Harry Potter short fic Broken (เดร/เฮอร์)
"เราเลิกกันเถอะ"ใครบอกเลิกใครระหว่างเดรโกและเฮอร์ไมโอนี่ แล้วทำไมต้องเลิกกันล่ะ ไม่บอกคุณหรอกตามไปดูเอาเองแระกัน
ผู้เข้าชมรวม
4,120
ผู้เข้าชมเดือนนี้
11
ผู้เข้าชมรวม
สักครู่ใหญ่ๆที่ฉันนอนตาจับเพดานแล้วคิดถึงเรื่องความหลังต่างๆที่เข้ามาในหัวของฉันราวกับภาพไสลส์บอกถึงชีวิตเรื่องราวครามรักของฉันแต่หนหลัง ฉันเหม่อลอย และสิ้นหวังฉันยังไม่ละสายตาจากเพดานห้องแม้จะได้ยินเสียงของใครบางคนคุยกันอยู่ข้างกายของฉันก็ตาม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แตกหัก
มุมมองของเฮอร์ไมโอนี
“เฮอร์ไมโอนี, เราต้องคุยกัน” ฉันหันไปมองชายผมบลอนส์ในตาสีซีดที่เข้ามาทักทายฉัน เขานั่งลงตรงข้างๆฉัน เขาดูกระวนกระวายและไม่มีความสุข ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจ ปกติเขาจะชอบมานัวเนียใกล้ๆฉันและเราก็มีความสุขด้วยการพูดคุยหยอกล้อซึ่งกันและกัน แต่มาวันนี้ดูเขาหน้าซีดและเย็นชาดูเหมือนคนไร้ความรู้สึก เขาเหมือนกับคนที่กำลังใกล้ตายมากกว่า
“อะไรหรอเดรโก?”.ในที่สุดฉันก็เป็นคนเอ่ยปากถามเมื่อเห็นเขานิ่งไปนาน
“ฟังน่ะ, ฉันคิดว่า....เราควร.....เราควรที่จะยุติความสัมพันธ์ของพวกเราซะตอนนี้ดีกว่า!” เขาพูดโพล่งออกมาในขณะที่เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่มันกลับกลายเป็นว่าในตอนนี้ฉันเหมือนกำลังขาดอากาศหายใจอยู่
“อะไรน่ะ? เธอหมายความว่าอะไ ร?” ฉันตัดสินใจลองถามดูอีกครั้งเผื่อว่าการที่ฉันอ่านหนังสือเยอะจนสมองของฉันอาจเบลอทำให้การแปลความหมายของฉันอาจผิดเพี้ยนไป
“เราทั้งคู่อาจจะได้พบคนใหม่หรือสิ่งใหม่ที่.....” เขาพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความเบื่อหน่ายที่ต้องอธิบายให้ฉันฟัง และสายตาเย็นชาที่เขามองมาให้ฉันทำให้ฉันหนาวเข้าไปถึงหัวใจ
“เธอไปจากฉันเพราะว่าเธอเจอคนใหม่หรอ?” ฉันถามทวนอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ นี่ฉันถูกทิ้งเพราะเขาต้องการให้เราทั้งคู่ไปพบคนใหม่งั๊นหรอ?เขาทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไงกัน แต่ก่อนที่ฉันจะได้คิดอะไรที่มันทำให้ใจของฉันเจ็บมากไปกว่านี้ ฉันก็ต้องสะดุ้งตกใจกับผู้ชายตรงหน้า
“ไม่ใช่!” เขาตะโกนเหมือนกับว่าเขาไม่ต้องการให้ฉันหวาดระแวงในตัวของเขา
“เพียงแค่.....”
“เพียงแค่อะไร, เดรโก?” ฉันเริ่มที่จะหมดความอดทน ฉันต้องการที่จะรู้ว่าทำไมเขาต้องการไปจากฉัน
เขาไม่ตอบคำถามที่ฉันถาม แต่เขารีบผุดลุกขึ้นเหมือนยังกับกลัวว่าฉันจะยื้อยุดให้เขาอยู่กับฉันให้ได้
“ฉันต้องไปแล้ว, แค่นี้นะ” เขาพูดแค่นั้นแล้วรีบเดินออกห่างจากตัวของฉัน จนฉันแทบตั้งตัวไม่ติดฉันรีบตะโกนถามออกไปอย่างมีความหวัง
“ฉันจะเจอเธอได้อีกมั๊ย” และสิ่งที่ฉันได้ยินมันทำให้หัวใจของฉันราวถูกกระชากออกไปจากร่างทั้งๆที่ฉันยังมีลมหายใจอยู่
“ไม่.อย่าเลย..ฉัน...ฉันคิดว่าเราควรที่จะเป็นเพียงเพื่อนกันแค่นั้น” ก่อนที่ฉันจะมีโอกาสได้คัดค้านหรือพูดอะไรออกไป เขาก็รีบลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว ฉันอ้าปากค้างและยืนนิ่งอยูกับที่เหมือนหุ่นยนต์ไร้จิตใจ ฉันคาดไม่ถึงในเรื่องนี้และทนไม่ได้กับการอกหัก ฉันควบคุมอารมณ์ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ฉันเริ่มร้องไห้เบาๆและเริ่มหนักขึ้นจนกลายเป็นเสียงกรี๊ดร้องเพื่อให้ความเจ็บปวดในใจของฉันมันหายไปหรืออย่างน้อยก็เจ็บปวดน้อยลงกว่าที่เป็น ฉันยังคงกรีดเสียงร้องไห้โดยไม่สนใจว่าจะมีคนจ้องมองฉันมากน้อยแค่ไหนในตอนนี้ ฉันกลายเป็นคนที่อกหักซะแล้ว
ฉันไม่รู้ว่านานเท่าไรที่ฉันนั่งอยู่ที่นั่น แต่ฉันรู้ว่าการร้องไห้และกรีดร้องของฉันนี่มันอาจจะสร้างตวามพึงพอใจให้กับบรรดาสาวๆที่คลั่งไคล้ในตัวของเดรโกก็อาจจะเป็นได้
หลายคนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างมองฉันนิ่งและอ้าปากค้างอย่างตกตะลึงเพราะพวกเขาคงไม่คาดคิดแน่ว่า หนอนหนังสืออย่างฉัน คนฉลาดอย่างฉันจะสติแตกได้ขนาดนี้ พวกเขายืนดูฉันอยู่ห่างๆไม่มีใครกล้าเข้ามาดึงฉันขึ้นจากความบ้าคลั่งที่ฉันสร้างมันขึ้นมา
แต่เพียงแค่สิ่งนี้ ฉันเองก็รู้สึกขอบใจพวกเขาทีไม่เข้ามายุ่งกับฉันและปล่อยให้ฉันอยู่เพียงลำพัง แต่ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกว่ามีมือๆหนึ่งมาแตะเข้าที่ไหล่ของฉัน โดยที่ไม่ต้องเงยหน้าชึ้นมามองฉันก็รู้ว่าเป็นใครเพราะมีเพียง แค่คนนี้คนเดียวเท่านั้นที่เป็นไปได้ คือ ศาสตราจารย์ มักกอลนากัล
“มีสเกรนเจอร์ ฉันจะพาเธอไปส่งที่หอพักนะ เธอจะได้พักผ่อนไง” เสียงแห่งความเมตตาและโอบอ้อมอารีย์ของครูประจำบ้านของฉันดังขึ้น ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลป์จะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ใช่เป็นคนเจ้าระเบียบ ดุดัน และเคร่งขรึม แต่ในตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์ที่จะคุยด้วยและไม่มีอารมณ์ที่จะมานั่งแปลกใจได้นานนัก เพราะฉันอยากอยู่คนเดียวมากกว่า
“ลุกขึ้นเถอะ มิสเกรนเจอร์” เสียงของศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลเริ่มจะเหมือนเดิมอีกครั้งเมื่อยังเห็นฉันดื้อยังไม่ยอมขยับไปไหน
“หมดเวลาเรียนแล้วนะ และเธอก็พลาดอาหารมื้อเย็นซะแล้วด้วย เรามีอาหารสำหรับเธออยู่ที่--” ฉันปัดมือของศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลป์ที่กำลังจะพยุงให้ฉันลุกขึ้น ฉันรู้สึกได้ว่ามันเหนื่อยมากในตอนนี้ และฉันก็ไม่สนใจอาหารมื้อไหนๆทั้งนั้น
ฉันไม่สนใจสิ่งเหล่านี้!
“ไม่, หนูไม่ต้องการ ศาสตราจารณ์ไม่เห็นหรือค่ะว่าหนูต้องการอยู่คนเดียว ปล่อยหนูไว้ที่นี่เถอะค่ะ อย่ามายุ่งกับหนูอีกเลย.....หนูอยากตาย”
ฉันกระซิบในช่วงสุดท้ายอย่างแผ่วเบา แต่ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน
ฉันได้ยินเสียงเธอถอนหายใจแล้วเธอก็ตรงเข้ามากอดฉันไว้แน่นและพูดปลอบ
“เกรนเจอร์ เพียงแค่เขาไปจากเธอ มันไม่ได้หมายความว่าเธอต้องเศร้าโศก หรือตายน่ะ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นในไม่ช้า เธอจะต้องทำใจให้ได้ เธอเชื่อฉันสิ”
“ไม่! หนูรักเขา แต่เขา...ก็ทิ้งหนูไป ทำไมล่ะค่ะศาสตรจารณ์หนูทำอะไรผิด !”ฉันตะเบ็งเสียงถามคำถามที่ฉันอยากรู้มากที่สุด คือ ฉันผิดอะไร ฉันจะแก้ตัวเพื่อให้เขากลับมาหาฉันได้ไหม ฉันไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่ไม่เข้าใจ แววตาของศาสตราจารณ์ที่มองมาทางฉันก็ฉายแววงุนงงและสับสนเช่นกัน
ศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลป์ส่ายหน้าเหมือนไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้ได้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว เธอได้พูดขอร้องฉันอีกครั้งอย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมา
“ได้โปรดเถอะ เกรนเจอร์ ให้ฉันพาเธอไปที่ห้องพยาบาลก่อนเถอะ บางทีมาดาม พอมฟรีย์ อาจจะให้เครื่องดื่มบางอย่างแก่เธอเพื่อทำให้เธอสงบลงและสบายใจขึ้นกว่านี้”
ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ใช่ เหนื่อย ฉันเหนื่อยทั้งกายและใจในตอนนี้ แต่ถ้าฉันยังขัดขืนทำตามอารมณ์อีก เรื่องก็คงจะไม่จบอยู่แค่นี้อย่างแน่นอน
“จากนั้นศาสตราจารณ์ก็จะปล่อยให้หนูอยู่คนเดียวใช่ไหมค่ะ?” ฉันถามเพื่อต่อรองไม่ให้เธอเข้ามายุ่งกับฉันอีกและดูเหมือนเธอก็รู้เช่นกัน
“ใช่ ถ้าเธอต้องการเช่นนั้น ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องนี้กับเธออีก”
“ก็ได้” ฉันตกลงที่จะไป เพื่อให้ศาสตราจารณ์ทำตามที่เธอพูด ฉันต้องการที่จะร้องไห้กับตัวเองมากกว่าที่จะมีใครมาพูดปลอบใจอยู่ข้างๆแบบนี้ซึ้งนอกจากจะไม่ช่วยอะไรได้แล้วมันยิ่งตอกย้ำให้ฉันต้องเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น
“ทางนี้” ฉันตามศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลไปที่ห้องพยาบาล และเธอก็นำเครื่องดื่มที่ได้จากมาดามพอมฟรีย์ ไห้กับฉันในทันที่ ฉันดื่มเจ้าสิ่งนั้นโดยไม่รู้สึกรู้สากับรสชาดของมันเท่าไหร่นัก ศาสตราจารณ์เอนตัวของฉันให้นอนราบไปกับที่นอนเพื่อให้ฉันได้พักผ่อน ในตอนนี้ฉันเปรียบเหมือนตุ๊กตาที่ใครจะจับฉันให้อยู่แบบไหนก็ได้เพราะในตอนนี้ใจของฉันมันไม่อยู่ที่เดิมอีกต่อไปแล้ว
เมื่อศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลป์รีบเดินออกจากห้องพยาบาล ใจของฉัยก็โบยบินไปอยู่กับชายหนุ่มผมบลอนส์ที่ฉันรักสุดหัวใจเสียแล้ว ใช่ เขาคือ เดรโก มัลฟอย คนที่เพิ่งบอกเลิกความรักของพวกเราไปเมื่อกี้นี้นั่นเอง
สักครู่ใหญ่ๆที่ฉันนอนตาจับเพดานแล้วคิดถึงเรื่องความหลังต่างๆที่เข้ามาในหัวของฉันราวกับภาพไสลส์บอกถึงชีวิตเรื่องราวครามรักของฉันแต่หนหลัง ฉันเหม่อลอย และสิ้นหวังฉันยังไม่ละสายตาจากเพดานห้องแม้จะได้ยินเสียงของใครบางคนคุยกันอยู่ข้างกายของฉันก็ตาม
“โอ...มันแย่กว่าที่ฉันคิด” มาดามพอมฟรีย์กลุ้มใจเมื่อเธอมองมาทางฉัน แต่เธอก็ถูกศาสตราจารย์มัลกอลนากัลขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน
“พอมฟรีย์, ไม่มีอะไรที่เธอรักษาไม่ได้”
“คุณหมายความว่าอะไร? ฉันสามารถที่จะรักษาได้ งั๊นหรอ!”
มาดามพอมฟรีย์ถามเสียงสูงเหมือนไม่เข้าใจ
“พอมฟรีย์” ศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลป์พูดเสียงแผ่วเบาเหมือนต้องการปรามไม่อยากให้ฉันได้ยินอะไรที่กระทบจิตใจมากไปกว่านี้แต่ดูเหมือนมาดามพอมฟรีย์ยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ทันได้คิด
“มันไม่สามารถรักษาได้, เธอก็รู้มัลกอลนากัล มันเป็นการอกหักที่รุนแรงมาก”
ใช่ มาดามพรอมฟรีย์พูดถูก ฉันถูกหักอก และมันค่อนข้างที่ทำให้ฉันถึงตายได้
“โอ...แล้วทำไมเธอถึงให้ เกรนเจอร์กินยาลืมทุกข์ล่ะ?”ศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลถามอย่างแปลกใจเมื่อเธอเห็นมาดามพรอพฟรีย์ยื่นแก้วยาที่มีสีเขียวอ่อนๆให้กับศาสตราจารร์มัลกอลนากัล
“ยาลืมทุกข์จะช่วยให้เกรนเจอร์สงบลงชั่วคราว แค่ชั่วคราวเท่านั้น ”
พวกเขาทั้งคู่ช่วยกันประคองให้ฉันลุกขึ้นแล้วยื่นแก้วที่เต็มไปด้วยยาสีเขียวอ่อนจ่อที่ปากของฉัน มาดามพรอพฟรีย์ใช้มือบีบปากของฉันให้อ้าออกเล็กน้อยก่อนส่งสัญญาณให้ศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลกรอกตัวยาเข้าไปในปากของฉันจนหมดแก้ว
พวกเขาช่วยกันกรอกตัวยาลงในคอของฉัน, โดยไม่ได้ทำให้ฉันเจ็บปวด พวกเขาช่วยกันทำอย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากที่ตัวยาทั้งหมดเข้าสู่ร่างกายของฉันแล้วมันช่วยให้ฉันสงบขึ้นได้จริงๆ
แต่ทันทีที่ที่พวกเขาเดินออกไป
ให้ตายสิ ทำไมน้ำตาของฉันมันถึงยังไหลออกมาอีกล่ะ น้ำตาของฉันมันไหลออกมาเองโดยอัตโนมัติ ความคิดในเรื่องของเดรโกกลับมาอีกครั้ง ฉันหัวเราะเบาๆ ขนาดที่ว่ายาแน่ๆมันยังเอาไม่อยู่ มันคงจะหนักหนาเกินไปสำหรับฉัน ใช่มันหนักเกินไปแล้วที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างฉันจะทนได้
ในตอนนี้ หัวใจของฉันแตกออกเป็น 2 ส่วน ทำไมต้องเป็นฉัน?
ฉันคิดว่าเขารักฉัน เขาบอกฉันเสมอว่าเขาจะไม่ทิ้งฉันไปไหน
ที่ผ่านมาเขาโกหกฉัน มันทำให้ฉันเหมือนเป็นคนโง่ ฉันรู้สึกขายหน้าและโง่มากที่ไปหลงเชื่อว่าเขารักฉัน ยิ่งคิดก็ทำให้น้ำตายิ่งไหลออกมาและเหมือนหัวใจจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เสียงสะอื้นของฉันเหมือนกำลังจะตาย
ฉันตัดสินใจที่จะแก้แค้นเพื่อให้เขาสำนึกผิดในสิ่งที่ทำกับฉัน
ฉันจะตาย!!!!
นั่นเป็นหนทางเดียวที่เขาจะสำนึกในความผิดที่เขาทำ
และ ฉันจะอยู่กับเขาในทุกที่ที่เขาอยู่
----วันต่อมา---
มุมมองของเฮอร์ไมโอนี่
เมื่อคืนฉันวางแผนการตายของตัวเอง วันนี้มีการแข่งขันควิดดิชระหว่าง สลิธเทอลีนและกริฟฟินดอร์
ฉันกำลังไปที่สแตนเชียร์ นี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้มั่นใจว่าการตายของฉันนั้นเดรโกจะต้องเห็น ฉันแต่งตัวช้าๆอย่างมีความสุข แต่ฉันก็ยังคงมีความรู้สึกที่หดหู่ซ่อนอยู่ในตัวฉัน ฉันเดินลงไปที่ห้องอาหารเช้าโดยที่ไม่ได้รู้สึกหิวเลยแม้แต่น้อย แต่ฉันต้องการกินมันเนื่องจากนี่คงเป็นมื้อสุดท้ายของฉันแล้ว ฉันนั่งลงระหว่างแฮร์รี่กับรอน และพวกเขาก็มองมาที่ฉันอย่างสงสัยว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับฉันกันแน่
“เป็นอะไรเหรอ? เธอดูเหมือนเหนื่อยๆนะ”รอนถามฉันเมื่อเห็นฉันนั่งเงียบๆอยู่นาน
แฮร์รี่เองก็หันมาสำรวจฉันเขาดูกระอักกระอ่วนที่จะพูด แต่ในที่สุดเขาก็ถามออกมาจนได้
“เฮอร์ไมโอนี” แฮร์รีพูดช้าๆ “เธอสบายดีหรือเปล่า? ฉันหมายถึง เมื่อวานนี้มัลฟอยบอกเลิกกับเธอ และพวกฉันก็ได้ยินว่าเธอร้องไห้”
“ฉันสบายดี แฮร์รี่ รอน ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะ ฉันดีขึ้น และฉันจะดีขึ้นมากที่สนามแข่ง!” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่โกหกโดยหวังว่าพวกเขาจะจับไม่ได้ รอนเชื่อฉันและทำท่าทางยักไหล่จากนั้นก็เริ่มลงมือกินอาหารต่อ
ในขณะที่แฮร์รี่เองดูยังไม่มั่นใจสักเท่าไหร่นัก
“เฮอร์ไมโอนี, เธอยังไม่ได้กินอะไรเลยน่ะ” แฮร์รี่ถาม
“ฉันไม่ค่อยหิวน่ะ” ฉันยิ้มและนั่งคอยจนพวกเขากินเสร็จ ฉันมองไปรอบๆห้องโถงใหญ่และเห็นเดรโกหัวเราะอยู่กับเพื่อนของเขาอย่างมัความสุข ฉันมองไปที่เขาด้วยหัวใจที่เจ็บปวด นั่นมันทำให้ฉันต้องหันหน้าไปอีกทางหนึ่งเพื่อซ้อนน้ำตาที่มันเริ่มจะเอ่อขึ้นมาในตอนนั้น
มุมมองของเดรโก
เมื่อวานฉันทำให้ทุกอย่างดูแย่ ฉันได้ทำร้ายคนที่ฉันรัก ฉันทำให้เธออกหัก เพื่ออะไรนะเหรอ เพื่อความปลอดภัยของเธอเองนะสิ ฉันคงทนไม่ได้แน่ถ้าพ่อของฉัน จะเอาเธอเป็นเครื่องต่อรองในสิ่งที่เขาต้องการ ใช่พ่อของฉันรู้เรื่องของฉันกับเกรนเจอร์แล้ว ฉันไม่สนหรอกว่าใครเป็นคนบอก มันแน่อยู่แล้วที่พ่อต้องรู้ พ่อมีเส้นสายทั้งภายนอกและภายในมากมายนัก แต่ฉันไม่คิดว่าพ่อจะรู้เรื่องได้รวดเร็วขนาดนี้ พ่อดูหัวเสียมากแต่ยังคงนิ่งอยู่ นั่นแหละสัญญาณอันตรายที่กำลังรอให้มันระเบิดออกมา ซึ่งฉันจะไม่มีวันรอจนถึงตอนนั้น นอกจากนั้นยังมีอีกหลายๆเหตุผลที่ฉันยังไม่ได้บอกเธอ และไม่คิดที่จะบอกด้วย ฉันได้ยินเสียงสะอื้นในขณะที่เดินจากมา แต่ต้องทำเป็นไม่สนใจ หัวใจของฉันมันแตกสลายเมื่อเธอคิดว่าฉันไปเจอคนใหม่ ฉันต้องการที่จะตะโกนบอกเธอว่าฉันไม่สามารถรักใครได้เท่าเธออีกแล้ว แต่นั่นอาจจะทำให้เป็นอุปสรรคต่อแผนการของฉันได้ และสิ่งที่ทำให้เรื่องมันเลวร้าย คือ แพนซี่ เธอเป็นแฟนเก่าก่อนที่ฉันจะเป็นแฟนกับเฮอร์ไมโอนี ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่พอใจของแพนซี่เป็นอย่างมาก ตอนนี้ฉันรู้สึกเกลียดตัวเองมากนัก
ตื่นขึ้นมาเช้านี้ฉันสดชื่นขึ้นอย่างน่าประหลาด เพื่อนๆมองมาที่ฉันอย่างสงสัยแต่ไม่ได้พูดว่าอะไร ฉันอยากนั่งลงเพื่อกินอาหารเช้าแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ฉันต้องลบภาพของเฮอร์ไมโอนีออก ต้องไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับเธอซึ่งทำให้อาการอกหักของฉันดีขึ้น ฉันต้องการให้เธอหายดีเพื่อความปลอดภัยของเธอเอง ฉันกำลังมองเธอขณะที่คุยอยู่กับเพื่อนด้วยสีหน้าที่มีความสุข ฉันรู้สึกแปลกใจนิดๆ เพราะเมื่อวานนี้หลังจากที่ฉันบอกเลิกกับเธอ ฉันไม่ได้เห็นเธอมีความสุขอีกเลยหลังจากนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอร้องไห้ออกมาเมื่อวานนี้ ซึ่งนั่น ก็คือฉันที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ ฉันเป็นต้นเหตุของเรื่องยุ่งๆทั้งหมด
ฉันทำเรื่องยุ่งๆที่ใหญ่มากและก็รู้ว่าไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีกแล้ว ฉันเห็นเธอมองมาจึงแสร้งหัวเราะขึ้นมาดังๆกับเพื่อนราวกับว่าได้ยินเรื่องตลก เมื่อฉันมองไปที่เธอ ดวงตาของเธอทำให้ฉันงุนงง เธอมองมาที่ฉันเมื่อฉันมองเธอ ฉันรู้สึกเจ็บและเหมือนตัวบวมขึ้น ฉันมั่นใจในสีหน้าที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนจึงหันหน้าหนีเพื่อไม่ให้เธอรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริง หลายนาทีผ่านไป ฉันก็ถูกดึงให้ลุกขึ้นโดยแครบและกอลย์ ฉันไม่ได้ตะโกนว่าเขา แต่ฉันเดินตามไปเพื่อที่จะไปอีกห้องหนึ่ง เพื่อหลบหน้าเธอ
มุมมองของเฮอร์ไมโอนี่
เขาหันกลับไปทันทีที่ฉันคุยกับแฮร์รีและรอน อีกไม่นานการแข่งขันก็จะเริ่มขึ้น ฉันนั่งสักครู่ก่อนที่จะมองไปที่โต๊ะของสลิทเธอลีน แครบและกอยล์กำลังดึงเดรโกให้ลุกขึ้นและเขาก็ลุกขึ้นอย่างว่าง่าย โดยไม่ตวาดกลับไปยังแครบและกอยล์เลย ทำไมเขาต้องทำแบบนั้น!!!! เขาอยากออกไปให้พ้นๆหน้าของฉันงั้นสิ? ฉันแน่ใจว่าทันทีที่เขารู้ว่าฉันตายเขาต้องกระโดดดีใจจนตัวลอยแน่นอน เขาไม่ได้ต่อว่าเพื่อนแต่กลับเดินตามไป
นั่นเป็นสิ่งที่ผิดปกติ เขาทำตัวเหมือนมีปริศนา ทันที่ที่เขาเดินออกจากห้องโถงใหญ่ ฉันลุกขึ้นยืนและเดินไปที่สนามควิชดิช ขึ้นไปยังสแตนเชียร์แล้วเลือกที่นั่งแถวล่างสุด ลีจอนดัน ประกาศตัวผู้เล่นแต่ละทีมจากนั้นการแข่งขันก็เริ่มต้นขึ้น
ขณะนั้นฉันกำลังนั่งคิดว่าทำอย่างไรจึงจะให้เหตุการณ์ดูเหมือนว่าเป็นอุบัติเหตุ
ในการแข่งขันทั้งแฮร์รีและเดรโก ยังไม่สามารถจับลูกสนิชได้ ฉันติดสินใจที่จะรอโอกาสนั้น และลุกขึ้นยืนมองไปที่แฮร์รีกับรอนพร้อมกับบอกอย่างแผ่วเบาว่า
“ลาก่อน แฮร์รี่...รอน”
ฉันมองไปที่เดรโกซึ่งกำลังไล่ตามลูกสนิช พร้อมทั้งหายใจเข้าเป็นครั้งสุดท้ายจากนั้นก็เดินข้ามออกไปจากราวกั้น.....
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ลี เห็นเธออย่างชัดเจนและเขาก็อุทานออกมาด้วยเสียงอันดัง
"เฮอร์ไมโอนี!" เขาร้องตะโกน ทุกคนมองไปที่ร่างของผู้หญิงที่ร่วงลงมาจากสแตนเชียร์และส่งเสียงร้องฮือฮา ทุกคนต่างอลหม่านและยุ่งเหยิงที่ไม่สามารถจะช่วยเหลือเฮอร์ไมโอนี่ได้ ทันทีที่เดรโกได้ยินชื่อของเธอ เขาหยุดอยู่กลางอากาศและมองไปที่ร่างของเธอที่ร่วงลงมา เขากลัวเหมือนกับที่ทุกคนกลัวที่ไม่สามารถทำอะไรได้ เขาบินตรงไปที่เธอซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอได้หล่นลงไปแล้ว เดรโกไปถึงที่นั่นโดยที่ตัวของเธอกระแทกลงกับพื้นไปแล้ว เขามองไปที่ร่างที่เต็มไปด้วยเลือดของเฮอร์ไมโอนี่พร้อมกับร้องไห้
ทำไมฉันช่างโง่อย่างนี้? เขาคิด ฉันช่างเป็นคนที่โง่เง่า แล้วเขาก็ร้องไห้ออกมาท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำ
"ฉันมันโง่สิ้นดี ฉันมันโง่" เขากรีดร้องและตะโกนอย่างสะอึกสะอื้น
ศาสตราจารณ์เสนปเข้ามาพยายามที่จะดึงตัวเขาออกมาจากเฮอร์ไมโอนี แต่ไม่สามารถทำได้ เดรโกยังคงอุ้มเธอไว้ตลอดทั้งคืน จนเช้าอีกวันหนึ่งพวกเขาทั้งคู่จึงถูกแยกออกจากกัน วันต่อมาพวกเพื่อนๆและศาสตราจารณ์จัดการศพให้กับเฮอร์ไมโอนีและเดรโกก็เป็นคนที่ยังคงร้องไห้มากที่สุด
"เฮอร์ไมโอนี่เป็นที่รักของพวกเราทุกคน เธอตายท่ามกลางความรักที่อยู่รอบตัวเธอ ความตายของเธอเป็นพยานและเราจะยังคงคิดถึงเธอตลอดไป" คำพูดของดัมเบิ้ลดอร์ทำให้เดรโกร้องไห้และร้องตะโกนออกมา เขาล้มลงไปกับพื้นและตะโกนว่าตัวเอง นอกเหนือจากพ่อแม่ของเธอแล้วเขาได้รับความช่วยเหลือจากทุกคน ดัมเบิ้ลดอร์เข้ามาปลอบและคุกเข่าข้างๆเขา
"เดรโก, ฉันรู้ดีว่ามันยาก แต่เฮอร์ไมโอนีไม่ได้เกลียดเธอเลยนะ เราพบจดหมายที่เขียนถึงเธอ ฉันรู้ว่าหล่อนตายเพื่อที่จะทำให้เธอรู้สึกสำนึกผิดแต่หล่อนก็ยังคงรักเธออยู่ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้หล่อนฆ่าตัวตาย" มีเพียงดัมเบิ้ลดอร์และเดรโกเท่านั้นที่รู้เหตุผลการตายของเฮอร์ไมโอนีว่าไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ แต่ไม่สามารถที่จะบอกให้ใครล่วงรู้ได้ สิ่งนี้จะถูกเก็บเป็นความทรงจำของเธอ "ฉันรู้ว่าหล่อนต้องการให้เธออ่านจดหมายนี้"ดัมเบิ้ลดอร์ยื่นจดหมายสีแดงที่จ่าหน้าถึงเดรโกให้
เดรโกที่รัก
ขณะที่เธออ่านจดหมายนี้ ฉันคงตายไปแล้ว ฉันต้องการให้เธอรู้ว่าฉันรักเธอแม้ว่าเธอจะไม่เคยรักฉันก็ตาม ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าฉันสามารถทำให้เธอมารักฉันได้ แต่ฉันก็คิดเสมอว่าตลอดเวลาที่ใกล้ชิดกันฉันมีความสุขมากแม้ว่าที่ผ่านมาจะเป็นสิ่งที่หลอกลวงก็ตาม ได้โปรดรับรู้ว่าฉันไม่ได้โทษคุณในการตายของฉัน ใช่,ฉันต้องการที่จะตายเพราะคุณได้ทิ้งฉันไปและฉันต้องการให้คุณรู้สึกผิดในการตายของฉัน แต่ที่ฉันเลือกที่จะทำแบบนี้เพราะว่าฉันไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ถ้าไม่มีคุณ ขอให้คุณมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อฉัน นี่เป็นความปรารถนาสุดท้ายของฉัน
รัก,
เฮอร์ไมโอนี
เขาฉีกจดหมายออกเป็นชิ้นเล็กๆหลังจากที่อ่านมันจบ เขาไม่รู้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรโดยที่ไม่มีเธออยู่ที่นี่ เขาเพิ่งรู้ว่าตัวเขาเองรักเฮอร์ไมโอนี่มากมายแค่ไหน แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว เขาทำผิดพลาดไป ตอนนี้เขาไม่มีเธออีกแล้ว เขารู้แล้วว่าเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกอย่างไร ก็คงจะเหมือนเขาในตอนนี้ที่อยากตาย ใช่ เขาอยากตาย เขาอยากไปหาเธอ เขาขึ้นไปที่ห้องนอนอย่างช้าๆ และนอนลงเพื่อหลับไปอย่างไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีกเลย
"วันนี้ที่พวกเราทุกคนอยู่ที่นี่ เพื่อแสดงความเคารพต่อเดรโก มัลฟอย เขาได้สูญเสียความรักและเขาไม่สามารถที่จะอยู่ต่อไปได้ เขาหลับและจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก พวกเราเชื่อว่าเขาตายไปแล้วเพราะหัวใจที่แตกสลายของเขา ซึ่งไม่สามารถทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่อย่างน้อยพวกเราก็ควรที่จะยินดีกับพวกเขาที่จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป, เดรโกและเฮอร์ไมโอนี ดังนั้นฉันอยากจะให้สนามควิดดิชแห่งนี้ยังคงอยู่ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของเฮอร์ไมโอนีและมัลฟอย "
จบบริบูรณ์
ผลงานอื่นๆ ของ คีอานู ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ คีอานู
ความคิดเห็น