คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5 ข้อสงสัยยามค่ำคืน (Late Night Suspicions)
ตอนที่ 5 ข้อสงสัยยามค่ำคืน (Late Night Suspicions)
หลายวันผ่านไป เฮอร์ไมโอนี่ทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาบทบาทการเป็นเฮเลน คนที่น่าคบหาและเพื่อนๆกริฟฟินดอร์ทั้งหมดก็ไปกันด้วยดีกับเธอ ในเวลาเดียวกันเธอก็ต้องหาวิธีไปยังอนาคตให้ทันเวลา แต่ไม่มีโชคเอาเสียเลย ไม่มีอะไรเลยหรือหนังสือใดบ่งบอกหรือแนะนำเรื่องการเดินทางของเวลาไปยังอนาคตว่าเคยเป็นไปได้มาก่อนเลย
เธอแปลกใจที่พบว่ามีวิชาเรียนเกือบทั้งหมดที่ต้องเรียนร่วมกับทอม เขาได้ที่หนึ่งทุกวิชา และเหล่าอาจารย์ก็ชื่นชมเขาแทบจะทุกคน มีการบ้านมากมายแต่เฮอร์ไมโอนี่พยายามบังคับตัวเองให้ทำคะแนนได้แค่ระดับปานกลาง มันค่อนข้างแปลกและเจ็บปวดมากแค่ไหนที่ต้องซ่อนความสามารถของตัวเองในชั้นเรียน การเรียนเป็นสิ่งที่เธอรักเสมอมา และตอนนี้เธอต้องแสดงเป็นนักเรียนธรรมดาๆ
หลายสัปดาห์ต่อมา ในห้องเรียนวิชาการปรุงยาเธอยังคงได้รับมอบหมายให้ทำงานร่วมกับทอม ถึงแม้ว่าพวกเขาต่างคนต่างก็ไม่เคยพูดอะไรกันเลย การปรุงยาเป็นวิชาเดียวเท่านั้นที่เธอต้องพยายามอย่างมาก เพื่อจะได้ไม่ดูน่าสงสัยถ้าเธอทำได้ดีเหมือนกับทอมผู้ถูกจับคู่ให้ทำงานร่วมกับเธอ เธอกำลังไปด้วยดีในบทบาทของเฮเลน
อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์ขณะที่พวกเขากำลังเริ่มต้นการปรุงยา เฮอร์ไมโอนี่เกาศีรษะพร้อมแสร้งทำเป็นสับสน “ฉันไม่เข้าใจเรื่องการชุบชีวิตความแห้งแล้ง(Reviving Drought) เลยจริงๆ มันยากเกินไปสำหรับนักเรียนปีที่เจ็ด แล้วก็ตัว’หนอนสีน้ำตาล’(worm antennae) มันคืออะไร? ฉันงงจริงๆ...”
ทอมเงยหน้าขึ้นจากการคนน้ำยา ดวงตาสีดำมืดของเขาสบกับตาของเธอ แต่มันดูเข้าใจยากเสมอ “เธอเป็นนักแสดงที่ดี” เขาพูดเสียงเย็นพร้อมรอยยิ้มเยาะ
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าช่องท้องถูกบีบรัดและปั่นป่วน เขารู้ได้อย่างไร? ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เขารู้ว่าเธอมาจากอนาคต เธอคิดว่าต้องเล่นบทคนโง่ต่อไป “ไม่เลยแหละ ฉันเคยลองเล่นละครในโรงเรียนของมักเกิ้ล และมีแนวโน้มว่าฉันกลัวเวทีละครมากทีเดียว” เธอพูดเรียบๆพร้อมรอยยิ้มแสนซื่อ
“ฉันไม่ได้โง่ รู้ไว้ด้วย” เขาพูดราวกับล่วงรู้ว่าเธอเสแสร้ง “และเธอก็ไม่ใช่เหมือนกัน ฉันจับตาดูเธอปรุงน้ำยาเหล่านี้ และรู้ว่าเธอเป็นหนึ่งในบรรดาแม่มดที่ฉลาดที่สุดของที่นี่ เธอซ่อนมันได้เยี่ยมมากในชั้นเรียนต่างๆ และเพื่อนๆ กริฟฟินดอร์หน้าโง่ของเธอก็เชื่อมันด้วย เธอกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อจะปิดบังอะไร?”
สมองของเฮอร์ไมโอนี่เริ่มสับสนไม่ต่อเนื่องด้วยความตกใจ ถ้าเขาไปบอกคนอื่นว่าเขาเห็นอะไรหรือรู้อะไร ความลับทั้งหมดของเธอก็จะลอยหายไป เธอพยายามอย่างสุดๆเพื่อหาข้ออ้างบางอย่างเพื่อที่จะพูด “ฉันไม่อยากโอ้อวดความฉลาดของฉัน” เธอพึมพำเสียงนุ่มๆ แสร้งทำเป็นจดอะไรบางอย่างลงในสมุดบันทึกของเธอทั้งๆที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วในตอนนี้ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึก ประหลาดใจกับตัวเองว่าเป็นนักแสดงหญิงที่ยอดเยี่ยมมากได้อย่างไรกัน
“แม้ว่าเธอพยายามซ่อนมันไว้อย่างเต็มที่ แต่ใครที่มีความฉลาดซักครึ่งหนึ่งก็สามารถดูออกว่า ทั้งหมดที่เธอทำเป็นเพียงแค่การแสดง” ทอมยืนยัน
“และคุณกำลังทำอยู่เหมือนกันใช่ไหม?” เฮอร์ไมโอนี่โต้ตอบเบาๆ นี่คือทั้งหมดที่เธอนึกออกในการทำให้เขาวอกแวกไปจากเธอ เธอพูดต่อด้วยความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น “แน่นอน คุณเป็นคนเฉลียวฉลาดและมีเสน่ห์กับทุกคนที่อยู่ล้อมรอบคุณ แต่ว่านี่คือตัวคุณจริงๆ หรือเปล่า?” น้ำเสียงของเธอเชือดเฉือนขณะที่พูดว่า “ข้างในลึกๆ คุณไม่รู้ว่าคุณต้องการเป็นอะไร? คุณกลัว ฉันดูคุณออกเหมือนกัน ทุกๆ คนด้วย”
อุบายของเธอได้เปลี่ยนบางอย่างได้มากพอที่เธอจะสังเกตเห็นการแสดงอารมณ์ของเขา ใบหน้าที่สงบเรียบเฉยได้หายไป และเฮอร์ไมโอนี่ตระหนักว่าเธอได้โจมตีตรงจุดสำคัญพอดี
“เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวฉันเลย” ทอมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยยิ่งกว่าเคย เขาสำรวมสีหน้าท่าทางและหันหลังกลับไปปรุงยา
“ฉันรู้จักดีพอที่...”
“ไม่ต้องพูดกับฉัน” เขากระซิบน้ำเสียงน่ากลัว เธอไม่เคยเห็นความรู้สึกของเขามากมายเช่นนี้ เธอพบว่าเป็นครั้งแรกที่ใบหน้าของเขาดูอ่อนแอเปราะบาง
และในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่เตรียมจะตอบโต้ศาสตราจารณ์อโลนซินเดินมาตรวจยาที่ทั้งคู่ปรุงไว้ที่โต๊ะ
“ดีเยี่ยมเสมอ! ฉันจะคาดหวังอะไรอื่นได้อีกจากนักเรียนดาวเด่นของฉัน?” ศาสตราจารย์อโลนซินวิจารณ์ ขณะให้คะแนนวิชาการชุบชีวิตความแห้งแล้ง(Reviving Drought)
“ไม่เลยครับ” ทอมพูดอย่างเอาใจและถ่อมตนเอง พลางเหล่มองมาทางเฮอร์ไมโอนี่ที่ยิ้มเยาะให้เขา พลางคิดว่าทั้งเธอและเขาต่างก็เป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมด้วยกันทั้งคู่
-------------------------------------------------
“ข้างในลึกๆ คุณไม่รู้ว่าคุณต้องการเป็นอะไร? คุณกลัว ฉันดูคุณออกเหมือนกัน ทุกๆ คนด้วย”
คำพูดเหล่านี้สั่นสะเทือนอยู่ในหัวของทอมตลอดเวลา ขณะที่เดินไปยังชั้นเรียนวิชาการแปลงร่าง มันไม่ใช่ความจริง แต่ทำไมมันรบกวนเขาอย่างประหลาด? บางทีชั่วชีวิตของเขาทำงานโดยไม่ได้เป็นอะไรเลย เขาถูกครอบงำจิตใจด้วยการไม่เป็นอะไรเลย เพราะว่าเขาไม่มีเวลาที่จะเป็น บางสิ่ง
มันเป็นไปได้อย่างไร? ฉันเป็นประธานนักเรียนชาย ได้ที่หนึ่งทุกวิชา เป็นซีกเกอร์ทีม
ควิดดิชประจำบ้านสลิธีริน แน่นอน! ฉันเป็นบางสิ่ง มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเขา บางทีเป็นความว่างเปล่าที่อยู่ข้างในก็ได้ที่อธิบายว่า เขาไม่รู้สึกอะไรเลย
เขาเคาะประตูห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ และมันก็เปิดออกทันที
“มิสเตอร์ริดเดิ้ล” ดัมเบิลดอร์พูดด้วยน้ำเสียงยินดี ทอมก้าวเข้าไปในห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ น่าประหลาดใจถ้าวันนี้เขาจะได้แข่งขันวิชาการแปลงร่างกับดัมเบิลดอร์เสียที
“ฉันขอถามได้ไหมว่าวิชาเรียนต่างๆ ของเธอเป็นอย่างไร มิสเตอร์ริดเดิ้ล? ฉันเดาว่าเธอคงเตรียมตัวสำหรับ ส.พ.ส.บ.(N.E.W.T.s) แล้ว?”
“ผมมั่นใจว่าจะทำมันได้ดี ส่วนวิชาอื่นๆ ก็ไปได้ดีเหมือนกัน” ทอมพูดเรียบๆ เขาสบตากับดัมเบิลดอร์และพบว่ามันยากที่จะไม่ถอยหนี ดัมเบิลดอร์ทำให้ทอมรู้สึกราวกับว่าตัวเขาทำด้วยกระจก โปร่งแสงและเปราะบาง
ดัมเบิลดอร์นั่งไขว้มือบนตักอย่างสงบอยู่หลังโต๊ะทำงาน ทอมยังคงยืนอยู่ตั้งแต่เขาเข้ามาเขายังไม่ได้ถูกเชิญให้นั่งลง เป็นความผิดพลาดของทอมที่อาจทำให้เขาแพ้ในเกมส์ทดสอบเชาว์ที่ทั้งคู่เล่นกันอยู่
“ดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น” ดัมเบิลดอร์พูดเบาๆ “เธอได้พบกับนักเรียนคนใหม่ของโรงเรียนเราแล้วหรือยัง เฮเลน เนสโธว์?”
สัญญานบอกเหตุระเบิดอยู่ในหัวของทอมทันที ดัมเบิลดอร์สังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของเธอด้วยหรือ? ถ้าจะมีใครเห็นก็ต้องเป็นดัมเบิลดอร์ผู้เฉลียวฉลาดคนนี้แหละ
“ผมได้พบกับเธอแล้ว” ทอมตอบอย่างเป็นกลางๆ
“เฉลียวฉลาดทีเดียว เธอเห็นด้วยไหม? เกือบจะมีความสามารถเท่ากับเธอเลย” พ่อมดอาวุโสพูดด้วยน้ำเสียงซ่อนเร้น ทอมคิดว่าเขาต้องการรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเฮเลนคนนี้อย่างจริงจังเสียแล้ว
“เธอเป็นคนธรรมดามากๆ ไม่ได้คะแนนดีเยี่ยมแต่ก็ไม่เลวจนเกินไปเช่นกัน” ทอมตอบคำถาม ขณะกำลังคิดว่าต้องค้นหาความจริงมากกว่านี้เกี่ยวกับเฮเลน เขาจะไม่บอกดัมเบิลดอร์ว่าเขารู้อะไร ถ้าดัมเบิลดอร์สนใจในตัวเธอ แสดงว่าเธอต้องเป็นคนที่สำคัญแน่นอน บางทีคุณลักษณะของเธออาจจะใช้เป็นประโยชน์ทางการเมืองแก่เขาได้
“นั่นคือสิ่งที่มองเห็นได้จากภายนอก ใช่หรือไม่?” ดัมเบิลดอร์พูดอย่างมีเลศนัย “แต่ฉันคาดว่าเธอจะได้รับแต่สิ่งที่ดีและมีคุณค่าที่แท้จริงจากเธอคนนั้นเท่านั้นใช่ไหม มิสเตอร์ริดเดิ้ล” ดัมเบิลดอร์กำลังพยายามยั่วทอม เหมือนที่เขาทำมาหลายครั้งแล้ว ดัมเบิลดอร์มักจะรู้ดีกว่าเสมอ
“และผมคิดว่า คุณเองก็คงจะได้รับ สิ่งที่มีค่าอย่างแท้จริงด้วยเช่นกันครับ?” ทอมเหน็บแนม
“งั้นเหรอ มิสเตอร์ริดเดิ้ล”
“คุณฉลาดมาก มากกว่าที่ผมเคยเชื่อในตอนแรก” ทอมสวนกลับอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นการประลองอำนาจของพวกเขาอีกอย่างหนึ่ง และดัมเบิลดอร์เพียงแค่เลิกคิ้วให้เขาเท่านั้น
“พูดอย่างนั้นก็ได้ เรามาเริ่มบทเรียนกันเถอะ”
-------------------------------------------------
เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงมือหยาบๆ บนบ่าของเธอ
“มิสเนสโธว์ เลยเวลาปิดห้องสมุดมานานแล้ว ฉันพบเธอกลับมาที่นี่และหลับอยู่บนกองหนังสือ! กลับไปที่ห้องพักของเธอและเข้านอนซะ” มาดามโรสแทมพูดอย่างเข้มงวด ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ผงกศีรษะขึ้นมา มองดูหน้ากระดาษที่เธอกำลังอ่านอยู่อย่างพร่ามัว
นิโคลัส ฟลาเมล มีชีวิตอยู่ 566 ปี ได้อุทิศชีวิตส่วนใหญ่ของเขาในการศึกษาเรื่องเวลา ในช่วงหลายปีสุดท้ายเขาได้เขียนบทความทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับเวลา และส่วนสำคัญของมัน เขาอ้างว่าถ้าเวลาสามารถทำให้หมุนใหม่ได้ มันก็สามรถส่งต่อไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วได้ ถึงแม้ว่าพ่อมดสมัยใหม่ยังทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ เขายังกล่าวว่าแม้เวลาสามารถหมุนใหม่ได้และเพิ่มความเร็วขึ้น ที่สุดแล้วมันไม่มีวิธีการเปลี่ยน...
“มิสเนสโธว์ เดี๋ยวนี้!” มาดามโรสแทมร้องเสียงสูง พร้อมกับดึงหนังสือไปจากเฮอร์ไมโอนี่ เธอขบฟันด้วยความผิดหวัง
ถึงแม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่รู้ลึกรำคาญและอ่อนเพลีย แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับสิ่งที่เธออ่าน บางทีอาจมีวิธีเดินทางไปยังอนาคตให้ทันเวลา เธอมาอยู่ในอดีตและมันง่ายกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยที่จะเดินทางไปข้างหน้าสู่อนาคต เธอตัดสินใจว่าจะอ่านเรื่องนี้ต่อไปเมื่อเธอได้พักผ่อนเพียงพอแล้ว ตอนนี้เธอต้องการนอนหลับสักงีบ
เฮอร์ไมโอนี่ดูนาฬิกาข้อมือ และพบว่าเลยเที่ยงคืนไปนานแล้ว เธอเดินหลบออกจากห้องสมุดและผ่านเข้าไปในห้องโถงต่างๆ ที่มืดสลัว ตัวสั่นด้วยความหนาวเย็นท่ามกลางความมืดที่ห้อมล้อมตัวเธออยู่ เฮอร์ไมโอนี่เดินอย่างรวดเร็วไปตามระเบียง พยายามไม่ทำเสียงดังและไม่ใช้ไม้กายสิทธิ์ของเธอจุดไฟส่องทาง
มีร่างคนในเงามืดกำลังเดินอยู่บริเวณหัวมุมตรงข้างหน้าเธอ เธอหายใจหอบด้วยความประหลาดใจและแสงไฟถูกจุดสว่างทำให้ภาพดูชัดเจน ใบหน้าของทอม ริดเดิ้ล เข้ามาอยู่ในสายตา ท่าทางไร้ความรู้สึกและเย็นชาเหมือนเคย เฮอร์ไมโอนี่หายใจหอบอีกครั้งลังเลว่าควรจะวิ่งหรือดึงเอาไม้กายสิทธิ์ของเธอออกมา
“เฮเลน เนสโธว์ นั่นเธอใช่ไหม? เธอกำลังวุ่นกับเรื่องอะไรหรือถึงมาเดินเตร่แถวระเบียงในความมืด? โดยที่ปราศจากแสงไฟด้วย ” ทอมถามอย่างเยือกเย็น เขาลดไม้กายสิทธิ์ของตัวเองลงเพื่อให้ใบหน้าของเขาซ่อนเร้นอยู่ในความมืดเหมือนเดิม
ใจของเฮอร์ไมโอนี่แข่งกันเต้นอย่างแรง เธอบอกไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงถามอย่างนั้น เพราะน้ำเสียงของเขาไร้ความรู้สึกเหมือนกับท่าทางของเขา หรือว่าพวกเขาวิ่งมาเจอกันโดยบังเอิญ?
“ฉันก็ควรถามคุณอย่างเดียวกัน” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยความไม่พอใจนิดหน่อย เธอไม่สามารถซ่อนน้ำเสียงสั่นๆ ของเธอได้แม้ว่าจะพยายามแล้ว คนเดียวในความมืดกับลอร์ดโวล
เดอมอร์ ไม่ใช่สถานการณ์ที่เฮอร์ไมโอนี่ต้องการให้เป็นเลย
ทอมมองเธอด้วยท่าทางใคร่ครวญ “พูดถึงข้อสังเกตของเธอ ความจริงฉันมีตำแหน่งเป็นประธานนักเรียน มันเป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องเดินตรวจตราตามระเบียง เผื่อว่ามีนักเรียนบางคนไม่อยู่ที่เตียงของตัวเอง นักเรียนแบบเธอไง” ทอมพูดอย่างระมัดระวังและเน้นเสียงอย่างจงใจในตอนท้ายพร้อมด้วย ใบหน้าที่เรียบเฉยไม่แสดงอะไรเลย
เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง ประธานนักเรียน! แน่นอน เขาต้องเป็นประธานนักเรียน! ทำไมลอร์ดโวลเดอมอร์จะไม่เป็นประธานนักเรียน? เธอสาปแช่งความโชคร้ายของเธอในตอนแรก จากนั้นก็เป็นการพิจารณาคุณลักษณะภายนอกที่ไม่ได้เรื่องของดิพพิตที่เลือคนที่โหดร้ายแบบทอมมาเป็นประธานนักเรียน
เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถบอกเขาว่า เธออยู่ที่ห้องสมุดเพื่อค้นหาเรื่องการเดินทางของเวลา เธอต้องแสดงละครอีกครั้งและหวังว่าเขาจะเชื่อมัน อาจน่าสงสัยแต่ก็ไม่เลวที่จะลองดู “ฉันมัวแต่ศึกษาตำราอยู่ที่ห้องสมุดดึกไปหน่อย และพูดตามตรงนะว่าฉันรู้สึกสับสนนิดๆ ในเส้นทางขากลับ ปราสาทหลังนี้ใหญ่โตออกและฉันเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้แค่เดือนเดียวเท่านั้น ฉันก็เลยหลงทางไปหน่อย ทั้งหมดก็มีแค่นี้แหละ” เธอพูดเสร็จพร้อมแกล้งทำให้ดูเหมือนละอายใจ
ทอมไขว้แขนเข้าด้วยกัน “เข้าใจแล้ว ต้องการให้ฉันไปเป็นเพื่อนส่งเธอที่ห้องนั่งเล่นรวมบ้านกริฟฟินดอร์ไหม?”
เฮอร์ไมโอนี่สาปแช่งอยู่ในใจอีกครั้ง ทั้งหมดที่เธอต้องการคือไปให้ไกลจากเขา แต่ดันขุดหลุมฝังตัวเองโดยไม่สามารถหนีได้ “ช่างเป็นความกรุณาจริงๆ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างสุภาพ แม้ว่าต้องกัดฟันพูดอย่างเจ็บปวด
“หน้าที่ของฉันอยู่แล้ว” ทอมพูดอีกครั้ง ทำให้ต้องคิดว่าเขาไม่ได้ต้องการช่วยเธอด้วยความเต็มใจนัก เขาเริ่มออกเดินพาเธอไปตามทาง เฮอร์ไมโอนี่เดินตามเหมือนคนตาบอด เมื่อพวกเขาใกล้ถึงช่องรูปภาพเหมือนบ้านกริฟฟินดอร์ ทอมก็พูดขึ้นว่า “ฉันสามารถหัก 30 แต้มจากกริฟฟินดอร์เพื่อลงโทษที่ไม่อยู่ในห้องนอน ฉันทำแน่และรู้สึกสนุกมากๆ ด้วย หรือว่าเธอจะทำอย่างอื่นให้ฉันล่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่หยุดชะงักฝีเท้าทันที เมื่อประโยคนั้นลอยขึ้นมาในอากาศ
“คุณมันคนเจ้าเล่ห์ คุณคิดจริงๆ รึว่าฉันจะ...”
ทอมทำให้เธอเงียบด้วยการยักคิ้ว “บอกบางอย่างกับฉันดีกว่า” เขาพูด ปากกระตุกด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงรู้สึกเหมือนคนโง่เป็นครั้งที่สองในคืนนี้
“จริงๆ แล้วเธอเป็นใคร?” ทอมถามต่อ “มาที่นี่ทำไม?”
“ฉันบอกคุณแล้ว” เธอตอบทันที “ฉันมาจากเยอรมนีพร้อมกับครอบครัวของฉัน...”
“ไม่ใช่เรื่องนี้ พูดเรื่องจริงกับฉัน” ทอมยืนกราน ดวงตาสีเข้มของเขาดูเอาจริงเอาจังในแสงไฟสลัว และเฮอร์ไมโอนี่พบว่าตัวเองถูกสะกดเอาไว้ด้วยสายตาคู่นั้น
นี่มันผิดทั้งหมด! ถ้าเขาค้นพบว่าฉันมาจากอนาคตล่ะ? ทุกอย่างจะต้องพังหมด!
เฮอร์ไมโอนี่จ้องไปที่เขา และมองเข้าไปในดวงตาของเขา เพื่อค้นหาความรู้สึกต่างๆ แต่ไม่พบอะไรเลย
“เชิญหักคะแนนบ้านได้ตามสบายเลยทอม ฉันยกให้ เอาไปเลย 30 แต้มจากกริฟฟินดอร์” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างไม่ใส่ใจ หวังว่าใบหน้าของเธอจะสะท้อนภาพตัวเขาขณะหันหลังจากไป ถ้าเธอหันไปดูข้างหลัง เฮอร์ไมโอนี่จะเห็นทอมยังคงยืนอยู่ตรงนั้น จ้องมองตามหลังเธอไปจนกระทั่งหายไปในความมืด
TBC
ความคิดเห็น