ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจที่หลุดลอย (Take My Heart Away) ทอม ริดเดิ้ล/เฮอร์ไมโอน

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 9 พื้นที่ว่างเปล่า (Empty Space)

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 53


    หัวใจที่หลุดลอย (Take My Heart Away)
     
    ตอนที่ 9 พื้นที่ว่างเปล่า (Empty Space)
               
    ทอมตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินน้ำเสียงสดใสดังขึ้นไม่ไกลจากเขานัก
               
    “มิสเนสโธว์ อย่าเพิ่งรีบร้อนในเวลานี้! เธอได้รับการกระแทกอย่างแรงที่ศีรษะ และเธอต้องการเวลาในการดูแลรักษา!” มาดามบาโรม่าบอกอย่างวิตกกังวล
               
    “มาดามค่ะ หนูสบายดีและอยากนอนในห้องพักของตัวเองคืนนี้ ใกล้จะถึงเวลารับประทานอาหารเย็นแล้วและหนูรู้สึกหิวมาก อนุญาตให้หนูลงไปที่ห้องโถงใหญ่นะค่ะ หนูรู้สึกราวกับว่าหนูสามารถวิ่งไปตามความยาวของสนามควิดดิชได้เลยค่ะ!”
               
    “วิ่ง? เธอต้องไม่ทำอย่างนั้น?” มาดามบาโรม่าพูดอย่างโกรธเคือง เงียบไปสักครู่ก่อนที่นางพูดว่า “แค่เดินก็พอ ฉันคิดว่าคงจะไม่ทำให้เจ็บ แต่สัญญาว่าจะกลับมาหลังอาหารเย็น และนอนพักที่นี่กับฉัน”
               
    ทอมพยายามลืมตาอย่างเจ็บปวด หรี่ตาลงเมื่อแสงสว่างแยงตา
               
    “และดูซิมีอีกคนหนึ่งตื่นแล้ว!” นางร้องพร้อมกับรีบเร่งมาที่เตียงของทอม เสียงสูงของหล่อนทำให้เขารู้สึกคลื่นเหียน เขามองไปที่เฮเลนซึ่งกำลังพยายามใส่ถุงเท้าอยู่
               
    “เธอรู้สึกอย่างไรบ้าง? ดีขึ้น? แย่กว่าเดิม?” นางพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
               
    ดีขึ้นถ้าคุณไม่อยู่ตรงนี้ เขาคิด
    “สบายดี” เขาโกหกอย่างรวดเร็ว “ผมรู้สึกดีมาก” จริงๆ แล้วเขารู้สึกไม่ค่อยดีนัก แต่เขาทำอะไรก็ได้เพื่อออกจากเตียงนี้
               
    มาดามบาโรม่ายกมือท้าวสะโพกหนาของเธอ “อย่าคิดว่าเธอจะออกไปจากที่นี่ได้เร็วกว่าพรุ่งนี้บ่าย มิสเตอร์ริดเดิ้ล ตอนนี้ฉันต้องขอตัวไปดูแลคนไข้อื่นๆ ของฉันก่อน ฉันได้ทำการรักษาด้วยเวทมนตร์มากมายให้เธอตอนที่หลับอยู่ และมันอาจทำให้เธอคลื่นเหียนเล็กน้อย ฉันจะนำอาหารเย็นมาให้เธอภายในสามสิบนาที แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการก็ตาม”
               
    ทอมไม่สามารถตัดสินได้ว่าอะไรทำให้เขาไม่สบายมากกว่ากัน ความคิดเรื่องการกินอาหารเย็น หรือความจริงที่ว่าเขาไม่ได้กินอะไรมาสองวันครึ่งแล้ว เขาได้ยินเสียงประตูปิดลงและตระหนักว่าเขาอยู่ตามลำพังกับเฮเลนซึ่งกำลังใส่รองเท้าอยู่
               
    “รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม?” เฮเลนถามหลังจากนั้นสักครู่
               
    “ทำไมเธอต้องแคร์ด้วย?” ทอมถามพร้อมมองมาอย่างเย็นชา เขาไม่อยากให้เฮเลนคิดว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกัน เพราะว่าด้วยความสัตย์จริงพวกเขาไม่ใช่ เขาไม่ชอบเธอเลย จริงๆ แล้วเขาเกือบเหมือนเกลียดเธอสำหรับทุกอย่างที่เธอทำใส่เขา
               
    “ทำไมฉันต้องแคร์ด้วย? คุณเกือบฆ่าตัวตายเพื่อช่วยชีวิตฉันไว้ นี่แหละคือทำไม?” เฮเลนตอบอย่างเยือกเย็น
               
    “นี่เป็นครั้งสุดท้ายนะ ฉันไม่ได้ทำมันเพื่อเธอ! เธอไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน ทำไมเธอไม่ยอมจำใส่หัวของเธอไว้? เนสโธว์ ถ้าจะกรุณาฉันก็รีบไปซะ แค่ได้ยินเสียงเธออีกครั้งก็ทำให้ฉันแทบหมดความอดทนแล้ว” ทอมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบน่ากลัว “เลือดสีโคลน”
               
    เขามองเห็นบางอย่างในดวงตาเป็นประกายของเฮเลน เธอยืนขึ้นและเข้ามาใกล้เตียงของเขา จนกระทั่งเธอยืนตระหง่านอยู่เหนือตัวเขา
               
    “ฉันคิดเยอะมากเกี่ยวกับตัวคุณ และการกระทำของคุณ และคุณรู้อะไรไหม? คุณกลัว ทอม ริดเดิ้ล!”
               
    “ฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น” เขาบอกเรียบๆ แต่สำหรับเขาแล้วมันเป็นความจริง
               
    “โอ...ใช่คุณกลัว! คุณเป็นคนขี้ขลาด!” เฮเลนตอบ ดวงตาเธอลุกวาวด้วยความมุ่งร้าย “ทุกครั้งที่ฉันพยายามเข้าใกล้คุณให้มากขึ้น คุณก็เจ้าเล่ห์คิดหาคำถากถางมาทำให้ฉันเกลียดคุณมากขึ้น คุณรู้ไหมว่าทำไม? คุณกลัว! คุณกลัวว่าถ้าคุณพึ่งพาอาศัยใครสักคนที่ไม่ใช่ตัวเอง คุณจะผิดหวัง! คุณกลัวว่าถ้าคุณไว้วางใจใครสักคนที่ไม่ใช่ตัวเอง คุณจะเจ็บปวด! จริงๆ แล้วคุณกลัวความรู้สึกต่างๆ ของตัวเอง คุณไม่ได้จับตัวฉันไว้เพียงเพื่อช่วยเหลือมัลฟอย แต่คุณไม่สามารถยอมรับเหตุผลที่แท้จริงของตัวเอง...ยังไงซะ คุณรู้ว่าคุณกลัวอะไรมากที่สุดใช่ไหม? สิ่งนี้ไง!"
               
    แล้วเธอโน้มตัวลงมาและประทับริมฝีปากเธอลงบนปากเขา ความรู้สึกคล้ายเปลวไฟลุกไหม้ท่วมตัวเขา ฉับพลันความเจ็บปวดและความโกรธเคืองทั้งหลายแหล่ค่อยๆ จางหายไปในเวลานั้น เขาดึงเธอเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น
               
    สำหรับเฮเลนแล้วริมฝีปากของเขาช่างเย็นชาและแข็งกระด้าง แต่น่าเชิญชวนอย่างประหลาดใจที่เธอไม่ได้รู้สึกนึกรังเกียจเมื่อเขาจูบลึกซึ้งยิ่งขึ้น  เขากดริมฝีปากลงบนเรียวปากเธอหนักหน่วงยิ่งขึ้น และดึงเธอเข้ามาชิดขึ้นอีก
               
    หลังจากนั้น เธอดึงตัวเองออกจากความมหัศจรรย์ สิ่งที่น่ากลัวกำลังเกิดขึ้นแล้ว เธอจ้องมองเขาชั่วขณะโดยไม่เคลื่อนไหว ดวงตาเธอเบิกกว้างแก้มแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด เฮเลนดูประหลาดใจตัวเองว่าเธอได้ทำอะไรไป เฮเลนหมุนตัวและเร่งรีบออกไปจากประตู เป็นครั้งแรกในชีวิต ทอม ริดเดิ้ล พบว่าเขาไม่สามารถถ่ายทอดเป็นคำพูดออกมาได้
    -------------------------------------------------
               
    ดัมเบิลดอร์หันกลับมาหามิเนอร์ว่า สีหน้าแสดงความครุ่นคิด “มิเนอร์ว่า คุณอยู่ด้วยในการแข่งขันควิดดิช ตอนที่มัลฟอยตีใส่เฮเลน เนสโธว์ มันดูคล้ายเป็นอุบัติเหตุไหม?”
               
    มิเนอร์ว่าหรี่ตาสีน้ำตาลอ่อนของเธอด้วยท่าทางดูถูก “ไม่ใช่อย่างแน่นอน เขาขว้างลูก บลัดเจอร์ตรงใส่เธออย่างแรงเลย! ฉันกำลังดูอยู่”
               
    “และริดเดิ้ล...” ดัมเบิลดอร์พูดต่อ “คุณคิดว่าทำไมเขาถึงจับตัวเธอไว้?”
               
    ถึงตรงนี้มิเนอร์ว่าเงียบไป ในที่สุดเธอตอบว่า “ฉันไม่รู้ อัลบัส ฉันรู้แค่ว่าฉันไม่เคยเห็นเด็กหนุ่มตั้งใจรับอะไรอย่างนี้เลย นักกีฬาควิดดิชมืออาชีพอาจไม่สามารถจับตัวเด็กสาวได้ทันเวลา แต่เขาทำได้”
               
    ดัมเบิลดอร์พยักหน้า รู้สึกสับสนมากกว่าเดิม การกระทำของทอม ริดเดิ้ล ช่างตรงกันข้ามกับทุกอย่างที่ดัมเบิลดอร์รู้จักเกี่ยวกับตัวเขา ตรงกันข้ามอย่างมากกับทุกๆ การกระทำที่เขาได้เคยเห็นจากทอม ความจริงแล้วถ้าเขาไม่ได้รู้อะไรมากกว่านี้ เขาอาจจะสงสัยว่าทอมเริ่มชอบในตัวเฮเลน เนสโธว์ แล้ว
    -------------------------------------------------
               
    “ทอม!”
               
    เขามองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า สายตาของเขาไม่รับภาพอะไรเลยขณะที่เดินลงไปยังห้องโถง
               
    “เฮ้...ริดเดิ้ล!”
               
    เขารู้สึกคลื่นเหียนและศีรษะกำลังหมุนติ้วอย่างแรง ความคิดนับพันจู่โจมภายในหัวสมองเขา
               
    “ทอม มาร์โวโล่ ริดเดิ้ล!”
               
    “อย่าเรียกฉันแบบนั้น” ทอมพูดอย่างไม่พอใจ พร้อมกับหันไปเผชิญหน้าหญิงสาวที่กำลังตะโกนใส่เขา อลิซาเบธ วอล์คเกอร์ ตามมาทันเขา หอบหายใจอย่างแรงจากการวิ่ง
               
    “เธอเป็นอะไรไป ทอม? เธอไม่ได้ยินฉันหรือ?”
               
    เธอมีผมยาวสีแดง ดวงตาสีเขียว และโหนกแก้มแหลมซีดทำให้เธอดูมีท่าทางยโส  เธออยู่บ้านเรเวนคลอ แต่เธอรู้จักทอมเพราะว่าเธอเป็นประธานนักเรียนหญิง และเป็นคนเดียวเท่านั้นในโรงเรียนที่ใกล้เคียงเทียบเท่ากับสติปัญญาของเขา ในสภาพเป็นจริงแล้วเธอไม่มีตรงไหนใกล้เคียงระดับอัจฉริยะของเขาเลย
               
    “กำลังคิด” ทอมพูดอย่างไม่ใส่ใจ และลักษณะบนใบหน้าเขาทำให้เธอตัดสินใจละทิ้งหัวข้อนี้อย่างรวดเร็ว เธอถอนหายใจและวางมือลงบนสะโพก
               
    “เออ...ฉันต้องการถามเธอว่า เธอวางแผนจัดงานเลี้ยงวันฮาโลวีนเรียบร้อยยัง”
               
    “ทำไม?” ทอมถามขัดขึ้น เขาไม่รู้สึกอยากติดต่อกับอลิซาเบธ หรือวันฮาโลวีนในเวลานี้
               
    “เพราะว่าฉันต้องการช่วยเธอวางแผนนะซิ นี่คือความคิดของฉัน...งานเลี้ยงเต้นรำสวมหน้ากากบนสนามควิดดิช! วันฮาโลวีนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง และฉันคิดว่างานเลี้ยงเต้นรำสวมหน้ากากใต้แสงจันทร์จะต้องน่าตื่นเต้นจริงๆ”
               
    “ใช่แน่นอน” ทอมพูดทันที จริงๆ แล้วเขาไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดเกี่ยวกับงานเลี้ยงวันฮาโลวีนงี่เง่านี้
               
    “ฟังนะ ทอม...ทำไมไม่ให้ฉันควบคุมการจัดงานนี้แทนล่ะ? ฉันแน่ใจว่าอาจารย์ใหญ่ดิพพิตคงไม่รังเกียจ และฉันต้องการทำมันด้วยตัวฉันเอง”
               
    “ด้วยความยินดี” ทอมพูดอย่างรวดเร็ว ปลดปล่อยภาระหน้าที่อีกอันหนึ่งออกจากบ่าของเขา เขาหันหลังและเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรอื่นอีก
               
    “ลาก่อน” เขาได้ยินน้ำเสียงงึมงำไม่พอใจของเธอ ก่อนเธอเดินจากไป
    -------------------------------------------------
               
    ทอมเดินลงไปตามทางเดินปูลาดด้วยหินไปยังห้องพักของเขา คว้าหนังสือการทำนายตัวเลข(Arithmancy book) มาและนั่งลงที่เก้าอี้มีพนักผิงหลังตัวหนึ่ง เขาเปิดหนังสือเสียงดังและมองไปที่มันอย่างแน่วแน่
               
    คุณกลัว ทอม ริดเดิ้ล!
             
    ทฤษฎีตรีโกณ เลขคู่จำนวนสามตัวบวกเพิ่มติดต่อกันไปถึงเลขคี่ลำดับที่สี่ สามารถสร้างรัศมีการฝ่าอันตราย(Gauntlet Circle) หรือสูตรสำหรับการปกป้องผู้ถือ...
               
    คุณกลัวว่าถ้าคุณพึ่งพาอาศัยใครสักคนที่ไม่ใช่ตัวเอง คุณจะผิดหวัง!
             
    ทฤษฎีตรีโกณ สามารถใช้ได้กับทุกรูปแบบของการทำนายตัวเลขเพื่อป้องกันเครื่องราง ในเวลาที่มันเป็นไปไม่ได้ในการบวกเลขคู่จำนวนสามตัวอย่างต่อเนื่องด้วยเวทมนตร์
               
    ยังไงซะ คุณรู้ว่าคุณกลัวอะไรมากที่สุดใช่ไหม? สิ่งนี้ไง!"
               
    ทอมยกมือเสยผมและพยายามสูดหายใจลึกๆ แต่พบว่าปอดของเขากำลังแสบร้อน บางทีเป็นเพราะว่าเขาออกจากสถานพยาบาลโดยปราศจากการรักษาอย่างครบถ้วน(เขาจะทำมันด้วยตัวเองภายหลัง) แต่เขาไม่แน่ใจว่าการเต้นกระหน่ำของหัวใจเขาเป็นบางอย่างที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
               
    ทอมจดจำจูบนั้นได้ เหมือนแสงสว่างของดาวตกในคืนท้องฟ้าที่มืดสนิท เขาเคยจูบผู้หญิงหลายคนมาก่อน แต่เขาไม่เคยรู้สึกตื่นตัวขนาดนี้ เร่าร้อนแบบนี้ และมีชีวิตชีวามากเหลือเกิน เขารู้สึกประหลาดใจเมื่อตระหนักว่า เขาต้องการมากกว่าจูบนั้น มากกว่าอีกมาก
               
    ต่อจากนั้น เขาครุ่นคิดเกี่ยวกับคำพูดของเธอ เขารู้ว่าไม่ว่ากี่ครั้งก็ตามที่เขาพยายามทำให้ตัวเองมั่นใจว่าเธอคิดผิด แต่สุดท้ายแล้วเธอคิดถูกอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ เขากลัว แต่มันผิดมากนักหรือที่ไม่ไว้วางใจใครนอกจากตัวเอง? มันไม่ผิดเลย มันดีกว่า ในขณะที่ทุกคนรอบตัวฉันหัวใจของพวกเขาถูกทำร้ายและความไว้วางใจของพวกเขาถูกทรยศ ฉันได้พบวิธีที่กลายเป็นบุคคลที่ไม่อาจทำลายได้ ไม่มีใครสามารถทำให้ฉันเจ็บปวดได้
               
    ในที่สุด ทอม ริดเดิ้ล บุคคลที่ถูกเรียกขานว่ากล้าหาญโดยผู้คนทั้งหลายที่รู้จักเขา ก็ยอมรับกับตัวเองว่าเขากลัว เขากลัวอะไรก็ตามที่เฮเลนได้แสดงมันออกมา แม้ว่ามันเป็นสิ่งที่เขารู้ดีอยู่แล้ว เขาบอกกับตัวเองหลายต่อหลายครั้งว่าเขาไม่ต้องการเพื่อน ว่าเขาไม่ต้องการความไว้วางใจ ว่าเขาไม่ต้องการเธอ แต่บุคลิกที่น่าประทับใจของเฮเลนเติมเต็มพื้นที่ที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันว่างเปล่าอยู่ เวลานี้เขาได้เห็นหลุมกว้างใหญ่กำลังเปิดออกมา เป็นสถานที่ที่บางสิ่งได้ถูกกำหนดไว้ และเขารู้ว่าสุดท้ายแล้วเฮเลนเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเติมเต็มความว่างเปล่านี้ได้
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×