ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ficแปล harry potterห้องแห่งมิตรภาพ (Their Room) เดร/เฮอร์

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 12: ถกเถียงเรื่องงานเต้นรำ(Discussing The Ball)

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 53


     บทที่ 12 ถกเถียงเรื่องงานเต้นรำ (Discussing The Ball)

              เดรโกยืนพิงรั้วแบบสบายๆ และกวาดสายตาไปเรื่อยอย่างช้าๆ ไปที่การรวมกลุ่มของพวกกริฟฟินดอร์กับพวกสลิธีริน  เขาทอดสายตานิ่งที่เกรนเจอร์ เธอกำลังยืนอยู่อีกด้านของลานโล่งกว้างใหญ่หน้ากระท่อมของแฮกริดพร้อมกับพอตเตอร์และวีสลี่ย์  พวกเขาไม่ได้สนใจลูกครึ่งยักษ์เลยสักนิด พวกเขาพูดกันด้วยน้ำเสียงเบาใส่แต่ละคน บางครั้งบางคราวหนึ่งในพวกเขาจะชำเลืองข้ามไหล่ของตนอย่างกังวล เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครกำลังได้ยิน เกรนเจอร์มองไปด้าน

    หลังแล้วลอนผมสีน้ำตาลของเธอต้องแสงอาทิตย์สว่างจ้า เดรโกรู้สึกประหลาดใจเมื่อผมสีน้ำตาลเข้มธรรมดาแปรเปลี่ยนเป็นสดใสและสีน้ำตาลแดง ไม่ใช่ว่าทั้งหมดที่เขาสนใจคือขบวนสีสันน่าประหลาดใจของผมเธอ เกรนเจอร์เหมือนเริ่มรู้ตัวถึงความสนใจของเขาและมองมาที่เขา เกรนเจอร์ดูคล้ายจะยิ้มให้แต่แล้วเปลี่ยนใจเมื่อเขายิ้มหยันใส่เธอ

              เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้สายตาของเดรโกละไปจากเกรนเจอร์ แล้วมองไปที่ศูนย์กลางของทุ่งหญ้าตรงที่แฮกริดมีสัตว์ประหลาดใหม่ตัวใหญ่

              นี่คือ บิซิคีแรส(Bezekiras) พบเห็นมันได้ที่ฟินนิแกน(Finnigan) อย่าพยายามเข้าไปใกล้มัน

              เดรโกทำเสียงขึ้นจมูกอย่างดูถูก;เจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรมากไปกว่าสิงโตค่อนข้างใหญ่มากตัวหนึ่ง แม้ว่าไม่เหมือนสิงโตทั่วไป สัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของแฮกริดช่างสดใสและสว่างเจิดจ้า แผงขนหนาบนหลังคอของมันเปล่งแสงระยิบระยับอยู่ในแสงสว่าง และทำให้การมองดูมันเกือบจะยากลำบาก

              บิซิคีแรส มีความยาวอย่างน้อยเจ็ดฟุตในขณะที่กำลังหลับอยู่ตอนนี้ และอาจสูงมากกว่าห้าฟุตเมื่อยืนขึ้นก็เป็นไปได้ เจ้ายักษ์โง่กำลังแจกแจงความสามารถต่างๆ ทางด้านเวทมนตร์ของมัน แต่เดรโกไม่ใส่ใจมันเลยสักนิดเดียว นี่เป็นวันสุดท้ายของชั้นเรียนก่อนหยุดฤดูหนาว และทั้งหมดที่เขาอยากทำจริงๆ คือ พักผ่อนอย่างอบอุ่น และคอยจับตาดูสามเพื่อนซี้มหัศจรรย์

              เสียงเห่าดังประหนึ่งฟ้าร้องก้องมาทางด้านหลังเขาดึงความสนใจ ขณะที่สุนัขล่าหมูสีดำตัวใหญ่แวบผ่านเขาไป เจ้าสัตว์ที่แฮกริดชอบเรียกว่าหมา กระโดดข้ามรั้วอย่างสบายๆ และคำรามอย่างน่ากลัวใส่เจ้าสิงโตที่กำลังหลับอยู่ เจ้าแมวยักษ์ลืมตาข้างหนึ่งอย่างเกียจคร้านและบิดตัวอย่างเนือยๆ มันสำรวจรอบตัวมันด้วยความสนใจที่มีเลศนัย เจ้าสุนัขคำรามเสียงต่ำและขยับเข้าไปที่เจ้าแมวตัวใหญ่ เจ้าแมวหาวอย่างพึงพอใจจากนั้นตะปบใส่เจ้าสุนัขเป็นทางยาวที่จมูกและปากของมัน

              เจ้าสุนัขกรีดร้องเสียงโหยหวนน่ากลัวแล้ววิ่งหนีกลับข้ามทุ่งหญ้าไป เจ้าแมวไม่รู้สึกเหนื่อยกับการละเล่นเล็กน้อยนี้ อย่างไรก็ตามมันวิ่งตามหลังเจ้าสุนัขตัวใหญ่ที่ข้ามรั้วไปอย่างรวดเร็ว

              เดรโกเฝ้าดูด้วยความสนใจเพิ่มมากขึ้น เมื่อเจ้าแมวตัวใหญ่สำรวจพวกนักเรียนที่ยังอยู่รอบๆ ตรงนั้น

              ตอนนี้พวกเธอทั้งหมดอยู่ในความสงบ และอย่าวิ่งเตลิดไปนะ แฮกริดพูดเบาๆ

              แต่เหมือนกับสัตว์ทั้งหลายส่วนใหญ่;มีมนตร์วิเศษหรือไม่มี เจ้าบิซิคีแรสตัวนี้สัมผัสได้ถึงความกลัว มันกวาดลูกตาใหญ่สีทองของมันไปที่ลองบัตท่อมแล้วคำราม  เจ้ากริฟฟินดอร์งี่เง่าคนนี้สะดุ้งโหยงอย่างประสาทเสีย และหันหลังวิ่งตรงไปที่ปราสาท

              เดรโกฉีกยิ้มกว้าง เมื่อเจ้าแมววิ่งไล่กวดทันทีทันใดและงับเข้าที่ข้อเท้าของลองบัตท่อมอย่างเจ็บปวด  พอตเตอร์;วีรบุรุษเสมอ และวีสลี่ย์วิ่งตามลองบัตท่อมไปพร้อมกับดึงไม้กายสิทธิ์ของพวกเขาออกมา แฮกริดตามติดไปอย่างรีบร้อนเช่นกัน  เดรโกยิ้มกว้างมากขึ้นท่ามกลางเสียงเอะอะ พวกกริฟฟินดอร์ทั้งหมดกำลังเฝ้ามองด้วยความตกใจกลัว ในขณะที่พวกสลิธีรินหัวเราะกันแทบหมดแรง

              ลองบัตท่อมหายลับข้ามหุบเขาไป และทั้งชั้นเรียนเริ่มติดตามไปดู ไม่ต้องการพลาดการแสดงนี้ เดรโกดันตัวเองออกจากรั้วและกำลังเดินตรงไปที่แครบบ์และกอยล์ เมื่อเขาหยุดนิ่ง;ความรู้สึกแปลกพิกลอย่างหนึ่งย่างกรายมาหาเขา ไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร เดรโกชะงักเพื่อดูว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้งไหม แน่ใจพอแล้ว เขาสัมผัสถึงความรู้สึกเดิมอีกหน มันราวกับว่ามีใครบางคนกำลังเรียกเขา เขามองข้ามไหล่ตัวเองแต่นักเรียนส่วนใหญ่ออกไปจากลานโล่งแล้วตอนนี้ และไม่มีใครสักคนจะใส่ใจเขาเลย เขารู้สึกมันอีกแล้วแต่ครั้งนี้มันรุนแรงมากกว่า เร่งร้อนมากกว่า เขาหันหลังและเดินกลับไปที่กระท่อมของแฮกริด ความรู้สึกนี้ช่างคุ้นเคยแต่น่ารบกวนใจ เขาเดินผ่านกระท่อมและมองไปรอบๆ ด้านหลังไกลออกไปมีโรงเก็บของเล็กๆ ตั้งอยู่อยู่ในดงต้นไม้ เขาเดินตรงไปที่นั่นอย่างช้าๆ แล้วหยุดลง บางอย่างกำลังจับตาดูเขาอยู่ แต่เดรโกไม่เห็นอะไรเลยยกเว้นพวกต้นไม้ทั้งหลาย  เขาเพิ่งตัดใจว่าไม่จำเป็นเลยที่ต้องรู้ว่าความรู้สึกแปลกๆ นี้คืออะไร และกำลังจะกลับไปที่ปราสาทเพื่อดื่มด่ำกับอาหารกลางวันรสเลิศซึ่งอาจเป็นสิ่งถูกต้องที่ควรทำ เมื่อเสียงหนึ่งลอยมาหาเขา

              อยู่นิ่งๆ เจ้าเขี้ยว! ฉันช่วยแก้ไม่ได้ ถ้าแกไม่อยู่นิ่งๆ

              เดรโกถอนหายใจเขารู้ว่าเสียงนั้นเป็นของใคร เธอสามารถอยู่ทุกหนทุกแห่งได้อย่างไร?

              เขาเดินเข้าไปที่มุมหนึ่งของโรงเก็บของ และพบเกรนเจอร์กำลังพยายามยื้อยุดกับการจับปอกคอสุนัขตัวใหญ่อย่างหมดหวัง เจ้าสุนัขกำลังออกแรงต่อสู้กับเธออย่างเต็มที่ และเหตุผลเดียวว่าทำไมมันถึงไม่วิ่งกลับไปที่กระท่อม ความจริงคือเฮอร์ไมโอนี่จัดการผูกเชือกเข้ากับปอกคอของมัน และพันปลายอีกด้านของเชือกหลายๆ รอบกับต้นไม้ต้นหนึ่ง ต้นไม้ต้นนี้ถูกทำให้โค้งงอเกือบจะติดพื้นดินจากการดิ้นรนของเจ้าสุนัข

              เธอกำลังทำอะไร เกรนเจอร์? เขาถามอย่างเย็นชา

              เธอเงยขึ้นมองและดูตกใจ โถใบเล็กอยู่ในมือเธอ เขาจำได้ว่ามันเป็นน้ำมันขี้ผึ้งที่ใช้ในการรักษา;เป็นวัตถุดิบชนิดเดียวกับที่มาดามพอมฟรี่ย์ใช้บ่อยๆ กับบาดแผลของเขาที่เกิดจากการเล่นควิดดิชหลายครั้ง เกรนเจอร์กำลังพยายามทามันบนแผลลึกที่จมูกของเจ้าสุนัขอย่างเห็นได้ชัด

              แล้วมันดูเหมือนว่ากำลังทำอะไรอยู่ล่ะ มัลฟอย เธอตวาด พร้อมกับมองแบบหมิ่นๆ

              ขณะที่เธอพูดเช่นนั้นกับเขา เดรโกสังเกตว่าเธอเขยิบไปด้านหลังของเจ้าสุนัขตัวใหญ่อย่างไม่เจตนา เธอกระทำอย่างช้ามากๆ ทำให้แน่ใจว่ามีบางอย่างที่สัมผัสได้จริงกั้นระหว่างพวกเขาทั้งสอง เดรโกคิดว่าเป็นเรื่องดีที่สุด เขามีความรู้สึกแปลกๆ เสมอเมื่อเธอเข้าใกล้มากเกินไป มันทำให้เขาประสาทตึงเครียด

              เดรโกได้ยินเสียงกิ่งไม้หักจากด้านหนึ่งบริเวณใกล้ๆ รอบโรงเก็บของ เขาเงี่ยหูฟัง พยายามจับเสียงกระซิบอย่างอื่นอีก แต่มันเงียบ;เงียบจนเกินไป

              เกรนเจอร์ ฉันคิดว่าเราควรไปดีกว่า เขาบอกเธอเบาๆ พร้อมกับดึงไม้กายสิทธิ์ของเขาออกมา

              ทำไม? และไม่มีทาง ฉันจะไม่ไปที่ไหนกับนายทั้งนั้น

              ดวงตาเขาหรี่แคบลงและลืมเรื่องความรู้สึกสังหรณ์ใจที่เพิ่มสูงขึ้น เมื่อเธอไขว้แขนกอดอกและแสดงสีหน้าท่าทางไม่เห็นด้วยอย่างที่สุดใส่เขา แต่แล้วเสียงกิ่งไม้หักอีกอัน คราวนี้ใกล้มากขึ้น เตือนสติเขาถึงอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา เขาก้าวเท้ายาวตรงไปข้างหน้าและคว้าข้อมือของเธอ แล้วดึงเธอออกมาจากสุนัข

              มีบางอย่างอยู่ข้างนอกโน่น เกรนเจอร์ เราจำเป็นต้องไปแล้ว เขาบอกเธออย่างโมโห เมื่อเธอพยายามสะบัดให้หลุดจากการจับกุมของเขา

              เกรนเจอร์มองเขาเหมือนไม่เชื่อ แล้วเหลือบลงไปที่สุนัข เจ้าสุนัขล่าหมูไม่ยอมหยุดดิ้นรนเพื่อเป็นอิสระ มันเงยขึ้นมองเธอด้วยสายตาอ้อนวอน หูของมันลู่ติดหัวและเห่าคำรามไปที่ดงต้นไม้

              ดวงตาเกรนเจอร์เบิกกว้างและกวาดไปทั่วดงต้นไม้หนาทึบ สำรวจหาสัญญาณความเคลื่อนไหวอื่นๆ  เดรโกรู้สึกถึงความอบอุ่นละมุนละไมครอบงำเขาอย่างฉับพลัน รู้สึกผ่อนคลายมากเหลือเกินจากนั้นเขาก็จมอยู่กับมันเป็นเวลานาน เขาปล่อยข้อมือเธอ เธอหันกลับและมองเขาอย่างสงสัย ดวงตาสีน้ำตาลของเธอกำลังเผาไหม้อยู่ภายในจิตวิญญาณเขา

              ใช่ เขาคิด มันคงจะวิเศษที่ได้มองเข้าไปในดวงตาเธอตลอดกาล

              ความเศร้าซึมเงียบเหงาลึกล้ำเริ่มครอบงำเขา และความปรารถนาอันยิ่งใหญ่เพื่อนั่งลงและนอนหลับจู่โจมเขาอย่างกะทันหัน

              มัลฟอย? เสียงแหลมดังของเกรนเจอร์ดึงเขาออกจากความเพ้อฝัน

              เดรโกมองไปรอบๆ เขารู้สึกคล้ายกับหมอกหนาทึบกำลังเคลื่อนผ่านศีรษะเขา เขาตระหนักได้อย่างทันทีว่าอะไรกำลังไล่ล่าพวกเขา

              มันคือแมนติคอร์ เกรนเจอร์เขากระซิบ

              อะไรนะ?! นั่นเป็นไปไม่ได้!” เธอบอกเขา

              แต่เดรโกจะไม่โต้เถียง;เขาเคยมีประสบการณ์ความรู้สึกแปลกๆ เหล่านี้มาก่อนแล้ว เมื่อเขาได้ปล่อยเจ้าสิ่งชั่วร้ายนี้ออกจากกรงขัง เขาคว้าแขนเธอและดึงเธอตามเขามา เดินอย่างรวด

    เร็วกลับไปที่ทางเดิน พยายามฝืนแรงกระตุ้นที่จะวิ่งหนี เขาไม่ต้องการแสดงเป็นเหยื่ออีกแล้ว

              แต่เจ้าเขี้ยว เธอถาม

              ปล่อยไอ้หมาบ้าเลือดไว้นั่นแหละ!” เดรโกตะคอก พร้อมกับเร่งฝีเท้า

              ฉันทำไม่ได้!” เธอคร่ำครวญ และจัดการสะบัดออกจากการจับกุมของเขา

              เดรโกมองเธอเผ่นกลับลงไปจากทางเดิน เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาไม่ปล่อยเธอไปซะเลย ถ้าเธอดื้อดึงอยากให้ตัวเองตาย ทำไมเขาต้องแคร์ด้วย? แต่ว่าเขาแคร์  เขาวิ่งตามเธอไปพร้อมกับทำเสียงหงุดหงิด

              เกรนเจอร์ล้มลงคุกเข่าและพยายามแก้ปมเชือกที่ทำให้เจ้าสุนัขไม่อาจเคลื่อนไหวไปไหนได้ มือของเธอกำลังสั่นด้วยความกลัวที่เพิ่มขึ้น นิ้วมือของลื่นหลุดอยู่บนเชือก เจ้าสุนัขยืนนิ่งสนิท ขนรอบคอตั้งชันและกำลังคำรามเบาๆ

              ให้ฉันทำเอง เดรโกตะคอก และผลักเกรนเจอร์ไปข้างๆ เขาแก้เชือกออกจากต้นไม้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว และกระตุกมันอย่างแรงเพื่อดึงความสนใจจากเจ้าสุนัข  เจ้าเขี้ยวเงยขึ้นดูเขาและเริ่มเดินตรงไปที่ดงพุ่มไม้ขนาดใหญ่

              ไม่ใช่ตอนนี้ เจ้าเขี้ยว!” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนใส่สุนัข และดึงปอกคอมันไว้

              เดรโกคว้าแขนเกรนเจอร์และดึงเธอให้ลุกขึ้นยืน พุ่มไม้ทางด้านขวาของเขาเสียงดังกรอบแกรบ และเขาได้ยินเสียงคำรามเบาๆ พวกเขาวิ่งเร็วกลับไปที่ทางเดินพร้อมกับเจ้าสุนัขที่กำลังกระโดดนำหน้าพวกเขา ไม่มีเวลาสนใจว่ามันเป็นอะไรที่ไล่กวดตามมา

              เขามองข้ามไหล่ไปด้านหลัง และแทบเห็นเจ้าสิ่งมีชีวิตที่กำลังวิ่งไล่พวกเขาไม่ชัดเจนนัก ครึ่งหนึ่งของมันถูกซ่อนอยู่ในใบไม้หนาทึบ แต่เพียงแค่ประกายขนสีน้ำตาลทองและเห็นหางแมงป่องเพียงแวบเดียว ก็บอกเดรโกว่าเขาคิดถูกแล้วว่ามันคืออะไร เขากำลังพยายามคิดว่าพวกเขาต้องวิ่งนานแค่ไหนก่อนที่มันจับพวกเขาได้  เมื่อเกรนเจอร์ดึงเขาไปทางซ้ายอย่างแรงทันทีเกือบหกล้ม เขาทรงตัวเองไว้ก่อนจะสะดุดขาตัวเองและปล่อยให้เธอลากเขาผ่านพวกต้นไม้ใหญ่มากมาย เธอหยุดลงอย่างกะทันหันและมัลฟอยเกือบจะวิ่งชนเธอเข้าให้ ตรงหน้าเขาคือกระท่อมของแฮกริด

              ถึงแม้ว่าเขายังได้ยินเสียงแมนติคอร์กำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว กระนั้นเขายังมีศักดิ์ศรีของตระกูลมัลฟอยให้ระลึกถึง

              ไม่มีทางที่ฉันจะเข้าไปในนั้น!” เขาบอกเธออย่างหนักแน่น

              เกรนเจอร์จ้องมาที่เขาผ่านไหล่ของเธอ จากนั้นกระชากเขาอย่างแรงเข้าไปในห้อง เขาล้มลงบนพื้นและหันกลับมาอย่างรวดเร็ว เขาสามารถเห็นภาพแมนติคอร์กระโดดสูงเพียงแวบเดียวเท่านั้นก่อนที่เกรนเจอร์ปิดประตูเสียงดังปัง เวลาหยุดลงชั่วขณะจากนั้นเป็นการพุ่งชนประตูด้วยกำลังอย่างมหาศาลจากอีกด้านหนึ่ง กระท่อมทั้งหลังสั่นสะเทือน เดรโกเหลือบมองรอบตัวเขาอย่างกังวล กำลังสงสัยว่ากระท่อมหลังนี้แข็งแรงแค่ไหน เสียงดังปังอีกเสียงกระแทกใส่กระท่อม แต่มันยังคงตั้งอยู่เหมือนเดิม

              พวกเขานั่งกันเงียบๆ อยู่ที่โต๊ะไม้ เฝ้ามองประตูกระท่อมของแฮกริด เจ้าเขี้ยวนั่งหมอบอยู่มุมหนึ่ง หูของมันลีบลู่ไปด้านหลังและกำลังคำรามเบาๆ ใส่กำแพง

              เธอคิดว่าเราจะอยู่ในนี้นานแค่ไหน? เดรโกถามเธอในที่สุด

              ฉันจะรู้ได้อย่างไง มัลฟอย? เกรนเจอร์ตวาดใส่อย่างอารมณ์ไมดี

              อ้าว..เธอดูเหมือนรู้ไปซะทุกอย่างนี่ เลือด...เกรนเจอร์ เดรโกชะงักชั่วครู่ก่อนเปลี่ยนเป็นชื่อเธองึมงำ

              เกรนเจอร์เหมือนไม่สังเกตเห็นอาการสะดุดของเขา เธอยืนขึ้นและเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ ไปที่หน้าต่างบานหนึ่ง และกวาดสายตามองไปรอบๆ

              ฉันไม่เห็นอะไรเลย บางทีมันคงไปแล้วล่ะ? เธอมองข้ามไหล่ตัวเองมาที่เขาอย่างเต็มไปด้วยความหวัง

              บ้าชะมัดเลย เกรนเจอร์ ออกมาจากหน้าต่าง เธอกำลังล่อตาล่อใจมันเท่านั้นเอง

              เธอหันหลังใส่เขาอย่างฉุนเฉียว เดรโกยืนขึ้นและเริ่มเดินไปหาเธอเมื่อเจ้าสัตว์ร้ายโจมตีกระท่อมอีกครั้ง เกรนเจอร์หลุดเสียงร้องกรี๊ดออกมาทันทีเมื่อแมนติคอร์กระแทกใส่หน้าต่าง เธอกลับมายังที่นั่งของเธออย่างรวดเร็ว และพยายามหายใจให้เป็นปกติอีกครั้ง

              บอกเธอแล้ว เขาพูด

              แฮกริดต้องมีร่ายคาถาใส่ไว้บนกำแพงบ้างเพื่อไม่ให้เจ้าสิ่งนั้นเข้ามาได้ เธอบอก ไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เขาพูด

              เกรนเจอร์ยืนขึ้นและเดินไปที่ตู้ไม้ใส่ถ้วยชามใบหนึ่ง แล้วหยิบกาน้ำใบใหญ่หนึ่งใบกับถ้วยน้ำชาสองใบออกมา  เดรโกเฝ้ามองขณะที่เธอวุ่นวายอยู่กับการติดไฟ เธอจับปอยผมสีเข้มของเธอทัดไว้หลังใบหูบอบบางอย่างใจลอย แล้วแขวนกาน้ำเหนือเปลวไฟ เดรโกสัมผัสถึงความรู้สึกประหลาดที่กำลังบิดเกลียวอยู่ภายในตัวเขา ชั่วเวลาหนึ่งเขาคิดว่าเธอแทบจะสวยงามมากเหลือเกิน เธอเหลือบมองกลับมาที่เขา ดวงตาสีบุษราคัมของเธอเป็นประกายด้วยด้วยแสงจากเปลวไฟ ซึ่งยังคงเต็มไปด้วยความตกใจแต่ประกายแห่งความหวังกำลังเริ่มก่อตัวขึ้นด้วย เดรโกรู้สึกว่าปากเขาแห้งผากฉับพลัน เสหันมองไปทางอื่นและสำรวจกระท่อมเล็กหลังนี้แทน

              ทำไมใครๆถึงอยากจะอาศัยอยู่ที่นี่?

              ฉันคิดว่ามันน่าอบอุ่นสบายดีออก เกรนเจอร์บอกเขาอย่างดื้อรั้น

              โอ้เดี๋ยวนะ ฉันลืมไปเลย เธอชอบใช้เวลาช่วงฤดูร้อนของเธอกับครอบครัววีสลี่ย์ เหมือนกันนี่ แบบนี้อาจดูเหมาะสมกับรสนิยมของเธออย่างดีเชียว

              เกรนเจอร์หน้าแดง แล้วมองตรงมาที่เขาและพูดน้ำเสียงเบาๆแต่อันตราย ฉันสงสารนาย นายไม่เคยได้อยู่ในบ้านที่อบอุ่นเลยสักหลัง นายอาศัยอยู่แต่ในคฤหาสน์เย็นชาของตระกูลมัลฟอยที่นายรักนักรักหนาเหลือเกิน สักวันหนึ่งนายจะสำนึกได้ว่าเงินและอำนาจไม่มีค่าอะไรเลยเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวนายไร้ความเป็นมิตร

              เธอเทน้ำชาที่กำลังร้อนใส่ในถ้วยสองใบก่อนนั่งลง เธอยกถ้วยขึ้นไปที่ปาก นิ้วมือกำถ้วยไว้แน่น เดรโกได้แต่ตะลึงมองเธอด้วยความช็อก เธอพูดถูกแน่นอน และนั่นคือปัญหา เธอสามารถพูดถูกทุกอย่างได้อย่างไร เธอสามารถรู้เพียงแค่การมองเขาได้อย่างไร มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาใส่ใจอย่างแท้จริงคือคฤหาสน์ บ้านเก่าแก่หลังใหญ่ที่วันหนึ่งจะตกเป็นของเขา บ้านที่เขาได้รับการเลี้ยงดูมา กระนั้นเธอพูดถูก;มันช่างเย็นชา

              ฉัน...ฉันเสียใจ มัลฟอย ฉันไม่ควรพูดแบบนั้นเลย

              ด้วยความประหลาดใจ เดรโกเงยขึ้นมองเธอ เธอกำลังถูปลายนิ้วกับขอบโต๊ะอย่างกังวล ฉันไม่ควรพูดอะไรแบบนั้น เดรโกยิ้มหยันให้เธอ;เธอกลอกตาตัวเองแล้วพูดต่อ ใช่ ถึงเป็นนายก็เถอะ

              เดรโกเอนหลังพิงเก้าอี้ไม้ ซึ่งเขาต้องยอมรับว่ามันค่อนข้างสบาย แล้วยิ้มเยาะมากขึ้น

              เอาล่ะ เกรนเจอร์ กำลังตั้งหน้าตั้งตาคอยให้ถึงวันนัดกับพอตเตอร์หรือ?

              เกรนเจอร์สำลักน้ำชาและเงยมองเขาด้วยความประหลาดใจ

              นายกำลังพูดเรื่องอะไรกันแน่ มัลฟอย? เธอถาม

              งานเต้นรำวันคริสต์มาส เกรนเจอร์ เธอควรใส่ใจให้มากกว่านี้หน่อยซิเขาบอกเธออย่างแดกดัน

              ฉันจะไม่ไปกับแฮร์รี่

              อะไรนะ? อย่าบอกฉันว่าเธอตอบตกลงกับวีสลี่ย์นะ? เจ้าคนน่ารังเกียจโง่เง่านั่นไม่มีอะไรสักอย่าง ฉันหมายความว่า เธอไม่เห็นเสื้อผ้าที่เขาใส่เมื่อปีที่แล้วหรือไง? เดรโกพูดอย่างรวดเร็ว;ความคิดที่ว่าเกรนเจอร์จะไปกับพอตเตอร์ดูเหมือนยอมรับได้มากกว่าที่เธอจะไปกับ

    วีสลี่ย์ อย่างน้อยที่สุดพอตเตอร์ก็มีชื่อเสียงโด่งดัง

              เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับนาย ฉันจะไม่ไปกับรอนหรือว่าแฮร์รี่หรอก

              เธอยังไม่มีคู่นัดรึ? เดรโกไม่สามารถซ่อนความตกใจในน้ำเสียงของเขา ถึงแม้ว่าเธอเป็นกริฟฟินดอร์คนหนึ่ง แต่เธอยังเป็นเด็กสาวที่ค่อนข้างน่ารัก และดูต้องตาต้องใจให้พูดคุยด้วยเช่นกัน

              ความจริงแล้วฉันจะไปกับดีน เกรนเจอร์ละสายตาไปจากเขา

              เดรโกคิดอย่างรวดเร็ว พยายามนึกว่าเขาเป็นใคร ความทรงจำถึงเด็กหนุ่มตัวสูงในวิชาการปรุงยาลอยมาหาเขา

              โธมัส? เธอจะไปกับโธมัส? เขาต้องสูงกว่าเธออย่างน้อยสองฟุต ฉันจะพนันว่าเขาเต้นรำไม่เป็นด้วย เขาดูท่าทางเก้งก้างอย่างมาก

              ฉันชอบดีน และเขาก็ไม่ได้เก้งก้างซะหน่อย เกรนเจอร์ย้อนให้ แล้วใครที่นายจะไปงานเต้นรำด้วยล่ะ?

              ฉันจะ... ช่วงเวลาสั้นๆ เดรโกเห็นภาพตัวเองกำลังเดินผ่านประตูเข้าไปในห้องโถงใหญ่กับหญิงสาวผมสีน้ำตาล มีรอยยิ้มกว้างและกำลังเกาะแขนเขา ชุดกระโปรงยาวโปร่งสบายพริ้วไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอ ขณะที่เธอหันมายิ้มให้เขา ดวงตาสีบุษราคัมอบอุ่นหลอมละลายบางอย่างภายในตัวเขา แพนซี่ ฉันจะไปกับแพนซี่

              โอ้ เกรนเจอร์พูด เดรโกคิดว่าเธอมีท่าทางเกือบจะผิดหวังอย่างมาก แต่ท่าทางนั้นหายไปอย่างรวดเร็วซึ่งเขาไม่อาจบอกได้

              หลังจากนั้นพวกเขาปล่อยเวลาให้ผ่านไปในความเงียบ เดรโกกำลังทบทวนว่ามันหมายความถึงอะไร ที่เขาคิดให้เธอเป็นคู่นัดของเขาในงานเต้นรำ เขาไม่ได้โกหกเรื่องการไปกับแพนซี่;เด็กสาวน่าโง่คนนี้ตะครุบตัวเขาทันทีเมื่อเขาออกจากห้องโถง หลังจากดัมเบิลดอร์ได้แจ้งประกาศแล้ว เดรโกได้ตกลงไปกับเธอ เธอเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์ดึงดูดที่สุดในบ้านสลิธีริน และเธอชื่นชอบการลูบไล้ตัวเขาซึ่งเขาพบว่ามันน่าพึงพอใจมากๆ  แต่เมื่อเกรนเจอร์ถามว่าเขาจะพาใครไป เขากลับคิดถึงเธอ มันช่างดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ เป็นธรรมชาติและถูกต้องมาก

              เกรนเจอร์ยืนขึ้นและเริ่มทำเสียงดังก๊อกแก๊กภายในตู้ใส่ถ้วยชามอีกครั้ง และโผล่ออกมาพร้อมกับจานใบเล็กใส่เค้กหินหลายชิ้น เธอปิดประตูตู้และเศษกระดาษชิ้นเล็กๆ ปลิวตกลงมาที่พื้น เธอวางจานลงบนโต๊ะพร้อมกับทำหน้านิ่วแล้วหยิบเศษกระดาษขึ้นมา เดรโกชำเลืองดูมันข้ามไหล่ของเธอเมื่อเธอนั่งลงแล้ว ลายมือเขียนหวัดไม่เป็นระเบียบและยากที่จะเข้าใจในตอนแรก แผ่นกระดาษชิ้นเล็กนี้เต็มไปด้วยการขีดเขียนและเครื่องหมายต่างๆ ใช้เวลาสักพักสำหรับเดรโกถึงได้เข้าใจว่ามันเป็นรายการซื้อของ

              แค่รหัสบางอย่างที่เจ้าทึ่มต้องทำขึ้นเอง เขาพูด

              เกรนเจอร์ชำเลืองดูเขาอย่างสงสัย

              เธอรู้จักชวเลขไหม? ลูเซียสใช้เพื่อการเปลี่ยนแปลงเฉพาะตัวของเขา เป็นวิธีที่รวดเร็วกว่าในการเขียนสิ่งต่างๆ ลงไป  แน่นอน เขารู้สึกสนใจมากกับความจริงที่ว่ามันต้องใช้เวลานานมากแค่ไหนถึงเข้าใจบางอย่างได้ถ้าเธอไม่รู้จักชวเลขเฉพาะตัวของเขา เดรโกเอนหลังกลับไปในเก้าอี้พร้อมกับรอยยิ้มชอบใจ เขาเข้าใจรหัสพิเศษเฉพาะของลูเซียสก่อนเขียนหนังสือเป็นเสียอีก

              เกรนเจอร์เงยมองมาที่เขาเวลาที่เขาพูดแล้วกลับไปดูเศษกระดาษชิ้นนี้ ดวงตาเธอเบิกกว้างและดูเหมือนกำลังพูดกับตัวเองภายใต้ลมหายใจ เธอยืนขึ้นพรวดพราดจนเก้าอี้ล้มลงและเกือบจะคว่ำกาน้ำขาด้วย

              มันต้องเป็นแบบนั้น!” เธอร้องตะโกนพร้อมกับโบกแผ่นกระดาษตรงหน้าเขา นั่นคือทำไมมันถึงดูไม่รู้เรื่องเลย!”

              อะไร? เขาถามอย่างตกใจ

              มันเป็นอย่างนี้เอง! พวกมันเขียนเป็นรหัส!” เกรนเจอร์กำลังกระโดดขึ้นและลงด้วยความดีใจ

              อะไร? อะไรเขียนเป็นรหัส? เกรนเจอร์ เธอกำลังพูดถึงอะไร? เดรโกยืนขึ้น เพราะว่าการมีเกรนเจอร์มากระโดดอยู่ใกล้ๆ เหนือตัวเขาทำให้เขารู้สึกอึดอัด

              หนังสือทั้งหลายของเขา หนังสือทั้งหลายของโอแลรี่ มีเล่มหนึ่งที่เป็นตัวเลขทั้งหมดไง? พวกมันต้องเป็นรหัส!” เวลานี้เกรนเจอร์กำลังกระโดดขึ้นและลงด้วยความตื่นเต้นดีใจอย่างเห็นได้ชัด

              จากนั้นเดรโกก็เข้าใจว่าเธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร และมันมีเหตุผล;แน่นอน หนังสือพวกนี้ต้องถูกเขียนด้วยรหัสบางอย่าง ทำไมเขาไม่คิดถึงมันมาก่อนซึ่งทำให้เขาค่อนข้างหงุดหงิด ในเวลาเดียวกันนี้เกรนเจอร์รุดไปที่ประตูแล้ว มือของเธออยู่บนที่จับประตู และหันมาหาเขา

              เร็วเข้า! เราต้องไปที่ห้องสมุด!”

              เดรโกตระหนักว่าเธอกำลังจะทำอะไร เขารีบข้ามห้องไปอย่างรวดเร็ว เขาจับข้อมือเธอและดึงเธอมาจากประตูก่อนเธอจะเปิดมันออก เกรนเจอร์สะดุดกลับมาและล้มใส่เดรโก ราวกับว่าเป็นความปรารถนาของพวกเขา วงแขนของเขาโอบรอบตัวเธอ เธอทำตัวแข็งต่อต้านเขาจากนั้นผ่อนคลายลง เขาช่วยเธอให้ลุกขึ้นแต่ไม่ได้ปล่อยเธอ เขารู้สึกว่าหัวใจเขาเริ่มเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง เขาดึงเธอเข้ามาใกล้เขา เธอแหงนศีรษะขึ้น เขาดึงเธอเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้นแล้วโน้มตัวลงมา

              เฮอร์ไมโอนี่! เธอคิดว่าเธอกำลังทำอะไร?  เสียงแฮกริดดังก้องไปทั่วกระท่อม

              เวลาหยุดลงชั่วขณะ เมื่อเดรโกจ้องไปที่ใบหน้าดำคล้ำของแฮกริด สำนึกว่าอาจเป็นครั้งแรกก็ได้ที่เข้าใจความหมายคำว่าลูกครึ่งยักษ์เป็นอย่างไร ภาพของรองเท้าบู๊ตสีดำขนาดใหญ่กระแทกลงบนศีรษะเขาสว่างวาบอยู่ในใจเขา เกรนเจอร์กระโดดออกจากเขาอย่างทันที นำเขาออกจากฝันกลางวัน เธอตั้งใจมากในการปลดตัวเองออกจากเขาจนทำให้เดรโกเกือบเสียการทรงตัว

              แฮกริด ขอบคุณพระเจ้าที่คุณกลับมาแล้ว!” น้ำเสียงตึงเครียดของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นสูงกว่าปกติหลายเท่า

              แฮกริดเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเกินกว่ารูปร่างใหญ่โตของเขาจะอำนวย และกระชาก

    เดรโกขึ้นจากพื้น กำปั้นของเขาคว้าปกเสื้อคลุมของเดรโก

              เธอคิดว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่? น้ำเสียงเขาแหบต่ำและน่ากลัว

              แฮกริด ได้โปรดเถิด มันไม่ใช่อย่างที่เห็น!” น้ำเสียงเกรนเจอร์เวลานี้แหลมสูงและวิงวอน แมนติคอร์อยู่ที่นี่ มันกำลังไล่ล่าพวกเรา เราไม่มีเวลาพอที่จะกลับไปที่ปราสาท

              เดรโกหล่นสู่แผ่นกระดานพื้นห้องเมื่อแฮกริดปล่อยตัวเขา  เขาอ้าปากสูดหายใจอย่างแรงแล้วมองไปที่แฮกริดซึ่งหันไปมองเกรนเจอร์

              ใช่แน่นะ เฮอร์ไมโอนี่?

              เกรนเจอร์พยักหน้า แฮกริดสะบัดผ่านพวกเขาทั้งคู่ไป และโน้มตัวลงข้างกองไฟพร้อมกับพูดเบาๆ สองสามคำ เกิดระเบิดแสงทันทีจากนั้นกองไฟดูเหมือนกลายเป็นโปร่งแสง ห้องทำงานอาจารย์ใหญ่สามารถถูกเห็นผ่านกลุ่มควันที่หมุนวนอยู่

              ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์? คุณได้ยินผมไหมครับ? แฮกริดเรียกเข้าไปในเปลวไฟ

              ได้ยิน แฮกริดรึ? ใบหน้าดัมเบิลดอร์ปรากฏในเปลวไฟ

              ครับ เราคิดถูกแล้ว มันกลับมา และไล่กวดเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยมาที่กระท่อมของผมครับ

              ฉันจะไปที่นั่น แฮกริด กรุณาคอยฉันด้วย ใบหน้าของอาจารย์ใหญ่หายไป

              เดรโกดันตัวเองขึ้นจากพื้นและชำเลืองไปที่เกรนเจอร์อย่างสงสัย เธอแค่ยักไหล่นิดๆ พวกเขาได้แต่ยืนดูแฮกริด เจ้าลูกครึ่งยักษ์กำลังรื้อค้นของในหีบเดินทางใบใหญ่ที่วางอยู่ตรงปลายเตียงของเขา เขาดึงเอาหน้าไม้อันใหญ่ออกมา จากนั้นก็ห่อผ้าห่อหนึ่ง เมื่อเขาคลี่มันออกบนผ้าคลุมเตียงเก่าๆ เผยให้เห็นลูกศรหลายอันซึ่งเลี่ยมปลายด้วยวัสดุที่ทำให้ดวงตาของเดรโกเบิกโพลงด้วยความประหลาดใจ

              ทั้งหมดนั่นไม่ใช่ พวกนั้นไม่ได้เป็น...ฟันมังกรใช่ไหม? เกรนเจอร์กระซิบ

              เดรโกยิ้มกับตัวเอง;เธอช่างฉลาดแบบไม่ธรรมดาเลย ทันทีที่คุณเดินผ่านผู้รอบรู้เจ้ากี้เจ้าการไปทุกเรื่อง

              ใช่ แฮกริดตอบ เขาเริ่มตรวจสอบลูกศรทีละอัน มันช่างยากเย็นแทบตายเพื่อให้ได้ฟันมังกรมา พวกมันมีค่ามากมายมหาศาล ฟันของมังกรที่โตเต็มวัยแทบจะแข็งแกร่งพอๆ กับพวกเพชร;หมายความว่าพวกมันตัดผ่านอะไรก็ได้ทั้งนั้น ลูเซียสรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากกับมีดเล่มเล็กของเขาที่เลี่ยมปลายด้วยเศษฟันเล็กๆ แต่ที่นี่เจ้าทึ่มคนนี้มีลูกศรทั้งกระบอกที่ทรงคุณค่า

              คุณกำลังจะไปฆ่ามันรึ แฮกริด? เกรนเจอร์ถามอย่างเจ็บปวด

              ใช่ ถ้าสามารถจับมันได้ เขาบอกเธอ ฉันรู้ว่าเธอเป็นพวกสนับสนุนเรื่องสิทธิของสัตว์วิเศษ แต่ว่าตัวนี้ต้องถูกฆ่า มันทำให้ฉันเจ็บปวดมากๆ เหมือนกัน มันจะไม่ปล่อยเธอไว้สักคนเดียวถ้าเราไม่จัดการมัน

              นายหมายความว่าอะไร มันไม่ปล่อยพวกเราไว้สักคนเดียวถ้านายไม่จัดการ?เดรโกถาม

              เธอรู้ มัลฟอย เดรโกหันไปพบอาจารย์ใหญ่กำลังยืนอยู่ที่ประตูกับศาสตราจารย์สเนปซึ่งอยู่ด้านหลังเขา แมนติคอร์เป็นที่ทราบกันถึงความดุร้ายของมัน แต่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่รู้เลยว่าแมนติคอร์ปล่อยให้เหยื่อของมันหนีรอดไปได้น้อยมาก

              คุณหมายความว่า... เกรนเจอร์เริ่ม แต่อาจารย์ใหญ่พูดต่อว่า

              ใช่แล้ว มิสเกรนเจอร์ ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจนิดหน่อยว่าแมนติคอร์ของเธออาจยังอยู่ภายในบริเวณพื้นสนามแถวนี้ ด้วยความหวังที่จะจัดการกับมื้ออาหารของมัน และตอนนี้เซเวอรัส เธอจะกรุณาคุ้มกันพวกเขากลับไปที่ปราสาทได้ไหม? แฮกริด เธอกับฉันจะไปดูแลเจ้าสัตว์นี้กัน

              เดรโกมีเวลาน้อยมากที่จะโต้แย้ง เมื่อเขารู้ตัวว่ากำลังเดินตามกลับไปที่ปราสาทกับ

    ศาสตราจารย์สเนปและเกรนเจอร์  ศาสตราจารย์สเนปไม่พูดอะไรเลยกับพวกเขาสักคน และกำลังทำหน้าที่เกี่ยวกับภารกิจของเขาในฐานะผู้ดูแลอย่างเต็มที่  ศาสตราจารย์สเนปหยุดทันทีที่พวกเขาผ่านประตูใหญ่

              เอาล่ะ มิสเกรนเจอร์ ฉันแนะนำให้เธอตรงไปที่ห้องนั่งเล่นรวมของเธอ และเธอด้วยเช่นกัน เดรโก

              แต่ศาสตราจารย์ค่ะ มัลฟอยและหนูกำลังจะไปห้องสมุด เกรนเจอร์พูดอย่างรวดเร็ว เดรโกยังเห็นความตื่นเต้นอยู่ในแววตาของเธอ

              เธอไม่คิดว่าวันนี้เธอและมัลฟอยได้ใช้เวลาด้วยกันมากพอสมควรแล้วรึ? แล้วผู้คนเขาจะพูดลือกันไปอย่างไร? ศาสตราจารย์สเนปพูดอย่างโหดร้าย

              มันไม่ใช่ความผิดของเธอครับ ศาสตราจารย์ เดรโกปกป้องเธอก่อนเขาหยุดคำพูดลง

              ศาสตราจารย์สเนปหันกลับมามองที่เขา และเกรนเจอร์ดูเหมือนตกใจสุดขีด เดรโกพยายามอย่างยิ่งไม่ให้ใบหน้าเขากลายเป็นสีแดง ปราศจากคำพูดใดๆ อีก เขาหันหลังและมุ่งหน้าไปที่คุกใต้ดิน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×