คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 02: หาทางกลับบ้าน
Chapter 2 หาทางกลับบ้าน
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ! เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน !
เฮอร์ไมโอนี่สลัดศรีษะของตัวเองด้วยความมึนงง เด็กหญิงเก่งที่สุดแห่งปี ผู้รู้ไปหมด แต่คราวนี้กลับจนปัญญาที่จะหาเหตุผลมารองรับสมมุติฐานที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้
เธอพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกครั้ง เธออยู่กับรอนและรอนพยายามที่จะทำเหมือนผู้ชายทั่วๆไป บังคับหลับนอนกับเธอ เธอดิ้นรนต่อสู้และหลุดออกมาได้ เธอวิ่ง วิ่ง วิ่ง จนหมดแรงและเธอก็เหนื่อยหอบอยู่ชั้นล่างของุคุกใต้ดินที่นั่นเธอหลบอยู่ในห้องที่สวยที่สุด เธอนอนหลับอยู่ที่นั่นจนถึงรุ่งเช้า ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีไม่มีอะไรที่ผิดแปลกเกิดขึ้นจนเธอเดินออกมาเพื่อพบกับเพื่อนๆของเธอแล้วเธอก็ชนกับเด็กผู้ชายที่เธอไม่เตยเห็นหน้ามาก่อน แต่มีหน้าตาและท่าทางคล้ายรีมัส ลูปิน และในเวลาต่อมาเขาบอกว่าเขาคือ รีมัส ลูปิน มันยากที่จะเชื่อได้ ในตอนแรกเธอคิดว่ามันคงเป็นเรื่องตลกอันร้ายกาจ แต่เมื่อเขาพาเธอเดินดูรอบๆเธอเห็นการปลี่ยนแปลงของฮ๊อกว๊อตส์
เธอเห็นเหล่าบรรดาอาจารณ์ที่ไม่ใช่อาจารณ์ที่สอนคนปัจจุบัน !
เธอเห็นสถานที่บางแห่งที่ไม่มีแต่ ปัจจุบันกลับมีให้เห็นจนป็นที่ชินตา
และบางแห่งในเวลาปัจจุบันเก่าแก่มากแล้วแต่ในเวลานี้มันกลับตั้งตะหง่านอย่างงดงาม
ชุดควิชดิชที่กำลังสวมใส่เพื่อฝึกซ้อมอยู่บนสนามเป็นชุดที่เธอไม่ได้เห็นในปัจจุบันแล้ว
ชุดยูนิฟอร์มบางชุด ดูเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอรู้ในทันทีว่าเธอหลงยุคเข้ามาเสียแล้ว แต่โดยวิธีไหนล่ะ เฮอร์ไมโอนี่มึนงง จนแข้งขาอ่อน
แฮร์รี่ รอน ฉันจะกลับออกไปได้ยังไงกัน ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่
เฮอร์ไมโอนี่ทรุดร่างลงที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ทะเลสาปที่เธอชอบมานั่งเล่นรองจากห้องสมุด อย่างอ่อนแรง เพื่อคอย รีมัส ลูปิน
ในระหว่างนั้น รีมัสได้พาตัวเองเข้ามายังห้องนั่งเล่นรวมที่มีสมาชิก เหล่าตัวกวนอยู่พร้อมเช็ต พวกเขากำลังเล่นหมากรุกพ่อมดกันอย่างสนุกสนาน
“ฉันมีเรื่องอยากคุยกับพวกนาย”
“ก็พูดมาสิ”เด็กชายผมดำรูปร่างผอมสูง พูดในขณะที่ก้มหน้าก้มตาเดินหมากของตนเองอย่างลังเล
“เป็นการส่วนตัว เราสี่คน”รีมัสกล่าวค่อนข้างกังวล เขามองไปยัง ซีเรียส เจมส์และปีเตอร์รวมทั้งเพื่อนบ้านคนอื่นๆอีกราวสามสี่คน
“ลึกลับดีจังแฮะ รีมัส” ปีเตอร์ผู้มีรูปร่างท้วมกว่าเพื่อนคนอื่นๆเล็กน้อยกล่าวอย่างล้อเลียน เพื่อนทั้งสามคนลุกขึ้นและเดินตามรีมัสขึ้นไปยังหอนอนของตนเอง
----------------------------------------------
“ล้อเล่น ไม่มีใครจะมาจากอนาคตได้”เด็กผู้ชายใบหน้าดูคมเข้มผมดำยาวประบ่าหยักโศกเล็กน้อยเอ่ยขึ้น และหัวเราะเหมือนเป็นเรื่องขำ
“แล้วนายมีเหตุผลที่ดีไหมล่ะชิเรียสว่าผู้หญิงคนนั้นรู้เรื่องที่พวกเราแปลงร่างเป็นเอนิเมจัสได้ยังไงทั้งๆเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดของพวกเราสี่คนเท่านั้น”รีมัสถามและเอียงคอคล้ายรอคำตอบจากใครสักคนที่จะไขข้อข้องใจของเขาได้ความตื่นตระหนกกำลังแสดงอยู่ในปฎิกิริยาของเขา
ซีเรียสยักไหล่ เขาเหลือบมองกลับไปและตอบคำถามนั้น
“ร้อยแปดรีมัส ยกเหตุผลมาสักข้อก็ได้ เธออาจจะได้ยินที่พวกเราคุยกัน หรือไม่ก็ใครบางคนในพวกเราหลุดปากพูดเรื่องนี้ออกไปโดยมีสาวๆพวกนั้นได้ยิน”
ท้ายสุดซีเรียส เจมส์และรีมัส มองมาทางปีเตอร์พร้อมกันทั้งสามคน ปีเตอร์สะดุ้งและทำเสียงจี๊ดจ๊าดเหมือนหนูอยู่ในกับดัก
“ทำไมพวกนายต้องมองมาทางฉันด้วย” รีมัสถอนหายใจ มันอาจจะเป็นจริงอย่างที่ซีเรียสกล่าว แต่รีมัสก็ยังเชื่อในความรู้สึกที่ไวกว่าคนปกติทั่วไปของมนุษย์หมาป่าในร่างของเขาได้
“แต่ความรู้สึกของฉัน ฉันว่าเธอพูดความจริง”
เจมส์ พอตเตอร์ลุกขึ้นมานั่งลงข้างๆรีมัสแล้วตบไหล่รีมัสเบาๆ
“แล้วไงล่ะ แล้วยายนั่นชื่อว่าอะไรนะ” เจมส์ถาม
“เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์”
เจมส์พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนถามต่ออย่างสงสัย “ยายเกรนเจอร์น่ะเขาต้องการอะไร”
รีมัสส่ายหน้าอย่างช้าๆ “เขาไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นแหละ เขาแค่งุนงงและสับสน”รีมัสนิ่งไปชั่วครู่ก่อนพูดต่อออกมาอย่างไม่มีทางเลือก “ เขาอยากกลับไปยังโลกของเขา เขาต้องการให้พวกเราช่วย”
“ตลกน่า “เจมส์อุทาน “เราจะช่วยในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ได้ยังไงกัน”
คราวนี้ชีเรียสบังคับตัวเองให้พูดเสียงเด็ดขาด
“ไล่เธอไปซะรีมัส อย่าให้เธอมาสุงสิงกับพวกเราอีก เธอคงแค่เหมือนสาวๆทั่วไปที่อยากใกล้ชิดคนดังแบบพวกเราเลยอ้างเรื่องบ้าๆบอๆนี้”
"บ้าฉิบ นี่เป็นเรื่องจริงจังนะซิเรียส”มีความยุ่งยากลำบากใจในถ้อยคำนั้นของรีมัส” พวกเราจะต้องจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้หญิงคนนี้ เฮอร์ไมโอนี่ เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับพวกเราถ้าเธอหลุดปากเรื่องที่พวกเราเป็นเอนิเมจัสที่ไม่ได้จดทะเบียนกับทางกระทรวง?จะเกิดอะไรขึ้น ถ้ากระทรวงรู้”
ปีเตอร์ เพ็ตติกรูส่งเสียงร้องเหมือนหนูไปยังรีมัส ลูปิน ซิเรียส แบล๊ค และเจม พอตเตอร์ ทั้งสามคนกรอกตามองไปที่เขาอย่างรำคาญใจ
"เวรเอ๋ย บ้าชะมัดเลย"เจมส์ตะโกนอย่างเดือดดาล และมองดูปีเตอร์ที่ตื่นตระหนกจนต้องเดินวนรอบๆห้องอย่างลนลาน
”จุดประสงค์ก็คือพวกเราจะต้องทำให้เธอปิดปากให้สนิท" ชีเรียส พูดอย่างช้าๆและชัดเจน สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมแบบเด็กอัจฉริยะเผชิญกับข้อสอบโหดๆ
“ขู่เธอหรืออะไรก็ได้รีมัส “คราวนี้ปีเตอร์หยุดเดินและหันหน้ามาเผชิญกับรีมัสพร้อมกับแนะนำบางสิ่ง
"ฉันจะจัดการกับเธอเอง"เจมส์กล่าวและทำเป็นเดินวางท่าเพื่อจะออกไปจากที่นั้นโดยจะทำตามอย่างที่เขาพูดจริงๆ
"หรือบางทีฉันอาจจะพูดกับเธอเอง"ซีเรียสคว้าแขนของเจมส์เอาไว้และหันเขากลับมาเผชิญหน้ากับคนอื่นๆ
"เท้าปุย เธอไม่ใช่ประเภทที่ตกหลุมนายได้ง่ายๆ และนายเองนะแหละที่อาจจะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเธอเอง"
"โอ้ว"ซิเรียสอุทานเสียงดัง และยกคิ้วของเขาขึ้นอย่างยียวน "อยู่ภายใต้อิทธิพลเนี่ยนะ ฉันเริ่มจะชอบเธอแล้วสิ"
รีมัสส่ายหน้า “พวกนายไม่เข้าใจ เธอดูเหมือนไม่ใช่ผู้หญิงทั่วๆไป “ เขาใช้นิ้วเคาะที่โต๊ะที่อยู่ข้างๆเป็นการย้ำคำพูด “ไม่ใช่แบบลิลลี่ แบบ โลลิต้า หรือแบบผู้หญิงคนไหนๆในฮ๊อกวอตส์ ฉันรู้แต่ว่าเธอพิเศษ”
เจมส์จ้องมองรีมัสพลางยกมือเหมือนขอเวลานอกจากนั้นมีรอยยิ้มประหลาดผุดขึ้นจากริมฝีปากของเจมส์
“ว้าว รีมัส พูดยังกับนายตกอยู่ในเวทมนต์ของเธอ อย่าให้ซิลเวียรู้ล่ะ เธอแหกอกนายแน่”
อาการพลุ่งพล่านระเบิดผ่านน้ำเสียงของรีมัส ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเหล่าบรรดาเพื่อนๆของเขา “ซิลเวียกับฉันเราเป็นแค่เพื่อนกัน เอาล่ะสรุปแล้วจะเอายังไง”
ซีเรียสเอนหลังพิงพนักและเอียงคอมองคล้ายกับต้องการพิจารณารีมัสจากอีกมุมหนึ่งก่อนจะพูดเสียงหนักคล้ายเป็นเชิงออกคำสั่ง
“ไล่เธอไปซะ บอกเธอว่าเรารู้ทันเธอถ้าเธอขืนปากโป้งเรื่องของพวกเรา เธอก็น่าจะรู้ชะตากรรมของเธอว่าเป็นยังไง แต่ถ้านายไม่กล้ารีมัสแค่บอกมาว่าเธออยู่ที่ไหนฉันจะจัดการเธอเอง”
รีมัสส่ายหน้าเขาเขม้นตาตอบซีเรียสอย่างเฉยเมย“ไม่ต้องฉันจัดการเองได้”
พวกเขาทั้งสี่คนลุกขึ้นเกือบจะพร้อมๆกัน คำพูดของซีเรียสทำให้รีมัสประสาทกินเขาจะพูดคำแบบนั้นกับผู้หญิงที่กำลังลำบากได้ยังไงกัน รีมัสมีท่าทีละเหี่ยและผลุนผลันออกไปอย่างรวดเร็ว
เจมส์กำลังจะตามออกไปแต่ซีเรียสหยุดเขาไว้
“นายว่ารีมัสหลงเสน่ห์สาวลึกลับคนนั้นหรือเปล่า” เจมส์ถามหลังจากทรุดตัวลงที่เตียงนอนของเขา
“ไม่รู้สิ แต่นายก็รู้ เจมส์ รีมัสเป็นคนใจอ่อน และใจดี บางครั้งก็ดีจนเกินไปเสียด้วยซ้ำ”
เป็นคำตอบล่าสุดที่ซีเรียสตอบก่อนบทสนทนาจะจบลงโดยมีคนมาตามพวกเขาว่ามีสาวๆจากบ้านเรเวคอลมาถามหา
--------------------------------------------------------
เฮอร์ไมโอนี่เริ่มพยายามตั้งสติที่ฟุ้งซ่านของเธอให้เข้าที่ เธอจะหวาดกลัวอะไรต่อมิอะไรในตอนนี้ไม่ได้เธอจะต้องคิดหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้เสียก่อน เธอจะต้องหาคนที่ช่วยเหลือเธอได้ คนนั้นจะต้องเป็นคนที่เธอเชื่อใจได้ ใช่ และเป็นคนที่มีสติปัญาที่เฉลียวฉลาดที่สุดด้วย คนแรกที่เธอนึกถึง
ดับเบิ้ลดอร์ ใช่
ทำไมเราไม่คิดถึงดับเบิ้ลดอร์ก่อนคนแรกนะ ! เฮอร์ไมโอนี่คิดด้วยความดีใจ ดับเบิ้ลดอร์อยู่ที่นี่ที่ฮ๊อกวอกส์มาร่วมร้อยปีอย่างน้อยเขาก็ต้องรู้ว่ามีประตูมิติอยู่ที่คุกใต้ดินด้วย เขาอาจจะบอกถึงวิธีที่จะเดินทางกลับไปยังโลกของเธอได้ เฮอร์ไมโอนี่หมายมั่นปั้นมือว่า ถ้ารีมัสกลับมาเธอจะให้เขาพาไปหาดับเบิ้ลดอร์ในทันที
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มออกมาได้ ในขณะที่เธอนั่งพิงต้นไม้ใหญ่เพื่อทำจิตใจให้ปลอดโปร่งอยู่นั้นพลันเธอก็ได้ยินเสียงพูดของใครบางคน
“บ้าจริง การเขียนจดหมายนี่มันยากจริงๆเลยนะเนี่ย”
เฮอร์ไมโอนี่เหลียวมองที่ต้นเสียงเสียงนั้นมันดังมาจากด้านหลังต้นไม้ใหญ่ที่เธอพิงนี่เองเธอค่อยๆเดินอ้อมมาที่ต้นเสียงที่เธอได้ยิน
เด็กหนุ่มคนหนึ่งผมยาวประบ่า ผมของเขาเหยียดตรงและดำสนิท ใส่ชุดพ่อมดเสื้อคลุมสีเขียวแบบบ้านสลิธลีนบนตักของเขามีกระดาษจดหมายสีชมพูโดยมีปากกาขนนกที่กำลังขีดๆเขียนๆลงบนจดหมายอย่างตั้งอกตั้งใจปากก็พูดพึมพำจับจุดไม่ได้
“เธอจะไปฮ๊อกมี๊ดกับฉันในวันศุกร์นี้ได้ไหม เราจะได้... เออ ..”เขาหยุดเขียนตามคำพูดที่เขาพูดพลางทำท่านึกว่าจะใช้ประโยคใดต่อดี
“หาอะไรอร่อยๆกินกัน” เสียงของเด็กสาวพูดแทรกขึ้นมามันทำให้เด็กหนุ่มถึงกับตกใจจนปากกาขนนกตกและกลึ้งหลุนๆไปยังเท้าของเธอ
เฮอร์ไมโอนี่เก็บปากกาขนนกที่กลิ้งมาอยู่ตรงเท้าของเธอแล้วเดินเอามาส่งคืนให้เขา ใบหน้าของเด็กหนุ่มทำให้เธอถึงกับชะงักเด็กหนุ่มมีผิวขาวจนซีดจมูกงองุ้มทำให้ใบหน้าที่เรียวยาวของเขาดูน่ากลัว เฮอร์ไมโอนี่กำลังครุ่นคิดว่าเธอรู้จักเขาไหมในทันใดนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็คิดถึงคนๆหนึ่ง
ศาสตราจารณ์เสนป !
แต่จะเป็นไปได้นะหรือในเมื่อสิ่งที่เธอเห็นมันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงคือแววตาของพวกเขาทั้งสองคน แววตาของคนในอนาคตเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความอำมหิตเยือกเย็นและแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ในแววตา แต่คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอคือแววตาที่มีแต่ความตระหนกและตื่นกลัว สลับกับความอ้างว้างในแววตานั้น
“เหวอ เธอ ...เป็นใครน่ะ แล้วเธอมาแอบดูฉันตั้งแต่เมื่อไหร่”
เสียงของเขาพูดรัวและเร็วจนเฮอร์ไมโอนี่อดขำไม่ได้
“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจแอบดูเธอเลย พอดีฉันนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ต้นเดียวกับเธอนั่นแหละ เออ นี่นายเขียนจดหมายรักอยู่เหรอ”
ในตอนท้ายเฮอร์ไมโอนี่เอ่ยถามมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กสาวอย่างแจ่มชัด เด็กชายหน้าแดงแล้วรีบเก็บกระดาษกับปากกาที่อยู่ในมือเอาใส่กระเป๋าอย่างลนลานเมื่อรู้สึกตัว
“เทอ....เธอ ยุ่ง อะ อะไรด้วย”เขาพูดตะกุกตะกักและชำเลืองมองเธออย่างหวาดระแวง
เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะคิกคักกับผู้ชายตัวโตๆโย่งๆที่ทำท่ากลัวเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอนักหนา
“นาย
เฮอร์ไมโอนี่ยื่นมือเพื่อจะไปจับกับเขาพร้อมแนะนำตัวแต่เด็กหนุ่มกลับมองเธอแปลกๆเขากัดริมฝีปากเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด แล้วส่ายหน้าก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในตัวปราสาทในทันที
“อ้าว เฮ้ นายไปแล้วหรือ นายยังไม่ได้บอกชื่อฉันเลย”
เขาคงตกใจกลัวเธอ! เฮอร์ไมโอนี่คิดแล้วอมยิ้ม
“เธอนี่แปลกดีนะ ผู้หญิงอะไรกันทำไมถามชื่อผู้ชายที่ไม่รู้จักกันได้อย่างหน้าตาเฉยแบบนี้ล่ะ”เสียงพูดดังมาจากด้านหลังทำให้เฮอร์ไมโอนี่เหลียวขวับไปมอง
เธอยิ้มกว้างเมื่อคนที่พูดกับเธอคือคนที่เธอรอเขามาทั้งวัน รีมัส ลูปิน
“นายมาแล้ว พวกนั้นล่ะ เขาไม่มาด้วยหรือไง”เฮอร์ไมโอนีกระพริบตาสงสัยขึ้นมาทันใด
“เขาไม่มาหรอก”รีมัสกล่าวพลางเบือนหน้าออกจากสายตาอยากรู้อยากเห็นของเฮอร์ไมโอนี่
“เขาไม่เชื่อฉัน ใช่ไหม”ปฎิกิริยาของรีมัสแสดงออกให้เธอรู้อย่างเด่นชัด “ดีจริงไม่มีใครเชื่อฉัน และ ฉันก็เดาได้ว่านายก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่เชื่อฉัน”’
เธอพูดอย่างช้าๆสายตาประสานกับเขา
“ขอโทษนะ ฉันคงช่วยเธอไม่ได้แล้ว” รีมัสสูดลมหายใจลึกๆ นี่คือสิ่งที่เขาตั้งใจจะพูดกับเธอจริงๆน่ะหรือ เขานึกตำหนิตัวเองที่เขาไม่คิดจะช่วยเหลือและคิดจะปัดความรับผิดชอบทั้งหมดลงในตอนนี้
“ช่างมันเถอะ แต่ถ้านายคิดจะช่วยฉันอีกสักครั้ง ช่วยพาฉันไปหาศาสตาจารณ์ดับเบิ้ลดอร์หน่อยได้ไหม“เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างอ้อนวอน
รีมัสเงียบไปครู่หนึ่งก่อนพูดเบาๆสีหน้าของรีมัสเปลี่ยนเป็นสับสนและระโหยโรยแรง
“ไปหาศาสตราจารณ์ เธอจะบอกเขาเรื่องที่พวกเราเป็น...”
เฮอร์ไมโอนี่สั่นหน้า“ไม่หรอกฉันไม่บอกเขาแน่ ฉันสัญญา”
“แล้วเธอจะไปหาเขาทำไมกันล่ะ”คิ้วขมวดมุ่นของเขาบอกความกังวล
“เพราะเขาอาจจะช่วยฉันให้ออกไปจากที่นี่ได้นะสิรีมัส”
อย่างน้อยบางอย่างก็กำลังได้ผลอย่างที่ควรจะเป็นเมื่อรีมัสพยักหน้าอย่างเห็นด้วยในความคิดของเธอในเวลานี้
สิบนาทีต่อมารีมัสเป็นคนพาเฮอร์ไมโอนี่ไปยังห้องทำงานของศาสตราจารณ์ดับเบิ้ลดอร์ มันไม่ง่ายเลยที่เธอจะต้องพยายามอธิบายถึงความลำบากใจ ความสับสน ของเธอกับศาสตราจารณ์ด้วยตัวเอง
ระหว่างทางเดินรีมัสพยายามชวนเธอคุยและสอบถามเรื่องราวในอนาคตที่เขายังไม่เคยสัมผัสหรือเคยไปมาก่อน
"ถ้าเธอมาจากปี2008 ที่นั่นเป็นยังไงบ้าง?"รีมัสถามอย่างสนใจมันเป็นเรื่องน่าแปลกที่ตัวเขาเองค่อนข้างสับสนในจิตใจของเขาตอนนี้ใจหนึ่งเขาไม่อยากเชื่อตามเพื่อนๆของเขาแต่อีกใจหนึ่งเขากลับคิดว่าธอไม่ได้โกหกเขา
“มันยิ่งใหญ่มากเลยรีมัส ฉันเป็นประธานนักเรียนหญิงในเวลานั้นด้วย และฉันก็มีเพื่อนหลายคน"
"โอ้ว, งั้นเหรอ? เธอคงเป็นคนดังที่สุดละมั้ง?" รีมัสถามแบบเย้าแหย่ เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะแบบเขินๆ
"อือ อันที่จริง มีคนอื่นที่ดังกว่าฉันอีกนะ เขาเป็นเพื่อนสนิทของฉันเองเขา มีชื่อว่า แฮร์รี่ พอ..."เธอชะงักและเหลือบมองไปทางรีมัส ที่จ้องมาที่เธอที่หยุดพูดโดยอัตโนมัติอย่างแปลกใจ
"แฮร์รี่ เพียงแค่ชื่อแฮร์รี่เฉยๆ"เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้เขาอย่างมีพิรุธ บ้าชะมัด ถ้าเธอพูดออกไปรีมัสคงตาโตแน่ว่าหนึ่งในสี่เพื่อนรักของเขามีลูกชายชื่อแฮร์รี่ พอตเตอร์และเป็นบุคคลเพียงคนเดียวที่ฆ่าจอมมารได้อีกด้วยและเธอเองก็ยังไม่อยากเปิดเผยข้อมูลอะไรในตอนนี้ด้วย เพราะสิ่งที่เธอรู้ในอนาคตอาจทำให้อดีตเปลี่ยนแปลงและผลที่จะตามมาย่อมทำให้อนาคตเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นตามไปด้วย
“อือ แฮร์รี่ เหรอ ชื่อเพราะดีนะ “เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้กับรีมัสอย่างอ่อนโยน
รีมัสยิ้มและยินดีที่เพื่อนใหม่ของเขารู้สึกเป็นกันเองเพียงพอกับเขาและแบ่งปันข้อมูลกันและกันได้โดยไม่เก้อเขินเหมือนในตอนแรกๆ
พวกเขาหยุดที่หน้าห้องรูปปั้นการ์กอยที่อยู่ตำแหน่งหน้าห้องของศาสตราจารณ์ดับเบิ้ลดอร์ และเมื่อรีมัสเอ่ย ปากของเขา บอกรหัสผ่านรูปปั้นการ์กอยจึงดีดตัวมันเปิดกว้างโดยอัตโนมัติไปอยู่ด้านข้างของมันทันที เฮอร์ไมโอนี่เดินตามหลังรีมัสและเดินขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว เธอผ่านประตูที่กว้างใหญ่ที่ซึ่งเปิดประตูไว้กว้างเสมือนรอรับผู้มาเยือนอยู่แล้ว
“เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ยินดีต้อนรับสู่ฮ๊อกว๊อตส์อีกครั้ง”ชายชรามีหนวดเคราสีทองเอ่ยปากทักทายและมันก็ทำให้เธอรู้ได้ในทันทีเขาคือดับเบิ้ลดอร์ในตอนนี้
“คุณคาดการณ์ไว้แล้วว่าหนูจะมา ใช่ไหมค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ดับเบิ้ลดอร์พยักหน้าและยิ้มให้กับเธออย่างผู้ใหญ่ใจดี เขาหันมาหาผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เฮอร์ไมโอนี่เพิ่งสังเกตเห็นว่าเธอนั่งอยู่ในห้องนั้นด้วยเช่นกัน
“คนนี้ไงล่ะอาราเบลที่ฉันอยากให้หนูดูแลเธอขณะที่เธออยู่ที่นี่”หญิงสาวอายุรุ่นราวเดียวกันกับเฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างอ่อนหวานมาที่เธอ เด็กสาวเดินมาหาเธอและยื่นมือเพื่อทักทายพร้อมแนะนำตัวเธอ
“หวัดดี ฉันชื่อ อาราเบล ดับเบิ้ลดอร์ ยินดีที่ได้รู้จักเธอนะ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์”
@@@@@@@@@@@@@@@
ในระหว่างนั้นห้องโถงด้านล่างรีมัส ลูปินคอยเฮอร์ไมโอนี่ที่พูดคุยอยู่กับศาสตราจารณ์ใหญ่ด้วยท่าทีหวาดระแวง เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่เข้าใกล้เขาอย่างน่ากลัวและอยู่ๆหัวของเจมส์ พอตเตอร์ก็โผล่พรวดออกมาจากอากาศบางๆจนทำให้รีมัสถึงกับสะดุ้งโหยง
“บ้าเอ๋ย เจมส์นายทำบ้าอะไรน่ะ”รีมัสตะโกนอย่างฉุนเฉียวในขณะที่เจมส์ถอดเสื้อคลุมล่องหนออกจากตัวของเขา
“เด็กผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหนรีมัส”เจมส์ถามอย่างรีบด่วนและปาเสื้อคลุมล่องหนไปที่รีมัส
“ซีเรียสสั่งให้นายพาตัวเธอไปฆ่าหรือไง”รีมัสพูดจาประชดแดกดันเจมส์ส่งไปให้เด็กหนุ่มอีกคนที่ไม่ได้มาด้วยอย่างหงุดหงิด
ความคิดเห็น