คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 : เรื่องราวในอดีต
ตราบาปลิขิตรัก
บทที่ 3 – เรื่องราวในอดีต
การหายตัวของเอลฟ์นั้นแตกต่างจากพ่อมดแม่มดพอสมควร มันไม่มีการบีบตัวหรือทำให้เกิดการหายใจที่ติดขัดมากนัก แต่มันก็ไม่นานพอที่จะรู้ถึงความแตกต่างมากมายอะไร เพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีเฮอร์ไมโอนี่ก็มาปรากฏตัว ที่ห้องโถงอันหรูหราของ คฤหาสน์มัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยย่างเท้ามาที่นี่หรือแม้แต่คิดจะเฉียดเข้ามาใกล้มันอีกเลยนับตั้งแต่คืนที่เธอโดนจับและโดนทรมานโดยเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ แค่เท้าเธอสัมผัสกับพี้นของสถานที่นี่มันก็มีอานุภาพพอที่จะผลักดันทำให้ท้องไส้ของเธอปั่นป่วนขึ้นมาได้อีกครั้ง ความทรงจำของเธอหวนกลับมาเหมือนกับโดนมีดกรีดลงที่หัวใจจนทำให้ร่างกายของเธอสั่นไหวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ร่างสูงใหญ่ของมัลฟอยก็ปรากฏขึ้นที่หน้าประตูของคฤหาสน์เช่นกัน เฮอร์ไมโอนี่ที่ยังคงบอบช้ำ ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้มากนักแต่เธอก็พยายามที่จะยืดตัวขึ้นในทันทีเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้เธอ เดรโกรเดินรอบๆตัวเธอและ สำรวจตัวเธอเหมือนกับสำรวจสมบัติชิ้นหนึ่งของเขาก็ไม่ปาน
“ท่านมัลฟอยขอเสื้อโค๊ทแก่แกสบี้?”
จากหางตาของเธอ เฮอร์ไมโอนี่เห็นเอลฟ์ร่างเล็กที่มีรอยย่นบนใบหน้าสวมใส่ผ้าคลุมโต๊ะสไตล์โรมันยืนโค้งอย่างนอบน้อมเยื้องอยู่ด้านหลังเขา เดรโกดึงเชือกรัดเอวออกจากเสื้อคลุมสีดำ พร้อมกับปล่อยมันลงที่แขนของเอลฟ์สูงวัยที่รีบวิ่งออกไปพร้อมกับมันอย่างรวดเร็ว
เดรโกส่งสายตามาที่เธออย่างเยือกเย็นพร้อมด้วยรอยยิ้มเล็กๆอย่างพึงพอใจ
“เธอรู้ไหมว่าฉันรอเวลานี้มานานแค่ไหน?” เดรโกกล่าวเสียงเบา พร้อมทำตัวเป็นราชสีห์ที่เยื้องกรายวนรอบๆตัวเธออย่างช้าๆ
“ปล่อยฉันนะมัลฟอย นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่”เฮอร์ไมโอนี่ส่งเสียงตวาดลั่นอย่างไม่พอใจ
เดรโกเหยียดยิ้มเล็กน้อย“แล้วเธอคิดว่าฉันต้องการอะไรล่ะเกรนเจอร์ หลังจากหลายปีที่ฉันต้องทนทรมานเพราะเธอ”
เฮอร์ไมโอนี่แสดงความโกรธออกมาจากลำคอเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้เธออีกนิดจนใกล้ชิดเธอ จมูกของเขาสัมผัสที่ผมเธออย่างจงใจในขณะที่ หน้าอกของเขาสัมผัสที่หลังของเธอและเมื่อเขาหายใจออกลมหายใจร้อนๆของเขาสัมผัสที่ต้นคอเธอ
“นายพูดเรื่องอะไร”เฮอร์ไมโอนี่เสียงสั่นเมื่อเธอพยายามที่จะเบี่ยงกายหนีแต่เดรโกจับแขนเธอไว้อย่างแน่นหนาจากเบื้องหลังจนเธอขยับตัวแทบไม่ได้
“คิดสิ เกรนเจอร์ แม่มดที่ฉลาดอย่างเธอน่าจะเดาออก”เสียงของเขากระซิบที่ข้างหุเธอเบาๆ เฮอร์ไมโอนี่ยืดตัวขึ้นตรงอย่างใช้ความคิด ข้อเท็จจริงบางอย่างผุดขึ้นกระจ่างในสมองของเธอ โดยไม่ต้องขบคิดให้ยุ่งยากเลย เดรโก มัลฟอยไม่ใช่คนประเภทที่จะปล่อยให้ศัตรู ของเขาลอยนวลไปได้ และที่เขาซื้อเธอมาเพราะเขาต้องการกำจัดเธอด้วยมือของเขาเองเพื่อความสะใจ เขาต้องการทรมานเธอและฆ่าเธออย่างช้าๆ
“อย่างเดียวที่ฉันคิดออกสำหรับคนอย่างนาย นายอยากให้ฉันตาย ”
เดรโกเดินมาเบื้องหน้าเธอและจ้องหน้าเฮอร์ไมโอนี่เขม็ง สีหน้าของหญิงสาวมีทั้งแววกระด้างและทระนงจนเขาอดชื่นชมความกล้าหาญของเธอไม่ได้
“เธอคิดอย่างงั้นเหรอเกรนเจอร์”น้ำเสียงของเดรโกปราศจากความรู้สึกใดๆ
“ใช่คนไม่มีหัวใจอย่างนายจะทำอะไรเป็นนอกจากการฆ่า ฆ่าทุกคนที่นายต้องการให้ตายไปจากชีวิตของนาย”
สันกรามของเดรโกสั่นกระตุกกับทุกคำพูดที่เชือดเฉือนของเธอ
“ผิดแล้วเกรนเจอร์ เพราะการที่เธออยู่ในขุมนรกแบบนั้นมันฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็นอยู่แล้วฉันคงไม่ซื้อเธอมาเพื่อทำเรื่องไร้ประโยชน์แบบนั้นแน่”
“แล้วทำไมล่ะมัลฟอย ทำไมนายต้องทำแบบนี้”เฮอร์ไมโอนี่แผดเสียงสูงอย่างสุดจะทน เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่ศัตรูคนนี้ทำ เธอไม่เข้าใจวาเขาซื้อเธอมาและนำตัวมาที่นี่ทำไม ถ้าเขาไม่คิดจะฆ่าเธอ แต่ในสมองของเธอก็รู้ดีเช่นกันว่า ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตามมันไม่เป็นผลดีกับตัวเธอเลยเช่นกันเหมือนดั่งกับว่าเธอเพิ่งกระโจนหนีจากกระทะร้อนๆลงมาที่กลางกองไฟโดยแท้
สีหน้าของเดรโกยังคงนิ่งเฉยอยู่เหมือนเดิม ขณะที่สายตาของเขาเลื่อนจากดวงตาสีน้ำตาลของเธอลงมาตามลำคอและผิวเนื้อที่เปราะเปื้อนของเธอซึ่งยังคงส่วนของความสวยงาม ก่อนที่จะวกกลับมาที่ใบหน้าของเธออีกครั้งอย่างเฉยเมย
“เพราะเธอ....เป็นของฉันไง” เสียงของเดรกโกพูดขึ้น ค่อนข้างโอหังและมั่นใจ ในระหว่างที่เขาเดินไปรอบๆตัวเธอ ซึ่งไม่มีอะไรนอกจากแขนและขาของเธอที่ทรุดกองอยู่กับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง
เฮอร์ไมโอนี่แทบจะพูดไม่ออกเธอไม่เคยนึกว่าจะเจอคำตอบแบบนี้จากปากของคนใจคออำมหิตแบบเขามาก่อน
“อะไรนะ นายเป็นบ้าไปแล้ว ฉันไม่ได้เป็น...” เฮอร์ไมโอนี่กล้ำกลืนฝืนคำพูดด้วยน้ำเสียงเบาโหวงและพยายามลุกขึ้นยืนด้วยตัวของเธอเอง
“เธอเป็นของฉัน เกรนเจอร์ เป็นตั้งแต่แรก “เขาเอ่ยขึ้นอย่างอดกลั้นสุดๆ
“ไม่ “คำพูดสั้นๆแค่คำเดียวแต่มีอำนาจล้นเหลือสำหรับเขาในเวลานี้ “ฉันไม่เคยมีอะไรกับนาย เราไม่เคยญาติดีกันมัลฟอย พวกเราเป็นศัตรูกันตั้งแต่ต้น จนกระทั้งตอนนี้ก็ใช่ นายพูดเรื่องงี่เง่าอะไรของนายอยู่มัลฟอย”
เขาจ้องเธอด้วยสายตาเย็นชาอีกครั้งและไม่มีร่องรอยที่จะแสดงออกถึงความประหลาดใจแม้แต่น้อยถึงสิ่งที่เธอกังขา เขารู้อยู่ตลอดว่าสิ่งที่ผ่านมาระหว่างเขากับเธอมันจบไปแล้วตั้งแต่ที่เขาทำผิดร้ายแรงกับเธอและทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงกับหัวใจตัวเอง
ความเงียบยังคงแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ แค่เพียงชั่วครู่ เดรโกจึงตัดสินใจพูดบางอย่าง
“เธอจำเรื่องของเราไม่ได้ ฉันไม่โทษเธอหรอก เพราะฉันเอง เธอถึงจำอะไรไม่ได้”เขาทำหน้าเศร้าเพียงแว๊บเดียวก่อนสายตาเขาจะเปล่งประกายเย็นชาเหมือนเก่า “ฉันจะทำให้เธอจำเรื่องระหว่างเราให้ได้”
ชายหนุ่มยื่นมือออกไปจับเธอแต่เธอสบัดตัวหนี
“อย่านะ “ เธอพูดเสียงห้วนและเด็ดเดี่ยว “อย่ามาถูกตัวฉัน ฉันไม่ต้องการจดจำเรื่องระหว่างฉันและนาย ฉันเกลียดเธอ เดรโก มัลฟอย ฉันเกลียด..”
“พอแล้ว”เดรโกแผดเสียงร้องอย่างขัดใจ เขาก้าวเข้ามาใกล้โดยไม่พูดพล่ามทำเพลง เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งโหยงจากนั้นพยายามที่จะถอยหนีแต่สายไปเสียแล้ว เขาจับคางเธอด้วยมือที่ใหญ่โตข้างหนึ่งและเชยหน้าเธอขึ้นมามองเขา เฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลาย แต่กระนั้นเสียงของเธอเกือบจะมั่นคงขณะที่เธอกระพือขนตาใส่เขาและพูดขึ้นว่า
“ต่อไปนี้นายไม่ต้องมาเสแสร้งทำดีกับฉัน ระหว่างเราคือศัตรูกันเท่านั้น ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ฉันจะหนี ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อจะหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้”
“ก็ลองสิ” เขาพูดเสียงเย็น “เธอเป็นของฉันแล้ว เกรนเจอร์ ฉันจะไม่ยอมปล่อยเธอไปอีกแล้วไม่มีทาง “เขาโต้กลับและดึงเธอเข้าหาตัวโดยที่เธอพยายามจะขืนตัวออกตลอดเวลา
“นายไม่มีทางบังคับฉันได้ มัลฟอย”
เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับทุบแผงออกกว้างแข็งแรงของเดรโกเท่าที่แรงทั้งหมดที่เธอมี เดรโกปล่อยให้เธอระบายความโกรธบนตัวเขาไม่นานนักเมื่อนิ้วอุ่นๆของเขาจับรวบข้อมือบอบบางของเธอไว้แน่น
“ฟังจากน้ำเสียงของเธอ เธอคงไม่ยอมฉันแน่ๆใช่ไหมเกรนเจอร์ ดี ฉันคงต้องสร้างกฏกันหน่อยแล้วระหว่างเรา “
เขาผลักเธอออกไปจนเฮอร์ไมโอนี่แทบล้ม แต่เธอประคองตัวเธอเองเอาไว้จนได้ เธอตวัดสายตาเตียดแค้นชิงชังมาทางเขา เมื่อเขากำลังเอ่ยปากสร้างกฎของเขาขึ้นมาเองตามอำเภอใจ
“จำไว้ เกรนเจอร์ เธออยู่ในพื้นที่อาณาบริเวณของคฤหาสน์ฉัน และถ้ามีแขกมาเยี่ยมฉัน เธอจะต้องอยู่ในบริเวณที่ฉันจัดไว้ให้เท่านั้น เว้นแต่ฉันจะเรียกเธอ และถ้าเธอถูกเรียกเธอจะต้องมา เธอจะพูดได้เฉพาะตอนที่ฉันพูดด้วยเท่านั้น ถ้าเธอไม่สามารถปฏิบัติตามกฏนี้ได้เธอจะต้อง-“ เขาหยุด และจับที่แก้มเธอ บังคับข้อมือของเขาเพื่อเอียงหน้าเธอให้เผชิญกับหน้าเขา “-พบกับจุดจบที่เลวร้ายอย่างมากและเธอก็อาจจะต้องถูกทำโทษโดยฉัน”
ทันใดนั้นความทรงจำในอดีตเมื่อตอนปีสามที่เธอชกมัลฟอย ก็ย้อนกลับมาหาเธอ ดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่ลุกโพล่ง เธอชกเขาอย่างแรงเท่าที่เรี่ยวแรงของเธอจะมีในตอนนี้ มือของเขาจับแน่นที่หมัดของเธออย่างว่องไว เขาหัวเราะระหว่างที่เธอพยายามจะต่อสู้ ดิ้นรน รอยยิ้มของเขาจางลงเมื่อเขาโยนเธอไปไว้ที่พื้นอีกครั้งอย่างไม่ปราณี
“ชอว์นีย์, ซิลล่า พาคุณเกรนเจอร์ไปที่ห้อง” เดรโกพูดอย่างเย็นชา พร้อมกับดึงถุงมือออกจากมือ
“ถ้าคุณผู้หญิงแอสโทเรียรู้ว่าซิลล่ากำลังทำอะไรอยู่” เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินหนึ่งในเอลฟ์พึมพำ “ให้บริการแก่เลือดมนุษย์สกปรก”
สิ้นเสียงของเอลฟ์ เดรโกเคลื่อนไหวไม้กายสิทธิ์ไปที่มันอย่างรวดเร็ว แสงสีเขียวที่วิ่งออกไปจากปลายไม้กระทบร่างของเอลฟ์ตัวนั้นกระแทกร่างนั้นลงไปกองนอนกลิ้งอยู่บนพื้นแทบจะในทันที เอลฟ์เคราะห์ร้ายกรีดเสียงร้องด้วยเสียงที่เจ็บปวด เดรโกตวัดไม้กายสิทธิ์อีกครั้งคราวนี้มันถูกยกตัวขึ้นเขวี้ยงออกไปจากห้องนั้นเต็มแรง
“ห้ามพูดคำนั้นในบ้านของฉันอีก!” เสียงของเขาก้องกังวานไปทั่วห้อง เขาปรบมือเสียงดังขึ้นสามครั้งอย่างเป็นจังหวะและทันใดนั้นมีดวงตานับพันดวงปรากฏขึ้นในความมืด “เอลฟ์ตัวไหนพูดคำนั้นจะได้รับเสื้อผ้า เข้าใจไหม!”
มีเสียงบ่นพึมพำอย่างไม่พอใจของพวกเอลฟ์เป็นร้อยๆเสียงดังขึ้นทั่วกัน แต่เดรโกไม่สนใจ เขามองด้วยสายตาที่เยือกเย็นไปที่เอลฟ์ตัวที่เหลืออีกตัวที่ยืนตัวสั่นด้านหลังของเฮอร์ไมโอนี่
“อย่างที่ฉันพูด” เดรโกพูดขึ้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมกับปรับไหล่เสื้อของเขาให้ตรง “พาคุณเกรนเจอร์ขึ้นไปยังห้องของเธอ”
ชอร์นี่พยักหน้ามันทั้งพยุงและลากตัวเฮอร์ไมโอนี่ที่ยืน งงด้วยความตกใจ และเดินออกไปจากห้องนั้นอย่างเร่งรีบ
เดรโกยืนนิ่ง ส่งสายตามองตามเธอไปจนพ้นประตู เขาใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งกดคลึงต้นคอหนักๆไปมา และถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย เขาสาวเท้ายาวๆตรงไปที่โซฟาสีดำทมึนตัวใหญ่และทรุดนั่งลง
ผ่านไปสองปีนับจากปีหกเฮอร์ไมโอนี่เปลี่ยนแปลงไปมากจากที่เขาเคยรู้จัก เด็กหญิงที่เต็มไปด้วยความเบิกบานและรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา เหมือนเด็กสาวกะโปโลคนหนึ่ง เธอเติบโตขึ้นเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัวถึงแม้จะอยู่ในสภาพมอมแมมและเสื้อเสวตเตอร์หนาเตอะขนาดนั้น แต่รูปร่างของเธอยังกระตุ้นให้ผิวหนังของเขาเร่าร้อนไปทุกส่วน เธอยังคงดูบอบบางถึงแม้ภายนอกเธอจะดูแข็งแกร่งและเย็นชาก็ตาม
แต่ถึงแม้เธอจะเปลี่ยนแปลงไปมากสำหรับเขาแต่อย่างหนึ่งที่เกี่ยวกับเฮอร์ไมโอนี่ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง อิทธิพลที่เธอมีต่อหัวใจของเขานั่นเอง
เดรโกหลับตาเพื่อคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา และแทบจะในทันทีที่ภาพความทรงจำในอดีตสว่างวาบเข้ามาในสมอง
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
สองปีที่แล้ว
ห้องนั่งเล่นรวมเรเวคอล ชั้นปีที่หก
เวลา 3 ทุ่ม 45
เฮอร์ไมโอนี่เริ่มมึนมันเป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่แล้วเพราะสิ่งที่เธอดื่มเข้าไปคือวิสกี้ไฟเป็นเครื่องดื่มที่ผิดกฎของโรงเรียน และน่าแปลกที่นักเรียนส่วนใหญ่กลับชมชอบมัน และแอบเอามาดื่มกินกันยามมีงานเลี้ยงสรรสันต์อยู่เสมอ
และคืนนี้มันเป็นคืนพิเศษ ลูน่าได้ส่งเทียบเชิญให้พวกเธอเป็นแขกพิเศษให้มาร่วมงานปาร์ตี้กันที่ห้องนั่งเล่นรวมเรเวคอล บ้านกริฟฟินดอร์ที่ถูกเชิญมาในงานนี้มีเพียง แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่และจินนี่เท่านั้นไม่ใช่ทั้งหมดของบ้าน
เฮอร์ไมโอนี่ไม่ต้องการให้ทุกคนหมดสนุกเธอจึงรับวิสกี้ไฟจากลูน่ามาดื่มบ้างพอเป็นพิธี แต่เฮอร์ไมโอนี่คิดผิดในงานเลี้ยงเธอมักถูกชนแก้วอยู่บ่อยครั้ง และเธอก็ปฎิเสธไม่ได้ในทุกๆครั้ง
คืนนี้มีเกมส์ท้าทายความกล้า มีการจับฉลากเพื่อหาผู้กล้าสี่คน ผู้กล้าทั้งสี่จะถูกท้าทายให้ทำอะไรก็ได้ที่ไม่เคยทำมาก่อนและถ้าผู้กล้าทำภารกิจได้สำเร็จพวกเขาเหล่านั้นจะเชิดชูความกล้าหาญนั้นโดยทำป้ายผู้กล้าติดไว้ในห้องของบ้านผู้กล้าและบ้านเรเวคอล
และผู้กล้าทั้งสี่ที่ถูกจับฉลากได้ มีรอนและเฮอร์ไมโอนี่ร่วมอยู่ด้วย
“เยี่ยม”เฮอร์ไมโอนี่กล่าวประชดเมื่อมีเสียงประกาศชื่อของเธอดังแว่วมาจากโจลี่ สาวร่างใหญ่พรีเฟ็คบ้านเรเวคอล
เฮอร์ไมโอนี่วางวิสกี้ไฟบนโต๊ะข้างๆพลางสลัดหัวตัวเองไปมาเพื่อคลายความมึน เธอไม่น่าดื่มมันมากเลย เธอคิด ตอนนี้เธอรู้สึกมึนและอยากจะอาเจียนเฮอร์ไมโอนี่เปลี่ยนอิริยาบทของเธอเพื่อทำให้อาการมึนหัวของเธอลดน้อยลง เธอเลยพยายามเบี่ยงเบนความสนใจไปที่คนอื่นรอบข้างแทน เธอชำเลืองมองไปที่คนอื่นๆอย่างพิจารณา แฮร์รี่และจินนี่นั่งติดกันเป็นตังเม ในขณะที่คนอื่นๆกินและดื่มกันอย่างหนัก มีบางกลุ่มจับเข่าคุยกันอย่างออกรส เฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบๆอีกครั้งเพื่อมองหารอน แต่เธอไม่เห็นเขาอยู่ที่ไหนเลย เขาคงจะออกไปทำภารกิจละมั้งเพราะเธอเห็นโจลี่เดินเข้าไปคุยกับรอนก่อนหน้านั้น แต่ภารกิจของรอนคืออะไร หวังว่ามันคงจะไม่อันตรายสำหรับเขาเฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างเป็นห่วง
ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น โจลี่เดินเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ เฮอร์ไมโอนี่เคยเจอกับโจลี่มาหลายครั้งแล้วที่สนามควิชดิช พวกเธอเคยคุยกันบ้างเป็นบางครั้ง เธอมีนิสัยค่อนข้างดี คุยเก่งและร่าเริง
“ฉันท้าเธอ เกรนเจอร์”เสียงของโจลี่ถูกดัดเสียงให้ใหญ่เล็กน้อยดูน่าเกรงขามและมีผลทำให้มีเสียงหัวเราะรอบข้างอย่างเห็นเป็นเรื่องขบขัน พวกเขามองเธอเป็นจุดเดียวเพื่อรอให้เธอรับคำท้า
เกมส์คงเริ่มขึ้นแล้วสินะ เฮอร์ไมโอนี่คิด เธอลุกขึ้นยืนและกอดอกในขณะที่มีเสียงเชียร์ให้เธอรับคำท้าอยู่รอบตัวเธอ
“เฮอร์ไมโอนี่ เอาเลย กล้าๆหน่อยเธอเป็นกริฟฟินดอร์นะ”แฮร์รี่ส่งเสียงอยู่ข้างๆเธอท่าทางจะสนุกไปกับเขาด้วย
“ก็ได้โจลี่ ฉันรับตำท้า” มีเสียงตบมือดังเกรียวกราว โจลี่ยกมือขึ้นเพื่อให้ทุกคนเงียบ
“ฉันมีการแสดงความกล้า เล็กๆน้อยๆกับผู้กล้าของกริฟฟินดอร์ อะไรที่คุณไม่เคยทำเกรนเจอร์คุณจะต้องทำมันในวันนี้”
“เธอจะให้ฉันทำอะไร”เฮอร์ไมโอนี่พยายามจะระงับอารมณ์ที่ตื่นเต้นของเธอ
“รอนจะไปซ่อนตัวอยู่ที่ห้องๆหนึ่งในหอคอยตะวันตกเมื่อถึงเวลา และนี่คือแผนที่เป็นทางลัดออกจากหอคอยเรเวคอลแต่มันค่อนข้างเสี่ยงสักหน่อยเพราะเธออาจจะเจอฟลินท์และคุณนายนอริสเดินตรวจตราแถวนี้ และนั่นเธอจะต้องหลบเลี่ยงเขาให้ได้ เธอจะเริ่มทำภารกิจนี้ตอนเที่ยงคืนตรง ”
“เฮ้ เที่ยงคืนงั้นเหรอ แต่มันเคอร์ฟิวนี่นา”เฮอร์ไมโอนี่พยายามประท้วง แต่โจลี่ก็พูดตัดบทเธอทันควัน
“นั่นแหละคือสิ่งที่เธอไม่เคยทำ เฮอร์ไมโอนี่ เธอไม่เคยแหกกฎของโรงเรียนมาก่อนและนี่คือกฎข้อที่สองที่เธอจะต้องทำ “
“โอ๊ะ ตายแล้ว”เฮอร์ไมโอนี่ครางเสียงอ่อย นึกสยองขวัญในสิ่งที่เธอจะต้องทำ โจลี่อมยิ้มเมื่อเห็นอาการของเธอ
“หลังจากที่เธอเจอรอนแล้วกฎข้อที่สาม”โจลี่ยิ้มอย่างมีเลศนัย ”ห้ามพวกเธอออกมาจากห้องนั้นจนถึงรุ่งเช้า”
มีเสียงผิวปากจากเด็กหนุ่มสองสามคนมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงไปถึงใบหู เธอรู้ว่าพวกนั้นต้องคิดเรื่องอะไรที่ไม่ธรรมดาแน่และไม่ใช่แค่พวกเด็กหนุ่มคึกคะนองพวกนั้นเท่านั้น แต่จากสายตาที่แต่ละคนมองเธอมันแปลกๆจนเธอรู้สึกได้
“แล้วทำไมถึงต้องให้ฉันกับรอนอยู่ในห้องนั้นจนถึงรุ่งเช้าด้วยล่ะแล้วรอนไม่ได้ทำภารกิจหรือไง”เฮอร์ไมโอนี่ถามท่าทางสงสัย โจลี่นิ่งไปเหมือนนึกที่จะหาคำตอบให้กับเธอ
“ก็เพราะมันเป็นกฎที่ต้องปฎิบัตินะสิเฮอร์ไมโอนี่ แล้วรอนเขาก็ปฎิบัติภารกิจเหมือนกันกับเธอนั่นแหละเพียงแต่ว่าคนละอย่าง”เสียงของลูน่าพูดแทรกขึ้นมาท่ามกลางความโล่งใจของโจลี่
“รอนทำภารกิจอะไร ลูน่า”เฮอร์ไมโอนี่จ้องเธอเขม็ง ลูน่ามีมีอาการลังเลเล็กน้อยก่อนยิ้มหวานให้กับเฮอร์ไมโอนี่
“บอกไม่ได้หรอกความลับถ้าเธออยากรู้ไว้ไปที่นั่น เจอรอนก็ถามกันเอาเองก็แล้วกัน”
เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก”แล้วพวกเธอจะให้ฉันทำอะไรในห้องนั้นล่ะ”
“เอาเป็นว่าพวกฉันไม่บังคับเธอหรอกนะว่าพวกเธอจะทำอะไรกันบ้าง แต่ถ้าฉันเป็นรอนนะ ฉันคงอยากจะทำอะไรร่วมกับเธอหลายๆอย่างเลยล่ะ”
ลูน่ากระซิบข้างหูเธอและมีผลทำให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง เธอรู้ว่ารอนชอบเธอ แต่เธอก็ไม่คิดว่ารอนจะทำอะไรกับเธอแบบนั้นถ้าเธอไม่ค้องการ แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็อดที่จะหวั่นใจไม่ได้เช่นกันที่ต้องอยู่สองต่อสองเพียงลำพัง กับเด็กหนุ่มที่มีใจให้กับเธอถึงแม้ว่ารอนจะสนิทกับเธอมากแค่ไหนก็ตาม
“แล้วกฎข้อแรกละคืออะไร”เฮอร์ไมโอนี่ถาม
“นี่วิสกี้ไฟ “โจลี่วางวิสกี้ไฟไว้ที่พื้นข้างหน้าเธอสามขวด”เธอจะต้องดื่มวิสกี้ไฟให้หมดสามขวดก่อนที่จะไปหารอนที่หอคอยนี่คือกฎข้อแรก”
เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้างและพยายามไม่สนใจอาการโหวงเหวงที่เธอรู้สึกในช่องท้องของเธอ“ไม่เอาน่าโจลี่ ฉันกินหมดสามขวดนี้ ฉันเดินไม่ไหวแน่”
ปากเล็กๆของโจลี่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มหยัน“เธอรับคำท้าฉันแล้วเฮอร์ไมโอนี่ ความจริงเธอไม่ทำก็ได้นะ แต่ฉันชักไม่แน่ใจเสียแล้วสิเรื่องความกล้าหาญของเธอ จะจริงอย่างที่เพื่อนๆเธอบอกกันหรือเปล่า”
เฮอร์ไมโอนี่นิ่งเงียบ ผ่านไปหลายวินาทีก่อนที่เธอจะพูดอย่างลังเล
“งั้น ก็ได้ฉันจะทำ”
เฮอร์ไมโอนี่หน้าบึ้งเล็กน้อยเธอถอนหายใจและลมหายใจเริ่มติดขัด เธอกำลังสับสนตอนนี้สิ่งที่เธอควรทำ สงบอารมณ์ ใช่! ความเงียบ เธอต้องการความเงียบ ขอแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น เพื่อที่จะได้สงบสติอารมณ์ของเธอ เธอจะต้องเลิกคิดถึงเรื่องอื่นๆ เลิกคิดถึงเรื่องการที่เธอต้องติดขังอยู่ในที่แคบๆมืดๆโดยลำพังกับรอน เลิกคิดถึงเรื่องการที่ถูกจับได้และเลิกคิดถึงอาการอยากจะอาเจียนของเธอ ใช่! เธอต้องไปห้องน้ำในตอนนี้!
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
แฮร์รี่หลุดเสียงขำออกมากับลูน่าในขณะที่จินนี่ยืนกอดอกทำหน้าบึ้งอยู่ข้างๆแฮร์รี่หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่ผลุนผลันเข้าห้องน้ำเพื่ออาเจียน
“เธอคิดว่ามันจะสำเร็จไหมแฮร์รี่”ลูน่าถามและไม่ทันที่แฮร์รี่จะตอบกลับเธอ จินนี่ก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อนอย่างไม่พอใจ
“ไม่อย่างแน่นอน เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีทางยอมพี่รอนแน่ ความคิดตื้นๆเล่นอะไรกันเหมือนเด็กๆ”จินนี่ค้อนให้แฮร์รี่ที่ยังคงหัวเราะไม่เลิก
“เอาน่าจินนี่ถึงจะไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยๆรอนก็ยังมีโอกาสได้แสดงความในใจกับเฮอร์ไมโอนี่ก็ยังดี”
“นั่นนะสิ อย่าเครียดน่าจินนี่”ลูน่าพูดและกรอกตามองหารอน”รอนไปเตรียมตัวแล้วเหรอยังไม่ถึงเวลาเลย”
“คงงั้นมั้งเห็นคว้าวิสกี้ไฟไปหลายขวดแล้วเดินออกไปแล้วนี่”จินนี่ตอบซ่อนอาการนิ่วหน้าอย่างใม่เห็นด้วยไว้เมื่อสังเกตุเห็นแฮร์รี่มองมาทางเธอและยิ้มให้
“หวังว่าคงไม่เมาเสียก่อนที่จะสารภาพรักกับเฮอร์ไมโอนี่หรอกนะแฮร์รี่กล่าวด้วยรอยยิ้มที่ขบขัน
“เอ๊ะ....นั่น”เสียงของแฮร์รี่ขาดหายไปเมื่อมองข้ามไหล่จินนี่ไป”เขามาทำอะไรที่นี่”
จินนี่และลูน่าหันไปตามสายตาของแฮร์รี่และเห็นผู้ที่ก้าวเข้ามาใหม่ในชุดแต่งกายสีดำสนิทพร้อมกับความลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาที่แสนจะเย็นชานั้น เดรโก มัลฟอย
“ไม่น่าแปลกหรอก มีบางคนของเรเวคอลรู้จักกับเดรโกอาจจะเชิญเขามาก็ได้ เราอย่าสนใจเลย ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า”ลูน่าพูดและทั้งหมดก็หันเหความสนใจจากผู้มาใหม่มาที่วิสกี้ไฟที่โจลี่นำมันมาให้กับพวกเขาเพิ่มเติม
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งผมบลอนด์ใบหน้าดูเย็นชาทีทุกคนรู้จักกันดีในนามเจ้าชายสลิธลีน ก้าวเท้าเข้ามายังห้องนั่งเล่นรวมเรเวคอลอย่างมั่นใจโดยปราศจากบอร์ดี้การ์ดร่างยักษ์กับสาวข้างกายอย่างที่ทุกคนคุ้นตาขนาบข้างเหมือนที่เคย เขาชะงักเท้าเล็กน้อยก่อนก้าวเท้ายาวๆไปจนถึงกลางห้อง เสียงสนทนาอย่างสนุกสนานและเสียงหัวเราะดังกระทบหูเขาเป็นสิ่งแรก ฟังดูเหมือนทุกๆคนพูดพร้อมกัน เขากวาดสายตาไปรอบๆและเจอกับกลุ่มเป้าหมายเด็กหนุ่มเด็กสาวกลุ่มหนึ่งยืนคุยกันอย่างออกรสแต่เดรโกพุ่งความสนใจไปที่หญิงสาวแสนสวยผมดำหยิกสลวยดวงตาสีฟ้าอ่อนที่เขารู้จักดี คลาริส ไรออน
เธอโบกมือให้เขาและก้าวเท้ายาวๆตรงมาที่เขาอย่างรวดเร็ว
“เดรโก ทำไมมาช้าจัง”คลาริสพูดต่อว่าโดยไม่จริงจังนัก
“ทำธุระเพิ่งเสร็จ”เขาพูดในขณะที่เดินตามคลาริสไปยังโต๊ะเครื่องดื่ม
“ทำธุระเพิ่งเสร็จหรือว่าเพิ่งสับหลีกสาวๆเพิ่งแสร็จกันแน่”เธอพูดแหย่และยื่นวิสกี้ไฟให้กับเขา
“เธอคิดว่าฉันมีสาวๆเยอะขนาดนั้นเลยเหรอคลาริส”เขาถามและยิ้มอย่างยั่วยวนใจส่งมาให้เธอ
“อย่างน้อยๆก็มีแพนซี่กับแอสโทเรียคู่หมั้นของเธอก็แล้วกัน”
“แพนซี่นะเหรอ”เขาทำหน้าย่นเล็กน้อย”น่าเบื่อ เกาะฉันไม่ยอมปล่อยเลย ส่วนแอสโทเรียก็แค่คู่หมั้นตราบใดที่เรายังไม่ได้แต่งงานกัน ฉันก็ยังคงเป็นอิสระ หวังว่าเธอคงจะไม่คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ใช่ไหมคลาริส”เดรโกพูดขึ้นพร้อมกับหรี่ตามองดูเธออย่างชั่งใจ
“ฉันนะเหรอ”คลาริสหัวเราะเสียงใส เธอยักไหล่เล็กน้อย” ฉันไม่สนหรอกแค่ความพอใจ ไม่มีพันธะต่อกันแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ แล้วเธอล่ะ”คลาริสถามพลางมองสบในตาสีซีดที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันเร่าร้อนของเขา
เดรโกกวาดตามองด้านหน้าของชุดกระโปรงคอต่ำลึกเผยให้เห็นทรวงอกขาวผ่องที่เบียดแทรกยามที่เธอโน้มตัวลงต่ำ และยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนกวาดสายตากลับมายังใบหน้าของเธออีกครั้งก่อนตอบด้วยเสียงห้าวลึก”นั้นล่ะคือสิ่งที่ฉันต้องการล่ะ”
หญิงสาวหน้าแดงซึ่งเดรโกเองก็ไม่รุ้ว่าเป็นเพราะเครื่องดื่มที่เธอดื่มหรืออารมณ์เสน่หาที่มีต่อเขากันแน่แต่มันก็สร้างความพึงพอใจแก่เขาอย่างยิ่งยวด
“หลังเที่ยงคืนไปรอฉันที่หอคอยนะ ฉันจะไปพบกับเธอที่นั่น”
“แน่นอน ฉันจะไป”เขาตอบดวงตาวาววับเป็นประกาย
“ตอนนี้ฉันคงต้องไปก่อน”เธอกระซิบบอก ขยับตัวลุกขึ้นแต่เดรโกคว้าแขนเธอไว้ก่อน ก่อนที่จะดึงเบาๆให้เธอเอนเข้ามาใกล้เขา คลาริสหัวเราะอย่างมีจริตอย่างพอใจ
“ไปไหน”เขากระซิบถามคลอเคลียที่แก้มเธอ
“ฉันมีภารกิจต้องไปทำน่ะ”คลาริสตอบเสียงสั่นพล่าพยายามข่มอารมณ์ที่เร่าร้อนของเธอให้ออกไปจากตัว
“ภารกิจอะไร”เดรโกถามต่อยังคงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ
“เราเล่นเกมเรื่องความกล้ากันน่ะและฉันก็ได้รับมอบหมายเกี่ยวกับเกมนี้กับใครบางคน
เราได้จับฉลากเลือกตัวแทนขึ้นมาสี่คนและกำหนดให้พวกเขาทำในสิ่งที่ไม่เคยทำถ้าใครทำได้เราจะประกาศเกียรติคุณความกล้าหาญไว้ที่หอนอนเรเวคอลและบ้านของพวกเขา”คลาริสอธิบาย
“งี่เง่า” เดรโกตอบกลับ จนคลาริสตระหนักได้ถึงความเฉยชาไม่รู้สึกรู้สาของเขาซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็รู้ดี ว่าเขามีลักษณะแบบนี้เป็นบุคลิกประจำตัวอยู่แล้ว แต่น่าแปลกสิ่งนี้กลับเป็นเสน่ห์ดึงดูดอย่างหนึ่งของเขาที่สาวๆต่างพากันหลงใหลกับความลึกลับเย็นชาและเจ้าอารมณ์ของเขา และเธอเองก็เช่นกัน
“ฉันว่ามันสนุกออกนะ”คลาริสตอบกลับยิ้มๆ
“มีใครได้รับเลือกบ้าง”เขาถามเสียงเรียบโดยไม่ใส่ใจกับคำตอบนัก
“ก็มี เควิน สจ๊วต บ้านฮัฟเพิลพัฟ อีริค วิลสัน บ้านเรเวคอล โรนัลด์ วิสลี่ย์ กับเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ บ้านกริฟฟินดอร์ “ดวงตาสีเทาของเดรโกเต้นระริกเมื่อได้ยินชื่อกลุ่มเพื่อนสนิท ของแฮร์รี่ พอตเตอร์บ้านกรฟฟินดอร์ศัตรูตัวฉกาจของเขา
“อะไรนะพอตเตอร์ วิสลี่ย์แล้วยายเลือดสกปรกเกรนเจอร์นั่นก็มางานนี้ด้วยงั้นเหรอ ใครเป็นคนเชิญพวกมันมากัน”เขาปล่อยมือจากคลาริส และทำเสียงไม่พอใจ คลาริสรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดในน้ำเสียงของเขา
“เธอก้รู้ว่าเลิฟกู๊ด สนิทกับพวกวิสลี่ย์เธอเลยเชิญพวกเขามาร่วมงานด้วย อย่าไปสนใจพวกนั้นหน่อยเลยเดรโก เรามาสนุกกันนะอย่ามาเครียดกับเรื่องพวกนี้เลย” เธอกล่าวอย่างขันๆพยายามที่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายเหมือนเดิมเขามองเธอชั่วครู่ สายตาของเขาเยือกเย็นลงอีกครั้งก่อนพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า
“ฉันสนุกกับงานนี้แน่โดยเฉพาะกับเธอคลาริส”
คลาริสหัวเราะและรู้สึกเขินเล็กน้อยกับคำพูดโจ่งแจ้งของหนุ่มผมบลอนด์ที่เธอจะใช้เวลาในยามค่ำคืนนี้ด้วยกันตามลำพังสองคน
“พูดถึงวิสลี่ย์ แล้วน่าขันชะมัดเป็นชายหนุ่มคนเดียวละมั่งในฮ๊อกว๊อตส์ที่ยังไม่เสียความบริสุทธิ์”น้ำเสียงของเธอออกแววสมเพชเล็กน้อย
“สมควรแล้วล่ะ งี่เง่าแบบวิสลี่ย์ผู้หญิงคนไหนจะไปชอบลง”เดรโกพูดโต้ตอบเธอในขณะที่เอื้อมมือข้างหนึ่งสัมผัสแก้มเปล่งปลั่งของเธอก่อนจะใช้ปลายนิ้วไล้ลงมาที่ลำคอขาวผ่องนั้น คลาริสไม่เคยคาดหวังว่าจะรู้สึกตื่นเต้นไปกับสัมผัสของเขามากมายแบบที่เธอไม่เคยเจอกับผู้ชายคนใดมาก่อน คลาริสรู้สึกถึงอาการสั่นสะท้านแล่นลงไปตามไขสันหลังของเธอเธอแทบจะรอคอยคืนนี้ต่อไปไม่ไหว เธอแสร้งทำเป็นหัวเราะและเบี่ยงตัวหลบจากสัมผัสของเขาและพูดเสริมขึ้นว่า
“แต่วันนี้เขาจะแสดงความกล้าโดยการเปิดบริสุทธ์กัหญิงสาวที่เขาแอบชอบล่ะ”
เดรโกลดมือของเขาลงและหัวเราะเบาๆเหมือนเห็นเป็นเรื่องขบขัน“ใครกันผู้หญิงเคราะห์ร้ายคนนั้น”
“คลาริส ไปกันเถอะได้เวลาแล้ว”เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นอยู่ข้างหลังเธอ เธอหันไปตามเสียงและเห็นใบหน้ากลมๆของเพื่อนชายที่ต้องทำงานร่วมกัน
“โอเค สักครู่นะ”เธอตอบกลับและพยักหน้าให้เขาว่าเธอรับรู้แล้ว
ก่อนที่คลาริสจะหมุนตัวจากไปเธอหันกลับมาย้ำเดรโกเรื่องเวลานัดและถลาเข้ามาจุมพิตที่แก้มเขาอย่างรวดเร็วแล้วจึงก้าวเท้ายาวๆจากไป
เดรโกดื่มวิสกี้ไฟเป็นขวดที่สองเขาหวังว่าคลาริสน่าจะเลือกสถานที่ที่ดีกว่านี้สักหน่อย แต่ช่างประไร อย่างน้อยๆหอคอยนั่นก็ดีกว่ามีเซ็กส์กลางสนามควิชดิชก็แล้วกันคืนนี้เขาจะมีความสุขไปกับเรือนร่างที่เปล่าเปลือยและร้อนแรงของเธอ เดรโกคิดพร้อมกับรอยยิ้มที่แต่งแต้มเต็มใบหน้าของเขา
แต่สิ่งที่เดรโกไม่คาดคิดมาก่อนเลยกับสิ่งที่เขาจะเผชิญกับมันในคืนนี้ มันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา และเธอ รวมทั้งคนรอบข้างอย่างมากมาย ความรัก ความหลง ความโกรธเกรี้ยว และความหึงหวง นำพาทุกสิ่งให้เจ็บปวดจากการกระทำแต่มันก็นำความอบอุ่นและสายใยในหัวใจของพวกเขาที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นเดียวกัน
ความคิดเห็น