คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : CHAPTER 5 ชอปปิ๊งอันแสนสนุก
ตอนที่5 ชอปปิ๊งอันแสนสนุก
เดรโกเบี่ยงตัวเล็กน้อยแล้วมองข้ามไหล่เฮอน์ไมโอนี่ไปข้างหน้าและได้เห็น เพื่อนชายผมแดงของเธอนั่งคุยอยู่กับทรีโอน่าอย่างออกรส และเมื่อรอนเห็นเฮอร์ไมโอนี่ เพื่อนหนุ่มของเธอก็กระโดดลุกจากที่นั่งและเดินตรงดิ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว
เดรโกเหลือบตาขึ้นมามอง รอน วิสลี่ส์ ที่ตวัดแขนของเขารอบเอวของเธอแล้วดึงตัวเพื่อนสาวของเขาเข้ามากอดอย่างคิดถึง
“เฮอร์ไมโอนี่”
เขาพึมพำเป็นชื่อเธอในขณะที่ยังกอดเธออยู่อย่างนั้นจนเฮอร์ไมโอนี่ต้องใช้มือของเธอยันหน้าอกของรอนออกห่างจากเธอ อย่างเขินๆ รอนเหมือนรู้สึกตัวเขาถอยห่างรักษาระยะเล็กน้อยพร้อมตั้งคำถามมากมายจนเฮอร์ไมโอนี่ตอบแทบจะไม่ทัน
“ให้ตายสิฉันเป็นห่วงเธอแทบแย่ เธอเป็นยังไงบ้าง ไอ้บ้านั่นมันทำอะไรเธอบ้างหรือเปล่า”ช่วงท้ายรอนกระซิบเสียงแผ่วและเหล่มาทางเดรโก ”แล้วทำไมเธอตัดสินใจแบบนี้โดยไม่ปรึกษาพวกเราก่อนล่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่ที่เพิ่งหายจากอาการตกตะลึงเริ่มหัวเราะเพื่อนหนุ่มของเธอเบาๆ
“เฮ้ เฮ้ รอน ใจเย็นสิเธอถามฉันทีละข้อจะได้ไหม ถามแบบนี้ฉันตอบเธอทั้งวันยังไม่จบเลย”
เดรโกที่ยืนอยู่เป็นบุคคลที่สามหรือสี่ถ้านับรวมทรีโอน่าที่ยืนอยู่ข้างๆเขาด้วย ยื่นหน้ากวนๆของเขาถามรอนอย่างยียวน
“นายมาทำอะไรที่นี่วิสลี่ส์ มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนายไม่ใช่เหรอ”
คำถามของเดรโกทำให้เขาหน้าแดงเหมือนสีผมของเขา เขาจะบอกได้ยังไงกันว่าเขาคิดถึงเฮอร์ไมนี่ และเขาก็เป็นห่วงจนแทบคลั่งเขารู้ดีว่า ถ้าเขาหนีมาที่นี่และทางภาคีจับได้เขาอาจจะถูกลงโทษก็ได้ แต่ถึงยังไงเขาขอแค่ได้เห็นว่าเธอปลอดภัยดีจากเดรโก มัลฟอย แค่นี้ เขาก็จะกลับไปอย่างสบายใจ
“ฉันแค่อยากเห็นว่าเฮอร์ไมโอนี่สบายดีแค่นั้น มัลฟอย”
คำตอบของรอนมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่ นิ่งอึ้ง เธอรู้ว่ารอนเป็นคนติดจะขึ้ขลาดแต่ก็แฝงไปด้วยความกล้าหาญโดยที่เขาไม่รู้ตัว เขามีบางสิ่งบางอย่างในตัวที่เข้มแข็งจากการที่เขาฝ่าฝันเคียงคู่แฮรืรี่และเธอในการกำจัด โวลเดอมอร์ เธอไม่เคยนึกสงสัยในความกล้าหาญของรอน และนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่รอนฝ่าฝืนกฎของดับเบิลดอร์ นั่นมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่สบายใจ
เฮอร์ไมโอนี่มองทรีโอน่าที่ยืนอยู่ข้างๆเดรโกยืนฟังด้วยความสนใจ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่เริ่มรู้สึกตัวว่ามีคนนอกร่วมฟังอยู่ด้วยเธอจึงดึงรอนกลับเข้าไปในครัวอีกครั้งหนึ่งโดยมีเดรโกเดินตามไปด้วย
“รอน เธอมาที่นี่ได้ยังไง มีใครที่ภาคีรู้หรือเปล่า”
รอนนิ่งคิดก่อนตอบเพื่อนรักด้วยท่าทีตื่นๆ
“ถ้าจะมีคนรู้ก็คงจะเป็น จอร์จกับเฟรดเพราะพวกเขาเป็นคนที่สืบเรื่องที่เธออยู่ที่นี่ให้ฉันรู้เอง นอกนั้นก็ไม่มีใครรู้อีก ฉันก็เลยเก็บข้าวของแล้วก็รีบหายตัวมาที่นี่”
“หายตัว แล้วทรีโอน่าเห็นไหม”
เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างร้อนรน
“อ๋อ ผู้หญิงคนที่นั่งอยู่บนโซฟาใช่ไหม”
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าแทนคำตอบ
“เธอไม่เห็นหรอกตอนที่ฉันมานี่ฉันเห็นเธอนั่งหันหลังให้ฉันอยู่บนโซฟาน่ะ พอเธอหันมาเห็นฉันเธอก็ถามว่าฉันเป็นใครฉันเลยบอกว่าเป็นเพื่อนพวกเธอ ฉันตามมาสมทบที่หลัง”
เดรโกและเฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจหนักๆอย่างกังวล เดรโกส่ายหัวและพูดอย่างมีเหตุผล
“แกแย่แน่วิสลี่ส์ แกคิดว่าดับเบิ้ลดอร์โง่ ที่จะไม่รู้ว่าใครทำอะไรอยู่ใต้จมูกเขาหรอกนะ”
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เดรโกพูดออกมา
“นั่นสิรอน นี่มันเป็นแผนการของดับเบิ้ลดอร์นะอีกอย่างเขารู้การเคลื่อนไหวของที่นี่แล้วเขาจะไม่รู้หรือไงว่านายมาที่นี่”
นั่นทำให้รอนมีสีหน้าที่วิตก เขาเองก็คิดไม่ถึงในเรื่องนี้
“จริงด้วยสิ ฉันลืมไปเสียสนิทเลย แล้วเราจะทำไงดีล่ะ เฮอร์ไมโอนี่”
เฮอร์ไมโอนี่ยืนคิดสักครู่ก่อนถอนหายใจหนักๆและตบบ่าเพื่อนรัก
“ฉันว่า คงไม่เป็นอะไรหรอกน่า เขาคงรู้ว่านายปรารถนาดี ไม่ได้มีเจตนาร้ายสักนิด แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหนักหนา อีกอย่างถ้าดับเบิลดอร์ไม่ต้องการให้นายอยู่เขาก็คงส่งคนมาตามเองแหละ นายอย่าเพิ่งคิดมากเรื่องนี้เลย ไหนๆก็มาแล้ว งั้นนายพักที่นี่สักวันสองวันค่อยกลับก็ได้ “
เดรโกเหล่ตามองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยความรู้สึกขุ่นเคือง
“พูดง่ายนี่เกรนเจอร์ แล้วจะให้เขานอนที่ไหน”
“กับนายไง” เฮอร์ไมโอนี่พูดกลับทันควัน มันทำให้เดรโกถึงกับทำตาเหลือก
“เฮ้ย ได้ไง ฉันไม่ชอบคนที่ไม่สนิทมานอนด้วยหรอกนะ”
“เรื่องมาก งั้นให้รอนนอนกับฉันก็ได้” คำพูดของเฮอร์ไมโอนี่ทำให้เดรโกรับไม่ได้ในทันที
รอนตอบรับอย่างยินดีในขณะเดียวกันกับที่เดรโกพูดปัดอย่างทันควันเช่นกัน
“ได้เลย” “ไม่ได้”
เดรโกหันมาต่อว่าเฮอร์ไมโอนี่ทันทีด้วยความเดือดดาล
“เธอจะบ้าหรือไงเธอเป็นผู้หญิงนะ แล้วอีกอย่างเธอเป็นสาวแล้วด้วย”
“แต่รอนเป็นเพื่อนของฉัน”เธอโต้กลับนั้นทำให้เดรโกแทบจะฉีกร่างเธอออกมาเป็นชิ้นด้วยความโมโหกับความดื้อด้านของเธอ
“เพื่อนก็ไม่ได้ “ เดรโกนิ่งคิดสักครุ่ก่อนตัดสินใจยุติเรื่องราวนั้น“งั้น ให้เขามานอนกับฉันก็ได้”
สรุปแล้วทุกอย่างก็ลงเอยด้วยดี โดยรอนต้องไปนอนกับเดรโก ถึงแม้เขาจะไม่เต็มใจก็ตามมันก็ดีกว่าจะให้รอนไปนอนกับเฮอร์ไมโอนี่ก็แล้วกัน ซึ่งถ้าเป็นอย่างงั้นจริงๆเขาคงอกแตกตายแน่
“ฉันว่านายควรเอาของไปเก็บนะวิสลี่ส์ พวกเราจะออกไปซื้อของก่อน” เดรโกแนะนำ แต่ดูท่าทางรอนจะไม่เห็นด้วยกับเขานัก
“เฮ้ ถ้าจะสนุกนะฉันว่าฉันไปด้วยดีกว่า”
“แต่”เดรโกกำลังจะพูดแย้งแต่เฮอร์ไมโอนี่ชิงพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน
“เอาเถอะ ไปกันได้แล้วก่อนที่คนจะแน่น! พวกมักเกิ้ลคนอื่นๆก็ต้องการอาหารเหมือนกัน” เธอพูดเหมือนตัดบท
คนแน่นงั้นเหรอ เดรโกเงียบ และคิดว่า ทำไมเขาโง่อย่างนี้ ทำไมเขาไม่คิดถึงสิ่งนี้มาก่อน!เขาไม่ชอบเลยกับการที่ต้องมีมักเกิ้ลเยอะแยะอยู่รอบๆตัวแบบนี้
เฮอร์ไมโอนี่เดินนำไปยังทรีโอน่าเพื่อขอตัวไปซื้อของกัน แต่ทรีโอน่ากลับมีทางเลือกที่ดีกว่านั้นแทนที่พวกเธอจะไปซื้อของโดยนั่งรถโดยสาร ทรีโอน่าอาสาที่จะเอารถของเธอออกไปเพราะเธอจะไปล้างรูปที่อยู่ในบริเวณเดียวกันกับร้านขายของชำอยู่แล้ว และเธอก็จะได้รอเอาพวกของเฮอร์ไมโอนี่กลับพร้อมกันด้วยเลยหลังซื้อของเสร็จแล้ว
และทุกคนก็ตกลงกันตามนั้น ทุกคนมีท่าทีกระปี้กระเป่า ยกเว้น เดรโกเขาดูท่าทางหวาดๆและเชื่องซึมจนเห็นได้ชัด
“เดรโก เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?” ทรีโอน่าถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นเขานิ่งเงียบไป เดรโกส่ายหัวก่อนคว้าแขนของเฮอร์ไมโอนี่ที่เดินลิ่วนำหน้าแล้วกระซิบที่ข้างหูของเธอ
“นี่เรากำลังจะไปร้านขายของชำของพวกมักเกิ้ลงั๊นหรอ?” เขาถาม
“ใช่ แล้วนายคิดว่าที่ไหนล่ะ? พวกเราอยู่ในโลกของพวกมักเกิ้ลน่ะ เดรโก!” เธอตอบ
“แต่--”
“ไม่มีแต่! ไปกันได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะฆ่านาย!” เธอพูดพร้อมทั้งคว้ามือของเขาเดินไปที่ประตูปล่อยให้รอนและทรีโอน่ามองหน้ากันย่างหงุดหงิดกับภาพที่เดรโกและเฮอร์ไมโอนี่เดินจูงมือกันออกนอกประตูไป
“เธอคิดอะไรของเธอ เฮอร์ไมโอนี่?....” รอนพูดอยู่ในลำคอขณะที่เดินตามทรีโอน่าไป
(ฮ่าๆ ความสนุกกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แล้วพวกคุณคิดว่ายังไงล่ะ)
ชอปปิ๊งที่บาสฮาส
เมื่อทุกคนมาถึงที่ร้านบาสฮาส ทรีโอน่าขอตัวเพื่อไปทำธุระส่วนตัวที่ร้านข้างๆก่อนโดยเธอจะตามไปสมทบภายในร้านที่หลัง ทั้งสามคนเดินเข้าไปในร้านโดยที่ เดรโกไม่เต็มใจที่จะเข้าไปมากนักเขาละล้าละลังจนเฮอร์ไมโอนี่ต้องลากเขาเข้าไปอย่างทุลักทุเลโดยมีรอนเดินเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผยทั้งๆที่ในใจของรอนเองก็ใช่ว่าจะกล้าไปกว่าเด็กหนุ่มผมบลอนส์สักเท่าไหร่
พวกเขาเข้าไปข้างในร้านพร้อมกับมองไปรอบๆด้วยความระมัดระวัง
เดรโกพยายามที่จะทำตัวนิ่งๆ เหมือนกับว่าเขารู้จักมันเป็นอย่างดีซึ่งจริงๆแล้วเขาไม่รู้เลยว่าจะมีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นบ้าง ในขณะที่รอนมองไปรอบๆอย่างตื่นเต้นและสนใจ
เฮอร์ไมโอนีมองหาสิ่งของที่เธอต้องการซื้อ เมื่อเธอเห็นสิ่งที่ต้องการแล้วเธอก็ลากทั้งสองหนุ่มให้เดินตามเธอเข้าไปยังซุปเปอร์ด้านในทันที
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหนื่อยมากกับการซื้อของ เพราะเธอต้องคอยระวังและลากพวกเขาทั้งสองไปด้วยเรียกได้ว่าพวกเขาทั้งสองแทบจะไม่ได้ช่วยเธอผ่อนแรงเลยแม้แต่น้อย
เดรโกดูท่าทางตื่นกลัวมักเกิ้ลเนื่องจากเขาไม่เคยได้สัมผัส หรือชอบมักเกิ้ลแม้แต่น้อย ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่เข้าใจดี เขาถูกปลูกฝังตั้งแต่เด็กๆว่าพวกมักเกิ้ลเป็นพวกชั้นต่ำและชั่วร้าย เขาจึงต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับพวกมักเกิ้ลและนี่เป็นบทเรียนแรกที่เขาจะต้องผ่านมันไปให้ได้
ในขณะที่รอนดูท่าทางไม่ได้ตื่นกลัวมากมายเท่าเดรโก เพราะเขาเคยมาที่โลกของมักเกิ้ลมาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะมากับเธอ หรือมากับลุงอาเธอร์ พ่อของรอนก็ตามเพียงแต่รอนสนใจในสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวจนเกินไป
เฮอร์ไมโอนี่เกือบอาละวาดพวกเขาอยู่ล้วที่ไม่ช่วยเธอแบ่งเบาภาระในการซื้อของหากแต่ว่าทรีโอน่าเดินเข้ามาสมทบกับพวกเธอเสียก่อน
“ไง เลือกซื้อของกันได้เยอะแล้วหรือยัง”ทรีโอน่าถามในขณะที่ชะโงกหน้าไปมองที่รถเข็นซึ่งมีของเพียงสองสามอย่างเท่านั้น
“ยังเลย คือ ฉันซื้ออยู่คนเดียว พวกผู้ชายเขาสนใจอย่างอื่นน่ะ ไม่ยอมมาช่วยกันบ้าง” เฮอร์ไมโอนี่บ่นพร้อมทำหน้ามุ่ย ทรีโอน่าหัวเราะคิก
“เธอทำรายการไว้หรือเปล่าว่าจะซื้ออะไรบ้าง”
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าแล้วยื่นกระดาษที่มีรายการซื้อของไว้ยาวเหยียด ให้เด็กสาวดู ทรีโอน่ารับมาดูคร่าวๆแล้วพับเป็นสองส่วนแล้วฉีกมัน เธอยื่นกระดาษส่วนหนึ่งให้เฮอร์ไมโอนี่แล้วพูดขึ้นว่า
“เราแยกกันซื้อของดีกว่า ขืนไปเป็นกลุ่มแบบนี้ทั้งวันก็ไม่เสร็จ”
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้ม เธอพยักหน้าเห็นด้วย
“เธอไปกับรอนนะ เดี๊ยวฉันกับเดรโกจะแยกไปซื้อของ ทางด้านโน้น เอง”ทรีโอน่าจัดคู่ให้เสร็จ
รอนยิ้มหน้าบานเห็นดีด้วยเป็นที่สุด เพราะเขาเองอยากอยู่ตามลำพังกับเฮอร์ไมโอนี่เหมือนกัน แต่เดรโกกลับหันไปมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง เฮอร์ไมโอนี่แกล้งทำเป็นไม่สนใจเขา
“ก็ได้ ทรีโอน่า งั้นฉันฝากเดรโกด้วยนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดจบก็ดึงรอนเพื่อให้เดินตามเธอไปอีกทางหนึ่ง แต่เดรโกกลับหันมาที่ทรีโอน่าแล้วพูดว่า
“เธอรออยู่ที่นี่กับรอนก่อน เกรนเจอร์เราต้องคุยกัน”
เดรโกรีบดึงเฮอร์ไมโอนี่หรือถ้าจะให้ถูกลากเธอไปยังช่องสินค้าด้านในทันทีก่อนที่คนอื่นที่ยืนงงอยู่จะได้สติ เขาดันตัวเธอไปชนกับชั้นวางของถึงจะไม่รุนแรง แต่เธอก็รู้ถึงอารมณ์ขุ่นมัวของเดรโกดี
“มีอะไรอีกล่ะ นายนี่เรื่องมากจังมัลฟอย”เฮอร์ไมโอนี่บ่นในขณะที่เดรโกกอดอกต่อว่าเธอ
“เธอจะให้ฉันไปซื้อของกับยายนั่น โดยที่เธอแอบไปจู๋จี๋ กับรอนสองคนเนี่ยนะ ไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือไง เกรนเจอร์”
เฮอร์ไมโอนี่ทำตาโต เธอยิ้มเยาะ ใส่เขาที่ยืนหน้าบึ้งอยู่ข้างหน้าเธอก่อนสวนตอบไป
“ขอโทษนะ มัลฟอย นายเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ฉันกับรอนเราไม่ได้เป็นแฟนกัน เราจึงไม่ต้องแอบไปจู๋จี๋อย่างที่นายพูด อีกอย่างนายน่าจะขอบใจฉันมากกว่าที่ฉันให้นายไปกับหญิงสาวในสเปคของนาย ไม่ชอบหรือไง”
“ไม่ชอบ”เขาสวนกลับทันที
”เธอไม่ต้องยัดเยียดฉันให้ใคร เกรนเจอร์ แล้วฉันก็จะไม่ไปกับทรีโอน่าด้วย เธอต้องเปลี่ยนคู่ จัดแจงให้ทรีโอน่าไปกับรอนซะ จะโดยวธีไหนก็ได้”
เฮอร์ไมโอนี่กอดอกเธอมองเดรโกอย่างขุ่นใจ
“ทำไมฉันต้องทำตามที่นายพูดด้วย มัลฟอย”
เขายิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมนั่นทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่ชอบเอาเสียเลย
“เพราะเธออาจจะต้องชี้แจงกับทรีโอน่าว่าฉันเป็นใครถึงสาปพวกมักเกิ้ลพวกนั้นเวลาที่ฉันตกใจนะสิเกรนเจอร์” เขาแกล้งพูดเสียงกร้าว ให้เธอรู้ว่าเขาทำจริง แต่เดรโกกลับขมวดคิ้วเมื่อได้ฟังสิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่พูด
“นายไม่กล้าหรอกมัลฟอย ถ้านายอยากสาปคนก็เชิญเลย เพราะคนที่เดือดร้อนคือนาย ไม่ใช่ฉัน”
เดรโกยืนนิ่งอึ้งเธอพูดถูก ถึงเขาจะกล้าแค่ไหน แต่นี่มันเกินความสามารถที่เขาจะทำได้ การสาปคนที่ไม่รู้เรื่องมันคงไม่ต่างอะไรกับคนขี้ขลาดซึ่งมันไม่ใช่เขา อีกอย่างมันคงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ในโลกเวทมนต์และมักเกิ้ลแน่ถ้าเขาทำแบบนั้น
เดรโกถอนหายใจ พลางคิดหนัก แบบนี้เขาคงต้องเปลี่ยนวิธีอื่น วิธีแบบไหนที่จะให้คนหัวดื้ออย่างเธอยอมเขาได้ล่ะ เดรโกมองหน้าเฮอร์ไมโอนี่นิ่ง และแล้วก็มีแผนการบางอย่างผุดขึ้นมาที่หัวอันชาญฉลาดของเขาจนได้ เดรโก ยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ กับแผนการที่เขาพึงพอใจเป็นที่สุด
“ก็ได้ เธอพูดถูกว่าฉันไม่กล้าในเรื่องนี้ แต่มีเรื่องอื่นที่ฉันกล้าและฉันก็เคยพิสูจน์ให้เธอรู้มาหลายครั้งแล้วเกรนเจอร์ เธออยากลองอีกสักครั้งไหมล่ะเกรนเจอร์”
เขาเดินอาดๆเข้ามาใกล้เธอจนเธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของเขาที่ปะทะต้นคอเธอยามที่เธอเบือนหน้าหนีเขา
“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ เดรโก “เฮอร์ไมโอนี่ร้องเบาๆในขณะที่ใช้มือทั้งสองข้างของเธอยันหน้าอกเขาที่เข้าใกล้เธอทุกทีให้ถอยออกห่างให้ได้มากที่สุด
เฮอร์ไมโอนี่เดาไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอไม่รับปากเขาในตอนนี้ เดรโกเป็นคนที่ทำอะไรโดยที่ไม่แคร์ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเสียด้วย
“ก็ได้ ก็ได้ ฉันจะไปกับนาย”
เดรโกยิ้ม เขายอมให้เฮอร์ไมโอนี่ผลักเขาถอยออกห่างได้ง่ายๆก่อนที่เธอจะเบี่ยงตัวหลบเขาและยืนหน้าแดงอยู่ใกล้ๆ เขาสังเกตเห็นว่ามีมักเกิ้ลที่ช่องสินค้านั้นอยู่สองสามคนพวกนั้นอมยิ้มและหันมามองพวกเขาทั้งคู่อย่างสนใจ
ตอนนี้เดรโกเองก็หน้าแดงไม่แพ้เฮอร์ไมโอนี่แล้วเหมือนกัน เขามัวแต่โกรธและโมโหตอนที่เขาลากตัวเธอมาเขาเองก็ไม่ทันสังเกตเสียด้วยว่ามีพวกมักเกิ้ลอยู่ด้วยหรือเปล่า
และในตอนนี้ สิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดก็คือ การส่งยิ้มเจื่อนๆให้กับคนพวกนั้น
เฮอร์ไมโอนี่ที่ยืนหน้าแดงอยุ่ตรงนั้น ทั้งโกรธและอายจนไม่กล้ามองสบตาใครๆเธอรีบเดินออกจากตรงนั้นอย่างเร็วที่สุด เท่าที่จะเร็วได้โดยมีเดรโกเดินตามหลังมาติดๆ
“มีอะไรเหรอ เฮอร์ไมโอนี่ ทำไมหน้าแดงจัง”รอนทักเฮอร์ไมโอนี่ในขณะที่เธอเดินมายังไม่ทันถึงตัวของรอนเลยด้วยซ้ำ
“ไม่มีอะไรหรอก รอน”เฮอร์ไมโอนี่กล่าวอ้อมแอ้มและพยายามหลบสายตารอนที่จ้องเขม็ง ในขณะที่รอนเองก็สงสัยในอาการและสงสัยความลับที่ทั้งเฮอร์ไมโอนี่และเดรโกคุยกัน
ทรีโอน่าก็ไม่ต่างจากรอนเท่าไหร่ผิดตรงที่ทรีโอน่าฉลาดพอที่จะนิ่งเฉยไม่แสดงกิริยาอาการสงสัยให้ใครเห็นเธอแกล้งทำเป็นสีหน้าเฉยเหมือนเป็นเรื่องปกติแต่ใจของเธอกลับร้อนยิ่งกว่ารอนเสียอีก
ทรีโอน่าแตะแขนเดรโกเบาๆก่อนชวนให้ไปซื้อของด้วยกัน
“งั้นเราไปซื้อของกันเลยดีกว่าไหมเดรโก”
“คือ เราเปลี่ยนแผนกันนิดหน่อยน่ะ” เดรโกพูดขึ้นพร้อมบุ้ยใบ้ไปทางเฮอร์ไมโอนี่ที่ทำสีหน้าเหมือนคนสำลักน้ำ เธอถอนหายใจเล็กน้อยก่อนตัดสินใจ
“อ้อ... เออ... ใช่ คือ ฉันจะไปกับเดรโก เองส่วนทรีโอน่าเธอไปกับรอนก็แล้วกันนะ”
“ได้ไงเฮอร์ไมโอนี่ ทำไมเธอต้องไปกับมันด้วย”รอนประท้วง รู้สึกไม่สนุกแล้วกับการมาชอบปิ้งในครั้งนี้เพราะเขาเองตั้งใจจะมากับเฮอร์ไมโอนี่มากกว่าที่จะไปกับคนอื่นที่ไม่สนิท
“คือเดรโกอยากให้ฉันเลือกของให้เขานิดหน่อยน่ะ”เฮอร์ไมโอนี่โกหก เธอรู้ว่ามันฟังดูแปลกแต่มันเป็นเหตุผลเดียวที่เธอคิดได้ในเวลานี้
รอนหน้าเบ้ ยังไงเขาก็ไม่ยอมง่ายๆหรอก
“ฉันก็อยากให้เธอเลือกซื้อของให้ฉันเหมือนกันนี่ เฮอร์ไมโอนี่”
ทรีโอน่าที่ยืนฟังอยู่นานแล้วพยายามที่จะหาทางออก เธอยิ้มหวานให้เดรโก ก่อนพูดเสียงเรียบขันอาสาให้เขาอย่างเต็มใจ ทั้งๆที่เธอเองก็ไม่มั่นใจนักว่าสิ่งที่เธอทำจะป็นผลดีกับตัวเธอเองหรือเปล่า
“เดรโกเธออยากซื้ออะไรล่ะ ฉันเลือกให้เธอเองก็ได้นะ”
เดรโกยิ้มตอบกลับเธอ แต่ก็ยังคงอ้างเหตุผลอยู่เหมือนเดิม
“ไม่รบกวนเธอดีกว่าทรีโอน่า พอดีฉันคุยกับเฮอร์ไมโอนี่ไว้ก่อนแล้ว เขาเข้าใจดีแล้วว่าเขาจะต้องซื้ออะไรและแบบไหน”
“งั้นเหรอ เออ ไม่เป็นไรฉันไปกับรอนก็ได้”
ทรีโอน่าฉลาดพอที่จะไม่เซ้าซี้เดรโก ทั้งๆที่ใจของเธออดนึกเสียดายที่แผนการที่จะได้เดินอยู่ตามลำพังกับเขาไม่เป็นผล เธอรู้สึกเซ็งขึ้นมานิดๆที่จะต้องเดินกับ รอน วิสลี่ส์ ทีค่อนข้างซื้อบื้อเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขาจะคุยเก่งก็เถอะ แต่รอนไม่ได้เป็นคนที่เธอชื่นชอบนี่น่า
รอนเองรู้สึกขุ่นใจอยู่เหมือนกัน เขาพอดูออกว่าทรีโอน่าชอบเดรโกอยู่ไม่ใช่น้อยการที่ทรีโอน่ายอมไปกับเขานั้น สิ่งที่เขาหวังว่าพอมีโอกาสที่จะสลับคู่กันได้เลยมีเหลือแค่ศูนย์เท่านั้น
“แต่...ฉัน” แต่ก่อนที่รอนจะพูดได้จบประโยค เดรโกก็คว้ามือของเฮอร์ไมโอนี่และลากเธอให้เดินไปกับเขาอีกทางหนึ่งทิ้งให้รอนเป็นใบ้อยู่ตรงนั้นพร้อมกับสายตาที่ไม่เป็นมิตรของทรีโอน่าที่มองมาทางเฮอร์ไมโอนี่
ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะทันถูกลากตัวไปจากตรงนั้นสายตาของเฮอร์ไมโอนี่ก็ทันได้เห็นแววตาของทรีโอน่าที่เย็นชาใส่เธอ เฮอร์ไมโอนี่มองอย่างไม่สบายใจนัก เธอละสายตาของเธอจากทรีโอน่าหันมามองรอนที่มองตอบเธออย่างงุนงงและสงสัยในที
เดรโกคว้ามือของเฮอร์ไมโอนี่และลากเธอไปราวกับว่าเธอเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ แต่นี่เธอเป็นสาวแล้วจึงดูเหมือนคู่รักที่กำลังจูงมือกันเดินมากกว่า
เมื่อเดินมาไกลพอสมควรแล้วเฮอร์ไมโอนี่พยายามแกะมือของเธอออกจากเขาที่จับเธอไว้อย่างเหนี่ยวแน่น
“ปล่อยได้แล้ว มัลฟอย ฉันไม่ใช่เด็กน่ะ! ฉันเดินเองได้ขอบใจเธอมาก!” เธอพูดขณะที่พยายามสะบัดมือของธอออกจากเขา
“’งั๊นก็หยุดทำแบบเด็กๆ ได้แล้ว!” เขาหันมาดุใส่เธอเมื่อเห็นเธอไม่ยอมหยุดดึงมือออกจากเขา
“ฉันไม่ได้ทำเหมือนเด็กๆน่ะ” เธอพูดแล้วทำน้างอใส่หนุ่มผมบลอนส์ในทันที เดรโกยิ้มเยาะเล็กน้อยก่อนปล่อยมือเธอ เฮอร์ไมโอนี่ทำสีหน้าไม่พอใจใส่เขาแล้วสะบัดหน้าหนีเดินเลี่ยงเขาไปแล้วเดินไปตามทางเดินอย่างช้าๆเพื่อหาสิ่งที่เธอต้องการโดยมีเด็กหนุ่มเดินตามหลังเธอไปติดๆ
ในช่วงที่เฮอร์ไมโอนี่หยุดรถเข็นที่ซุ้มราคาพิเศษที่กำลังลดราคาอยู่นั้น พวกมักเกิ้ลหลายคนกำลังมุงดูเพื่อซื้อของที่ซุ้มนี้ค่อนข้างมากและเฮอร์ไมโอนี่ก็เป็นอีกคนที่อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย เดรโกรู้สึกหวาดขึ้นมานิดๆเขาทำตัวไม่ถุกและไม่รู้ว่าจะต้องยืนตรงจุดไหนถึงจะไม่เป็นที่เกะกะของคนอื่นและต้องเป็นที่ๆเขาสามารถมองเห็นเฮอร์ไมโอนี่ได้ด้วย
ช่วงที่ชุลมุนอยู่นั้นเอง
“ขอโทษน่ะครับ” ชายที่อยู่ด้านหลังเดรโกพูดขึ้น มันทำให้เขากระโดดด้วยความตกใจแต่โชคดีที่เฮอร์ไมโอนีไม่ทันได้สังเกตเห็นเพราะสายตาเธอกำลังสนใจในสินค้าที่เธอเลือกจับอยู่
“เอ่อ...มีอะไรหรอ?” เดรโกถามอย่างไม่มั่นใจนักว่าชายผู้นี้ต้องการอะไรจากเขากันแน่ หรือ เขาทำอะไรผิดอีกล่ะ
“ขอทางหน่อยได้ไหม?” ชายสูงวัยกล่าวยิ้มๆพร้อมชี้ไปที่สินค้าข้างหน้าที่เดรโกยืนบังอยู่
กว่าที่เฮอร์ไมโอนี่และเดรโกจะออกจากซุ้มนั้นได้ก็เล่นเอาเดรโกหน้าซีดแล้วหน้าซีดอีก แต่เนื่องจากเดรโกเป็นคนขาวอยู่แล้ว จึงไม่เป็นที่ผิดสังเกตของเฮอร์ไมโอนี่เท่าไหร่นัก เขาถอนใจอย่างโล่งอกที่ออกมาจากตรงนั้นได้ ความจริงเขาไม่ชินกับความวุ่นวายของพวกมักเกิ้ลเหล่านี้เลยจริงๆ
“ฉันต้องทำอย่างไร! ที่นี่เต็มไปด้วยพวกมักเกิ้ลที่มาจากไหนก็ไม่รู้”เดรโกกระซิบถามเฮอร์ไมโอนี่
ที่เดินอยู่ข้างๆเขา
“พวกเขาไม่ได้มาจากที่ไหนนี่มัลฟอย เขาเกิดจากแม่ของเขาและเติบโตขึ้นจนกลายเป็นผู้ใหญ่ก็เท่านั้นเอง”
เฮอร์ไมโอนี่พูดกับเขาอย่างเฉยชา เธอโกรธเขาหรือ ไม่ เธอแค่งอนเขานิดหน่อยก็เท่านั้น
“ความจริงเธอมันก็ฉลาดนี่เกรนเจอร์! เธอคงรู้น่ะว่าฉันหมายถึงอะไร!”เขาพูดกระแนะกระแหนใส่เธอ เฮอร์ไมโอนี่รู้ดี เธอค้อนเขาเล็กน้อย
“ใช่, ฉันรู้ นายพูดว่าพวกนั้นมาจากที่ไหนไม่รู้เยอะแยะ และฉันก็แค่บอกว่าพวกนั้นมาจากที่ไหน!”
เธอพูดพร้อมกับพยายามไสรถเข็นไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง แต่เดรโกกลับจับรถเข็นตรึงไว้อยู่กับที่แล้วพูดตวาดใส่เธอ
“เธอนี่กวนประสาทชะมัดเลยนะเกรนเจอร์ หรือโกรธที่ฉันขวางเธอไม่ยอมให้เธอไปกับคนรักของเธอ”
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ เธอหันไปมองคนที่อยู่รอบๆแล้วลดเสียงลงกระซิบเตือนเดรโกพร้อมต่อว่า
“เบาเสียงนิดจะได้ไหม มัลฟอย อายคนอื่นเขามั่งสิ ฉันจะพูดกับนายเป็นครั้งสุดท้ายนะ ว่ารอนไม่ใช่แฟนฉันเขาคือเพื่อน และนายเองก็ควรที่จะดีใจที่นายมีฉันมาเป็นเพื่อนนะ!”
เดรโกมองไปรอบๆเหมือนกับเฮอร์ไมโอนี่แต่แทนที่เขาจะลดน้ำเสียงของเขาลง เขากลับก้มหัวลงต่ำเพื่อพูดกับเธอ และใบหน้าของเขาก็อยู่ชิดกับเธอมาก มากเสียจนเธอผงะถอยห่างออกไปด้วยความตกใจ กับท่าทางและประโยคของเขา ที่ยังก้องอยู่ในหูของเธอตลอดเวลาในวันนั้น
“เธอไม่ต้องเป็นเพื่อนฉันก็ได้! เพราะฉันอยากให้เธอเป็นอย่างอื่นมากกว่า เกรนเจอร์”
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
อะไรมันทำให้เขาพูดกับเธอไปแบบนั้น แต่นั่นมันมาจากส่วนลึกที่แท้จริงของเขาเองนี่นา เขาพูดออกไปมันทำให้เขาแทบกัดลิ้นตัวเองตายไปเสียแล้วในตอนนั้น แต่โชคดีที่ เฮอร์ไมโอนี่ไม่ทันที่จะคิดอะไรลึกซึ้งมากไปกว่านั้นกับคำพูดของเขา เธอเข้าใจว่า เขาอยากให้เธอเป็นศัตรูของเขามากกว่า ซึ่งนั้นก็เป็นการดีที่ให้เธอคิดไปแบบนั้น เพราะเขาเองยังต้องการเวลาในการตัดสินใจอีกสักนิด เพราะเขาไม่ค่อยมั่นใจนักว่าเธอจะมีความรู้สึกกับเขายังไง บางทีเขาอาจจะคิดไปคนเดียวก็ได้ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น เขาขอเก็บช่วงเวลาดีๆเหล่านั้นไว้ภายในใจของเขาเองจะดีกว่า เพียงแต่ในช่วงเวลานี้ช่วงเวลาที่เขาได้อยู่กับเธอ ขอให้เป็นช่วง เวลาที่ดีที่สุดของเขาก็พอ
“เดรโก!” เฮอร์ไมโอนีร้องเสียงดังขณะที่เธอปรบมือใกล้หน้าเขา
“อะไร?” เขาถามด้วยน้ำเสียงหงงุดหงิดเล็กน้อยที่เธอมาขัดจังหวะในห้วงความคิดของเขา
“นายยืนอยู่ที่นั่นเกือบ 5 นาทีแล้วน่ะ และฉันเหนื่อยที่จะต้องเรียกนายเป็นเวลานานแล้วด้วย !” เธอพูดเกินจริงไปเล็กน้อย
“ขอโทษ! มันไม่ใช่ความผิดของฉันน่ะ ก็ที่นี่มันน่าเบื่อนี่นา” เขาโกหกคำโต อันที่จริงเขามีความสุขที่ได้อยู่ใกล้เธอมากกว่า
เฮอร์ไมโอนีกลอกตาไปมาและเธอกำลังทำให้เดรโกกลับเข้ามาสู่สภาพความเป็นจริงอีกครั้ง
เดรโกเดินติดกับเธอและเดินข้างใกล้รถเข็น โดยวางมือไว้บนรถเข็นใกล้ๆกับมือของเธอและเมื่อมือของเขาและเธอสัมผัสกันมันทำให้คนทั้งคู่เหมือนเกิดไฟฟ้าช๊อต เดรโกและเฮอร์ไมโอนี่สบตากันชั่วขณะ และพวกเขาต่างก็เสมองไปที่อื่น โดยที่เดรโกมองไปที่สิ่งของที่เฮอร์ไมโอนีใส่ไว้ในรถเข็น
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยที่เห็นว่าของที่เธอซื้อค่อนข้างมากมายกว่าที่เขาคิด
“นี่เราต้องการอาหารเยอะมากขนาดนี้เลยหรอ?” เขาถาม
เฮอร์ไมโอนี่มองดูของในรถเข็นแล้วยักไหล่
“ถ้านายต้องการมาที่นี่ทุกวันล่ะก็ ฉันจะได้เอามันออกซะ” เธอตอบ
“ไม่, “เขาครางเสียงอย่างน่าเห็นใจ” งั๊นก็ตามนั้นล่ะกัน ” เขาพึมพำโดยดี
“ดีแล้ว” เธอตอบ และรู้สึกอารมณืดีขึ้นมานิดๆบ้างแล้วในตอนนี้
“แล้วเธอจะไปจ่ายเงินค่าของเหล่านี้อย่างไร?” เขาถามในเวลาต่อมา
“วินนี่ให้จดหมายของดัมเบิ้ลดอร์แกฉันซึ่งมีเงินเท่าที่เราต้องการใช้ เขาบอกว่าจะส่งเงินให้เราอย่างน้อยสัปดาห์ล่ะครั้ง” เธอตอบ
เดรโกพยักหน้ารับรู้และไม่พยายามที่จะถามอะไรอีก ในตอนนี้ เดรโกเริ่มรู้สึกผ่อนคลายและไม่รู้สึกกังวลเพราะเขาเริ่มสงบขึ้นบ้างแล้ว เขาไม่ต้องกระโดดตกใจอีกต่อไปหลังจากที่เขากระโดดถึง 7 ครั้งเมื่อมีพวกมักเกิ้ลเข้ามาใกล้ๆ ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง เฮอร์ไมโอนีเห็นที่เขากระโดดถึง 5 ครั้ง โดยที่ 3 ครั้งแรกเธอเห็นและก็แอบหัวเราะคิกคัก ส่วนอีก 2 ครั้งเธอเพียงแค่อมยิ้มและกลอกตาไปมา
แต่ในทันใดนั้นเหมือน สวรรค์แกล้ง
“ลูกค้าทุกท่านโปรดทราบ” เสียงจากอินเตอร์คอมดังขึ้นมาทุกทิศและนั่น มันทำให้เดรโกสติแตกขึ้นมาอีกครั้ง
“อย่าเข้ามาน่ะ! ” เดรโกตะโกนลั่นขณะที่หันมองไปรอบๆอย่างหวาดกลัว และพยายามที่จะหาที่มาของเสียงนั้น นี่เองที่ทำให้พวกมักเกิ้ลที่อยู่รอบๆเขาตกใจและรีบวิ่งออกไปด้วยความหวาดกลัว
“เดรโก, เงียบเดี๋ยวนี้น่ะ!” เฮอร์ไมโอนีขู่เขาขณะที่เธอคว้าแขนเขาเพื่อให้เขาสงบสติอารมณ์แต่ดูเหมือนเขาจะยิ่งสติแตกไปกันใหญ่ เขาคว้าตัวเฮอร์ไมโอนี่และกอดเธอไว้แน่นจนเธอหายใจแทบไม่ออก
“ใครอยู่ที่นั่น! ” เขาร้องเสียงดังลั่นพร้อมกับหมุนไปรอบๆโดยเหวี่ยงเฮอร์ไมโอนี่หมุนตามไปด้วยเพื่อมองหาที่มาของเสียงว่ามาจากไหน
“มันเป็นแค่เพียงอินเตอร์คอมน่ะ! และนายก็หยุดการกระทำที่เหมือนคนบ้าที่เสียสติซะที! คนอื่นกำลังมองนายอยู่!” เธอขู่พร้อมกับยิ้มขอโทษกับคนที่มองเขาอย่างกลัวๆ
“อืม...มิส” หญิงสูงวัยคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่พลางเหล่มองเขาอย่างระมัดระวังตัว
“ค่ะ? ขอโทษที่ส่งเสียงเอะอะ” เฮอร์ไมโอนีขอโทษขณะที่เธอกำแขนของเดรโกไว้แน่น แต่ไม่ได้แรงมากนักเพราะเธอไม่ได้แข็งแรงเมื่อเทียบกับเขา
“ไม่มีปัญหา แต่เธอควรจะให้สามีเธออยู่ห่างจากความยุ่งเหยิงหรือส่งไปที่สถาบันจิตเวทซึ่งยินดีที่จะรับเขาไว้รักษา ซึ่งถ้าเธอต้องการฉันสามารถที่จะช่วยติดต่อให้เธอได้” ประโยคสุดท้ายที่เธอพูดเป็นเพียงเสียงกระซิบ โดยที่มีเฮอร์ไมโอนีเท่านั้นที่ได้ยิน
“โอ๊ะ..ไม่ใช่ค่ะ เขาไม่ใช่สามีของฉัน--”เฮอร์ไมโอนี่รีบปฎิเสธและแทบที่จะวิ่งออกไปจากที่นั่นในทันทีด้วยความอับอาย
“ฉันรู้, ฉันเข้าใจที่เธอไม่อยากบอกใคร” เธอพูดด้วยเสียงกระซิบเบาๆพร้อมทั้งขยิบตาให้เฮอร์ไมโอนี่เหมือนๆจะเข้าใจ
“ไม่, เขาไม่ใช่จริงๆ และก็ไม่มีวันใช่” เธอตอบเสียงหนักแน่นพร้อมใบหน้าที่แดงกล่ำ
หญิงชรานั้นดูเหมือนจะไม่พยายามที่จะเข้าใจ เฮอร์ไมโอนี่ง่ายๆ
“มันจะเป็นความลับระหว่างเรา” เธอยิ้มและให้นามบัตรกับเฮอร์ไมโอนี
“อืม.....ค่ะ ขอบคุณ” เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มแหยๆ เธอพูดพร้อมกับรับนามบัตรไว้ และหวังว่าผู้หญิงคนนี้จะไปเสียที
“อย่าลืมล่ะแม่หนู โทรหาฉัน เรื่องนี้รับมือไม่ยากหรอก โชคดีนะ ลาก่อนจ๊ะ” เธอบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้เดรโก และเดินจากไป เดรโกถลึงตาไปที่ผู้ญิงสูงวัยคนนั้นอย่างไม่พอใจนิดๆเขาไม่ได้ยินว่าเธอพูดอะไรกับเฮอร์ไมโอนี่บ้าง แต่เขารู้ว่าหญิงคนนั้นกำลังพูดถึงเขาแน่เพราะเธอมองมาทางเขาอยู่หลายครั้งที่พูดคุยอยู่กับเฮอร์ไมโอนี่
“เหมือนกับว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ข้างฉัน” เธอหยอกล้อเดรโก
“เธอหมายถึงอะไร?” เขาถามด้วยความรู้สึกที่งงๆและรู้สึกอาย
“นายจำเป็นต้องไปที่สถาบันจิตเวท นะซิ และฉันก็เห็นด้วยกับเขา” เธอตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปากและหัวเราะที่ลำคอเบาๆอย่างสนุก
เดรโกหน้าแดงระเรื่อ “มันไม่ใช่ความผิดของฉัน คนพวกนี้อยากใช้อินเตอร์คอมเองทำไมล่ะ” เขาพูดเสียงดัง
แต่เฮอร์ไมโอนีไม่อยู่รอฟังเขา เธอเดินไปที่แคชเชียร์เพื่อรอจ่ายเงิน
“นี่เป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้วใช่มั๊ย” เขาถาม
“ใช่, ทำไมหรอ? นายต้องการจะอยู่ที่นี่อีกหรือไง?” เฮอร์ไมโอนีถามด้วยรอยยิ้มที่ล้อเลียนเขาพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น
“ไม่” เขาตอบอย่างรวดเร็ว
เฮอร์ไมโอนีตัดสินใจที่จะจ่ายเงินและก็ออกจากร้านขายของชำ เพื่อมายืนรอทรีโอน่าที่รถดีกว่าที่จะรอทรีโอน่าข้างในเพราะเดรโกอาจจะโรคเก่ากำเริบขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ก็เป็นได้ เมื่อเธอจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนต่างช่วยกันถือของกันพะรุงพะรังและเดินออกไปจากร้านในทันที
ความคิดเห็น