คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 มาเต้นรำกันเถอะ
Chapter Five
แสงยามเช้าสาดส่องเข้ามายังหน้าต่างบานใหญ่ เป็นการเตือนให้ล่วงรู้ว่าเป็นเช้าวันใหม่แล้ว เฮอร์ไมโอนี่เหยียดแขนขาบนเตียงของเธอแล้วหาวอีกเล็กน้อย ความเจ็บปวดแทรกเข้าไปยังกระดูกของเธอทีละนิดทีละนิดมันสร้างความเจ็บปวดและระบมให้กับเธอ เธอยิ้มรับความเจ็บปวดนั้นมันรู้สึกดีที่ความเจ็บปวดเป็นเพื่อนเธอ คอยทักทายเธอยามตื่นนอนในตอนเช้า
เฮอร์ไมโอนี่ดึงตัวเองให้ออกจากเตียง เธอค้นหาเสื้อผ้าของเธอโดยเฉพาะเสื้อผ้าที่สามารถปกปิดส่วนต่างๆที่บอบช้ำของเธอได้ ในที่สุดก็พบเสื้อยืดแขนยาวกางเกงยีนส์เข้าชุดกัน เธอดึงเสื้อยืดลงมาปิดแขนเธอเพื่อปิดบังร่องรอย เธอยังคงมีแผลฟกช้ำจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเธอไม่ต้องการให้ใครเห็น
เฮอร์ไมโอนี่ยื่นศรีษะของเธอออกจากห้องเพื่อค้นหาใครบางคนตามระเบียงทางเดินเพื่อนำเธอไปดูรอบๆบ้าน ในขณะที่เบลสเดินทอดน่องไปยังมุมของระเบียงทางเดิน และตรงเข้ามาหาเธอ
“สวัสดีตอนเช้า”เขากล่าวอย่างสดชื่น”เธอเป็นยังไงบ้างในเช้าที่เต็มไปด้วยความสวยงาม” เขาทำไม้ทำมือและรอยยิ้มที่สดใส เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกประหลาดใจกับตัวเขาที่มักอารมณ์ดีอยู่เสมอ เธอยกคิ้วขึ้นสูงก่อนที่จะตอบแบบไม่แน่ใจในคำทักทายนั้น
“ก็ดีค่ะ”
“เบลส หยุดกวนใจเธอเสียที เธอเพิ่งตื่นนอนนะ” มาเรียตำหนิบุตรชายในขณะที่เธอปรากฎตัวอยู่เบื้องหลังของเขา “ว่าไงเฮอร์ไมโอนี่ เธอหิวแล้วหรือยัง”
ในความเป็นจริงเธอไม่หิวเลยสักนิด เธอรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อคิดถึงอาหาร เธออยากจะขย้อนมันออกมาเสียมากกว่า ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การชิมก็ตาม
เธอพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มที่เสียไม่ได้เพราะไมตรีจิตของมารียและเดินตามทั้งสองคนลงไปในครัวพวกเขาพูดกับเธอไปเรื่อยเปื่อยซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง
เมื่อพวกเขามาถึงครัวมาเรียดึงผ้ากันเปื้อนมาใส่แล้วเริ่มนำเครื่องปรุงอาหารออกจากตู้ เฮอร์ไมโอนี่ถามเบลสเมื่อเห็น
“มาเรียมักทำอาหารเองเสมอเหรอ”
”เธอชอบทำอาหารและเธอก็ทำได้ดีเช่นกัน” เบลสบอกกับเฮอร์ไมโอนี่ที่ทำหน้าฉงน
”คอยดูตอนที่เธอเริ่มร้องเพลงน่ะ นั่นมันน่าหัวเราะมากเลย”เขากระซิบกับเธอเสนอแนะให้เธอดูพฤติกรรมที่น่ารื่นรมณ์ของแม่เขา
เขาหัวเราะคิกคักทั้งๆที่มันยังไม่เห็นว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเลย เฮอร์ไมโอนี่อมยิ้มและนั่งที่โต๊ะครัวในขณะที่มาเรียเริ่มผสมอาหารและสิ่งที่เบลสพูดก็เป็นความจริง มาเรียเริ่มเปล่งเสียงโอเปร่าออกจากปอดของเธอเฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกว้างมันค่อนข้างน่าขันในขณะที่นางมาเรียเต้นไปรอบๆครัวกับการปรุงอาหารทำแพนเค้กแบบพวกมักเกิ้ลและร้องเพลงโอเปร่าของอิตาลี่
มาเรียยังคงร้องเพลงอยู่ เธอเอาจานที่ใส่แพนเค้กมาวางบนโต๊ะ เธอนั่งลงตรงข้ามกับเบลสและทั้งสองก็เริ่มทานอาหารกัน
ผ่านไปชั่วครู่เมื่อมาเรียชำเลืองมองไปที่จานของเด็กสาว เมื่อเห็นว่าเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้แตะต้องอาหารเลยแม้แต่นิดเดียว นางมาเรียขมวดคิ้วมองไปที่เธออย่างกังวลใจ
”เธอไม่ทานอะไรสักหน่อยเหรอ ที่รัก”มาเรียเอ่ยปากถามดูเหมือนเป็นมารดาที่เป็นห่วงเป็นใยบุตรธิดามากกว่า จนทำให้เฮอร์ไมโอนี่เกือบยิ้มออกมา
“ฉ ฉันไม่หิว”เธอหน้าแหยๆ แล้วตอบด้วยน้ำเสียงโหยๆ”ฉันขอโทษจริงๆ แต่มันดูน่ากินมากเลยนะค่ะ ทั้งกลิ่นแล้วก็สีสัน แต่ฉันไม่หิวจริงๆ”เบลสมองเธออย่างประหลาดใจก่อนทำหน้ามุ่ย
“เธอควรจะกินอะไรบ้างเกรนเจอร์ มันไม่ดีสำหรับตัวเธอเองถ้าเธออดมัน มันจะทำให้เธออ่อนเพลียได้”
เขากล่าวและพยายามชักจูงเธอกับอาหารที่ยังคงคาอยู่บนจานของเธอ
“ฉันรุ้สึกไม่ค่อยดีเลย”เธอบอกพวกเขาทั้งสองคนและเมินไปทางอื่น
“เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม เฮอร์ไมโอนี่”มาเรียถามอย่างกังวล”เธอต้องการพบแพทย์หรือเปล่า”
“ไม่ ไม่ ฉันเพียงแค่รู้สึกว่าไม่ค่อยดี แล้วมันจะผ่านไป ฉันรู้สึกกับมันได้”เธอโกหก
“งั้นก็ได้ ถ้าเธอแน่ใจ “มาเรียกล่าว และแสดงท่าทางให้เบลสเข้าใจว่าเธอรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเด็กสาวแน่ๆ
ในเวลาต่อมาประตูได้เปิดออกและเดรโก มัลฟอยเดินเต้นลีลาศเข้ามา เฮอร์ไมโอนี่มองดูเหมือนเขาเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้ เฮอร์ไมโอนี่เกือบอมยิ้มเมื่อคิดถึงเริ่องนี้
เขานั่งลงถัดจากมาเรียและทักทายเธอด้วยการจูบบนมือเธอเบาๆและบังอาจขยิบตาใส่เธอ
”วันนี้คุณเป็นอย่างไรบ้างที่รัก”เขาถาม
มาเรียพ่นลมหายใจออกทางจมูกเบาๆ”ก็เหมือนเดิม เดรโก แล้วคุณล่ะเป็นอย่างไรบ้าง ”
เขาทำสีหน้าซื่อๆ“ได้โปรดเถอะน่า คุณเหมือนแม่ของวิสลี่ส์ข้าไปทุกทีแล้วนะ ผมยังอารมณ์เสียอยู่คงค้างจากเหตุการณ์นั้น....”เดรโกพูดค้างแค่นั้น เมื่อเบลสชี้มาที่เขาเพื่อต้องการให้หยุดพูดส่วนมาเรียเลิกคิ้วเธอสูงขึ้นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมแต่เลือกที่จะคุยกับเฮอร์ไมโอนี่
”เฮอร์ไมโอนี่ทำไมคุณถึงใส่เสื้อไหมพรมล่ะมันไม่ร้อนแย่เหรอ”เธอถาม
“ฉัน เออ ฉันรู้สึกอยากปกปิด”เธอกล่าวและเผลอจับแขนของเธอที่เป็นสาเหตุของชุดที่เธอใส่”มีบางสิ่งที่ฉันไม่อยากให้ใครเห็น”เธอมองอย่างกังวลตรงไปที่สองหนุ่มที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกับเธอเบลสทำสีหน้าเข้าใจ แต่เดรโกทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“โอ้วแต่เธอก็ดูน่ารักในชุดสีเหลืองและสีเขียวเหมือนกันนะ “มาเรียชม”แต่...ฉันอนุญาตให้เธอใส่ได้วันนี้วันเดียวเท่านั้นนะ ฉันจะไม่ยอมให้เธอดูเหมือนเป็นคนไข้ที่เพิ่งกลับจากเซนต์มังโกแน่ๆ เธอจะต้องใส่ชุดที่มันสดใสและสวยงาม จิตใจเธอจะได้เบิกบานไงจ๊ะ “
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเล็กน้อย”ก็ได้ค่ะคุณนายซาบินี่”
“เรียกฉันว่ามาเรียที่รัก”เธอกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มกว้างอย่างผู้ชนะเธอมองไปที่นาฬิกาและยืนขึ้นในทันที
”โอ้ว ฉันสายแล้ว เสียใจด้วยที่รัก ฉันจะต้องไปพบกับนักดีไซเนอร์คนใหม่เสียด้วยสิ”เธอกล่าวและจูบแก้มพวกเขาทั้งสามคน
”ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดี อ้อ เบลส แล้วอย่าลืม พวกคุณมีเรียนเต้นรำวันนี้ตอนสามโมง” เธอวิ่งออกไปที่ประตูอย่างรีบร้อนปล่อยเด็กหนุ่มทั้งสองและอีกหนึ่งสาวไว้เพียงลำพังในห้องอาหาร
พวกผู้ชายมองดูกันและกันและรอคอยเวลาที่ถูกพิพากษา”การเรียนเต้นรำที่น่าเบื่อ”เบลสบ่น
“บอกฉันอีกทีสิเบลส ทำไมฉันต้องมาเรียนเต้นรำกับนายด้วย”เดรโกถามอย่างรำคาญ
“เพราะว่านายเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน น่ะสิ แล้วอีกอย่างเชื่อได้ว่านายจะทำในทุกๆสิ่งที่แม่ฉันพูดเพราะนายตกหลุมรักเธอ ”เขาแสร้งพูดด้วยหน้าตาไร้ความรู้สึก แต่มันก็ทำให้เดรโกแทบลุกขึ้นมาจัดการเขา ถ้าไม่ได้ยินเสียงหัวเราะหลุดออกมาจากปากของเด็กสาวที่นั่งเงียบอยู่นานแล้ว
ด้วยเหตุนี้เฮอร์ไมโอนี่จึงหัวเราะออกมาสายตาของพวกเขาทั้งสองหันมาที่เธอเธอพยายามปิดปากเพื่อเก็บเสียงของเธอและพยายามระงับการยิ้มหรือระเบิดเสียงหัวเราะแต่ก็ไม่เป็นผล
“เธอคิดว่าเรื่องนี้มันสนุกหรือไง เกรนเจอร์”เดรโกตวาดเสียงถาม ในขณะที่เบลสยิ้มฟันขาวและหันมาพูดกับเธอ
”พวกเราเห็นว่าเป็นเรื่องสนุกเช่นกัน เมื่อเธอจะต้องมาเรียนรู้เรื่องเต้นรำร่วมกับพวกเรา”เขาพูดอย่างเยาะเย้ย
รอยยิ้มของเธอจางลง”โอ้ว ไม่นะ ฉันไม่เต้นรำแน่”เธอกล่าวอย่างรวดเร็ว
“ก็ทำเหมือนพวกเรา”เดรโกกล่าว เขายิ้มด้วยรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษ์ รอยยิ้มเจ้าเล่ร์
”อย่างไรพวกเราก็ต้องทำเพื่อความพอใจของมาเรีย ” เดรโกพูดยิ้มๆ
เธอยิ้มเล็กน้อย“ว่าแต่ เดรโก มัลฟอยตกอยู่ในความรักจริงๆนะเหรอ”
เบลสพ่นลมหายใจ” ดีมากเลยที่ไม่ใช่กับแม่ของฉัน”เขาบอกแล้วชี้ไปที่เดรโก”ฉันต้องการพ่อก็จริงแต่ก็ไม่ใช่เพื่อนที่ดีที่สุดเลื่อนขั้นมาเป็นพ่อเลี้ยง”
เดรโกส่ายหัว”เธอไม่สนใจฉันหรอก ฉันยังอ่อนเกินไปสำหรับสาวที่มีรสนิยมเช่นเธอ”
เบลสทำจมูกย่น”โอ้ เบอลิน อย่าเอาฉันไปเปรียบกับรสนิยมของเธอก็แล้วกัน ความจริงเธอมีนัดกับผู้ชายหลายคนทีเดีนว และพวกเขาก็ดูเหมือนงี่เง่า ในจำนวนนี้มีชายที่ชื่อว่าคริสเขาพยายามที่จะทำตัวเหมือนพ่อ”เขาหน้าบึ้งและเฮอร์ไมโอนี่หัวเราะ
“ฉันรู้ดีที่มาเรียไม่เลือกฉัน เพราะฉันค่อนข้างหล่อแบบร้ายกาจเธอถึงลังเลใจที่จะเลือกฉัน”เดรโกแกล้งโต้ตอบ
“อย่าไปพูดถึงมันเลย เพื่อน เธอไม่สนใจนายหรอก”เบลสตบหัวเขา”นายยังเด็กเกินไป”
“พระเจ้า “ เฮอร์ไมโอนี่พึมพำกับตัวเธอพร้อมกับหัวเราะ”คุณทั้งคู่มันบ้า”พวกเขาทั้งคูเหมือนเล่นตลกให้เธอดู
พวกเขายิ้มให้กันและกัน และรู้สึกถึงความสำเร็จที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่หยิบแพนเค้กเข้าปากจนได้ในที่สุด
เดรโกยิ้มเยาะ”เอาล่ะ เบลส ฉันคิดว่าเราควรจะเริ่มต้นการใช้เวลาอันมีค่าร่วมกันได้แล้ว “เขาพูดติดตลก
“ดังนั้น เรื่องต่อไป คือเรียนเต้นรำ”เบลสเริ่ม
พวกเขาทั้งสามยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าห้องเต้นรำ เฮอร์ไมโอนี่ยืนห่างจากพวกเขาทั้งสองด้วยความอึดอัด เบลสมองไปยังพวกเขาทั้งสองอย่างตื่นกลัวและเปิดประตูสองบานนำพวกเขาเข้าไปยังห้องพิพากษา
พวกเขาเข้ามารับคำตัดสินโดยแม่มดเจ้าเสน่ห์ที่ชื่อว่าเฮเลน่าเธอต้อนรับพวกเขาโดยการอ้าแขนและจูบแก้มพวกเขาแต่ละคน ก่อนที่จะหันมาชำเลืองมองเฮอร์มโอนี่แล้วถาม
“เธอเป็นใคร”เธอถามอย่างวางท่าด้วยสำเนียงภาษาฝรั่งเศษของเธอ
“นี่คือเฮอร์ไมโอนี่”เบลสกล่าว แสดงถึงความวิตกไปที่เดรโก”เธอจะมาอยู่กับพวกเราชั่วคราว”
“คงจะเป็นญาติ”เฮเลนน่าถามกลับด้วยความไม่พอใจ
“ไม่ใช่หรอก เป็นเพื่อน พวกเราคิดว่าเธออาจจะเป็นคู่เต้นให้พวกเราคนใดคนหนึ่งในขณะที่คุณเต้นกับคนอื่นหรือถ้าจะให้ดีก็ผลัดกัน”เดรโกตัดบทห้วนๆ
“ก็ได้ แต่เธอคงไม่เต้นในขณะที่ใส่กางเกงยีนหรอกนะ ฉันคงไม่อนุญาตแน่”เธอพูดแล้วส่งสายตาไปที่กางเกงยีนส์อย่างไม่พอใจ”ไปเปลี่ยนมันตอนนี้เลย”เธอออกคำสั่ง
เฮอร์ไมโอนี่มองผ่านไปที่เบลสที่พยักหน้าให้เธอทำตาม เธอวิ่งออกไปเพื่อเปลี่ยนชุดในเวลาไม่กี่นาทีเธอก็กลับเข้ามาโดยใส่ชุดสีเขียวมีเชือกเส้นเล็กผูกคอ เผยต้นแขนนวลเนียน มีรอยช้ำเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้ปิดบังความงดงามของเฮอร์ไมโอนี่ได้เลย ชุดของเธอยาวเลยพ้นเข่าไปเล็กน้อย กระโปรงของเธอดูพลิ้วไสวยามที่เธอก้าวเท้าเดิน ด้วยชุดนี้ของเฮอร์ไมโอนี่ทำให้เดรโกและเบลสถึงกับอ้าปากค้างด้วยความพึงพอใจ แต่สร้างความไม่พอใจให้กับเฮเลน่าเป็นอย่างมาก
“มายืนอยู่ตรงตำแหน่งนี้เดรโกที่รัก”เธอพูดเสียงแผ่วเบา”คุณมาเต้นกับฉัน”เดรโกเดินไปอยู่ที่ตำแหน่งอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ส่วนเบลสมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ที่เก้ๆกังๆและรู้สึกเขิน
“พวกเราจะเต้นด้วยกันไหม”เขาถามพร้อมหัวเราะด้วยความเขินอาย เธอพยักหน้า แก้มของเธอขึ้นสี เขาดึงเธอแล้วแตะที่เอวเธออย่างระวังไม่ให้สัมผัสเธอมากไปเพราะกลัวว่าเธออาจจะตกใจเขา มือของเธอเลื่อนมาอยู่บนไหล่ของเขาและเขาบอกให้เธอผ่อนคลาย
เพลงเปิดขึ้นและเฮอร์ไมโอนี่มองดูเดรโกและเฮเลน่าเริ่มเต้นเธอพยายามเลียนแบบการเต้นของเฮเลน่าแต่เธอก็ยังคงก้าวผิดและจับทิศทางไม่ถูกจนในที่สุดเฮเลน่าหยุดเต้นอย่างกระทันหัน
“หยุดๆ”เธอร้องและเดินออกจากเดรโก”เธอนี่ช่างน่าเกลียดจริงๆ”เธออุทานเสียงดังและเดินเข้ามาใกล้เฮอร์ไมโอนี่เธอเข้ามาใกล้มากจนเฮอร์ไมโอนี่ต้องปล่อยมือเบลสและถอยหลังอย่างหวาดกลัว
“ฉันขอโทษ”เฮอร์ไมโอนี่กล่าว”ฉ ฉันเพียงแต่ต้องการช่วย ฉันรู้ว่าเต้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่”เฮเลน่าเดินเข้ามาใกล้เธออีกครั้ง”เธอไม่เคยเต้นรำ ใช่ไหม”
เฮอร์ไมโอนี่เนื้อตัวสั่นเทาแล้วในตอนนี้ เฮเลนน่ายกมือของเธอแกว่งไปมาในอากาศอย่างโกรธเกรี้ยว เธอมองดูเฮอร์ไมโอนี่ด้วยความสมเพช ในตอนนั้นเฮอร์ไมโอนี่พยายามปกป้องตัวเธอเอง จากการพูดจารุนแรงของครูผู้สอนเต้นรำ โดยการก้าวถอยหลังและกอดตัวเองไว้แน่น
ในที่สุดเดรโกก็ระงับอารมณ์ไม่อยู่เขาเคลื่อนตัวเข้าใกล้เฮเลน่าที่กำลังจะทำให้เฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้ในตอนนี้เขาคว้าแขนของเฮเลน่าให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา”มองดูตัวเองสิ”เขาตวาดใส่เธอ”อะไรที่คุณทำกับเธอเธอใกล้จะร้องไห้เพราะว่าเธอไม่รู้ว่าจะต้องเต้นอย่างไรมันไม่ใช่ความผิดของเธอเลย ออกไปจากที่นี่ และอย่ากลับมาอีก”เขาพูดอย่างเกรี้ยวกราด
เฮเลน่าพูดอย่างขุ่นเคือง”ก็ได้ บอกฉันด้วยก็แล้วกันถ้ายายผู้หญิงโสโครกคนนี้ไปแล้ว พวกเราก็จะได้เต้นรำกัน”เธอจ้องมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ด้วยความเกลียดชัง
“เธอไม่ได้โสโครก” เบลสปกป้อง “ถ้าใครบางคนที่โสโครก มันคือคุณนั่นแหละ”เขากล่าวในขณะที่เธอออกไปจากห้องเบลสปิดประตูตามหลังเธออย่างแรงและดังลั่น
เฮอร์ไมโอนี่พิงหลังกับกำแพงและค่อยๆรูดตัวเธองนั่งช้าๆในที่สุดน้ำตาก็ไหลเอ่อลงมาเธอมองจ้องที่ปลายเท้าของเธอที่แผ่ตรงหน้าเธอ
“เกร..เกรนเจอน์ ไม่เป็นไรนะ”เดรโกถามเหมือนไม่รู้จะทำอะไรไปได้ดีมากไปกว่านี้แล้ว
เธอสั่นหัวของเธอไม่ยอมเงยหน้าเบลสเดินเข้ามาหาเธอและนั่งถัดจากเธอไป
“ยายนั้นงี่เง่า หล่อนแค่อิจฉาเธอที่ได้เต้นรำกับหนุ่มอิตาลีที่ร้อนแรงเช่นฉัน”เขาออกความเห็น
เธอสูดจมูก “วิคเตอร์พูดถูก “ เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงต่ำ”ฉันมันไร้ค่า”
สลิธลีนทั้งสองมองหน้ากันก่อนหันไปดูเธอ”ไม่ใช่ไร้ค่า เกรนเจอร์ มันอาจจะมีบางอย่างที่เธอ ยากที่จะทำมันได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นจุดจบของโลก”เดรโกกล่าว
“เธอเป็นคนที่มีค่าสำหรับพวกเรานะเกรนเจอร์”เบลสเสริม
เธอมองไปที่พวกเขาทั้งคู่ยิ้มเล็กน้อยบนริมฝีปาก”ขอบคุณ”เธอกระซิบและพิงหัวของเธอบนไหล่ของเบลส”ฉันเสียใจที่พวกเธอสูญเสียครูสอนเต้นรำไป”เธอกล่าว
เบลสหายใจหนักๆ”แม่จะหาคนใหม่มาแทนเองนี่คือติวเตอร์ที่พวกเราหวาดกลัว ช่างโชคร้ายจริงๆ”
เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะเล็กน้อย”มีใครจะช่วยฉันลุกขึ้นได้บ้าง ฉันต้องการจะออกไปจากห้องนี้”เธอกล่าวและยื่นมือของเธอออกมาเบลสลุกขึ้นและดึงเธอให้ขึ้นตามเขา
“แต่ชุดนี้ของเธอมันดูดีมากเลยนะเกรนเจอร์สีเขียวเหมาะกับเธอ”เดรโกยิ้มให้และค่อนข้างอายเล็กน้อย
“แน่ใจเหรอ”เธอถาม”ฉันคงไม่ใช่ผู้หญิงในจินตนาการของนายหรอกนะ”เธอกล่าวแล้วแกล้งสูดอากาศล้อเลียน
“ไม่มีทางเกรนเจอร์เธอมันพวกกริฟฟรินดอร์เกินไป”เขาบอกเธอ
สายตาเธอเจิดจ้ามองไปที่เขาอย่างขี้เล่น”โชคดีสำหรับนาย มัลฟอย นายควรจะมีการแข่งขันเพื่อมงกุฎสลิธลีนนะ”
“มันเป็นตำแน่งแรกที่เขาจะได้รับ”เบลสพูดขัดจังหวะและยิงฟันขาว
“มันแน่นอนอยู่แล้ว มันไม่ใช่ของนายเบลส”เดรโกกล่าวและยิ้มอีกครั้ง”ฉันคิดว่าพวกเราก็รู้นะว่ามันเป็นของ..”
เดรโกพูดในขณะที่เขาเบ่งหน้าอกของเขาโซว์ให้เห็นว่าความหมายของเขาหมายถึงใคร และในทันใดที่เบลสทุบอกเดรโก เขาร้องอย่างขุ่นเคือง
”เฮ้”และเบลสก็เร่งเต็มฝีเท้าพร้อมดึงเฮอร์ไมโอนี่เพื่อออกไปจากห้องโถงโดยมีเดรโกวิ่งไล่ตามเขากับเธอไปติดๆ
ความคิดเห็น