คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบท ฟ้าใหม่
“คุณหนูอันขาตื่นได้แล้วค่ะคุณหนูวันนี้คุณเอจะพาคุณหนูไปเที่ยวเชียงใหม่นะค่ะ” นมสายแม่นมที่เลี้ยง
อันตรา มาตั้งแต่เกิดเพราะว่าทั้งพ่อและแม่ของเธอต่างเป็นนักธุรกิจทั้งคู่ส่วนพี่ชายของเธอนั้นก็เพิ่งจะเรียนจบจากต่างประเทศมาจึงเพิ่งกลับมาอยู่บ้านบ้านจึงมีบรรยากาศเป็นบ้านขึ้นมาบ้าง
“ตื่นแล้วจ๊ะนมจ๋า” อันตราตื่นมาด้วยท่าทีงัวเงีย
“ตายแล้วนมเดี๋ยวอันเก็บเองค่ะนมอย่าลำบากเลยนะเดี๋ยวอันเก็บเอง” อันตราตื่นมาเห็นนมสายกำลังเก็บเสื้อผ้าของเธอลงกระเป๋าเลยรีบลุกมาลากนมสายมานั่งที่เตียง
“เดี๋ยวนมไปเตรียมอาหารเถอะค่ะทางนี้เดี๋ยวอันจัดการเอง” อันตราพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเธอสวยมากรอยยิ้มของเธอนั้นดังรอยยิ้มของนางฟ้า
“แต่ว่าคุณหนู..” อันตราหันมามองผู้เป็นพี่เลี้ยงแล้วขมวดคิ้ว
“นมจ๋าอันโตแล้วนะปีนี้อันอายุ19 แล้วนะจ๊ะอันจัดการได้นมอย่าเป็นห่วงเลยน่านะๆๆๆ” อันตราพูดพร้อมลากนมสายออกจากห้องแล้วปิดประตูห้อง
“เอาละไปเที่ยวๆๆ” เธอพูดพร้อมกับเก็บของลงกระเป๋า
“ยัยอันตื่นได้แล้วถึงแล้ว” นายเอพี่ชายของอันตราปลุกน้องสาวหลังจากนั่งรถมานานจนถึงจังหวัดเชียงใหม่พวกเขาเข้าพักที่รีสอร์ทกลางหุบเขา อันตรางัวเงียลุกแล้วลงจากรถ
“ว๊าวสวยจังมีหมอกด้วย ดีนะเนี่ยมาถึงตอนเช้าๆพอดีสวยจริงๆ” อันตราเดินสำรวจรอบๆแล้วเดินเข้าไปดูในบ้าน
“พี่เอนี่ห้องอันใช่ไหมค่ะ” อันตราโผล่หน้าออกมาจากห้องนอนที่ตกแต่งด้วยสีชมพูและดูอบอุ่นเธอยิ้มชอบใจ
“นั้นแหละห้องอันน่ารักใช่ไหมพี่ให้เขาจัดให้เลยนะเนี่ย” อันตรายิ้มแฉ่งแล้ววิ่งไปหอมแก้มพี่ชายหนึ่งฟอด
“ขอบคุณค่ะเดี๋ยวอันขอตัวไปเอาของออกจากกระเป๋าก่อนนะค่ะ” พูดแล้วอันตราก็วิ่งกลับเข้าไปในห้อง เธอเก็บเสื้อผ้าใว้ในตู้เสื้อผ้าและนำของต่างๆมาวางใว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง
“มีลิ้นชักด้วยสีขาวสวยจังแต่ดูท่าทางจะเก่านะเนี่ย” สิ่งที่อันตราเห็นคือลิ้นชักสีขาวล้วน ด้านหน้ามีลายฉลุรูปนกฟินิกส์สองตัว อันตราเปิดลิ้นชักเพื่อดูว่าใส่ของได้มากน้อยแค่ไหน
“กำไลสวยจัง” กำไลสีเพลิงมีสีส้มอ่อนๆปนแดงเป็นลายฉลุภาษาอะไรบางอย่างแต่ที่แน่ๆไม่ใช่ภาษาไทย
“ภาษาอะไรเนี่ยคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหน” ว่าแล้วอันตราก็ลองสวมกำไลประหลาดนั้น
“สวยจังของใครน๊าน่าเสียดายแทนเจ้าของจัง” อันตราพูดจบก็ล้มตัวลงบนที่นอนแล้วชูข้อมือเพื่อดูกำไลที่เธอใส่อยู่ และเธอก็หลับไป
จิ๊บๆๆ แดดอ่อนๆส่องแสงงดงามส่องเข้าตาของหญิงสาวที่นอนอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวขจี
“เช้าแล้วหรอเนี่ย” อันตราบิดขี้เกียจแล้วค่อยๆลืมตาแต่สิ่งที่เธอเห็นแทนที่จะเป็นเพดานห้องนอนสีขาวกลับเป็นสีของท้องฟ้า ท้องฟ้าสีคราม อันตรารีบลุกพรวดพราดและมองสิ่งรอบตัว ต้นไม้ใหญ่หญ้าสีเขียวและหญ้าอ่อนนุ่มและตรงหน้าเธอเป็นบึงน้ำ อันตรารีบลุกเดินไปที่บึงน้ำ
“โอโหน้ำใสแจ๋วยิ่งหว่าน้ำประปาซะอีกแล้วมันที่ไหนกันเนี่ย” เธอพูดพลางทำหน้าเครียดแล้วมองไปรอบๆตัวซึ่งดูยังไงก็มีแต่ป่ากับป่าและมีสัตว์ป่าตัวเล็กเช่นกระรอก กระต่ายวิ่งไปมา
“อะไรกันเนี่ย”อันตราลุกขึ้นและทำท่าจะเดินต่อเพื่อสำรวจพื้นที่รอบๆแต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงวิ่งเหมือน
เสียงของฝูงสัตว์อะไรสักอย่างแล้วเธอก็เห็นชายคนหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วพร้อมกับฝูงกระทิงป่าที่วิ่งตามเขามา
“หลบ
” ชายคนนั้นคว้าเอวอันตราและกระโดดขึ้นต้นไม้
“เกือบโดนเหยียบตายแล้วไหมละเจ้า” ชายคนนั้นวางอันตราลงบนกิ่งไม้ที่ใหญ่พอที่จะนั่ง2คนได้แล้วเขาก็หันมามองอันตราด้วยสายตาแปลกๆ
“เจ้าแต่งตัวแปลกๆเหมือนตัวอะไรสักอย่าง” อันตราขมวดคิ้วเธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่เจอกันครั้งแรกจะปากเสียและไร้มารยาทได้ขนาดนี้ เขาสิแปลกใส่ชุดสีดำทั้งเสื้อและกางเกงเสื้อแขนยาวสีดำของเขานั้นเหมือนๆเสื้อไหมพรมและก็มีเสื้อหนังยาวพอเข่าสวมอยู่ข้างนอกอีกทีแถมเสื้อหนังของเขายังมีสัญลักษณ์แปลกๆติดอยู่ด้วย แต่เธอก็ไม่ได้ตอบเขาแต่อย่างใดเธอกลับมองสิ่งรอบตัวและถามเขาอย่างสงสัย
“ที่นี้ที่ไหน” เธอพูดแล้วหันไปมองหน้าเขาแล้วอันตราก็ต้องถึงกับอึ้งเขาหล่อมากมากที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมาผมของเขาเป็นสีดำสนิทในตาสีนิลที่คมเข้มดูเย็นชาแฝงด้วยความอบอุ่นเขาขาวพอๆกับเธอปากสวยได้รูปแถมสูงกว่าเธอเป็น กอง ผู้ชายบ้าอะไรหล่อชะมัด เธอจ้องหน้าเขาอยู่อย่างนั้น และคำตอบของเขาทำให้เธอถึงกับสะดุ้งเฮือก
“ที่นี้หน่ะหรอก็โซฟีร่าไงดินแดนแห่งเวทมนต์” อันตราอึ้งกิมกี่แล้วเธอมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง ??ชายหนุ่มมองหน้าอันตราอย่างเพ่งพินิจ เธอสวยมากผมยาวตรงสีดำสนิทผิวขาวราวหิมะตากลมโตสีน้ำตาลและแฝงด้วยความเด็ดเดี่ยวปากสีชมพูเล็กน่ารักรูปร่างเพรียวสวย ผู้หญิงบ้าอะไรสวยชะมัด อันตรานึกได้ว่าก่อนที่เธอจะหลับไปและตื่นมาอยู่ที่นี้เธอได้ใส่กำไลแปลกประหลาดนั้นเธอจึงชูข้อมือขึ้นให้ชายหนุ่มแปลกหน้าดู
“คุณเคยเห็นกำไลนี้ไหมแล้วคุณอ่านภาษานี้ออกรึเปล่า” ชายหนุ่มขมวดคิวเรียวงามของเขาพิจารณาอยู่นานสองนานและมองหน้าอันตรา
“นี่มันไม่ใช่กำไลแต่มันเป็นสร้อยข้อมือต่างหาก และไม่เห็นมีตัวหนังสืออะไร”เขาพูดจบก็มองไปที่กำไลที่อันตราใส่อยู่ อันตราก้มมองดูที่ข้อมือของตน สิ่งที่เธอเห็นอยู่บนข้อมือของตนเองไม่ใช่กำไลที่เธอสวมเมื่อวานนี้แต่เป็นสร้อยข้อมือเส้นเล็กๆมีอัญมณีบางอย่างสีแดงสดปนส้มอยู่ตรงกลางสร้อยข้อมือเส้นนั้น
“แล้วนี้อะไร” อันตราชี้ไปที่อัญมณีที่ส่องประกายแวววาวมันมีบางสิ่งอยู่ข้างในนั้นเหมือนมีน้ำอยู่ข้างใน
“อาทิมิส อัญมณีแห่งเวทย์ไฟเจ้าเป็นนักเวทย์หรือ” ชายหนุ่มถามอันตราอย่างสงสัย
“นักเวทย์” อันตราทวนคำ
“คุณหมายถึงแม่มด” ชายหนุ่มมองหน้าอันตราด้วยสีหน้าขำปนเอ็นดูบัดนี้เขารู้แล้วว่าอันตราไม่ใช่คนของที่นี้
“ไม่เหมือนกันหรอกระหว่างนักเวทย์กับแม่มดหรือพ่อมด นักเวทย์คือพวกที่ใช้เวทย์มนต์ขาวและเป็นคนดีส่วนพ่อมดและแม่มดนั้นเป็นพวกที่ชั่วร้ายและใช้มนต์ดำพวกนักเวทย์จะมีอัญมณีประจำตัวและอัญมณีจะติดตัวพวกเขาอยู่ตลอดส่วนมากจะติดอยู่กับเครื่องประดับที่ติดตัวอยู่ตลอดเหมือนของเจ้าไงละแต่ข้าว่าเจ้าคงไม่ใช่คนของที่นี้” อันตรายังอึ้งๆกับเรื่องที่ได้ยินไปเมื่อกี้นี้ เธอเหม่อๆ
“ฉันมากจากโลกมนุษย์ เมืองไทยคุณรู้จักไหม” ตอนนี้อันตราทำท่าจะร้องให้เธออยากกลับบ้านอยากกลับไปหาพี่ชายของเธออยากกลับไปหานมสายกลับไปหาพ่อหาแม่ของเธอ ชายหนุ่มเห็นท่าไม่ดีถ้าเงียบอย่างนี้ต่อไปเธอปล่อยโฮแน่ๆเขาจึงพูดขัดความเงียบขึ้น
“เจ้าชื่ออะไร” หญิงสาวทำตาลอยๆแล้วตอบด้วยเสียงเศร้า “อันตราฉันชื่ออันตรา”
“อืม
ข้าจะเรียกเจ้าว่าอัน ส่วนข้าชื่อ “ ฟินิกส์” แล้วทั้งคู่ก็นั่งเงียบอันตรานั่งร้องให้ในอ้อมแขนของชายแปลกหน้าที่รู้จักกันไม่ถึง วัน หากแต่ทำไมเธอถึงมีความรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกไว้ใจเขาเธอมีความรู้สึกมั่นคงถึงจะอยู่ในเวลาแบบนี้ก็ตาม
ความคิดเห็น