ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 12 สารภาพ
Rescued
ตอนที่ 12 สารภาพ
“ไม่”เฮอร์ไมโอนี่กรีดร้อง”วิกเตอร์หยุดเถอะ”เธอดึงเขาให้ออกห่างเดรโกอย่างหวาดกลัว
“ได้โปรด อย่าทำร้ายเขา”เฮอร์ไมโอนี่กล่าวขอร้องทั้งน้ำตา
ในขณะที่วิกเตอร์มองเธอด้วยใบหน้าถมึงตึง ดวงตาของเขาฉายแววโกรธและดุดัน
“เธอปกป้องมัน”เขาชี้ไม้กายสิทธิ์ไปทางเดรโกและตะโกนอย่างบ้าคลั่งจนผู้คนในร้านต่างพากันวิ่งหนีเอาตัวรอดจากการเผชิญหน้าที่มีแต่อันตราย
ในตอนนั้นเองที่เบลสและแพนซี่วิ่งออกไปขอความช่วยเหลือจากด้านนอก
”เธอขอร้องอ้อนวอนฉันอย่าให้ทำร้ายมัน ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง” วิกเตอร์กล่าวแล้วเบี่ยงไม้กายสิทธิ์ที่จ่ออยู่ที่เดรโกในตอนแรกมาจ่อที่ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่แทนเฮอร์ไมโอนี่ก้มตัวลงหมอบด้วยความหวาดกลัวว่าจะโดนเขาทำอันตรายเหมือนที่ผ่านๆมา
”ได้โปรดฉันเสียใจ อย่าทำร้ายฉันเลย”เธอร้องขอเสียงสั่น
“เธอมันชั้นต่ำ”เขาแผดเสียงร้องและดึงเธอให้ลุกขึ้น เหวี่ยงเธอให้ติดอยู่ที่กำแพงโดยมีตัวเขาตรึงเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา เดรโกถึงกับเลือดขึ้นหน้าเมื่อเห็นดังนั้นเขาถลันเข้ามาและกระชากตัววิกเตอร์ให้ออกห่างจากหญิงสาว
“อย่าแตะต้องตัวเธอ ไอ้ชาติชั่ว” เดรโกตวาดในขณะที่วิกเตอร์หันกลับมาและเหวี่ยงหมัดเข้าใส่ใบหน้าของเดรโกอย่างจัง ทำให้เดรโกเสียหลักล้มลงกับพื้น วิกเตอร์เดินข้ามร่างของเดรโกหันกลับมาเล่นงานเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้งเขาคว้าข้อมือของเธอและจับไว้แน่นพลางถามอย่างไม่พอใจ
”แหวนหมั้นของเราอยู่ที่ไหน”
“อย่างที่รู้กัน เฮอร์ไมโอนี่ไม่ต้องการแต่งงานกับอมนุษย์อย่างนายวิกเตอร์”เดรโกกล่าวเสียงกร้าวก่อนค่อยๆยันตัวลุกขึ้นและมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่อย่างเป็นห่วง
“นายเพียงแค่หายไปจากชีวิตของเธอซะ ออกไปให้พ้นเธอ ถ้านายยังไม่เลิกวุ่นวายกับเธออีก ฉันสาบานว่าฉันจะส่งนายเข้าคุกอัซคาบันแน่ “เดรโกพูดเสียงหนักแววตาเขาวาวโรจน์อย่างเอาจริง
“โว้ย”ครัมเหมือนคนสติแตกเขาส่งเสียงดังลั่นก่อนที่จะเหวี่ยงเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแรงทั้งหมดที่เขามีออกไปจากตัวเขา เดรโกรอจังหวะนี้อยู่แล้วเขากระโจนเข้าไปรับร่างของเธอที่ตัวสั่นด้วยความตกใจและกอดเอาไว้แนบอกของเขา
“ปกป้องกันดีนักใช่ไหมฉันจะสงเคราะห์ให้ ไปรักกันในนรกเถอะ”วิกเตอร์พูดอย่างชั่วร้าย เขายืนจังกาและชี้ไม้กายสิทธิ์ไปยังคนทั้งคู่อย่างตั้งใจ เดรโกกอดร่างของเฮอร์ไมโอนี่ไว้แน่นเขาเหวี่ยงตัวเธอให้พ้นจากไม้กายสิทธิ์โดยใช้ตัวเขาเป็นโล่กำบังให้กับเธอ
วิกเตอร์ท่องคำสาปเพื่อสังหารคนทั้งคู่แสงสีส้มส่องประกายเป็นแสงไฟพุ่งมายังร่างของพวกเขาที่ยืนอยู่แต่แสงสีส้มที่พุ่งผ่านข้ามห้องกลับถูกแสงสีฟ้าที่ถูกส่งมาจากทิศตรงข้ามสกัดเอาไว้ได้ทันเวลา แสงสีส้มและฟ้าเมื่อปะทะกันเกิดเสียงดัง เปรี้ยง แล้วแสงทั้งสองก็กระจายออกและหายไปในอากาศ
เสียงร่ายเวทมนต์บางอย่างกระทบไม้ของวิกเตอร์จนกระเด็นออกจากมือของเขาอย่างรวดเร็ว
“ออกไปให้ห่างๆพวกเขา ครัมส์”เสียงแข็งกระด้างจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ดังอยู่หน้าประตูร้านเขามาได้ทันเวลพอดีที่ต้านคำสาปของวิกเตอร์ได้ทันท่วงที
“แกมันโสโครก”แฮร์รี่ชี้ไม้กายสิทธืไปที่หน้าอกของวิกเตอร์ ในขณะนั้นรอน เบลสและแพนซี่วิ่งกรูกันเข้ามาในร้านพร้อมกัน
“นายมากับเราดีกว่าครัมส์”รอนพูดพร้อมกับเดินเข้าไปหาวิกเตอร์ที่กำลังสับสน
“ช่วยดูแลเฮอร์ไมโอนี่ด้วยพวกเราต้องพาครัมส์ไปที่ทำการมือปราบมารก่อน”แฮร์รี่พูดกับเดรโกก่อนจะเดินตามรอนที่ควบคุมครัมส์แล้วเสกคาถาหายตัวไปยังสำนักงานของพวกเขา
เดรโกมองมาที่เฮอร์ไมโอนี่ที่ตัวอ่อนนั่งลงบนพื้นอย่างหมดแรงหัวของเธอฟุบอยู่บนหน้าอกของเขา
“ฉันเสียใจเฮอร์ไมโอนี่ ฉันไม่รู้ว่าเขาจะมาที่นี่ฉันไม่ควรจะพาเธอมาเลย”
“มันไม่ใช่ความผิดของฉัน”เฮอร์ไมโอนี่พึมพำพร้อมกับร้องไห้จนตัวโยน
“ชู่...แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย ฉันรู้ว่าไม่ใช่ความผิดของเธอ”เดรโกพูดปลอบใจ แพนซี่และเบลสเดินเข้ามาใกล้
“เรากลับกันเถอะเฮอร์ไมโอนี่จะได้พักผ่อนเสียที”แพนซี่พูดขึ้นและมองเฮอร์ไมโอนี่อย่างสงสาร เดรโกพยักหน้าเขาบรรจงอุ้มเฮอร์ไมโอนี่อย่างอ่อนโยนด้วยตัวของเขาเองก่อนพวกเขาจะหายตัวไปยังคฤหาสน์ซาบินี่
/////////////////////////////////////////////////////////
เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นมาเปิดประตูอย่างอิดโรยเมื่อเธอได้ยินเสียงเคาะประตูห้องนอนของเธอ ที่หน้าห้องมาเรียยืนอยู่พร้อมกับชายอีกสองคนที่ยืนอย่างสงบอยู่ด้านหลังของเธอ
”เฮอร์ไมโอนี่ที่รัก สองคนนี้เป็นมือปราบมาร พวกเขามาที่นี่เพื่อมาสอบปากคำของเธอ”มาเรียบอกข้อมูลให้เฮอร์ไมโอนี่รู้เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าอย่างเข้าใจและยิ้มให้เล็กน้อยให้กับเจ้าหน้าที่ทั้งสอง เธอกระชับเสื้อคลุมให้เข้าที่ก่อนจะพาพวกเขาเข้าไปยังภายในห้อง
มันเป็นเวลาเกือบสองวันแล้วที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นที่ร้านไอศกรีม เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจถอยหลังให้วิกเตอร์อย่างเด็ดขาดถึงแม้มันจะทำให้เธอต้องเจ็บปวดก็ตามเธอต้องการความยุติธรรมดังนั้นเธอจึงไม่ยอมอ่อนข้อเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป วิกเตอร์ต้องชดใช้ในสิ่งที่เขาทำ
“เธออยากให้ฉันอยู่ด้วยมั๊ยจ๊ะเฮอร์ไมโอนี่”มาเรียถามและยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น
เฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่นเล็กน้อยเธอส่ายหัวช้าๆให้มาเรีย
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะมาเรีย”
มาเรียยิ้มให้แล้วหมุนตัวเดินออกไปปล่อยให้เฮอร์ไมโอนี่อยู่กันตามลำพัง
”ฉันพร้อมแล้วค่ะ”เธอกล่าวและสูดลมหายใจอย่างหนักเพื่อสงบสติ ในขณะที่พวกเขาทั้งสองนั่งลงและหยิบเอาบันทึกกับปากกาขนนกออกมา
“ฉันมือปราบมารบลากี้และนี่มือปราบมารเลตติ้งพวกเราอยากจะถามคุณในบางคำถาม”เธอพยักหน้ารับมือปราบมารกระแอมเล็กน้อยก่อนเริ่มพูดต่อไป
”คุณคือเฮอร์ไมโอนี่ เจน เกรนเจอร์”เขาถามและจ้องมองเธออย่างพิจารณา
“ใช่ค่ะ”เธอตอบและมองตรงไปที่พวกเขา
”คุณตระหนักถึงข้อกล่าวหาที่คุณมีให้กับคุณครัมแล้วใช่ไหมครับ”มือปราบเลตติ้งถาม
“ใช่ค่ะ ฉันทราบ”เธอตอบแล้วจับมือของตัวเองที่เริ่มสั่นเอาไว้แน่น
“ได้โปรดระบุข้อกล่าวหาของคุณด้วย”พวกเขาอีกคนหนึ่งถามและมองมาที่เฮอร์ไมโอนี่เขม็ง เฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนที่จะรื้อฟื้นความทรงจำอันโหดร้ายขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
”วันที่ผ่านมาวันที่ 18 ของเดือน พฤศจิกายนฉันถูกข่มขืนโดยวิกเตอร์ ครัม ผู้ซึ่งเป็น คู่หมั้นของฉันในเวลานั้นเราได้ออกไปงานเลี้ยงของสถานทูตบัลแกเรียนฉันขอตัวกลับก่อนโดยที่วิกเตอร์เดินตามมาข้างหลัง ต่อมาเขาดึงตัวฉันเข้าไปในซอยและพยายามบังคับฉัน”เสียงของเธอขาดหายไป”ฉันพยายามขัดขืนที่จะมีเซ็กร์กับเขา”เธอพูดจบเสียงเธอก็เริ่มสั่น
“นอกจากคืนนั้นแล้ว คุณเกรนเจอร์ คุณครัมเคยทำร้ายคุณอีกบ้างไหมในคืนก่อนๆ”พวกเขาถามและเขียนทุกคำพูดที่เธอพูดและการแสดงออกบนใบหน้าของเธอทุกจุด
เธอมองที่พวกเขาและพยายามจับมือที่สั่นของเธอให้มั่นคง”มีค่ะ มันช่างเลวร้ายมากมีอยู่วันหนึ่งฉันนัดกับวิกเตอร์มากินอาหารที่บ้านเขาฉันกลับมาสายหลังจากที่ฉันไปเยี่ยมจินนี่และแฮร์รี่”หัวใจของเฮอร์ไมโอนี่ตีอย่างเร็วและแรงในขณะที่มือปราบมารตั้งใจฟังเธอ เธอพยายามควบคุมน้ำตาครั้งยิ่งใหญ่”เขาต้องการรู้ว่าฉันไปที่ไหนและฉันทำอะไรแล้วฉันก็บอกเขาว่าไปกับแฮร์รี่และจินนี่เขาโกรธและบอกฉันว่าโกหกและ และ ก็ด่าฉันเป็นหญิงโสโครกและนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาตบฉัน”ริมฝีปากของเธอสั่นและเธอพยายามกลืนก้อนน้ำตาลงคอ
“คุณอยากหยุดไหม”มือปราบบลากี้ถาม
เฮอร์ไมโอนี่สั่นหน้า”ฉันต้องการให้เขาได้รับโทษและจบมัน”
พวกเขาพยักหน้าและให้โอกาสเธอในการทำใจ
”หลังจากนั้น เขาบอกฉันว่าเขารักฉันและให้ฉันยกโทษให้เขาในสิ่งที่เขาทำรุนแรงกับฉัน”เสียงของเธอเด่นชัดและเธอก็อดทนต่อบางสิ่งก่อนที่น้ำตาจะเริ่มไหลลงอาบแก้มของเธอ”แล้วในคืนนั้นที่งานเลี้ยงสถานฑูตคืนนั้นเป็นอีกคืนที่เขาทำร้ายฉันอย่ารุนแรงเขาคว้าฉันและ และ ผลักฉันไปที่กำแพง เขาพยายามดึงกระโปรงของฉันและถอดกางเกงของเขาอย่างรวดเร็วฉันกรีดร้องเมื่อฉันรู้สึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นและในขณะนั้นเขา ...คุณคงเข้าใจมีใครบางคนมาจากเบื้องหลังของเขาและดึงเขาออกไปเพื่อช่วยฉัน”
“คนนั้นคือเดรโก มัลฟอย พวกเขาต่อสู้กันและฉันถูกผลักไปชนกับกำแพงต่อมาฉันคว้าไม้กายสิทธิ์ของฉันและทำให้วิกเตอร์เป็นหินโดยเร็วและฉันก็สลบไปเมื่อฟื้นขึ้นมาฉันเห็นมาเรียกำลังรักษาบาดแผลให้ฉันอยู่”
“เอาล่ะคุณมาอยู่พักฟื้นที่นี่ชั่วเวลาหนึ่งแล้วต่อมาคุณก็กลับไปอีก พวกเราอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณกลับไป”หนึ่งในพวกเขาถามเธอและเฝ้ามองปฎิกิริยาของเธออย่างสนใจ
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอย่างลำบากก่อนที่เธอจะเริ่มเล่าเหตุการณ์ในครั้งนั้น
”ฉันโกรธในคำพูดบางอย่างของมัลฟอยและสถานที่แรกที่ฉันไปคือกลับไปหาวิกเตอร์ฉันอยากจะพิสูจน์บางอย่างแต่ฉันเป็นเพียงแค่คนโง่เมื่อฉันไปที่นั่นวิกเตอร์ประหลาดใจที่เห็นฉันและต่อมาก็กลายเป็นความโกรธเขา.....เขาทำลายไม้กายสิทธิ์ของฉันและเขาก็พยายามที่จะข่มขืนฉันอีกครั้งฉันบอกเขาว่าให้หยุดแต่เขาไม่ยอมแต่ต่อมาแม่ของเขามาห้ามเขาเอาไว้ พวกเขาคุยอะไรกันบางอย่างและวิกเตอร์ยอมไม่ทำร้ายฉันแต่เขากลับขังฉันเอาไว้ไม่ให้ไปไหนและนั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นทั้งหมดฉันพยามยามหลบหนีแต่เขาก็หยุดฉันไว้ได้และฉันก็ยังไม่มีโอกาส”เธอบอกพวกเขา”ต่อมาในตอนเช้าเบลส ซาบินี่และแม่ของเขา มาเรีย ซาบินี่ก็ปรากฎตัวขึ้นและอธิบายให้วิกเตอร์รู้ว่าพวกเขาต้องการให้ฉันมางานเลี้ยงของเขา”
“พวกเขาจัดการให้ฉันหลบออกมาโดยไม่มีไม้กายสิทธิ์ของฉันและนำฉันกลับมาที่นี่”เธอกล่าวพวกเขาจดบันทึกลงไปทุกสิ่งที่เธอบอก
“เอาล่ะที่นี้บอกพวกเรา ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ร้านไอศกรีม”มือปราบเลสติ้ถามบ้าง
เธอนิ่งไปชั่วครู่เพื่อลำดับเหตุการณ์ “พวกเรานั่งกินไอศครีมกันอยู่และวิกเตอร์ก็เดินเข้ามาพวกเราพยายามที่จะปลีกตัวออกไปโดยไม่ให้ใครสังเกตแต่เขาก็เห็นฉันจนได้ต่อมามีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นเขาต้องการให้ฉันกลับไปกับเขาและเดรโก มัลฟอยยืนขึ้นและกันฉันไว้และบอกเขาให้ไปให้พ้นทางพวกเขาต่อสู้กันและแพนซี่ พากิสัน และเบลส ซาบินี่จึงได้วิ่งออกไปขอความช่วยเหลือจากมือปราบมารในขณะที่วิกเตอร์กำลังร่ายเวท
มนต์เพื่อฆ่าพวกเราแต่มือปราบมารพอตเตอร์มาช่วยพวกเราได้ทันเวลาพอดี มือปราบมารเลยเข้าควบคุมวิกเตอร์กลับออกไป”
เธอกล่าวจบและรู้สึกถึงบางสิ่งที่ยกออกไปจากบ่าของเธอนั่นคือสิงที่ต้องทำเธอบอกพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นและในตอนนี้วิกเตอร์จะต้องถูกลงโทษ
เขามองดูเธอกับการแสดงออกถึงความเสียใจ”ดีมากครับ มีสเกรนเจอร์และขอบคุณสำหรับเวลาพวกเราหวังว่า พวกเราจะนำความยุติธรรมมาสู่คุณโดยเร็วที่สุด”มือปราบเลสติ้งกล่าวและยืนขึ้นจากที่นั่งของเขาและจับมือกับเธออย่างอ่อนโยน
”พวกเราเสียใจที่คุณประสบเรื่องที่เลวร้ายกับสิ่งนั้นแต่มันจะช่วยพวกเราเป็นกรณีศีกษาได้ดีทีเดียว เป็นไปได้ว่าเราอาจจะแวะมาเยี่ยมอีกถ้าเราต้องการสิ่งอื่นเพิ่มเติม”เขากล่าวอย่างนุ่มนวล
“และพวกเราจะนำไม้กายสิทธิ์กลับมาให้คุณเหมือนเดิมเช่นกัน”เบลกกี้ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นและพวกเขาก็ออกไป
ในที่สุดเฮอร์ไมโอนี่ก็ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของการปลดปล่อยเธอนอนลงและจ้องมองไปยังพื้นที่ๆว่างแล้วน้ำตาก็ไหลนองแก้มเธอ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ว่าความอัดอั้นทั้งหมดที่เธอมีมันถูกปล่อยออกมาแทบหมดแล้วถ้าจะมีเหลือก็เพียงแค่เส้นใยบางๆของความรู้สึกดีๆที่เขามีให้กับเธอบ้าง แค่เล็กน้อย
เธอปลดปล่อยออกจากภวังค์เมื่อประตูห้องของเธอเปิดออกและเธอเห็นเดรโกก้าวเข้ามา”คุณไม่เป็นไรใช่ไหม”
เขาถามพร้อมทั้งยืนอยู่ตรงหน้าประตูอย่างกระวนกระวายใจ
เฮอร์ไมโอนี่เช็ดน้ำตาของเธอออกและยิ้มให้เขา”ฉันคิดว่าฉันจะ”เธอกล่าวและนั่งตัวตรงเธอตบเบาๆบนที่นั่งข้างๆเธอเพื่ออนุญาตให้เขามานั่ง
”เดรโก”เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นหลังจากนั้นก็เงียบไป
“ฮือ”เขาพูดตอบรับกับความเงียบและเกือบสำลักกับสิ่งที่เธอเรียกชื่อต้นเขา
“ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือทุกอย่าง แต่ฉันคิดว่ามันถึงเวลาที่ฉันควรไปได้แล้ว”เธอกล่าวเรียบๆ
สมองของเดรโกลั่นเปรี๊ยะเมื่อมองไปที่เธอ และแสดงสีหน้าที่ตกใจ
”คุณ อะไรน่ะ”เขาถาม”คุณยังออกไปไหนไม่ได้นะ ไม่จนกว่าเขาจะโดนจับเข้าไปในคุกเสียก่อน เขาสามารถตามหาคุณได้นะ” เดรโกไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงตื่นตกใจที่คิดว่าเฮอร์ไมโอนี่จะไป แต่เขาก็ไม่สนใจต่ออะไรทั้งนั้นเขารู้แต่เพียงว่า เธอเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ กับพวกเขา ....และตัวเขา
เธอมองไปทีเดรโกที่มีรอยยิ้มที่เคร่งขรึม”ฉันรู้แต่ฉันคิดจริงๆว่าฉันจะได้รับอนุญาติให้ออกไปได้ในตอนนี้ฉันจะต้องพยายามมีชีวิตอยู่ด้วยตัวของฉันเอง”
เดรโกรู้ว่าเธอคิดมาก่อนแล้วที่จะคุยกับเขา เฮอร์ไมโอนี่เป็นคนดื้อรั้นและมั่นใจในตัวเองหากเธอต้องการในสิ่งนี้ เขาก็จะให้ในสิ่งที่เธอต้องการมันไม่สำคัญว่าจะมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เขาต้องตื่นตกใจกลัวแค่ไหน หรือเสียใจมากเพียงใดเพียงแค่ให้เธอได้สบายใจและพอใจแค่นั้นสำหรับเขา
เดรโกถอนหายใจ “ถ้าคุณทำแล้วคุณสบายใจ”เขายอมรับ”แต่สัญญาก่อนว่าคุณจะต้องบอกกับมาเรียเสียก่อน คุณก็รู้ว่าเธอเป็นห่วงคุณแค่ไหน”
เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะอย่างสดใสและสิ่งนี้ทำให้เดรโกบันทึกภาพที่สวยงามเอาไว้ภายสมองของเขาเงียบๆเขาต้องการที่จะสร้างความทรงจำที่ดีถึงมันยามที่ไม่มีเธอ
”เราไปบอกเรื่องนี้ให้คนอื่นๆรู้กันเถอะ”เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับดึงเดรโกให้ลุกตามเธอไปด้วย พวกเขาเดินลงบันไดมาในครัวและเจอเบลสและแพนซี่กำลังโต้เถียงกันถึงอะไรบางอย่างโดยมีมาเรียกำลังเฝ้ามองด้วยความขบขัน
พวกเขาหยุดโต้เถียงกันและหันมาสนใจเธอแทนในทันที
”เฮอร์ไมโอนี่จะไปไหนล่ะ คุณเป็นยังไงบ้าง”แพนซี่ตรงมาที่เธอเธอพยักหน้าและยิ้มในขณะที่ได้กลิ่นกาแฟลอยมาตามอากาศ
”กาแฟไหม” ใครคนหนึ่งเป็นคนถามเธอ และในตอนนี้มันเป็นคำถามที่เฮอร์ไมโอนี่อยากจะได้ยินเป็นที่สุด
”ค่ะ”เธอกล่าวแล้วรับกาแฟจากมือของแพนซี่ ก่อนที่เธอจะมองไปรอบๆเพื่อหาเดรโกแต่ไม่เจอ”เดรโกอยู่ไหนแล้วล่ะ”เธอถามอย่างแปลกใจเพราะเมื่อกี้เธอยังเห็นเขาอยู่เลย
เบลสมองดูรอบๆอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ”ฉันคิดว่าเขาน่าจะเดินออกไปที่สวนมั้ง”เบลสพูดสรุปเอาเองก่อนที่เขาจะนั่งลงข้างๆแพนซี่
“โอ้ว”เฮอร์ไมโอนี่ครางเธอคิดว่าเดรโกจะอยู่ที่นี่กับเธอเมื่อเธอบอกพวกเขาแต่ เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ได้ฉุกใจอะไรมากไปกว่าคิดว่า เขาอยากให้เธอทำมันเอาเองตามลำพัง
” คือ ฉันมีบางอย่างจะบอกพวกคุณ”เธอนิ่งเงียบไปเมื่อเห็นทุกคนกำลังตั้งใจฟังในสิ่งที่เธอจะพูด”ฉันคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่ฉันสมควรจะไป” ความเงียบแพร่กระจายไปทั่วบริเวณนั้นมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่แทบหายใจไม่ออก
“เธอ เธอ ว่าอะไรน่ะ”เบลสร้องเสียงหลง
มาเรียยิ้มไปที่เธออย่างเข้าใจ”ก็ได้ ถ้าเธอคิดว่ามันดีสำหรับเธอ อีกอย่างเธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้วในตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่และฉันก็เคารพในการตัดสินใจของเธอ ฉันคิดว่าถ้ามันเป็นสิ่งที่เธออยากทำ เธอสามารถออกไปได้”เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มไปที่มาเรียและกอดเธอไว้แน่นในขณะที่แพนซี่และเบลสมองกันอย่างกังวล
“ฉันสัญญาว่าฉันจะติดต่อกลับมาตลอดเวลา และฉันจะกลับมาเยี่ยมถ้ามีโอกาส”เฮอร์ไมโอนี่พูดให้คำมั่น
“แล้วเดรโกรู้ไหม”แพนซี่ถามเรียบๆ แต่ในใจของเธอกลับหวั่นวิตก
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า”เขารู้แล้วเขาเข้าใจมันดีเมื่อกี้เขายังเดินลงมากับฉันเพื่อบอกเรื่องนี้ให้ทุกคนรู้เลย แต่ฉันไม่รุ้ว่าตอนนี้เขาไปไหนเสียแล้ว ”เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสับสน
“เฮอร์ไมโอนี่ ฉันคิดว่าเดรโกอาจจะ. รักคุณ”แพนซี่พึมพำแต่เมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่มองมาที่เธออย่างสับสนแพนซี่จึงหัวเราะเบาๆ”แต่มันเป็นแค่ความรู้สึกของฉันเอง”เธอ พูดอย่างรวดเร็ว
“เป็นไปไม่ได้หรอก”เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเฝื่อนๆและพยายามปฎิเสธ”ทั้งหมดเลยมันเป็นไปไม่ได้”
เบลสเลิกคิ้วสูงไปที่แพนซี่เหมือนว่าตัวเขาเองก็คิดแบบเดียวกันกับเธอในขณะที่แพนซี่มองกลับไปที่เฮอร์ไมโอนี่ผู้ซึ่งตอนนี้กำลังควบคุมอารมณ์และเธอก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน.ในสิ่งที่แพนซี่พูด
”มันเป็นเพียงความรู้สึกของฉันอย่าใส่ใจเลย”แพนซี่พูดเพื่อให้เฮอร์ไมโอนี่คลายกังวลแต่ความคิดของแพนซี่เธอกลับคิดว่าเธอรู้ดีที่สุดมันไม่ใช่แค่ความรู้สึกของเธอเท่านั้นแต่เธอรู้ว่าเดรโกรักเฮอร์ไมโอนี่อย่างจริงๆจังๆ ตลอดหลายปีทีเธอรู้จักกับเดรโกมา แม่ของเดรโกพยายามที่จะจับพวกเขาเข้าคู่กันแต่ทั้งหมดที่เธอเห็นเดรโกไม่เคยแสดงอาการว่ารักเธอมาก่อนเลย อาจจะมีบ้างที่สงสารและให้ความสนิทสนมกับเธอและเผลอๆอาจจะชอบแต่ก็ไม่ถึงกับรัก
แน่นอนเมื่อเดรโกพบว่าแพนซี่ถูกพ่อของเธอ.ใช้เธอและข่มขืนเธอเขาโกรธและแทบจะบุกไปยังคฤหาสน์ของครอบครัวเธอแต่เธอไม่เดยเห็นเขาในลักษณะแบบนี้มาก่อนเลยท่าทีที่เขาชำเลืองมองเธอและยิ้มกับเธอปลอบใจเธอ แต่กับเฮอร์ไมโอนี่ ตั้งแต่วันที่เฮอร์ไมโอนี่ช่วยเขา เขาก็แสดงให้เห็นถึงอาการนั้น แพนซี่กลืนน้ำลายลงคออย่ายากลำบากไม่ใช่ว่าเธออิจฉาเฮอร์ไมโอนี่แต่เธอสงสารเพื่อนของเธอมากกว่าในเวลานี้
”ฉันจะไปดูเขาสักหน่อย ถ้าฉันพบตาทึ่มนั่น ฉันจะรีบกลับเข้ามา”แพนซี่กล่าวก่อนที่จะออกไปจากครัวเพื่อเข้าไปยังสวน
ทันทีที่เธอเห็นเขาเธอเดินตรงไปหาเขาและโอบแขนของเธอไปรอบๆเขาเขาไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ “ไม่เป็นไรใช่ไหมเดรก”เธอถามรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนของเธอ
เขาพยักหน้า”ทำไมไม่เป็นฉัน”เขาพูดจาเยาะเย้ยอย่างขมขื่นแพนซี่ทำสีหน้าไม่ค่อยสบายใจนัก”เธอกำลังจะไป เพื่ออะไร มันไม่เหมือน ไม่เหมือน”
แพนซี่หน้าบึ้ง”มันไม่เหมือนอะไรเดรโก มันไม่เหมือนกับที่คุณตกอยู่ในความรักกับเธอ”เธอถามเขาและเขามองเธอ พร้อมกับการแสดงออกอย่างหมดหวังบนใบหน้าของเขา
”คุณอยู่ในความรักกับเธอเดรโก”เธอพูดเบาๆ
เดรโกหันมองไปทางอื่น”ฉันไม่รู้”เขายอมรับอย่างอายๆ”เธอคือเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เธอเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ เวลาที่เธอยิ้มมันทำให้ฉันยิ้มด้วยเธอดูเหมือนนางฟ้าเมื่อเธอหลับเธอดูบริสุทธิ์และพร้อมที่จะให้อภัย แต่เธอผ่านอะไรไปมากและฉันไม่ต้องการบังคับเธอไปมากกว่านี้”เขากล่าว”พระเจ้า แพนซี่ ฉันรู้สึกอยากปกป้องเธอ เธอเป็นคนที่เข้มแข็งและฉันต้องการเป็นคนหนึ่งที่เธอจะพึ่งพาได้ยามเธออ่อนแรง”แพนซี่ยิ้ม”แต่ฉันทำได้คือความล้มเหลวเธอสมควรจะได้รับแต่สิ่งที่ดี”
ตอนนี้แพนซี่หน้ามุ่ย”เดรโกคุณคือผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ สาวคนไหนที่ได้คุณไปจะโชคดีและสิ่งที่คุณช่วยเฮอร์ไมโอนี่คุณไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนจะมีก็แต่สิ่งดีๆให้กับเธอ”
“แค่ฉันเป็นคนไม่ดีแพนซี่”เดรโกกล่าวเสียงแหบแห้ง
“ใครบอก ก็ใช่ คุณอาจจะมีอดีตที่ไม่ดีแต่อดีตมันผ่านไปแล้ว”เธอบอกเขาและมองไปยังดวงตาสีเทาประกอบไปด้วยเหล็กกล้าของเขาซึ่งทำให้แน่ใจได้ว่าเขากำลังฟังคำพูดของเธอ
”เหมือนกับที่คุณบอก เธอเพียบพร้อม เพียบพร้อมสำหรับคุณและคุณก็เพียบพร้อมสำหรับเธอไม่ต้องมีข้อสงสัยใดๆเลย”
แพนซี่ถอนหายใจเมื่อเขายังคงเงียบอยู่”มองดูสิ เดรโก เธอจะไปพรุ่งนี้แล้วคุณหยุดเธอได้หรือคุณจะให้เธอไปทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับคุณว่าคุณรักเธอมากแค่ไหน”เธอกล่าวก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปยังคฤหาสน์เพื่อไปหาเบลส และเพื่อหารือกันบางอย่าง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น