คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : CHAPTER 10 ความสับสนในจิตใจ
ฤดูร้อนฤดูรัก
ตอนที่ 10 ความสับสนในจิตใจ
10 นาทีต่อมาเดรโกกจับมือเธอเข้าไปที่ร้านอาหาร เฮอร์ไมโอนีมองไปรอบๆ มันไม่เหมือนกับร้านอาหารทั่วๆไปนัก มันอาจจะเป็นร้านที่ดีที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา มีนักท่องเที่ยวกระจายอยู่ทุกที่ส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัว หรือไม่ก็หนุ่มสาว
ร้านอาหารอยู่บนชายหาด มีทรายเป็นพื้น มีคบไฟจุดเพื่อบอกอาณาเขตของร้าน มีโต๊ะและเก้าอี้ตัวยาวตั้งอยู่รอบๆ ซึ่งอยู่ห่างจากกันเหมือนเป็นที่ส่วนตัว
“มาทางนี้สิ”เดรโกเรียกเธอไปยังโต๊ะที่ว่างด้านในที่ค่อนข้างลับตาคนและเป็นส่วนตัว เดรโกปล่อยมือเธอและขยับเก้าอี้ให้เธอนั่ง เฮอร์ไมโอนียิ้มหวานและนั่งลง เธอมองไปรอบๆ มันช่างเป็นสถานที่ที่โรแมนติคมากเท่าที่เธอเคยเห็นมาเธอหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับความกังวลและความประหม่าที่จู่โจมขึ้นอย่างรวดเร็ว
สายตาของเดรโกมองดูบริเวณรอบข้างอย่างสนใจก่อนที่เขาจะแอบชำเลืองมองเธอ เดรโกกำลังคิดว่า การมองเธอบ่อยๆมันอาจทำให้เธออึดอัดได้ ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะเริ่มบทสนทนากับเธอ
แต่เขาจะเริ่มมันจากเรื่องอะไรดีล่ะ?เขาคิด และเริ่มรู้สึกขันตัวเองนิดๆกับความเคอะเขินของตัวเอง
บริกรยกน้ำมาเสิร์ฟและรอเพื่อรับออเดอร์ ของพวกเขาแล้วออกไปเดรโกเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วดื่มน้ำที่บริกรยกมาเสิร์ฟให้เข้าไปอึกใหญ่ เหมือนเป็นกำลังใจให้ตัวเอง
“ที่นี่เขาจัดได้สวยจังนะ ”เขาพูดเฮอร์ไมโอนี่จึงพยักหน้า
พวกเขาทั้งคู่นั่งเงียบอยู่ 2-3 นาที
“เอ่อ...เธอดูดีมากเลย” เดรโกพูดออกมาได้ในที่สุด
“ขอบคุณ นายก็ดูดีมากที่เดียว” เธอตอบพร้อมกับรอยยิ้ม มีจุดสีแดงออกชมพูกระจายที่แก้มของเธอ แต่เธอก็ยังคงดูสวยงามอยู่เสมอ
“ดูดี? แค่ดูดีเอง เหรอ?” เขาถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อ พร้อมส่งยิ้มให้เธออย่างเจ้าเล่ห์นิดๆ ในตอนนี้เขาคิดว่าเขารู้แล้วว่าจะสนทนากับเธอด้วยเรื่องอะไรดี
“นายบอกว่าฉันดูดี แต่นายต้องดูดีกว่าหรือไง?” เธอถามคิ้วขมวดเล็กน้อยแต่ยังคงมีรอยยิ้มที่สดใสระบายเต็มใบหน้า
“แน่นอนเพราะบรรดาสาวๆทั้งหลายที่เห็นฉันมักจะมองว่าฉันดูหล่อและเซ็กซี่นะสิไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนบอกว่าฉันแค่ดูดีเหมือนเธอ” เขาตอบและกำลังตั้งใจฟังในทุกประโยคที่เธอตอบโต้เขา
“ฉันไม่คิดว่ามันจะถูกต้องน่ะ” เธอพูดแย้งเขา แต่อยู่ๆเดรโกกลับยิ้มอย่างกระหยิ่มใจไม่มีอาการโกรธเคืองเธอเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมล่ะ?” เขาถามกลับเพราะนึกสนุกที่เธอไม่ยอมลงให้เขา
“นายอาจจะหล่อ เดรโก แต่นายไม่ได้เซ็กซี่เลยสักนิด ”
คนโกหก,เธอโกหก, เฮอร์ไมโอนี่ เสียงในใจเธอแย้งขึ้นมา เธอก็เคยเห็นร่างกายของเขาแล้วนี่ เขาช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ
เฮอร์ไมโอนี่อดคิดตามเสียงในใจของเธอไม่ได้ ร่างกายที่เปลือยเปล่าของเขาที่เธอได้เห็นราวรูปแกะสลักของเทพเจ้ากรีก มันทำให้เธออายจนหน้าแดง
เดรโกจับสายตามองเธอ เขาฉลาดพอจะรู้ถึงอาการหน้าแดงของเธอว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เขายิ้มกริ่มพร้อมกับแกล้งถามเธอ
“แล้วเธอไม่คิดว่าฉันเซ็กซี่หรือไง เฮอร์ไมโอนี่?” เดรโกถาม
เสียงของเดรโกเหมือนเสียงสะท้อนมาจากรอบข้างของเธอเมื่อเฮอร์ไมโอนี่กำลังตกอยู่ในภวังค์ของเสียงในใจเธอ
(เขาน่ารักมาก!)
เขาขี้โอ่
(แต่เขาก็ยังคงน่ารัก! เขากำลังทำในสิ่งที่เธอคิดว่าน่ารักอยู่)
ไม่! เขาแค่แกล้งฉันเท่านั้น!
“เฮอร์ไมโอนี!” เดรโกถามพร้อมกับตบมืออยู่ข้างหน้าเธอเฮอร์ไมโอนีสะดุ้งและมองไปที่เขาอย่างงงๆ “อะไร?” เธอถามอย่างเขินๆและหลุดออกจากภวังค์
“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? ดูเธอเหมือนไม่ชอบที่นี่” เขาตอบท่าทางดูกังวลเล็กน้อย
“ฉันสบายดี ฉันแค่กำลังคิด....” เธอพูดและค้างไว้แค่นั้น ไม่ยอมพูดต่อมันทำให้เดรโกคาใจ
“เกี่ยวกับอะไร?”
เฮอร์ไมโอนี่หยุดไตร่ตรอง แต่ยังพอควบคุมสติไว้ได้ ทบทวนดูก็ตระหนักได้ว่า เธอเริ่มพลาดแล้ว
“ไม่มีอะไรหรอก”เธอปฎิเสธเสียงเรียบ พร้อมนึกรู้ในทันทีเมื่อเขาคิ้วขมวดและเหล่มองมาทางเธอว่าไม่เชื่อในสิ่งที่เธอบอก
“มันต้องมีอะไรที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้” เดรโกวิเคราะห์พลางฉีกยิ้มกว้าง
“ใช่ มันมีบางอย่าง แต่ไม่ได้เกี่ยวกับนายนี่?”เธอเถียง
“ฉันรู้ว่าไม่เกี่ยวกับฉัน แต่ไงซะฉันเองก็ยังอยากรู้อยู่ดีนั่นแหละว่าเธอคิดอะไรอยู่”
เฮอร์ไมโอนียิ้มและพูดว่า “ทำไมนายช่างสอดรู้สอดเห็นน่ะ”
เดรโกนิ่งไปแป๊บนึงและพูดว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันกับเธอมาที่นี่ เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันดังนั้นเราก็ไม่ควรที่จะมีเรื่องที่ต้องปิดบังกัน เธอว่าจริงไหม”
เฮอร์ไมโอนีหัวเราะ “งั้นก็ได้ เดรโก งั้นอะไรที่นายต้องการทำ”
“ฉันอยากให้เรามีเวลาร่วมกันมากกว่านี้ เพื่อที่จะทำให้เธอได้รู้ความเป็นจริงว่าฉันเซ็กซี่แค่ไหน!”
เฮอร์ไมโอนีเงียบและกลอกตาไป-มา
“อย่ามากลอกตาใส่ฉันน่ะ! นั่นมันหยาบคายมากรู้ไหม!” เดรโกพูดห้วนๆรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย
“เธอไม่คิดหรือว่ามันเป็นเรื่องตลก?” เธอแย้งพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ขบขัน
“ขอร้องเลยนะ เธออย่าเปลี่ยนเรื่องดีกว่า”เขาทักท้วงอย่างรู้ทัน
“ฉันเนี่ยน่ะเปลี่ยนเรื่อง?”เฮอร์ไมโอนี่นิ่วหน้าบางทีเดรโกอาจจะอ่านใจเธอได้จริงๆว่าเธอไม่อยากบอกความคิดอันน่าอายของเธอสักเท่าไหร่นัก
“เพราะเธอไม่ยอมบอกฉันว่าเธอกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องอะไรอยู่ในขณะที่ฉันได้บอกความต้องการในสิ่งที่เธออยากรู้ไปแล้ว”เดรโกหรี่ตาลงและพูดด้วยเสียงอันอ่อนโยน
“ฉันจะบอกนายถ้านายให้เหตุผลที่ดีพอว่านายต้องการรู้ไปทำไม”
“เอ่อ....เพราะฉันต้องการที่จะรู้”เขาตอบไม่ตรงกับคำถาม
“โอ...ไม่ มันไม่ดีพอ เปลี่ยนเรื่องเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างมีเลศนัยในขณะที่เดรโกคำรามออกมาด้วยคำพูดของเขา “นั่นมันไม่ยุติธรรมเลย!”
“ทำไมถึงไม่ยุติธรรมล่ะ?”
“เพราะ...เพราะ....เพราะว่า..มันไม่ไงล่ะ!” คราวนี้เดรโกหน้างอในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ยังคงยิ้มกริ่มเมื่อสามารถแกล้งเขาให้โมโหได้
เฮอร์ไมโอนียังคงยิ้ม “เรามาเถียงกันเพื่ออะไรน่ะ เดรโก”
เดรโกถอนหายใจ “ผู้หญิง...ก็เงี้ยะ..” เขาบ่นกับตัวเอง
เฮอร์ไมโอนีหัวเราะอย่างเงียบๆ
“เดรโกหมดความอดทนแล้ว?” เธอแหย่เขาขณะที่อาหารถูกยกมาเสิร์ฟ
เดรโกชำเลืองมองอาหารและใบหน้าของเธอพร้อมกับถลึงตาใส่โดยที่ไม่พยายามที่จะยิ้มหรือหัวเราะให้เธอ แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาทั้งคู่ก็เก็บอาการหัวเราะออกมาไม่อยู่
ระหว่างกินอาหารทั้งคู่ต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนานและมีความสุขโดยมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเล็ดรอดมาจากโต๊ะของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา พวกเขาไม่คิดจะใส่ใจกับวันพรุ่งนี้หรือวันไหนๆที่จะตามมาอีกต่อไปแล้ว เพราะในวันนี้มันเป็นวันของพวกเขา พวกเขาทั้งคู่ต่างพยายามที่จะจดจำเรื่องราวที่ดีๆในวันนี้ให้ได้มากที่สุด
เมื่อกินอาหารกันเสร็จแล้ว ทั้งคู่จึงออกจากร้านอาหาร เดรโกพาเธอเดินเลียบชายหาดเพื่อเดินเล่นกันต่ออีกสักครู่ใหญ่ๆพวกเขาต่างพูดคุยทุกๆเรื่องที่เธอและเขาต่างสรรหามาคุย ราวกับว่าสิ้นคืนนี้ไปแล้วพวกเขาอาจจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีก ต่อมาเดรโก และเฮอร์ไมโอนี่ จึงเดินจับมือกันกลับไปที่บ้านหลังห้าทุ่มเล็กน้อย พวกเขาต่างรู้สึกสนุกและมีความสุขมากในคืนนี้
ก่อนที่ทั้งคู่จะรู้ว่ามาอยู่ที่หน้าห้องนอนของเฮอร์ไมโอนี เขาทั้งคู่มองไปที่มือที่ประสานกัน เฮอร์ไมโอนีรู้สึกทรมานเหมือนโลกนี้จะแตกสลายไป ในขณะที่เดรโกกำลังรู้สึกกังวลกับการตัดสินใจในสิ่งที่เขากำลังจะทำ จูบเธอซิ! เสียงในใจเขาตะโกนบอก
เดรโกเลื่อนศรีษะของเขาลงมาพร้อมกับมองไปที่ดวงตาสีน้ำตาลของเฮอร์ไมโอนี เดรโกเห็นว่าเฮอร์ไมโอนีไม่มีทางเคลื่อนหนีไปไหนได้ เขาจึงค่อยๆเลื่อนศรีษะลง แต่ เฮอร์ไมโอนีกลับหันหน้าหนีออกด้านข้าง และถอยหลังหนีเขาซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดคาดสำหรับเขา
“อืม...ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อค่ำ มันวิเศษมาก, เดรโก” เฮอร์ไมโอนียิ้มให้เขา และหันกลับเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตู เธอยืนเอาหลังพิงประตูและหลับตาลง เธอยืนอยู่ที่นั่นครู่หนึ่งแล้วบอกกับตัวเองว่าสิ่งที่เธอได้ทำลงไปนั่นถูกต้องแล้ว ไม่มีทางอื่นที่เธอจะบอกตัวเองได้มากกว่านี้ เธอถอนหายใจและเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อเตรียมชุดสำหรับอาบน้ำ
หลังจากอาบน้ำแล้ว, เฮอร์ไมโอนียืนอยู่หน้ากระจก โดยวางมือไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้ง เธอมองไปในกระจกมองตัวเธอเองที่ดูอิดโรยและทุกข์ใจ เธอมองเห็นความแตกต่างกันอย่างมากมายหลังจากที่การเดทของเธอสิ้นสุดลง
ดวงตาของเธอดูเศร้าสร้อยและอยู่ๆน้ำตาก็เริ่มไหลรินอาบสองแก้มของเธอ เฮอร์ไมโอนี่กำลังเศร้าหมอง ใช่ ...เธอเศร้าเธอดูเหมือนคนป่วย ไม่เพียงแค่นั้น เธอรู้สึกเหมือนมีความทุกข์ด้วย เฮอร์ไมโอนี่เขย่าศรีษะไป-มาและพยายามที่จะออกจากความคิดนี้ เธอขึ้นไปนอนที่เตียงพร้อมกับมองไปยังเพดานและพูดกับตัวเองว่า
“มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ฉันได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว”
เธอรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง, แต่เธอก็ต้องการที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวของเธอเอง เธอต้องทำให้ตัวเองเห็นว่าความรู้สึกที่โกหกในเรื่องของเดรโกนั้นเป็นเรื่องจริง ความจริงที่ว่าคือ เธอไม่สามารถรักเขาได้ แต่สิ่งที่แย่ก็คือ..... เธอได้รักเขาไปแล้ว ค่ำคืนนี้เธอพลิกตัวไป-มา เพราะเธอไม่สามารถที่จะหยุดความคิดตัวเองได้ และมันก็เป็นสิ่งที่ลำบากที่จะทำอย่างนั้น
เธอต้องกลับไปที่กริมโมลด์เพลสในเวลาอีกไม่ถึง 1 เดือน และมันอาจจะทำให้ทุกอย่างยุ่งยาก เพราะว่าแฮรี่, รวมทั้งครอบครัวของวิสลีย์และทุกๆคนที่ถึงแม้จะยอมรับเดรโกแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังคงไม่สามารถที่จะลืมช่วงเวลาที่เจ็บปวดและชิงชังที่ผ่านมา 7 ปีเหล่านั้นได้
ระหว่างที่เธอกำลังคิด เฮอร์ไมโอนีคิดว่าพวกนั้นจะต้องงงและสงสัยว่าทำไมเธอจึงกลับไปพร้อมกับเพื่อนชาย และเพื่อนชายคนนั้นก็คือ เดรโก มัลฟอย
ในความเป็นจริงแล้ว เธอสามารถเดาได้เลยว่า เฟร็ดและจอร์จอาจจะทำให้คนเชื่อในความชั่วร้ายของมัลฟอย ซึ่งแสดงให้ออกมาตลอดช่วงก่อนฤดูร้อนนี้ รอนอาจจะพูดว่าเฮอร์ไมโอนีจะไม่เดินผ่านประตูที่มีเดรโกอยู่แต่เธอจะนำร่างที่ตายแล้วของเดรโกออกมาด้วย นั่นหมายถึงเธอเกลียดเดรโก ขณะที่แฮร์รี่, ฝาแฝด และจินนี่จะต้องหัวเราะ และเป็นไปได้ที่นายวิสลีย์และผู้ใหญ่คนอื่นๆในภาคี จะต้องตะโกนออกมาอย่างไม่เห็นด้วยกับเพื่อนชายของเธอ
เฮอร์ไมโอนี่เปลี่ยนตำแหน่งการนอนบนเตียงของเธอ มายืนอยู่หน้าระเบียงของห้อง เธอมองออกไปที่ชายหาด ท้องฟ้าที่มืดเต็มไปด้วยดาวที่กระพริบระยิบระยับ รอยยิ้มเกิดที่ริมฝีปากเธอขณะที่เธอกำลังคิดถึงเพื่อนของเธอ เธอไม่มีเวลาคิดถึงพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอมาอยู่ที่นี่
“โว้ยยยย” เสียงตะโกนดังลั่นของเดรโกซึ่งออกมาจากห้องที่อยู่ด้านข้าง เหมือนเขากำลังตะโกนระบายความอัดอั้น จากความกลุ้มใจหรือความคิดอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งทำให้เธอออกจากห้วงความคิด เธอเหลือบตาขึ้นมองดูที่ห้องของเขาอย่างใช้ความคิด เธอหลับตาลงและปล่อยลมหายใจออก เธอไม่สามารถที่จะหลับได้เลย เหมือนๆกับเขา
“ฉันกำลังจะทำในสิ่งที่ลำบากมาก ฉันไม่ปล่อยให้เขาจูบ เพื่ออะไร? มันไม่ใช่สิ่งที่เรา...ทั้งคู่ชอบหรอกหรือ” เธอกระซิบบอกตัวเอง โดยที่ประโยคสุดท้ายนั้นแผ่วเบามาก
(เธอจะไม่ได้เป็นคู่รักกันแน่ ถ้าเธอไม่ยอมทำตามใจปราถนาของเธอเอง) เสียงภายในของเธอแทรกเข้ามาในความคิด
ทำตามใจที่ฉันปราถนางั๊นหรอ? ฉันก็ทำตามใจของฉันแล้วนี่ นั่นคือเหตุผลที่ฉันไม่จูบกับเขาเมื่อคืนนี้
(ได้โปรด เฮอร์ไมโอนี่ หยุดคิดในสิ่งที่เธอทำไปแล้วเสียที, คิดว่าทำอย่างนี้มันถูกต้องแล้วใช่ไหม คิดดูให้ดีๆสิ อีกอย่าง ทำไมเธอถึงต้องมาคอยคิดถึงคนอื่นว่าจะคิดอย่างไรด้วยกับการกระทำของเธอ ฟังมันดูงี่เง่าชอบกล จงฟังในสิ่งที่หัวใจเธอต้องการเถอะน่ะ ) เสียงจากภายในจิตใจของเธอตะโกนออกมาเพื่อให้เธอรับรู้ในสิ่งที่เธอต้องการ
อันที่จริงฉันก็มีผู้ชายคนอื่นเหมือนกันนะไม่เห็นต้องไปยึดติดกับเขาเลย!
(งั้นเหรอ เธอคงหมายถึงโรลนัลด์ วิสลีย์ แต่...ฉันคงไม่คิดว่าเราจำเป็นที่จะต้องอธิบายว่าทำไมเธอถึงไม่สนใจเขาเพราะเขาเป็นเพื่อนกับเธอน่ะสิใช่ไหม งั้นก็คนนี้สิน่ะ วิคเตอร์ ครัม แต่เธอไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลยนี่) เสียงพูดอย่างต่อเนื่อง เหมือนยั่วโมโหเธอ
วิกเตอร์ ? เธอพูดอะไรน่ะ? เขาไม่ได้ชอบฉันสักหน่อย.....
(โอ, เมอร์ลินที่รัก! แม่มดที่ฉลาดแต่ไม่ได้เป็นเด็กผู้หญิงที่ฉลาดเอาซะเลย เด็กผู้ชายคนนั้นชอบเธอตั้งแต่ตอนปีสี่ที่เขาขอเธอมาในงานเลี้ยงเต้นรำไง และคนที่อยู่ที่ฮ๊อกวอตส์เขาก็รู้กันทั้งนั้น ฉันเชื่อว่าศาสตราจารย์ส่วนใหญ่ก็น่าจะรู้ ไม่ต้องกังวลเพราะมันผ่านมาแล้ว แต่ตอนนี้สินายเซ็กซี่คนนั้นอยู่ที่นี่ เธอเรียกเขาแบบนี้ ฉันจำได้) เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้ว่ามันเพียงจินตนาการของเธอเท่านั้นหรือว่ามันเป็นเสียงจากภายในใจของเธอกันแน่ เธอรู้ว่าเสียงที่เธอได้ยินนี้มันแปลกประหลาดเอามากๆ เธอสะบัดหัวไป-มาเพื่ออกจากความคิดนี้ของเธอและกลับเข้าสู่เสียงที่พูดกับเธอ เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากที่จะทำในสิ่งที่ทำให้มันดูแย่ลงกว่าเดิมอีก
ฉันจะไม่เรียกเขาว่านายเซ็กซี่อีก, เธอคิดและที่แก้มของเธอเริ่มแดงระเรื่อ ยังไงก็ตามมันไม่ง่ายที่จะลบออกจากสมองของฉันหากว่าเธอยังไม่หยุดพูดเรื่องเหล่านี้เสียที
(เหตุผลที่ฉันยังคงกวนใจเธออยู่ ก็เพื่อช่วยให้เธอเดินในทิศทางที่ถูกต้อง ฉันต้องขอโทษเธออีกครั้งที่ทำให้เธอเบื่อหน่าย แต่มันก็เป็นความจริงนี่ ลองคิดดูดีๆซิเฮอร์ไมโอนี ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอดชีวิตของเธอ ที่ผ่านมา ถูกไหม มีเพียงเสียงของเธอซึ่งเป็นตัวเธอเองและเป็นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเธอเอง ซึ่งมันก็คือฉัน ใช่..ฉันคือความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเธอ แต่ที่เธอไม่รู้ เพราะฉันไม่ได้พูดกับเธอตลอดเวลา ฉันออกมาแสดงตัวในตอนนี้ มันทำให้เธอรำคาญหรือเปล่า?)
เฮอร์ไมโอนีใช้เวลาคิดชั่วครู่ เพื่อย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา 2-3 ปี และเธอก็จำได้ว่ามันเป็นเรื่องจริง เสียงนี้ไม่ได้อยู่กับเธอตลอดเวลา เธอคิดย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว และก็จำได้ว่าครั้งแรกที่เธอได้ยินเสียงนี้คือ ---ขณะที่เธอมาถึงที่นี่
ใช่, เธอคิดว่าเสียงนั้นบอกได้อย่างถูกต้อง
(ฉันขอเวลาเพื่อที่จะบอกเธอซักหน่อยได้มั๊ย? เฮอร์ไมโอนี, เธอต้องฟังฉันก่อน แม้ว่าฉันจะทำให้เธอรำคาญ แต่ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันจะบอกเธอนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเธอ)
เฮอร์ไมโอนีถอนหายใจ, เธอรู้ว่าเสียงที่บอกมานั้นพูดได้ถูกต้อง.....เธอรู้,
(อย่ากังวลมากเกินไป, สำหรับตอนนี้, เธอต้องบอกเขา บอกเขาในสิ่งที่เป็นความจริงและความรู้สึกที่ซื่อสัตย์ของเธอ)
ไม่....ฉันทำไม่ได้....ฉัน...มันซับซ้อน....
(ไหนลองอธิบายมาซิ)
เธอไม่คิดจะเลิกวุ่นวายกับฉันบ้างเลยหรืองัย?
(อย่าลืมสิ เฮอร์ไมโอนี่เพราะฉันก็คือเธอ, ฉันกับเธอแตกต่างกันแค่ฉันเป็นจิตใจของเธอ)
ความจริงที่ซื่อสัตย์งั๊นหรอ?
(ใช่ ตลอดไป)
ก็ได้ ฉันกลัว...กลัวการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง....ฉันกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นถ้าหากฉันตัดสินใจทำอย่างนั้น ไหนจะแฮร์รี่, ครอบครัววิสลีย์ และคนอื่นๆที่เหลือ พวกเขาจะคิดอย่างไร? ฉันไม่เคยสนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับฉันมาก่อนเลยแต่นี่.....ทุกคนในภาคี เป็นครอบครัวเดียวกันกับฉัน ครอบครัวเท่านั้นที่ฉันรู้สึก เขาอยู่ที่นั่นเพื่อให้ฉันสามารถผ่านสิ่งต่างๆไปได้ รวมถึงการตายของพ่อและแม่ฉันด้วย ฉันกลัวว่าหากฉันปล่อยให้มันเกิดขึ้นพวกเขาจะไม่ยอมรับฉันอีกต่อไป ฉันรู้ว่าพวกเขายอมรับในตัวเดรโกแล้วแต่..... ฉันก็รู้ด้วยว่าแม้ว่ามันจะผ่านไปหลายปีแต่พวกเขาก็ไม่เคยที่จะลืมมันเลย ฉันกลัวว่า.....หากฉันปล่อยให้มันเป็นไป เดรโกอาจทำให้ฉันเจ็บปวดได้ในอนาคต ฉันจะบอกเขาได้อย่างไรว่าเขาชอบฉันและฉันก็ชอบเขา? ฉันหมายถึง ฉันเดาว่าฉันสามารถที่จะรู้ว่าเขาชอบฉันแต่มันจะมากแค่ไหนและนานเท่าไหร่ล่ะ? ฉันกลัวว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างมันจะกลับตารปัตร ทุกคนจะทิ้งฉันไป?
เฮอร์ไมโอนีรู้สึกเป็นกังวล กับสิ่งที่เธอกำลังคร่ำครวญด้วยเสียงที่แผ่วเบา เธอเช็ดน้ำตาของเธอด้วยหลังมือ
(โอ....เฮอร์ไมโอนี ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี อย่างแรก ฉันคิดว่าเธอไม่จำเป็นที่จะต้องไปกังวลกับการตอบรับของคนอื่น พวกเขาเป็นเพื่อนของเธอ, ครอบครัวของเธอ, พวกเขารักและห่วงใยเธอไม่ใช่คนที่เธอคบด้วยซะหน่อย แน่นอน, เขาอาจจะประหลาดใจในตอนแรกแต่พวกเขาก็จะเป็นเหมือนเดิมเมื่อเห็นเธอมีความสุข อย่างที่สองก็คือ เดรโกห่วงใยเธอและชอบเธอเหมือนที่เธอชอบเขา ฉันหมายถึงเพียงแค่ 2 วันแรกที่มาอยู่ที่นี่เขาก็จูบเธอ และเขาก็มีจูบเธออีก จนเมื่อคืนนี้เขาก็ต้องการจูบเธอแต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นเนื่องจากเธอได้ทำบางสิ่งบางอย่างลงไปเหมือนกับฆ่าเขา และตอนนี้เขาก็ไปแล้ว, เขาตายไปแล้วและไม่กลับมาอีกแล้ว และถ้าบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นอย่างน้อยเธอก็มีเดรโกในการช่วยให้เธอผ่านพ้นไปได้ เฮอร์ไมโอนี ฉันอยู่ในจิตใต้สำนึกของเธอ, ไม่ใช่เขา, ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถสัญญาได้ว่าเดรโกจะไม่ทำให้เธอเจ็บปวดแต่อย่างน้อยเธอก็ได้พยายามแล้ว ร้องไห้ออกมาเถอะ, เธออายุ 17 แล้ว และเธอก็ไม่ได้โดนจูบบ่อยมากนัก!)
เฮ้! ฉันเคยจูบกับวิคเตอร์มาก่อนน่ะ! เฮอร์ไมโอนี่ร่ำร้องอย่างขัดเคือง
(แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลยนี่?)
ขณะที่เฮอร์ไมโอนีเงียบไปเพื่อคิด จริงสิ, เธอไม่ได้รู้สึกกับวิคเตอร์ แต่เธอรู้สึกกับเดรโกในจูบแรก ที่เขามอบให้กับเธอ
(ฉันอยากจะเตือนความจำเธอว่ามันเกิดขึ้นหลังจากที่เธอมาอยู่ที่นี่ได้เพียง 2 วัน จำได้ไหม? ซึ่งเธอไม่ได้คาดคิดมาก่อน)
เฮอร์ไมโอนีถอนหายใจ ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเรื่องจริง เธอตัดสินใจแล้ว และเธอกำลังจะทำ ทำตามที่หัวใจเธอปรารถนา เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้งราวกับว่ามีน้ำหนักมากดทับที่หน้าอก เธอต้องการที่จะพูดความในใจกับเดรโกเธอลุกขึ้น แต่ก่อนที่จะเดินออกไปหาเขา เธอหลือบมองนาฬิกา เพิ่งจะตี3 นี่เธออยู่ในห้องเกือบ 4 ชั่วโมงแล้วหรือนี่ มิน่าล่ะทำไมเธอจึงรู้สึกปวดหัวขนาดนี้เธอกำลังคิดถึงเดรโก ป่านนี้ เดรโกคงกำลังหลับอยู่ คงเป็นเรื่องที่โง่มากถ้าปลุกเขาขึ้นมาคุยในตอนนี้ เธอจึงคิดที่จะคุยกับเขาพรุ่งนี้เช้า แม้ว่าเธอจะรู้สึกเหนื่อยแต่เธอก็รู้ว่าคืนนี้เธอไม่สามารถที่จะนอนหลับได้อย่างแน่นอน เธอคิดไปต่างๆนาๆ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิด
“อ๊าห์!” เธอตะโกนและสะบัดหัวไป-มาเพื่อให้หลุดออกจากห้วงความคิด ไหนๆเธอเองก็นอนไม่หลับอยู่แล้วมีอยู่อีกแค่วิธีเดียวที่จะทำให้หัวของเธอผ่อนคลาย อ่านหนังสือ เฮอร์ไมโอนี่จึงตัดสินใจที่จะไปห้องสมุด เธอเปิดประตูอย่างแผ่วเบาและมองเข้าไปที่ห้องสมุดเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ในนั้น เฮอร์ไมโอนีสุดกลิ่นไอของหนังสือเข้าไปอย่างมีความสุข ซึ่งเธอไม่ได้สัมผัสมาเป็นเวลานานพอสมควร เธออ่านหนังสือครั้งสุดท้ายมากว่า 1 เดือน เท่าที่จำได้ เธอได้เดินไปรอบๆห้องสมุดนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยหนังสือมากมาย และหยิบหนังสือที่สนใจมาจากนั้นก็วางไว้ที่โซฟา เธอหยิบหนังสือเล่มบนสุดมาเพื่อที่จะอ่านแต่ยังไม่ทันได้อ่าน.......................
2-3 ชั่วโมงต่อมา, ประตูห้องสมุดก็ถูกเปิดออก และเดรโกก็เดินเข้าไป เขามองไปรอบๆและสายตาก็ไปสะดุดที่เฮอร์ไมโอนีซึ่งกำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา เดรโกมองไปที่เธอชั่วขณะ และก่อนที่เขาจะรุ้สึกตัวเขาก็มายืนอยู่ที่ตรงหน้าเธอแล้ว เขาอยากจะจูบเธอเหลือเกินในตอนนี้ แต่เขาก็ห้ามใจตัวเองไว้ได้ทัน เขาไม่สามารถจูบเธอได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อตอนหัวค่ำเธอปฎิเสธจูบจากเขา นั่นหมายถึงเธออาจไม่ชอบเขาเหมือนที่เขาชอบเธอ เดรโกถอนหายใจอย่างอึดอัดใจ ก่อนที่เขาจะห่มผ้าให้เธออย่างแผ่วเบา จากนั้นก็เดินกลับออกไปจากห้องสมุดด้วยความเคร่งเครียดและเศร้าหมอง
เฮอร์ไมโอนีก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากการงีบหลับเพราะเสียงที่ดังอยู่ข้างๆตัว เธอมองไปรอบๆเพื่อค้นหาเสียงที่เกิดขึ้นและสายตาของเธอก็มองไปที่หนังสือที่ตอนนี้ตกอยู่ที่พื้น เธอถอนหายใจเมื่อรู้ถึงสาเหตุของเสียงนั้น พร้อมกับหยิบมันขึ้นมาและวางไว้ที่กองหนังสือข้างโซฟา เธอขยี้ตาและหมุนหัวของเธอเพื่อให้หายจากอาการง่วงนอน เธอสังเกตเห็นผ้าห่มที่กองอยู่กับพื้น
“ฮือ”
เธอส่งเสียงครางอย่างงัวเงีย พร้อมกับสงสัยว่าใครเป็นคนมาห่มผ้าให้กับเธอ เธอคิดว่ามันอาจจะเป็นเอล์ฟประจำบ้าน ดอบบี้ หรือวินนี่ ตัวใดตัวหนึ่งก็ได้ เธอยังคงนั่งอยู่กับที่ชั่วครู่เพราะยังคงตื่นไม่เต็มตานัก แต่ก็ต้องหายง่วงเมื่อได้ยินเสียงกริ่งที่หน้าประตูดังขึ้น
ใครกันน่ะที่มาเยี่ยมพวกเขาทั้งสองคน? คนที่เธอรู้จักถูกดัมเบิ้ลดอร์สั่งห้ามมาที่นี่ เพื่อที่จะทำให้มั่นใจว่าทั้งเธอและเดรโกสามารถที่จะอยู่ที่นี่ได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง แต่อย่างว่ารอนก็เคยแอบมาแล้วนี่ ดังนั้นถ้าจะเป็นเพื่อนๆของเธอหรือเดรโกคนใดคนหนึ่งจะแอบมาหาพวกเขาด้วยความคิดถึงมันก็คงไม่แน่แปลกสักเท่าใดนักหรอก
เฮอร์ไมโอนี่ก้าวออกจากประตูอย่างช้าๆ ระหว่างทางที่จะลงไปเธอจำได้ว่าเธอเพิ่งตื่นนอนซึ่งอยู่ในสภาพที่ไม่เรียบร้อยสักเท่าไหร่นัก ดังนั้นเธอจึงหันหลังกลับรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องและหลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที หลังจากที่เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แล้ว เธอก็ลงมาข้างล่างอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อเธอมาถึงด้านหน้าของห้องโถงเธอมองไปรอบๆห้องเพื่อมองหาสัญญาณของสิ่งมีชีวิต จากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากห้องนั่งเล่น สิ่งแรกที่เธอเห็นก็คือเดรโกซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่มุมห้องและบิดขี้เกียจเหมือนเพิ่งตื่นนอน เธอมองไปรอบๆห้องและก้าวเข้าไปแต่ไม่เห็นมีคนอื่นอีกนอกจากเขา เฮอร์ไมโอนี่ จึงถามขึ้นมาอย่างสงสัย
“ ฉันได้ยินเสียงเหมือนมีใครมาที่นี่ ไม่ใช่เหรอ เดรโก”
เดรโกหันไปตามเสียงของเฮอร์ไมโอนี่และสบตาเธออย่างเฉยเมยเพียงแวบเดียวก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันไม่เห็นมีใครนี่เกรนเจอร์ เธออยากได้ยินเสียงใครมากจนแอบเอาไปฝันหรือไง แต่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก วันนี้จะเป็นวันที่ดีสำหรับเธอ”
เฮอร์ไมโอนีนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนเธอคิดว่าการที่เขาตอบกลับเธออย่างหมางเมินนั้นมันเนื่องมาจากวิธีการที่เธอปฎิเสธการจูบของเขาการตอบสนองของเธอเมื่อคืนนี้เป็นการทำทุกอย่างสิ้นสุดลง ขณะที่เธอกำลังคิดหาคำพูดเพื่อทำให้สถานะการณ์ดีขึ้น เธอกลับได้ยินเสียงเรียกชื่อเธอจากทางด้านหลัง และ เมื่อเธอหันกลับไปมอง สายตาของเธอก็เบิกกว้างด้วยความตื่นเต้นพร้อมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
“แฮร์รี่!” เธอรีบวิ่งไปหาและโอบกอดเขาโดยทันที
แฮร์รีเซถอยหลังนิดหน่อยแต่เขาก็กอดเธอตอบอย่างดีใจ “เฮ้, ไมโอนี เธอเป็นอย่างไรบ้าง” เขาถามราวกับว่าเธอหายไปนานเป็นสิบๆปี
“ฉัน...สบายดี” เธอตอบ เฮอร์ไมโอนีมองข้ามบ่าของแฮร์รีไปและก็พบกับเด็กสาวผมแดงที่เธอคุ้นเคย
“จินนี่” เธอเรียกเสียงดังพร้อมกับวิ่งไปหาเพื่อนรักของเธอ “ไมโอนี” จินนี่เรียกเสียงแหลม
“โอ...เฮอร์ไมโอนี เธออย่าจาก, จาก, จากฉันไปอีกน่ะ การที่จะต้องอยู่ในบ้านที่มีแต่ผู้ชายและแม่ มันไม่ใช่ความฝันของฉัน มันเหมือน...เหมือน..มันเป็นความยุ่งเหยิง! มันสนุกแต่ว่ามันดูยุ่งเหยิง” จินนี่พูดรัวจนแทบไม่หายใจ มันทำให้ เฮอร์ไมโอนีหัวเราะจนหน้าแดง
“ โอ, ฉันขอโทษจินนี่ ฉันจะไม่ให้เธออยู่คนเดียวอีกแล้ว ฉันสัญญา” เธอพูดพร้อมกับดึงแขนเพื่อนสนิทของเธอไปนั่งที่โซฟา
ครึ่งชั่วโมงต่อมาจินนี่ก็ได้รับรู้เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นของเฮอร์ไมโอนีจากการบอกเล่าของเธอเอง จินนี่ตั้งใจฟังจนจบพร้อมหายใจเข้าและปล่อยออกมาเสียงดัง และแฮร์รี่ก็พูดขึ้นมาว่า
“ไมโอนี, เธอและเดรโกอยู่กันอย่างไรเหรอ?” เขาถามเธอและจ้องเธอเขม็ง
อารมณ์ที่กำลังดีๆของเฮอร์ไมโอนีสะดุดเล็กน้อย และเธอก็ชำเลืองมองเดรโกที่นั่งอยู่มุมห้อง เขายังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ในท่าเดิม อย่างเฉยเมยแต่สีหน้าของเขาตอนนี้ดูเหมือนกับเบื่อหน่าย
“เอ่อ...มันค่อนข้างยุ่งเหยิงสักหน่อยน่ะในระยะแรกๆเพราะพวกเรามีนิสัยค่อนข้างแตกต่างกันอยู” เฮอร์ไมโอนีตอบ แฮร์รี่พยักหน้ารับรู้และหัวเราะเบาๆพร้อมกับพูดว่า
“ฉันก็ว่าอย่างนั้น” แฮร์รี่ไม่ได้สังเกตถึงคำพูดที่คลุมเครือของเฮอร์ไมโอนี่ อย่างไรก็ตามจินนี่ซึ่งเป็นคนที่ช่างสังเกตุจึงพูดขึ้นมาอย่างสงสัย
“แล้วมันเป็นอย่างไรล่ะ?” จินนี่ถามพร้อมทั้งยกคิ้วถาม แต่เฮอร์ไมโอนีแสร้งทำเป็นไม่เห็นและเปลี่ยนเรื่องคุยก่อนที่จินนี่จะถามซอกแซกในเรื่องอื่นๆที่เธอไม่อยากตอบ
“ แล้วพวกเธอมาทำอะไรกันที่นี่? ฉันคิดว่าพวกเธอคงไม่ได้รับอนุญาตให้มาที่นี่แน่ๆ”
“ฉันจะบอกเธอเองแฮร์รี่? ฉันอยากจะบอกเธอ! ฉันจะบอกเธอ! ” จินนี่พูด ท่าทางกระตือรือร้นและอมยิ้มอย่างยินดี เฮอร์ไมโอนีมองไปที่แฮร์รี่และจินนี่ และมองกลับไปที่แฮร์รี่อีกครั้งด้วยความสงสัย
“ไมโอนี, เรามีข่าวดีที่จะบอกเธอ ” แฮร์รี่ พูดและอมยิ้มก่อนที่จะผายมือไปทางจินนี่ให้แฟนสาวขาเป็นคนบอกข่าวดีกับเธอเอง
“เธอเป็นอิสระแล้ว!” เสียงของจินนี่ทำให้เฮอร์ไมโอนีสะดุ้ง เธออ้างปากค้างก่อนที่เธอจะหันกลับไปและมองที่จินนี่เพื่อขอคำยืนยันแล้วถามซ้ำอีกครั้ง
“อะไรน่ะ?”
“เธอเป็นอิสระแล้ว เธอสามารถกลับไปที่กริมโมลด์เพลสพร้อมกับพวกเราได้ ตอนนี้เลย!” จินนี่พูดพร้อมทั้งคาดหวังว่าเฮอร์ไมโอนีจะตื่นเต้นและดีใจๆไปพร้อมกับข่าวดีที่เธอมาบอก สายตาของเฮอร์ไมโอนีหันไปมองที่เดรโก เขายังคงอยู่ในท่าเดิม เพียงแต่สายตาของเขาที่มองมาทางเธอเหมือนดังคนที่เจ็บปวดและสิ้นหวัง เหมือนกัน.....................กับเธอ
เหลืออีกแค่สองตอนก็จะจบแล้วไงก็เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค่ะ พร้อมกับเรื่องใหม่ที่เอามาลง เรื่องHERMIONE MALFOY
ความคิดเห็น