ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic แปลHarry potter Hogwarts Twilight (เซดริก/เฮอร์ไมโอนี่)

    ลำดับตอนที่ #10 : Chepter : 10 คำพูดจากใจที่ตายไปแล้ว

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 53


    บทที่  10  คำพูดจากใจที่ตายไปแล้ว

                    ถัดมาหนึ่งวันหลังจากวันคริสต์มาสในฮ๊อกวอตส์   ช่างน่าหดหู่เพราะนักเรียนที่โตๆกัน
    แล้วส่วนมากรู้สึกว่ามันยากในการที่จะทำให้ตัวเองตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา  การแข่งขันควิคดิชและการ
    เล่นปาหิมะได้ถูกยกเลิกชั่วคราวเพราะทุกคนกลัวว่าจะหลับไปโดยไม่รู้ตัว  เพราะคืนก่อนหน้านี้ได้ใช้
    เวลาส่วนมากอยู่กับคู่เดทหรือไม่ก็คุยเกี่ยวกับงานในเย็นวันนั้นกับเพื่อนจนเหน็ดหนื่อยกันมามากแล้ว


           
    เรื่องราวการโต้เถียงกันระหว่างเฮอร์ไมโอนี่และรอน  รวมทั้งการระเบิดอารมณ์ของเชดริกนั้น
    ถูกลืมไปอย่างรวดเร็วราวสายลม


           
    แฮร์รี่นั้นรู้สึกว่าตนเอง  เริ่มปวดหัวขึ้นมาบ้างแล้วเพราะต้องทนฟังรอนบ่นตลอดทั้งคืนและตอน
    นี้รอนก็ยังคงนอนอยู่


           
    เฮอร์ไมโอนี่นั้นปฏิเสธที่จะคุยกับรอนหรือทุกๆคน  รวมถึงคนที่ถูกส่งมาโดยแฮร์รี่หรือจินนี่ก็จะถูก
    ส่งกลับไปโดยไร้การพูดคุยของเฮอร์ไมโอนี่


           
    ตรงข้ามสนามของคฤหาสน์ใกล้ทะสาบดำ  ชายหนุ่มที่เหนือความตายนั่งนิ่งๆอยู่ท่ามกลางหิมะ
    และความหนาวเย็น  เขาจ้องมองไปยังเรือของเดิร์มสแตงส์ และในตอนนี้ความคิดของเขากำลังรบกวน
    จิตใจของเขาอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเฮอร์ไมโอนี่  หรือการที่เขาทำตัวเมินเฉยกับเธอในการที่
    เธอหนีออกไปจากห้องโถงใหญ่และอยู่กับวิกเตอร์ ครัม 


    ถึงแม้เขาจะดูเมินเฉยเธอแต่เขาเองก็ยังแคร์ความรู้สึกของเธออยู่เสมอ เขากำลังคิดอยู่ว่า ถ้าครัมพูด
    อะไรที่ไม่ดีออกไปเกี่ยวกับตัวเฮอร์ไมโอนี่หรือเขาล่ะก็    เชดริกจะจัดการกับครัมเองไม่ว่าจะได้รับความ
    ช่วยเหลือจากคนอื่นหรือไม่ก็ตาม


           
      สิ่งที่เขาได้ทำลงไปเมื่อคืนก่อนนั้นทำให้ครึ่งหนึ่งของพวกฮัพเฟิลพัพกลัวเขา  โดยที่อีกครึ่งหนึ่ง
    คิดว่าเขาบ้าไปแล้ว  ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถ้าพวกนักเรียนคนอื่นๆรู้ว่าเขาเป็นแวมไพร์คงไม่มีใครคิดจะ
    เข้าใกล้เขามากกว่านี้อย่างแน่นอน


           
    เขาไม่ได้สนใจใครทั้งนั้นไม่ว่าใครจะคิดกับเขาอย่างไร เพราะเซดริกไม่เคยคิดที่จะพึ่งพาใครเขา
    อยู่โดยลำพังนั้นเป็นลักษณะอย่างหนึ่งของแวมไพร์ที่แท้จริง

     

    มีเสียงหนึ่งตรงมาที่เขา เสียงฝีเท้าของใครบางคน  เขารู้สึกเกร็งเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าไม่สามารถอ่าน
    ความคิดของคนๆนั้นได้  แต่เมื่อเขามองตรงไปก็เห็นรอยยิ้มเล็กๆอันสดใสที่เขาคุ้นเตยและโหยหามาทั้ง
    วันทั้งๆที่เขาแสร้งเมินเฉยกับเธอมาตลอดทั้งวันก็ตาม


              เธอ กำลังมุ่งหน้าตรงมายังเขา จนเขาสามารถสัมผัสเธอได้


           
    รู้ไหมเธอน่ะตามตัวยากจริงๆ  เสียงเธอนั้นกระทบเข้ากับหูของเขาก่อนที่เธอจะลงนั่งข้างตัวเขา
    เธอตัวสั่นเล็กน้อยเพราะความหนาวเย็น  โดยที่เขายังคงจ้องมองอยู่ที่ทะเลสาบ  เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่น
    กายเธออีกครั้งหนึ่งจากนั้นก็ตัดการรับรู้ถึงกลิ่นนั้นออกในทันที


           
    ตามหาฉันทำไมกัน มีอะไรหรือเปล่า  เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาโดยไม่สนใจความฉงนบนใบ
    หน้าของเธอ

           

            สก๊อตส์เล่าให้ฉันฟังถึงสิ่งที่เธอพูดกับรอน  เฮอร์ไมโอนี่กล่าวพร้อมกับที่เชดริกจ้องมองออกไป
    ที่ทะเลสาบ


           
    มันก็ไม่มีอะไรมากนี่  ความจริงเขาสมควรที่จะได้รับการตักเตือนบ้างก็เท่านั้น………  อย่างที่เธอ
    พูดนะล่ะเขาได้ทำลายค่ำคืนของเธอ
    เซดริกพูดเรียบๆแต่ก็ยังคงไม่หันมามองเธอ


           
    ไม่ใช่……ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย…..  ฉันบอกว่าเขาได้ทำลายทุกอย่าง  แต่อันที่จริงฉันเอง
    ก็คิดว่ามันก็คงหมายถึงเขาได้ทำลายค่ำคืนของฉันด้วยเหมือนกันนั่นแหละ
      เฮอร์ไมโอนี่กล่าวทำให้เชดริก
    ส่งเสียงคำรามอย่างดังและมันก็ทำให้เธอหัวเราะออกมา


           
    ความเงียบเข้าครอบคลุมพวกเขา  ระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ เธอ เอาคางไปเกยไว้ที่หัวเข่า
    ของเธอ  ก่อนที่จะย่นหน้าผาก


           
    เธอเครียดอย่างนี่ตลอดเวลาเลยเหรอเฮอร์ไมโอนี่กล่าวทำให้เชดริกมองไปที่เธอ  อย่างรวดเร็ว
    ด้วยความฉุนฉียวเล็กน้อยและเธอยังคงจ้องมองดูเขาอยู่เช่นกัน


           
    ฉันไม่ได้เครียด  ฉันก็เป็นคนปรกติที่ออกจะผิดหวังเล็กน้อย  เมื่อคู่เดทของตัวเองทิ้งไปกลางงาน
    แบบนั้น
      เชดริกพูดออกมาอย่างหงุดหงิดและโกรธ คำพูดของเขา ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าลงและมอง
    ไปที่ทางอื่น


           
    งั้นเหรอ แต่คนปกติทั่วไปเขาก็ควรจะต้องทำความเข้าใจว่าเขาไม่ควรทะเลาะกับเพื่อนของคู่เดท
    ด้วยเรื่องไร้สาระแบบนั้นด้วย
    เฮอร์ไมโอนี่ตอกกลับระหว่างที่เชดริกกำมือแน่นก่อนจะมองไปทางอื่นเช่นกัน


           
    เอาล่ะ  ฉันพอจะเข้าใจแล้ว……….  และฉันขอโทษที่ทำให้ครัมคนดีของเธอไม่ได้ถามเธอในการเป็น
    คู่เดทของเขา
      เชดริกกระแทกเสียงระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองเขาด้วยความสับสน  เขานั้นไม่แม้แต่จะ
    มองเธอ เพราะถือเอาทิฐิเป็นใหญ่


           
    เชดริกยอมต่อข้อเท็จจริงที่ว่าเมื่อหลายปีก่อนที่เขาเข้ามาที่ฮ๊อกส์วอตการปรากฎตัวของเขาแทบจะ
    ไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้น แต่หลังจากที่เขาเจอเธอ ได้กลิ่นกายของเธอมันทำให้เขาหมกมุ่นกับเธอ สรุปง่ายๆก็
    คือ ถ้าเขาไม่ได้มาสนใจผู้หญิงมากเกินไป  เขาก็คงไม่ต้องมานั่งตรงนี้และหึงหวงกับการที่เธอแกล้งทำ
    เป็นว่าทุกอย่างนั้นเป็นปรกติ


           
    เขาเกลียดตัวเองที่เห็นแก่ตัว  สก็อตนั้นพูดถูกที่ว่าเขานั้นเข้าใกล้ความสุขมากที่สุด  และนั่นก็เพราะผู้
    หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา  แต่ตอนนี้เขาอยากที่จะปฏิเสธต่อการมีชีวิตที่ปรกติ  เพราะเขาไม่อาจ
    ยอมรับ
    กับความคิดที่ว่าเธออาจจะค้นหาความสุขจากที่อื่นๆได้โดยไม่ใช่เขา


           
    แล้วครัมมาเกี่ยวอะไรด้วย……….”  เฮอร์ไมโอนี่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สับสน  ซึ่งเธอก็สับสนมากขึ้นเมื่อ
    เชดริกส่งเสียงคำรามและกระโดดลุกขี้นยืนเขาจ้องมองเธอตาแทบลุกเป็นไฟ เขาไม่ได้กล่าวสิ่งใดๆ
    ในเวลานี้ และเขาพยายามที่จะเดินหนีไปจากเธอ แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็กระโดดลุกขึ้นแทบจะในทันทีเหมือน
    กัน เธอคว้าชายเสื้อคลุมของเขาไว้แน่นแล้วตะโกนด้วยเสียงดังอย่างไม่พอใจ


    พูดกันให้รู้เรื่องก่อน นายไม่ใช่เด็กๆแล้วนะและนั่นทำให้เซดริกหยุดอยู่กับที่ก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับเธอ


           
    ดูเหมือนว่าครัมมีอะไรมากกว่าการที่ฉันเห็นเขาพยายามปลอบเธออยู่  เชดริกกอดอกละมองเธอด้วย
    สายตาเย็นชา ก่อนที่จะจ้องมองที่พื้นโดยพยายามไม่สนใจกับท่าทีของเธอ  แต่เขาก็ต้องยกหัวขึ้นมาอีกครั้ง
    ตอนที่เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะคิกคัก  เมื่อเธอเห็นเขาจ้องมาที่เธอเต็มตาเธอพยายามจะหัวเราะต่อยิ่งเมื่อได้เห็น
    ใบหน้าที่สับสนของเขาเธอยิ่งหยุดตัวเองไม่ได้


           
    ก็ได้  เธอฟังฉันนะเฮอร์ไมโอนี่พยายามที่จะหยุดเสียงหัวเราะของเธอ และพยายามที่จะอธิบายให้เขา
    ฟัง
    ครัมพาฉันไปข้างนอกเพื่อสูดอากาศ………  ฉันโกรธรอนมาก ฉันแค่อยากจะอยู่ให้ห่างๆจากเขา จากนั้น
    ครัมก็พยายามทำหรือพูดให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความผิดของเธอ  แต่ฉันได้เล่าให้เขาฟังถึงเรื่องที่ได้เกิด
    ขึ้นจริงๆ  หลังจากนั้นฉันก็บอกเขาว่าฉันอยากอยู่คนเดียว  ฉันก็กลับเข้าไปข้างในจากนั้นจินนี่ก็พาฉันขึ้นไป
    ข้างบน  ฉันใช้เวลาที่เหลือทั้งวันของฉันหลีกเลี่ยงให้ไกลที่สุดจากรอน  เพราะฉันรู้ว่าฉันต้องฆ่าเขาแน่ๆ  แต่
    ว่าเขาก็เข้ามาเพื่อจะขอโทษฉัน
      เฮอร์ไมโอนี่อธิบายระหว่างที่เขาพยายามทำความเข้าใจกับเธออยู่  ก่อนที่
    เซดริกจะมองไปที่อื่นพร้อมทั้งแยกเขี้ยว  ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโทษตัวเองในการที่ไม่สามารถอ่านจิตใจเธอ
    ได้


    เพราะเขาไม่แน่ใจว่าเธอพูดความจริงหรือเปล่า


           
    เฮอร์ไมโอนี่สังเกตุได้จากใบหน้าของเขา  เพราะเธอถอนหายใจ  จากนั้นเธอจับมือของเขาโดยไม่สน
    ใจกับความหนาวเย็นรอบกายโดยเฉพาะความหนาวเย็นจากมือของเขา


           
    เธอจะต้องเชื่อฉัน  เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นระหว่างที่เชดริกหยุดคิดสักพักหนึ่ง  ก่อนที่จะมองกลับมายัง
    เฮอร์ไมโอนี่โดยที่เธอยังคงจับมือเขาอยู่


           
    ฉันรู้ว่าฉันเป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่งแต่ฉันก็เชื่อว่าฉันสามารถเชื่อใจได้ดีสำหรับแวมไพร์อย่างคุณ


           
    มันไม่ใช่อย่างนั้น  เชดริกคั่นกลางคัน  โดยจ้องมองลงไปที่มือเล็กๆที่อบอุ่นของเธอ ถ้าเปรียบเทียบ
    กับมืออันซีดของเขาของเธอนั้นจะดูอิ่มเอิบมากเสียกว่า

    เขาดึงมือของเธอเข้ามาชิดเขาโดยที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ทันระวังมันทำให้ตัวเธอเซปะทะเข้ากับตัวของเขาอย่าง
    แรง


           
    มันไม่ใช่เรื่องการเชื่อใจ  เชดริกกล่าวด้วยเสียงกระซิบ  ซึ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อรับ
    ฟังเขาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น


           
    แล้วมันอะไรล่ะ  เฮอร์ไมโอนี่ถามระหว่างที่เชดริกตวัดสายตาไปที่เธอ โดยริมฝีปากของพวกเขาอยู่
    ห่างกันไม่กี่นิ้ว  เขาสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเธอและเธอก็ไม่แม้แต่คิดที่จะถอยห่างจากเขา


           
    มันเป็นฉันต่างหากที่ไม่น่าไว้วางใจ  เขากล่าวอย่างจริงจัง  โดยที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังจะพูดท้วงเขา
    แต่เชดริกนั้นได้ดึงแขนเธอและลากเธอไปกับเขาโดยที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ทันได้ตั้งตัว

     

            โดยที่ไม่ยอมปล่อยมือเธอ  ซึ่งเชดริกไม่อาจต่อสู้กับหัวใจที่ไม่เต้นของเขาได้อีกแล้วในเวลานี้


           
    มันถึงเวลาแล้วที่เธอจะได้เห็นว่าปีศาจอะไรที่สิงอยู่ในตัวเขา  เอ็ดเวิร์คนั้นพูดถูก  ว่าเขานั้น

    ตกหลุมรักเธอแต่เขาคงจะเป็นมากกว่านี้  ถ้าเธอเองก็ตกหลุมรักเขาเช่นกัน


           
    เชดริก  เฮอร์ไมโอนี่ท้วงโดยพยายามดึงข้อมือของเธอที่เขาบืบไว้แน่น  ระหว่างที่ดวงตาของเธอ
    จ้องมองดูดวงตาที่เป็นสีแดงราวเลือดของเขาอย่างหวาดกลัว   เฮอร์ไมโอนี่นิ่งงันเหมือนโดนสะกดไม่มีแรงที่
    จะคิดต่อสู้กับสิ่งที่ออกมาจากตัวเขา


           
    ให้ฉันแสดงให้เธอเห็น………..  ให้ฉันแสดงให้เห็นว่าทำไมเธอถึงไม่ควรไว้ใจฉัน เขากล่าวโดยรู้สึกถึง
    ความอ่อนแอในตัวเขาที่ถูกกักเก็บไว้มานานมันกำลังจะออกมาเพื่อให้เธอได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา

     เซดริกสามารถเห็นสายตาของเธอที่กำลังบอกถึงความรู้สึกหลายๆอย่างที่เขารู้สึกได้


           
    เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถอดกลั้นดวงตาของเธอจากการเบิกกว้างได้  ระหว่างทางที่เช็คดริกนำเธอไปที่ป่า
    ต้องห้าม  เธอเริ่มที่จะกังวลและรู้สึกว่ามือของเขานั้น  กำเธอไว้แน่นเกว่าเดิม  เธอพยายามที่จะแกะมือของเขา
    ออกแต่แต่มันกลับไม่คลายออกแม้แต่นิดเดียว

    เซดริกไม่แม้แต่จะมองกลับมาดูเธอ  เขาพยายามที่จะไปสู่จุดมุ่งหมายอย่างระวังตัว


           
    เฮอร์ไมโอนี่เริ่มที่จะกังวลแล้ว  ซึ่งเธอพยายามจะเตือนสติตัวเองอยู่ตลอดเวลา ว่าเธออยู่ภายใต้แวม
    ไพร์ที่ไม่สนใจในการที่จะทำร้ายเธออย่างเซดริกดังนั้นเธอจึงไม่สมควรกลัวเขา


           
    เฮอร์ไมโอนี่สะดุดเล็กน้อย  เธอพยายามสูดลมหายใจ  ในขณะที่เชดริกกวาดหางตามามองเธอ  เพื่อ
    ให้แน่ใจว่าเธอไม่เป็นอะไร


           
    เชื่อเถอะว่าฉันไม่ปล่อยให้เธอเป็นอะไรหรอก  เชดริกสัญญาระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่พยายามมองดูใบ
    หน้าของเขา


           
    แค่เชื่อฉัน เฮอร์ไมโอนี่……..  ฉันขอแค่นี้ล่ะ  เชดริกขอร้องโดยมองเธอด้วยความรู้สึกผิด  ระหว่างที่
    เธอผงกศรีษะยอมรับโดยไม่กลัวว่าหัวจะหลุด  เพราะเธอผงกหัวอย่างแรงเห็นด้วยกับคำพูดของเขา  ระหว่าง
    ที่ดูเหมือนว่าเธอต้องการจะพูดอะไรที่ต่างกันออกไป


           
    จากนั้นเขามุ่งหน้านำเธอเข้าป่า  ก่อนที่จะหยุดเพราะรู้สึกว่าเธอต้องการความมั่นใจอีกครั้ง ก่อนที่จะ
    ปล่อยมือเธอและเสนอมืออีกข้างของเขาให้เธอแทน  เธอมองเขาด้วยคิ้วที่ขมวด  แต่เขายิ้มเล็กน้อยให้
    เธอ


            “
    แค่เชื่อฉัน  เขาเสนออีกครั้ง  จากนั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงเอื้อมมือเธอไปวางไว้บนมือเขา  ก่อนที่เข
    าจะทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว


           
    มันจะง่ายขึ้นมากถ้าฉันสามารถเคลื่อนไหวได้ตามที่ฉันถนัดมากกว่าเคลื่อนไหวตามเธอเขากล่าว
    ระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองดูเขาแต่ยังคงโอบแขนไว้ที่คอของเขาอย่างระมัดระวังเพราะเกรงว่าเขาจะ
    หายใจไม่ออก


           
    เกรนเจอร์  เธอจับให้แน่นเถอะ……….  เพราะฉันไม่ต้องหายใจ  เชดริกสั่งระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่
    โอบคอเขาแน่นกว่าเดิม  เชดริกยิ้มเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความสุขที่ว่าพวกเขากำลังมุ่งหน้าเข้าไปในป่าที่
    ไกลออกไปตามลำพัง


           
    เดี๋ยว....เธอมึนหัวไหม  เชดริกกลัวเธอ โดยเฮอร์ไมโอนี่ยกศรีษะขึ้นอีกครั้ง 


           
    ไม่นี่ทำไมเหรอ  เธอถามแต่แทนที่เขาจะตอบเขากลับหัวเราะโดยที่เธอก้มหน้าลงซุกไปที่ลำคอ
    เขาเพราะแรงลม  ภาพทิวทัศน์นั้นเริ่มเบลอ  ซึ่งมีผลกระทบแม้กระทั่งเช็คดริกที่เป็นทั้งแวมไพร์

    และซีกเกอร์


           
    เป็นธรรมดาสำหรับสัตว์ตัวเล็กหรือแม้แต่ตัวใหญ่ที่ออกจะเบลอๆ  เมื่อเขาพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่าง
    รวดเร็วแบบนั้น  เชดริกนั้นหยุดอย่างกระทันหันเมื่อแน่ใจว่าเฮอร์ไมโอนี่กำลังจะหัวใจวาย  เธอยังคงเกาะเขา
    ไว้แน่น  โดยปฏิเสธจะมองที่เขา ตัวเธอสั่นเล็กน้อย  ซึ่งทำให้เชดริกประหลาดใจกับความกล้าหาญของ
    กริฟฟินดอร์ของเธอ


           
    เงยหน้าขึ้นได้แล้ว เกรนเจอร์  เชดริกเสนอแต่เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัว  โดยซุกหน้าของเธอลงไปที่ลำ
    คมของเขามากกว่าเก่า


           
    มันน่ากลัวที่จะมองนี่  เฮอร์ไมโอนี่ตอบด้วยเสียงสั่นๆ  ซึ่งทำให้เชดริกหัวเราะอย่างดังก่อนที่จะแกะ
    แขนเธอออกจากคอเขา  ด้วยอาการหอบเธอลืมตาขึ้น  และพบเชดริกอยู่ตรงหน้าเธอและเธอจ้องมองดูที่
    หน้าอกเขา


           
    อะไรเหรอ  เขาถามระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงแล้ว เงยหน้าขึ้นจ้องที่ตาเขา  พยายามที่จะตำหนิ
    เขา โดยถมึงตาไปที่เขา แต่ใบหน้าที่ซีดเผือดของเธอไม่ได้ช่วยแม้แต่น้อย


           
    มันน่ากลัวที่จะมอง  เธอย้ำระหว่างที่เขาหัวเราะและเฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบๆทำให้เห็นว่าตอนนี้พวก
    เขาหยุดกันที่ไหน


           
    เขาหัวเราะตอนเธอถอนหายใจ  ไหล่เธอลู่ลง เธอกอดอกด้วยความหนายเย็น


           
    แล้วนี่น่ากลัวไหม  เชดริกถามโดยเอนตัวไปใกล้ๆเธอ   ความต้องการที่เห็นแก่ตัวที่ได้ก่อขึ้นมา
    หลายเดือน  เริ่มขึ้นระหว่างที่เขาเห็นคอขาวๆของเธออย่างเลือนราง เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเธอเมินหลบสายตา
    ของเขาและถอยหลังไปสองสามก้าว
    เขาดึงตัวเองออกมาเพื่อที่จะไม่หายใจรดต้นคอเธอมิเช่นนั้นเธอ
    จะจับได้ถึงการถอนหายใจของเขา

     

            ไม่นี่  เธอตอบกลับพร้อมลมหายใจที่กระชั้นพร้อมกับใบหน้าที่แดงกล่ำอย่างเขินอาย เธอแสร้งมอง
    เมินไปทางอื่น และก้าวไปข้างหน้าก่อนที่จะไปไกลกว่าเดิม  เธอหยุดแล้วมองมายังเชดริกที่ตอนนี้ทรุดตัวนั่ง
    อยู่ที่พื้น


           
    คือฉัน……….  ฉันหมายถึงมันจะเป็นอะไรไหมถ้าฉัน...  เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้จะพูดยังไงแต่เชดริกสามารถ
    เดาได้  โดยเขามองเธอด้วยความประหลาดใจ  ก่อนที่เธอจะหันไปแล้วก้าวไปข้างหน้า 


           
    ระหว่างทางที่ปราศจากต้นไม้  เธอล้มตัวลงแล้วเอานิ้วเขี่ยหิมะที่ราบเรียบ  เชดริกรู้สึกอ่อนกำลังมาก
    กว่าเดิมเมื่อเค้าเห็นรอยยิ้มของเธอ  เธอลุกขึ้นเดินอย่างนับก้าวเหมือนกับจะศึกษาจำนวนหิมะที่ตกลงมา


           
    เชดริกพยายามจะไปอยู่ข้างหน้าตอนเฮอร์ไมโอนี่ยืน  อยู่ในพื้นที่โล่งกว้าง  ร่างกายของเธอถูกห่อ
    หุ้มไปด้วย  แสงจากอาทิตย์  เธอมองไปยังเขาโดยไม่อาจซ่อนรอยยิ้ม  หรือความประหลาดใจบนใบหน้า
    เธอได้  เชดริกหัวเราะพร้อมทั้งพยายามที่จะก้าวเดินไปบนรอยเท้าของเธอ


           
    เธอหาที่นี่เจอได้ยังไง  เธอถามพร้อมดวงตาที่เกรงขาม  พยายามที่จะเค้นความจริง  แต่เช

    ดริกก็ได้แต่มองไปที่เธอ  


           
    เธออย่าลืมสิว่าฉันเป็นอะไรฉันสามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็วพอๆกับพวกมนุษย์หมาป่าและเราสามารถ
    ไปยังที่ต่างๆได้ตามที่เราต้องการ
      เชดริกกล่าวระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าอวดดีแต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไร 
    หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเชดริกรู้สึกเกร็งเมื่อเฮอร์ไมโอนี่มองมาที่เขา ทางสายตาที่ดูเหมือนมีคำถาม  เขาภาวนา
    ว่าเธอจะลืมเหตุผลที่เขาพาเธอมาที่นี่  เขาหวังว่าเธอจะทำเหมือนกับที่เขาทำคือใช้เวลาทั้งวันอยู่ด้วยกัน
    เพียงลำพัง


           
    เธอจะอธิบายไหมว่าทำไมถึงพาฉันมาที่นี่


           
    ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องทำอย่างนั้น  เขากล่าวอย่างดังเพื่อให้แน่ใจว่าเธอได้ยิน  แต่ก็รู้สึกว่าการพูด
    ของเขานั้นฟังเมือนเป็นการตะโกนมากกว่าเพราะเขารู้สึกเจ็บที่คอ


           
    ทำไมล่ะ  เธอถามโดยก้าวมาข้างหน้า  แต่เชดริกยกมือขึ้นเพื่อหยุดเธอไว้  จากนั้นเขาก้าวไปข้าง
    หน้าเพื่อไปยืนอยู่ท่ามกลางแดด


           
    เพราะถ้าฉันแสดงให้เธอเห็น…….. พิสูจน์ให้เธอดูถึงสิ่งที่เธอไม่ควรเชื่อใจฉัน  เราก็คงจะไม่สามารถ
    ทำอย่างนี้กันได้อีก
      เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ


           
    ฉันเชื่อใจเธอเชดริก  ทำไมเธอถึงไม่เชื่อใจฉันล่ะ  เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมยืนกอดอกเพื่อจะพิสูจน์
    ให้เขาเข้าใจถึงประเด็น

     

            เพราะเธอไม่เข้าใจว่าฉันเป็นอะไรล่ะสิ…..  ฉันภาวนาว่าฉันจะเป็นเหมือนคนอื่น  ฉันแค่อยากจะเป็น
    คนปรกติที่พยายามจะทำให้สาวสวยประทับใจ
      เชดริกกล่าวโดยจ้องมองดูเฮอร์ไม่โอนี่ที่สีหน้าดูเศร้า


           
    แต่ฉันไม่ใช่คนธรรมดาและคงจะไม่สามารถเป็นอย่างนั้นได้อย่างแน่นอน………    เชดริกกล่าวอย่าง
    หนักแน่นพยายามที่จะพูดให้เธอเข้าใจ  ซึ่งเขารู้สึกหงุดหงิดเมื่อเธอส่ายศรีษะ


           
    เฮร์ไมโอนี่ฟังฉันนะ………….  ในห้าสิบปีข้างหน้าเธอโตขึ้นมากกว่านี้และได้ใช้ชีวิตไปได้ครึ่งทางของ
    ชีวิตแล้ว  ฉันก็ยังคงเป็นเด็กอายุ
    17 ปี  ฉันไม่มีทางจะออกจากฮอกส์วอร์ต  เพื่อใช้ชีวิตของตัวเองได้  ฉันไม่
    มีวันที่จะแต่งงานและมีครอบครัวเหมือนที่เธอทำได้
      เชดริกกล่าวโดยน้ำเสียงอันเยือกเย็นและไร้ซึ่งความ
    รู้สึก เมื่อเขากล่าวถึงชีวิตที่เฮอร์ไมโอนี่คงจะต้องมีสักวัน


           
    แล้วทำไมสิ่งนั้นมันถึงทำให้เธอคิดว่าฉันไม่ควรจะเชื่อใจเธอล่ะ  เฮอร์ไมโอนี่ถามโดยเชดริกพยายาม
    ที่จะกดความรู้สึกที่เห็นแก่ตัวของเขาเอาไว้ข้างใน


           
    เพราะฉันไม่ใช่คนปรกตินะสิ…….. เธอคิดว่าฉันเป็นแวมไพร์ที่ดีแต่จริงๆ  แล้วฉันก็ยังคงเป็นปีศาจอยู่ดี 
    ฉันล่า  ฉันดื่มเลือด และ.........


           
    ใช่ฉันรู้  เฮอร์ไมโอนี่กล่าวโดยเชดริกได้เพียงแต่มองเธอ


           
    และในทันใดนั้นด้วยความเร็วเขาพุ่งไปอยู่ข้างๆ  เธอโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้หายใจสีผิวเขานั้นปรกติ
    ก็ซีดอยู่แล้ว  แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะล่องหนได้


           
    เชดริกแยกเขี้ยว  ผลักศรีษะเธอเอียงไปข้างๆเพื่อที่เขาจะได้เห็นคอเธอได้อย่างเด่นชัด


           
    รู้ไหมเกรนเจอร์ฉันสามารถผ่าเธอออกได้ครึ่งหนึ่ง  โดยไม่ต้องแม้แต่สะบัดมือ  เชดริกกล่าวโดยเฮอร์
    ไมโอนี่นั้นกลืนน้ำลายแต่ก็ยังคงจ้องมองเขาอยู่  ซึ่งทำให้เชดริกแยกเขี้ยวมากกว่าเดิม


           
    เมื่อฉันล่าหรือกระหายเลือด  ฉันไม่สามารถแกล้งทำเป็นมนุษย์ได้  ฉันมักทำตามความต้องการของฉัน
    กลิ่นของเธอนั้นทำให้ฉันเคลิบเคลิ้ม  ซึ่งฉันสามารถควบคุมตนเองได้เวลาที่ฉันไม่ทำ และฉันจะไม่คิดเป็นครั้ง
    ที่สอง  หากฉันต้องดูดเลือดเธอเมื่อฉันต้องทำ
    เชดริกคำราม ระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่นและพยายามที่จะ
    ดึงตัวเองให้ออกห่างเขาแต่เขาดึงเธอไว้และผลักเธอเข้ามาใกล้


           
    เธอหยุดฉันไม่ได้หรอก  เธอก็เห็นว่าฉันไม่บาดเจ็บสักนิดเดียวจากการต่อสู้กับมังกร เธอไม่สามารถทำ
    อะไรฉันได้แน่
      เชดริกกล่าวโดยรู้สึกถึงความกลัวของเธอ แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยเธอไป


           
    เขาหมุนตัวไปข้างหน้าเธอภายในพริบตาเดียว  ริมฝีปากของเขาห่างคอของเธอเพียงไม่ถึงนิ้ว


           
    เฮอร์ไมโอนี่หายใจหอบผสมกับการถอนหายใจ เมื่อริมฝีปากของเขาสัมผัสไปยังผิวหนังของเธอ


           
    เธอหยุดฉันไม่ได้แล้วล่ะ…….  เพราะถ้าฉันต้องการ  ฉันก็จะกัดเธอและทิ้งเธอไว้ตรงนี้

    เชดริกพูดให้เธอฟังอย่างเห็นภาพ  โดยเขาถอนใบหน้าออกจากลำตอของเธอเพื่อจะให้เธอเห็นในสิ่งที่เขา
    ต้องการจริงๆ  แต่เขาก็ยังคงกอดเธอไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับจูบริมฝีปากของเธอ
    …….  ไม่ใช่ดูดเลือดจาก
    เธอ


           
    ยอมรับซะเถอะเฮอร์ไมโอนี่  ยอมรับซะว่าเธอหยุดฉันไม่ได้  น้ำเสียงของเขาสั่นพล่าเมื่อผละออกจาก
    ริมฝีปากอิ่มเอิบของเธอ และอีกครั้งที่เขาประกบริมฝีปากซีดเซียวของเขากดจูบลงบนริมฝีปากเนียนชมพูระเรื่อ

    อย่างดุดัน และชอนไชปลายลิ้นของเขาบีบบังคับแยกริมฝีปากของเธอให้เผยอออกและใช้ปลายลิ้นอุ่นๆเข้า
    ไปยังริมฝีปากภายในของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ใจเต้นระรัว เธอไม่เคยรับสัมผัสจากผู้ชายคนใดมาก่อนนี่เป็นครั้งแรก
    และมันยาวนานจนเธอหายใจไม่ออก


    และด้วยท่าทางที่เป็นปรปักษ์เธอส่ายหัวออกมา  ไอครั้งแล้วครั้งเล่า  เพื่อที่จะเอาอากาศเข้าไปสู่ปอด


           
    ฉันทำไม่ได้  น้ำเสียงของเธอทำให้เขาต้องคอยและเอาจมูกออกห่างจากเธอ  ดวงตาสีเทาของเขา
    มองเข้าไปในดวงตาของเธอที่อ่อนแรงราวกับถูกดูดกลืนไป และไร้พลังต่อต้านโดยสิ้นเชิง

     

            นั่นล่ะคือเหตุผลที่เธอไม่สมควรจะเชื่อใจฉัน  เพราะฉันก็ยังไม่สามารถเชื่อใจตัวเองได้  เขากล่าว
    อย่างอ่อนโยนและออกห่างมาจากเธออย่างเสียดาย เธอตะกุกตะกักเล็กน้อยก่อนที่ทรงตัวได้


           
    เชดริกนั้นยืนอยู่ในเงามืดของต้นไม้ตรงข้ามกับเธอ  เขารอเพื่อที่จะให้เธอโต้ตอบอย่างที่เขาต้องการ
    แต่เธอไม่ตอบโต้  เขาเพียงแต่ฟังเสียงหัวใจเธอเต้นและลมหายใจที่พยายามจะทำอย่างมั่นคง


           
    เฮอไมโอนี่  เขากล่าวโดยพยายามไม่มองเธอ  เขาเกลียดตัวเองและความต้องการที่มีต่อเธอ 
    เพราะตอนนี้เขาได้ยินเสียงหัวใจเธอที่กำลังแตกสลาย  ซึ่งเขาก็ยินดีที่หัวใจของเขาหยุดเต้นมานานแล้ว


           
    คนเลว  เสียงตะโกนดังมาจากตัวเธอ  แต่มันก็ดังพอที่เขาจะได้ยินและเงยหน้าขึ้นมามองเธอ  น้ำตา
    เธอไหลลงปรกแก้ม  ทำให้หิมะข้างใต้เธอนั้นเหมือนถูกเผาไหม้  เขาสามารถรับรู้ถึงความร้อนที่มาจากสายตาเธอ


           
    คนเห็นแก่ตัว……  คนชั่ว…..  คนเลว  เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น  โดยไม่สนใจที่จะเช็ด
    น้ำตาของเธอ


           
    เธอคิดเหรอว่าเธอเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดที่ฉันเคยพบหรือเจอ  เฮอร์ไมโอนี่พูดซึ่งทำให้

    เชดริกประหลาดใจถึงปฏิกิริยาของเธอ


           
    ฉันเคยเผชิญหน้ากับความตาย………  การที่เป็นเพื่อนของแฮร์รี่ พอตเตอร์ไม่ได้แปลว่าฉันมีชีวิตที่
    ปลอดภัยนะ  อันที่จริงแล้วฉันไม่คิดว่าชีวิตฉันจะสามารถหาความปลอดภัยได้หรอก  แฮร์รี่กำลังจะต้อง
    เผชิญหน้ากับศาสตร์มืด  และฉันก็ปฏิเสธที่จะให้เขาทำมันเพียงลำพัง  ซึ่งนั่นก็หมาย
    ความว่าฉันอาจจะ
    ตาย  ฉันอาจจะตายก่อนที่ฉันจะได้ออกไปจากฮ๊อกส์วอตด้วยซ้ำไป
      เฮอร์ไมโอนี่กล่าวโดยเชดริก
    พยายามที่จะยับยั้งตัวเองจากการที่เขาจะเข้าไปปลอบเธอ


           
    ฉันอายุ 14  และฉันได้เห็นความตายและความเจ็บปวดเกินกว่าโหล  เฮอร์ไมโอนี่ฟูมฟายร่างกาย
    ของเธอสั่น  พร้อมน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาจากดวงตา


           
    “ฉันขอโทษนะถ้าฉันจะไม่ยอมรับในความคิดบ้าๆ  ที่เกี่ยวกับความเชื่อใจในตัวเธอเพราะในสิ่งที่เธอ
    เห็น จริงอยู่แม้เธอจะไม่เชื่อใจในตัวของเธอเองก็ตาม แต่ลองคิดดูบ้างสิ ดับเบิ้ลดอร์ก็คงไม่ปล่อยให้เธอ
    เข้ามาในฮ๊อกวอตส์ได้ง่ายๆหรอก
      เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยก่อนจะส่ายศรีษะและออกวิ่งเพื่อจะกลับไปยังปราสาท
    แต่ทันใดนั้นเธอหยุดวิ่งและหันมาจ้องเขา


           
    ฉันเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิในการเลือกที่จะแคร์ใครสักคน  และไม่มีใคร แม้กระทั่งนายมีสิทธิมาบอกฉัน
    ไม่ให้ฉันแคร์เธอ
      เฮอร์ไมโอนี่พูดกระแทกเขาก่อนจะหันกลับไปและพยายามเดินกลับไปตามทางของเธอ   


           
    เชดริกไม่สามารถหยุดตัวเขาเองได้อีกต่อไป เขาดึงเธอเข้าสู่อ้อมอกเขาระหว่างที่เขายืนอยู่ต่อหน้า
    เธอ  เธอเอื้อมมือไปปาดน้ำตาของเธอ  และพยายามกระชากแขนเขาให้ออกไปห่างๆเธอ


           
    ได้โปรดเซดริกร้องขออย่างอ่อนโยน


           
    ไม่………. ออกไปห่างๆฉันเดี๋ยวนี้  เฮอร์ไมโอนี่พยายามจะเดินหนีจากเขา  แต่เขาปิดกลั้นความ
    พยายามของเธอ


           
    ด้วยความเสียใจอย่างมากเธอทุบมือเธอลงที่หน้าอกเขาและก็ทุบหน้าอกตัวเอง พร้อมกับร้องไห้
    ออกมาด้วยเสียงอันดัง


           
    เฮอร์ไมโอนี่  เชดริกกระซิบพร้อมจับมือเธอไว้ โดยเห็นรอยแดงๆที่มือเธอที่เธอทุบเขา


           
    ฉันอยากจะสัญญากับเธอได้ว่าฉันสามารถให้เธอได้มากกว่าพวกนี้……….มากกว่าน้ำตา  และ
    ความเจ็บปวด  แต่ฉันไม่สามารถสัญญากับเธอได้
    เลย”


           
    ถ้างั้นก็อย่า  เธอสั่งระหว่างที่เชดริกหลบสายตาเธอมองดูเขาด้วยการอ้อนวอนทำให้เขาตะกุก
    ตะกักอีกครั้ง


           
    ไม่ต้องสัญญาอะไรทั้งสิ้น  นอกจากว่าเธอเชื่อใจฉันมากพอที่จะสามารถดูแลฉันได้  เธอพูดขึ้นระหว่าง
    ที่เชดริกกุมมือเธอไว้แล้วมองดูมัน  เขายกมือเธอขึ้นไปยังริมฝีปากของเขาอย่างช้าๆ  และรู้สึกถึงอาการเกร็ง
    ของเธอ  จากนั้นเขาบรรจงจูบมือเธอเบาๆ  เขาจับมือเธอทั้งสองข้างมาวางไว้บนลำคอของเขาและสัมผัสกลิ่น
    เธออย่างเต็มปอด และบรรจงจูบเธออีกครั้ง


           
    ฉันจะพยายาม  เขาสัญญาก่อนที่เธอจะพยักหน้าตอบรับจากนั้นจึงก้มหน้าลงซบที่คอเขาอีกครั้ง 
    ปล่อยให้น้ำตาเธอสัมผัสถึงผิวเขา  ซึ่งมันทำให้ผิวเขารู้สึกไหม้


           
    เขาไม่รู้มากนักเกี่ยวกับความรัก  แต่เขาก็รู้แล้วว่ามันคืออะไรมันคือความเจ็บปวด

     
           
    อย่างน้อยเขาก็สามารถยอมรับได้  ว่าภายในเวลาเกือบหนึ่งร้อยปี  ตอนนี้ละที่เขารู้สึกถึงความอบอุ่น
    และความรัก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×