ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจที่หลุดลอย (Take My Heart Away) ทอม ริดเดิ้ล/เฮอร์ไมโอน

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6 น้ำตายามเย็น (Sunset Tears)

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 53


    หัวใจที่หลุดลอย (Take My Heart Away)
     
    ตอนที่ 6 น้ำตายามเย็น (Sunset Tears)
     
            “Furvam cor, sacramentim aedifice” ทอมเปล่งเสียงเบาไปยังกลุ่มนักเรียนที่ล้อมรอบเขาอยู่ เขายกท่อนแขนซ้ายขึ้นมาขณะรู้สึกผิวหนังกำลังไหม้เกรียมและกลายเป็นแผลเป็น เพื่อนๆ ของเขาจ้องดูเครื่องหมายแห่งการร่ายเวทมนตร์ที่ปรากฏขึ้นอย่างใกล้ชิด มันเป็นรูปหัวกะโหลกสีดำและมีงูโผล่ออกมาจากปาก
     
    กะโหลกเป็นสัญลักษณ์ของความรู้ และงูหมายถึงสลิธีรินอย่างแน่นอน
     
    “ดูซิ? มันเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจของซัลลาซาร์ สลิธีริน และอำนาจของพวกเราตั้งแต่นี้ต่อไป”
     
    ทอมพูดเสียงนุ่มกระตุ้นความสนใจจากผู้ชมของเขาให้มองดูหัวกะโหลก พลังอำนาจของฉัน เขาคิดอยู่ในใจ ผู้คนเหล่านี้พวกคนธรรมดาเหล่านี้ไม่เคยเป็นอะไรนอกจากผู้ติดตามของเขา
     
            “มันปรากฏให้เห็นใต้แสงจันทร์คืนวันเพ็ญเท่านั้น” เขาพูดต่อขณะมองขึ้นไปข้างบนท้องฟ้า “ดังนั้นไม่มีใครจะสามารถมองเห็นมันได้ในเวลาทั่วไป” เขาคิด สำหรับตอนนี้
     
            “เจ็บไหม?” เด็กผู้ชายชื่อ แฮมิเลียส ลีสเตรนจ์ ถามแบบขลาดๆ
     
            “นิดหน่อย” ทอมตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “มันคือสัญลักษณ์ความเป็นเอกภาพของเรา จินตนาการถึงความยิ่งใหญ่ เราจะสามารถบรรลุผลสำเร็จร่วมกัน เราจะเป็นสมาคมแม่มดและพ่อมดที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกที่เคยมีมา ฉันให้สัญญา”
     
            ด้วยน้ำเสียงชวนน่าฟัง ความมั่นใจบนใบหน้ารวมถึงวิธีที่เขาพูด การยืน และการเคลื่อนไหว ทำให้ผู้ชมของเขาติดตรึงใจอย่างไม่มีเหตุผล สิ่งเป็นไปไม่ได้ต่างๆ ที่ให้สัญญากับพวกเขาพลันกลายเป็นน่าเชื่อ และความฝันต่างๆ ของพวกเขาอาจเป็นจริงทันที
     
    ทอมมองดูหลายใบหน้ารอบๆ ตัวเขาได้ เห็นสีหน้าของความทะเยอทะยานและความหวัง เขารู้ว่าคนพวกนี้เหมือนกับเขา อยากมีอำนาจมากกว่าอะไรในโลกนี้ และจะมุ่งไปตามเส้นทางอันตรายเพื่อให้ได้มา เขายืนอยู่ตรงนี้เสนอข้อตกลงและความร่วมมือใส่ถาดเงินมาให้ ใครจะปฏิเสธข้อเสนอเช่นนี้ล่ะ?
           
    “เครื่องหมายนี้จะเตือนพวกนาย เมื่อไรก็ตามที่เรามีการประชุม วิธีนี้พวกเราจะได้ไม่ต้องแอบซ่อนข่าวสารลับหลังอาจารย์” เขาให้เวลานิดหน่อยแก่เพื่อนสมาชิกในการพิจารณาข้อเสนอของเขา จากนั้นพูดว่า “พวกนายชอบข้อเสนอเหล่านี้ไหม?”
           
    “ฉันคิดว่ามันเยี่ยมมาก” นักเรียนหญิงสลิธีรินปีที่สามร้องตะโกน
           
    “ใช่ ฉันก็คิดว่ามันจะมีประโยชน์มากๆ” ไรออน มัลฟอย เพื่อนสลิธีรินร่วมชั้นปีที่เจ็ด ประกาศอย่างเปิดเผย
           
    “ทอม ความอัจฉริยะของเธอไม่เคยหยุดทำให้พวกเราประหลาดใจเลย?” นอร่า ไนท์ลีย์ พูดพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง สิ่งนี้ดูเหมือนทำให้คนอื่นๆ เชื่อมั่นและพวกเขาก็เริ่มเพิ่มคำเยินยเข้าไปอีก
           
    ทอมยิ้มพร้อมพยักหน้า ขณะที่ภายในใจรู้สึกยินดีกับการร่ายเวทมนต์ของเขาที่พวกนั้นต่างยอมรับ นี่คือวิธีการของเขา เพื่อจะทำให้คนพวกนั้นเหมือนใกล้ชิดกันเป็นครอบครัว และจากนั้นทำให้พวกเขาเสแสร้งไปกับความมั่นใจมากกว่าที่เคย
           
    หลายสัปดาห์ผ่านไป สิ่งต่างๆ ผ่านไปได้ด้วยดีสำหรับทอม มีแต่ความขัดข้องใจเพียงอย่างเดียวคือ เฮเลน เนสโธว์ ซึ่งเขาไม่สามารถเข้าใจเธอได้ ดัมเบิลดอร์ยังคงให้ความสนใจในตัวเธอ และความอยากรู้ของทอมมาถึงระดับใหม่แล้วในตอนนี้
     
            ทำไมเธอแสร้งทำเป็นคนธรรมดาในเมื่อเธอเก่งมากอย่างเห็นได้ชัด? เธอมาจากที่ไหน? ทำไมไม่มีใครตั้งคำถามเรื่องการปรากฏตัวของเธอที่รวดเร็วและลึกลับ? ทอมคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่ไปถามกับเธอตรงๆ หลังจากคืนนั้นที่ระเบียง เมื่อไรที่กริฟฟินดอร์เต็มใจเสียคะแนนอย่างไม่มีเหตุผล มันไม่เคยเป็นสัญญาณที่ดี เธอมีความลับที่ใหญ่มากอย่างชัดเจนถึงกล้าที่จะยอมเสียคะแนนของบ้านไปอย่างไม่นึกเสียดาย และทอมสงสัยอย่างมากว่า ความลับนี้ต้องเป็นบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา เขารู้ได้จากการที่เธอคอยหลบสายตา ตลอดเวลาที่เขามองเธอ
     
            และแล้วในคืนหนึ่งมันเป็นคืนที่อบอุ่นสบายและลมพัดแรงในเดือนตุลาคม เมื่อทอมปีนบันไดขึ้นไปบนหอคอยดูดาวเพียงลำพัง เขายืนพิงอยู่เหนือลูกกรงบนเฉลียงอันหนึ่งที่เรียงรายอยู่บนหอคอย และปล่อยให้สายลมพัดผมให้ยุ่งเหยิง สายลมเย็นๆ ช่วยทำให้เขาคิดอะไรต่ออะไรได้ง่ายขึ้น ดังนั้นเขาจึงขึ้นมาบนนี้บ่อยๆ เพื่อหนีความหนาวเย็นในคุกใต้ดิน
     
    พระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้ว แสงเจิดจ้ากำลังเลือนหายไปที่ปลายสุดขอบฟ้าในที่สุด
            เขาไม่เห็นเงาที่ตามเขามาอย่างเงียบๆ ขึ้นมาข้างบน และไม่เห็นแม้กระทั่งมีดเหล็กในมือเธอ เฮอร์ไมโอนี่หยุดอย่างช้าๆ เมื่อเห็นทอมกำลังยืนพิงอยู่ที่เฉลียง ผมสีดำของเขาถูกลมพลัดปลิวไปด้านหลัง สีหน้าท่าทางเหมือนจมอยู่ในความคิด และไม่ทันระวังตัวจากอะไรทั้งหมด เวลาตอนนี้แหละ เธอคิดอย่างเด็ดเดี่ยวและเริ่มเดินตรงไปข้างหน้า
     
            “เดี๋ยวก่อน”
     
            เฮอร์ไมโอนี่เก็บมีดเข้าไปในกระโปรงของเธอทันทีพร้อมกับเสียงของเขา ความรู้สึกหวาดกลัวค่อยๆ ก่อตัวขึ้นครอบคลุมเธอ ทอมไม่ได้หันกลับมาและเงียบอยู่สักครู่ เขาเห็นมีดในมือเธอรึ?
     
            “เธอมาทำอะไรที่นี่?” ในที่สุดเขาก็ถามหันหน้ามาเผชิญหน้ากับเธอ และเก็บทุกรายละเอียดของหญิงสาวที่ยืนอยู่นี้ ผมยาวเรียบสีน้ำตาลทอง ริมฝีปากเต็มอิ่ม ดวงตาสีอำพันของเธอต้องแสงอาทิตย์ ทำให้มันดูน่าหลงใหลและเปล่งประกาย
     
            “ฉันมาที่นี่เพื่อคิดอะไรบางอย่าง” เธอบอกอึกอัก ท่าทางดูเครียดและพร้อมจะกระโจนถอยหลัง ทอมกอดอกหลวมๆ และถอยไปยืนพิงอีกด้านของเฉลียง
     
            “พยายามเล่นละครอยู่ใช่ไหม?” เขาถามทันที ทำให้เธอประหลาดใจ
     
            “เปล่า”
     
            “โกหก?”
     
            พวกเขาต่างก็เงียบไปหลังจากการโต้ตอบกันอย่างรวดเร็ว และทอมสั่นหัวเหมือนไม่เชื่อ
     
            “นี่ไม่ใช่ทรงผมจริงๆ ของเธอใช่ไหม?” เขาพูดด้วยท่าทางสนุก
     
            “มันเป็นของจริง” เธอบอกอย่างขุ่นเคือง พร้อมดึงปอยผมตรงให้ดูว่ามันเป็นของจริง
     
            เขาหัวเราะเสียงเย็นราวกับไม่รับรู้คำพูดของเธอ ทอมดึงไม้กายสิทธิ์ของเขาและเคาะเบาๆ ตรงมาที่เธอ
     
            เฮอร์ไมโอนี่ตะลึงมอง เมื่อรู้สึกว่าผมของเธอกำลังเปลี่ยนไป ปอยผมเหยียดตรงกลายเป็นลอนหยักศก เธอร้องเสียงหลงด้วยความตกใจพร้อมกับยกมือจับศีรษะของตัวเองไว้
     
            “อะไร...คุณทำอะไร!”
     
            “ฉันแค่กลับคาถาอะไรก็ตามที่เธอเสกคืนไปเท่านั้น” ทอมตอบอย่างเย็นชา พร้อมกับเลิกคิ้ว
     
            เธอมองไปด้านโน้นด้านนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็น
     
            “เปลี่ยนมันกลับไป” เธอเปล่งเสียงไม่พอใจและถลึงตามองเหมือนจะฆ่าเขาให้ตาย ทอมคิดสั้นๆ ว่าแบบนี้ดูเหมาะสมกว่า แต่ทันใด..เขากำลังคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว.เขาใส่ใจอะไรเกี่ยวกับทรงผมของผู้หญิงโง่ๆแบบนั้น ? เขาไม่ใส่ใจแน่นอน โดยการเคาะไม้กายสิทธิ์ของเขาอีกครั้ง ผมของเธอก็กลับไปเรียบตรงเป็นปกติ
     
            “มีอะไรบ้างที่จริงเกี่ยวกับเธอ?” ทอมถามเสียงเย็น เฮอร์ไมโอนี่ดูเหมือนใจเสียไปในทันที และรู้ว่าทอมเกือบเข้าถึงตัวเธอแล้ว เยี่ยมไปเลย
     
     “ใครที่เธอพยายามหลบซ่อนเสียเหลือเกิน?”
           
    คุณ เธออยากบอกเขาอย่างสิ้นหวังเพื่อดูปฏิกิริยาของเขา เธออ้าปากจะแต่งเรื่องที่น่าเชื่อถือ แต่ทอมก็พูดขัดเธออีกครั้ง
           
    “อย่าโกหก” เขาพูดรวดเร็ว “มันไม่ได้ผลกับฉัน”
           
    เธอสูดหายใจลึกๆ รู้สึกท้อแท้ใจเหลือเกินต่อสัญชาติญาณของเขา แม้ว่าเธอจะไม่เคยยอมรับมัน เธอเหนื่อยกับการแสดงในทุกๆวินาทีตลอดทั้งวัน เธออยากกลับบ้านมากๆ และแผนการของเธอได้ถูกทำลายอีกครั้ง ทั้งหมดนี้มันมากเกินไป เธอรู้สึกถึงน้ำตาที่ทะลักออกมาจากตาของเธอ
           
    “บอกความจริงกับคุณก็ได้ ฉันหลงทาง” เธอกระซิบ “ฉันหลงทาง และไม่รู้เลยว่าจะกลับไปได้อย่างไร” น้ำเสียงของเธอหวาดหวั่นและเต็มไปด้วยความรู้สึกจริงๆ ทอมคิดว่าถ้าเธอกำลังแสดงละครอยู่ตอนนี้ เธอต้องได้รับรางวัลแน่ แล้วเขาก็เห็นน้ำตาหยดแรกไหลออกจากดวงตาของเธอ มองดูมันหยดลงใบหน้าเธอเหมือนดาวตกที่เหงาหงอย ความรู้สึกหนึ่งเปิดเผยออกมาซึ่งเขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความระทมทุกข์?
     
            “ห้องสมุดฮอกวอตส์ มีแผนที่ทุกแห่งในโลกมากมาย ถ้าเธอฉลาด เธอควรจะดู...”
           
    “ไม่-ใช่แบบนั้น” เธอบอกเหมือนต้องใช้ความพยายาม “ไม่ได้หลงทางแบบนั้น” เธอสูดจมูก พยายามกลั้นเสียงสะอื้นที่ทำให้ร่างกายเธอเจ็บปวด เธอต่อว่าตัวเองอยู่ในใจที่ร้องไห้ คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือ ลอร์ดโวลเดอมอร์ เขาเป็นฆาตกรเลือดเย็นที่ฆ่าคนนับพัน...แต่ว่าในขณะนี้เขายังไม่ได้เป็น ยังไม่ใช่ตอนนี้
    นี่ เธอคาดหวังอะไรจากเขา ความสงสารรึไง?
           
    “ทำไมเธอถึงร้องไห้?” ทอมถามทันที จ้องดูเธออย่างพิจารณาและแก้มของเขามีสีแดงแต้มอยู่เล็กน้อย
           
    เฮอร์ไมโอนี่มองเขา “ฉันบอกคุณแล้ว ฉันหลงทาง...”
           
    “ไม่ ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เธอร้องไห้ ฉันหมายถึง ทำไมเธอร้องไห้เมื่อผิดหวังหรือเศร้า? ทำไมใครๆต่างก็ ร้องไห้? ฉันไม่เห็นประโยชน์ของมัน ไม่ใช่ว่าการปล่อยน้ำตาออกมาจะช่วยแก้ปัญหาของเธอได้ ดังนั้นทำไม?”
           
    การตระหนักถึงความจริงพุ่งเข้าใส่เฮอร์ไมโอนี่เหมือนลูกบลัดเจอร์ เขาไม่เข้าใจเรื่องความรู้สึก เธอคิดอย่างงุนงง อาจเป็นไปได้ที่เขาไม่เคยร้องไห้เลยในชีวิต
           
    “มันคล้าย...คล้าย..ถามว่าทำไมท้องฟ้าสีฟ้า เพราะมันเป็นสีฟ้า เพราะว่านั่นคือสิ่งที่เป็นแบบนั้นเสมอ และอาจเป็นมายาวนานแล้ว ฉันไม่รู้เรื่องการอธิบายทางวิทยาศาสตร์สำหรับมัน แต่ว่าส่วนใหญ่เพราะมันเป็นแบบนี้”
           
    ทอมมองเธอด้วยท่าทางว่างเปล่าน่ากลัว ราวกับว่าเธอมาจากความชั่วร้าย “นั่นมันโง่ที่จะร้องไห้ ”
           
    เฮอร์ไมโอนี่สัมผัสได้ถึงความหมายลึกๆ ในคำพูดของเขา แต่ก็เสียใจเกินกว่าจะแปลความหมายเหล่านั้น
           
    “แล้วคุณทำอะไร? เก็บความรู้สึกทั้งหมดใส่ขวดไว้? คอยเก็บซ่อนมันไว้? ฉันรู้จักใครคนหนึ่งที่ทำแบบนั้น” เธอพูดด้วยน้ำเสียงทรมาน “สุดท้ายสิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้แก้ปัญหาให้เขาได้ดีนัก”
           
    “เขาเป็นใคร?” ทอมถามหา
           
    เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่เด็กหนุ่มผู้น่าเวทนาเหลือเกินตรงหน้าเธอ “คุณไม่รู้จักเขาหรอก” เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย”
           
    ทอมมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเธอสะท้อนแสงอยู่ในความมืด เขาตระหนักว่าเขาต้องการทำอะไรบางอย่างให้เธอ ซึ่งเขาไม่เคยต้องการทำมาก่อน เขาอยากทำให้เธอสบายใจ ปลอบโยนเธอ ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเท่าที่เป็นไปได้ เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรนับตั้งแต่เขาไม่เคยให้หรือได้รับความสบายใจ
           
    ฉับพลันเขาก็ตื่นขึ้นจากมัน นายกำลังคิดอะไร? นี่คือเฮเลน เนสโธว์ นักแสดงหญิงที่หลอกลวงทุกคน ตอนนี้เธออาจกำลังแสดงอยู่ก็ได้! ทำไมฉันต้องฟังเธอด้วย?
           
    เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ทันทีถึงความเย็นเยือก และความเคร่งเครียดในตัวเขาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
           
    “ฟังนะ ฉันไม่ต้องการกริฟฟินดอร์เลือดสีโคลนเอาปัญหาไร้สาระมาทำให้เลอะเทอะใส่ตัวฉัน เข้าใจไหม? ฉันไม่รู้จักเธอ เธอไม่ได้เป็นอะไรสำหรับฉัน นอกจากคนโกหก ดังนั้นออกไปจากที่นี่ซะ” เขาพูดเสียงต่ำเหมือนเคย แต่เต็มไปด้วยพลังคุกคามมากกว่าครั้งอื่นๆ ที่เฮอร์ไมโอนี่เคยได้ยินมา
           
    เธอมองไปที่ทอม ริดเดิ้ล หรือ ลอร์ดโวลเดอมอร์ ใครก็ตามที่เขาเป็น ดวงตาสีดำเย็นชาของเขาคือสิ่งสุดท้ายที่เธอเห็นก่อนจะหมุนตัวกลับ และเดินจากไป

    TBC
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×