ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 10 ตกหลุมรักสาวเจ้าน้ำตา
ตอนที่ 10 ตกหลุมรักสาวเจ้าน้ำตา
"พวกเรากลับเข้าไปด้านในตอนนี้ดีกว่าพากิสัน"เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างโกรธๆ
"แต่ พวกเราเพิ่งออกมาจากข้างในนะ ที่นี่ดีกว่าตั้งเยอะ เฮอร์ไมโอนี่"เธอกล่าวและยิ้มไปให้เฮอร์ไมโอนี่ที่ทำหน้าบึ้งตึงและเดินอย่างอ่อนแรงอยู่ข้างๆเธอ
"ก็ได้"เฮอร์ไมโอนี่พูดรอดไรฟัน ขณะที่พวกเขาเดินกันต่อไปโดยมีแพนซี่นำทางเฮอร์ไมโอนี่
ตอนนี้เธอค่อนข้างจะเชื่อใจแพนซี่มากกว่าที่เคย หลังจากชั่วโมงแห่งการปลดปล่อยความทุกข์บางส่วนออกไปจากจิตใจของเธอ โดยผ่านการร้องไห้ที่หนักหน่วง และในตอนนี้ที่เธอไม่อยากอยู่ข้างนอกภายในสวนนี้ ที่ซึ่งทุกอย่างดูเหมือนมีความสุขทั้งๆที่ในใจของเธอยังไม่ปกตินัก
”เกรนเจอร์เพียงแค่ทำตัวให้สบาย เธอต้องการผ่อนคลาย และสิ่งนี้จะทำให้เธอรู้สึกดี เชื่อฉัน"
"ก็ได้ บางทีเธออาจจะยังไม่เชื่อใจ หรือวางใจในพวกสลิธลีน" แพนซี่กล่าวเหมือนดูถูกเล็กน้อยจนทำให้เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะออกมาได้ในที่สุด พร้อมกับสั่นหัวของเธอไปมาเพื่อเป็นการปฎิเสธกลายๆ
"ฉันอาจจะทำเกินไปเธอก็ดีรู้นี่นาแพนซี่ เมื่อสองปีที่แล้วหลังจากโวลเดอร์มอร์พ่ายแพ้ไป ดังนั้น ฉันอยู่ในโลกที่ไม่ค่อยได้รับความยุติธรรมเท่าที่ควรนักมันเป็นการยากที่ฉันจะสนใจ และเชื่อใจต่ออดีตสลิธลีนบางคน"
แพนซี่กรอกตาของเธอไปมาแล้วยิ้ม”ตกลง เกรนเจอร์คนเดิมกำลังจะกลับมาแล้ว เธอจะต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้ ”เธอถอนหายใจ
”แต่ ฟังนะฉันหวังดีต่อเธอและคนอื่นๆเสมอ ถึงแม้ว่าในอดีต ฉันจะเป็นสายเลือดบริสุทธิ์ผู้วางมาดอย่างนางพญาก็ตาม”
เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะ ให้กับสิ่งที่แพนซี่พูด
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ พร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อพูดถึงเพื่อนรักของเธอ
“เธอพูดได้ฉลาดดีเกรนเจอร์”แพนซี่หัวเราะ
“ได้โปรดแพนซี่เรียกฉันว่าเฮอร์ไมโอนี่”เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกว้างอย่างจริงใจ แพนซี่หัวเราะและพยักหน้า “เฮอร์ไมโอนี่”
แพนซี่หยุดพูดชั่วครู่ เธอแหงนหน้าและสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดเต็มที่เธอยิ้มในขณะที่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเห็นเบลสและเดรโกเล่นเกมส์กันอยู่
”พวกผู้ชายกำลังเล่นควิชดิชกัน”แพนซี่บอกขณะที่กำลังครุ่นคิด และเธอก็พูดเรื่องจริงเฮอร์ไมโอนี่เพ่งตาดูพวกเขาอีกครั้ง และเห็นเดรโกและเบลสอยู่บนท้องฟ้าบนไม้กวาดของพวกเขาและกำลังขว้างควิชดิชให้กันและกันอยู่
“อือใช่ เขาเล่นควิชดิชกันจริงๆนั่นแหละ”เฮอร์ไมโอนี่หันมาพูดกับแพนซี่
“อือ พวกเราจะดูพวกเขา หรือพวกเราจะไปผ่อนคลายที่บ่อน้ำร้อนกันดีตามแต่เธอ”แพนซี่กล่าวและมองดูเฮอร์ไมโอนี่ที่เลียริมฝีปากของเธออย่างครุ่นคิด
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกผวา เธอจะต้องถอดเสื้อผ้าเพื่อเข้าไปแช่ตัวยังบ่อน้ำร้อน ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลที่ยังไม่หายดีและและเธอคิดว่ามันดูน่าเกลียดมากกับแผลถลอกและฟกซ้ำซึ่งมันเป็นรอยบาปที่วิคเตอร์ทำไว้กับเธออย่างเต็มที่นั่นทำให้เธอรู้สึกหนาวสั่น
แต่ในขณะเดียวกันเธอไม่ต้องการที่จะเฝ้าดูทั้งสองคนเล่นควิชดิชมันเป็นอะไรที่น่าเบื่อหน่ายมาก และประการสำคัญเธอเชื่อใจในตัวแพนซี่ เธอคิดว่าพวกเธอจะผ่านเรื่องที่เหมือนๆกันได้
“พวกเราจะไปที่บ่อน้ำร้อน” เฮอร์ไมโอนี่พูดรู้สึกได้ว่าตัวเธอเริ่มสั่นอีกแล้ว
"ฉันรู้ว่าเธออาจจะอายที่จะให้ฉันได้เห็นร่างกายของเธอ ใช่ไหม เอาอย่างงี้นะ ฉันจะหันหน้าหนี ตอนที่เธอถอดเสื้อผ้าและลงไปในน้ำแล้ว "แพนซี่กล่าวในขณะที่อ่านความคิดของเฮอร์ไมโอนีออก "อย่างน้อยที่สุดพวกเราจะสวมชุดชั้นใน ในการอาบน้ำร้อน"เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงเธอพยักหน้าให้อย่างอายๆและเปลี่ยนเป็นสีหน้าหวาดวิตกเข้ามาแทนที่
แพนซี่หัวเราะเสียงดังเมื่อมองเฮอร์ไมโอนี่ "ฉันไม่ได้บอกให้เธอไปกระโดดน้ำพุร้อนฆ่าตัวตายนะเฮอร์ไมโอนี่ ทำยังกับฉัน เป็นคนโหดร้ายไปได้"แพนซี่หัวเราะอย่างสนุกสนานแต่มันก็ไม่ได้ช่วยปลอบเฮอร์ไมโอนี่ได้เลย แพนซี่ดึงมือเฮอร์ไมโอนี่ และนำเธอไปยังบ่อน้ำที่พวยพุ่งเป็นไอ บ่อน้ำพุร้อนทำมาจากหินธรรมชาติ เล่นระดับเป็นชั้นๆดูสวยงามเหมือนเป็นป่าธรรมชาติ เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกว้าง
"มันสวยจัง"เธอบอกรู้สึกจิตใจที่สงบอย่างประหลาด
"ฉันดีใจที่เธอคิดแบบนั้น"แพนซี่ยิ้มให้กับเฮอร์ไมโอนี่ "ในตอนนี้ฉันจะหันกลังกลับไปเธอก็ถอดเสื้อผ้าของเธอแล้วก็วางเอาไว้ ที่ชั้นวางเสื้อผ้าที่อยู่ตรงนั้น"แพนซี่พูดแล้วเดินไปตามบันไดหินที่เกิดจากหินตามธรรมชาติ
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าเธอถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างช้าๆจนเหลือเพียงแต่ชุดชั้นในเผยให้เห็นร่องรอยฟกช้ำที่ถูกกระแทกอย่างแรงตามผิวเนื้อของเธอ เธอปีนบันไดและเอาเท้าแหย่ลงน้ำเพื่อเช็คอุณหภูมิของน้ำเล็กน้อย เฮอร์ไมโอนี่ถอนลมหายใจที่รู้สึกเครียดขึงกับความอุ่นที่ร่างกายของเธอได้รับจากน้ำ เมื่อเธอแช่ตัวเองลงไปในน้ำทั้งตัวแล้ว
แพนซี่เริ่มถอดเสื้อผ้าของเธอบ้างเพื่อ จะได้ตามเฮอร์ไมโอนี่ลงไปในบ่อน้ำร้อนด้วยอีกคน เมื่อแพนซี่หันหน้า มาเผชิญกับเฮอร์ไมโอนี่ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่เห็นแผลเป็นของแพนซี่ซึ่งเป็นรอยไหม้บนผิวหนังของเธอ เฮอร์ไมโอนี่มองด้วยความตกใจ
"แพนซี่ แผลเป็นนั้น พ่อของเธอเป็นคนทำเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างขลาดๆถึงเรื่องราวในอดีตของเธอ แพนซี่ผงกหัวอย่างเฉยเมย
"ใช่ เขาทำสัญลักษณ์ให้ฉัน"เธอทำเสียงหนักๆด้วยความเกลียดชัง "เขาและเพื่อนของเขา พวกเขาไว้ใช้เก็บแต้มในเวลาที่พวกเขาทำกับฉัน"เธอกล่าวอย่างเคร่งขรึม
"บ้าจริงๆ"เฮอร์ไมโอนี่กล่าวรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดบนแผลเป็นของร่างกายอันบอบบางของแพนซี่
"มีบางคนที่ไม่น่าสมควรเกิดมาบนโลกนี้ ฉันมักนึกเสมอว่าทำไมเหตุการณ์เหล่านี้จึงเกิดขึ้นกับตัวของฉัน แต่พอมาคิดอีกที ถ้าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับฉัน มันก็อาจจะเกิดขึ้นกับคนอื่นๆได้เช่นกันและตอนนี้ ฉันพยายามอย่างหนักเพื่อให้เวลามันพัดเอาความเจ็บปวดของฉันผ่านพ้นไป"เฮอร์ไมโอนี่กล่าวอย่างเปิดอก แพนซี่ถอนหายใจลึกๆและยิ้มให้บางๆ
“เธอช่างเข้มแข็ง เฮอร์ไมโอนี่”
“ฉันไม่เห็นว่าตัวฉันเข้มแข็งตรงไหนฉันคอยทำให้ตัวเองสกปรก และคอยแต่ที่จะวิ่งหนีความจริง ฉันรู้สึกว่าเป็นคนที่ขี้ขลาดมาก”เฮอร์ไมโอนี่กล่าวอย่างเศร้าสร้อย
“เธอไม่ได้ขี้ขลาด”แพนซี่กล่าวอย่างกระตือรือร้น”เธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งเฮอร์ไมโอนี่ เธอรู้ไหมว่าทำไม”เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัวของเธอ ”เพราะว่าเธอยังคงมีชีวิตอยู่เธอพยายามที่จะค้นหาและดำเนินชีวิตตามปกติ และนั่นมันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความเข้มแข็ง”แพนซี่กล่าวเธอจับมือของเฮอร์ไมโอนี่และยิ้มกว้างให้เธอ
"เธอพูดถูก"เฮอร์ไมโอนี่ยอมรับ"เพียงพอแล้วกับสิ่งนี้เรามาเพื่อผ่อนคลายกันเถอะ"เฮอร์ไมโอนี่กล่าวและหันหลังของเธอพิงกับผนังและรู้สึกว่ากล้ามเนื้อของเธอเบาโหวงเธอปิดเปลือกตาลงและเริ่มมีชีวิตชีวา
เวลาในระหว่างนั้นบนท้องฟ้าเบลส ซาบินี่ ก้มลงมองเบื้องล่างของบ่อน้ำพุร้อน อย่างสนใจ
“เบลสนายกำลังดูอะไร”เดรโกเรียกและยิ้มไปที่เบลสในขณะที่เขามองบางอย่างบนพื้นดินอย่างสนอกสนใจ ”อยากจะเล่นต่อไปไหม”เดรโกถามอย่างหัวเสีย
เบลสปลดปล่อยอาการมึนงง และยักไหล่เล็กน้อยให้เดรโก
"มันน่าประหลาดที่เป็นมิตรกันได้"เดรโกยอมรับกับความคิดของเขา
เบลสกรอกตา"ผู้หญิงเขากำลังคุยกันเราปล่อยเขาไว้ตามลำพังเถอะ ฉันคิดว่างั้น"เบลสกล่าวรู้สึกพอใจ
"นายดูสิเดรโกพวกเขาสนิทสนมกันเร็วดีนะ ฉันบอกนายแล้ว ว่าแพนซี่ต้องทำได้ดี"
"ฉันไม่เคยบอกว่าเธอทำไม่ได้"เดรโกพูดอย่างใจเย็น
"เดรโกฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกนายทั้งสองคน นายพอจะเล่าให้ฉันฟังได้ไหมเผื่อฉันจะช่วยอะไรพวกนายได้บ้าง”
"นายรู้เบลสว่าฉันพูดอะไรกับแพนซี่ ฉันไม่อยากจะสนใจในเรื่องนั้นอีก”เขากล่าวเสียงขึ้นจมูก"มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่ชอบเลยฉันรู้สึกเบื่อหน่ายเธอและความไม่รู้ของเธอและนั่นมันก็เป็นสาเหตุ"
เบลสกรอกตาไปที่เพื่อนที่ดีของเขาพร้อมกับหายใจหนักๆ
เดรโกถอนหายใจและยักไหล่”พวกเราจะเล่นกันต่อหรืออะไรกันดี”เดรโกถามด้วยเสียงอันดุดัน
“ยังไงก็ได้เพื่อน”เบลสกล่าวอย่างเมินเฉยก่อนที่จะเขวี้ยง ควัฟเฟิลไปที่เดรโกซึ่งเดรโกไม่ทันได้ระวังตัว ส่งผลให้มันกระแทกกับหัวของเดรโกโดยแรง และแทบจะทันทีที่เดรโกเสียหลักตกจากไม้กวาดและพุ่งตรงไปยังพื้นดินด้วยความเร็วที่น่ากลัว
”เดรโก”เบลสตะโกนด้วยความตกใจและกระโดดเข้าไปยังร่างนั้นทันทีพร้อมกับความรู้สึกเสียใจที่มันเกิดขึ้นกับเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา
ในขณะนั้นแพนซี่มองดูบนท้องฟ้าเธอเห็นสิ่งที่เธอคุ้นเคยมานานแรมปี เด็กชายผมสีบลอนส์ซึ่งกำลังดิ่งตกลงสู่พื้นและยังมี เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งที่ขี่ไม้กวาดตามหลังเขามาแต่มันไม่เร็วพอ ที่จะรับชายหนุ่มที่ตกลงมาจากท้องฟ้าได้
แพนซี่ส่งเสียงกรึ๊ดร้องและตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดร้องนั้นเธอมองตามสายตาของแพนซี่ที่ตื่นตระหนกและเธอก็ได้เห็นเช่นเดียวกับที่แพนซี่เห็นและตามสัญชาติญาณที่เธอมี เฮอร์ไมโอนี่พุ่งออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนหยิบไม้กายสิทธิ์ของเธอ และชี้ไม้ตรงไปยังร่างที่กำลังลอยละลิ่วลงมาจากท้องฟ้าและร่ายเวทมนต์ทำให้ร่างของเดรโกชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว
แพนซี่ออกมาพร้อมกับความมึนงงและวิ่งถลันออกไปโดยอยู่ในสภาพที่เปียกปอนและยังใส่ชุดชั้นในอยู่ เฮอร์ไมโอนี่หันหลังและวิ่งกลับเข้าไปยังห้องแต่งตัวดึงเสื้อคลุมของเธอมาใส่ไว้ลวกๆ ก่อนที่จะวิ่งตามหลังแพนซี่ออกไปเพื่อดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
“เดรโก เฮ้ เพื่อนรัก ตื่นสิ “ เบลสปลุกและเขย่าไหล่ของเดรโกในขณะที่เดรโกยังคงนอนอยู่ที่พื้น”ได้โปรด ฉันขอโทษ”เขาขอร้องอีกครั้ง
”เกิดอะไรขึ้น “แพนซี่ถามเสียงสั่นใจสั่นเมื่อเห็นเบลสกำลังปลุกเดรโกที่หมดสติอย่างคนที่หมดหวัง
”เบลส บอกฉันเกิดอะไรขึ้น”เสียงของแพนซี่แหบและเธอกำลังตัวสั่นซึ่งไม่รู้ว่ามันมาจากความกลัวหรือความเย็นของลมที่มาปะทะกันแน่
“ฉันเพียงแต่ทำเรื่องเหลวไหล แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจตีเขาที่ศรีษะ หรอกนะ”เบลสดึงศรีษะของเดรโกมาอยู่ที่มือของเขา
เฮอร์ไมโอนี่คุกเข่าลงที่ข้างๆหัวของเดรโกและรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่ยังมั่นคงภายใต้นิ้วมือของเธอซึ่งเธออังเอาไว้ที่จมูกเพื่อทดสอบการหายใจเหมือนที่พวกมักเกิ้ลเขาทำกัน เธอสงเกตุเห็นว่าที่หน้าอกของเขาเคลื่อนไหวและถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย
"เขายังมีชีวิต"เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเบลสและแพนซี่ขอบคุณพระเจ้ากันระวิง
"พวกเราจะต้องพาเขาไปด้านใน"เฮอร์ไมโอนี่กล่าวและมองดูที่เบลสซึ่งตอนนี้หน้าซีดจนขาวไปหมดแล้ว "เบลสและฉันจะค่อยๆเคลื่อนย้ายเดรโกเข้าไปในบ้าน แพนซี่เธอควรเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อบอุ่นเสียก่อน"เฮอร์ไมโอนี่กล่าวดวงตาของแพนซี่เบิกกว้างเหมือนพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเอใส่เพียงแค่ชั้นในเท่านั้น
แพนซี่ผงกหัวและวิ่งไปยังบ่อน้ำพุร้อนเพื่อใส่เสื้อผ้าของเธอ เบลสยืนขึ้นและพยุงเดรโกขึ้นเขาจับเดรโกด้านหนึ่งเฮอร์ไมโอนี่อีกด้านหนึ่งและพวกเขาค่อยๆประคองพาเข้าไปยังคฤหาสน์ที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก
ในตอนนี้เดรโกมัลฟอยไม่ได้อยู่ในสถานะที่ช่วยตัวเองได้จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาต้องช่วยกันพยุงเดรโกเข้ามาอย่างทุลักทุเล
มีอยู่ช่วงจังหวะหนึ่งที่เฮอร์ไมโอนี่ล้มและเบลสเสียจังหวะการทรงตัวทำให้ร่างของเดรโกทับลงไปที่เฮอร์ไมโอนี่ทั้งตัวปากและจมูกของเดรโกเกยทับอยู่ที่มุมปากของเฮอร์ไมโอนี่พอดิบพอดี และนั่นทำให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขนาดหนัก โชคดีที่เบลสทรงตัวได้ก่อนแล้วเขาจึงรีบดึงตัว
ของเดรโกออกมาจากเธอ และเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นพวกเขาจึงรีบประคองตัวเดรโกเข้าไปด้านในได้จนเป็นผลสำเร็จ
ที่นั่นใบหน้าของเบลสดูซีดขาวหลังจากเขาวางเดรโกไว้บนโซฟาแล้วเบลสจึงรีบไปตามแม่ของเขามาทันที
“แม่”เบลสตะโกนและค้นหาไปทั่วแต่ก็ไม่พบแม่ของเขาเลย“เธอไม่ได้อยู่ที่นี่เธอคงไปประชุม”เขาบอกเฮอร์ไมโอนี่”เธอช่วยรักษาเขาได้ไหม”
“ฉันไม่รู้ว่าเขาผิดปกติตรงส่วนไหน”เฮอร์ไมโอนี่กล่าวเหมือนช่วยเหลืออะไรไม่ได้มากนัก
“ไม่มีวิธีอะไรเลยเหรอเกรนเจอร์”เบลสจับเธอไว้แล้วเขย่าตัวเธออย่างโกรธๆเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกกลัวในน้ำเสียงโกรธของเขา
เบลสถอนหายใจหนักหน่วง”ฉันขอโทษเกรนเจอร์ ฉันรู้สึกสิ้นหวังเขาอาจจะตายเพราะฉันก็ได้”เขาพูดและนั่งตรงโซฟาที่เดรโกนอนอย่างเหม่อลอย
เฮอร์ไมโอนี่ผงกหัวและและดึงไม้วิเศษของเธอขึ้นมาอีกครั้ง”ฉันจะพยายามลองดูก็แล้วกัน แต่ความจริงคุณน่าจะเรียกผู้บำบัดมาท่าจะดีกว่า บางทีพวกเขาอาจจะเอาเดรโกไปที่เซ็นส์ มังโกก็ได้”เธอออกความคิดเห็น
“ไม่ ไม่เอา เซ็นส์มังโก เดรโกอาจจะฆ่าฉันได้ถ้าแม่ของเขามาพบเขาที่นั่น”
”ก็ได้ถ้างั้น”เธอชี้ไม้ของเธอไปที่เดรโกเธอจำคาถาที่มาดามพร๊อฟฟรี้เคยใช้กับผู้ป่วยเพื่อต้องการหาสิ่งผิดปกติของพวกเขา “วิสทาเลี่ยน”เธอท่องคาถาและชี้ไม้ของเธอไปที่หน้าอกของเขา
เบลสกลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่งเมื่อติดต่อแม่ของเขาได้แล้ว”แม่ผมกำลังจะมาเร็วๆนี้ แต่เธอถามว่าคุณได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง”เขารายงานให้เธอรุ้ เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้ารับรู้ก่อนที่ แพนซี่จะเข้ามาโดยระงับอารมณ์ที่หวาดกลังเอาไว้ไม่อยู่ ”เขาเป็นไงบ้าง เขาจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม โอ้ว พระเจ้า เกิดอะไรขึ้น”แพนซี่ถามเฮอร์ไมโอนี่วนไปวนมาไม่ได้ศัพท์จนเฮอร์ไมโอนี่ต้องกอดเธอเอาไว้และปลอบให้คลายความวิตกกังวลลง
“แพนซี่ ใจเย็นไว้ เขาจะไม่เป็นไร ฉันคิดว่าหัวของเขาเกิดการตกเลือด ฉันจะต้องรักษามันและเขาก็อาจจะฟื้น ฉันคิดว่าเขาจะไม่เป็นไร”
แพนซึ่คลายกังวล”ขอบคุณ พระเจ้า”เธอกล่าว และกอดเฮอร์ไมโอนี่ไว้แน่น
“เจลลี่”เบลสเรียกเอลฟ์ประจำบ้านตัวเล็กปรากฏกายขึ้นและถามความต้องการที่เขาจะสามารถปฎิบัตต่อนายของเขาได้
“ฉันต้องการผ้าพันแผลและน้ำอุ่นและ... เออ ... ทั้งหมดที่จะใช้รักษาบาดแผลที่หัว”เขาบอกกับเอลฟ์ ผู้ซี่งหายตัวไปในทันทีเมื่อเขาได้รับคำสั่งแล้ว
เป็นครั้งที่สอง เจลลี่กลับมาพร้อมอุปกรณ์และโค้งให้อย่างนอบน้อม”ดีแล้ว หันเขามาทางนี้หน่อย”เฮอร์ไมโอนี่บอกและเริ่มทำงานของเธออยู่อย่างใกล้ชิดบนหัวของเดรโก
“เขาจะตื่นในไม่ช้าพร้อมกับความเจ็บปวดอย่างมาก ฉันคิดว่าอย่างนั้น”เธอบอกโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่แน่ใจนัก”วิธีนี้มันจะหยุดการไหลของเลือดและฉันเพิ่งทำความสะอาดมันไปแต่ฉันคิดว่าฉันควรจะให้คุณพันแผลที่หัวของเดณโกดีกว่า”เฮอร์ไมโอนี่กล่าว และหน้ามุ่ยเล็กน้อยเมื่อดูเลือดของเดรโกที่เปรอะเปื้อนผมของเธอ
มาเรียมองดูอย่างโล่งใจ
”ได้สิจ๊ะเดี๊ยวฉันทำต่อเอง” ต่อมามาเรียได้หยิบเครื่องแต่งกายมาให้เฮอร์ไมโอนี่
”ไปใส่เสื้อผ้าเถอะจ๊ะที่รัก เธอได้ทำงานมาเยอะแล้ว”เธอตบไหล่ของเฮอร์ไมโอนี่ เธอหน้าแดงคว้าชุดที่มาเรียยื่นให้แล้ววิ่งเข้าไปเปลี่ยนชุด
สองชั่วโมงต่อมาเดรโกตื่นขึ้นและเริ่มครางด้วยความเจ็บปวด
”โอ้วหัวของฉัน เจ็บฉิบ”
“พูดไม่เพราะเลยเดรโก”มาเรียตะโกนเอ็ดจากการนั่งอยู่ใกล้เขา
เดรโกเลิกคิ้วขึ้น”เกิดนรกอะไรขึ้นเนี่ย”เขาถามและรู้สึกว่ามีผ้าพันแผลอยู่บนหัวของเขา
เดรโกหัวเราะ”นายนี่มัน งี่เง่าจริงๆ”เขากล่าวแต่ไม่ได้ใส่ใจนักในขณะที่หัวของเขาเริ่มระบม”ฉันยังมีชีวิตอยู่ยังไม่เป็นไรสักหน่อย มันไม่ได้ทำอันตรายอะไรมากนัก”เขาพูดอย่างยินดี
“ขอบคุณเฮอร์ไมโอนี่เถอะ”แพนซี่กล่าว “เธอช่วยนายไว้จาก....”เธอหน้าบึ้ง”การทำตัวที่ยุ่งเหยิงของนายนะและเธอก็รักษาแผลบนหัวของนายด้วย”เธอมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ที่นอนหลับอยู่ข้างๆเตาผิงและนอนขดตัวเหมือนแมว
“เกรนเจอร์เป็นคนช่วยฉันงั้นเหรอ”เขาพูดพึมพำท่าทางครุ่นคิด
“ใช่ และนายเกือบล้มทับเธอ”เบลสกล่าวแล้วหัวเราะ แต่เดรโกไม่เห็นว่ามันจะน่าขำตรงไหนจนกระทั่งเบลสกระซิบข้างหูของเดรโกในสิ่งซึ่งเขาขำมันทำให้เดรโกถึงกับหน้าแดงแปร๊ดด้วยความเขินอาย
เฮอร์ไมโอนี่สูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่ ก่อนที่แพนซี่จะนำเธอออกไปสู่สวน เธอสูดอากาศเข้าไปอึกใหญ่ และมองหน้าขึ้นไปยังท้องฟ้าสีคราม สิ่งที่เธอเห็นบนท้องฟ้าคือคนสองคนที่ขี่ไม้กวาดลอยกวัดแกว่งไปมาหนึ่งในสองนั้นมันทำให้เธอค่อนข้างอารมณ์เสียเล็กน้อย และนั่นมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าบึ้ง
"พวกเรากลับเข้าไปด้านในตอนนี้ดีกว่าพากิสัน"เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างโกรธๆ
แพนซี่ยกคิ้วของเธอขึ้นอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก
"แต่ พวกเราเพิ่งออกมาจากข้างในนะ ที่นี่ดีกว่าตั้งเยอะ เฮอร์ไมโอนี่"เธอกล่าวและยิ้มไปให้เฮอร์ไมโอนี่ที่ทำหน้าบึ้งตึงและเดินอย่างอ่อนแรงอยู่ข้างๆเธอ
"ก็ได้"เฮอร์ไมโอนี่พูดรอดไรฟัน ขณะที่พวกเขาเดินกันต่อไปโดยมีแพนซี่นำทางเฮอร์ไมโอนี่
ตอนนี้เธอค่อนข้างจะเชื่อใจแพนซี่มากกว่าที่เคย หลังจากชั่วโมงแห่งการปลดปล่อยความทุกข์บางส่วนออกไปจากจิตใจของเธอ โดยผ่านการร้องไห้ที่หนักหน่วง และในตอนนี้ที่เธอไม่อยากอยู่ข้างนอกภายในสวนนี้ ที่ซึ่งทุกอย่างดูเหมือนมีความสุขทั้งๆที่ในใจของเธอยังไม่ปกตินัก
แพนซี่ดูเหมือนจะรู้ในอาการของเฮอร์ไมโอนี่ เธอหัวเราะคิกคักอย่างสนุก
”เกรนเจอร์เพียงแค่ทำตัวให้สบาย เธอต้องการผ่อนคลาย และสิ่งนี้จะทำให้เธอรู้สึกดี เชื่อฉัน"
แพนซี่ถอนหายใจหนักๆเมื่อเห็นอาการและสีหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ที่ยังคงกล้าๆกลัวๆอยู่
"ก็ได้ บางทีเธออาจจะยังไม่เชื่อใจ หรือวางใจในพวกสลิธลีน" แพนซี่กล่าวเหมือนดูถูกเล็กน้อยจนทำให้เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะออกมาได้ในที่สุด พร้อมกับสั่นหัวของเธอไปมาเพื่อเป็นการปฎิเสธกลายๆ
"ฉันอาจจะทำเกินไปเธอก็ดีรู้นี่นาแพนซี่ เมื่อสองปีที่แล้วหลังจากโวลเดอร์มอร์พ่ายแพ้ไป ดังนั้น ฉันอยู่ในโลกที่ไม่ค่อยได้รับความยุติธรรมเท่าที่ควรนักมันเป็นการยากที่ฉันจะสนใจ และเชื่อใจต่ออดีตสลิธลีนบางคน"
แพนซี่กรอกตาของเธอไปมาแล้วยิ้ม”ตกลง เกรนเจอร์คนเดิมกำลังจะกลับมาแล้ว เธอจะต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้ ”เธอถอนหายใจ
”แต่ ฟังนะฉันหวังดีต่อเธอและคนอื่นๆเสมอ ถึงแม้ว่าในอดีต ฉันจะเป็นสายเลือดบริสุทธิ์ผู้วางมาดอย่างนางพญาก็ตาม”
เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะ ให้กับสิ่งที่แพนซี่พูด
“ตอนนี้รอนและแฮร์รี่เป็นยังไงบ้าง”แพนซี่พยายามชวนเธอคุยในเรื่องสัพเพเหระต่างๆเท่าที่เธอจะนึกออก
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ พร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อพูดถึงเพื่อนรักของเธอ
“แฮร์รี่และรอนพวกเขากำลังปรับตัวให้เป็นวีรบุรุษ เขาพยายามจะทำความเข้าใจว่าวีรบุรุษต้องทำตัวยังไง”เธอกรอกตาของเธอขึ้น”บางทีพวกเขาต้องการเวลาในการใช้ความพยายามและในขณะนี้ความพยายามทั้งหมดของเขาถูกใช้หมดไปกับการจับพวกผู้เสพความตาย”เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าแพนซี่และหัวเราะให้กันคิกคัก
“เธอพูดได้ฉลาดดีเกรนเจอร์”แพนซี่หัวเราะ
“ได้โปรดแพนซี่เรียกฉันว่าเฮอร์ไมโอนี่”เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกว้างอย่างจริงใจ แพนซี่หัวเราะและพยักหน้า “เฮอร์ไมโอนี่”
แพนซี่หยุดพูดชั่วครู่ เธอแหงนหน้าและสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดเต็มที่เธอยิ้มในขณะที่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเห็นเบลสและเดรโกเล่นเกมส์กันอยู่
”พวกผู้ชายกำลังเล่นควิชดิชกัน”แพนซี่บอกขณะที่กำลังครุ่นคิด และเธอก็พูดเรื่องจริงเฮอร์ไมโอนี่เพ่งตาดูพวกเขาอีกครั้ง และเห็นเดรโกและเบลสอยู่บนท้องฟ้าบนไม้กวาดของพวกเขาและกำลังขว้างควิชดิชให้กันและกันอยู่
“อือใช่ เขาเล่นควิชดิชกันจริงๆนั่นแหละ”เฮอร์ไมโอนี่หันมาพูดกับแพนซี่
“อือ พวกเราจะดูพวกเขา หรือพวกเราจะไปผ่อนคลายที่บ่อน้ำร้อนกันดีตามแต่เธอ”แพนซี่กล่าวและมองดูเฮอร์ไมโอนี่ที่เลียริมฝีปากของเธออย่างครุ่นคิด
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกผวา เธอจะต้องถอดเสื้อผ้าเพื่อเข้าไปแช่ตัวยังบ่อน้ำร้อน ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลที่ยังไม่หายดีและและเธอคิดว่ามันดูน่าเกลียดมากกับแผลถลอกและฟกซ้ำซึ่งมันเป็นรอยบาปที่วิคเตอร์ทำไว้กับเธออย่างเต็มที่นั่นทำให้เธอรู้สึกหนาวสั่น
แต่ในขณะเดียวกันเธอไม่ต้องการที่จะเฝ้าดูทั้งสองคนเล่นควิชดิชมันเป็นอะไรที่น่าเบื่อหน่ายมาก และประการสำคัญเธอเชื่อใจในตัวแพนซี่ เธอคิดว่าพวกเธอจะผ่านเรื่องที่เหมือนๆกันได้
“พวกเราจะไปที่บ่อน้ำร้อน” เฮอร์ไมโอนี่พูดรู้สึกได้ว่าตัวเธอเริ่มสั่นอีกแล้ว
"ฉันรู้ว่าเธออาจจะอายที่จะให้ฉันได้เห็นร่างกายของเธอ ใช่ไหม เอาอย่างงี้นะ ฉันจะหันหน้าหนี ตอนที่เธอถอดเสื้อผ้าและลงไปในน้ำแล้ว "แพนซี่กล่าวในขณะที่อ่านความคิดของเฮอร์ไมโอนีออก "อย่างน้อยที่สุดพวกเราจะสวมชุดชั้นใน ในการอาบน้ำร้อน"เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงเธอพยักหน้าให้อย่างอายๆและเปลี่ยนเป็นสีหน้าหวาดวิตกเข้ามาแทนที่
แพนซี่หัวเราะเสียงดังเมื่อมองเฮอร์ไมโอนี่ "ฉันไม่ได้บอกให้เธอไปกระโดดน้ำพุร้อนฆ่าตัวตายนะเฮอร์ไมโอนี่ ทำยังกับฉัน เป็นคนโหดร้ายไปได้"แพนซี่หัวเราะอย่างสนุกสนานแต่มันก็ไม่ได้ช่วยปลอบเฮอร์ไมโอนี่ได้เลย แพนซี่ดึงมือเฮอร์ไมโอนี่ และนำเธอไปยังบ่อน้ำที่พวยพุ่งเป็นไอ บ่อน้ำพุร้อนทำมาจากหินธรรมชาติ เล่นระดับเป็นชั้นๆดูสวยงามเหมือนเป็นป่าธรรมชาติ เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกว้าง
"มันสวยจัง"เธอบอกรู้สึกจิตใจที่สงบอย่างประหลาด
"ฉันดีใจที่เธอคิดแบบนั้น"แพนซี่ยิ้มให้กับเฮอร์ไมโอนี่ "ในตอนนี้ฉันจะหันกลังกลับไปเธอก็ถอดเสื้อผ้าของเธอแล้วก็วางเอาไว้ ที่ชั้นวางเสื้อผ้าที่อยู่ตรงนั้น"แพนซี่พูดแล้วเดินไปตามบันไดหินที่เกิดจากหินตามธรรมชาติ
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าเธอถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างช้าๆจนเหลือเพียงแต่ชุดชั้นในเผยให้เห็นร่องรอยฟกช้ำที่ถูกกระแทกอย่างแรงตามผิวเนื้อของเธอ เธอปีนบันไดและเอาเท้าแหย่ลงน้ำเพื่อเช็คอุณหภูมิของน้ำเล็กน้อย เฮอร์ไมโอนี่ถอนลมหายใจที่รู้สึกเครียดขึงกับความอุ่นที่ร่างกายของเธอได้รับจากน้ำ เมื่อเธอแช่ตัวเองลงไปในน้ำทั้งตัวแล้ว
แพนซี่เริ่มถอดเสื้อผ้าของเธอบ้างเพื่อ จะได้ตามเฮอร์ไมโอนี่ลงไปในบ่อน้ำร้อนด้วยอีกคน เมื่อแพนซี่หันหน้า มาเผชิญกับเฮอร์ไมโอนี่ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่เห็นแผลเป็นของแพนซี่ซึ่งเป็นรอยไหม้บนผิวหนังของเธอ เฮอร์ไมโอนี่มองด้วยความตกใจ
"แพนซี่ แผลเป็นนั้น พ่อของเธอเป็นคนทำเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างขลาดๆถึงเรื่องราวในอดีตของเธอ แพนซี่ผงกหัวอย่างเฉยเมย
"ใช่ เขาทำสัญลักษณ์ให้ฉัน"เธอทำเสียงหนักๆด้วยความเกลียดชัง "เขาและเพื่อนของเขา พวกเขาไว้ใช้เก็บแต้มในเวลาที่พวกเขาทำกับฉัน"เธอกล่าวอย่างเคร่งขรึม
"บ้าจริงๆ"เฮอร์ไมโอนี่กล่าวรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดบนแผลเป็นของร่างกายอันบอบบางของแพนซี่
"มีบางคนที่ไม่น่าสมควรเกิดมาบนโลกนี้ ฉันมักนึกเสมอว่าทำไมเหตุการณ์เหล่านี้จึงเกิดขึ้นกับตัวของฉัน แต่พอมาคิดอีกที ถ้าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับฉัน มันก็อาจจะเกิดขึ้นกับคนอื่นๆได้เช่นกันและตอนนี้ ฉันพยายามอย่างหนักเพื่อให้เวลามันพัดเอาความเจ็บปวดของฉันผ่านพ้นไป"เฮอร์ไมโอนี่กล่าวอย่างเปิดอก แพนซี่ถอนหายใจลึกๆและยิ้มให้บางๆ
“เธอช่างเข้มแข็ง เฮอร์ไมโอนี่”
“ฉันไม่เห็นว่าตัวฉันเข้มแข็งตรงไหนฉันคอยทำให้ตัวเองสกปรก และคอยแต่ที่จะวิ่งหนีความจริง ฉันรู้สึกว่าเป็นคนที่ขี้ขลาดมาก”เฮอร์ไมโอนี่กล่าวอย่างเศร้าสร้อย
“เธอไม่ได้ขี้ขลาด”แพนซี่กล่าวอย่างกระตือรือร้น”เธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งเฮอร์ไมโอนี่ เธอรู้ไหมว่าทำไม”เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัวของเธอ ”เพราะว่าเธอยังคงมีชีวิตอยู่เธอพยายามที่จะค้นหาและดำเนินชีวิตตามปกติ และนั่นมันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความเข้มแข็ง”แพนซี่กล่าวเธอจับมือของเฮอร์ไมโอนี่และยิ้มกว้างให้เธอ
"เธอพูดถูก"เฮอร์ไมโอนี่ยอมรับ"เพียงพอแล้วกับสิ่งนี้เรามาเพื่อผ่อนคลายกันเถอะ"เฮอร์ไมโอนี่กล่าวและหันหลังของเธอพิงกับผนังและรู้สึกว่ากล้ามเนื้อของเธอเบาโหวงเธอปิดเปลือกตาลงและเริ่มมีชีวิตชีวา
เวลาในระหว่างนั้นบนท้องฟ้าเบลส ซาบินี่ ก้มลงมองเบื้องล่างของบ่อน้ำพุร้อน อย่างสนใจ
“เบลสนายกำลังดูอะไร”เดรโกเรียกและยิ้มไปที่เบลสในขณะที่เขามองบางอย่างบนพื้นดินอย่างสนอกสนใจ ”อยากจะเล่นต่อไปไหม”เดรโกถามอย่างหัวเสีย
เบลสปลดปล่อยอาการมึนงง และยักไหล่เล็กน้อยให้เดรโก
"อะไร นายพูดว่าไงนะ อ้อ คือ ฉันเพียงดูแขกของเราก็เท่านั้น "เขากล่าวและยิ้มให้เดรโกอย่างเคอะเขิน ขณะที่ชี้มือลงไปที่บ่อน้ำพุร้อน เดรโกเลิกคิ้วขึ้นขณะที่เขาเห็นเด็กสาวสองคนนั่งอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนและคุยกันอย่างสนิทสนม มีช่วงหนึ่งที่แพนซี่จับมือเฮอร์ไมโอนี่และกล่าวบางอย่างทำให้เธอผงกหัวและเอนหลังเพื่อผ่อนคลาย
"มันน่าประหลาดที่เป็นมิตรกันได้"เดรโกยอมรับกับความคิดของเขา
เบลสกรอกตา"ผู้หญิงเขากำลังคุยกันเราปล่อยเขาไว้ตามลำพังเถอะ ฉันคิดว่างั้น"เบลสกล่าวรู้สึกพอใจ
"นายดูสิเดรโกพวกเขาสนิทสนมกันเร็วดีนะ ฉันบอกนายแล้ว ว่าแพนซี่ต้องทำได้ดี"
"ฉันไม่เคยบอกว่าเธอทำไม่ได้"เดรโกพูดอย่างใจเย็น
"เดรโกฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกนายทั้งสองคน นายพอจะเล่าให้ฉันฟังได้ไหมเผื่อฉันจะช่วยอะไรพวกนายได้บ้าง”
"นายรู้เบลสว่าฉันพูดอะไรกับแพนซี่ ฉันไม่อยากจะสนใจในเรื่องนั้นอีก”เขากล่าวเสียงขึ้นจมูก"มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่ชอบเลยฉันรู้สึกเบื่อหน่ายเธอและความไม่รู้ของเธอและนั่นมันก็เป็นสาเหตุ"
เบลสกรอกตาไปที่เพื่อนที่ดีของเขาพร้อมกับหายใจหนักๆ
"แพนซี่บอกฉันว่านายบอกเธอว่าไม่อยากแต่งงานกับเธอยกเว้นว่านายตกอยู่ในความรักกับเธอแล้วจริงๆนั่นมันสมควรที่จะทำให้เธอโกรธนายหนักขนาดนั้น นายอย่าลืมสิว่านายควงกับเธอมานานแล้วแต่สิ่งที่นายพูดคือนายไม่ได้รักเธอ"เบลสมองตรงไปที่เขาด้วยสายตาอันแหลมคม
เดรโกถอนหายใจและยักไหล่”พวกเราจะเล่นกันต่อหรืออะไรกันดี”เดรโกถามด้วยเสียงอันดุดัน
“ยังไงก็ได้เพื่อน”เบลสกล่าวอย่างเมินเฉยก่อนที่จะเขวี้ยง ควัฟเฟิลไปที่เดรโกซึ่งเดรโกไม่ทันได้ระวังตัว ส่งผลให้มันกระแทกกับหัวของเดรโกโดยแรง และแทบจะทันทีที่เดรโกเสียหลักตกจากไม้กวาดและพุ่งตรงไปยังพื้นดินด้วยความเร็วที่น่ากลัว
”เดรโก”เบลสตะโกนด้วยความตกใจและกระโดดเข้าไปยังร่างนั้นทันทีพร้อมกับความรู้สึกเสียใจที่มันเกิดขึ้นกับเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา
ในขณะนั้นแพนซี่มองดูบนท้องฟ้าเธอเห็นสิ่งที่เธอคุ้นเคยมานานแรมปี เด็กชายผมสีบลอนส์ซึ่งกำลังดิ่งตกลงสู่พื้นและยังมี เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งที่ขี่ไม้กวาดตามหลังเขามาแต่มันไม่เร็วพอ ที่จะรับชายหนุ่มที่ตกลงมาจากท้องฟ้าได้
แพนซี่ส่งเสียงกรึ๊ดร้องและตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดร้องนั้นเธอมองตามสายตาของแพนซี่ที่ตื่นตระหนกและเธอก็ได้เห็นเช่นเดียวกับที่แพนซี่เห็นและตามสัญชาติญาณที่เธอมี เฮอร์ไมโอนี่พุ่งออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนหยิบไม้กายสิทธิ์ของเธอ และชี้ไม้ตรงไปยังร่างที่กำลังลอยละลิ่วลงมาจากท้องฟ้าและร่ายเวทมนต์ทำให้ร่างของเดรโกชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว
แพนซี่ออกมาพร้อมกับความมึนงงและวิ่งถลันออกไปโดยอยู่ในสภาพที่เปียกปอนและยังใส่ชุดชั้นในอยู่ เฮอร์ไมโอนี่หันหลังและวิ่งกลับเข้าไปยังห้องแต่งตัวดึงเสื้อคลุมของเธอมาใส่ไว้ลวกๆ ก่อนที่จะวิ่งตามหลังแพนซี่ออกไปเพื่อดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
“เดรโก เฮ้ เพื่อนรัก ตื่นสิ “ เบลสปลุกและเขย่าไหล่ของเดรโกในขณะที่เดรโกยังคงนอนอยู่ที่พื้น”ได้โปรด ฉันขอโทษ”เขาขอร้องอีกครั้ง
”เกิดอะไรขึ้น “แพนซี่ถามเสียงสั่นใจสั่นเมื่อเห็นเบลสกำลังปลุกเดรโกที่หมดสติอย่างคนที่หมดหวัง
”เบลส บอกฉันเกิดอะไรขึ้น”เสียงของแพนซี่แหบและเธอกำลังตัวสั่นซึ่งไม่รู้ว่ามันมาจากความกลัวหรือความเย็นของลมที่มาปะทะกันแน่
“ฉันเพียงแต่ทำเรื่องเหลวไหล แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจตีเขาที่ศรีษะ หรอกนะ”เบลสดึงศรีษะของเดรโกมาอยู่ที่มือของเขา
เฮอร์ไมโอนี่คุกเข่าลงที่ข้างๆหัวของเดรโกและรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่ยังมั่นคงภายใต้นิ้วมือของเธอซึ่งเธออังเอาไว้ที่จมูกเพื่อทดสอบการหายใจเหมือนที่พวกมักเกิ้ลเขาทำกัน เธอสงเกตุเห็นว่าที่หน้าอกของเขาเคลื่อนไหวและถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย
"เขายังมีชีวิต"เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเบลสและแพนซี่ขอบคุณพระเจ้ากันระวิง
"พวกเราจะต้องพาเขาไปด้านใน"เฮอร์ไมโอนี่กล่าวและมองดูที่เบลสซึ่งตอนนี้หน้าซีดจนขาวไปหมดแล้ว "เบลสและฉันจะค่อยๆเคลื่อนย้ายเดรโกเข้าไปในบ้าน แพนซี่เธอควรเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อบอุ่นเสียก่อน"เฮอร์ไมโอนี่กล่าวดวงตาของแพนซี่เบิกกว้างเหมือนพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเอใส่เพียงแค่ชั้นในเท่านั้น
แพนซี่ผงกหัวและวิ่งไปยังบ่อน้ำพุร้อนเพื่อใส่เสื้อผ้าของเธอ เบลสยืนขึ้นและพยุงเดรโกขึ้นเขาจับเดรโกด้านหนึ่งเฮอร์ไมโอนี่อีกด้านหนึ่งและพวกเขาค่อยๆประคองพาเข้าไปยังคฤหาสน์ที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก
ในตอนนี้เดรโกมัลฟอยไม่ได้อยู่ในสถานะที่ช่วยตัวเองได้จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาต้องช่วยกันพยุงเดรโกเข้ามาอย่างทุลักทุเล
มีอยู่ช่วงจังหวะหนึ่งที่เฮอร์ไมโอนี่ล้มและเบลสเสียจังหวะการทรงตัวทำให้ร่างของเดรโกทับลงไปที่เฮอร์ไมโอนี่ทั้งตัวปากและจมูกของเดรโกเกยทับอยู่ที่มุมปากของเฮอร์ไมโอนี่พอดิบพอดี และนั่นทำให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขนาดหนัก โชคดีที่เบลสทรงตัวได้ก่อนแล้วเขาจึงรีบดึงตัว
ของเดรโกออกมาจากเธอ และเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นพวกเขาจึงรีบประคองตัวเดรโกเข้าไปด้านในได้จนเป็นผลสำเร็จ
ที่นั่นใบหน้าของเบลสดูซีดขาวหลังจากเขาวางเดรโกไว้บนโซฟาแล้วเบลสจึงรีบไปตามแม่ของเขามาทันที
“แม่”เบลสตะโกนและค้นหาไปทั่วแต่ก็ไม่พบแม่ของเขาเลย“เธอไม่ได้อยู่ที่นี่เธอคงไปประชุม”เขาบอกเฮอร์ไมโอนี่”เธอช่วยรักษาเขาได้ไหม”
“ฉันไม่รู้ว่าเขาผิดปกติตรงส่วนไหน”เฮอร์ไมโอนี่กล่าวเหมือนช่วยเหลืออะไรไม่ได้มากนัก
“ไม่มีวิธีอะไรเลยเหรอเกรนเจอร์”เบลสจับเธอไว้แล้วเขย่าตัวเธออย่างโกรธๆเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกกลัวในน้ำเสียงโกรธของเขา
เบลสถอนหายใจหนักหน่วง”ฉันขอโทษเกรนเจอร์ ฉันรู้สึกสิ้นหวังเขาอาจจะตายเพราะฉันก็ได้”เขาพูดและนั่งตรงโซฟาที่เดรโกนอนอย่างเหม่อลอย
เฮอร์ไมโอนี่ผงกหัวและและดึงไม้วิเศษของเธอขึ้นมาอีกครั้ง”ฉันจะพยายามลองดูก็แล้วกัน แต่ความจริงคุณน่าจะเรียกผู้บำบัดมาท่าจะดีกว่า บางทีพวกเขาอาจจะเอาเดรโกไปที่เซ็นส์ มังโกก็ได้”เธอออกความคิดเห็น
“ไม่ ไม่เอา เซ็นส์มังโก เดรโกอาจจะฆ่าฉันได้ถ้าแม่ของเขามาพบเขาที่นั่น”
”ก็ได้ถ้างั้น”เธอชี้ไม้ของเธอไปที่เดรโกเธอจำคาถาที่มาดามพร๊อฟฟรี้เคยใช้กับผู้ป่วยเพื่อต้องการหาสิ่งผิดปกติของพวกเขา “วิสทาเลี่ยน”เธอท่องคาถาและชี้ไม้ของเธอไปที่หน้าอกของเขา
ในทันทีนั้นเกิดหน้าจอสีเขียวที่ลอยในอากาศมันคือรูปภาพโปร่งใสของระบบร่างกายของเดรโกหัวของเขาเริ่มแดงกล่ำและเธอจำได้ว่าสีแดงคือการตกเลือดแต่ก็ไม่มีส่วนใดอื่นๆที่เสียหายเธอเอามันออกไปและเป็นครั้งที่สองที่เธอถอนหายใจเพื่อบรรเทาความตรึงเครียด
เบลสกลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่งเมื่อติดต่อแม่ของเขาได้แล้ว”แม่ผมกำลังจะมาเร็วๆนี้ แต่เธอถามว่าคุณได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง”เขารายงานให้เธอรุ้ เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้ารับรู้ก่อนที่ แพนซี่จะเข้ามาโดยระงับอารมณ์ที่หวาดกลังเอาไว้ไม่อยู่ ”เขาเป็นไงบ้าง เขาจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม โอ้ว พระเจ้า เกิดอะไรขึ้น”แพนซี่ถามเฮอร์ไมโอนี่วนไปวนมาไม่ได้ศัพท์จนเฮอร์ไมโอนี่ต้องกอดเธอเอาไว้และปลอบให้คลายความวิตกกังวลลง
“แพนซี่ ใจเย็นไว้ เขาจะไม่เป็นไร ฉันคิดว่าหัวของเขาเกิดการตกเลือด ฉันจะต้องรักษามันและเขาก็อาจจะฟื้น ฉันคิดว่าเขาจะไม่เป็นไร”
แพนซึ่คลายกังวล”ขอบคุณ พระเจ้า”เธอกล่าว และกอดเฮอร์ไมโอนี่ไว้แน่น
“เจลลี่”เบลสเรียกเอลฟ์ประจำบ้านตัวเล็กปรากฏกายขึ้นและถามความต้องการที่เขาจะสามารถปฎิบัตต่อนายของเขาได้
“ฉันต้องการผ้าพันแผลและน้ำอุ่นและ... เออ ... ทั้งหมดที่จะใช้รักษาบาดแผลที่หัว”เขาบอกกับเอลฟ์ ผู้ซี่งหายตัวไปในทันทีเมื่อเขาได้รับคำสั่งแล้ว
เป็นครั้งที่สอง เจลลี่กลับมาพร้อมอุปกรณ์และโค้งให้อย่างนอบน้อม”ดีแล้ว หันเขามาทางนี้หน่อย”เฮอร์ไมโอนี่บอกและเริ่มทำงานของเธออยู่อย่างใกล้ชิดบนหัวของเดรโก
ยี่สิบนาทีต่อมามาเรียรีบร้อนเข้ามาและมองดูด้วยความตึงเครียด”เฮอร์ไมโอนี่เขาป็นยังไงบ้าง”มาเรียถามและเฝ้ามองไหล่ของเฮอร์ไมโอนี่ซึ่งกำลังดึงรอยเย็บให้แน่นหนา
“เขาจะตื่นในไม่ช้าพร้อมกับความเจ็บปวดอย่างมาก ฉันคิดว่าอย่างนั้น”เธอบอกโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่แน่ใจนัก”วิธีนี้มันจะหยุดการไหลของเลือดและฉันเพิ่งทำความสะอาดมันไปแต่ฉันคิดว่าฉันควรจะให้คุณพันแผลที่หัวของเดณโกดีกว่า”เฮอร์ไมโอนี่กล่าว และหน้ามุ่ยเล็กน้อยเมื่อดูเลือดของเดรโกที่เปรอะเปื้อนผมของเธอ
มาเรียมองดูอย่างโล่งใจ
”ได้สิจ๊ะเดี๊ยวฉันทำต่อเอง” ต่อมามาเรียได้หยิบเครื่องแต่งกายมาให้เฮอร์ไมโอนี่
”ไปใส่เสื้อผ้าเถอะจ๊ะที่รัก เธอได้ทำงานมาเยอะแล้ว”เธอตบไหล่ของเฮอร์ไมโอนี่ เธอหน้าแดงคว้าชุดที่มาเรียยื่นให้แล้ววิ่งเข้าไปเปลี่ยนชุด
สองชั่วโมงต่อมาเดรโกตื่นขึ้นและเริ่มครางด้วยความเจ็บปวด
”โอ้วหัวของฉัน เจ็บฉิบ”
“พูดไม่เพราะเลยเดรโก”มาเรียตะโกนเอ็ดจากการนั่งอยู่ใกล้เขา
เบลสและแพนซึ่ยืนขึ้นและวิ่งเกือบตัวลอย ความกังวลเต็มไปตามใบหน้าของพวกเขาทั้งหลาย”นายเป็นยังไงบ้างฉันไม่ได้ตั้งใจให้นายเจ็บเลย”
เดรโกเลิกคิ้วขึ้น”เกิดนรกอะไรขึ้นเนี่ย”เขาถามและรู้สึกว่ามีผ้าพันแผลอยู่บนหัวของเขา
“ก็ ฉันเขวี้ยงควัฟเฟิลอย่างแรงไปโดนหัวของนายเข้า”เบลสกล่าวเบาๆแต่เดรโกก็พอจะได้ยิน”ที่จริงฉันไม่ได้ตั้งใจเลย”เขาดูหน้าเจื่อน
เดรโกหัวเราะ”นายนี่มัน งี่เง่าจริงๆ”เขากล่าวแต่ไม่ได้ใส่ใจนักในขณะที่หัวของเขาเริ่มระบม”ฉันยังมีชีวิตอยู่ยังไม่เป็นไรสักหน่อย มันไม่ได้ทำอันตรายอะไรมากนัก”เขาพูดอย่างยินดี
“ขอบคุณเฮอร์ไมโอนี่เถอะ”แพนซี่กล่าว “เธอช่วยนายไว้จาก....”เธอหน้าบึ้ง”การทำตัวที่ยุ่งเหยิงของนายนะและเธอก็รักษาแผลบนหัวของนายด้วย”เธอมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ที่นอนหลับอยู่ข้างๆเตาผิงและนอนขดตัวเหมือนแมว
“เกรนเจอร์เป็นคนช่วยฉันงั้นเหรอ”เขาพูดพึมพำท่าทางครุ่นคิด
“ใช่ และนายเกือบล้มทับเธอ”เบลสกล่าวแล้วหัวเราะ แต่เดรโกไม่เห็นว่ามันจะน่าขำตรงไหนจนกระทั่งเบลสกระซิบข้างหูของเดรโกในสิ่งซึ่งเขาขำมันทำให้เดรโกถึงกับหน้าแดงแปร๊ดด้วยความเขินอาย
TBC
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น