คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1: ก็แค่ผู้หญิง
I never regrettedthat she lovers
CHAPTER 1 : Chapter 1: ก็แค่ผู้หญิง
“เดรโก..อือ.... ”เสียงครวญครางแทบขาดใจของหญิงสาวผิวขาวนวล
______________ เซ็นต์เซอร์___________________
“ขอร้องฉันสิ แล้วฉันจะให้ในสิ่งที่เธอขอ”
“เดรโก...ฉัน” หญิงสาวพยายามพูดร้องขอเสียงขาดหายเป็นห้วงๆอย่างน่าสงสาร
”ฉัน..ขอร้องช่วย..อ้า..เดรโก..ช่วยด้วย นะเดรโก ฉัน...ทนไม่ไหว”สิ้นเสียงพูดหญิงสาวก็หอบหายใจจนตัวโยนภายใต้ร่างของเขา เดรโก ยึดตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองหน้าหญิงสาวที่ร้องขอให้ถนัดตาพลางยิ้มนิดๆอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อร่างขาวนวลนั้นร้องขออย่างหมดอาย
“ได้สิได้เลย ฉันจะให้ตามที่เธอขอ......จินนี่”
_____________________เซ็นต์เซอร์__________________
เสียงหอบหายใจอย่างหนักหน่วงของชายหนุ่มผสานกับเสียงครวญครางของหญิงสาวสลับกันไปไม่ขาดสายเตึยงนอนที่ดูแข็งแรงสั่นไหวอย่างรุนแรงเหมือนให้รู้ว่ากิจกรรมที่ทั้งสองกำลังทำร่วมกันนี้หนักหน่วงแค่ไหนตอนนี้สงครามสวาทที่เขากำลังปรนเปรอให้หญิงสาวกำลังดำเนินไปอย่างเนิ่นนานเขาจะยังยื้อเวลาไปเรื่อยๆจนกว่าเขาจะแน่ใจได้ว่า หญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างเขาในขณะนี้จะสำลักความสุขที่เขามอบให้จนลืมหน้าของเจ้าหัวแผลเป็นคนนั้นไปเลย และนั้นคือสิงที่เขาต้องการ ความเจ็บปวดของชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่เขาแสนเกลียดชัง แฮร์รี่ พอตเตอร์
........................................................................
เมื่อ 4 ชั่วโมงก่อนหน้านี้
“กึก ๆ”
เสียงดังกึกกักดังขึ้นที่หน้าต่างห้องบ้านโพรงกระต่ายซึ่งมันเป็นด้านหนึ่งของห้องนอนของเด็กสาวผมแดงน้องสาวคนเล็กของตระกูลวิสลี่ย์
เด็กสาวที่นอนคว่ำเขียนอะไรบางอย่างอยู่บนเตียง รีบเหลียวหลังไปมองอย่างสงสัยเธอรีบลุกพรวดพราดขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่านกฮูกอินทรีตัวใหญ่นั้นเป็นของใคร
“ว่าไงเดรโกส่งอะไรมาให้ฉันงั้นเหรอ”
จินนี่เปิดหน้าต่างออกก่อนที่นกฮูกสื่อสารของตระกูลมัลฟอยจะยื่นขาที่ผูกกระดาษสีแดงเอาไว้ให้กับเด็กสาวที่มันรับหน้าที่ให้นำจดหมายของเจ้านายมันมาส้งให้อย่างเรียบร้อย เด็กสาวแกะเชือกที่ติดจดหมายออกจากขาของมันอย่างรีบร้อนเธอโยนอาหารสำหรับนกให้มันกินสองสามชื้นก่อนที่มันจะบินกลับไปที่เดิมเธอทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่ใกล้หน้าต่าง แล้วคลี่จดหมายชิ้นเล็กๆออกอ่านอย่างดีใจ
ถึงจินนี่สาวน้อยคนสวยของฉัน
ตอนนี้แม่ของฉันกับฉันจะออกไปทำธุระเล็กน้อยที่โลกมักเกิ้ล ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน เธอจะออกมาได้ไหมบางทีเราอาจจะมีช่วงเวลาเล็กๆน้อยๆอยู่ด้วยกัน เพื่อรื้อฟื้น .... เธอคงรู้นะว่าฉันหมายถึงอะไร ฉันจะให้แม่ไปก่อน แล้วฉันจะรอเธออยู่ที่หน้าร้านหม่อใหญ่รั่วแล้วเราจะออกไปที่ถนนชาลิงตั้นด้วยกัน ฉันจะอยู่กับเธอจนได้เวลาฉันถึงจะไปส่งเธอ แล้วถึงจะกลับไปรับแม่ที่หลัง ยังไงฉันก็จะรอเธอและฉันรู้ว่าเธอเองก็จะมาด้วย
จาก DM
ข้อความในจดหมายทำให้เด็กหญิงผมแดงหน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เธอยิ้มอย่างพึงพอใจเธอพับกระดาษสีแดงเล็กๆแล้วยัดใส่ในกระเป๋ากางเกง เดินไปสำรวจหน้าตาของตัวเองที่กระจกแต่งหน้าก่อนที่จะเติมลิปสติกอีกเล็กน้อยบนเรียวปากนุ่มและทาแป้งอีกหน่อยเมื่อเธอสำรวจ หน้าตาและเสื้อผ้าจนพอใจแล้ว จินนี่จึงเดินไปหยิบรองเท้าผ้าใบคู่โปรดและค่อยๆเปิดประตูออกไปยังระเบียงอย่างเงียบๆจินนี่เดินไปที่ห้องของรอนและแง้มเปิดประตูแอบดูเล็กน้อยรอนยังคงนอนอยู่เธอจึงค่อยๆปิดประตูแล้วย่องเดินลงไปยังชั้นล่าง มีเสียงจานชามกระทบกันไปมาซึ่งนั่นเป็นสัญญานว่านางมอลลี่อยู่ในครัว จินนี่รีบจรดปลายเท้าแล้วย่องออกไปยังนอกบ้านได้ในที่สุด
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
3 ชั่วโมงหลังจากนั้น
“รอน”หญิงสาวรูปร่างสมส่วน ใบหน้าคมเข้ม กำลังกวักมือเรียกเพื่อนชายคนสนิทด้วยใบหน้ายิ้มแย้มผิดกับเพื่อนผมแดงที่มีใบหน้าแดงกล่ำเนื่องจากแดดในช่วงเที่ยงที่กำลังร้อนพอดี เดินเข้ามานั่งอย่างอ่อนแรง
“เฮอร์ไมโอนี่ มารอฉันนานไหม”
“ไม่หรอก..อ้าว...แล้วแฮร์รี่ล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามรอนแล้วไสน้ำของตัวเองให้รอนดื่มแก้กระหาย ซึ่งไม่ต้องให้รอเอ่ยปาก รอนรีบคว้าน้ำขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว
“อย่าไปพูดถึงเขาได้ม่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่จ้องหน้ารอนนิ่งสักครู่ก่อนถามอย่างเบื่อหน่าย
“อะไรกันเนี่ยรอน โกรธอะไรแฮร์รี่เขาอีกล่ะ”
“ก็แฮร์รี่นะสิ พอเป็นแฟนกับจินนี่ก็ไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับพวกเราเลยอี๋อ๋ออยู่กับน้องสาวฉันนั่นแหละทำยังกับเป็นรักแรกพบ น่าเกลียดชะมัด แล้วตอนนี้ก็เหมือนกันไม่ยอมมากับฉันเขาบอกว่าจะอยู่กับจินนี่ฉันก็เลยขี้เกียจขอร้อง ก็เลยออกมาก่อน แล้วยังงี้จะไม่ให้โกรธได้ยังไงกันล่ะ”คำตอบของรอนทำให้เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัวอย่างระอากับเพื่อนหัวแดงคนนี้
“พอกัน”
สิ้นเสียงของเฮอร์ไมโอนี่รอนหันขวับมามองทันที
“อะไรนะ เฮอร์ไมโอนี่ ฉันได้ยินนะ”
“ก็เธอกับแฮร์รี่เหมือนกันเลยนะสิ “เฮอร์ไมโอนี่กล่าวตอบอย่างไม่สนใจรอนว่าจะโกรธตัวเองมากน้อยแค่ไหนเพราะตอนนี้เธอเองก็โมโหรอนอยู่ไม่ใช่น้อยกับการเจ้าแง่แสนงอนของรอน
รอนมองเฮอร์ไมโอนี่ตอบพร้อมกับเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างใจเย็น
“ลองคิดดูนะรอนตอนนั้นเธอเองก็ติดกับลาเวนเดอร์เหมือนกันนี่ แฮร์รี่ชวนไปซ้อมควิชดิชก็ไม่ยอมไปเอาแต่นั่งเฝ้าลาเวนเดอร์ทั้งวันเหมือนกัน “
“แต่มันไม่เหมือนกันนี่นา”รอนยังไม่ยอมแพ้
“ไม่เหมือนกันยังไง” เฮอร์ไมโอนี่ถามกลับ
“ก็ลาเวนเดอร์น่ะเป็นรักแรกของฉันนี่นา แต่แฮร์รี่ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้วนะไม่ใช่รักแรกเสียหน่อยไม่น่าจะต้องหมกมุ่นเรื่องนี้มากมายเลย”
เฮอร์ไมโอนี่ใช้เวลานิ่งคิดสักครู่ก่อนจะพยายามอธิบายให้รอนเข้าใจเพื่อนรักของเธออีกคนหนึ่ง
“เลิกพูดทีเถอะน่ารอน เห็นใจแฮร์รี่เขาหน่อยกว่าเขาจะทำใจลืมโซได้ เธอก็เห็นว่าสภาพของแฮร์รี่ตอนนั้นเป็นยังไงเธอคงจะไม่อยากเห็นแฮร์รี่ในสภาพเก่าอีกหรอกนะ”
รอนนิ่งเงียบไปเขาหลุบตามองพื้นอย่างใช้ความคิดจริงอย่างที่เฮอร์ไมโอนี่พูดตอนที่แฮร์รี่ผิดหวังจากโซเขาทรมานไม่ต่างจากแฮร์รี่เลยเหมือนยังกับเขาอกหักเสียเอง ความที่เป็นเพื่อนที่สนิททำให้ทั้งเขาและเฮอร์ไมโอนี่แทบไม่กินไม่นอนตามแฮร์รี่ไปเลยจนกระทั่งจินนี่เข้ามาทดแทนความผิดหวังของแฮร์รี่ เขาเริ่มสนิทกับจินนี่มากขึ้น และในที่สุดวันนึงแฮร์รี่ก็มาสารภาพกับรอนว่าเขาเริ่มชอบจินนี่ ครั้งแรกรอนหัวเสีย ความหวงน้องสาวทำให้เขาเกือบจะหมางใจกับแฮร์รี่แต่เพื่อนสาวของเขาเฮอร์ไมโอนี่และลาเวนเดอร์ช่วยพูดจนรอนเริ่มเย็นลงและยอมรับในที่สุด จินนี่และแฮร์รี่เริ่มสนิทสนมกันเรื่อยๆตั้งแต่ต้นเทอมปี6 จนกระทั่งตอนนี้ทั้ง2คนเป็นคู่รักกันไปแล้ว และดูท่าทางจินนี่ดูมีความสุขมากเสียด้วยเพราะระยะหลังๆดูจินนี่เบิกบานขึ้นมีน้ำมีนวลดูสวยขึ้นสาวขึ้นจนผิดตา หรือนี่เป็นอานุภาพของความรักจริงๆ
เฮอร์ไมโอนี่นิ่งเงียบมองดูเพื่อนผมแดงของเธออย่างพิจารณา รอนดูหล่อขึ้นเรื่อยๆใบหน้าที่เคยตกกระตอนนี้เริ่มจางลงผมสีแดงเพลิงของเขาดูมีเสน่ห์ตัวของรอนสูงขึ้นตามลำดับลำตัวเริ่มมีมัดกล้าม แหงล่ะก็เขาเป็นนักกีฬาควิชดิชนี่ จะให้ตัวผอมกระหร่องเหมือนสมัยก่อนได้ยังไง
“อะไร
เฮอร์ไมโอนี่เธออย่ามองหน้าฉันแบบนี้สิ ฉันเขินนะ”
รอนถามด้วยน้ำเสียงแปร่งๆหน้าเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆด้วยความเขินเมื่อเขามองมาเห็นเพื่อนสาวของเขา เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ซึ่งกำลังจ้องมองมาที่เขาตาไม่กระพริบ
เฮอร์ไมโอนี่เหมือนรู้สึกตัวเธอหัวเราะอย่างอารมณ์ดีแล้วแกล้งแซวรอน
“แหม ก็เธอ ออกหล่อ ฉันมองคนหล่อไม่ได้หรือไง”
“เธอนี่ทำเป็นพูดเล่นไปได้”
รอนติงเสียงดุ เขาเสหันไปมองออกนอกหน้าต่างบานใหญ่ พลางลอบถอนหายใจเบาๆไม่ให้เฮอร์ไมโอนี่เห็น ถ้าเป็นคนอื่นเขาก็คงไม่หวั่นไหวหรอกออกจะหงุดหงิดด้วยซ้ำแต่นี่เป็นเธอเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ คนที่ฉลาดที่สุดและเก่งที่สุดในชั้นเรียน และด้วยในเวลานี้เธอก็เปลี่ยนแปลงไปตามวัยสาวที่เติบโตขึ้น เรื่อยๆเธอเริ่มมีส่วนเว้าส่วนโค้ง ตามแบบฉบับของผู้หญิงที่มีสุขภาพดี ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่เริ่มเปลี่ยนไปไม่ได้เหมือนเด็กๆที่ไม่รู้ประสาแล้ว แต่เป็นใบหน้าของหญิงสาวที่ดูสวยงามน่ารักคนหนึ่ง นี่ถ้าเขาไม่มีลาเวนเตอร์ เขาคง ...... รอนตาเบิกโพลงอย่างตกใจ พลางส่ายหัวอย่างแรงเหมือนไม่อยากจะเชื่อตัวเองที่มีความคิดบ้าๆแบบนี้ กับเพื่อนรักของเขาเอง
“รอนเธอเป็นอะไรไปหรือเปล่า”เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนเธอ
รอนหันขวับมามองเฮอร์ไมโอนี่ แล้วทันทีทันใดเขาก็คว้ามือของหญิงสาวขึ้นมากุมไว้แล้วดึงเข้ามาใกล้เขาทันที
“แต่ตอนนี้เธอควรจะเห็นใจฉันบ้างนะเฮอร์ไมโอนี่”
เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเฮือก ตาของเธอเบิกกว้างขึ้นอย่างประหลาดใจทำอะไรแทบไม่ถูก
“รอน...นี่..นะ..นายคงจะไม่”
รอนขำกับท่าทีพร้อมทั้งน้ำเสียงตะกุกตะกักของเฮอร์ไมโอนี่จนหลุดขำเบรคแทบไม่อยู่เขาปล่อยมือเฮอร์ไมโอนี่แล้วมากุมท้องของตัวเองที่ตอนนี้ขำจนตัวงอรั้งไม่อยู่แล้วเขาพยายามสงบสติอารมณ์แต่ก็ยังขำออกมาเป็นช่วงๆ เสียงตอบของรอนที่กลั้วไปด้วยเสียงหัวเราะดังขึ้นเมื่อเขาสงบสติได้บ้างแล้ว
“อะไรเฮอร์ไมโอนี่เธอคงไม่คิดว่าฉันจะสารภาพรักเธอหรอกน่ะ ”
“อ้าวแล้วที่นายพูดเมิ่อกี้”
รอนชี้ไปที่ท้องของเขาแล้วมองมาที่เฮอร์ไมโอนี่ที่พยายามรวบรวมความคิดให้เข้าที่เข้าทาง
“ท้องฉันตอนนี้มันร้องแล้วน่ะสิ ฉันหิวแล้วล่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจพรืดใหญ่
“โธ่เอ่ยรอน ก็ไม่บอกตั้งแต่ทีแรก”
“แล้วเราจะไปหาอะไรกินกันได้แล้วหรือยัง”รอนลุกขึ้นเตรียมไปหาอะไรกินเหมือนที่ท้องเริ่มร้องประท้วงขึ้นเรื่อยๆ เฮอร์ไมโอนี่ดึงแขนรอนให้ทรุดนั่งเหมือนเดิม
“ยังย่ะ รอเนวิลย์ก่อนเขายังไม่มาเลย”
รอนนั่งอย่างหมดแรงแล้วร้องครวญครางจนเฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเยาะ
“โธ่เอ่ย เนวิลย์นายหายหัวไปไหนว่ะทำไมยังไม่มาอีกฉันหิวจนตาลายแล้วนะเพื่อน”
ชายหนุ่มเจ้าของร่างท้วมใส่แว่นตาทรงโตกำลังกวาดสายตามองหาใครสักคนมาได้สักพักใหญ่แล้ว เขาเองคงจะมองหาแบบนี้ไปเรื่อยๆถ้าไม่มีใครมาขัดจังหวะเสียก่อน
“หวัดดี เนวิลย์ มองหาฉันอยู่เหรอ”
เนวิลย์สะดุ้งแล้วหันกลับมามองร่างเล็กๆนั้นอย่างช้าๆ เขาขยับแว่นสายตาทรงโตไปมาสักพักแล้วก้มตัวยิ้มเขินๆให้กับเด็กสาวบ้านเรเวนครอมที่เขานัดเธอออกมาเดทในวันนี้เป็นครั้งแรก
“เออ หวัดดีแคทเธอลีน”
หญิงสาวยิ้มให้เนวิลย์อย่างเอียงอาย เธอถามเนวิลย์ซ้ำเหมือนขอคำตอบ
“เมื่อกี้เธอมองหาฉันอยู่เหรอ”
“เออ เปล่า ..เอ้ย ใช่” เนวิลย์พูดผิดพูดถูก เขาถอนหายใจแรงๆอย่างอึดอัดกับคำพูดของเขาที่ไม่ได้เรื่อง เขาพยายามเรียบเรียงคำพูดใหม่
“คือ ฉันหมายถึงฉันมองหาเธอแล้วบังเอิญเจอน้องสาวเพื่อนกับ..เออ..กับ”
เนวิลล์เริ่มลังเล เขาจะบอกดีไหมว่าเขาเจอใคร แต่เขาก็ไม่แน่ใจนี่นา อีกอย่างเขาคิดว่าคนที่เขาเห็นคงไม่มาเดินกับคนๆนั้นแน่ แล้วเดินแบบสนิทสนมกันแบบนั้นคงไม่ใช่หรอก
“ฉันรอฟังอยู่นะ”แคทเธอลีนยิ้มให้กำลังใจ แล้วใจจดใจจ่อกับคำตอบที่ได้รับ
เนวิลล์กัดริมฝีปากของตัวเองแน่นก่อนตัดสินใจ
“เออ ฉันว่าคงไม่ใช่ เขาคงไม่มาด้วยกันหรอกน่า ไม่น่าใช่ ถ้ามากับอีกคนก็คงใช่เพราะเขาเป็นแฟนกันนี่นา”
แคทเธอลีนเอียงคอมองเนวิลล์อย่างงๆกับคำตอบที่เธอได้รับ
“เธอพูดอะไรน่ะเนวิลย์วกไปวนมาอะไรใช่ไม่ใช่ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย”
“เออ คือ ฉันขอโทษนะ แคทเธอลีน”เนวิลย์หน้าเศร้า เขาไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ปกติเขาเองก็พูดน้อยอยู่แล้ว ยิ่งมานัดเจอกับผู้หญิงแบบนี้เขายิ่งเขินอายไปกันใหญ่ กว่าจะตัดสินใจนัดเธอออกมาได้ก็แทบแย่ แล้วนี่เขาเองก็ต้องมาเจอกับปัญหาคำพูดยอดแย่เข้าไปอีก
แคทเธอลีนดูเหมือนจะเข้าใจเนวิล์อยู่ เธอชอบเนวิลล์ก็ตรงนี้ ความขี้อายของเขาดูสื่อบริสุทธิ์ไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นๆที่เธอเคยรู้จัก
“ไม่เป็นไรจ๊า ว่าแต่เธอนัดฉันมาที่นี่เธอจะชวนฉันไปเที่ยวที่ไหนล่ะ ฉันไม่เคยเที่ยวที่โลกมัลเกิ้ลมาก่อนเลยนะ”
“เออ ฉันก็ไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่เหมือนกัน”เนวิลล์ตอบพร้อมกับที่เดินนำหน้าแคทเธอลีนที่เดินตามมาติดๆ
“อ้าวแล้วเราจะไปไหนล่ะเนวิลย์”
“คือ ฉันนัดเพื่อนไว้อีกสองคนน่ะ เธอเองก้รู้จักนะแคทเธอลีน”เนวิลล์หันมาบอกแคทเธอลีนที่ตอนนี้เธอเดินขึ้นมาเคียงข้างกับเขาแล้ว
“ใครเหรอ” เธอเอียงคอมองอย่างแปลกใจ
เนวิลล์ท่าทางกลัวๆ เขาไม่แน่ใจว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าจะว่าเขาหรือเปล่าที่ชวนเพื่อนมาด้วยโดยที่เขาไม่ได้เดทกับเธอแค่ สองคนเหมือนอย่างที่เธอคิด
“ก็รอนกับเฮอร์ไมโอนี่นะสิ”
แต่แล้วเนวิลล์ก็ยิ้มออกมาเมื่อแคทเธอลีน ยิ้มกว้างเมื่อนึกขึ้นได้
“อ้อสองคนนั่น เฮอร์ไมโอนี่ฉันเคยคุยด้วยตอนที่ฉันไปหารายงานทำที่ห้องสมุดเธอน่ารักดีนะยังช่วยฉันหาข้อมูลส่งรายงานให้ศาตราจารณ์เสนปเลย ส่วนรอนฉันเคยเจอกันสองสามครั้งที่สนามตวิชดิชแต่ไม่เคยทักกันเลย”
“งันเราไปหาเขาสองคนกันดีว่านะเรานัดเขาไว้ที่ร้านไอศกรีมข้างๆนี่แหละ”เนวิลย์ชวนแล้วก้าวเท้าเนิบๆเคียงคู่กับแคทเธอลีน
“เฮอร์ไมโอนี่เป็นลูกมักเกิ้ลเธอเคยชวนฉันให้มาเที่ยวที่โลกมักเกิ้ลฉันเลยถือโอกาสก่อนเปิดเทอมมาเที่ยวที่นี่สักครั้ง เลยชวนเธอมาด้วยน่ะหวังว่าเธอคงไม่ว่าอะไรนะ” เนวิลล์พูดอธิบายให้แคทเธอลีนฟังเมื่อเห็นว่าเธอไม่โกรธเหมือนอย่างที่ตัวเองเข้าใจ แคทเธอลีนยิ้มน้อยๆให้เนวิลล์
“ฉันไม่ว่าหรอกดีเสียอีกมากันหลายคนสนุกดี”
เนวิลล์มองดูหญิงสาวหัวใจพองโต เธอรู้สึกจะเข้าใจอะไรได้ง่ายๆดูไม่หยิ่งและถือตัวทำให้เนวิล์คลายความเก้อเขินลงไปได้ไม่น้อย เนวิลล์พยักหน้ารับแล้วเดินเคียงคู่กันไปหาเพื่อนของเขาสองคนยังที่นัดหมาย
***************************************************
ดูเหมือนแคทเธอลีนจะเข้ากันได้ดีกับเพื่อนๆของเขา ทั้งเฮอร์ไมโอนี่และรอนทั้งสี่คนคนคุยกันอย่างออกรสแต่ถ้าจะพูดให้ถูกน่าจะเป็นสามคนมากกว่าเพราะเนวิลล์ได้แต่นั่งยิ้มแล้วลอบมองแคทเธอลีนและเพื่อนๆของเขาคุยกันอย่างสนุกสนาน เฮอร์ไมโอนี่ เสนอให้ไปหาอะไรทานกันก่อนแล้วค่อยไปดูหนังรอบเย็นซึ่งทุกคนเห็นดีด้วย เฮอร์ไมโอนี่พาทุกคนมาที่ร้านอาหารอิตาลีเล็กๆร้านหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากที่นั่นเท่าไหร่นัก
“กินที่นี่แล้วกันนะที่นี่พิซซ่าเขาอร่อยที่สุดเลย ฉันเคยมาลองกินกับพ่อแล้ว”
“อะไรน่ะ พิซซ่าเหรอ” เนวิลล์มีท่าทางตื่นเต้น “ฉันไม่เคยกินนะ อยากลองเหมือนกัน”
เฮอร์ไมโอนี่พาเพื่อนๆของเธอเดินนำเข้ามาในร้านบริกรหญิงคนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับแล้วพาพวกเธอไปนั่งที่โต๊ะตัวหนึ่งข้างหน้าต่างบานเล็กบริกรหญิงยื่นเมนูให้เฮอร์ไมโอนี่แล้วยืนรอเงียบๆเพื่อรับออเดอร์
รอนมองสำรวจภายในร้านไปทั่วก่อนหยุดมองไปที่โต๊ะด้านในสุด วัยรุ่น สองสามคนอายุคงรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเขาชายสองหญิงหนึ่งซึ่งตอนนี้ก็กำลังมองพวกเขาอยู่แล้วเช่นเดียวกัน รอนสบตากับเด็กหนุ่มผมออกน้ำตาลแดงคนหนึ่งที่มองเขานิ่งไม่หลบตา แววตาที่ดูนิ่งๆแต่ดูเย็นชาแข็งกร้าวทำให้ใบหน้าคมคายดูหน้ากลัว แต่ในสายตาแบบนี้สำหรับรอนมันคุ้นในความรู้สึกว่าเหมือนใครคนหนึ่ง รอนกำลังคิดย้อนกลับไปของใบหน้าแต่ละตนที่เขารู้จัก แล้ววงหน้าของใครคนหนึ่งก็แว๊บเข้าสมองโดยทันที เด็กหนุ่มผิวซีด สายตาเย็นชา ที่ชอบมองเหมือนคนทั้งโลกเป็นพวกชั้นต่ำรวมทั้งพวกเขาด้วย เดรโก มัลฟอย
รอนเบ้ปากเล็กน้อย ก่อนสบตานั้นอีกครั้งหนึ่งแล้วหันกลับโดยไม่สนใจสายตาคู่นั้นอีกเลย
“ไหนว่าอร่อยมีลูกค้าแค่สองโต๊ะเอง”รอนกระซิบ
เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงเล็กน้อยเหลือบมองบริกรหญิงที่ยืนรอเมนูอยู่แล้วยิ้มบางๆให้ เฮอร์ไมโอนี่หันมาหารอนแล้วถลึงตาให้อย่างดุดัน
“เขาจะมีลูกค้าแค่ไหนก็เรื่องของเขาน่ารอน ฉันว่าอร่อยก็อร่อยสิ”
รอนเงยหน้ามองเธอ
“ขอโทษที”เขาพูดพลางยักไหล่”ก็ที่นี่มันค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับฉันนี่นา”
เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้วแต่รอนทำเป็นมองไม่เห็น แล้วหันมาสนใจเมนูในมือที่เขารับมาจากแคทเธอลีน โดยที่แคทเธอลีนและเนวิลล์ดูเมนูเดียวกันอย่างสนิทสนม
อีกฟากหนึ่งของโต๊ะด้านในสุดกลุ่มเด็กวัยรุ่นสามคนที่รอนเห็นกำลังมองดูกลุ่มของรอนอย่างสนใจ
“ไง ดอน นายสนใจเด็กผู้หญิงมัลเกิ้ลคนนั้นเหรอ เห็นจ้องตาไม่กระพริบเลยนี่”
เด็กหญิงผมยาวดำขลับในตากลมโตสีฟ้าใบหน้าเด่นดูสวยงามขยับปากแซวเพื่อนชายผมดำที่นั่งหันข้างให้เธอเพื่อมองดูกลุ่มเด็กที่เข้ามาใหม่ให้ถนัด อย่างเยาะๆ
ดอนยักคิ้วตอบอย่างคึกคะนองว่า
“ธรรมดาน่า อมาธาร์ ผู้หญิงสวยๆ น่ารักๆแบบนั้นใครๆก็อยากมองกันทั้งนั้นแหละ” แล้วพยักหน้าไปทางเด็กหนุ่มที่แสนจะเย็นชา ที่นั่งข้างๆเด็กสาว” ดูอย่างวินเวิร์ด สิ ยังจ้องเขม็งเลย”
“ฉันไม่สน” เสียงแข็งๆห้วนๆตอบกลับโดยในทันทีที่ดอนพูดจบ
เด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างๆคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจในคำตอบของเด็กหนุ่มที่ดูเย็นชาผู้นี้
“เห็นไหมล่ะดอน วินเวิร์ดไม่สนใจลูกมักเกิ้ลธรรมดาๆจืดๆแบบนั้นหรอก ผู้หญิงที่เขาสนใจต้อง
พิเศษกว่านั้น”
อมาธ่าร์เอ่ยเน้นคำท้ายอย่างจงใจ แล้วจ้องมองวินเวิร์ดอย่างตั้งใจ แต่เด็กหนุ่มกลับไม่สนใจในแววตาของเด็กสาวข้างๆเลยแม้แต่น้อย
“งั้นเหรอ”ดอนเอ่ยเสียงเรียบๆสายตาหรี่มองเพื่อนชายตรงหน้าอย่างกวนๆ ” หรือว่าไอ้ที่ฉันเห็นเมื่อกี้ที่นายมองเขาตั้งแต่เดินจากหน้าประตูเข้ามานั่ง จนกระทั้งฉัน ทักเมื่อกี้นายไม่ได้มองเธอ ”
“ฉันไม่ปฎิเสธว่าฉันมองเธอ” คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้ใบหน้าที่มีรอยยิ้มของเด็กสาวเริ่มซีดลงแต่คำพูดต่อมาทำให้เด็กสาวกลับถอนใจอย่างโล่งอก” แต่ฉันไม่ได้สนใจเธอมากไปกว่าที่รู้ว่าเธอไม่ใช่เป็นแค่มัลเกิ้ลธรรมดา”
“ไม่ใช่แค่มัลเกิ้ล” อมาธ่าร์เลิกคิ้วด้วยตวามสงสัย “เธอหมายความว่าไงวินเวิร์ด”
ดอนพยักหน้าอย่างสนใจ
“นั่นสิ นายหมายความว่าไง นายคงไม่ได้บอกว่าเธอเป็น
.” ดอนหันมาสบตากับอมาธ่าร์แล้วหันมาตอบคำถามที่คิดว่าเป็นคำตอบที่ถูกต้องให้เด็กหนุ่มช่างสังเกตุนั้น”แม่มด”
วินเวิร์ดยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยนั่นทำให้ใบหน้าหล่อเหลาดูมีเสน่ห์เพิ่มเข้าไปอีก
“พวกนายสังเกตกันเอาเองสิ ไอของเวทมนต์น่ะดูง่ายจะตาย แต่อย่ามองเธอมากนักน่ะ รู้สึกพวกเธอจะรู้ตัวแล้วว่าเรามองอยู่”
****************************************************************
รอนรู้สึกอึดอัดเมื่อเขาสังเกตุเห็นว่ากลุ่มเขาถูกมองมาหลายรอบแล้ว
“ไอ้กลุ่มนั้น มันมองมาทางเราทำไม”
แคทเธอลีนและเนวิลย์หันไปมองทางที่รอนส่งสายตาพิฆาตไปให้
“ฉันว่าเขามองเฮอร์ไมโอนี่นะ ฉันสังเกตุมาตั้งนานแล้ว”
แคทเธอลีนเอ่ยเสียงเบาๆ เฮอร์ไมโอนี่มองตามรอนอย่างไม่สนใจ แต่ในขณะที่ดวงตาของเธอสัมผัสกับสายตาเย็นชาคู่นั้นกลับทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากแน่นกับความรู้สึกที่เธอไม่แน่ใจ หวาดหวั่น หรือ หวาดกลัวกันแน่ เฮอร์ไมโอนี่หลบตาลงแล้วพูดตัดบทอย่างไม่สนใจ
“ช่างเขาเถอะ เรามาสั่งอาหารกินกันดีกว่า”
เธอรีบสั่งอาหารที่คิดว่าอร่อยที่สุดของร้านไป สองสามอย่าง เพราะถ้าเธอรอให้เพื่อนๆของเธอสั่งเองคงอีกสักชาติหนึ่งแน่ แคทเธอลีนขยับตัวไปมาแล้วสอดส่ายสายตาหาอะไรบางอย่างก่อนเอ่ยกระซิบเสียงแผ่วกับเฮอร์ไมโอนี่
“เออ เฮอร์ไมโอนี่ห้องน้ำอยู่ไหนน่ะ”
“จะเข้าห้องน้ำเหรอแคทเธอลีนงั้นฉันไปเป็นเพื่อนนะ”
เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นแต่แคทเธอลีนฉุดเธอให้ลงมานั่งเหมือนเดิม
“ไม่ต้องหรอกเฮอร์ไมโอนี่ฉันไปเองได้”
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าตรงไปที่ผนังที่มีสัญลักษ์ชี้ไปทางห้องน้ำชายหญิง
“ห้องน้ำผู้หญิงอยู่ด้านนั้นน่ะ อ้าว รอนแล้วนายจะไปไหนล่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่ร้องทักเมื่อเห็นรอนลุกขึ้นยืนเหมือนกัน
“ฉันจะเข้าห้องน้ำเหมือนกัน ไปปล่อยก่อน จะได้กลับมากินเยอะๆไง”
รอนกระซิบแล้วขยิบตาให้เฮอร์ไมโอนี่ทีนึงเฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัวอย่างระอากับเนวิลล์
“ทุรศจริงๆรอนเนี่ย”
เนวิลล์เหลือบมองดูสมาชิกที่โต๊ะหลังจากแคทเธอลีนและรอนเพิ่งลุกออกไปขณะนี้จึงเหลือเขาและเฮอร์ไมโอนี่แค่สองคน เนวิลล์ขยับแว่นสายตาของเขาไปมา
“เฮอร์ไมโอนี่ฉันมีเรื่องจะบอกเธอน่ะ”เนวิล์เริ่มพูดแล้วขยับตัวเข้าใกล้เฮอร์ไมโอนี่อีกนิดเหมือนไม่อยากให้ใตรได้ยินทั้งๆที่ตรงนั้นแทบไม่มีใครอยู่เลย จะมีก็แค่เด็กวัยรุ่นสามคนที่อยู่ไกลออกไปอีกหลายโต๊ะนั่งอยู่
“มีเรื่องอะไรเหรอเนวิลล์”
เฮอร์ไมโอนี่จ้องตาเนวิลล์ เพื่อให้เขารับรู้ว่าเธอกำลังตั้งใจฟังอยู่
“ฉันว่าฉันเห็นจินนี่นะ” เนวิลล์พูดออกมาเหมือนไม่แน่ใจในสิ่งที่ตัวเองเห็น
“เหรอ จินนี่มากับแฮร์รี่เหรอ”
เฮอร์ไมโอนี่ชะโงกหน้าเข้าหาเนวิลล์อีกนิดหนึ่งแล้วถามอย่างสนใจ เนวิลล์สั่นหัวไปมาคล้ายปฎิเสธแล้วกัดริมฝีปากเบาๆนิ่งเงียบไปสักครู่
“เออฉันเห็นจินนี่กับ ..เออ กับ”เนวิลล์พูดตะกุกตะกักไม่แน่ใจว่าจะพูดดีหรือเปล่า
“กับใครเนวิลล์”
เฮอร์ไมโอนี่จ้องตาเนวิลล์เขม็ง เนวิลล์ลังเลสักพักก่อนสูดลมหายใจเหมือนกำลังเตรียมตัววิ่งแข่งมาราธอน
“เออฉันเห็นจินนี่มากับมัลฟอยน่ะตอนที่ฉันรอแคทเธอลีนอยู่ฉันเห็นเขาสองคนจูงมือกันเดินมา แต่คนเยอะมาก พอฉันเพ่งมองอีกทีพวกเขาก็หายไปแล้ว”
เฮอร์ไมโอนี่นิ่งอึ้งไปหลายวินาทีจากนั้นจึงชะโงกหน้ามาข้างหน้า
“มัลฟอยเนี่ยนะแล้วมากับจิ่นนี่ แถมเจอในสถานที่ในโลกมัลเกิ้ลที่เขาขยะแขยงเสียอีก “
เนวิลล์ไม่พูดอะไร...เขาเพียงแต่นิ่งรอ เฮอร์ไมโอนี่ส่ายศีรษะช้าๆ
“เป็นไปไม่ได้หรอกเนวิลล์ตอนนี้แฮร์รี่อยู่กับจินนี่ที่บ้านโพรงกระต่ายนะ ถ้านายเห็นแฮร์รี่กับจินนี่ก็ว่าไปอย่าง นี่เห็นมัลฟอยกับจินนี่ฉันว่านายตาฝาดชัวร์”
เนวิลล์พยักหน้า รู้สึกดีใจขึ้นมานิดหน่อย เฮอร์ไมโอนี่อาจจะพูดถูก
“เออ ฉันก็คิดว่าอย่างงั้นเหมือนกัน ตอนแรกฉันก็ไม่แน่ใจนักแต่พอเธอบอกว่าแฮร์รี่อยู่กับจินนี่ที่บ้านโพรงกระต่ายฉันก็เลยเบาใจ ถ้างั้นฉันคงตาฝาดไปจริงๆนั่นแหละ”
เมื่อรอนกับแคทเธอลีนกลับมาที่โต๊ะ พิซซ่าเลิศรสก็นำมาเสริฟร์พอดีทุกคนกำลังวิจารณ์หน้าตาพิซซ่ากันอย่างสนุกสนานรวมถึงเนวิลล์ด้วย แคทเธอลีนกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่เมื่อเนวิลล์วิจารณืว่าพิซซ่าหน้าตาเหมือนอาหารที่เสียแล้วมาเทรวมกันรอนมองดูพิซซ่าอีกครั้งแล้วพยักหน้าเห็นด้วยกับเนวิลล์แต่ความหอมของพิซซ่าลอยเข้ามาแตะจมูกและความหิวทำให้ทั้งหมดหยุดพูดและเริ่มแบ่งสรรคนละชิ้นสองชิ้นเข้าปากตนเอง
ชั่วขณะหนึ่งความสุขก็หมดไปเมื่อรอนสบถคำในลำคอเสียงดัง
“ซวยฉิบ”
“อะไรรอน”เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าถามระคนแปลกใจที่เห็นอาการหงุดหงิดของเพื่อนผมแดง
“เธอดูโน่นสิว่าใครมา ทำไมมันซวยอย่างนี้ว่ะ” คำท้ายรอนกล่าวอย่างหัวเสีย
เฮอร์ไมโอนี่มองตามสายตารอนที่มองไปที่ประตูทางเข้าหน้าร้าน และเธอก็พบกับเด็กชายวัยรุ่นตัวสูงผมสีบลอนส์ กำลังส่งสายตาสีซีด ที่แข็งกร้าวตรงมาที่พวกเธอนั่งอยู่ สักครู่ที่เด็กหนุ่มคนนั้นละสายตาจากพวกเธอ แล้วมองทั่วร้านเพื่อหาใครสักคนเขาหยุดอยู่ที่กลุ่มวัยรุ่นด้านในสุด ก่อนที่จะตวัดสายตาหันมาทางกลุ่มของเธออีกครั้ง และคราวนี้แววตาสีซีดปะทะเข้ากับสายตาของเฮอร์ไมโอนี่เข้าอย่างจัง แววตาของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนของเฮอร์ไมโอนี่ในตอนนี้ แต่เพียงชั่วคู่ที่เขาปรับเปลี่ยนสายตาให้กลับมาเป็นเขาคนเดิม สายตาที่แข็งกระด้าง สายตาที่ที่เต็มไปด้วยความขยะแขยงในตัวเด็กสาวที่อยู่ข้างหน้า สายตาของคุณชายเลือดบริสุทธิ์ “เดรโก มัลฟอย”
****************************************************
“เดรโก มัลฟอย”เนวิลล์ เรียกชื่อของคนที่เห็นเสียงสั่นเขาเริ่มมีความรุ้สึกว่าความสุขเมื่อครู่มันเริ่มติดปีกโบยบินออกไปเรื่อยๆและตอนนี้สิ่งที่เข้ามาแทนที่ คือความหายนะ เนวิลล์คิดอย่างนั้นจริงๆ
“นึกว่าใครที่แท้ก็ไอ้พวกกระจอก กับไอ้พวกสวะ พวกนี้นี่เอง”เสียงยานคางตามแบบฉบับของมัลฟอยดังเข้ามากระทบยังโสตประสาทของทั้งสี่อย่างจังในขณะที่มัลฟอยเดินเข้ามาใกล้ทั้งสี่อย่างใจเย็น แคทเธอลีนจับแขนของเนวิลล์ด้วยความกลัวเนวิลก็ไม่ต่างจากเธอนักเฮอร์ไมโอนี่สุดลมหายใจลึกๆแต่ไม่พูดอะไรส่วนรอนนั้นไม่ต้องมองหน้าเธอก็รู้ว่าโมโหจนแทบจะระเบิด
รอนลุกขึ้นอย่างกระทันหันแล้วหันหน้ามาเผชิญกับมัลฟอยอย่างไม่กลัวเกรง
“ไอ้...”รอนกระชากเสียงแต่เฮอร์ไมโอนี่กระโดดเข้ามาขวางกลางระหว่างรอนและมัลฟอย
“รอนอย่ามีเรื่อง แล้วก็ห้ามใช้เวทมนต์ด้วย”เฮอร์ไมโอนี่เตือนเธอรู้ดีว่ารอนกำลังเดือดและวู่วามถ้ามีอะไรเกิดขึ้นทั้งตัวเธอ รอน เนวิลล์และแคทเธอลีน อาจจะกระทบกระเทือนกับการเรียนในปีสุดท้ายนี้ก็ได้
มัลฟอยยิ้มเยาะให้รอน เมื่อเขากำลังคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อสักครู่ ร่างเปลือยเปล่าขาวนวลที่นอนให้เขาโลมเลียไปทั้งตัวและสำเร็จโทษร่างน้อยๆนั้นจนสั่นสะท้านไปถึงสวรรค์ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วนั้น เป็นร่างของสาวน้อย น้องสาวคนสุดท้องของเจ้าหัวแดงคนนี้ เขาอยากจะบอกให้ไอ้เจ้าหัวแดงหน้าโง่ตรงหน้านี้รู้นักว่า น้องสาวของมันก็ไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นสักเท่าไหร่ เพียงแค่ใช้เล่ร์กลนิดหน่อย คำพูดหวานๆ กับการจัดฉากอีกเล็กน้อย และของฝากมีราคา แค่นี่จินนี่ก็โผเข้าซบอ้อมกอดเขาได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้ยังก่อนยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะบอกให้ศัตรูของเขาได้รับรู้ ยังมีเวลาที่จะเล่นเกมกันอีกนานวิสลี่ร์
มัลฟอยยืนเอามือซุกกระเป๋าส่งสายตายียวนมาทางรอน
“ทำไมกลัวหรือไงวิสลี่ย์ หรือไม่กล้า ขี้ขลาดนี่ ฉันว่านายไปขอกระโปรงวิสลี่ร์น้อยมาใส่ดีกว่า”
มัลฟอยพูดยั่ว เฮอร์ไมโอนี่รู้ดี เธอจับแขนรอนไว้แน่นแล้วกระซิบเบาๆ
“รอน อย่านะเขากำลังยั่วนายให้นายใช้เวทมนต์ในเขตมัลเกิ้ล นายอาจจะโดนทำโทษได้”
เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจ หันหน้ามาเผชิญกับมัลฟอยเสียเอง โดยกั้นรอนที่ทำเสียงฮึดฮัดในลำคออย่างไม่พอใจไว้ด้านหลังของเธอ
“นายต้องการอะไร มัลฟอย อย่ามาหาเรื่องแถวนี้ดีกว่า”
เพราะความสูงของมัลฟอยทำให้เขาก้มหน้ามองหญิงสาวที่แสนชังอย่างดูแคลน
มัลฟอยเพิ่งมองเห็นใบหน้าของหญิงสาวชัดๆและใกล้ๆก็วันนี้นี่เอง เขามองใบหน้าสวยที่เชิดใส่เขาอย่างรังเกียจไม่แพ้กัน อย่างพิจารณา เฮอร์ไมโอนี่ เจน เกรนเจอร์ เด็กสาวผมฟู บ้าเรียน แห่งกริฟฟินดอร์ และเป็นเพื่อนรักของ พอตเตอร์ และ วิสลี่ร์ผมแดง ที่เขาแสนเกลียด แต่วันนี้ เธอแตกต่างไปจากอดีตอย่างไม่น่าเชื่อ เธอดูสวยขึ้นเป็นหญิงสาวเต็มตัว ผมที่เคยฟูฟ่องก็ไม่ฟูเหมือนแต่ก่อนแต่กลับจัดทรงไว้ดูดี ฟันหน้าคู่ที่สังเกตเห็นง่ายๆเวลายิ้มจะใหญ่จนเป็นที่ล้อเลียนของเขาเสมอ ดูเล็กลง ทำให้ใบหน้าคมดูหน้ามองอย่างเห็นได้ชัดเจน ส่วนรูปร่างของเธอที่ดูสูงขึ่นถึงแม้จะเตี้ยกว่าเขาแต่เทียบกับเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันถือว่าเป็นมาตราฐานโดยทั่วไป เขาแอบลอบมองสัดส่วนของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว ส่วนเว้าส่วนโค้งที่เขาเห็นเขาก็พอประมาณได้เนื่องจากความเจนจัดในเรื่องผู้หญิงของเขา มีพอดีไม่ขาดไม่เกิน และแล้วอยู่ๆอะไรบางอย่างก็วูบเข้ามาในสมอง ในตอนนี้เขาอยากเห็นเรือนร่างที่เปล่าเปลือยของเธอ ใบหน้าขาวซีดของมัลฟอยรู้สึกชาวูบ เขากัดริมฝีปากแน่น กับความคิดบ้าๆแบบนั้น เขาเป็นบ้าอะไรไปแล้วเนี่ย ยายเลือดโสโครกแบบนั้น น่ารังเกียจแบบนั้น ช่างน่าเป็นความคิดที่น่ารังเกียจสิ้นดี สำหรับสายเลือดผู้ดีและบริสุทธิ์แบบเขา
ขณะที่ทั้งเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอย เผชิญหน้ากันอยู่นั้น อีกฟากหนึ่งของโต๊ะกำลังมองดูเหตุการณ์นั้นอย่างสนใจ
“ไม่คิดจะไปช่วย พวกเดียวกันเลยหรือไงวินเวิร์ด” เสียงยียวนกวนประสาทของดอนลอยขึ้นโดยที่เขาไม่ แม้จะหันมามองหน้าคนที่พูดด้วย เพราะมัวแต่สนใจกับเหตุการข้างหน้า
“ทำไมต้องเข้าไปช่วย เขาเป็นต่อเห็นๆ”เสียงเย็นๆตอบกลับ
แต่เพื่อนสาวที่นั่งข้างๆกลับวิตกแทน
“แต่เขามาคนเดียวนะ วินเวิร์ด”
“น่านสิ ไม่กลัวเขาโดนยำหรือไง”คราวนี้ดอนมองตาของเพื่อนสนิทอย่างแปลกใจ เขาเห็นรอยยิ้มเล็กน้อยจากเพื่อนชายที่แสนเย็นชานั้นก่อนที่น้ำเสียงแข็งๆจะเอ่ยออกมา
“ดอน ถ้านายไม่ได้สังเกตก็หัดสังเกตดูเสียบ้าง”
ดอนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนสังเกตบริเวณโดยรอบ พนักงานชาย สองสามคนที่ยืนดูอยู่ห่างๆ ไม่แม้แต่จะเข้ามาห้าม ซึ่งผิดวิสัยมัลเกิ้ลโดยทั่วไป พวกนั้นเพียงแต่มองกลุ่มของพ่อมดแม่มดสี่คนนั้นอย่างดูเชิง
“พวกเดียวกันงั้นเหรอ”
วินเวิร์ดผงกหน้ารับ
“ที่นี่ตระกูลมัลฟอยมีหุ้นด้วยครึ่งนึงไว้เป็นที่ติดต่อระหว่างโลกพ่อมดแม่มดกับโลกมัลเกิ้ลคนภายนอกจะไม่รู้”
********************************************
“ออกไปไกลๆเลย ยายเลือดสีโคลนโสโครก”เสียงตวาดของชายนัยตาสีซีดดังลั่นด้วยความโกรธทำให้
วินเวิร์ดและสหายหันหน้าไปมองดูเหตุการณ์นั้นต่ออย่างเงียบๆ
เฮอร์ไมโอนี่เลือดขึ้นหน้า เธอรู้ว่ามัลฟอยเป็นคุณชายที่ร้ายกาจ และเจ้าอารมณ์เป็นที่สุดตั้งแต่ปีหนึ่งถึงปีหกที่เธอถูกดูถูกดูแคลนและโดนด่าแบบนี้มาตลอด แต่เธอก็ไม่รู้จักชินกับมันสักที มันเจ็บแปลบในใจลึกๆทุกทีสิน่า เฮอร์ไมโอนี่กำหมัดแน่น เธอพยายามข่มอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในกายอย่างดีเยี่ยมเธอเชิดหน้ามองดูมัลฟอยนิ่งก่อนเอ่ยเสียงแข็งออกไป
“จะเอาไงกันแน่มัลฟอย นายจะอะไรกันนักกันหนากับพวกฉัน”
มัลฟอยโคลงศีรษะไปมาอย่างยียวนจนรอนแทบอดใจไว้ไม่ได้แต่เพราะเฮอร์ไมโอนี่ขวางเขาอยู่ทำให้รอนทำได้มากที่สุดแค่ทำเสียงฮึดฮัดในลำคอได้แค่นั้น
มัลฟอยรู้สึกอยากแกล้งเด็กสาวข้างหน้านี้นัก เขาแกล้งเดินเข้าหาเฮอร์ไมโอนี่จนชิด จนเด็กสาวสะดุ้งเธอก้าวถอยหลังออกห่างเด็กหนุ่มร้ายกาจแค่เพียงเล็กน้อย เมื่อรู้สึกถึงหลังที่ปะทะเข้ากับลำตัวของรอนอย่างจัง เธอถอยไม่ได้อีกแล้ว ความใกล้ชิดทำให้มัลฟอยสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวของเด็กสาวบ้านกริฟฟินดอร์ ที่เขามักด่าเธอเสมอว่าเป็นพวกเลือดสีโคลนโสโครก แต่กลิ่นหอมที่มาจากตัวเด็กสาวมันกลับตรงกันข้ามกับที่เขาก่นด่าเธอโดยสิ้นเชิง ความปั่นป่วนเริ่มกลับเข้ามาใน
ตัวของมัลฟอยอีกครั้ง เขาเป็นอะไร แต่ตอนนี้ช่างมันก่อน เขาค่อยหาสาเหตุที่หลังตอนนี้เขาต้องกำจัดความคิดงี่เง่าในห้วสมองของเขาออกไปก่อน มัลฟอยก้มหน้าเขาเข้ามาใกล้ๆวงหน้าของเฮอร์ไมโอนี่เรื่อยๆ ก่อนจะเอ่ยคำกล่าวที่เสียดแทงเด็กสาว
ที่อยู่ข้างหน้าอย่างจงใจ
“ก่อนอื่นนะ เกรนเจอร์ ฉันขอแนะก่อนที่เธอจะมาเสวนากับฉัน เธอควรจะไปล้างคราบโคลนสกปรกออกไปจากตัวเธอให้สะอาดก่อนดีกว่า เพราะฉันดูยังไง เธอก็ไม่พ้นมักเกิ้ลเน่าๆอยู่ดี ”
เฮอร์ไมโอนี่มองหน้ามัลฟอยเขม็งก่อนตอบกลับอย่างสะใจแทนพวกเธอทุกตน
“อ้อ เหรอมัลฟอย ขอบใจนะที่แนะนำแต่ ฉันว่านายควรจะแนะนำตัวเองใส่กะโหลก หนาๆของนายก่อนดีกว่าไหม ว่าให้เอาเลือดบริสุทธิ์ที่แสนชั่วของตัวเองออกมาล้างน้ำเสียใหม่ แต่ขอเตือนนะว่าน้ำธรรมดามันคงไม่สะอาดเท่า อย่างนายต้องใช้น้ำกรดล้าง ให้มันกัดเลือดเสียๆชั่วๆของนายเพื่อคงสายเลือดอันบริสุทธิ์ของนายที่มันใกล้จะเน่าเสียแล้วออกไปให้หมด”
“เกรนเจอร์ “
“กรี๊ด”
เสียงคำรามของมัลฟอยกับเสียงหวีดร้องของแคทเธอลีนดังไล่เลี่ยกันเมื่อมัลฟอยกระชากแขนของเฮอร์ไมโอนี่เข้าใกล้ตัวเองมากยิ่งขึ้น เขาโมโหจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกแล้วในขณะเดียวกันที่รอนเองก็กำลังจะกระโจนเข้าไปช่วยเพื่อนสาวของเขา
“มัลฟอย.....แกปล่อยเฮอร์ไมโอนี่นะ”
ไม่ทันขาดคำพนักงานร่างใหญ่สองสามคนก็ตรงดิ่งคว้าตัวรอนได้ทันก่อนที่รอนจะพุ่งตัวเข้าใส่มัลฟอย ส่วนเนวิลล์กำลังพยุงแคทเธอลีนที่เข่าอ่อนตะลึงงันอยู่กับที่อย่างไม่สามรถช่วยเหลือใครได้รอนพยายามสลัดตัวเองให้หลุดจากชายร่างยักษ์นั้นแต่ดูเหมือนยิ่งออกแรงมากเท่าไหร่ข้อแขนของรอนที่ถูกรัดเอาไว้ก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นจนรู้สึกเจ็บไปหมด
“ปากเก่งนักยายเลือดชั่ว เกรนเจอร์ อย่านึกว่าฉันไม่กล้าทำอะไรเธอ ต่อหน้าคนเยอะแยะแบบนี้”
มัลฟอยคว้าข้อมือเล็กๆทั้งสองของเฮอร์ไมโอนี่ให้กระชับแล้วออกแรงบีบ
“ก็ทำสิ มัลฟอย นึกว่าฉันกลัว หรือไง”
เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนเสียงตอบโต้พร้อมพยายามดิ้นเพื่อให้มือของเธอหลุดจาการเกาะกุมของเด็กหนุ่มผู้นี้ให้ได้ แต่นอกจากเธอจะไม่หลุดไปง่ายๆแล้ว มัลฟอย ยังออกแรงบีบข้อมือเธอจนเธอเจ็บน้ำตาแทบไหล แต่เด็กสาวก็กัดริมฝีปากตัวเองเพื่อรับความเจ็บนั้นไว้ไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา ให้เขาได้เห็น
“เธอกล้ามาก เธอท้าทายฉัน เกรนเจอร์”
มัลฟอยออกแรงบีบที่ข้อมือของเฮอร์ไมโอนี่แรงอีกแล้วดึงตัวเธอเข้าใกล้เขาอีกนิด
“ฉันรู้ว่าเธอเจ็บ ร้องออกมา เกรนเจอร์ “
มัลฟอยสั่งเสียงกร้าวแต่เด็กสาวกลับส่ายหน้าปฎิเสธเสียงแข็งเช่นกัน
“ไม่”
มัลฟอยหน้าสั่นด้วยความโกรธ ท่ามกลางคนเยอะแยะขนาดนี้ถ้าเขาไม่สามารถทำให้เธอลงให้เขาได้เขาก็ไม่ใช่ เดรโก มัลฟอย
“ฉันบอกว่าให้เธอร้องออกมา” มัลฟอยตะคอกซ้ำ
“ไม่” เฮอร์ไมโอนี่ ปากสั่นระริกด้วยความเจ็บ แต่เธอก็จะไม่ร้องสักคำ จะไม่ทำตามเจ้าคนบ้าอำนาจนี้แต่โดยดีแน่ แต่ก่อนทีจะเกิดเหตุการณ์อะไรต่อไป เสียงหวานๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“พอได้แล้ว เดรโก”
***********************************************
ความคิดเห็น