ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC แปล Harry / Hermione Malfoy

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 9 : แผนการณ์เจ้าเล่ห์ของเดรโก

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ย. 55


    ขอโทษนะค่ะลงช้าอีกแล้ว จะพยายามอัพให้ไวๆนะค่ะ แต่ไม่ทิ้งกันแน่นอนค่ะ

    แผนการของเดรโก

    เฮอร์ไมโอนี่ตื่นสายในเช้าวันถัดมา เธอแทบจะยกหัวไม่ขึ้น เพราะความปวดร้าวและมึนงง ที่ถาโถมเข้ามา  เมื่อเธอลืมตาขึ้นเธอจึงพบกับห้องที่เธอคุ้นเคย ห้องของเดรโก

    เธอเลื่อนสายตาของเธอไปรอบๆห้องก่อนที่จะหยุดที่เตียงนอนข้างๆตัวเธอ ไม่มีร่างของเดรโก เขาไปไหนแล้ว ! เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิด  เขาอาจจะออกไปห้องโถงใหญ่เพื่อหาอะไรทานร่วมกับเพื่อนบ้านของเขาก็ได้  เขาจะมาสนใจอะไรกับเธอมากมายนักเล่า ในเมื่อเธอเองก็เป็นเพียงภรรยาปลอมๆของเขาเท่านั้น

    เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ เธอไม่รู้ว่าเธอถอนหายใจ เพื่ออะไรดี  โล่งอกหรือเจ็บปวดกันแน่  เฮอร์ไมโอนี่สลัดผ้าห่มออกจากตัวเธอและลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เธอจะต้องอาบน้ำเพื่อให้สดชื่นขึ้น ไม่งั้นอาการปวดหัวของเธอคงไม่หยุดลงง่ายๆแน่ บางทีเธออาจจะต้องไปขอยา มาดามพอมฟรีย์ เมื่อเธออาบน้ำและหาอะไรลองท้องที่ห้องโถงแล้ว

    เฮอร์ไมโอนี่ถอดเสื้อผ้าที่เธอใส่เมื่อคืนออกอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกอยากอาเจียน เมื่อเธอได้กลิ่นวิสกี้ไฟที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้าของเธอเมื่อคืนนี้ และก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะปลดตะขอบราของเธอออกเธอได้ยินเสียงกระแอมของใครบ้างคนอยู่ภายในห้อง

    เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้ง เธอตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ เธอหันขวับไปที่ต้นเสียง และเห็นเดรโกยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ

    คุณพระช่วย! เฮอร์ไมโอนี่กวาดสายตามองภาพของเขาแว๊บหนึ่ง และรีบก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ทัน เมื่อภาพเนื้อตัวเปล่าเปลือยของเขาประทับลงในความทรงจำของเธอไว้อย่างชัดเจน

    เฮอร์ไมโอนี่ตื่นตะลึงเกินกว่าจะสรรหาคำพูดอะไรได้เจอ

    “เสียใจเกรนเจอร์นึกว่าเธอหลับอยู่”เดรโกพยักหน้าไปที่ผ้าเช็ดตัวผืนน้อยซึ่งปิดตรงจุดยุทธศาสตร์ของเขาพอดี “ไม่มีผ้าขนหนูในห้องน้ำ มีแต่ผ้าผืนเล็กนี้ผืนเดียว ฉันเลยต้องเอามาใช้ก่อน” เขาพูดเสียงเรียบเหมือนมันเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับเขา แต่มันไม่ใช่สำหรับเธอ ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงจนไปเกือบถึงต้นคอแล้ว

    “ช่วยฉันหน่อยได้ไหม ที่รัก”เขาพูดเบาๆและมองเธออย่างมีเล่ห์เหลี่ยม เฮอร์ไมโอนี่กระแอมเบาๆ ก่อนจะค่อยๆเลื่อนสายตา อย่างระแวดระวังขึ้นไปตามเรือนร่างของเขา ก่อนจะติดแหง็กอยู่ระหว่างกลางลำตัวของเขา

    บ้าเอ๊ย! ถ้าเขาไม่เอาผ้ามาปิดตรงจุดนั้นจะเกิดอะไรขึ้น เฮอร์ไมโอนี่นึกจินตนาการไปไกลโพ้น ก่อนจะดึงสติของเธอกลับมา

    “หยุดจ้องตาถลนได้แล้วเฮอร์ไมโอนี่  เลือนสายตาออกมาจากเขาตอนนี้เลยนะ” เออรืไมโอนี่ต่อว่าตัวเธอในใจ พร้อมกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่พร้อมๆกับเบนสายตาออกจากจุดอันตรายนั้น

    เดรโกสังเกตเห็น เขายิ้มกริ่มทั่วใบหน้า    อ้า!  ภรรยาตัวน้อยของเขา ไม่ใช่สาวโบราณเสมอไปหรอก อย่างน้อยเธอก็รู้สึกรู้สมกับความเป็นชายของเขา ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่จ้องตาเป็นมันแบบนั้นแน่ ถ้าเขารู้ว่าร่างกายของเขามันจะกระตุ้นต่อมความรู้สึกของเธอได้ เขาคงจะแก้ผ้าแบบนี้บ่อยๆแล้ว

    เดรโกหรี่ตามองเธออย่างช้าๆพร้อมกับแผนการกลโกงในสมอง เขาหันสายตาและกวาดตามองเรือนร่างของเธออย่างช้าๆ แววตาของเขาที่โลมเลียเธอทำให้ร่างกายของเธอร้อนผ่าวๆประดุจถูกแผดเผา และมันทำให้เธอเริ่มรู้สึกตัว

    “อุ๊ย”เฮอร์ไมโอนี่อุทานด้วยความตกใจก่อนจะคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำของเธอมาคลุมทับเรือนร่างกึ่งโป๊กึ่งเปลือยของเธอ ซึ่งเดรโกเล้าโลมทางสายตาอย่างจงใจ
     เดรโกถอนหายใจอย่างนึกเสียดาย ก่อนที่จะสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้เธอ

    เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากหวอ จ้องจนเขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอในสภาพใกล้เคียงกับชุดวันเกิดถ้าไม่มีผ้าเช็ดตัวผืนเล็กปกปิดความเป็นชายของเขาไว้

    “นายจะทำอะไรนะ “เฮอร์ไมโอนี่เสียวสั่น เธอจ้องมองเขากลับ และรู้สึกไม่ชอบในรอยยิ้มอันซุกซนเจ้าเล่ห์ของเขา

    เขาเลิกคิ้วและยิ้มกริ่ม”อือ ...เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรเฮอร์ไมโอนี่”เฮอร์ไมโอนี่ถอยห่างออกมาจนร่างของเธอชนกับตู้เสื้อผ้า โดยที่มีร่างของเดรโกเดินเข้าประชิดติดตามเสียดสีอยู่กับเธอ

    “ได้โปรด เดรโก ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยทีเถอะ”เธอกระซิบกับเขาพร้อมกับหลับตาพริ้มด้วยความเขินอาย

    “เธออยากให้ฉันใส่เสื้อผ้า จริงๆนะเหรอ”เขาแกล้งยั่วเธอเล่นอย่างจงใจ

    “ใช่”เธอตอบเสียงแผ่วเบา  เมอร์ลิน เดรโกทำให้เธออ่อนแอ ร่างกายแข็งแกร่งของเดรโกทำให้เธอวูบวาบขึ้นมาอย่างประหลาด และสิ่งนั้นมันอาจทำให้เธอไขว้เขว และทำอะไรที่เกินเลยไป โดยที่ห้ามใจตัวเองไม่ทันก็ได้

    “งั้น”รอยยิ้มรู้ทันปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา ขณะที่เขาก้าวเข้ามาใกล้ชิดกว่าเดิม”คงต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”

    “อะไรนะ”เฮอร์ไมโอนี่ตะกุกตะกัก เธอยื่นมือทั้งสองข้างยันหน้าอกเปลือยของเขาเอาไว้

    “จูบฉัน”เขาออกคำสั่งพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอ

    “ไม่”เฮอร์ไมโอนี่ ส่ายหัวเธอปฎิเสธเสียงแข็ง แค่เห็นสัดส่วนอร่าอร่ามของเขาเธอก็แทบสติหลุดแล้ว ขืนให้เธอสัมผัสริมฝีปากอันเย้ายวนของเขาตอนนี้ เธอต้องเตลิดแบบกู่ไม่กลับแน่

    “แน่ใจนะ”เขามองเฮอร์ไมโอนี่อย่างประหลาดใจในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าอย่างเร็ว

    “งั้น”เขายิ้มอย่างร้ายกาจให้เธออึกครั้งแล้วมองด้านหลังตนเองอย่างมีเลศนัยก่อนมองมาที่เธอและยิ้มอย่างเซ็กซี่ให้กับเธอเป็นครั้งสุดท้าย

    “ตามใจ”เขาพูดและเดินลอยชายกลับไปยังห้องน้ำอีกครั้งอย่างจงใจ เพื่อให้เธอได้มองเห็นบั้นท้ายด้านหลังของเขาที่ไม่มีอะไรปกปิดได้อย่างเต็มตา

    โอ้ว....เมอร์ลิน  เฮอร์ไมโอนี่สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ เลือดลมของเฮอร์ไมโอนี่สูบฉีดไปทั่วร่างกายใจของเธอเต้นราวกับกลองรัว

    เธอไม่เคยคิดว่า เธอจะชอบมองบั้นท้ายของผู้ชายมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นแฮร์รี่หรือรอน แต่สำหรับเดรโก เป็นข้อยกเว้น บั้นท้ายของเขาดูสวยงาม มันดูแน่นและตึงเปรี๊ยะ มีมัดกล้ามที่แข็งแกร่ง โอ้ว...เฮอร์ไมโอนี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลงพร้อมกับลมหายใจที่เต้นระรัว

    เธอได้ยินเสียงของเดรโกตะโกนดังออกมาจากห้องน้ำ และมันทำให้เธอได้สติ

    “หวังว่าเธอคงจะพอใจกับสัดส่วนที่ได้เห็นนะ เฮอร์ไมโอนี่” พร้อมๆกับมีเสียงหัวเราะของชายหนุ่มที่ดังขึ้นอย่างอารมณ์ดี

    เออร์ไมโอนี่หน้าแดง ก่อนที่เธอจะรวบรวมเสื้อผ้าของเธอและตัดสินใจที่จะไปอาบน้ำที่หอกริฟฟืนดอร์

    หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่ โอ้เอ้อยู่กับการอาบน้ำหลายชั่วโมงในหอกริฟฟินดอร์ และแน่ใจแล้วว่าเดรโกก็คงจะเสร็จธุระกับการอาบน้ำของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วในหอนอนส่วนตัว เฮอร์ไมโอนี่จึงเดินกลับไปยังหอนอนเพื่อไปเอาเสื้อคลุมและหนังสือเรียน

    เป็นไปตามคาดสามีของเธอแต่งชุดยูนิฟอร์มนักเรียนฮอกวอตส์อย่างเรียบร้อยและกำลังนั่งคุยอยู่กับแม่ของเขาที่ห้องนั่งเล่นในบรรยากาศที่สบายๆ

    เฮอร์ไมโอนี่ปั้นหน้าให้กับคำว่าสามี เพราะมันทำให้เธอรู้สึกแก่ราวๆกับว่าอายุสัก 30ได้

    “รู้สึกยังไงบ้างจ๊ะ! ไม่เวียนหัวแล้วนะ”นาร์ซีสซายิ้ม พร้อมขยับที่นั่งให้เฮอร์ไมโอนี่ได้มีโอกาสนั่งข้างๆเธอ

    “ดีขึ้นแล้วค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้เล็กน้อย พยายามที่จะไม่มองตาเดรโก ซึ่งเธอรู้สึกว่าเขาจ้องมองเธออยู่

    “หนูได้ยินคุณบอกว่าคุณจะมาเป็นอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดให้เราหรือค่ะ”

    “ถูกต้องแล้วจ๊ะ”นาร์ซีสซาพยักหน้า”ที่บ้านไม่มีอะไรสำหรับฉันอีกต่อไปแล้ว”

    การสูญเสียสามีคงเหมือนการผลักความทุกข์ทรมานให้กับนาร์ซีสซาอยู่แล้ว ถ้าแม่ของเดรโกไม่ยอมทำใจหรือหาอะไรทำคงฟุ้งซ่านมากไปกว่านี้ เฮอร์ไมโอนี่คิดและเห็นดีกับเธอด้วยในการตัดสินใจรับสอนนักเรียนในฮอกวอตย์นี้

    “งั้นหนูคงจะได้เจอคุณในคาบแรก คุณอยากให้หนูช่วยย้ายไปห้องใหม่ไหมค่ะ”เฮอร์ไมโอนี่ถามด้วยความอ่อนน้อม ยิ่งทำให้นาร์ซีสซายิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับเธอ

    “ช่วงหลังอาหารกลางวัน เดรโกกับฉันพอมีเวลาว่างเราจะย้ายของกันตอนนั้น ใช่ไหมจ๊ะ ลูกรัก แต่ถ้าหนูอยากช่วยจะมาก็ได้นะ”

    “อันที่จริงถ้าเราจะย้ายกันตอนนี้ก็ได้นะฮะ” เดรโกพูดสวนขึ้นมาในทันที เขายิ้มกริ่มเล็กน้อย ได้เวลาที่จะย้ายแม่ของเขาออกไปจากพื้นที่ส่วนตัว ของพวกเขาทั้งสองคนแล้วสินะ ชายหนุ่มคิดขึ้นมาและอยากจะทำมันเสียตอนนี้เลย ไมใช่ว่าเขาอยากจะผลักไสแม่ของเขาถอยห่างจากเขา เพียงแต่เขาอยากมีพื้นที่ไว้หายใจ และทำอะไรๆร่วมกับภรรยาของเขาได้อย่างเปิดเผย และไม่มีใครคอยมาขัดจังหวะเท่านั้น ถึงแม้เขาจะยังคงเป็นห่วงเป็นใยแม่ของเขาก็ตาม แต่เขาเองก็ไม่ค่อยชอบใจนักที่เธอยังคงจะอยู่ที่นี่ เพื่อมาสอนให้กับนักเรียนในฮอกวอตส์ ในความคิดของเขา แม่ควรจะไปอยู่ที่คฤหาสน์มัลฟอยมันจะเหมาะกว่า

    เขาได้ยินเสียงแม่ของเขาหัวเราะอย่างเปิดเผยและพูดขึ้นมาบางอย่าง ที่ทำให้เขารู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย

    “อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้นะ ว่าพวกลูกคิดอะไรกันอยู่”

    เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงจัดในขณะที่เดรโกมองเธอให้รู้สึกสงสัยว่า หญิงสาวกำลังคิดอะไรอยู่และเขาก็ไม่สามารถยับยั้งใจตัวเองไว้ได้อีกแล้ว

    “อย่าให้เราต้องหยุดแม่กับความเป็นส่วนตัวของแม่เลยฮะ” เดรโกพูดพร้อมกับลุกขึ้นและดึงเฮอร์ไมโอนี่เข้ามาในอ้อมแขนของเขา พร้อมกับจูบลงไปที่ซอกคอของเธอเบาๆ

    “เดรโก”หญิงสาวส่งเสียงดุ พร้อมกับเบี่ยงตัวเธอออกจากเขา เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกอาย เมื่อโดนสามีของเธอจู่โจมต่อหน้าต่อตานาร์ซีสซา

    เดรโกรู้สึกขำเล็กน้อยกับอาการเขินอายของเธอ เขาแกล้งกระซิบกลับที่ข้างหูของเฮอร์ไมโอนี่ว่า

    “มีปัญหาอะไรงั้นเหรอที่รัก”

    “ไม่อายแม่ของนายมั่งหรือไง”  เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเขียวในขณะที่นาร์ซีสซายิ้มกว้าง

    “โอ้วฉันควรจะออกไปได้แล้วในตอนนี้”เธอลุกขึ้นและพูดต่อ”ฉันจะเจอเธอทั้งสองที่ห้องเรียนก็แล้วกันนะ แล้วอย่าไปสายกันล่ะ”นาร์ซีสซามองลูกชายของนางอย่างรู้เท่าทัน  ก่อนที่เธอจะย้ายออกไปจากห้องเธอชะงักเล็กน้อยเหมือนเหมือนว่าเธอลืมที่จะบอกอะไรบางอย่าง นาร์ซีสซาหันกลับมาหาพวกเขาอีกครั้งก่อนชูหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือ

    “อ้อ เกือบลืม นี่หนังสือพิมพ์ริต้าเพิ่งส่งมาให้ฉันดูเมื่อเช้านี้  รูปคู่ของพวกเธอดูน่ารักน่าชังทีเดียว ลองเอาไปดูสิ”นาร์ซีสซาวางมันไว้บนโต๊ะและออกจากห้องพร้อมกับปิดประตูตามหลังอย่างแนบสนิท

    เฮอร์ไมโอนี่หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาดูและเห็นภาพคู่สุดหวานแหววของพวกเขา ภายในรูปมันเป็นภาพของเฮอร์ไมโอนี่นั่งอยู่บนตักของเดรโกใบหน้าของเธอแดงก่ำเพราะวิสกี้ไฟที่เธอดื่มก่อนหน้านั้นศรีษะของเธอซบอยู่บนหน้าอกของเขา ในขณะที่เดรโกยิ้มกว้างด้วยความพึงพอใจและโอบเอวเธออย่างทะนุถนอม เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงกับภาพที่เห็น เธอไม่เคยคิดว่าภาพนี้มันจะดูหวาน แต่เธอกลับคิดว่ามันดูน่าอายที่เธอต้องตกอยู่ในอาการเมามายจนคุมสติแทบไม่อยู่  ทุกๆคนที่เห็นภาพนี้จะวิจารณ์เธอไปในทางที่ไม่ดีแน่ เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างจนปัญญาที่จะแก้ไขอะไรได้  ก่อนที่เธอจะกวาดสายตาไปที่ข้อความที่อยู่ใต้รูปภาพนั้น

    ข่าวหนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ต

    ข่าวเด่นข่าวดังแห่งทศวรรษ เลือดบริสุทธิ์และเลือดสีโคลน คู่กัดคู่โปรดแห่งฮอกวอตส์ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์  สาวสมองปราดเปรื่อง อดีตแฟนสาวแฮร์รี่ พอตเตอร์  แห่งวกริฟฟินดอร์  กับหนุ่มหล่อวายร้ายสลิธิรีน หนึ่งเดียวคนนี้ เดรโก มัลฟอย สร้างข่าวฮือฮาไปทั่วเมือง

    เมื่อวานที่ร้านไม้กวาดสามอัน ระหว่างงานเลี้ยงเล็กๆของครอบครัวมัลฟอย คุณนายใหญ่แห่งตระกูลมัลฟอย เผลอหลุดปากกับนักข่าวว่า ลูกชายสุดหล่อหนุ่มโสดหน้าหม่ำของเธอแต่งงานแล้ว

     สำหรับบรรดาสาวๆทั้งหลายคงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมสาวที่สุดแสนจะเรียบๆธรรมดาๆ อย่างเฮอร์ไมโอนี่เกรนเจอร์ ถึงเข้าตากรรมการของเจ้าชายเพลย์บอยไปได้ เรื่องนี้นักข่าวของเราจะตามจิกตามกัดกันให้ทราบอีกที แต่ที่แน่ๆเหล่าอาวุโสของโลกพ่อมดแม่มดทั้งหลาย ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ชีวิตแต่งงานของทั้งคู่คงอยู่กันได้ไม่นานนัก ประเภทหม้อข้าวไม่ทันดำประมาณนั้น

    สาวๆทั้งหลายคงจะรอคุณอยู่อย่างใจจดใจจ่อเลยล่ะคุณชายมัลฟอย

    ริต้า สกีตเตอร์

    “ในที่สุด ทุกๆคนในโลกพ่อมดก็รู้กันไปทั่วแล้ว”เฮอรืไมโอนี่เป่าลมออกจากปากอย่างหงุดหงิดใจ กับเนื้อหางี่เง่าของข่าว เธอน่าจะทำใจก่อนอ่านข่าวนี้แล้ว ว่าข่าวที่ริต้าร์เขียน คงไม่กล่าวสรรเสริญเธอแน่  และมันก็เป็นจริง เพียงแต่ดีนิดหน่อยตรงที่ริตาร์เขียนหยิกแกมหยอกเธอเล็กน้อยพอให้แสบๆคันๆเล่น อาจจะเป็นเพราะเธอเป็นเพื่อนกับนาซีสซาร์ก็ได้เลยไม่อยากทำอะไรเพื่อฉีกหน้าตระกูลมัลฟอยซึ่งเป็นเพื่อนของเธอเอง

    “แล้วไง  ความจริงฉันก็อยากให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว  คนอื่นจะได้ไม่ต้องมาเกาะแกะภรรยาของฉันอีก “รอยยิ้มโกงๆของเดรโกปรากฏชัดเจน

    “นายพูดแบบนี้หมายถึงใคร” เธอทำตาขึงขังใส่เขาและพูดด้วยเสียงฮึมฮำจากนั้นเธอจึงเท้าสะเอวและมองเขาอย่างหาเรื่อง เดรโกเอียงคอมองดูเธอนิดๆก่อนจะตอบกลับ

    “ก็แฟนเก่าเธอ วิคเตอร์ไง”

    เฮอรืไมโอนี่เชิดหน้าดวงตาสีน้ำตาลมองเขาอย่างถมึงถึง “วิคเตอร์กับฉันเป็นแค่เพื่อนกัน”

    “จริงงะ” เสียงที่เรียบเฉยของเขาและใบหน้าหล่อเหลาแปรเปลี่ยนเป็นซุกซนแกมโกงโดยอัตโนมัติ  “แต่เอาเถอะ ไง ฉันไม่ใส่ใจเรื่องนี้มากนักหรอก เพราะว่า ตอนนี้เราอยู่กันตามลำพังแล้ว “

    เฮอร์ไมโอนี่หน้าซีด เมื่อเธอพึ่งนึกได้ว่าเธอและเดรโกอยู่กันตามลำพังแล้ว เฮอร์ไมโอนี่พยายามหาทางหลบหนี แต่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ เมื่อเดรโกจับตัวเธอไว้แน่น

    “เป็นอะไรไป หน้าซีดเชียวที่รัก” เขาหลิ่วตาให้เธออย่างล้อเลียน

    “เปล่าแต่ฉันต้องไปเรียน เรากำลังสาย”

    “สายที่ไหนเรายังมีเวลาที่จะคุยกันนิดหน่อยแล้วยังพอมีเวลาทานอาหารเช้าด้วย”เสียงนุ่มนวลของเขาทำให้เธอสั่น เฮอร์ไมโอนี่ลูดลมหายใจเฮือกใหญ่เพื่อประคองสมาธิของเธอ  “คุย เหรอ จะคุยเรื่องอะไร”

    เดรโกโน้มตัวลงใกล้ใบหน้าของเธอและถามเธอเบาๆ“เธอชอบมันหรือเปล่า”

    เดรโกมองเธอและเธอเองก็มองตอบด้วยความฉงนกับคำถามนั้น เพียงชั่วครู่ที่สมองของเธอทำงาน เธอก็คิดออก ดวงตาสีน้ำตาลสวยของเธอเบิกกว้าง และเต็มไปด้วยความหวาดกลัว บ้าเอ๊ย เขาคงเจาะเข้าไปไม่ถึงความรู้สึกของเธอหรอกนะ

    “นาย หมายถึงอะไร ” เฮอร์ไมโอนี่แกล้งถามเสียงสั่น ทั้งๆที่เธอก็รู้คำถามนั้นดีอยู่แล้ว

    “ก็บั้นท้ายฉันไง มันสวยใช่ไหม”เดรโกมีประกายวาบในดวงตาหวานเชื่อมของเขา

    “บ้า....ลามก”เธอพูดต่อว่าเขางึมงำ พร้อมใบหน้าที่ร้อนฉ่าด้วยความอาย

    “ลามกตรงไหนฉันเห็นเธอมองบั้นท้ายฉันตาไม่กระพริบ”เขาพูดขึ้น แล้วเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง พร้อมกับยิ้มเยาะ

    “นายแกล้งฉัน นายจงใจให้ฉันเห็น” พวกเขาทั้งคู่ประจันหน้าเข้าหากัน แม้จะไม่ได้สัมผัสกัน แต่เธอรู้สึกประดุจ พวกเขาถูกมัดติดกันอย่างเหนียวแน่น ชีพจรของเธอเต้นตุบๆเมื่อได้กลิ่นโคโลญของเขาใกล้ๆ

    “ฉันไม่ได้แกล้งเธอนะ ก็บอกแล้วไงว่าข้างในห้องน้ำมันไม่มีผ้าขนหนูผืนใหญ่”เขาแกล้งถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเศร้าสลด

    “นายก็ควรจะใส่เสื้อผ้าตัวเก่าให้เรียบร้อยก่อนสิ แล้วค่อยเดินออกมาเอาผ้าเช็ดตัวข้างนอก”เฮอร์ไมโอนี่ เงยหน้าขึ้นมองเขาและทำปากยื่นแบบงอนๆ ซึ่งเดรโกคิดแล้วอยากจับเธอมาจูบเสียให้ปากช้ำเสียตอนนี้

    “ก็มันเสียเวลานี่ แล้วเสื้อตัวเก่าก็เหม็นจะตายฉันคงไม่ใส่มันหลังจากฉันอาบน้ำมาใหม่ๆหรอก  ทำไมล่ะฉันแก้ผ้าเธอต้องอายด้วยเหรอ อย่าลืมสิว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากัน” คำว่าสามีภรรยา กระตุ้นความรู้สึกไม่สบายใจผ่านเข้ามาในความรู้สึกอันฉับไวของเฮอร์ไมโอนี่

    “เดรโกนายก็รู้ดีนี่ว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากันแบบหลอกๆพวกเราจะเลิกกันเมื่อไหร่ก็ได้”

    ท่าทีของเดรโกเปลี่ยนไปเมื่อฟังคำพูดของเธอจบลง เขานิ่งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะขมวดคิ้ว แววตาขุ่นเข้มด้วยความไม่พอใจ

    “หมายความว่าไง เธออยากเลิกกับฉันมากเลยงั้นสิ”เขาพูดอย่างเย็นชาแล้วเงยหน้าขึ้นมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาแข็งกร้าว

    เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองเขาด้วยท่าทางตกใจอย่างเห็นได้ชัด“ฉันไม่ได้หมายความว่ายังงั้น ฉันเพียงแต่ชี้ให้นายเห็นว่า พวกเราเป็นเพียงแค่สามีภรรยากันในนามเท่านั้น พวกเราไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น”

    เดรโกมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่อย่างช้าๆ  “แล้วพวกเราอยากจะมีอะไรที่เกินเลยมากไปกว่านั้นหรือเปล่าล่ะ เฮอร์ไมโอนี่” เขาพูดอย่างเจ้าเล่ห์ พร้อมๆกับที่จับเธอเหวี่ยงขึ้นพาดบ่าพาเดินไปที่ห้องของเขา 

    “ปล่อยฉันลงนะ”เฮอร์ไมโอนี่ขู่ฟ่อแต่เมื่อเห็นเดรโกไม่สนใจเธอจึงทุบเข้าที่สีข้างเขาอย่างแรง เดรโกจึงจัดการตีก้นเธอเป็นการสั่งสอนเสียเลย เฮอร์ไมโอนี่สูดลมหายใจก่อนที่จะดิ้นรนจนเดรโกต้องยอมปล่อยเธอลง   เดรโกถึงกับปล่อยก๊ากเมื่อเห็นใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ที่ขาวซีดด้วยความตื่นกลัว

    “อะไรกัน  นี่ เธอคิดว่าฉันจะปล้ำเธอจริงๆนะเหรอ เธอไม่ได้น่าพิศวาสจนทำให้ฉันขาดสติปล้ำเธอได้หรอก” 

    เฮอร์ไมโอนี่กรี๊ดดังลั่น และเตะหน้าแข้งเขาอย่างแรงจนเขาเซถอยล้มลงไปนอนที่โซฟา  จากนั้นเธอจึงรีบฉวยกระเป๋าและเสื้อคลุม วิ่งออกนอกห้องไปอย่างรวดเร็ว

    “โอ้ย เจ็บนะ ยายบ๊องเอ้ย แค่ล้อเล่นหน่อยเดียว ถึงกับเตะกันเลยเหรอ ระวังตัวไว้ให้ดีๆเถอะ ฉันจะแก้แค้นเธอให้สะใจเลย”

    เดรโกตะโกนไล่หลังหญิงสาว ซึ่งวิ่งหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ปล่อยให้ เขาหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่เพียงลำพัง

    []][][][][][][][][][][][][][][][][][][][]

    ในช่วงที่เดรโกและเฮอร์ไมโอนี่ดำเนินชีวิตอย่างเป็นอิสระ พวกเขาไม่ได้รับรู้สิ่งที่จะทำให้ชีวิตของพวกเขาและเธอต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ณ ดินแดนอันไกลโพ้นของคุกที่มืดมิด สิ่งมีชิวิตที่ที่น่ากลัว ความอาฆาตแค้นกำลังเกิดขึ้นในตอนนี้
     
    “ไม่ ........”เสียงกรีดร้องดังมาจากห้องที่มืดมิดพร้อมกับมีสิ่งของเสียงดังแตกกระจายอยู่ภายในห้องนั้น

    “เลือดสีโคลนสกปรก  จะทำให้เลือดบริสุทธิ์ต้องแปดเปื้อน ฉันไม่ยอมให้ตระกูลของพวกเราไปปะปนกับเลือดสกปรกหรอก”เสียงแหลมเล็กพูดขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ปีศาจร้ายที่ฝังอยู่ในตัวเธอเริ่มฟื้นคืนชีพขึ้นในส่วนลึกของจิตใจ

    “ฉันจะฆ่ามัน ฉันจะฆ่า นังโสเภณีเลือดมักเกิ้ลที่กล้าบังอาจมาเทียบชั้นกับเลิอดบริสุทธิ์อย่างพวกเรา”เสียงตะโกนด่าทอยังคงดังต่อไปไม่ขาดสาย

    “ฉันจะฆ่าเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์”เสียงกรี๊ดร้องของหญิงสาว ดังขึ้นพร้อมกับเศษกระดาษจากหนังสือพิมพ์เดลี่ พรอเฟ็ต ที่ถูกฉีกทิ้งเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยปลิวว่อนออกมาจากในห้องที่ถูกคั่นกลางด้วยลูกกรงเหล็กที่แน่นหนานั้น

    “ปล่อยนะปล่อยฉันไป ปล่อยสิ”เสียงเขย่าลูกกรงดังขึ้นอย่างรุนแรง พร้อมกับมือที่เรียวยาวมีแต่หนังหุ้มกระดูก เหมือนกับปีศาจ ยื่นออกมาราวจะไขว่คว้าหาอิสรภาพที่แทบจะไม่มีตัวตน ความโกรธเกรี้ยวและเดือดดาลพลุ่งพล่านไปทั่วร่างของเธอ

    “”บางทีฉันอาจจะช่วยเธอได้นะ”เสียงต่ำลึกในลำคอดังมาจากข้างหน้าเธอ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นและพบว่าตัวเองเผชิญหน้ากับชายร่างสูงใหญ่ตัวล่ำบึกใส่ชุดสูทราคาแพงผมสีบลอนส์ของเขาส่องเป็นประกายกับแสงไฟที่ฝาผนังดวงตาสีเขียวเข้มแวววาวระยิบระยับ ทำให้น่ามองยิ่งขึ้น

    “คุณเป็นใคร”หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น ในขณะที่ลูกกรงเหล็กที่ขวางกั้นเธอและเขา อันตรธานหายไปราวเวทมนต์ชั้นสูง

     

    []][][][][][][][][][][][][][][][][][][][]

    ภายในห้องโถงใหญ่ฮอกวอตส์ ช่วงอาหารเช้าเฮอร์ไมโอนี่พยายามหลบสายตาของเดรโกที่ส่งมาให้เธอ เฮอรืไมโอนี่พยายามติดเกาะอยู่กับแฮร์รี่และรอนในขณะที่สมองของเฮอร์ไมโอนี่กลับคิดถึงบั้นท้ายของเดรโกตลอดเวลา เฮอร์ไมโอนี่ยอมรับกับตนเองว่าเธอไม่เคยคาดคิดว่าเธอจะคิดถึงเรื่องเหล่านี้ในหัวสมองของเธอมาก่อน และนี้เป็นครั้งแรก มันเหมือนเธอถูกเวทมนต์ และเวทมนต์เหล่านั้นดูท่ามันจะมาจากเดรโก มัลฟอย ใช่เธอต้องถูกเวทมนต์แหงๆ ไม่งั้นเธอคงไม่คิดถึง แต่บั้นท้ายแน่นเปรี๊ยะของเขาหรอก ความคิดลามกแบบนี้ไม่เคยอยู่ในหัวสมองของเธอเด็ดขาด เขาใช้เวทมนต์อะไรนะ แต่ !ฉันไม่เห็นเขาใช้ไม้กายสิทธ์สะกดเธอเลยนี่นา เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจและหน้าแดงอีกครั้ง

    แฮร์รี่ที่นั่งอยู่ใกล้เธอเริ่มหงุดหงิด เช้านี้เฮอร์ไมโอนี่เป็นอะไรไป เธอมักครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่เสมอ และมีอยู่หลายครั้งที่เขาสังเกตุเห็นว่าเธอหน้าแดงและดูเหม่อลอย

    “บอกฉันสิว่ามีอะไร”แฮร์รี่หรี่ตา สายตากวาดมองเธออย่างสงสัย

    “อะไร”เธอจ้องเขาเหมือนไม่เข้าใจครู่หนึ่ง

    “เธอนะสิมีอะไรจะบอกหรือเปล่า”

    “ฉันเหรอ ไม่นี่ ไม่มีอะทั้งนั้น”ความเย็นเหยียบแผ่กระจายไปทั่วทุกตารางนิ้วของผิวกาย พระเจ้า เธอจะบอกความจริงกับแฮรี่ได้ยังไงกันว่าเธอกำลังนึกถึงบั้นท้ายผู้ชายอยู่ เธอกำลังคิดว่าเขารักษาบั้นท้ายให้งดงามแบบนั้นได้ยังไง หรือเขาฝึกควิดดิช แล้วแฮร์รี่กับรอนล่ะจะเป็นแบบนั้นด้วยไหม เขาใช้เวทมนต์กับเธอหรือเปล่า   เธอมีคำถามตั้งมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกคำถามวิ่งพล่านชนกันอยู่ในความคิด พันกันยุ่งเหยิงไปหมด  และท้ายที่สุด เธอก็หันกลับไปจ้องมองแฮร์รี่อย่างเงียบๆ

    “ต้องมีแน่นอน ฉันเห็นเธอถอนหายใจบางทีก็เหม่อลอย บางทีก็หน้าแดง มันอะไรกันเฮอร์ไมโอนี่”เขาพูดอย่างหงุดหงิด

    “ฉัน...เออ...คือ ไม่มี”เธอส่ายหน้าและเริ่มสับสนงุนงงกับตัวเอง

    “อย่าบอกว่าไม่มีอะไร”เขาแค่นเสียงอย่างหมดความอดทน พวกผู้หญิงเนี่ยช่างเลือกเวลาได้เหมาะเหลือเกิน

    “แฮร์รี่”หญิงสาวตวัดสายตามองหน้าเขา เขาหรี่ตาลงมองเธอแววตาดุดันคู่นั้นเริ่มอ่อนแสงลงและเปลี่ยนเป็นแววตาและรอยยิ้มซุกซนส่งมาให้เธอแทนที่

    “ฟังนะ เธอคือเพื่อนเ เราสองคนและรอนเป็นเพื่อนกัน เพราะฉะนั้นมีเรื่องอะไรที่เป็นปัญหาของเธอบอกฉันพวกเราจะร่วมกันแก้ปัญหานั้น”เขาพูดจาอย่างจริงจัง

    “โอ้ว แฮร์รี่ เธอช่างดีกับฉันจริงๆ “ เสียงของเธอหวานราวพายพุดดิ้งอาบยาพิษ “แต่ว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับฉันหรอก ฉันก็เพียงแค่เหนื่อยและวิตกเรื่องการเรียนนิดหน่อย”

    “เรื่องการเรียน ทำไมล่ะคนเก่งอย่างเธอยังเป็นห่วงเรื่องอะไร” ดูท่าทางแฮร์รี่จะคลายใจลงบ้างแต่ก็เริ่มสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย

    “ช่วงนี้มันยุ่งๆ ฉันเลยไม่ค่อยได้ไปห้องสมุดและอ่านหนังสือเท่าไหร่”เธอพูดและแสดงละครด้วยการทำสีหน้าให้ดูเศร้าหมอง แฮร์รี่ขมวดคิ้วมองเธอเงียบๆอยู่นานจากนั้นคิ้วของเขาก็คลายออก และดวงตาก็แจ่มกระจ่างอย่างเข้าใจ

    “โธ่ ไอ้เราก็นึกว่าเรื่องอะไร เธอไม่ต้องวิตกหรอกเฮอร์ไมโอนี่ นี่เพิ่งจะต้นเทอมเองนะ เรายังมีเวลาเตรียมตัวอ่านหนังสืออีกตั้งเยอะ”

     

    []][][][][][][][][][][][][][][][][][][][]

    ที่โต๊ะฝั่งสลิธิรีน

    “นายมีปัญหาอะไร มัลฟอย เมื่อคืนนายนอนที่โซฟาหรือไง”เบลส ซาบินี่ ส่งยิ้มร้ายกาจมาที่เดรโกในขณะที่ชายหนุ่มจ้องมองไปที่โต๊ะภรรยาของเขาออย่างหงุดหงิด

    สิ่งแรกที่เขาเห็นในตอนเช้านี้หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่วิ่งหนีเขามา เธอรวมกลุ่มอยู่กับเพื่อนๆกริฟฟืนดอร์ของเธอโดยที่แทบจะไม่สนใจเขา เดรโกจึงเลือกที่จะนั่งที่โต๊ะสลิธิรีน โต๊ะที่เขานั่งเป็นประจำเสมอๆ แต่เพื่อนๆของเขาก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาได้เลย และยิ่งเมื่อเขาเห็นว่าเฮอร์ไมโอนี่ ดูจะสบายใจเมื่อไม่มีเขาอยู่ด้วย มันยิ่งทำให้เดรโกหน้าบึ้งกว่าเดิมอีกเป็นร้อยเท่า

    “ว้าว จริงเหรอ เดรโก ดังนั้นเธอควรจะเลิกกับยายนั่นได้แล้ว อย่างน้อยๆฉันก็ไม่เคยให้นายต้องไปนอนที่โซฟามาก่อนเลย”แพนซี่ขยิบตาให้เดรโกและกระแซะร่างของเธอใกล้ชิดเขามากกว่าเดิม

    “แพนซี่ เลิกมานัวเนียกับฉันสักที ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังกินอยู่”เดรโกทำหน้าบึ้งใส่แพนซี่  ในขณะที่การกินของเขาคือการเขี่ยอาหารไปมาบนจานอย่างอารมณ์เสีย

    “เป็นไรไปเดรโก มันแปลกหรือไงที่แพนซี่นัวเนียกับนายแบบนี้  ความจริงนายควรปลดปล่อยกับผู้หญิงคนอื่นๆบ้างนะ ถ้าเกิดเป็นฉันมีเสน่ห์กับผู้หญิงแบบนี้ แล้วยังทำเฉยอยู่ คงโดนคิดไปว่าเป็นพวกชอบช่วยตัวเองหรือไม่ก็พวกเกย์แน่”

    “แต่ฉันว่าเรื่องแบบนี้มันก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของเราเองด้วยนะ”แครปพูดขึ้นและมันทำให้เดรโกหัวเราะอย่างพอใจ อันที่จริงคำพูดคำจาของแครปก็ดูมีเหตุผลดีเหมือนกัน

    “แล้วนายละ เบลส คิดว่าตัวเองมีเสน่ห์ดึงดูดสาวๆได้มากแค่ไหน”เดรโกยิ้มที่มุมปากอย่างเยาะเย้ย

    ซาบินี่หรี่ตาของเขาเล็กน้อย พลางยืดตัวอย่างทระนง”อย่างน้อยๆฉันก็มีสาวๆบางคนติดรูปของฉันไว้บนฝาผนังห้องก็แล้วกัน

    “นั่นก็แค่ของประดับกำแพงเท่านั้นเบลส”เดรโกยิ้มเหยียดเล็กน้อย”ถ้าจะให้ดีตัวเราเป็นๆนี่แหละควรจะอยู่บนเตียงของเจ้าหล่อนเสียเลย แล้วฉันจะทำให้นายดูวันหลังเพื่อนรักแต่เมียฉันอาจจะมีปัญหากับมันเนี่ยสิ”

    “รู้สึกว่านายจะแคร์เมียนายมากเลยนะเดรโก ไหนลองบอกฉันหน่อยสิว่าเธอเป็นยังไงบ้าง เธอดีกว่าสาวๆพวกนั้นแค่ไหนกัน”ซาบินี่ถามพร้อมกับเหล่สายตามองข้ามฝากไปที่โต๊ะกริฟฟินดอร์

    “ฉันไม่จำเป็นต้องบอกพวกนายว่าเมียฉันมีค่ามากแค่ไหน” เขาพูดด้วยเสียงต่ำ และแข็งกร้าว

    ”แต่ก่อนนายมักจะบอกเราทุกเรื่องเลยนะ”กอยส์บ่นพึมพำ และหลบสายตาเดรโกด้วยนึกกลัว

    “แต่ก่อนมันกับพวกผู้หญิงข้างทางนี่”แพนซี่อ้าปากค้างกับสิ่งที่เดรโกพูด หมายความว่าไง เขาหมายถึงฉันหรือไง แพนซี่คิดในใจอย่างหงุดหงิด

    “ไม่ต้องมองมาทางนี้แพนซี่ฉันไม่ได้พูดถึงเธอ”เขาสบตาเธอพร้อมมอบรอยยิ้มที่ชั่วร้ายให้กับเธอ

    “ทำไมถึงต้องโมโหด้วยละแพนซี่”ซาบินี่ชำเลืองมาทางเธออย่างดูถูก”ร้อนตัวหรือไง”

    “ไปให้พ้นเลย เบลส ซาบินี่ ฉันไม่อยากจะเสวนากับนายเท่าไหร่หรอก”หญิงสาวสวนทันควัน

    “ทำยังกับฉันอยากคุยกับเธอนักนี่”

    ก่อนที่ผู้หญิงร้ายกาจกับชายหนุ่มปากจัด จะปะทะคารมด้วยเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องนั้น เดรโกจึงพูดเรื่องอื่นขึ้นมาเพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้นของพวกเขา

    “นายรู้แล้วหรือยังว่าแม่ของฉันจะมาเป็นอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่”

    ทุกคนที่บ้านสลิธิรีนต่างเงียบและหันมามองจ้องเดรโกเป็นตาเดียวกันหมด

    “และนั่นมันเป็นสิ่งที่ฉันต่อนข้างคิดหนัก”เดรโกพูดขึ้นด้วยสีหน้าสุดเซ็ง

     

    []][][][][][][][][][][][][][][][][][][][]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×