ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 14 ราคาของความเป็นอมตะ (The Price of Immortality)
หัวใจที่หลุดลอย (Take My Heart Away)
ตอนที่ 14 ราคาของความเป็นอมตะ (The Price of Immortality)
เฮอร์ไมโอนี่ปีนบันไดขึ้นไปบนหอคอยดูดาว โดยอาศัยแสงไฟจากไม้กายสิทธิ์ ตอนนี้เป็นเดือนพฤศจิกายนและพระอาทิตย์ตกลับหายไปจากขอบฟ้านานแล้ว
เธอมาถึงข้างบนในที่สุดและมองไปรอบๆ เพื่อหาทอม เธอไม่เห็นเขาที่ไหนเลย หน้าต่างบานใหญ่สีน้ำตาลแดงทางทิศเหนือของหอคอยดูดาว นำพาความทรงจำกลับไปในวันแรกที่เธอมาถึง ฉันมาที่นี่เพื่อฆ่าเขา เธอคิด ฉันจะทิ้งการรักเขาไว้ที่นี่
เฮอร์ไมโอนี่แนบมือทั้งสองลงบนกระจกและมองออกไปข้างนอก คืนนี้ไม่มีแสงจันทน์เลย และแสงดาวแตะแต้มค่ำคืนนี้ให้เป็นแสงเรืองสีดำดูอันตราย สายหมอกขมุกขมัวและหนาทึบปกคลุมป่าต้องห้ามคล้ายผ้าห่มเงา รูปร่างเล็กๆ ในเสื้อคลุมหลายคนกำลังเคลื่อนไหวอยู่ทางหางตาของเธอ เธอทำหน้านิ่วพวกเขาดูเหมือนเป็นนักเรียน
ทันใดนั้นมีมือมาอุดปากเธอไว้ และอีกมือหนึ่งเลื้อยมารัดรอบเอวของเธอ
“ทายซิว่าใคร?” เสียงหนึ่งพูดใส่หูเธอ เธอพยายามหันหลังกลับไปดูแต่พบว่ามือเขาจับตัวเธออย่างแน่นหนาแทน
เขาเหวี่ยงเฮอร์ไมโอนี่ให้หมุนมาเผชิญหน้าเขา ดวงตาที่สบตาเธอเป็นสีเงินไม่ใช่สีดำ เธอร้องด้วยความประหลาดใจแต่มือเขายังคงปิดปากเธอไว้ ไรออน มัลฟอย
“ไม่ใช่คนที่เธอคาดหวังล่ะซิ?” เขาพูดพร้อมกับยิ้มเย้ยอย่างน่าเกลียด “ฉันไม่แน่ใจว่าจดหมายหลอกๆ ของพวกเราจะใช้ได้ผลหรือไม่ แต่เธอก็ตกหลุมพรางของพวกเราจนได้ พวก
กริฟฟินดอร์ถูกหลอกได้ง่ายเหลือเกิน”
พวกเรา เธอคิดอย่างตื่นตระหนก มัลฟอยกำลังคิดทำอะไร? เธอรู้ว่าเขาเกลียดเธอแต่มันไม่มีเหตุผลที่เขาเกลียดเธอมากขนาดนี้
“มาอยู่ข้างหน้าฉัน เนสโธว์” เขาบอกพร้อมกับล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของเธอ ดึงเอาไม้กายสิทธิ์ของเธอออกมาก่อนที่เธอจะทันหยุดเขา “ถ้าเธอพยายามหนี ฉันจะทำให้เธอสลบก่อนเธอจะทันได้พูดซะอีก เลือดสีโคลน”
“ไซเรนซิโอ” เขาพึมพำขณะชี้ไม้กายสิทธิ์ของเขามาที่ใบหน้าเฮอร์ไมโอนี่ เมื่อเขาเอาไม้กายสิทธิ์ออกไป เธอพบว่าเธอไม่สามารถพูดหรือร้องตะโกนได้เลย
“เธอเดินนำไปก่อน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงต่ำและมุ่งร้าย พร้อมกับชี้นำเธอให้ไปในทิศทางที่เขาต้องการ “ถ้ามีใครถามก็บอกว่าเราออกไปข้างนอกเพื่อเดินเล่นตอนเที่ยงคืน”
เขาหัวเราะอย่างหยาบคายและเฮอร์ไมโอนี่จ้องเขากลับด้วยความเกลียดชัง เขากำลังพาเธอไปที่ไหน? และทำไม? เธอไม่เคยพูดกับเขาเลยสักคำเดียวในชีวิต ไม้กายสิทธิ์ของเขาควบคุมอยู่ด้านหลังตรงคอของเธอ การวิ่งหนีคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน
พวกเขาลงมาตามชั้นต่างๆ จนในที่สุดมาถึงชั้นล่างของโรงเรียน และสุดท้ายออกมาสู่ข้างนอกในคืนที่ลมพัดแรงและหนาวเย็น ความอยากรู้ของเฮอร์ไมโอนี่เพิ่มมากขึ้นว่าพวกเขากำลังจะไปไหน พวกเขาเดินผ่านทะเลสาบและอ้อมผ่านต้นวิลโล่ว์จอมหวด ในที่สุดพวกเขามาถึงกลุ่มพุ่มไม้ธรรมดาๆ
“Calligineus anima” มัลฟอยกระซิบ พุ่มไม้ได้แยกออกเผยให้เห็นทางเดินเล็กๆ ไรออนและเฮอร์ไมโอนี่ก้มผ่านมันเข้าไป และเฮอร์ไมโอนี่พบว่าพวกเขายังคงอยู่ข้างนอกแต่จะไม่ถูกเห็นโดยผู้คนที่อยู่ด้านนอกทางเดินนี้อย่างแน่นอน หลายรูปร่างในเสื้อคลุมสีดำ(พวกนักเรียนที่เธอเห็น) จับกลุ่มกันเป็นรูปครึ่งวงกลม พวกเขาทั้งหมดมองมาทันทีที่มัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่เดินเข้าไป
นี่ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เฮอร์ไมโอนี่คิด
มัลฟอยจับเธอหันมาเผชิญหน้าอย่างแรง และยกมือกระชากผมเธออย่างป่าเถื่อน เขากำแน่นเต็มกำมือและดึงมันจนกระทั่งน้ำตาคลอดวงตาเธอ จากนั้นเขาพูดว่า “เลือดสีโคลน เธอกลัวไหม? เธอควรกลัวนะ ไม่มีใครที่นี่ช่วยเธอได้ตอนนี้ มันน่าเสียดายที่ฉันไม่ได้ฆ่าเธอด้วยลูกบลัดเจอร์นั้น แต่ฉันกำลังรู้สึกว่าวิธีนี้อาจจะสนุกมากกว่ากันเยอะเลย”
เขาเหวี่ยงเธอลงบนพื้นอย่างป่าเถื่อนด้วยผมของเธอ และเธอลงสู่พื้นด้วยการกระแทก นอนเหยียดอย่างช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อยู่แทบเท้าของเขา มัลฟอยนั่งยองๆ ลงมาและจับคางเธอไว้ บังคับเธอให้มองตรงที่ใบหน้าเขา
“น่าเวทนา บางอย่างที่สวยงามมากเป็นที่น่ารังเกียจขนาดนี้” เขาพูดอย่างนุ่มนวล ร่างในเสื้อคลุมสีดำบางคนรอบตัวเขาหัวเราะขึ้น “ฉันอยากมีเวลาสนุกเล็กๆ น้อยๆ กับเธอก่อนพิธีกรรมนี้ แต่ถ้าฉันทำให้เธอบุบสลาย ฉันไม่คิดว่าการร่ายเวทมนตร์ครั้งนี้จะใช้การได้ น่าเสียดายจริงๆ”
เฮอร์ไมโอนี่เริ่มหวาดกลัวอย่างจริงจัง ผู้คนพวกนี้ไม่ได้กำลังล้อเล่น เธอรู้สึกว่าน้ำตาแห่งความอัปยศกำลังเอ่อขึ้นมาที่ตา
“เธอดูน่ารักมากขึ้นอีกเยอะเมื่อร้องไห้” ไรออนแจงให้เธอรับรู้ด้วยน้ำเสียงนุ่มน่ารังเกียจ พร้อมกับยิ้มเยาะและพูดว่า “ฉันสงสัยว่าฉันต้องทำอะไรถึงทำให้เธอกรีดร้องได้นะ”
เขาตบเธอด้วยหลังมือและเธอปลิวถลาไปข้างหลังกระแทกพื้นอย่างรุนแรง เขายืนขึ้นราวกับว่าหมดเวลาเลิกเล่นกับเธอแล้ว
“เรียกประชุมผู้นำของเรา” มัลฟอยพูดอย่างรวดเร็ว “บอกเขาว่าเราได้พบเครื่องสังเวยเป็นเด็กมักเกิ้ลสำหรับคาถาพลังชีวิต(Vitaus Spell) ขั้นตอนสุดท้ายของเขาแล้ว”
นัยน์ตาทั้งคู่ของเฮอร์ไมโอนี่เบิกกว้างและพยายามลุกขึ้นนั่ง แต่เขาเตะเธอล้มลงไปพร้อมกับยิ้มหยัน คาถาพลังชีวิตเป็นเวทมนตร์อันหนึ่งใช้เพื่อสร้างเวทมนตร์แห่งความเป็นอมตะ(Immortality Spell) พวกมันซับซ้อนมากเหลือเกิน ไม่แม้แต่เฮอร์ไมโอนี่ที่จะสามารถเข้าใจรายละเอียดได้ ไม่รู้ว่าต้องใช้ระยะเวลาและความฉลาดหลักแหลมแค่ไหนถึงสามารถสร้างมันได้สักอัน พวกมันถูกถือว่าลึกล้ำที่สุดในบรรดาศาสตร์มืด และต้องการเครื่องสังเวยหนึ่งชีวิต นี่เป็นการชุมนุมแบบไหนกัน?
“ใช่แล้ว” มัลฟอยพูดกับเธอ “เครื่องสังเวย ใครจะดีไปกว่าเด็กสาวที่ไม่มีครอบครัว ไม่มีเพื่อน และไม่มีภูมิหลังเลย? อาจใช้ระยะเวลาหนึ่งก่อนที่ใครจะสังเกตเห็นว่าเธอหายไป และถึงตอนนั้นมันก็สายเกินไปแล้ว” เขายิ้มให้เธอ
“ผู้นำของเรากำลังมา” เด็กหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มแจ้งอย่างเป็นพิธีการ
ตลอดทางเดินปรากฏเป็นภาพเงาของรูปร่างสีดำตัดกับแสงดาวยามค่ำคืน เมื่อเขาเข้ามาใกล้ เฮอร์ไมโอนี่จับภาพได้ว่าเป็นใครและตะลึงมองด้วยความเงียบ ทอม ริดเดิ้ล
ขณะที่เขายืนอยู่ข้างหน้าในแสงสลัว มีบางอย่างที่เหมือนจริงเกี่ยวกับตัวเขาอย่างชัดเจน มันเป็นรูปทรงไหล่ของเขา ท่าทางการเดินของเขา และการเชิดคางของเขา ใบหน้าเขาดูสว่างจากแสงไฟจางๆ คือบุคคลตัวอย่างของความสวยงามที่เยือกเย็น โหนกแก้มซีดๆ ของเขา นัยน์ตาของเขาดูเหมือนหลอมละลายเข้าไปในแสงดาว ผมยุ่งเหยิงสีดำทำให้เธอนึกถึงใครอีกคนหนึ่งที่เธอรักอย่างมาก ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขาบ่งบอกถึงอำนาจ การควบคุม และความ
สง่างาม
ทอมมองไปที่เธอ มันเป็นแค่การมองผ่านอย่างลวกๆ และเขาสบตากับเธอเพียงแค่เศษเสี้ยววินาทีเท่านั้น แต่เวลาที่เขาประสานตากับเธอ เธอเห็นบางอย่างที่เลวร้ายกว่าความโกรธ ความแปลกใจ หรือความเกลียดชัง; เขามองเหมือนไม่เคยพบเธอมาก่อนในชีวิต
“นายเรียกฉันรึ มัลฟอย?” เขาตั้งคำถามอย่างไม่ใส่ใจ
เฮอร์ไมโอนี่ตะเกียกตะกายขึ้นยืน แต่ไรออนจิกนิ้วลงบนต้นแขนเธออย่างเจ็บปวดก่อนที่เธอจะขยับ ทอมไม่ได้เคลื่อนไหวจากท่ายืนที่ดูเบื่อหน่ายและรอฟังอยู่
“ใช่แล้ว” ไรออนพูดอย่างระมัดระวัง “ฉันได้นำเด็กมักเกิ้ลมาให้นาย นายต้องการทำพิธีพลังชีวิต และบอกว่าเป็นพวกเลือดสีโคลนคนไหนก็ได้ แต่ฉันคิดว่าคนนี้เข้าท่าดี จริงไหมล่ะ?” มัลฟอยพูดกับเธอ ดวงตาทั้งคู่ของเขาส่องประกายอย่างประสงค์ร้าย เขารู้ว่าเธอไม่สามารถโต้ตอบได้อยู่แล้ว เธอได้แต่จ้องเขากลับไปอย่างเท่าเทียมกัน เข้าท่าดี? ฉันจะทำอะไรได้?
-------------------------------------------------
โดยไม่มีการเตือน ไรออนตบเข้าที่ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ ใครสักคนที่ช่างสังเกตมากๆจะเห็นว่า ทอมกระตุกเกร็งขึ้นอย่างไม่รู้ตัวขณะที่มือของไรออนสัมผัสแก้มเธอ ท่าทางของ
ไรออนดูเป็นอากัปกิริยาสบายๆ ราวกับว่าเธอเป็นเด็กที่สมควรได้รับการลงโทษ ฉับพลันทอมพบว่าเขาไม่สามารถหายใจได้;ทำไมหัวใจเขาเต้นกระหน่ำรุนแรงเหลือเกิน?
มันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ เขากำลังยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่เขาได้ทำงานมาตลอดชีวิตเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจ ผู้คนเหล่านี้คือครอบครัวเดียวเท่านั้นที่เขารู้จัก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะห่างไกลจากคำว่าครอบครัวอย่างมาก อย่างไรก็ตามพวกเขาเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง, ความฝัน, อำนาจ, และความสำเร็จของเขา
และเช่นเดียวกัน เฮเลน หญิงสาวผู้ที่เขารู้จักเพียงไม่กี่อาทิตย์เท่านั้น คนที่ไม่มีผลประโยชน์ทางการเมืองแก่เขาสักอย่างเดียว นี่คือ เฮเลน ผู้เป็นสัญลักษณ์ของแสงสว่างกับความมั่นคงทางจิตใจ และอาจจะเป็นความรักเช่นกัน
เวลานี้พวกเขาต้องการใช้เธอในพิธีบูชายัญอันร้ายกาจ ซึ่งเกี่ยวพันกับความเป็นอมตะของตัวเขาเอง ทำไมต้องเป็นเธอ? เขาเดือดดาลอยู่ข้างใน ใครคนไหนก็ได้ในโลกใบนี้ ฉันคงฆ่าโดยไม่ต้องคิดเลย แต่พวกเขาดันนำเธอมา
“ตอบฉันซิ เลือดสีโคลน” มัลฟอยพูดแบบสบายๆ ถอนคาถาเงียบงันออกจากตัวเธอด้วยการเคาะไม้กายสิทธิ์ เขากำลังสนุกสนานกับสถานการณ์นี้อย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ถูกต้องรึไง?” เขาพูดอย่างช้าๆ เสียงดังใส่เธอ “เธอสมควรตายแล้วสำหรับการสร้างเรื่องโกหกที่น่ารังเกียจ โกหกเกี่ยวกับทอม ริดเดิ้ล เธอเคยคิดว่าเขาลดตัวลงมาอยู่ระดับเดียวกับเธอใช่ไหม? เธอเป็นสิ่งโสโครกในสายตาของเขา เธอมันคนชั้นต่ำ เศษสวะเหม็นเน่า-“
“นายทำให้ฉันอยากอาเจียน” เฮอร์ไมโอนี่ขัดจังหวะเขา “คอยตามติดริดเดิ้ลตลอดเวลาเหมือนลูกหมาคลั่งรัก ทำงานสกปรกให้เขา...นายมันน่าสมเพช” เธอพ่นคำด่า พร้อมกับจ้องตาเขาที่ลุกโพรงด้วยความโกรธ
“แกสมควรตาย!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอาฆาต คว้าแขนเธออย่างรวดเร็วแล้วบังคับให้เธอประจันหน้ากับทอม “มันสมควรใช่ไหม ทอม?”
ทอมเกลียดมัลฟอยที่ทำให้เขามาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เฮอร์ไมโอนี่กำลังมองมาที่เขาอย่างแน่วแน่ แต่เขาปฏิเสธที่จะสบตากับเธอ
“ฉันเสียสละโลกทั้งใบเพื่อคุณ” เฮอร์ไมโอนี่พูด มันไม่ใช่การขอร้องหรือการกล่าวโทษ เป็นแค่ถ้อยคำเท่านั้น ในเวลานี้เขาไม่รู้ว่าความจริงมันเป็นอย่างไร เธอได้เสียสละโลกทั้งใบเพื่อเขา และเขาไม่เคยรู้มันมาก่อนเลย
เฮเลน เปรียบเสมือนเป็นราคาของความเป็นอมตะ เลือก เสียงเรียกอยู่ภายในหัวเขา
พวกเขาหรือเธอ พวกเขาหรือเธอ พวกเขาหรือ...
“ปล่อยเธอซะ มัลฟอย” ทอมสั่งเรียบๆ ท่าทางเขาไม่เปลี่ยนแปลงเลย จากนั้นเขายื่นมือออกไป- มัลฟอยมองมันราวกับว่ามันเป็นงูพิษที่กำลังคอยจะฉก- และเฮอร์ไมโอนี่จับมือนั้นไว้ การสื่อสารไหลผ่านสู่พวกเขาทั้งสอง ความเข้าใจและความอบอุ่น มัลฟอยปล่อยแขนเฮอร์ไมโอนี่ ขณะกำลังมองปากค้างไปที่ทั้งสองคน
จากนั้นทอมพาเฮอร์ไมโอนี่จากไป ไกลจากมัลฟอย ไกลจากกลุ่มคน ผ่านทางเดินเล็กๆ และออกมาอยู่บนสนามที่มีแสงสว่างจากดวงดาว
ชี้แจงค่ะ
ขออนุญาติเข้ามาชี้แจงเพื่อนๆที่ตามอ่านฟิค4เรื่องนี้
1.The wolfman mate
2.the past is a little stranger
3.I never regretted
4.strange and beautiful
จะเข้ามาบอกว่าจะพยายามอัพให้2เรื่องใน4เรื่องนี้ก่อนภายในอาทิตย์หน้านะค่ะไม่ได้ทิ้ง4เรื่องนี้แต่อย่างใดเพราะว่าช่วงนี้บริษัทที่เราทำงานอยู่ค่อนข้างยุ่งมีเวลาให้ฟิคน้อยมากแต่พยายามอัพเรื่องอื่นๆเท่าที่มีอยู่ในมือให้อ่านกันเล่นๆไปก่อน แต่ทุกเรื่องเราจะไม่ทิ้งไปอย่างแน่นอนนะค่ะจะช้าหรือเร็วก็ต้องจบแน่นอนค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตามและcommentให้นะค่ะ ขอบคุณค่ะ
ชี้แจงค่ะ
ขออนุญาติเข้ามาชี้แจงเพื่อนๆที่ตามอ่านฟิค4เรื่องนี้
1.The wolfman mate
2.the past is a little stranger
3.I never regretted
4.strange and beautiful
จะเข้ามาบอกว่าจะพยายามอัพให้2เรื่องใน4เรื่องนี้ก่อนภายในอาทิตย์หน้านะค่ะไม่ได้ทิ้ง4เรื่องนี้แต่อย่างใดเพราะว่าช่วงนี้บริษัทที่เราทำงานอยู่ค่อนข้างยุ่งมีเวลาให้ฟิคน้อยมากแต่พยายามอัพเรื่องอื่นๆเท่าที่มีอยู่ในมือให้อ่านกันเล่นๆไปก่อน แต่ทุกเรื่องเราจะไม่ทิ้งไปอย่างแน่นอนนะค่ะจะช้าหรือเร็วก็ต้องจบแน่นอนค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตามและcommentให้นะค่ะ ขอบคุณค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น