ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic แปลHarry potter Hogwarts Twilight (เซดริก/เฮอร์ไมโอนี่)

    ลำดับตอนที่ #8 : Chepter : 8 เพื่อนใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 21 ม.ค. 53


    บทที่ 8  เพื่อนใหม่

     

              วันใหม่มาเยือนโดยไม่มีใครสังเกตุเห็นเกี่ยวกับแวมไพร์หรือมนุษย์หมาป่าที่วนเวียบรอบๆ

    ตัวปราสาทเลย   ทุกคนยังทำตัวเหมือนปกติ ไปห้องโถงใหญ่เพื่อรัปทานอาหารเช้าร่วมกันเสร็จแล้วต่างแยกย้ายไปตามชั้นเรียน สก็อตตื่นขึ้นมาภายในกระท่อมโดยมีเซดริกนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆโดยไม่ยอมไปไหน


    ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงสก๊อตงัวเงียถามขึ้นรู้สึกถึงร่างกายที่ปวดเมื่อยไปทั้งตัว


    นายจำไม่ได้เหรอเซดริกถาม


    ฉันจำได้ลางๆว่าฉันเปลี่ยนร่างอยู่ภายนอกตัวปราสาทสก๊อตหยุดเพื่อคิดสักครุ่


    หลังจากนั้นล่ะ เซดริกค่อยๆช่วยรื้อฟื้นความทรงจำของสก๊อตหลังจากที่เขาจำได้ลางๆว่าเขาเปลี่ยนร่างอยู่ภายนอกปราสาทแต่เขามีความรู้สึกฝังใจในความทรงจำอันใหม่ ความทรงจำที่เขาเผชิญหน้ากับเด็กหญิงคนหนึ่ง เด็กหญิงคนนั้นที่สก๊อตจำได้อย่างแม่นยำ เธอคือ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์


    เกรนเจอร์  สก๊อตครางน้ำเสียงแหบแห้ง   เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ฉันทำอะไรเธอหรือเปล่าเซดริกเซดริกพยักหน้าให้สก๊อตเล็กน้อย


    ก็เกือบไปเพื่อนรักของเขาดูท่าทางหวาดกลัว


    นายหมายความว่ายังไง เมอลินท์ นี่ฉันทำอะไรลงไปสก๊อตร่ำร้องออกมาในสิ่งที่เขาคิดเขารู้สึกอยากจะตายเสียเดี้ยวนั้น หัวใจของเขาเต้นแรงและเร็วจนแทบจะออกมานอกร่าง


    เฮ้ย  ฉันแค่ว่าเกือบไป นายยังไม่ทันทำอะไรเธอสก๊อต


    เฮ้อ”สก๊อตถอนหายใจอย่างโล่งอก “เออ ฉันก็ลืมไปว่า ขวัญใจนายนี่ นายคงไม่ปล่อยให้ฉันขย้ำเธอแน่หรอกใช่ไหมสก๊อตเย้าแวมไพร์หนุ่ม


    ระวังคำพูดหน่อยสก๊อตเซดริกเตือนสก๊อตเขาหน้าแดงเล็กน้อยกับคำพูดของหมาป่าหนุ่ม”เอาล่ะฉันว่าตอนนี้เรากลับเข้าไปด้านในดีกว่าเดี้ยวคนอื่นเขาจะสงสัยเอาว่าพวกเราทำไมไม่อยู่ที่หอนอนกัน


    พวกเขาทั้งคุ่ทำตัวให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เขาทานอะไรไม่ลงเอาเสียเลย พวกเขาไม่ไปกินอาหารเช้าและไม่พูดคุยกับใครทั้งสิ้น  และรีบเผ่นออกจากห้องเรียนทันทีที่เสียงระฆังดัง  สก๊อตรีบเดินออกไปทันทีเหมือนเขาต้องการที่จะตามหาอะไรหรือใครบางคนอยู่ แม้แต่เชคดริกเองก็ตามเขาไม่ทัน  เมื่อสก็อตรีบเดินออกจากห้องและเดินหายไปท่ามกลางฝูงชน  และเมื่อถึงเวลาอาหารกลางวันสก็อตนั้นมองหาเซดริกเพราะเขายังไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่กลับมาเนื่องจากภาวะอารมณ์ที่ยังไม่คงที่ของสก๊อตนั่นเองและในตอนนี้เขาเองก็รู้แล้วว่าเช็คดริกละความพยายามที่จะคุยกับเขาแล้ว  ตอนนี้สก๊อตเองก็ไม่รอที่จะคอยเพื่อนของเขาเพื่อพูดคุยเนื่องจากสก๊อตเองอยากทำบางสิ่งบางอย่างให้ถูกต้อง เสียก่อน


             
    นั่นคือเหตุผลที่ทำให้สก๊อตรีบตรงไปที่ห้องสมุดทันทีที่ทุกคนมุ่งตรงไปที่ห้องโถงใหญ่สำหรับอาหารกลางวัน  เขาไม่อยากเผชิญหน้ากับใครทั้งสิ้น  ตราบใดที่เขายังรู้สึกผิดอยู่เต็มอก

    สก็อตก้าวเข้ามาในห้องสมุด  เขารู้ว่าทุกส่วนในร่างกายบอกให้เขาหันกลับและแผ่นออกจาก

    ที่นี้  แต่การที่สายตาของเขาได้เห็นหญิงสาวมันทำให้เขาชะงัก


             
    มันเป็นความผิดพลาดที่เขาถูกจับได้เมื่อคืนนี้  สก็อตเดินมาหยุดที่หญิงสาวและลงนั่งที่เก้าอื้ตัวที่อยู่ข้างหน้าของเธออย่างรวดเร็ว ทำให้เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นด้วยอาการสะดุ้ง  ทันใดนั้นเธอก้มหน้าลงแต่นั้นก่อนที่สก็อตจะสังเกตเห็นรอยดำรอบดวงตาของเธอ

             

              อืม……..เฮอร์ไมโอนี่ใช่ไหม  สก็อตถามทำให้เฮอร์ไมโอนี่ที่เงยหน้าขึ้นจ้องมองมา

    ที่เขาด้วยความงวยงง


             
    โทษที  ………..ฉัน สก็อต  ซิมมอนส์  ฉันเป็นเพื่อนของเชคดริก   สก็อตเอ่ยโดยมอง

    ที่หญิงสาวที่เกร็งตัวเล็กน้อย  และชั่วเวลาหนึ่งที่เธอมองเขาด้วยความหวาดกลัว  จากนั้นดวงตา

    เธอดูแข็งกร้าวและเธอกัดฟันเล็กน้อยเพื่อข่มความกลัว  หลังจากนั้นเธอพยายามมองไปทางอื่นแต่ก็หันกลับมาที่สก็อตในที่สุด


             
    มีอะไรให้ช่วยเหรอ  เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา  แววตากลมโตของเธอมองเขาอย่างนิ่งเงียบ สก๊อตมองเธออย่างพิจารณา อะไรบางอย่างในตัวเธอทำให้สก๊อตชืนชม เธอไม่ได้เป็นคนสวยมากในโรงเรียนพ่อมดแม่มดนี้ แต่เธอเป็นคนที่มีเสน่ห์ทำให้คนที่อยู่ต่อหน้าเธอต้องลองหันมามองดูเธอซ้ำเป็นครั้งที่สองเหมือนเขา ดวงตาสีน้ำตาลของเธอดูมีอำนาจ ทำให้สก๊อตรู้สึกหัวใจเต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผล   ซึ่งสก็อตเข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนแวมไพร์ของเขาถึงชอบเธอ 

     

    คนส่วนมากคงจะกรีดร้องแทบเป็นบ้าเมื่อค้นพบว่ามีมนุษย์หมาป่าใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขาในโรงเรียนนี้แต่กับหญิงสาวตรงข้างหน้านี้เธอแตกต่าง

     

              ฉันแค่ต้องการ………………  แน่ใจว่าเธอปลอดภัยดี  สก็อตกล่าวทำให้เฮอร์ไมโอนี่

    เกร็งและจ้องมองเขาด้วยความไม่แน่ใจบนใบหน้าเธอแต่หลังจากนั้นเธอก็กลับไปสู่อาการปรกติ


             
    แล้วทำไมฉันจะไม่ปลอดภัยล่ะ  เธอกล่าวอย่างสงสัยระหว่างที่สก็อตผงะถอยห่างเธออีกครั้งและมองไปทางอื่นอย่างอึดอัด


             
    มันแค่………. คือเชคดริกเหมือนกับจะเล่าว่า เธอถูกทำร้ายโดยบางอย่างน่ะ  สก็อต

    กล่าวโดยกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องสมุดเพื่อดูผู้คนทั่วไปและพยายามจะไม่สบสายตาเธอ


             
    ฉันแค่…….. ต้องการจะแน่ใจว่าเธอสบายดีน่ะ  เชคดริกกังวลมากว่าเธอจะเป็นอะไรไป

    เขากลัวว่าเธอจะเป็นลมน่ะ  สก็อตค่อยมองเธอระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่ส่วยศรีษะ


             
    ฉันว่าจะถาม  ศาสตราจารณ์สเนปเพื่อจะผลิตยาเพื่อช่วยเธอเวลาเธอ…………. เปลี่ยนร่าง  ฉันแน่ใจว่าถ้าเธอถาม ศาสตราจารร์สเนปเองคงไม่มีใครรู้อะไรหรอก  เฮอร์ไมโอนี่กล่าวโดยจ้องที่เขาทำให้หน้าเขาซีด  เมื่อรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร


             
    ฉันไม่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร  เขาพูดติดๆขัดๆ  ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่  จะยิ้มให้เขา สก๊อตผุดลุกขึ้นยืนและพยายามมองหาทางออก  แต่การหัวเราะกิ๊กกั๊กของเธอทำให้เขาหันมองมาที่เธออีกครั้ง


             
    มันไม่เป็นไรหรอก……. ฉันจะไม่บอกใครทั้งนั้น   แต่นั้นก็ขึ้นอยู่กับเธอว่าจะเชื่อใจ

    ฉันแค่ไหน  เฮอร์ไมโอนี่กล่าวอย่างกันเองทำให้สก๊อตจ้องมองเธอก่อนที่เขาจะนั่งลงและ

    เอนตัวไปข้างหน้าอย่างไม่สบายใจนัก


             
    ยังไงล่ะ


            
    เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มพร้อมเอนตัวไปข้างหน้าเพื่อพูดกับเขาด้วยเสียงที่แผ่วเบาเหมือนว่ากำลังอยู่ท่ามกลางศัตรูและไม่ต้องการให้พวกเขาได้ยิน


             
    คือว่า ……….  เมื่อปีก่อนฉันค้นพบว่ามีคนๆหนึ่งเป็นมนุษย์หมาป่า  ฉะนั้นถ้าเธอกังวลใจ

    ว่าฉันจะวิ่งแจ้นไปบอกอาจารย์ใหญ่ล่ะก็ไม่จำเป็นหรอก  เพราะคัมเบิลดอร์คงไม่ให้เธออยู่ที่นี่

    แน่ตัวเขาคงคิดแน่ๆว่าเธอนั้นอันตราย เฮอร์ไมโอนี่กล่าวระหว่างที่สก็อตนั่งตะลึง ไม่ใช่ตะลึงเรื่องที่ดับเบิลดอร์จะไล่เขาออกไปหรอก เพราะดับเบิลดอร์นั่นรู้เรื่องของเขาดีอยู่แล้ว และเขาเองที่เป็นคนอนุญาติให้สก๊อตได้อยู่ที่นี่ แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงคือเรื่องที่เคยมีมนุษย์หมาป่าอยู่ที่นี่ด้วยต่างหาก


             
    เธอมีอาการเหมือนเพื่อนฉันหลังจากที่พระจันทร์เต็มดวง…….  มันง่ายที่จะสังเกตเวลา

    ที่เธอรู้ว่ากำลังมองหาอะไร  เฮอร์ไมโอนี่กล่าว  สก๊อตนั้นเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อได้เจอเธอและได้คุยกับเธอ


             
    อืม…..คือ……  ฉันไม่รู้จริงๆว่าจะไปที่ไหนดีสก็อตกล่าวพร้อมกับหัวเราะแบบไร้กังวล

    พร้อมมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ที่ยิ้มให้เขา


             
    เธอมั่นใจได้เลยว่าฉันจะไม่บอกใครทั้งนั้น  เฮอร์ไมโอนี่กล่าวอย่างมั่นใจสก็อตนั้นผงกศรีษะยอมรับพร้อมกับสีหน้าที่คลายกังวลขึ้นมากกว่าเดิม


             
    ขอบใจ……. ฉันหมายถึงขอบใจเธอมาก เฮอร์ไมโอนี่


             
    และเธอก็สามารถที่จะบอกฉันได้ว่าทำไมแวมไพร์ถึงได้มาอยู่ที่ฮอกส์วอร์ต  เฮอร์ไมโอนี่กล่าวอย่างจริงจัง  ระหว่างที่สก็อตอ้าปากค้าง ที่จู่ๆเฮอร์ไมโอนี่ถามเขาเรื่องนี้อย่างกะทันหันโดยที่เขาเองก็ไม่ได้ตั้งตัวเลย


             
    เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่ามีทั้งมนุษย์หมาป่าและแวมไพร์อยู่ในโรงเรียนนี้ แล้วจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างละเนี่ย
    ?

    ________________________________________________________________

     

             

              หลังจากที่ไม่ได้เจอเพื่อนรักมาสองวันเต็มๆ เชคดริกเริ่มที่จะทำอะไรบางอย่างมากกว่าที่จะนั่งคอยอย่างกังวลคนเดียว


             
    เมื่อเขาเริ่มถาม ศาสตราจารณ์ดับเบิลดอร์.ว่าสก๊อตอยู่ที่ไหน  เขาก็ได้รับคำตอบเดิมๆ ว่า สก็อตไม่สบายและขอลาป่วยในวันนี้  ไม่มีวี่แววของเขาในห้องพยาบาล  หรือแม้แต่ที่กระท่อมหรือห้องนั่งเล่นรวม  เชคดริกคิดที่จะออกตามล่าหามนุษย์หมาป่าตัวนี้โดยเร็ว

     เขารู้ว่าสก๊อตเป็นกังวลแต่เขานั้นได้อธิบายต่อสก็อตแล้วว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ  หรือแม้แต่เฮอร์ไมโอนี่ แต่ดูเหมือนว่าสก็อตนั้นจะเป็นกังวลมากกว่าอะไรทั้งสิ้น


             
    เชคดริกย่ำเท้าเข้าไปในห้องนั่งเล่นรวมด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครกล้ามายุ่งกับเขา เขากวาดสายตามองทุกคนด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงอารมณ์ที่กำลังจะระเบิด และดูท่าทางทุกคนจะเดาออกว่าขึนพวกเขาเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้าอาจต้องลำบากแน่นอน หลังจากที่เขาเข้าพบกับดับเบิลดอร์แล้ว เช็คดริกตรงไปที่ห้องนั่งเล่นรวมและมุ่งสู่ห้องนอนของเขาในทันที


             
    เขาทำเสียงฮึดฮัดใส่เด็กปีหนึ่งคนหนึ่งที่เดินผ่านเขาและกำลังคิดในใจบ่นด่าเขาอยู่ เขากวาดสายตากลับขึ้นมาและเห็นสก๊อตจ้องมาที่เขาบนโซฟาของห้องนั่งเล่นรวม


             
    เชคดริกกัดฟันแน่นเพื่อแน่ใจว่ามันจะไม่ไปกัดมนุษย์หมาป่า  ซึ่งในตอนนี้เขาไม่มีเวลาที่จะอ่านความคิดของเพื่อนหน้าขนของเขา  โดยไม่พูดอะไรทั้งสิ้น  เช็คดริกคว้าแขนของสก๊อตแล้วดึงขึ้นมาด้วยอารมณืที่งุดหงิด ซึ่งถ้าเป็นคนธรรมดาคงแขนหลุดไปแล้ว


             
    เขามองไปที่เด็กปีห้าสองคนที่กำลังจะเดินออกไปนอกห้องและเมื่อประตูปิดลง สก๊อตก็ปัดมือของเช็คดริกออกและจ้องมองไปที่เขาอย่างยียวน


             
    ฟังนะฉันไม่ได้พูดอะไรกับเธอมากนัก  สก็อตพูดโดยไม่ละสายตาจากแวมไพร์ผู้ที่พยายามมองเขาอย่างทะลุปรุโปร่ง  โดยไม่แม้แต่จะให้คำถามเกิดขึ้นบนใบหน้า  เซดดริกจ้องมองสก๊อตราวจะกินเลือดกันเนื้อ เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มด่าว่าสก๊อตจากตรงจุดไหนดี


             
    สองวัน ฉันรอแกมาสองวัน  เสียงกระซิบนั้นดังพอที่มนุษย์หมาป่าจะได้ยินก่อนจะอ้าปากพูดอะไร


             
    รอก่อนเชคดริกตวาดรู้สึกเหมือนตัวเขาจะระเบิด  เพราะความคิดหนึ่งแล่นมาจากมนุษย์หมาป่า เกี่ยวกับเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งเขากำลังอ่านมันจากความคิดของสก๊อต


             
    นายบอกเธอ  เชคดริกกระแทกเสียงและจ้องมองไปที่ดวงตาของสก๊อตระหว่างที่เขาพยายามจะกลั้นความกลัว  เขาเคยเห็นเชคดริกโกรธแค่ครั้งเดียวเท่านั้น  และแค่นั้นก็เพียงพอที่เขาไม่ต้องการเห็นความโกรธของเชคดริกอีก


             
    ฉันไม่ได้บอกนะ………  เธอเดาเอง   จริงๆ แล้วเธอรู้เอง  เธอรู้เองว่าฉันเป็นคนที่จู่โจมเธอ

    เชคดริกอ่อนลงเมื่อเห็นความรู้สึกผิดในดวงตาของเพื่อนเขา


             
    นายก็รู้ว่าเธอต้องรู้  อย่าปฏิเสธเลย เธอบอกว่าเธอเริ่มจะเดาออก  ตอนที่อยู่ในห้องสมุด  คืนที่นายหยุดหนังสือนั่นไม่ให้หล่นใส่เธอ  สก็อตอธิบาย  ความโกรธนั้นปรากฏบนใบหน้าเชคดริกอีกครั้ง


             
    นายช่วยเธอจากฉัน


             
    เพราะนายไม่หยุดน่ะสิ  เชคดริกกล่าวอย่างโมโห ดวงตาเขาเข้มขึ้น


             
    เธอบอกว่าจะไม่บอกใครเรื่องฉัน  แล้วเรื่องที่เธอรู้มันไม่ใช่เพราะเธอเดาถูกเองหรอกนะ……..  เพราะลักษณะของฉันต่างหาก  อีกอย่างเธอรู้ว่านายเป็นอะไร  ตอนที่นายจับ

    มือเธอ  สก็อตอธิบายระหว่างที่เชคดริกเริ่มผ่อนคลายก่อนจะหันมาและย้ายตัวเองอย่างรวดเร็วไปที่เตียงเขา     

              เธอจะไม่พูดอะไรทั้งสิ้นสก๊อตย้ำคำอย่างมั่นใจในตัวเฮอร์ไมโอนี่


             
    นายรู้ได้ไง…….  หลังจากที่ได้คุยกับเธอเป็นชั่วโมงอย่างนั้นเหรอ  เชคดริกกล่าวอย่างไม่พอใจ  ก่อนที่สก๊อตจะจ้องเขา เขารู้สึกแปลกๆกับการที่สก๊อตดูมั่นใจหญิงสาวเกินเหตุ


             
    คือ……….   มันมีอะไรมากกว่าที่ปัญญาของนายจะรู้  อย่าคิดว่าฉันเป็นแค่มนุษย์หมาป่าที่

    ต่ำต้อย  ฉันถึงไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น  สก็อตตอบโต้ทำให้เชคดริกหยุดแล้วจ้องมองเขา สก๊อตรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธอมากกว่าเอย่างงั้นเหรอ เซคดริกหรี่ตาแล้วมองจ้องไปที่สก๊อตที่ยังคงพูดต่อไป


             
    ให้ตายเถอะ   เด็กคนนั้นบอกฉันมากมายถึงสิ่งที่เธอได้พบเจอและเผชิญในสี่ปีที่ผ่านมานี้  ซึ่งเมื่อนายกับฉันรวมกันแล้ว  คงไม่ได้ถึงครึ่งของเธอเลยเสียด้วยซ้ำไป  เธอทั้งเก่งและฉลาด เธอเดาออกด้วยว่าอาจารย์ของเราคนหนึ่งเป็นมนุษย์หมาป่าและก็ไม่เคยที่จะบอกใครทั้งนั้น  นั้นเป็นสิ่งเดียวกับที่เธอสัญญาในเรื่องของเราทั้งคู่  ฉันเพิงจะรู้เดี๊ยวนี้เองว่าที่ไม่ค่อยมีใครอยากจะคบกับเธอก็เพราะเธอเป็นคนที่ซื่อสัตย์น่ะสิ  สก็อตคำราม เขารู้สึกได้ถึงความโกรธที่เพิ่มขึ้นเมื่อนึกถึงหญิงสาวคนนั้นกับเหล่าบรรดาเพื่อนๆของเธอ 

    เชคดริกก้มลงและถอนหายใจเมื่อได้ยินถึงความคิดสก๊อต  ซึ่งดูเหมือนว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ได้มีผลกับแวมไพร์อย่างเขาเท่านั้น  แต่มันมีผลกับมนุษย์หมาป่าอย่างสก๊อตด้วย


     
             นายกลัวอะไรนักหนา………….  ทำไมนายกลัวเธอนัก  เธอไม่ทำร้ายนายหรอก


             
    แต่ฉันสามารถทำร้ายเธอได้  เชคดริกคำรามก่อนจะกุมขมับอย่างสับสน


             
    อายุฉันเกือบจะร้อยปีแล้วนะ…….  ไม่ว่าจะตอนที่ยังเป็นมนุษย์หรือตอนนี้  ฉันสามารถ

    พูดได้เลยว่าไม่เคยมีใครมีผลกระทบกับฉันอย่างนี้มาก่อน  ฉันคิดว่าการที่ฉันไม่สามารถอ่านความคิด

    เธอได้นั้นมันน่าสนใจ  เธอนั้นเป็นมากกว่าที่ฉันเคยพบเคยเจอมาก่อน  และเป็นครั้งแรกที่ฉันอยู่ใกล้

    ใครสักคนแล้ว ฉันรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเท่านี้ มันเป็นเพราะกลิ่นกายเธอด้วย  ฉันไม่อยากดูดเลือดเธอถึงแม้ว่าฉันต้องการ  แค่ไหนก็ตามแต่มันก็ไม่เคยเกิดขึ้น  ฉันแค่ต้องการจะอยู่ใกล้เธอและในขณะเดียวกันฉันก็อยากอยู่ให้ไกลเธอมากที่สุด  ฉันนึกถึงเธอตลอด  เธอดูบริสุทธิ์แต่ความคิดเธอนั้นดูแก่กว่าอายุเธอเสยอีกเชคดริกหยุดพูดเพราะไม่สามารถจะอธิบายความรู้สึกที่ยุ่งเหยิงในใจเขาได้


             
    ฉันจะพยายามหลบหลีกเธอจนกว่าปีนี้จะผ่านพ้นไปแต่ แต่ฉันก็รู้ว่าฉันไม่สามารถที่จะอยู่ใกล้เธอได้  เพราะฉันอาจจะทำร้ายเธอ  เชคดริกกล่าวโดยกำผ้าปูที่นอนของเขาไว้แน่นจนเกิดเสียงดัง


             
    นายสามารถควบคุมตัวเองได้เซดริกสก๊อตให้กำลังใจเขา


             
    ฉันต่างจากนายสก็อต  นายแค่เป็นตัวอันตรายเพียงสามคืนในหนึ่งเดือนเท่านั้น  แต่

    ฉันอันตรายตลอดทั้งปี  ฉันแค่สามารถควบคุมตัวเองได้เท่านั้น  แต่ถ้าวันหนึ่งฉันพลาดล่ะ  เชคดริก

    กล่าวอย่างอ่อนแรง ทำให้สก็อตเม้มปากตัวเองอย่างครุ่นคิด


             
    ฉันไม่ต้องการให้เธอตายด้วยน้ำมือของฉัน  เชคดริกกล่าว


             
    เพราะนายเห็นแก่ตัวน่ะสิ  สก็อตเอ่ยทำให้เชคดริกตวัดสายตามายังเพื่อนเขาด้วยความไม่พอใจ เพียงแค่ชั่วครู่  จากนั้นเขาก้มหน้าลงพลางครุ่นคิด

    ทำให้สก็อตหัวเราะและรู้สึกถึงความผ่อนคลายของตัวของเขาเอง


             
    นายเห็นแก่ตัวเพราะตลอดสามปีที่ฉันได้รู้จักนาย  ฉันเก็เพิ่งจะเห็นนายดูมีความสุขก็ตอนนี้และนายจะละทิ้งมันไปง่ายๆเพียงเพราะความกลัว แค่นี้หรือไง นายต้องสู้สิ เพื่อตัวเธอและนาย  สก็อตอธิบายทำให้เชคดริกจ้องเขาอย่างแปลกใจกับความคิดที่ดูเป็นผู้ใหญ่ครั้งแรกของสก๊อต


               “นายอย่าหวังว่าฉันจะเห็นด้วยกับความคิดที่บ้าคลั่งของนายนะ  เชคดริกกล่าวระหว่างที่สก๊อตล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเขา


             
    ก็ได้…….. แต่ตอนนี้ฉันหิวแล้ว  สก็อตกล่าวก่อนที่จะหันหลังเดินออกไปเชดริกมองตามก่อนที่สก๊อตจะหยุดและหันกลับมามองเพื่อนของเขา


             
    บอกฉันมาเถอะหลังจากที่นายอ่านความคิดฉันแล้วนายว่าเธอจะสามารถรับมือนายได้ไหม

    เซดริกนิ่งเงียบไม่มีคำพูดใดๆออกจากแวมไพร์หนุ่ม ดังนั้นสก๊อตจึงหันหลังกลับแล้วเดินจากไปโดยที่ยังคิดถึงเรื่องของเฮอร์ไมโอนี่อยู่


             
    สำหรับเซดริกนั้นยังคงมีความสับสนอยู่ในหัว  ถึงวิธีที่จะหลบหลีกจากเธอและความต้องการที่จะอยู่ใกล้ๆ เธอ

    ____________________________________________________________________ 

             

    วันเสาร์เป็นวันแรกของสองวันที่ดีที่สุดสำหรับสก็อตและเซดริกเพราะพวกเขาไม่ต้องแกล้งทำตัวเป็นมนุษย์เหมือนคนอื่นๆ เนื่องจากไม่มีการแข่งควิดดิช  ไม่มีการไปฮอกส์มี้กและไม่มีเรียน  มันช่างเป็นวันที่ดีจริงๆ


             
    หรือไม่อย่างน้อยมันก็คงจะดีถ้าโช  ไม่ได้มาดักรอเขาและเธอพยายามบอกใบ้เขาเพื่อจะให้เขาชวนเธอไปงานเต้นรำเชดริกคิดอย่างรวดเร็วและแสดงให้เธอเห็นว่าเขายังไม่แน่ใจว่าเขาจะไปหรือเปล่าและถึงเขาจะไปเธอก็คงไม่สนุกแน่ที่เป็นคู่ควงเขา

             

    เช็คดริกยังคงคิดทบทวนกับสิ่งที่สก๊อตบอกเขา  และนี่เองที่เป็นสาเหตุทำให้เขาเขียนจดหมายไปขอคำปรึกษาจากเอ็ดเวิร์ด จดหมายจากเอ็ดเวิร์ดได้  ตอบกลับมาหาเขาอย่างรวดเร็ว เช็คดริกนั้นต้องการเพียงคำตำหนิติเตียนที่จะทำให้ความคิดเหล่านี้หายไปจากหัวสมองของเขา  แต่แทนที่เขาจะลืมได้เขากลับรู้สึกกลัวเข้าไปอีก  เมื่อเอ็ดเวิร์ดบอกกับเขาว่าเมื่อตกหลุมรักใครสักคนแล้วมันยากที่จะถอนตัวจากสิ่งเหล่านั้น


             
    เชดริกพยายามที่จะเลิกคิดในสิ่งเหล่านั้นอย่างรวดเร็วเพราะเขารู้ว่าเขาไม่สามารถรักมนุษย์ได้  ซึ่งแน่นอนเขาได้ตกลงไปในกลอุบายของเธอแต่ความรักก็สั่งให้เขายังคิดถึงมันอยู่


             
    อย่างไรก็ดีเอ็ดเวิร์ดยังบอกอีกว่าครอบครัวของเขานั้น  คงจะยอมรับเธอได้ยาก โดยเฉพาะความลับของพวกเขาที่เป็นแวมไพร์

              เอ็ดเวิร์ดลงท้ายจดหมายด้วยคำว่า มนุษย์ทำให้เราประหลาดใจได้เสมอ  เชดริกนั้นอยากที่จะโยนจดหมายฉบับนี้ลงไปในกองไฟเมื่อเขาได้อ่านมันจบ


             
    เชดริกนั้นครุ่นคิดอย่างหนักถึงสิ่งที่เอ็ดเวิร์ดกล่าว  ในหัวของเขานั้นเต็มไปด้วยความคิดเกี่ยวกับเธอ


             
    เขารักเธอได้ไหม? ………. มันเป็นไปได้ไหมที่เขาจะรักมนุษย์  เพราะมนุษย์ที่เขาเคยรู้จัก

    มาล้วนแต่ชราตามกาลเวลาและในที่สุดก็ตายลง  ซึ่งเขาก็ไม่สามารถจะรู้สึกเสียใจในการจากไปของ

    พวกเขาเหล่านั้นได้เพราะเขารู้ดีว่าคงไม่มีมนุษย์คนไหนอายุยืนไปกว่าแวมไพร์แน่นอน


             
    พ่อแม่ของเขานั้นมักจะโยนความรักของแวมไพร์ทิ้งไป  เพราะพวกเค้ารู้ว่าเชดริกคงจะไป

    สัมผัสถึงมันหรือแม้แต่ต้องการจะให้เขาสัมผัสถึง

             

              เอ็ดเวิร์ดนั้นเป็นคนเดียวที่สามารถแยกตัวออกมาและอยู่ใกล้ชิดมนุษย์ได้  เขาไม่รู้หรือไงว่าเธอจะต้องแก่ไปตามกาลเวลา  และสักวันหนึ่งเธอจะต้องตายระหว่างที่เขายังคงแข็งแรงอยู่


             
    เชดริกนั้นหยุดคิดเมื่อรู้ตัวว่าเขาเดินมายังห้องสมุดโดยแทบจะไม่รู้ตัวและกำลังมองดูเฮอร์ไมโอนี่หยิบหนังสือลงมาจากชั้นวางหนังสือ


             
    สักวันเฮอร์ไมโอนี่ต้องแก่  เธอจะต้องเจ็บป่วย  และในที่สุดก็ต้องตาย  ซึ่งเขาไม่สามารถทำอะไรเพื่อหยุดยั้งสิ่งนั้นได้  โดยเขานั้นหวังที่จะให้เธอมาอยู่เคียงข้างเขาได้ไหม  ทั้งๆที่ตัวเขา

    เองยังไม่สามารถไว้ใจตัวเองได้เมื่อต้องอยู่ใกล้ๆเธอ


             
    ไม่………….. เขาไม่สามารถหรือแม้แต่จะรักเธอได้


             
    เชดริกหลบไปด้านอื่น  เมื่อเฮอร์มโอนี่กวาดสายตามองรอบๆตัวเธอ  เพราะเธอรู้สึกเหมือนว่ามีใครบางคนจ้องมองเธออยู่  จากนั้นเธอจึงเดินกลับไปที่โต๊ะ 

    เซดริกยังคงเฝ้ามองเธอที่ทำตัวเหมือนพ่อมดและแม่มดคนอื่นๆ  ซึ่งมากกว่าที่มนุษย์ทั่วไปสามารถจะใช้ชีวิตอย่างนั้นได้  แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ตาย


             
    เขาถอนหายใจก่อนจะพิงหัวลงชั้นวางหนังสือ  โดยเขาสาปแช่งและขอบคุณสก็อตที่ทำให้เขาคิดถึงเรื่องนี้

              มันเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ความรู้สึกเขาอ่อนแอ  เขารู้ว่าเขาตกหลุมรักเธอ  ซึ่งตอนนี้เขารู้แล้วว่า

    หากหัวใจเขาจะเต้นอีกครั้งมันจะเต้นเพื่อเธอ


             
    เช็คดริกตัดสินใจที่จะเลิกคิดถึงเธอ  เขาก็ต้องหันศรีษะกลับไปแทบจะในทันทีเมื่อได้ยินความคิดอันดังของ วิกเตอร์ ครัม  ซึ่งครัมในตอนนี้ยืนอยู่ต่อหน้าเฮอร์ไมโอนี่  เชดริกนั้นอยากจะเผาสมองของครัม  เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับเธออีก ถึงแม้ว่าเซดริกจะตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งกับเธอเท่านั้นก็ไม่ได้หมายความว่า ตัวเขาชอบความคิดที่คนอื่นมาอยู่ใกล้ๆ เธอ


             
    เชดริกนั้นถูกแปลงสภาพเมื่ออายุ  17  ปี ซึ่งแม้ว่าเขาจะได้ประสบการณ์ในการใช้ชีวิตทั้งสองอย่างแต่ความเป็นเด็กก็ยังคงมีอยู่ในตัวเขา


             
    เฮอร์-มาย-โอ้-นีส  เสียงของครัมบาดใจเชดริกเหมือนมีดร้อนๆ  ซึ่งเขาคงจะไม่ร้อนรนหากเขาไม่ได้ยินความคิดของครัมในตอนนี้ 


             
    เธอไม่ปฏิเสธฉันแน่  เชดริกกัดฟันตัวเองไว้แน่นเพื่อไม่ให้คำรามออกมาเมื่อเขาได้ยินความคิดของครัม แต่เซดริกก็ยังระบายความร้อนรุมของตัวเองกับหนังสือเล่มใหญ่ที่ถูกวางกระแทกอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง  เและเฝ้ามองดูพวกเขาที่สะดุ้งตกใจกับเสียงที่เซดริกแกล้งทำแต่พวกเขาก็ไม่ได้มีความสนใจมากพอที่จะมองหาที่มาของเสียงนั้น


             
    คะ  เฮอร์ไมโอนี่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานและสุภาพ  เชดริกรู้สึกหมั่นไส้กับน้ำเสียงห้าวของครัมที่เอยชื่อหญิงสาวออกมา  ซึ่งครัมก็เรียกชื่อเธอได้ถูกต้อง  แม่ไม่ค่อยได้ใช้มันเท่าไหร่


             
    ผมสงสัยว่าคุณจะ.......  ครับพูดอะไรไม่ออก  เพราะเชดริกเดินมายืนอยู่ข้างๆ  เฮอร์ไมโอนี่

    และจ้องมองครัมอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ  ครัมรู้สึกตกใจเล็กน้อยกับสีหน้าและแววตาของชายหนุ่มเบื้องหน้า


             
    เกรนเจอร์  ฉันเจอหนังสือ  เชดริกกล่าว  พร้อมทั้งลงไปนั่งเก้าอี้ข้างๆเธอ ดวงตาเซดริกนั้นกลายเป็นสีค่อนข้างเข้มโดยเขายังคงจ้องมองดูอยู่แต่ผู้บุกรุกรายนี้เท่านั้น


             
    ดิกกอรี่ฉันไม่รู้มาก่อนว่านาย...ครัมเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก


             
    ว่าฉันกับเกรนเจอร์กำลังทบทวนตำรากันอยู่เหรอ  ไม่น่าสงสัยหรอก  ฉันแค่หายไป

    แว๊บเดียวเพื่อไปหยิบหนังสือเชดริกหยิบหนังสือออกมาเพื่อพิสูจน์ว่าคำพูดของเขาจริง  โดยที่เชดริกไม่ต้องหันไปมองเขาก็รู้สึกได้ว่าเฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่นเล็กน้อยด้วยความโกรธ  แต่เธอไม่ได้พูดอะไรนอกจากยิ้มหวานให้กับครัม


             
    ต้องการถามอะไรฉันเหรอ  วิคเตอร์  เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างเอาใจใส่  โดยไม่สนใจท่าทางของเชดริกหลังจากที่ครัมเอาไหล่มาเกยเชดริกและด่าทอในใจ


             
    คงไม่มีอะไรมากนอกจากงานเต้นรำน่ะสิครับ……….  เกรนเจอร์ตกลงที่จะไปกันผมแล้ว  และ

    ผมก็ไม่ชอบที่จะให้ใครมาคิดเกี่ยวกับการที่เธอจะมีคู่เดทสองคน  เชดริกกล่าวพยายามทำท่าว่า

    ภูมิใจ แต่ในใจรู้สึกเป็นทุกข์  ซึ่งเขาก็ไม่ได้ใส่ใจมันอีกเลย หลังจากที่ได้เห็นหน้าซังกะตายของครัมอย่างสะใจแล้ว


             
    เฮอร์ไมโอนี่หันมามองเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย  ด้วยท่าทางที่ว่า จะพูดหรือตะโกนใส่ทีหลังเมื่ออยู่กันตามลำพังแล้ว


             
    เข้าใจละ  ฉะนั้นฉันคงต้องหาคู่เดทคนอื่น  ครัมกล่าวก่อนที่จะก้มลงเล็กน้อยให้เฮอร์ไมโอนี่ และเดินออกไปจากห้องสมุดโดยก่อนที่จะมองกลับมาที่เชดริกที่ดูไม่มีท่าทางอวดดีเหมือนเคย


             
    ภายหลังที่ได้อยู่กันตามลำพัง  เชดริกรู้สึกว่าเฮอร์ไมโอนี่ หันมาทางเขาแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ดีไปกว่าการหัวเราะเพราะรู้สึกว่าเธอมองมาที่เขาด้วยแววตาร้อนผ่าว  เขาหันไปหาเธอด้วยท่าทางอวดดี ในขณะที่เธอกลับทำอาการฉุนเฉียวใส่เขา   ซึ่งหากเป็นคนปรกติคงจะกลัวกับอาการของเธอ  แต่ในเมื่อเขารอดพ้นจากมังกรมาได้  คงไม่มีอะไรที่เธอพ่นออกมาแล้วเขาจะหลบมันไม่ได้


             
    หยาบคาย…………เห็นแก่ตัว…………โง่เขลาเฮอร์ไมโอนี่ด่าทออย่างสุดจะกลั้น


             
    แวมไพร์เชดริกกระซิบและยื่นหน้าเกือยใกล่เธอ  ซึ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่หยุดและหน้าซีดด้วยคำพูดและท่าทางของเขา


    เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัวเบาๆอย่างระอา ก่อนที่จะหยิบหนังสือของเธอและจะเดินออกไป  แต่เชดริกกลับเอื้อมมือของเขาเพื่อหยุดยั้งมือเธอ  เขาใช้ชั่วระยะเวลาหนึ่งก่อนจะสัมผัสถึงอาการเกร็งและการหดมือของเธอเพราะมือที่เย็นเยียบของเขาก่อนจะหดมือกลับมา


             
    เกรนเจอร์ฉันไม่ได้คิดที่จะทำร้ายเธอหรือทำให้เธอกลัว……………… สก๊อตบอกทุกอย่างที่เธอค้นพบมาให้ฉันฟังแล้ว  เชดริกเอ่ยก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะสูดหายใจเฮือกใหญ่แต่ยังปฏิเสธที่จะมองเขา  เช็คดริกถอนหายใจก่อนที่จะเอนตัวพิงเก้าอี้และกอดอกมองดูเธอ


             
    ฉันแค่อยากจะขอบคุณ  เขาพึมพำไม่มีความอวดดีอยู่ในตัวเขาอีกแล้ว  ระหว่างที่เธอจ้องมองเขาว่าขอบคุณเธอเรื่องอะไร


             
    ทำไมเธอถามอย่างเย็นชา  ดวงตาจ้องมองไปในตาเขาเพื่อจะค้นหาความจริง


             
    มันคงจะไม่น่าประทับใจเท่าไหร่  เมื่อรู้ว่าเพื่อนนักเรียนเป็นแวมไพร์หรือมนุษย์หมาป่าใช่ไหม เกรนเจอร์
    เชดริกกระซิบดังเพียงพอให้เธอได้ยินเพียงคนเดียว  เธอหน้าแดงและผงกศรีษะ เขายิ้มให้เธอ

     

              ดังนั้น  เธออ่านใจคนได้  เฮอร์ไมโอนี่ถามโดยเชดริกไม่ทันตั้งตัว  ซึ่งเธออาจจะสังเกตได้

    เพราะเมื่อเธอมองเขาทำสีหน้าตกใจเธอกลับหัวเราะคิกคัก


             
    ฉัน……… ใช่   ไม่ใช่จิตใจแต่ความคิดที่ฉันสามารถได้ยิน  จริงๆ  มันไม่เสมอไปหรอก  เธอเข้าใจไหม   ฉันให้เกียรติพวกเขา โดยจะม่พยายามอ่านความคิดของคนอื่นถ้าไม่จำเป็นเชดริกกล่าว  เฮอร์ไมโอนี่ผงกศรีษะ  ก่อนที่จะนั่งลงที่โต๊ะข้างหน้าเธอ


             
    แต่แปลกนะ ที่ฉันไม่สามารถรับรู้ความคิดเธอได้   เชดริกกล่าวโดยจ้องมองที่พื้นจากนั้นไม่นานเชดริกมองขึ้นมาก็เจอดวงตากลมโตสีน้ำตาลของเธอจ้องมองเขาอยู่ก่อนล้ว


             
    ทำไม  เธอถามอีกครั้งด้วยความสงสัย


             
    ไม่รู้สิ  ฉันไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับฉันเพราะมันไม่เคยเกิด

              เชดริกกล่าวโดยหน้าผากเธอย่นและริมฝีปากล่างอยู่ระหว่างฟันเธอ


             
    อะไรนะ  เธอถามอย่างแปลกใจ  ทำให้เขายักไหล่  และจ้องมองที่หนังสือก่อนจะเบนหน้าหนี เพราะคำว่า  หัวใจที่โดนสาป

     

              ไม่มีอะไร  เธอไม่ชอบที่จะไม่ได้รับคำตอบหรือไง เซ้าซี้อยู่ได้  เชดริกแกล้งว่าเธอ ระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะและส่ายหัวไปมาอย่างเขินอาย


             
    ผมที่ถูกรัดไว้บางส่วนหล่นลงมาอยู่ปรกแก้มเธอ  ทำให้เซดริกเอื้อมมือจับปอยผมของเธอขึ้นมาทัดหูไว้  เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้าง ก่อนจะหลุบตาลงต่ำและใบหน้าแดงจัดด้วยความเขินอายที่จู่โจมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่เซดริกจะตั้งสติได้อีกครั้ง  เขาก็ได้แต่เอาจ้องมองที่ดวงตาของเธอ  เขาพบกับความสับสน ความกลัวและความประหม่าในดวงตานั้นของเธอ  ซึ่งเชดริกนั้นสงสัยว่ามันเป็นเพราะว่าในสิ่งที่เขาเป็นหรือสิ่งที่เขาทำกันแน่  แต่อาการหน้าแดงของเธอก็พิสูจน์ได้ว่ามันไม่ใช่ที่ตัวตนของเขา  และวิธีที่เธอมองมาที่เขานั่นมันทำให้เขาเขินอายขึ้นมาบ้างแล้ว


             
    เชดริกแสร้งทำท่าทางอวดดีเพื่อกลบความเขินอายของเขา  ก่อนที่เขาจะเอนหลัง  เขายังคงยิ้มให้เธอเมื่อเธอมองมาที่เขา


             
    เธอปลอดภัยจากพวกบรรดาหนุ่มๆนั้นแล้ว  ฉันว่าฉันไปตามหาสก็อตดีกว่า  เจ้านั่น

    ค่อนข้างงอแง  ถ้าแม่ไม่พาไปเดินเล่น เชดริกพูดติดตลกทำให้เธอหัวเราะกับสิ่งที่เขากล่าว


             
    บอกพอตเตอร์ด้วย  ฉันหวังว่าจะเจอเขาที่นี่คืนพรุ่งนี้  ถ้าเขาต้องการจะรู้ว่าจะทำยังไงกับไข่มังกรของเขา  เชดริกกล่าวโดยเธอมองเขาด้วยความฉงน  ก่อนที่จะเอาตัวเองออกจากอาการฉงน และพยักหน้าตกลง


             
    และเธอก็ควรจะหาชุดใส่สำหรับงานเต้นรำได้แล้วนะเชดริกสั่งพร้อมหัวเราะน้อยๆโดยเธอจ้องเขาด้วย อาการงงก่อนที่เขาจะยักคิ้วให้เธอ


             
    ถ้าแวมไพร์สามารถทำความสะอาดตัวเองให้เอี่ยมอ่องสำหรับงานเต้นรำได้  เธอก็ควรจะพา

    เขาออกไปจากชีวิตที่น่าเวทนานี้ เพียงแค่คืนเดียวเกรนเจอร์เชดริกทำเสียงอ้อนอย่างน่าสงสารก่อนจะเดินออกไปจากห้องสมุดโดยไม่แม้แต่จะรอคำตอบจากเธอ


             
    บางทีมนุษย์ทำให้เราประหลาดใจ  แต่เชดริกนั้นก็คิดบางอย่างออกเหมือนกันแม้แต่แวมไพร์เช่นเขาก็ทำให้ตัวเองประหลาดใจเช่นกัน เขายิ้มอยางมีตวามสุขและนึกถึงวันงานเต้นรำที่จะมีในเร็ววันนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×