวาดหวั่นและหวาดกลัว เธอไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอ แท้จริงแล้วตัวตนของเขาคือใคร สัญชาติญาณบางอย่างส่งสัญญาณเตือนภัยเธอ เธอรู้เพียงแต่ว่า วินเวิร์ด มัลฟอย เป็นเด็กหนุ่มที่ควรระมัดระวังตัวเป็นอย่างยิ่ง เพราะเธออาจจะประจันหน้ากับปีศาจร้ายที่เธอไม่มีวันรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา ยิ่งเธอเผชิญหน้าใกล้เขาขนาดนี้ เขายังดูอันตรายขึ้นและร้ายกาจยิ่งกว่าเก่า เขาเป็นอะไรที่เกินกว่าประสบการณ์ที่เธอมี ไกลกว่าความสามารถในการควบคุมของเธอ

    “อะไร”วินเวิร์ดถามขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อเห็นท่าทางอันหวาดระแวงของเธอ

    “นะ นายทำได้ยังไงกัน”เธอพูดตะกุกตะกัก

    “ทำไมล่ะ วิชาการหายตัว เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่พ่อมดแม่มดในโลกเวทมนต์ต้องเรียนรู้กันอยู่แล้วนี่” เขาพูดเสียงกระซิบและมองไปรอบๆตัวอย่างระมัดระวัง

    “ฉันรู้ แต่มันเป็นศาสตร์ชั้นสูง แล้วก็อีกอย่างวิชานี้เรายังไม่เคยเรียนกันมาก่อนเลย เราจะเริ่มเรียนกันตอนปลายเทอมนี้ และนั่นก็หมายความว่ายังไม่มีใครเรียนรู้วิชานี้กันเลยสักคนแต่นายดูชำนาญกับมันมาก”

    เฮอร์ไมโอนี่รอคำตอบจากเขาอยู่เงียบๆ

    “อ้อ..เหรอ”เขาลากเสียงยาว และยักไหล่เล็กน้อย “ฉันก็แค่..” เขาพยายามหาข้ออ้างหรือคำตอบให้ถูกใจเธอ

    “”นายอย่าบอกนะว่านายศึกษาเรื่องนี้ มาก่อนที่จะมีการสอนในปลายเทอม”

    บ้าชะมัด ! เขาได้ทำผิดพลาดมาตั้งแต่ต้นเลยใช่ไหมเนี่ย เด็กหนุ่มคิดสบถเบาๆภายในใจเขาไม่น่าใช่คาถาหายตัวโบราณกับเฮอร์ไมโอนี่เลย เขาลืมนึกไปว่าเธอเป็นหญิงสาวที่ฉลาดและช่างสังเกตุเป็นที่สุด ในบรรดาเด็กสาวแม่มดโดยทั่วไป ความอัจฉริยะทางความคิดของเธอทำให้เขาพลาด เขายังไม่ต้องการให้เธอหวาดระแวง สงสัย หรือรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาจนกว่าเขาจะแน่ใจในอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้เธอเริ่มสงสัยเขา

    “เธอ”เขาคำรามออกมาด้วยความไม่พอใจเพราะรู้ว่าเด็กสาวตรงหน้ากำลังบีบบังคับให้เขาจนมุม

    “และถ้าฉันบอกว่าใช่ล่ะ”เขาบ่ายเบี่ยงและพยายามตรวจสอบในสิ่งที่เธอรู้

    “เพราะฉันจะไม่เชื่อในสิ่งที่นายบอก”เธอกอดอกอย่างมาดมั่น

    “เกรนเจอร์”เสียงกระด้างของเขาทำให้เธอเลื่อนสายตาขึ้นมามองเขาอย่างรวดเร็วและส่งสายตาประกายวาวโรจน์อย่างไม่พอใจ ทำให้เธอไม่สนใจ เธอยังคงพูดแย้งขึ้นมาเรียบๆ

    “วิชาการหายตัว ฉันเองก็ศึกษามาเหมือนกัน แต่ภาษาที่นายใช้ ฉันแน่ใจว่าไม่ใช่วิชาการหายตัวจากฮ๊อตว๊อตส์แน่ๆ นายพูดภาษาโบราณที่ฉันไม่เคยได้ยินมาจากที่ไหนเลย”

    “ก็ได้ เกรนเจอร์ ถ้าเธออยากรู้ โรงเรียนเก่าฉันสอนเองพอใจไหม”น้ำเสียงของเขามีหางเสียงห้วนสั้น แบบที่เตือนให้เธอรู้ว่าเขากำลังข่มอารมณ์ไว้อย่างเต็มที่

    “เหรอ”แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจที่จะฟังเขาเธอชิงพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงประชดประชัน”คงสอนมาตั้งแต่เด็กเลยละมั้ง นายถึงได้ชำนาญขนาดนี้วินเวิร์ด”

    เฮอร์ไมโอนี่จ้องเขาเขม็งอย่างจับผิดมันทำให้วินเวิร์ดอดขำปนโมโหไปกับท่าทีเอาเรื่องของเธอไม่ได้

    “วิชาการหายตัวเป็นศาสตร์ชั้นสูงก็จริง แต่ถ้าเราฝึกฝนบ่อยๆมันก็ไม่ยากหรอกเกรนเจอร์”

    “ใครสอนนาย”คำพูดสั้นๆที่แข็งกร้าวของเฮอร์ไมโอนี่มันทำให้เลือดในกายของเขาเดือดขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

    “ฉันจำเป็นต้องบอกเธอไหม”ถ้อยคำเสียดสีของเขามันกระตุ้นให้เธอโกรธหญิงสาวเชิดหน้าแววตาเปล่งประกายไม่ยอมแพ้

    “นายไม่จำเป็นต้องมาบอกฉันก็ได้แต่เก็บความลับของนายไว้ให้ดีๆก็แล้วกัน อย่าให้ฉันกระชากหน้ากากของนายหลุดออกมาได้”

    วินเวิร์ดตระหนักได้เป็นอย่างดีถึงคำพูดตอกย้ำของเธอที่กำลังทำลายอารมณ์ดีๆของเขาให้หมดไป ทำให้เขาเริ่มหงุดหงิด และอารมณ์เสียขึ้นมาเรื่อยๆและที่แย่ไปกว่านั้นการที่ได้เห็นใบหน้าโกรธเคืองชัดๆของเธอและริมฝีปากอวบอิ่มที่เขาเคยจูบอย่างหนักหน่วงเผยอริมฝีปากขึ้นมาน้อยๆอย่างท้าทาย มันยิ่งทำให้เขาเสียการควบคุมอย่างง่ายๆ

    เขาเดินเข้ามาใกล้เธอวางมือทั้งสองไว้กับผนังเหนือหัวเธอและกักตัวเธอไว้ภายใต้วงแขนของเขา  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงเธอหันศรีษะหลบใบหน้าของเขาเพื่อปกป้องตัวเอง วินเวิร์ดขำเล็กน้อยเขาก้มหน้าลงมากระซิบที่ใบหูเสียงแข็งแกมประชดประชันว่า

    “เอาเป็นว่า ฉันจะคอยระวังตัวไม่ให้เธอสาวรอยฉันได้ก็แล้วกัน ขอบใจนะเกรนเจอร์ที่เตือน”

    เฮอร์ไมโอนี่หันกลับมามองเขาอย่างรวดเร็วโดยที่เธอลืมนึกไปว่าตอนนี้ตัวเธออยู่ใกล้ชิดกับเขาแค่ไหน สายตาที่แข็งกระด้างของทั้งคู่มองสบกันนิ่งเหมือนไม่มีใครที่จะยอมลงให้กันและกัน

    “เฮอ..เฮอร์ไมโอนี่”

    คนทั้งคู่สะดุ้งเมื่อมีเสียงของใครบางคนร้องเรียกอยู่ข้างๆตัว วินเวิร์ดก้าวเท้าถอยห่างจากเฮอร์ไมโอนี่พอประมาณก่อนที่เขาจะหันไปมองและพบกับเด็กสาวที่ส่งสายตาตื่นตระหนกมาทางพวกเขา เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างแปลกใจเธอขยับตัวและเดินเข้าไปหาแคทเธอลีนใกล้ๆอย่างรวดเร็ว

    “แคทเธอลีนมาได้ยังไง แล้วมัลฟอยล่ะ” เธอหลุดปากถามและกลั้นใจรอคำตอบแต่ไม่มีคำตอบใดๆหลุดออกมาจากปากของแคทเธอลีนที่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความวิตกกังวล

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    หลังจากที่เดรโกวิ่งเข้าไปยังห้องนั่งเล่นรวมด้วยอาการร้อนรน เขารีบเร่งตรงไปยังห้องของเขาเพื่อหาตัวเธอ โดยไม่สนใจเสียงร้องของ แพนซี่

    เขากวาดสายตาไปทั่วห้อง ไม่มีใครอยู่ในนั้น  หรือว่าเธอไปแล้ว เธอหนีรอดออกไปก่อนที่พวกนั้นจะจับเธอได้ เขาคิดอยู่ภายในใจ เดรโกพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องมาเก็บชิ้นส่วนของเธอออกไปจากที่นี่ เดรโกคิดเข้าข้างตัวเอง ใช่ เขาไม่ได้เป็นห่วงเธอเพียงแต่เขาไม่อยากให้เรื่องมันบานปายใหญ่โต ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูคนภายนอก หรือบ้านอื่นๆ คนที่จะเสียหน้าคือบ้านสลิธลีนและตัวเขา  เขาจะไม่ยอมให้บ้านของเขาต้องอับอายขายหน้าเพราะเด็กสาวกริฟฟินดอร์คนหนึ่งปลอมตัวเป็นเขาเข้ามาเดินเพ่นพ่านภายในบ้านสลิธลีนโดยที่ไม่มีใครรู้ตัวแน่

    เดรโกเดินตรงไปที่โต๊ะเขียนหนังสือของเขาเขาสำรวจโต๊ะด้วยการเหลือบตามองไปทั่วๆเพียงแค่ครั้งเดียวเขาก็รู้แล้วว่ามีอะไรหายไปบ้าง

    คางคกของลองบัททอมส์  หนังสือประวัติมูทาอิบ และปากกาขนนกที่เขาเก็บได้ คางคกอุบาทนั่นเขาไม่ได้สนใจอยู่แล้วถ้าเธอไม่เอามันกลับคืนไปเขาเองก็คงคิดที่จะโยนมันทิ้งไปอยู่แล้ว ส่วนปากกาขนนกถ้าให้เขาเดามันคงเป็นของเพื่อนเธอหรือไม่ก็ตัวเธอ แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจคือประวัติของมูทาอิบซึ่งนอกจากหนังสือที่แคทเธอลีนยิมมาจากห้องสมุดแล้วหนังสือประวัติของมูทาอิบที่เขายืมมาเธอก็เอาไปด้วยเช่นกัน ทำไมเกรนเจอร์ถึงได้สนใจมันนัก หรือเธออยากจะแกล้งเขากลับโดยการให้เขาอ้อนวอนขอร้องเธอขอหนังสือนั้นคืนมา ไม่มีทางเสียล่ะ ยายเลือดโสโครกสกปรก

    เตรโกคว้าเสื้อคลุมสลิธลีนจากขาตั้งแขวนเสื้อและมุ่งหน้าไปที่ประตูอย่างหัวเสีย

    ฉันจะไม่เอาเรื่องกับเธอตอนนี้ก็ได้เกรนเจอร์ เรายังมีเวลาอีกเยอะที่จะสะสางเรื่องนี้กันในภายหลัง เพียงแต่เธอคงต้องอธิบายให้ฉันฟังเสียหน่อยแล้ว เกี่ยวกับความสนใจของเธอในหนังสือเล่มนั้นเขาพูดพึมพำกับตัวเองขณะที่เดินผ่านประตูกลับออกไปจากหอนอนของเขา

    เดินลงไปยังห้องนั่งเล่นรวมและมุ่งหน้าออกไปยังประตูทางออก

    เดรโก   เสียงออดอ้อนของแพนซี่ตะโกนเรียกเขาพร้อมถลามาดึงแขนเขาไว้ก่อนที่เขาจะทันได้ออกจากห้องไป  เขาอยู่ในอารมณ์หงุดหงิด  และเขาก็ไม่มีอารมณ์พิศวาสใดๆกับแพนซี่ในตอนนี้ด้วย  เขาไม่อยากพูดคุย โต้เถียงเรื่องใดๆกับใครทั้งนั้นในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงผลักแพนซี่ออกห่างจากเขาอย่างไม่สนใจ

    เบลส เข้ามาหรือยังเขาถามคนที่อยู่ในห้องด้วยเสียงอันดัง เบลส ซาบินี่ โผล่หัวออกมาจากโซฟาตัวใหญ่ที่เขาอาศัยนอนแทนเตียงเพื่อรอเวลาอาหารค่ำ

    ฉันอยู่นี่ เดรโกเดรโกผ่อนคลายเล็กน้อยเมื่อได้เห็นเพื่อนสนิทที่จะช่วยเขาให้แพนซี่ถอยห่างออกไปได้โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องออกแรง

    เบลส ซาบินี่ อาจจะเป็นคนโผงผาง พูดจาขวานผ่าซาก และขี้โมโห แต่เขาก็มีความเข้าอกเข้าใจ จิตใจดี และที่สำคัญ เขาค่อนข้างจะภักดีต่อเดรโกอยู่ไม่ใช่น้อย

    ไม่เหมือนกับ แครบส์และกอย กี่ปี กี่ปีก็ยังคงโง่ดักดานเหมือนเดิม พวกมันมักจะถูกพัดพาไปตามแรงของคนที่มีกำลังเหนือกว่าเสมอ

    วันนี้ฉันตามหานายตั้งแต่เที่ยงไม่เห็นนายเลย แถมนายก็ไม่มาเรียนวิชาคาบบ่ายอีก นายไปไหนมา เบลสถาม

    เดรโกทำหน้าบูดบึ้งมีปัญหานิดหน่อย

    เบลสมองเขาอย่างครุ่นคิดเมื่อสักพักใหญ่ฉันเห็นนายเดินขึ้นไปแล้วไม่ใช่เหรอแล้วนายออกไปตอนไหน ฉันว่าฉันนอนอยู่ตรงนี้ตลอดแล้วนะ ทำไมไม่เห็นนายออกไปล่ะ  มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า

    เรื่องมันยาว เอาไว้ฉันกลับมาก่อนแล้วจะเล่าให้นายฟังที่หลัง แต่ตอนนี้ช่วยเอาเธอ ไปห่างๆฉันก่อนจะได้ไหม เดรโกชี้ไปที่แพนซี่ที่นั่งหน้าบูดบึ้งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกับเบลส

    เบลสอมยิ้มและยักคิ้วมาให้เขาจัดให้ ได้เลย เจ้าชาย แต่ว่านายจะไปไหนอีกล่ะ

    มีธุระนิดหน่อย เจอกันที่ห้องอาหาร เขาโบกมือและรีบผลุนผลันออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    ตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงมองผ่านทุกคนที่เดินไปมาพุ่งจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มสาวสองคนที่อยู่ตรงซอกตึก ร่างแทบชิดกันและภาพนั้นมันทำให้อารมณ์ของเดรโกรู้สึกปั่นป่วนและขุ่นเคืองอย่างหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้

    เขารู้สึกหัวเสียและขัดตากับภาพนั้น เสียเหลือเกิน เดรโกชะงัก นี่เขาหึงเธอ หึงเธอที่เธอหว่านเสน่ห์ให้กับน้องชายกำมะลอของเขางั้นเหรอ หึงเธอที่เธอทำตัวสนิทชิดเชื้อไปกับมัน ในขณะที่เธอกลับขยะแขยงเมื่ออยู่ใกล้เขา ให้ตายสิ เดรโก มัลฟอย ชายหนุ่มสายเลือดบริสุทธิ์ สุดฮอต  ไม่มีทางหึง เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ยายเลือดมักเกิ้ลนั้นแน่....ไม่มีทาง... เพียงแต่..เขาไม่อยากให้เธอมายุ่งกับน้องชายของเขาต่างหาก ใช่แล้ว เถอะ ถึงแม้ว่าวินเวิรร์ดจะไม่ใช่น้องชายที่แท้จริงของเขาก็ตามที แต่ตอนนี้มันก็ใช่นามสกุลของเขาอยู่ จะให้มันติดหรือแตะต้องสายเลือดสกปรกแบบนั้นได้ยังไงกัน เดรโกยิ้มเยาะกับความคิดที่เขามั่นใจว่าเป็นสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เขาหงุดหงิด เขาจะไม่มีวันสารภาพหรอกว่าเขาหึง ในเมื่อมันไม่มีทางที่เขาจะแตะต้องเธอ....ไม่มีทาง

    เดรโกไม่เคยคิดว่าวินเวิร์ดและเฮอร์ไมโอนี่จะสนิทสนมกันมากมายขนาดนี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะเหตุนี้หรือเปล่าที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่สนใจในประวัติของมูทาอิบ เธอรู้เรื่องอะไรบางอย่างที่เป็นความลับของวินเวิร์ดหรือเปล่า หรือ เธอไม่รู้อะไรเลย เดรโกรู้สึกสับสน เขามองภาพนั้นและกำหมัดแน่นอย่างลืมตัว เขารู้สึกถึงร่างกายเขาที่สั่นด้วยความโกรธ  บ้าเอ๋ย ยายนั่นต้องได้รู้สำนึกในสิ่งที่ทำไว้กับเขาบ้างแล้ว   ความคิดแรกที่เขาจะไม่เอาเรื่องกับเธอในตอนนี้เปลี่ยนไป เขาเดินตรงดิ่งตรงมาที่เธออย่างช้าๆในขณะนั้นเขาเห็นแคทเธอลีน โผล่มาจากที่ไหนสักแห่งเป็นผลทำให้ พวกเขาทั้งคู่แยกห่างจากกัน และนั่นมันทำให้เดรโกนึกอยากขอบคุณเธอ

    ในวินาทีเดียวกันนั่นเองที่เฮอร์ไมโอนี่เหลือบไปเห็น เด็กหนุ่มผมบลอนส์เดินตรงมาทางเธอด้วยท่าทีดุดันและน้ำเสียงกระด้าง พร้อมส่งสายตาข่มขู่มาทางเธอ

    “เจอจนได้นะ ยายตัวแสบ คราวนี้เธอเจอดีแน่”

    มัลฟอยเสียงพูดของเฮอร์ไมโอนี่ขาดหายไปอย่างกะทันหันเมื่อเดรโกพุ่งตัวเข้ามาหาเธอ เฮอร์ไมโอนี่ร้องลั่นอย่างตกใจ หัวใจเต้นถี่แรง ในขณะที่เธอถอยหลังหลบเขาเมื่อเดรโกเสียหลักเฮอร์ไมโอนี่จึงอาศัยจังหวะที่เขากำลังทรงตัว พุ่งออกไปด้านหน้าและรีบวิ่งออกจากบริเวณนั้นราวกับจะแข่งกับเวลา ในขณะเดียวกันมืออีกข้างหนึ่งของเธอก็คว้าแขนเสื้อคลุมของแคทเธอลีนที่กำลังยืนงง และลากเธอให้ตามไปด้วย เธอจำเป็นต้องทำอย่างนั้น เพราะไม่แน่ใจว่าเดรโกจะเกิดความคิดบ้าๆทำร้ายแคทเธอลีนหรือเปล่า

    ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่วิ่งมุ่งหน้าไปยังห้องโถงใหญ่ เธอหันมาตะโกนบอกให้แคทเธอลีนวิ่งหนีไปยังหอเรเวคอลอีกทางหนึ่งเพื่อความปลอดถัย  ในขณะที่เธอจะเป็นตัวล่อเดรโกให้ตามเธอไป

    เดรโกไม่ได้คิดสนใจที่จะตามแคทเธอลีน ไปตั้งแต่แรกแล้ว เขาคิดที่จะตามเฮอร์ไมโอนี่ไปเพียงคนเดียวเท่านั้นในขณะนั้นวินเวิร์ดที่วิ่งไล่ตามหลังเดรโกมาทันเขาคว้าไหล่ของเดรโกไว้แน่นก่อนจะพูดเตือนเขาให้เลิกวุ่นวายกับเฮอร์ไมโอนี่และปล่อยเธอไป

    เดรโกแสดงความไม่พอใจกับคำพูดของวินเวิร์ด เขาปัดมือของน้องชายตัวแสบออก และเมื่อเขาหันมามองวินเวิร์ดแววตาเขาสะท้อนความชิงชังออกมาอย่างชัดเจน

    อย่ามายุ่งเรื่องนี้วินเวิร์ด  แกคงไม่อยากให้ฉันเปิดโปงความลับของแกหรอกใช่ไหม วินเวิร์ดตกตะลึง เดรโกรู้ความลับของเขาได้อย่างไร  ถ้าเดรโกรู้แล้วคนอื่นล่ะ

    เดรโกไม่ได้สนใจวินเวิร์ดที่กำลังนิ่งคิดถึงความลับของตนเอง เขาหันหลังวิ่งตามเฮอร์ไมโอนี่ไปอย่างรวดเร็ว

    @@@@@@@@@@@@@@@@@

    เกือบถึงแล้ว.... เธอเกือบวิ่งมาถึงโรงอาหารแล้ว อีกนิดเดียวเท่านั้น ที่นั่นคงเป็นที่ปลอดภัยสำหรับเธอ  อย่างน้อยๆก็มีนักเรียนเป็นร้อยอยู่ในห้องนั้นเดรโกคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงกับเธอแน่  เฮอร์ไมโอนี่ ภาวนาขอให้แฮร์รี่ และรอน มารอเธออยู่ที่โต๊ะกริฟฟินดอร์แล้ว

    เฮอร์ไมโอนี่วิ่งถลาไปหาประตูที่ห้องโถงใหญ่ ทว่าเดรโกปราดถึงตัวเธอก่อนที่เธอจะไปทันถึงจุดหมายแล้วกอดเธอเอาไว้ เธอระดมทุบแผงอกของเขาพลางกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นน้ำตา เขาจับมือของเธอไว้ทั้งสองข้างอย่างแน่นหนา

    ร้ายนักนะ เกรนเจอร์ คราวนี้เธอโดนฉันหนักแน่ เขาคำรามอย่างเกรี้ยวกราด และบีบข้อมือของเธอไว้แน่น เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเพราะความเจ็บที่ข้อมือ เธอพยายามดิ้นขัดขืนโดยไม่แม้แต่จะสนใจผู้คนที่จ้องมองดูการต่อสู้ของทั้งสองอย่างแปลกใจ

    เฮอร์ไมโอนี่ทั้งเตะทั้งถีบพัลวันเพื่อที่จะให้มือเธอหลุดจากมือของเขาให้ได้แต่มันก็ไม่เป็นผลในที่สุดเธอก็ล้มลงกับพื้นโดยมีร่างของเดรโกคร่อมทับอยู่ที่หน้าอกจนหายใจแทบไม่ออก เฮอร์ไมโอนี่ดิ้นอยู่นานจนมือซ้ายหลุดออกมาจนได้และใช้จังหวะนี้ใช้นิ้วของเธอจิ้มไปที่ใบหน้าของเจ้าชายอมนุษย์ในร่างของเดรโก มัลฟอย อย่างแรง

    ได้ผล มันแทงไปเกือบถูกนัยน์ตาพอดีถ้าเขาเบี่ยงหัวไม่ทัน เขายกมือทั้งสองขึ้นปิดดวงตาของเขาเพื่อป้องกันในทันที จึงเป็นจังหวะให้เธอดิ้นหลุดออกมาได้ เฮอร์ไมโอนี่ตะเกียกตะกายลุกขึ้น และวิ่งไปที่ประตูห้องโถงใหญ่ เธอกระโจนแทบตัวลอยผลักบานประตูบานใหญ่ให้เปิดออกจนตัวเธอแทบถลาเข้าไปยังด้านใน

    เธอปลอดภัยแล้ว เฮอร์ไมโอนี่คิด และยิ้มออกมาอย่างดีใจ เธอกวาดสายตาไปทั่วที่โต๊ะกริฟฟินดอร์และเธอเห็นแฮร์รี่และรอน รวมทั้งจินนี่ นั่งคุยอยู่ท่ามกลางเพื่อนๆในบ้านอีกหลายคน

    ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะทันเดินไปที่โต๊ะกริฟฟินดอร์ เสียงประตูของห้องโถงใหญ่ถูกแรงกระแทกอย่างแรงจนบานประตูกระทบกันเสียงดังลั่นทุกคนเงียบเสียงและหันไปมองที่จุดนั้นแป็นตาเดียว รวมทั้งเฮอร์ไมโอนี่ด้วย เธอเหลือบมองเดรโกที่กำลังมองมายังใบหน้าที่หวาดผวาของเธอเขม็ง

    คิดเหรอว่าเธอจะรอด  เกรนเจอร์แววตาสีเทาของเขาแข็งกร้าวขึ้น และเพื่อให้เธอหวาดกลัวกับคำขู่ของเขาเขาจึงกล่าวต่อไปว่าเธอจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เธอทำไว้กับฉัน ฉันจะเฝ้าดูเธอทุกฝีก้าว เกรนเจอร์ ไม่ว่าจะยามหลับหรือยามตื่น ทุกเวลาและทุกนาที อย่าเผลอก็แล้วกัน เผลอเมื่อไหร่ฉันเล่นงานเธอแน่ เขาพูดด้วยท่าทีรุกรานและกร้าวร้าว เขาเจ็บใจตัวเขาเองที่ปล่อยเธอให้หลุดเข้ามาในนี้ได้ เขาจึงไม่สามารถทำอะไรเธอได้ถนัดตามที่เขาคิด หนึ่งนั้นคือนักเรียนร่วมร้อยที่อยู่ในห้อง และอีกหนึ่งคือองครักษ์ของเธอที่คงไม่ยอมปล่อยให้เขาแตะต้องตัวเธออย่างแน่นอน แต่ถึงกระนั้นเดรโกก็คง จะทำได้เพียงแค่ใช้วาจาเชือดเฉือนเธอเพียงเท่านั้น และเดรโกก็ไม่ยอมที่จะล่าถอยออกไปง่ายๆด้วย

     คำพูดช่มชู่นั้นทำให้เฮอร์ไมโอนี่แทบลืมหายใจ อย่างน้อยที่สุดเธอก็ควรจะโกรธในความเกรี้ยวกราด และการตบตาที่น่ารังเกียจของเขา ควรจะไม่พอใจกับการแทรกแซงของเขา แต่เฮอร์ไมโอนี่จ้องเขาเขม็ง เธอไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรกับเขา เพราะเธอไม่อยากให้เรื่องราวบานปลายมากไปกว่านี้อีกแล้ว แต่สิ่งที่เธอกลัวกลับกลายเป็นเพื่อนรักของเธอเองที่กำลังจะทำให้มันเป็นเรื่อง

    มันเรื่องอะไรกัน ทำไมแกต้องข่มขู่เธอด้วย แฮร์รี่พูดเสียงเรียบแต่ก็มีความแข็งกระด้างในตัว เขาเดินมาอยู่ด้านหลังเฮอร์ไมโอนี่ก่อนดึงแขนเธอให้ย้ายมาหลบที่ด้านหลังเขากลายเป็นว่าตอนนี้แฮร์รี่เผชิญหน้ากับเดรโกเสียเอง

    อยากรู้งั้นเหรอว่าเรื่องอะไร” เดรโกเดินเข้ามาใกล้และกระซิบให้ได้ยินเพียงแค่สองคน ฉันเพียงแค่จะลงโทษเธอ โทษฐานที่เธอขโมยของๆฉันไงล่ะพอตเตอร์”เดรโกจ้องมองแฮร์รี่โดยไม่หลบสายตา เขายิ้มให้กับความคิดบางอย่างก่อนพูดสิ่งที่ทำให้แฮร์รี่เกือบขาดสติ ”อ้อและ ถ้าแกยังไม่ความจำเสื่อม แกคงจำได้สินะว่าฉันเคยลงโทษเกรนเจอร์ครั้งหนึ่งแล้วที่ห้องพยาบาลแบบไหน แต่คราวนี้ฉันจะลงโทษแรงกว่านั้นเป็นสองเท่า ด้วยเนื้อตัวของฉันเอง แฮร์รี่เบิกตากว้างเขาผลักอกของเดรโกออกห่างเขาด้วยท่าทีรังเกียจ ในขณะที่เดรโกหัวเราะด้วยความสะใจ

    ฉันไม่มีทางเชื่อแก เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ และถึงแม้จะทำเธอก็มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำแบบนั้น และฟังไว้ให้ดีมัลฟอยถ้า แกทำอะไรเธอแม้แต่ปลายเล็บ ฉันจะตามกุดหัวแกตั้งแต่นรกยันสวรรค์เลยคอยดูสิแฮร์รี่คำรามท่าทีโอนอ่อนทั้งหมดหายไปจากน้ำเสียงของเขา เขาดึงไม้วิเศษออกมาและจ่อไปที่หน้าอกของเดรโก เดรโกหัวเราะเยาะกับความบ้าระห่ำของแฮร์รี่  

    เขาพูดยั่วมันสำเร็จ เพียงแค่รู้จุดอ่อน มันก็ทำให้ศัตรูของเขาเกือบคลั่งเสียแล้ว เดรโกกำลังคิดว่าการที่เขาแก้แค้นแฮร์รี่โดยผ่านเฮอร์ไมโอนี่มันจะสำเร็จมากกว่าที่เขาผ่านทางจินนี่หรือเปล่า  เดรโกก้าวเท้าถอยหลังไปจากแฮร์รี่สองสามก้าว และแกล้งพูดยั่วโทสะเล่น

    ยังงั้นก็ลองมาดวลกันสักหน่อยเป็นยังไง พอตเตอร์เดรโกพูดพร้อมกับชักไม้วิเศษที่หลังเอวออกมาชี้ไปที่แฮร์รี่  นักเรียนร่วมร้อยลุกขึ้นจากโต๊ะของตัวเองและกระจายตัวออกมายืนดูพวกเขาทั้งคู่อยู่ห่างๆ

    โอ้ ไม่นะ เฮอรไมโอนี่ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนี่ง

    แฮร์รี่ปล่อยเขาไปเธอกล่าวพร้อมขยับตัววางมือไว้ที่แขนของเขา

    เขาจะทำร้ายเธอนะเฮอร์ไมโอนี่เขาพูดโดยที่ตาของเขายังจ้องไปที่เดรโกอย่างแน่วแน่

    แต่ฉันปลอดภัยนะแฮร์รี่ ฉันไม่ได้รับอันตรายใดๆจากเขาเฮอร์ไมโอนี่พูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา

    เพียงแค่ตอนนี้เท่านั้นเกรนเจอร์ อย่างที่ฉันพูดเอาไว้ เธอต้องชดใช้ให้กับฉันเดรโกจงใจพูดสวนพวกเขาอย่างไร้ความปราณี

    มัลฟอยหุบปากเธอสั่งพยายามรักษาน้ำเสียงให้ราบเรียบถ้านายทำร้ายเขาเธอชี้ไปที่เดรโก

    กระทรวงเวทมนค์ต้องมาเคลียร์เรื่องนี้แน่แฮร์รี่ นายก็รู้ว่าคนที่กระทรวงไม่ใช่คนของเราทั้งหมดพวกนั้นต้องการเข้ามาครอบครองที่นี่ใจแทบขาดขืนนายปล่อยช่องโหว่ให้พวกนั้นเข้ามาได้มันจะยุ่งนะ แฮร์รี่”

    เขาดูลังเลราวกับไม่อยากให้เธอวิตกกังวลมากไปกว่านี้ เขามองดูเดรโกเขม็งและลดไม้วิเศษลงพร้อมกับฝืนยิ้มให้กับเฮอร์ไมโอนี่

    จริงอย่างที่เธอพูด ฉันขอโทษที่วู่วามไปหน่อย

    ถามหน่อยเถอะพอดตเตอร์มีรอยยิ้มเสแสร้งฉาบอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาของเดรโก

    ความสัมพันธ์ของแกกับแฟนยังอยู่ดีกันอยู่หรือเปล่า เพราะเท่าที่ฉันสังเกตเห็น แกค่อนข้างจะเชื่อฟัง ยายเลือดสีโคลนเกรนเจอร์มากกว่ายายวิสลี่ส์หัวแดงนั่นเสียอีกนะเดรโกมองอย่างมีความหมายไปที่จินนี่ซึ่งยืนอยู่ติดกับรอน ผู้เป็นพี่ชายด้วยสีหน้าซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่วิสลี่ส์คนพี่อดรนทนไม่ไหวกับคำพูดแดกดันของเดรโก

    หุบปากเน่าๆของแกไปเลยมัลฟอยรอนตะโกนด่าด้วยเสียงขุ่นเตืองใบหน้าดำคล้ำขึ้นมาชั่วพริบตา

    เดรโกหัวเราะเย้ยหยัน ไม่มีใครบังคับพวกราตระกูลมัลฟอยได้ ฉันอยากจะพูดอะไรฉันก็จะพูด ตามที่ฉันต้องการ

    แฮร์รี่ถลีงตาใส่เดรโกพร้อมกับคำรามเสียงดัง

    แกมันงี่เง่ามัลฟอย หัดทำตัวให้เป็นสุภาพบุรุษสมกับฐานะของแกหน่อยสิ ไหนว่าแกสูงส่งหนักหนาไม่ใช่หรือไง

    เดรโกยิ้มรับที่มุมปากเขาส่งสายตาเย็นชาไปที่จินนี่อีกครั้งก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงกระด้างใครจะเป็นสุภาพบุรุษเหมือนนายล่ะพอตเตอร์ แต่น่าเสียดายนะผู้หญิงมักไม่ค่อยชอบสุภาพบุรุษสักเท่าไหร่หรอก “

    แกพูดยังงี้หมายความว่ายังไงแฮร์รี่ค่อนข้างสับสน เขามองหน้าเดรโกอย่างชั่งใจ

    ไอ้โง่เอ๋ย! แฟนตัวเองสวมเขาให้ยังไม่รู้ตัวอีก เดรโกคิดในใจพร้อมกับยิ้มกว้างอย่างเสแสร้ง

    แกชอบไขปริศนาไม่ใช่หรือไงพอตเตอร์ลองคิดดูเอาเองสิว่าฉันหมายความว่ายังไง

    ส่วนเธอสายตาของเดรโกมีแววบึ้งตึงในขณะที่เขาเหลือบมองเฮอร์ไมโอนี่ฉันอยากให้เรื่องมันจบๆไปเธอคงรู้นะว่าฉันหมายถึงเรื่องอะไรที่เธอทำไว้กับฉัน

    ก็ดี ฉันเองก็อยากให้เรื่องมันจบๆไปเหมือนกัน

    เดรโกเลิกคิ้วข้างหนึ่งอย่างขบขัน เขาคิดว่าเฮอร์ไมโอนี่คงคิดว่าเขาจะยอมเลิกราง่ายๆอย่างแน่นอน ไม่มีทางเสียล่ะอย่างน้อยๆเขาก็ต้องแก้แค้นเธอบ้าง

    เพียงแต่ฉันขอแค่สาปเธอเป็นตัวทาก แค่นั้น....แล้วฉันจะปล่อยเธอไปเดรโกเกือบยิ้มเมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความตกใจของเธอ เขาหมุนไม้กายสิทธิ์ในมือเล่นอย่างใจเย็นเมื่อคอยคำตอบจากหญิงสาว

    อะ อะไรนะเฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้าง

    เขาหันมาทางหญิงสาว แน่นอน  ฉันหมายถึงตามที่พูดถึงแม้เสียงเขาจะเบา แต่ดวงตาเข้มเป็นประกายจนเธออ่านอารมณ์เขาไม่ออก

    .ใบหน้าของแฮร์รี่เข้มขึ้นพร้อมกับน้ำเสียงเฉียบขาดของเขา ฉันบอกแกแล้วไงมัลฟอย ถ้าแกแตะต้องตัวเธอ ฉันไม่ปล่อยแกแน่แฮร์รี่ชี้ไม้วิเศษไปที่หน้าอกของเดรโกเมื่อเขาเห็นเดรโกชี้ไม้ของเขาไปที่เฮอร์ไมโอนี่เช่นกัน

    แต่ถ้านายทำอะไรกับพี่ชายฉันนายเองก็ไม่รอดเหมือนกันพอตเตอร์ มีเสียงพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับที่สายตาของทุกคนจ้องมองไปทางประตู วินเวิร์ด มัลฟอยปรากฏตัวขึ้น เขาเดินผ่านโต๊ะเรเวคอลและยืนอยู่ข้างๆเดรโกก่อนที่เขาจะชี้ไม้วิเศษไปที่แฮร์รี่เช่นกัน

    ภาพของทุกคนที่เห็นในตอนนี้คือภาพของเดรโกชื้ไม้วิเศษไปที่เฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่ชี้ไปที่เดรโก และวินเวิร์ดชี้ไปที่แฮร์รี่ ทุกคนลุ้นระทึกไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่โต๊ะกริฟฟินดอร์และโต๊ะสลิธลีนดึงไม้วิเศษขึ้นมาเตรียมพร้อมกันแทบจะทุกคน

    ทันทีที่วินเวิร์ดชี้ไม้วิเศษไปที่แฮร์รี่ทุกอย่างเปลี่ยนไป ไม้วิเศษของเด็กหนุ่มทั้งสาม สั่นอย่างรุนแรงจนไม่มีใครสามารถบังคับมันได้ มันเสมือนมีแรงดึงดูดที่มองไม่เห็นผลักดันให้ไม้เอนไปในทิศทางเดียวกัน มีแสงสีฟ้าออกมาจากปลายไม้ของพวกเขาทั้งสามมันพุ่งตรงมาทางร่างของเฮอร์ไมโอนี่ เธอกรีดเสียงร้องอย่างตกใจและก้มลงหมอบหลบพ้นแสงนั้น ได้อย่างฉิวเฉียดเฮอร์ไมโอนี่หันกลับไปมองแสงนั้นที่พุ่งตรงไปยังผนังห้องอาหารด้านหนึ่ง เธอเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อเห็นลำแสงที่กระทบกับฝาผนังเปิดเป็นช่องหลุมดำขนาดใหญ่ภายในหลุมดำมีรูปร่างที่บิดเบี้ยวและมีการม้วนตัวของอากาศภายในหลุมดำ มีเสียงดังกึกก้องไปทั่วห้องโถงใหญ่เหมือนเสียงระเบิดจากภายในหลุมดำ มีแรงดึงดูดมหาศาลที่เตรียมจะดูดทุกสิ่งที่อยู่ในรัศมีของมันเข้ามายังภายในหลุมดำนั้น และคนที่อยู่ใกล้หลุมดำที่สุดคือเด็กสาวหนอนหนังสือแห่งบ้านกริฟฟิรดอร์นั่นเอง

    “ระวังเฮอร์ไมโอนี่ “

    เสียงของรอนร้องดังขึ้นในขณะที่เขาคว้าจินนี่ที่อยู่ใกล้มือมากอดไว้แน่นน่าแปลกที่บริเวณโดยรอบเจอแรงดึงดูดไม่มากมายนักมันเหมือนลมพายุที่ทำให้ร่างใหญ่ๆของเขาเอนไปเอนมาได้เท่านั้นเผิดกันแต่บริเวณด้านในที่มีเฮอร์ไมโอนี่ยืนอยู่มีแรงดึงดูดมหาศาลเกิดขึ้น ในขณะที่รอนตะโกนเตือนเฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่ถลันเข้าไปคว้าร่างบางของเธอที่ตัวเริ่มจะปลิวไปตามแรงลม แต่ในตอนนั้นนั่นเองกลับมีโต๊ะอาหารตัวใหญ่ดีดเข้าใส่แฮร์รี่จนมือของเขาพลาดที่จะคว้าตัวเธอไว้ได้ แฮร์รี่ล้มลงไปกองที่พื้นโดยมีโต๊ะตัวใหญ่คล่อมทับตัวเขาอยู่

    เฮอร์ไมโอนี่หลับตาปี๋ เธอไม่สามารถยืนหยัดตัวเธอเองได้อีกต่อไป ตัวของเธอกำลังจะปลิวไปตามแรงลมนั้น เพียงแต่มีมือที่มาช่วยยึดจับข้อมือของเธอไว้สองข้างไม่ให้ปลิวไปตามแรงลม เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นมองดูจึงได้เห็นวินเวิร์ดและเดรโกช่วยกันจับมือเธอไว้คนละข้างในขณะที่เท้าของพวกเขาตรึงไว้ที่พื้นอย่างเต็มความสามารถ แต่อยู่ๆไม่รู้เพราะเหตุใดร่างของวินเวิร์ดกลับถูกกระแทกร่างออกไปจากบริเวณหลุมดำนั้นในทันที เดรโกคว้าเอวของเฮอร์ไมโอนี่เอาไว้แน่น นั้นเป็นภาพสุดท้ายที่ทุกคนได้เห็นก่อนที่พวกเขาจะถูกดูดเข้าไปยังกำแพงภายในห้องอาหารและได้หายไปทั้งคู่

    หลุมดำค่อยๆปิดตัวมันเองลงอย่างช้าๆก่อนที่จะมีลำแสงสีฟ้าพุ่งออกมาจากหลุมดำเป็นครั้งสุดท้ายส่งผลให้เกิดการระเบิดอย่างกึกก้องไปทั่วบริเวณนั้น มันเป็นเสียงแห่งความพินาศย่อยยับที่สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้คนภายในห้องนั้น จนเกิดความโกลาหลมีเสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่ว ไม่มีใครอยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าจะมีเหตุการณ์เหมือนฝันร้ายเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา

    โคมไฟขนาดมหึมาถูกแรงสั่นสะเทือนของหลุมดำโถมใส่ห้อง กระแทกร่วงหล่นบนพื้น  โต๊ะเก้าอี้ของแต่ละบ้านกระเด็นออกไปราวถูกมือยักษ์จับเหวี่ยง ผู้คนแตกกระจายไปคนละทาง กระจกแตกละเอียดกระจายตามพื้นด้านล่าง เศษคริสตัลนับพันชิ้นที่ประดับตามหน้าต่างของตัวปราสาทล่วงกราวกองปรักหักพังหลังจากเสียงดังสนั่นที่เกิดขึ้นความเงียบสงัดที่น่าอึดอัดก็ตามมา แฮร์รี่ผลักโต๊ะอาหารตัวใหญ่ที่คว่ำทับตัวเขาออก และเขม้นมองไปยังรอบๆตัวที่มีข้าวของแตกหักเกลื่อนกราดไปทั่ว ในขณะที่รอน จินนี่ และ ดีนวิ่งเข้ามาหาเขา แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่แฮร์รี่สนใจเขาสอดส่ายสายตาไปทั่วห้องโถงสวดมนต์ภาวนาขอให้เจอเฮอร์ไมโอนี่ ขอให้มีใครบางคนจับตัวเธอไว้ได้  บางทีเธออาจจะอยู่แถวๆนี้

    “เฮอร์ เฮอร์ไมโอนี่ล่ะ เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม”รอนจับมือแฮอร์รี่ไว้แน่น เขาเม้มปากก่อนส่ายหัวอย่างหมดหวัง พวกเขาทั้งสองไม่ได้พูดจาอะไรกันอีกเลย แฮร์รี่โอบร่างของจินนี่ที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆอย่างปลอบใจและภาวนาขอให้เฮอร์ไมโอนี่ปลอดภัยตกไปอยู่ที่ไหนสักแห่งภายในตัวปราสาทนี้  แม้จะรู้ว่านั่นเป็นความหวังสุดท้ายที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยก็ตาม

    ตัวอย่างตอนต่อไป

    “ถอดเสื้อผ้าออกเกรนเจอร์ “

    เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าน้ำตาคลอ

    “ไม่ ...”เธอสะอื้น”ฉันจะไม่มัทางถอดเสื้อผ้าและ...”

    “พอกันที”เดรโกก้าวเท้าเข้ามาหาเธออย่างขมขู่ก้าวหนึ่ง”ถ้าเธอไม่ยอมถอดเสื้อผ้านั่นดีๆฉันจะเป็นคนถอดให้เธอเอง”

    เฮอร์ไมโอนี่ชั่งใจเธอกัดริมฝีปากจนรู้สึกเจ็บพระเจ้า เธอต้องเปลือยกายให้ศัตรูของเธอเห็นหรือนี่

    “เกรนเจอร์ ฉันแค่จะทายาแก้พิษด้านหลังให้กับเธอเท่านั้น หรือเธออยากให้ไอ้แก่นั่นมาทาให้เธอเอง เธออยากให้มันเห็นเธอเปลือยกายหรือไง”

    เฮอรไมโอนี่หน้าแดงก่ำขึ้นมาแวบหนึ่ง

    “ก็ได้ถ้าอย่างนั้นนายก็ หันหน้าไปทางอื่นสิ อย่าแอบมองล่ะ”

    เขาคำรามในลำคอ”ก็ได้ เกรนเจอร์” เขาหมุรตัวพร้อมทั้งขับไล่เธอออกไปจากความคิดและชีวิตของเขา ในขณะที่ลมหายใจเขาเริ่มตื้นเขินพร้อมกับทุ่มเทสมาธิไปยังที่อื่น


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×