คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chepter : 6 เกรนเจอร์และคำกล่าวของเธอ
Chapter six
Granger and statements
เกรนเจอร์และคำกล่าวของเธอ
________________________________________
เนื่องจากแฟนคลับของผมที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว นั่นมันทำให้ผมมีประสบการณ์ในการหลบเลี่ยงและซ่อนตัวได้ชำนาญมากยิ่งขึ้น น่าแปลกใจที่แฟนคลับของผมนั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ภายในสองสามวันที่ผ่านมานี้ นับตั้งแต่การประกาศของดับเบิลดอร์เรื่องการที่ผมได้เข้าร่วมแข่งขัไตรภาคีในครั้งนี้ด้วย ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยชอบใจนักแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ดีมากไปกว่าการหลบหลีกปัญหาต่างๆให้พ้นตัวไป
วันนี้ตรงกับวันเสาร์ มีพายุฝนเข้ามาและฝนเริ่มตกหนัก ทำให้คนส่วนใหญ่จะอยู่แต่ภายในหอนอน และห้องรับแขกรวม ผมพยายามหลบเลี่ยงเหล่าบรรดาแฟนคลับที่มีทั้งในบ้านผมเองและบ้านอื่นที่มาออกันอยู่หน้าหอ รวมถึง โซ แซง ด้วยซึ่งจุดประสงค์หลักของเธอก็คือการต้อนผมให้จนมุมเพื่อเป็นแฟนของเธอแบบจริงจังให้ได้ และผมก็พายามหลบหลีกพวกเธอเพื่อไปยังห้องสมุดจนได้ในที่สุด
ผมเดินเข้ามาภายในห้องสมุดและทิ้งแฟนคลับไว้ให้อออยู่ภายนอก ผมพยายามเลือกมุมที่เงียบสงบและมืดสลัวซื่งนั่นทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายได้มาก มาดามพินซ์มองผมอย่างตำหนิ เพราะเสียงวุ่นวายของเหล่าบรรดาแฟนคลับของผมที่เริ่มหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆแต่ผมนั้นพยายามไม่สนใจพวกเธอ โดยการหามุมที่เงียบสงบจริงๆเท่านั้นและตัวผมเองในตอนนี้ก็ตั้งใจว่าที่จะเขียนถึงพ่อแม่ของผมเพื่ออธิบายถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงนี้
ผมคิดว่ามันคงเป็นการดีถ้าผมมีพ่อแม่ที่เป็นมนุษย์จริงๆที่จะยินดีกับตำแหน่งที่ผมได้รับ แต่........ พ่อแม่ของผมในความเป็นจริงไม่ใช่มนุษย์พวกเขาเป็นแวมไพร์เหมือนๆกับผมผมกำลังคิดอย่างขำๆอยู่เสมอว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างน๊า ถ้าแวมไพร์สองตนมาถึงฮ๊อกวอตส์ พวกเขาจะทำอะไรกัน ผมเองก็ไม่ค่อยชอบใจกับความคิดของผมสักเท่าไหร่นัก และภาวนาอย่าให้เป็นจริงขึ้นมาเลย ผมนั่งพิงหลังไปที่กำแพงอย่างสบายอารมณ์และผมก็ตัดสินใจแล้วว่าในวันนี้จะขอเป็นตัวของตัวเองสักวัน
ถึงแม้ว่าผมอาจจะมีอายุเป็นร้อยๆ ปี แต่ถ้าเทียบกับ เอมอสและคาร่า พ่อแม่ของผม นับได้ว่าผมนั้นเป็นแค่เด็กน้อยที่เพิ่งหัดเดิน เตอะ แตะ เท่านั้นเอง ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้นเวลาที่ผมต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆมากมาย
ผมจ้องมองดูกระดาษหนัง และคิดล่องลอยไปไกล ถ้าผมเขียนมันขึ้นมา มันจะเต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ ที่จะส่งผลให้พ่อแม่ของผมกังวลและอาจจะถึงขั้นบุกมาที่ฮ๊อกวอตส์เลยก็ได้ ซึ่งนั้นไม่เป็นการดีสำหรับตัวผมเองแน่ๆ
เวลาผ่านไปมากกว่า 5 นาที ผมตัดสินใจแล้วว่าการเขียนจดหมายนั้นไม่สามารถช่วยอะไรให้ดีขึ้นมากมายนักถ้าผมจะต้องเล่าความเป็นจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นทุกๆอย่างลงไปผมเริ่มยิ้มออกมาได้ แล้วผลักม้วนกระดาษห่างตัวก่อนนั่งพิงหลังกับเก้าอี้แล้วหลับตาเพื่อผ่อนคลายและในเกือบจะทันใดที่ผมได้ยินเสียงอะไรบางอย่างขยับเขยื้อนอยู่ด้านหลังของผม ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมมีเหตุผลเพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงการเขียนจดหมายได้อย่างสิ้นเชิง
ผมเหลียวหลังกลับไปมองอย่างข้องใจและผมได้เจอกับนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าชั้นหนังสือใกล้ๆตัว ผมเองค่อนข้างประหลาดใจ และพึงพอใจในเวลเดียวกัน ประหลาดใจย่อมมีแน่นอนเพราะในบริเวณที่ผมอยู่นั้น ผมไม่คิดว่าจะได้เจอใครแต่กลับมาเจอเธอ คนที่ทำให้ผมพึงพอใจในเวลาเดียวกันนี้ ยายหนอนหนังสือบ้านกริฟฟรินดอร์ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์
เฮอร์ไมโอนี่ ไม่ได้มองหาหนังสือแต่อย่างไร แต่ดูเหมือนว่าเธอจะนำหนังสือที่ถึงกำหนดแล้วกลับมาวางไว้ตรงที่เดิมของมัน
ผมกอดอกมองดูเธอในเงามืดระหว่างที่เธอพยายามรวมรวมความคิด ซึ่งนั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหากับผมสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่รบกวนจิตใจของผมคือการที่ความคิดของเธอพยายามจะหลีกหนีจากผมหรือพูดง่ายๆก็คือผมไม่รู้ความคิดของเธอเหมือนคนอื่นๆ
จิตใจของเธอดูเหมือนจะไม่อยู่กับตัว เธอกัดริมฝีปากตัวเอง ระหว่างที่ดวงตาของเธอ ตรวจสอบชื่อเรื่องของหนังสือก่อนที่หนังสือพวกนั้นลอยขึ้นไป หลังจากนั้นริมฝีปากเธอจึงดูผ่อนคลาย มือของเธอจับอยู่ที่สันหนังสือแล้วจึงผลักมันกลับไปที่เดิม ดวงตาของเธอนั้นส่องประกายเหมือนว่าเธอได้รับชัยชนะอะไรบางอย่าง เธอไม่ได้รู้ตัวสักนิดว่าปฎิกิริยาของเธอดูงดงามสักแค่ไหนสิ่งนั่นทำให้แวมไพร์หนุ่มที่แฝงตัวอยู่ในเงามืดเพื่อแอบมองเธอเผลอตัวออกมาจากที่ซ่อนอย่างงงงัน
เซดริกก้าวออกมาจากเงามืดเหมือนมนต์สะกด เขารู้สึกได้ว่าเขานั้นยืนอยู่สูงกว่าเธอ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้ตัวใหญ่กว่าเธอสักเท่าไหร่เขายืนอยู่ด้านหลังเกือบสัมผัสเธอได้ใกล้ชิด เขาระงับอารมณ์อันพลุ่งพล่านโดยการยึดมือทั้งสองของเขาในกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างเพื่อป้องกันการไขว่คว้าร่างบางไว้แนบอก
ดูเหมือนหญิงสาวข้างหน้า จะไม่รู้สึกตัวสักนิด ว่ามีใครบางคนยืนอยู่ด้านหลังของเธอจนเกือบจะแนบชิดในขณะนั้น มันทำให้ผมพอใจกับความเป็นแวมไพร์ของผมขึ้นมานิดๆ ผมก้มหน้าลงไปสูดดมซอกคอของหญิงสาวเบาๆกลิ่นหอมอ่อนๆที่ลอยมาจากผิวกายของเธอ ปะทะกับสันจมูกของผมทำให้ผมรู้สึกดีอย่างประหลาด อันที่จริงผมเองก็ไม่อยากเอาเปรียบเธอมากนัก ถ้าเธอรู้เข้าอาจจะดูไม่ดีในสายตาของเธอ แต่กลิ่นหอมจากกายเธอนี่สิทำให้สมองของผมแทบจะไม่ทำงานเอาเสียเลย และถ้าผมยังดอมดมกลิ่นกลายของเธอแบบนี้ต่อไป ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะยับยั้งตัวเองได้สักแค่ไหน
เซดริกแก้ปัญหาในข้อนี้โดยการแนบริมฝีปากกระซิบเบาๆใกล้ๆหูให้เธอได้รู้ตัว
“ครั้งนี้เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือจากฉันหรอกหรือ” เซดริกเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา ซึ่งทำให้นักเรียนหญิงบ้านกริฟฟินดอร์ หันหลังกลับโดยเร็วตามสัญชาติญาณ ช่วงจังหวะที่เฮอร์ไมโอนี่หันหน้ากลับมา จมูกของเธอชนเข้ากับแก้มของเซดริค ที่ยังคงก้มหน้าอยู่ระดับเดียวกับใบหูของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ผงะหน้าออกไปโดยเร็ว พร้อมถอยหลังจนไปสุดชั้นหนังสือด้วยความตกใจ เธอหน้าแดงก่ำจนถึงใบหู ภาพนั้นทำให้เซดริกมองอย่างชอบใจ เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าหลบสายตาที่ร้อนรุ่มนั้น เธออ่านสายตาของเซดริกออก เฮอร์ไมโอนี่พยายามตั้งสติของตัวเอง ก่อนที่เธอจะจ้องมองเขากลับอย่างกินเลือดกินเนื้อ
“นั่นคือคำถามหรือเปล่า ดิกกอรี่” เฮอร์ไมโอนี่ถามระหว่างที่เซดริกมองเธออย่างยิ้มๆ
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้วเกรนเจอร์
เชื่อเถอะมันจะต้องเจ็บมากกว่านี้แน่ ถ้าฉันไม่ได้เฝ้าระวังให้เธอ “ เซดริกมองชั้นหนังสือซึ่งอยู่ด้านหลังของเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งเป็นหมวดกีฬาหนังสือในชั้นนี้ทั้งชั้นเป็นปกที่เคลือบด้วยไขของตัวเฟร็ค(นามสมมติ) ซึ่งไขของมันทำให้ปกหนังสือแข็งแกร่งและหนาเป็นพิเศษ และแน่นอนถ้าเฮอร์ไมโอนี่ ทำชั้นล้มอีก เธอคงจะเจ็บมากกว่าคราวก่อนแน่ เช็คดริกมองดูที่หนังสือที่เธอถือ ก่อนที่เธอจะกอดมันไว้แน่นแนบอก
“ฉันไม่ได้พยายามที่จะทำอะไรทั้งนั้นดิกกอรี่
. ฉันแค่ถามง่ายๆว่า นั่นคือคำถามหรือเปล่า” เธอกล่าวด้วยแก้มของเธอที่แดงขึ้นเล็กน้อย
เชดริกมองดูเธอระหว่างที่เธอพยายามเบิกตาให้กว้างขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาเห็นสีหน้าบึ้งตึงของเธอ เซดริกไม่ตอบคำถามใดๆเขากลับเสคุยเรื่องหนังสือในมือของเธอแทน
“มันต้องเป็นหนังสือที่ดีแน่ๆ ถ้าเธอพยายามที่จะหามันในส่วนของหมวดกีฬา” เซดริกกล่าวเขาไม่เคยเห็นหญิงสาวสนใจในเรื่องกีฬามาก่อนจึงน่าแปลกใจอยู่ใช่น้อย นี่เธอมาหาหนังสืออะไรอ่านกันแน่ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เซดริกสนใจและอยากรู้ เฮอร์ไมโอนี่ไม่พยายามที่จะสนใจเซดริกอีกเลยไม่ว่าเขาจะถามหรือเดินตามเธอมาถึงที่นั่งประจำของเธอแล้วก็ตาม
“หนังสือนั่น มีชื่อว่าอะไรเหรอ” เซดริกพูดขึ้นก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะทำท่าทาง ฮึดฮัดและนั่งบนเก้าอี้ของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ เปิดหนังสืออย่างแรง โดยพยายามที่จะไม่มองไปที่เขา
เชดริกนั้นไม่สามารถที่จะลบรอยยิ้มบนใบหน้าเขาได้ ในระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่ พยายามใจจดใจจ่ออยู่กับหนังสือเธอแต่ การปรากฏตัวของเขานั้นทำให้มันยากยิ่งขึ้น ในใจของเธอไม่มีสมาธิเท่าที่ควร มันคืออะไรกันแน่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกปั่นป่วนที่ช่องท้องอย่างหาสาเหตุไม่เจอ และนั่นมันทำให้เธออยากจะหายตัวไปจากที่นี่และที่สำคัญที่สุดหายตัวไปจากแววตาคมๆที่จ้องเธออยู่ในตอนนี้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนเฮอร์ไมโอนี่ไม่ทันได้สังเกตแต่ที่เธอเห็นในตอนนี้คือ ใบหน้าซีดขาว และดวงตาเย็นๆของเซดริกที่จ้องมองเธออย่างเอาเป็นเอาตายจนเธอเริ่มจะรำคาญ
“อะไร”
เฮอร์ไมโอนี่กระแทกน้ำเสียงและจ้องมองเขาเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะเสมองไปที่อื่น เธอรู้สึกกลัวที่จะมองเข้าไปในดวงตาสีฟ้าอมเทาของเขามันดูวังเวงเยือกเย็น และเปล่าเปลี่ยว มันดูเหมือนดวงตาของมนุษย์ที่ไม่ใช่มนุษย์ ดวงตาที่ไร้แววของความเป็นมนุษย์ เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเมื่อเซดริกบอกถึงสิ่งที่เขาต้องการ
“ฉันรอชื่อของหนังสือเล่มนั้นอยู่ ฉันขอดูได้ไหมเพราะเธอเป็นหนี้ฉันสองหนแล้วนะ “เช็คดริกกล่าวและเริ่มทวงบุญคุณ
“ให้ตายเถอะ
.. นายจะอะไรกับฉันนักหนาเนี่ย แค่ชื่อหนังสือแค่นี้มันหาไม่ยากขนาดนั้นหรอก ” เฮอร์ไมโอนี่ถามโดยจ้องมองเขาอยู่
เชดริกพยายามลบรอยยิ้มบนใบหน้าเขา แต่ไม่รวมถึงดวงตา เขาก้มลงไปหาเฮอร์ไมโอนี่ ใกล้ๆ โดยสัมผัสได้ถึงลมหายใจแรงของเธอ
“ฉันรู้สึกเธอไม่ต้องการคำตอบที่ไร้สาระจากฉันหรอกจริงไหม” เชดริกกล่าวระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่ฮึดฮัดและก้มลงมองที่หนังสือของเธอ
“เธออ่านความคิดของฉันล่ะสิ “ เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ ระหว่างที่เชดริกดึงตัวออกห่างเธอ ดวงตาของเขาหรี่ขึ้นเล็กน้อย ชั่วระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะมองกลับมาที่เธอ
“เปล่าฉันไม่เคยอ่านความคิดของเธอได้เลย ” เช็คดริกกล่าวตอบ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองที่เขาด้วยความประหลาดใจและความงุนงง เธอจ้องมองเขาโดยแทบไม่กระพริบตาด้วยซ้ำ
“ก็ได้” เธอพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนจะปิดหนังสือเพื่อให้เขาเห็นชื่อ
หนังสือ
.ชัยชนะในอดีต : ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการแข่งขันระหว่างพ่อมดสามสถาบัน
เชดริกหัวเราะ แต่ด้วยเสียงที่เป็นเสมือนคำรามมากกว่า มันทำให้เฮอร์ไมโอนี่ กระโดดขึ้นยืนและทำหนังสือหล่น ด้วยความตกใจ ก่อนที่เชดริกจะส่ายศรีษะและก้มหยิบหนังสือให้เธอ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองเขาอย่างประหลาด
“พอตเตอร์คงไม่ได้รับอนุญาติให้อยู่ ร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ถ้าคัมเบิลดอร์ยังไม่แน่ใจว่าเขาพร้อมสำหรับการแข่งขัน “ เชดริกกล่าวเพราะเขารู้แล้วว่าเฮอร์ไมโอนี่อ่านหนังสือพวกนี้เพื่อช่วยเหลือเพื่อนของเธอเอง เฮอร์ไมโอนี่แก้มแดงเล็กน้อยเธอหันไปมองทางอื่น
“เธอดูเหมือนไม่มีทีท่าที่จะกลัวเลยนี่” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวโดยหันกลับมามองที่เขาระหว่างที่เชดริกคิดอยู่ว่าเขาเองก็กลัวอยู่แล้วเหมือนกันเพียงแต่ไม่ได้กลัวในสิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่ถามเขา
“นั่นเป็นคำกล่าวนะ ไม่ใช่คำถาม” เฮอร์ไมโอนี่อธิบายโดยแขวะเขาเล็กน้อย และคำกล่าวนั้นดูเหมือนเธอพึงพอใจในคำพูดก่อนที่เธอจะหันกลับไปที่หนังสือทิ้งให้ เชดริกจ้องมองดูเธอพร้อมรอยยิ้ม
“ฉันไม่รบกวนเวลาอ่านของเธอแล้วนะเกรนเจอร์” ผมกล่าวระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่ยักไหล่โดยไม่แม้แต่จะชายตามอง ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่าผมโดนลอยแพอย่างถาวรแล้ว
ผมหัวเราะน้อยๆกับกิริยาเมินเฉยของหญิงสาว ก่อนจะหันหลังกลับไปยังโต๊ะของผม แต่ผมก็ชะงักแล้วหันกลับไปมองหน้าหญิงสาวเมื่อผมได้ยินเสียงเรียกชื่อของผมจากปากของเธอ ผมเห็นเธอกำลังมองผมอย่างใช้ความคิดเล็กน้อย
“นายจะต้องเป็นคนที่เย็นยิ่งกว่าน้ำแข็ง แม้ว่าจะมีเวทมนตร์ อุ่นๆ รอบๆ โรงเรียนก็ตาม”เฮอร์ไมโอนี่กล่าวโดยที่ไม่ได้ละสายตาจากเชดริกเลย
“นั่นเป็นคำกล่าวเกรนเจอร์ไม่ใช่คำถามดังนั้นฉันก็ไม่จำเป็นอะไรที่จะต้องตอบเธอ “ เชดริกพูดขึ้น ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว อย่างไม่เห็นด้วยก่อนที่เธอจะส่ายหน้า แต่ดวงตายังคงจ้องมองเขาอยู่
“ไม่ใช่สักหน่อย
แค่การสังเกตุ
มันเป็นทฤษฏีที่ว่าทำไมมือนายถึงได้เย็นนัก”เฮอร์ไมโอนี่กล่าวเสริมโดยจ้องมองเขาอย่างใกล้ชิดและยิ้มเยาะอย่างเป็นต่อ
ผมเพียงแต่ยักไหล่และยอมแพ้กับการต่อปากต่อคำกับเธอแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะของผมภายหลังที่ผมมองกลับไปที่เธออีกครั้ง ก็พบว่าเธอได้ละสายตาจากหนังสือเล่มแรกแล้วหันไปสนใจเล่มอื่นแทน
ในตอนนี้แล้วสิ่งที่รบกวนจิตใจของผมนั้นไม่เพียงแต่ที่ผมไม่สามารถอ่านความรู้สึกของเธอได้ แต่อีกอย่างหนึ่งก็คือ หนังสือเล่มที่เธออ่านอยู่นั้นผมเคยเห็นมาก่อน
ชาลิตส์ คัลแลน(คัลแลนคือต้นตระกูลหนึ่งของแวมไพร์) เป็นหนึ่งในหนังสือที่อยู่บนชั้นวางหนังสือของผม
เธอต้องการจะหาอะไรกันแน่ เกรนเจอร์!
เช็คดริกผลุนผลันออกจากห้องสมุดและใช้ความชำนาญในการหลบหลีกแฟนคลับของเขาและหายตัวไปกับเด็กนักเรียนที่เดินกันขวักไขว่นั้นจนได้ ในที่สุด
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ตัวอย่างตอนต่อไป
“เธอกำลังค้นคว้าเรื่องอะไร” เชดริกถามด้วยน้ำเสียงที่ลอดออกมาจากไรฟัน ทำให้แฮร์รี่นั้นเงยหน้าขึ้นและจ้องมองมาที่เขา
“บางอย่างเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในด้านมืด
น่าจะเป็นแวมไพร์มั้ง” แฮร์รี่ตอบระหว่างที่
เชดริกคำรามเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองทางอื่น
ความคิดเห็น