คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทเริ่มต้อนของโซฟีร่า
“ข้าว่าเจ้าไปพักที่บ้านของข้าก่อนเถอะปล่อยไว้แบบนี้อันตรายเชียว” ฟินิกส์บอกอันตราเมื่อเธอหยุดร้องให้ได้สักครู่ใหญ่ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดพระอาทิตย์กำลังจะตกดินฝูงนกต่างพากันบินกลับรัง อันตรายังไม่ค่อยไว้ใจฟินิกส์สักเท่าไหร่ถึงเมื่อกี้เธอจะร้องให้ในอ้อมแขนของเขาก็ตามที (= =”)
“บ้านคุณอยู่ไหนหรออยู่ในป่านี้หรอ” อันตราถามฟิกนิกส์และเขาคงดูออกว่าเธอไม่ไว้ใจเขา
“ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอกน่าข้าไม่ชอบไม้กระดานผอมแห้งซะขนาดนี้” เขาพูดพลางมองอันตราตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำเอาหญิงสาวหน้าแดงด้วยความโกรธแต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้
“ฉันจะลองเชื่อใจคุณสักครั้งละกันถึงฉันจะอยู่ที่ไหนเป็นตายร้ายดียังไงไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็เหมือนกันแหละตอนนี้อยู่ที่นี้ก็ตายอยู่กับคุณก็ตายไหนๆจะตายละขอตายในที่ดีๆละกัน” อันตรามองหน้าฟิกนิกส์แล้วเชิดเดินเข้าป่าไปด้วยความเคยชิน
“เฮ้เจ้า
เอ่ออันเจ้าไปไหนหน่ะเจ้ารู้หรอบ้านข้าไปทางไหนแล้วเดินเข้าป่าไปซะแล้วนั้นเอ้อ” ฟิกนิกส์พูดแล้ววิ่งตามอันตราที่ทำท่างอนแล้วเดินไปแบบมั่วๆ กรี๊ดดดดดดดดด
“อันเป็นไรไหม” ฟินิกส์วิ่งปราดเข้ามาหาอันตราขณะที่เธอยืนตะลึงอยู่
“ตัวอะไรหน่ะ” อันตรามองหน้าฟินิกส์แล้วชี้ไปที่พุ่มไม้ที่ขยับเหมือนมีบางสิ่งอยู่ในนั้น
“ขยับออกมาอัน” ฟินิกส์เดินมาหาอันตราแล้วดันเธอให้ออกห่างพุ่มไม้นั้น แล้วเขาก็เดินเข้าไปหาพุ่มไม้อย่างระมัดระวัง วี๊ดดดด เสียงบางอย่างร้องหวีดหวิวแล้วเจ้าตัวประหลาดก็โผล่มา มันเป็นงูตัวสีฟ้าสวยเป็นประกายตัวใหญ่พอๆกับกระบอกไม่ไผ่ตัวยาวมากเสียด้วย
อันตรารีบถอยกรูดแล้วเธอก็ชนกับร่างร่างหนึ่งเข้าทำให้เธอต้องรีบหันขวับไปดูพร้อมๆฟินิกส์ ด้านหน้าเธอนั้นคือชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง ผมของเขายาวประมาณกลางหลังเป็นสีเหลืองออกจะทองเสียด้วยซ้ำดวงตาคมกริบสีเขียวสามารถบาดหัวใจผู้หญิงได้ง่ายๆเขาสวมเสื้อผ้าอาภารณ์สวยงามแถมผิวยังขาวมากเสียด้วย อันตรายังไม่ทันจะถอยห่างจากชายแปลกหน้าฟินิกส์ก็ดึงเธอมาอยู่ข้างกายเขาและทักชายแปลกหน้าเหมือนรู้จักแต่ไม่เป็นมิตรซะทีเดียว
“ว่าไงท่านเซรัสจอมราชาของเผ่านาคามีอะไรกับข้ารึถึงมาถึงนี่” อันตราหันไปมองหน้าฟินิกส์ แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรฟินิกส์ก็ยกมือปรามไว้ เธอจึงหันกลับไปจ้องชายแปลกหน้าอีกครั้ง คราวนี้ชายแปลกหน้าเป็นฝ่ายพูดกับฟินิกส์น้ำเสียงช่างทุ้มฟังแล้วไพเราะมาก
“ข้าเพียงอยากจะรู้ว่าท่านฟินิกส์มาทำไรอยู่กลางป่าแบบนี้แถมยังมากับสาวน้อยน่ารักเสียด้วย เจ้าชา
.
“เขาพูดแล้วหยุดอยู่แค่นั้นแล้วมองหน้าฟินิกส์เหมือนยิ้มเยาะ
“นางคงไม่รู้” ผู้ชายที่ชื่อ เซรัสหันมาหาฟินิกส์มองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เขาเพียงดีดนิ้วลำแสงสีฟ้าใสก็ร้อมรอบตัวเขาแล้วเขาก็หายไปแบบไม่ล้ำลากัน ฟินิกส์ยังคงมองตรงที่ๆเซรัสยืนเมื่อครู่ แลให้เห็นสีหน้าเครียดของเขา ดูไปดูมาเหมือนไม่พอใจมากกว่า แล้วฟินิกส์ก็หันมาหาอันตรา
“ข้าว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันแล้วละอัน” แล้วเขาก็พาอันตรามายังที่ๆหนึ่ง เป็นเหมือนปราสาทที่เห็นกันในเทพนิยายแต่ปราสาทนี้มีหอคอยเพียงหอเดียวไม่มีหอคอยอื่นอีกเลยและตั้งตระหง่านอยู่กลางป่ารอบๆปราสาทมีดอกไม้นานาพันธุ์ดูแปลกตาเพราะดอกบางชนิดอันตราไม่เคยพบเห็นและที่น่าแปลกกว่านั้นคือที่นี้ไม่มีคนแม้เพียงคนเดียวมีเพียงอันตราและฟินิกส์เท่านั้นฟินิกส์เปิดประตูที่อยู่ด้านล่างสุดข้างในเป็นบรรไดเดินขึ้นสู่ด้านบนมีตะเกียงติดอยู่ที่กำแพงเป็นระยะทำให้ที่นี้ไม่มืดแต่ก็ไม่สว่างจนทำให้อันตรามองเห็นทางไม่ถนัดนัก บรรไดสูงจนถึงด้านบนสุด เป็นห้องกว้างใหญ่ ตกแต่งสวยงามถ้ามองจากหน้าต่างด้านบนนี้ลงไปข้างล้างนับว่าสวยทีเดียวอันตราอดใจไม่ได้ที่จะถาม
“นี้บ้านคุณหรอดูไม่เหมือนบ้านมีแต่ห้องนอนเพียงห้องเดียว” อันตราถามฟินิกส์ด้วยความสงสัย
“ที่นี้เป็นสถานที่ฝึกเวทย์มนต์ของข้า” อันตราตาโต
“คุณเป็นพ่อเอ้ยนักเวทย์หรอ” ฟินิกส์ไม่ตอบแต่ยิ้มรับเขายิ้มแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนครุ่นคิดอะไรสักอย่างอันตราจึงถามขัดความเงียบ
“แล้วคุณรู้จักคนที่ชื่อ เซ อะไรนั้นได้ยังไงเขาเรียกคุณว่าท่านคุณคงเป็นคนพิเศษ” อันตรายังนึกสงสัยไม่เลิก
“เรื่องนี้แหละที่ข้าจะต้องอธิบายให้เจ้าฟังและเจ้าต้องยอมรับด้วย” อันตรายังคง งง กับคำพูดของชายหนุ่มแต่เธอก็รับฟัง
“ข้าเป็นเจ้าชายแห่งโซฟีร่าย่อมไม่แปลกที่จะรู้จักคนมากมายและคนเหล่านั้นก็รู้จักข้า” (O_O) อันตราตกใจทำตาโตเพราะทั้งตะลึงทั้งอึ้งไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอจะเป็นเจ้าชายมาดไม่ค่อยให้ถึงเขาจะดูสง่าก็ตามที แต่ในใจเธอยังคิดว่าแล้วเหตุใดเซรัสถึงไม่ค่อยจะนอบน้อมกับฟินิกส์ แต่เธอยังไม่ทันจะถามาฟินิกส์ก็ชิงตอบก่อน
“ที่เขาไม่นอบน้อมข้าเพราะว่าถึงแม้ว่าโซฟีเทียจะครอบคลุมทุกเผ่าแต่ไม่ได้หมายความว่าจะควบคุมเผ่าต่างๆได้เพียงแต่เปรียบเสมือนเมืองหลวงก็เท่านั้นไม่มีอำนาจจะไปออกคำสั่งเผ่าต่างๆได้แต่พวกนั้นก็ให้ความเคารพพ่อของข้าอยู่เหมือนกันแต่..สำหรับข้าซึ่งยังเป็นแค่เจ้าชายรัชทายาทฐานะยังต่ำต้อยกว่าพวกนั้นอยู่ดี” ฟินิกซ์พูดแล้วหันมามองอันตราที่ยังนั่งทำตาโตอยู่บนเตียง
“อันทำไมเจ้าต้องทำตาแบบนั้น มันน่ากลัวนะเจ้ารู้ไหม” อันตาถึงกับรีบทำตาให้กลับเป็นปกติ
“นี่อย่าถือว่าเป็นเจ้าชายแล้วฉันจะยอมนะ” อันตราหันมาทำหน้าดุใส่เค้า
“ข้ายังไม่ได้
.” ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะแก้ตัวอันตราก็เถียงขึ้นมาทำให้เค้าต้องหยุดพูด
“คืนนี้ฉันจะกินอะไรแล้วฉันจะนอนที่ไหน” เธอพูดแล้วหันมามองหน้าฟินิกส์ ทำหน้าเหมือนคนโมโห แต่ฟินิกส์ดูออกว่าเธอโมโหหิว เขาพึมพำอะไรบางอย่าง แล้วอาหารมากมายก็กองอยู่ข้างหน้าเธอ (O_O)
“กินซะ” เขาพูด “กินได้หรอ” เธอถามพลางเอานิ้วจิ้มๆอาหารเหล่านั้น “ได้สิเจ้าไม่กินงั้นข้าจะกินคนเดียวหมดนี้เลยนะ” เขาพูดแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร อันตราไม่รีรอรีบวิ่งตามไปนั่ง แล้วทั้งสองก็นั่งกินอาหารท่ามกลางบรรยากาศแบบสนามรบ (สนามรบแย่งชิงอาหาร)
“ฮ้าาอิ่มจังเลย” อันตราพูดพลางลุกขึ้นเดินไปรอบๆห้อง เพื่อสำรวจข้าวของในห้องแล้วเธอก็นึกอะไรบางอย่างออก
“แล้วไม่มีห้องน้ำหรอ” เธอหันไปมองหน้าฟินิกส์แล้วทำหน้าสงสัย ทำเอาฟินิกส์ถึงกับอดหัวเราะไม่ได้
“เจ้านี่เป็นผู้หญิงที่เรื่องมากที่สุดเท่าที่ข้าเคยเจอมา มาตามข้ามา” เขาพูดด้วยความเอ็นดู แล้วเดินนำอันตราลงไปด้านล่างของหอคอย ห่างจากหอคอยประมาณ
“ห้ามแอบดูนะ” เขาถึงกับขำก๊ากก “ถ้าข้าจะทำอะไรเจ้าข้าทำไปแล้วละ” เธอหันมามองหน้าเค้าแล้วเดินไปอาบน้ำ
“สบายตัวจังเลย (> <)” เธอเดินมาหาเค้าสวมชุดที่เค้าให้มา ชุดนั้นเป็นชุดเสื้อแขนยาวสีน้ำตาลอ่อนๆและกระโปรงยาวพอเข่าสีครีมและยังมีกางเกงสีดำสี่ส่วนสวมข้างในอีกที
“ใส่แบบนี้ถูกรึเปล่า” เรายืนมองอันตราอยู่นานไม่ได้มองเพราะดูว่าเธอสวมชุดถูกรึเปล่าแต่เค้าเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ที่ไหนนะ สักที่นึง เค้าเคยเห็นเธอ??
“อืมถูกแล้วคราวนี้เจ้าจะนอนได้รึยัง เค้าหันมาหาอันตราด้วยสีหน้าง่วงสุดๆ
“จริงสิกี่โมงแล้วเนี่ย” เขาหันมาหาเธอแล้วคำตอบของเขาทำเอาเธอถึงกับ งง
“ก็คงราวๆ 2 ยาม” O_O “หา 2 ยามแล้วมันกี่โมงละเนี่ย” เค้าเดินนำหน้าเธอไปแล้วโดยทำหน้าเซ็งๆ
“ไม่รู้แต่ก็ดึกมากแล้วละ” ว่าแล้วก็เกิดศึกสงครามในการแย่งที่นอนกันอีก
“ก็แล้วทำไมฉันจะต้องนอนพื้นละนายก็เสกที่นอนมาสิทำได้ไม่ใช่หรอ” เธอโวยวายไม่เลิกสาเหตุที่เธอโวยวายเพราะฟินิกส์ให้เธอลงไปนอนกับพื้นส่วนเค้าจะนอนบนเตียง
“ใช่ข้าทำได้แต่ไม่ใช่เรื่อง ไม่มีประโยชน์” คำตอบนั้นยิ่งทำให้อันตราโวยวายเข้าไปใหญ่จนเค้าต้องทำอะไรสักอย่าง “พอๆๆข้ายอมแล้วๆเจ้าขึ้นมานอนข้างบนแล้วข้าลงไปนอนข้างล่าง พอใจมั้ยองค์หญิง” อันตรายิ้มแป้น ว่าแล้วฟินิกส์ก็เดินไปที่หน้าต่าง
“อันเจ้าอยากเห็นอะไรมั้ย” ด้วยความที่เธอเป็นคนอยากรู้อยากเห็น
“อะไรหรอ *o*” เธอเดินเข้าไปหาเค้าแล้วมองตามสายตาของเค้า
“ว๊าวว พระจันทร์สวยจังทำไมพระจันทร์ที่นี้โต๊โต” เค้ายิ้มกับความไร้เดียงสาของเธอ
“คืนนี้เค้าเรียกกันว่าคืน Full moon สวยใช่มั้ยละ”
“ช่ายสวยมากเลย” ทั้งสองนั่งมองพระจันทร์จนอันตราเผลอหลับไปฟินิกส์จึงอุ้มเธอไปที่เตียงมองใบหน้าเธอด้วยความสงสัย เค้าเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อนนะ ??
“แม่คะ พ่อคะ อันอยากกลับบ้าน” อันตราละเมอน้ำตาไหล ฟินิกส์ซึ่งยังนอนไม่หลับเดินเข้ามาใกล้ๆเธอเอามือเช็ดน้ำตาของเธอเบาๆเขานั่งมองหน้าเธออยู่แบบนั้น
เธอเป็นคนเดียวที่ไม่รังเกียจเค้า เธอเป็นคนเดียวที่ไม่เหยียบย่ำหัวใจเค้า หรือเพราะเธอยังไม่รู้ว่าเค้าเป็นอะไร หรือเพราะเธอเพิ่งพบเค้า แล้วเธอคนนี้จะจากเค้าไปไหม หัวใจของ ลูกครึ่งเทพและปิศาจ จะมีใครเหลียวแล
ถ้าเป็นไปได้เค้าขออย่าให้เธอรู้เลย ฟินิกส์นิ่งมองหน้าหญิงสาวร่างบางตรงหน้าอยู่นานพินิจอะไรบางอย่างอยู่ในใจแล้วเค้าก็ห่มผ้าให้เธอ “หวังว่าจะเป็นเจ้านะ อัน “
“ท่านแม่ ทำไมท่านต้องทิ้งข้าไปด้วย ท่านแม่ อย่าไป ท่านแม่” ตาโตกำลังจ้องมองคนตรงหน้าที่ตอนนี้ละเมอมือไม้คว้าไปทั่ว “ท่านแม่” ว่าแล้วฟินิกส์ก็โอบเอวอันตรามากอด ทำให้ร่างเล็กที่นั่งมองเค้าอยู่นานจากบนเตียงหล่นตุ๊บลงมา “นี้คุณ คิดจะแตะอั๋งฉันหรอ!!” อันตราโวยวาย ทำเอาคนตรงหน้าสะดุ้งตื่นเพราะเสียงของเธอ เค้ายังไม่ปล่อยมือออกจากเอวของเธอ “เอ่อ...ข้าขอโทษ” เค้าว่าแล้วรีบชักมือกลับ “ข้า....” เจ้านอนเถอะ อันตราไม่ถามต่อเธอขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วล้มตัวลงนอนต่อ หากแต่ตาสายตายังคงจับจ้องอยู่ที่แผ่นหลังของคนที่นอนอยู่ข้างเตียง
“คุณมีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า” อันตราเอ่ยถามขึ้นมาลอยๆ ร่างสูงไม่หันมามองแต่กลับตอบแบบปัดๆ
“ที่นี้ยังมีอะไรอีกมากที่เจ้ายังไม่รู้ อัน” เธอไม่ถามต่อ คนตรงหน้าคงไม่สะดวกจะเล่าให้ฟัง และคงจะมีอะไรอีกมากที่เธอยังไม่รู้อย่างที่เค้าว่าจริงๆ
ความคิดเห็น