ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 6 คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องความรัก
Chapter 6 คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องความรัก
หลังจากที่ครูสอนลีลาศเกิดอาการสติแตกออกไปอย่างหัวเสีย เฮอร์ไมโอนี่จึงขอตัวออกมาเดินเล่นในสวนตามลำพัง เธออยากคิดเรื่องราวในบางเรื่องเพียงลำพังคนเดียวเธอเดินออกมาที่สวนและนั่งมองสระน้ำเพียงชั่วครู่ เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิดถึง วิกเตอร์ ครัม
�
�
หลังจากสงครามเกี่ยวกับเจ้าแห่งศาสตร์มืดสิ้นสุดลง เธอเองต้องสูญเสียครอบครัวของเธอไปในสงครามที่โหดร้ายนั้น เธอเองต้องอยู่เพียงลำพัง ถึงแม้จะมีแฮร์รี่และรอนอยู่เป็นเพื่อนเธอเสมอมาก็ตามแต่ทั้งสองคนก็มีจินนี่ และผู้หญิงที่พวกเขาสนใจอยู่เหมือนกัน ในขณะที่เธอไม่มีใคร
อาจจะเป็นเพราะหัวใจของเธอที่ไม่เคยเปิดใจกว้างให้กับใครง่ายๆ และเพราะเธอเป็นหญิงสาวที่เต็มไปด้วยสติปัญญา ที่ผู้ชายหลายๆคนอาจไม่ชอบ แต่ มีเพียงเขา เพียงเขาคนเดียวที่พูดคุยและติดต่อกับเธอเสมอมา สมัยครั้งไตรภาคีจนถึงวันที่สงครามยุติลง เขาเองเป็นคนที่ทำให้เธอยอมรับเขาอย่างตายใจ�
เธอเองไม่รู้เลยสักนิดว่าวิกเตอร์ เป็นคนที่มีอารมณ์ค่อนข้างรุนแรง จนกระทั่งเธอเริ่มต้นคบกับเขาแต่ในระยะแรกๆเขายังคงพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองได้ดี จนเธอไม่คิดเอะใจ
�
เธอเองไม่รู้เลยสักนิดว่าวิกเตอร์ เป็นคนที่มีอารมณ์ค่อนข้างรุนแรง จนกระทั่งเธอเริ่มต้นคบกับเขาแต่ในระยะแรกๆเขายังคงพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองได้ดี จนเธอไม่คิดเอะใจ
�
แต่มันเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเธอเริ่มขัดใจเขา ครั้งแรกคือการโต้เถียงและใส่อารมณ์แต่ต่อมาถึงขั้นลงไม้ลงมือ และขั้นที่รุนแรงที่สุดคือคืนวันที่เดรโกช่วยเธอเอาไว้
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรจุกอยู่ที่คอหอย เธอพยายามกลืนก้อนสะอื้นที่ล้นออกมาให้กลับเข้าที่เดิมของมันอย่างยากลำบาก
เธอเองคงนั่งคิดอะไรไปอีกนานถ้าไม่ได้ยินเสียงใครบางคนร้องเรียกชื่อของเธออยู่ด้านหลัง จนทำให้เธอแทบสะดุ้ง
เดรโกยืนมองดูเฮอร์ไมโอนี่อย่างพินิจพิจารณา จนเกิดความเงียบขึ้นมาชั่วขณะจากนั้นจึงเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วก้มมองเธอ
“มานั่งทำอะไร อยู่ครงนี้ เกรนเจอร์”
“มัลฟอย”เฮอร์ไมโอนี่พึมพำเรียกชื่อเขา
“คิดถึงฉันอยู่หรือไงพอเรียกทำเป็นสะดุ้งเชียว” เขาแกล้งแหย่เธอ ซึ่งเธอเองก็รู้ดี แต่ถึงกระนั้นก็เถอะมันก็ยังทำให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงได้อยู่ดี เธอหันไปหาเขาพร้อมทำหน้าบึ้งใส่
“ทำไมต้องคิดถึงคุณด้วย มัลฟอย”
“น่านสิ”เขาพูดเสียงยานคราง”ทำไมเธอต้องคิดถึงฉันด้วยล่ะ”เขาล้อเลียนคำพูดของเธอพลางยักไหล่แบบกวนๆแล้วจึงเดินมานั่งลงข้างๆเธอบนพื้นหญ้า เมื่อเดรโกหันมามองดูเธอซึ่งไม่ได้ปริปากพูดอะไรอีก และทำให้เขาทันได้เห็นใบหน้าที่แดงกล่ำของเธอ มันทำให้เขารู้สึกขำเล็กน้อย
“อย่าทำหน้าแบบนั้น เกรนเจอร์�ฉันแค่ล้อเธอเล่น�แต่ถ้าเธอจะคิดถึงหน้าของฉัน แทนหน้าใครบางคน ฉันก็อนุญาตนะ เกรนเจอร์”
เฮอร์ไมโอนี่อึ้งไปกับคำพูดนั้นของเดรโก เธอเองไม่แน่ใจกับคำพูดทีเล่นทีจริงของเขานักเฮอร์ไมโอนี่หันกลับไปมองดูท้องฟ้าที่กว้างไกลแล้วเปรยขึ้นมาลอยๆ
�
“มั่นใจในตัวเองไปหรือเปล่า”
“ยังไง”เดรโกขมวดคิ้ว
“คุณคิดว่าคุณวิเศษไปกว่าคนอื่นๆไง” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ แต่ถูกเดรโกหัวเราะขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อนแล้วพูดว่า
“ว้าว เฮอร์ไมโอนี่ เจน เกรนเจอร์ หญิงเหล็กแห่งกริฟฟินดอร์ เริ่มกลับมาเป็นคนเดิมแล้วสินะ”
“อะไร หมายความว่าไง”
“การโต้เถียงของเธอที่มีต่อฉันยังไงล่ะ หลังจากสงครามสิ้นสุดลงฉันกับเธอเราก็แทบที่จะไม่เคยโต้เถียงกันอีกเลย นานๆทีเวลาเจอหน้ากันก็แค่เชิดๆใส่กันเท่านั้น รู้ไหมว่านั่นมันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆไป มันเหมือน”เขานิ่งเงียบไปสักครู่ ก่อนพูดคำต่อไป
�
“ขาดแรงกระตุ้น” เดรโกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เขาไม่ได่หันมามองเธอแต่กำลังมองขึ้นไปดูนกบนท้องฟ้า
เดรโกรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมันคือความจริง เขารักที่จะโต้เถียงกับเด็กสาวผมสีน้ำตาลคนนี้ หญิงสาวเพียงคนเดียวที่มักทำใหเขาขุ่นเคืองใจได้ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันมันก็ทำใหเขามีชีวิตชีวาด้วยเช่นเดียวกัน มันกระตุ้นอยากให้เขาเอาชนะในทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเธอและพวกพ้องของเธอ แต่หลังจากสงครามผ่านนานไปเขาก็ไม่ค่อยได้เจอเธออีกเลย เธอมีทางเดินของเธอที่เขาไม่รู้ และเขาก็มีเส้นทางชีวิตของเขารออยู่เช่นกัน
เขาไม่แน่ใจว่าทางเดินชีวิตของเขาและเธอจะมาบรรจบพบเจอกันอีกหรือเปล่าจนกระทั่งวันที่เขาช่วยเธอจาก สัตว์ป่าตัวนั้น
เฮอร์ไมโอนี่มีอาการทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ เธอไม่เคยคิดว่าคุณชายที่ทรนงในสายเลือดอย่างเขาจะยอมสารภาพออกมาตรงๆว่าชอบโต้เถียงกับคนอย่างเธอ
ทั้งๆที่ตัวเธอในใจลึกๆแล้วก็ดูไม่ต่างจากเขานัก เธอยอมรับว่าเธอเองก็ชอบการโต้เถียงกับเดรโก มัลฟอย เด็กหนุ่มผมบลอนส์ตัวร้ายที่เย่อหยิ่ง เธอคิดว่าถ้าเธอบอกเรื่องนี้ให้กับเพื่อนรักทั้งสองของเธอรู้เขาคงจะต้องตกใจและคงมองว่าเธอบ้าไปแล้วแน่ๆ แต่เธอรู้ตัวของเธอดี�� แรงกระตุ้นจากเดรโกทำให้เธอมีแรงมานะทำให้เธอฮึดสู้ เพื่อให้ทุกคนประจักษ์ในเลือดสีโคลนอย่างเธอ ที่สามารถเอาชนะต่ออุปสรรคนานาประการได้จนมาเป็นแม่มดที่มีความเฉลียวฉลาดและเก่งกาจมากที่สุดคนหนึ่งในตอนนี้
เฮอร์ไมโอนี่คิดว่าหัวใจของเธอเริ่มผิดปติ มันเต้นรัวเร็ว และแรงขึ้นเรื่อยจนเธอแปลกใจ
เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ ในตอนนี้เธอตัดสินใจที่จะยุติบทสนทนากับชายหนุ่มผมบลอนส์ไว้พียงแค่นี้
“ฉันกลับเข้าไปข้างในดีกว่า” เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นยืนและรีบเดินหนีห่างจากเดรโกแทบจะทันที ความรีบร้อนของเธอที่จะไปให้พ้นจากสถานที่ตรงนั้นทำให้เธอไม่ได้สังเกตุเห็นพื้นทางเดินหินอ่อนที่ไม่สม่ำเสมอทำให้เธอเดินสะดุดและขาของเธอ พลิกมันทำให้เธอเจ็บจนลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้น
“โอ๊ะ” เฮอร์ไมโอนี่ครางด้วยความเจ็บปวด
“เกรนเจอร์”เดรโกสปริงตัวเข้าไปหาเฮอร์ไมโอนี่ในทันทีที่ได้ยินเสียงร้องของเธอ เขาคุกเข่าลงข้างๆเธอ และจับข้อเท้าของเธอเพื่อดูรอยช้ำใกล้ๆ
“เท้าฉันพลิกน่ะ ไม่เป็นไรหรอก”เฮอร์ไมโอนี่พยายามเบี่ยงเท้าของเธอออกจากมือของเดรโก แต่อดีตซีกเกอร์หนุ่ม ก็คว้าเท้าของเธอได้ทัน
“เจ็บก็บอกว่าเจ็บ อย่าทำเป็นปากแข็งหน่อยเลย เกรนเจอร์” เขาพูดเสียงดุเล็กน้อย
“เธอเดินเองคงไม่ไหวหรอก ฉันจะอุ้มเธอไปเอง”
�
�
เดรโกไม่ให้โอกาสเธอได้ปฎิเสธอีกเขาข้อนร่างของเธอขึ้นมาด้วยแขนที่แข็งแรงของเขาและอุ้มเธอไว้อย่างอ่อนโยนและมั่นคงก่อนเดินเข้าไปยังภายในคฤหาสน์ซาบินี่
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
คืนนั้นเมื่อมาเรียกลับมาถึงบ้านเธอได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องลีลาศมันเป็นเรื่องปกติที่เอลฟ์ประจำบ้านต้องรายงานเธอเมื่อครูสอนเต้นรำได้จากไปอย่างเดือดดาลและตะโกนว่าเธอขอลาออก
มาเรียดูเหมือนโกรธเธอรีบตรงไปยังห้องของเบลสที่ซึ่งเธอได้รับรายงานว่าพวกเขาชุมนุมอยู่ที่นั่นเธอเปิดประตูห้องและรีบเข้าไป
"หมายความว่าอะไรกันเนี่ย"เธอร้อง"เธอไล่ครูสอนเต้นรำอีกแล้วหรือ"เธอตะโกน"เบลสทำไมไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้บ้างเลย"
"ผมรู้ฮะแม่ แต่มันไม่ใช่ความผิดของพวกเรานะฮะ เธอทำให้เกรนเจอร์ร้องไห้"
เธอหยุดใบหน้าของเธออ่อนลงในขณะที่เธอหันไปมองเฮอร์ไมโอนี่
"เฮเลนาพูดอะไรบ้าง ที่รัก"เธอถามด้วยความกังวล"เธอไม่เป็นอะไรนะ"
�
เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า" ฉัน ฉัน เพียงแต่เต้นรำไม่ได้ และเธอก็โมโห และพูดบางอย่าง"
"เธอตะโกนใส่เฮอร์ไมโอนี่ฮะแม่ เธอยังว่าเกรนเจอร์ว่าผู้หญิงโสโครกด้วย"เบลสเสริม�
�
"โอ้ว ที่รัก ฉันขอโทษ"มาเรียกอดเฮอร์ไมโอนี่ไว้แนบอกของเธอเหมือนแม่ที่คอยปกป้องลูก
�
"ฉันรู้ว่าเธอเจ็บปวดและหวาดกลัวแต่ทุกๆอย่างมันจะผ่านไปด้วยดี เชื่อฉันนะ”มาเรียพูดปลอบใจพลางหันมาที่เด็กหนุ่มทั้งสองและแยกเขี้ยวใส่
”ส่วนเบลสและเดรโกทุกอย่างยังไม่จบ ฉันเพียงแต่ต้องการให้พวกเธอเรียนรู้ถึงวิธีการเต้นรำ�ยามใดที่พวกเธอได้พบคนที่เธอรักพวกเธอก็จะได้แสดงถึงความรักได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดและการเต้นรำมันก็มีส่วนช่วยด้วยเช่นกัน”
�
เฮอร์ไมโอนี่ส่งเสียงผ่านทางจมูก"แน่ใจเหรอค่ะว่ามัลฟอย เป็นคนโรแมนติกน่ะ"เฮอร์ไมโอนี่พูดและชำเลืองมองมาทางเดรโก
�
"มันผิดปกติอะไรกันนักหนา"เดรโกพูดเพื่อปกป้องตัวเอง"ฉันเป็นคนโรแมนติก ถามแพนซี่ดูก็ได้" เขาเชิดจมูกของเขาขึ้นอย่างเย้ยหยันไปที่เฮอร์ไมโอนี่
�
"เพื่อนรัก แพนชี่จะไม่ยอมรับในทุกสิ่งที่นายพูดไว้ในตอนนี้แน่"เบลสกล่าวอย่างสุขุม "หลังจากที่นายบอกกับเธอ ฉันหมายความว่าถ้านายพูดกับเธอในเรื่องนั้นไปแล้ว"
"เขาทำอะไร"เฮอร์มโอนี่กล่าวซอกแซกทำให้มาเรียส่ายหัวของเธอแล้วเดินออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม
�
"ไม่มีอะไร"เดรโกพูดเสียงดัง"พวกเราควรจบหัวข้อนี้เสียที ที่นี่ ใครจะกล่าวหาว่าฉันไม่โรแมนติกอีกไหม"
"ฉันนี่แหละที่พูดว่าคุณไม่โรแมนติก"เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงสูง
เดรโกยิ้มเยาะ “เธอแน่ใจได้ยังไง เฮอร์ไมโอนี่”เขาถามเสียงต่ำและห้วนๆเขาเดินตรงมาหาเธอและเธอยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่สะทกสะท้าน”เพราะฉันสามารถพิสูจน์ได้ว่าคุณผิดถ้าคุณต้องการ”
“จะลองดูก็ได้นะเดรโก”
�
เขาเล่นจู่โจมเฮอร์มโอนี่โดยที่เธอไม่ทันได้รู้ตัวเขาดึงมือของเธอและมองเข้าไปในดวงตากลมโตของเฮอร์ไมโอนี่และเขาจูบมือเธออย่างอ่อนโยน "คืนนี้คุณมีเสน่ห์มาก เกรนเจอร์"ริมฝีปากร้อนๆของเขาแตะหลังมือของเธออีกครั้งและตัวเธอเริ่มสั่นขึ้นมาเล็กน้อยอย่างไม่มีเหตุผล โดยที่เดรโกไม่ทันได้สังเกตุเสียด้วยซ้ำ
"แม้ในขณะที่ฉันอยู่ในกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดอย่างงั้นเหรอ"เธอถามและแกล้งทำเป็นลมในขณะที่เบลสกลั้นหัวเราะไว้จนตัวงอ
"ใช่เลย ฉันเชื่อว่าเช่นนั้น แต่ฉันเดาได้ว่าพวกมันจะดูดีมากยิ่งขึ้นเมื่อมันกองอยู่บนพื้นในห้องนอนของฉัน"เขากล่าวและเดินเข้าใกล้เธอ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกหน้าแดงกับคำพูดสองแง่สองง่ามของเขา
"แล้วฉันจะสวมอะไรล่ะ"เธอถามและรู้สึกตกใจกับคำตอบ
"ไม่ต้องใส่อะไรเลย ที่รักของผม และนั่นล่ะคือจุดสำตัญ "เดรโกดึงมือของเขาออกมาและมีกุหลาบปรากฏในมือของเขาเขายื่นมันมาให้กับเฮอร์ไมโอนี่พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ร์ที่ออกมาจากสีหน้าและแววตาของเขา
"สำหรับ ผู้หญิงของฉัน"
"ขอบคุณ ท่านชาย"เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะเธอแกล้งถอนสายบัวและเขาก็โค้งรับอย่างสง่างาม เบลสเริ่มตบมือและส่งเสียงดังลั่นอย่างชอบใจ พร้อมหัวเราะกับตัวเอง "ทำได้ดี พวกคุณนี่เก่งจริงๆ สาบานได้ว่า พวกคุณทั้งคู่สามารถเล่นละครที่เป็นคู่รัก ในบทประพันธ์ โรมิโอและจูเลียตได้เลย" เบลสแกล้งพูด
เดรโกยิ้มเยาะ “เห็นไหมล่ะฉันบอกเธอแล้วว่าฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องความรัก"
"มัลฟอย คุณนี่ช่างพูดจาได้น่าเบื่อหน่ายมาก คุณต้องมีใครบางคนฝึกสอนคุณเรื่องของความรักบ้างแล้ว"เฮอร์ไมโอนี่โต้ตอบ
เขาพูดละล่ำละลัก"แต่ฉันเป็นคนที่หวาน และลึกลับ และ น่ารัก"เขากล่าวด้วยความโมโห"นั่นมันไม่ใช่วิธีที่เป็นการแสดงความรักงั้นเหรอ"
"ความน่ารัก ความซื่อสัตย์ มัลฟอยนั่นคือสิ่งที่คุณคิด�คุณรู้ไหมว่าผู้หญิงต้องการอะไร ก่อนอื่นคุณต้องหยุด เข้าใจก่อนว่าผู้หญิงต้องการ ความลึกลับ น่ารักและความอ่อนหวานของผู้ชาย คุณไม่รู้หรอก บางทีเธออาจจะชอบดอกลิลลี่มากกว่าก็ได้"
เขาถอนหายใจ "นี่คงจะเป็นเหตุผลว่าทำไมแพนซี่ถึงไม่ชอบฉัน"เขาสรุป "ฉันไม่มีความรัก"
เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะอีกครั้ง "คุณไม่ใช่ว่าจะไม่มีความรักมัลฟอย คุณเพียงแต่ไม่รุ้ว่าแพนซี่ต้องการความรักแบบไหน สิ่งที่คุณต้องทำก็คือมองไปที่เธอและค้นพบว่าอะไรทื่เธอชอบ สนทนากับเพื่อนของเธอหรือบางสิ่ง ถามเบลสดูก็ได้"
เดรโกทำเสียงสูง”นี่ฉันต้องขอคำแนะนำในเรื่องความรักจากยายหนอนหนังสืออยู่อย่างงั้นเหรอ”
เธอถลึงตามองไปที่เขาและทำหน้าบึ้ง" ก็ได้ มัลฟอย�คุณควรเก็บความสูญเสียความสัมพันธ์กับแพนซี่ไว้ซะและอย่ามากล่าวโทษฉัน ฉันจะไม่ยอมรับการกล่าวโทษจากคุณเมื่อเธอไม่พูดกับคุณอีกครั้ง"เธอสูดอากาศหายใจ
เดรโกคราง"เกรนเจอร์คุณมันน่าเบื่อ"
"ถูกต้อง"เบลสกล่าวเสริมเดรโกทำหน้าบึ้ง
"เพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิง"เขาพึมพำ "นอกจากนี้แล้ว เกรนเจอร์สิ่งใดที่ทำให้คุณคิดว่าคุณสามารถให้คำแนะนำเรื่องความรักกับฉันได้" เขาลิกคิ้วสีทองมองไปที่เธออย่างหาเรื่อง
เธอตัวแข็งไปกับการพูดเป็นนัยของเขา
"ในกรณีที่คุณสงสัย มัลฟอย ฉันมีความสัมพันธ์ในเรื่องของความรักมาก่อนฉันหมายถึง วิคเตอร์เขา.... "เฮอร์ไมโอนี่หยุดพูดในทันทีใบหน้าของเธอดูเศร้าเสียใจ
"ไม่ เป็นไร "เธอพึมพำพยายามซ่อนน้ำตาของเธอโดยก้มหน้าให้ต่ำลง
“เฮ้ เกรนเจอร์"เดรโกกล่าวเสียงอ่อนโยนลงอย่างสำนึกผิดในขณะที่เขาก้าวเท้าตรงไปหาเธอ
"ร้องไห้ออกมาเถอะถ้าอยากจะร้อง มันจะไม่เป็นไร"เขายืนอยู่ใกล้กับเธอ เขามองอย่างกังวลสายตาของเธอไม่มองเขาแม้แต่นิดเดียวแต่เธอก้มหน้ามองไปที่เท้าของเขา
"มองมาที่ฉัน"เดรโกกล่าวเสียงนุ่ม
เธอสั่นหัวของเธอ”ไม่”
“ได้โปรด”เขาพูด”ถ้าคุณมองมาที่ฉัน ฉันจะให้คุณแนะนำเกี่ยวกับเรื่องความรักมากกว่านี้”เดรโกพยายาม
“เฮอร์ไมโอนี่”เบลสเริ่มพูดขึ้นบ้าง”มีใครคนอื่นที่แสดงความสนใจคุณนอกจากครัมบ้างไหม”เขาถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย
เธออยู่ในความเงียบและเบลสส่งสายตาไปที่เดรโก มันเห็นได้ชัดเจนว่าเธอขวัญหายและกำลังเศร้า�
“ความจริงเขาเป็นคนที่หวานและมีความเพ้อฝันมาก”เธอล่าวเสียงเรียบ”ก่อนที่เขา....คุณก็รู้..”เธอสูดอากาศหายใจ
“มองที่ฉัน เกรนเจอร์ คุณควรปล่อยทุกสิ่งเอาไว้เบื้องหลัง คุณอย่ากังวลเกี่ยวกับเรื่องของเขา”เดรโกพูดกับเธออย่างตรงไปตรงมา
"ฉันกังวลกับรื่องนั้น"เธอพูดออกมาทันทีศรีษะของเธอเงยขึ้น"ฉันรักเขาถึงแม้ว่าเขาจะเคยทำร้ายฉันมาก่อนและฉันก็รู้ว่าพวกคุณคิดว่ามันเป็นเรื่องงี่เง่า แต่ฉันไม่สน ฉันจะไม่หยุดรักเขาและมันเป็นตัวกระตุ้นให้ฉันอยากจะบ้าเมื่อไม่ได้เห็นเขาถึงแม้ว่าเขาจะเป็นสัตว์ป่าก้ตาม"เธอจ้องมองเดรโกและต่อมาเธอรู้สึกหนาวสั่นอยู่ภายใน
"ฉันขอโทษ"
ในที่สุดเดรโกเดินตรงมาหาเธอและดึงเธอเข้าไปหาอ้อมแขนที่แข็งแรงของเขาเธอดิ้นรนในขณะที่เขากอดเธอ แต่ในไม่ช้าเธอก็อ่อนปวกเปียกเข้าไปอยู่ในวงแขนแข็งแรงของเขา"อย่ากลัวฉันเกรนเจอร์ ฉันจะไม่ทำให้คุณเจ็บ ไม่สำคัญว่าคุณคิดอะไร"
“เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นและฝังศรีษะของเธอซุกอกของเขา”ฉันขอโทษ ฉันเสียใจ ฉันขอโทษ”เธอกระซิบไปมาอย่างน่าสงสาร
"อย่าเสียใจไปเลยเธอไม่ได้ทำอะไรผิด"เบลสกล่าว"คุณไม่สามารถช่วยคนที่คุณรักได้ แต่เมื่อสุดท้ายคุณได้ตระหนักกับสิ่งที่เขาทำ"เขาปล่อยทิ้งไว้ให้เธอคิดตามไปอย่างช้าๆเมื่อรู้ว่าเธอกำลังจับความหมายของเขา
"ลืมเขาซะ เกรนเจอร์คุณควรจะเลือกสิ่งที่ดีกว่า"เดรโกกล่าวเสียงแข็ง และมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่ดึงตัวเธอออกเพื่อถอยหนีและมองเดรโกเขม็ง
"อย่างไหนที่คุณรู้ว่าอะไรที่ดัสำหรับฉัน มัลฟอย"เธอถามและเริ่มโกรธขึ้นมาอีกครั้ง"คุณเป็นคนหนึ่งผู้ซึ่งทำให้ฉันเจ็บปวดในปีสุดท้ายของภาคเรียน คุณเรียกฉันว่าเลือดสีโคลนและสิ่งที่เกิดขึ้นอื่นๆที่คุณก็รู้” เธอผลักหน้าอกของเขาอย่างโกรธจัดและแสดงออกอย่างรุนแรง ในความรู้สึกของเธอเหมือนคลี่นที่โหมซัดอย่างบ้าคลั่งจนเธอแทบล้มพับลงไป
เธอวิ่งเข้าไปยังห้องนอนของเธอและปิดประตูตามหลังเธอเสียงดังและเหวี่ยงตัวเธอลงบนเตียง สิ่งต่อมาคือการร้องไห้สะอึกสะอื้นจนกระทั้งเธอเหน็ดเหนื่อยจึงหลับไป
ในตอนเช้า เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ลงมาทานอาหารเช้ามาเรียรู้สึกเป็นห่วงจึงเรียกเอลฟ์ประจำบ้านให้ไปดูเธอ
”ขึ้นไปดูคุณเกรนเจอร์หน่อย เวลล่า แล้วรีบมารายงานให้ฉันรู้ด้วย”เอลฟ์ประจำบ้านพยักหน้ารับและหายตัวไปในทันที
ไม่นานนักก็กลับมา�พร้อมกับหอบและสูดลมหายใจ ดวงตากลมโตจนแทบปลิ้นออกมาดูหวาดกลัว
”คุณเกรนเจอร์ไม่ได้อยู่ในห้องค่ะนายหญิง เธอไปแล้ว”เขาบอกและโค้งตัวลง”เวลล่า ค้นหาเธอในห้องแต่ก็ไม่มีสัญญานของคุณเกรนเจอร์ไม้กายสิทธิ์ของเธอก็ไม่อยู่ นายหญิง”
มาเรียยืนขึ้นจากที่นั่งของเธอ”คุณแน่ใจนะ”เธอถามและเอลฟ์พยักหน้า”ส่งเอลฟ์ออกตามหาให้ทั่วบ้านและพื้นที่ใกล้เคียง”
“ได้ครับนายหญิง พวกเราจะออกตามหาและกลับมารายงานเมื่อพบเธอแล้ว”
“ขอบใจเวลล่า”เขาหายตัวไปแล้วและมาเรียหันกลับไปยังสองหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะอย่างเงียบๆ
”เด็กๆ ถ้าเธอไม่ได้อยู่ที่นี่ฉันต้องการให้พวกคุณออกไปและค้นหาเธอ ฉันรู้ว่าเธอเป็นผู้ใหญ่แล้วแต่ฉันไม่ไว้ใจ ฉันกลัวว่าเธอจะกลับไปหาครัม ฉันเพียงแต่ต้องการเช็คว่าเธอปลอดภัยแล้วจริงๆ “มาเรียถอนหายใจ และพูดในสิ่งที่ทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองคนวิตก”ฉันไม่รู้ว่าครัมจะทำอะไรเธอถ้าเธอหวนกลับไปหาเขา”
“ได้ฮะแม่”เบลสกล่าว เดรโกเพียงแต่พยักหน้าอยู่ข้างๆเขาอย่างเป็นกังวล
มาเรียเดินออกจากครัวเพื่อไปยังห้องหนังสือ ที่ๆเธอรอฟังข่าว
เดรโกใช้หัวของเขาเขกไปบนโต๊ะอย่างแรง”ทั้งหมดมันเป็นความผิดของฉันปากของฉันมันน่าจะปิดให้สนิท”เขาส่งเสียงครางอย่างทุกข์ใจ
�
“นายไม่ได้ผิดอะไรเดรกนายได้พยายามที่จะช่วยเหลือเธอ แต่เธอผ่านมันมามากและฉันก็เดาว่าเธอคงจะตึงเครียด"เบลสออกความเห็น"เธออาจจะยังไม่ได้ออกไปหรือเธออาจจะยังคงอยู่ในพื้นที่ก็ได้ ไม่แน่นะเธออาจจะอยู่กับพวกพอตเตอร์ซึ่งนั่นจะดีกว่าถ้าเธออยู่กับวิกเตอร์ ครัม ซึ่งเราก็ได้แต่ภาวนาอย่าให้เป็นแบบนั้นเลย "
เดรโกเพียงแต่ถอนหายใจและเฝ้าคอยข่าวหญิงสาวที่หายตัวไป
�
�
�ตอนค่อไป
เฮอร์ไมโอนี่คราง เธอนิ่งเงียบเพื่อหาคำขอร้องเพื่อช่วยเหลือตัวเอง"วิคเตอร์ ฉันขอโทษ"เธอพูดเสียงแหบพร่า เขายิ้มอย่างมุ่งร้าย ก่อนที่เขาจะเริ่มรูดซิบกางเกงของเขาลง
"ยังงั้นพวกเรามาเริ่มทำอะไรที่มันค้างคากันให้มันจบๆกันดีกว่า"เขาพูดและจูบคอเธอ "เพื่อชดเชยความผิดของเธอ"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น