NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (My hero academia) สไลม์ทะลุมิติป่วนโลกฮีโร่

    ลำดับตอนที่ #6 : สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 65


    ไอซาวะคิดจะศอกใส่ชายผมสีฟ้าแต่ก็ถูกจับไว้ซะก่อน อัตลักษณ์เสื่อมสลายทำงานทันทีที่เขาปลดอัตลักษณ์ของตัวเองออก ข้อศอกแหลกละเอียดจึงทำให้เหลือแขนข้างเดียวที่ยังใช้การได้

    อัตลักษณ์ที่ไม่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องในระยะยาวเริ่มส่งผล ลมหายใจหอบถี่มากยิ่งขึ้นแต่ก็ยังฝืนต่อสู้เพื่อปกป้องนักเรียน ทว่าก็มีบางสิ่งเกิดขึ้นสัตว์ประหลาดรูปร่างสูงใหญ่โผล่มายืนข้างตัวของไอซาวะมันจับร่างของเขาบิดจนกระดูกแตก เลือดสีแดงสดไหลรินถึงอย่างนั้นไอซาวะก็ยังไม่ยอมหมดสติง่ายๆ

    [แจ้งเตือน: สัญญาณชีพจรของไอซาวะ โชตะต่ำลงจากอาการช็อกที่เสียเลือดมาก]

    ภาพซ้อนทับกับเหตุการณ์ในเทมเพสต์ยามรู้ว่าเหล่าอสูรในเมืองถูกฆ่า จิตสังหารถูกปล่อยออกมาแบบไม่รู้ตัวหน้ากากเริ่มปริแตกเนื่องจากเก็บพลังไว้ไม่ไหว

    [แจ้งเตือน: มาสเตอร์หากปลดปล่อยจิตจอมมารทุกชีวิตในนี้จะตายเอานะคะ]

    'อ่า...นั่นสินะ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะคุณราฟาเอล' ริมุรุบอกและพยายามเก็บอารมณ์ของตัวเองกลับเข้าที่ มือเรียวแตะลงบนหน้ากากร้าวเบาๆ

    ก่อนที่จะได้ตัดสินใจทำอะไรต่อประตูก็ถูกทำลายเข้ามาเสียก่อนพร้อมร่างของฮีโร่อันดับ1ที่โผล่มาเป็นความหวังให้กับทุกคน

    "ไม่เป็นไรแล้วนะ เพราะฉันมาแล้วยังไงล่ะ" ชายร่างสูงกำยำกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นไม่มีท่าทางยิ้มแย้มเหมือนเคย ออลไมท์ใช้ความเร็วช่วยเหลือไอซาวะและพวกมิโดริยะที่อยู่แถวนั้นก่อนจะเข้าโจมตีกับสัตว์ประหลาดตัวใหญ่

    [แจ้งเตือน: สัตว์ประหลาดตัวนั้นถูกเรียกว่าโนมุ มันสามารถดูดซับแรงกระแทกและมีอัตลักษณ์หลายอย่าง เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมไร้ซึ่งสติปัญญา]

    'ฆ่าได้รึเปล่า' ริมุรุถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

    [คำตอบ: ไม่สามารถค่ะ หากมาสเตอร์ฆ่าเจ้าตัวนั้นทางรัฐบาลจะออกหมายจับข้อหาลงมือฆ่าวิลเลิน]

    'ยุ่งยากจริง' ร่างเล็กบ่นด้วยความหงุดหงิดและลงไปหาทางมิโดริยะที่กำลังพาไอซาวะไปด้วยอยู่ ส่วนเจ้าตัวนั้นก็ปล่อยให้ออลไมท์รับมือไปก่อนแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ซะแล้ว

    ออลไมท์พลาดท่าถูกจับโดยโนมุพอเห็นแบบนั้นมิโดริยะก็วิ่งเข้าไปช่วยทันที บาคุโกกับโทโดโรกิและคิริชิมะก็โผล่มาพอดี ส่วนริมุรุก็วิ่งมาหาพวกอะซุยแทน

    "ริมุรุคุง" อะซุยเอ่ยเรียก

    "ทสึยุจัง อาจารย์ไอซาวะเป็นไงบ้าง" ริมุรุถามอย่างเร่งรีบและให้พวกเขาวางอีกฝ่ายลงบนพื้น

    "สาหัสมากเลยกระดูกแขนทั้งสองข้างแตกหมดเลยแถมจมูกกับหน้าผากก็ไม่เหลือ" อะซุยบอก

    "เดี๋ยวผมรักษาเขาเอง" ร่างเล็กพูดก่อนจะใช้โพชั่น2ขวดเทลงบนตัว บาดแผลสมานตัวอย่างรวดเร็วราวกับไม่เคยมีมาก่อนสร้างความตกตะลึงให้กับอะซุยและมิเนตะ

    "เขายังต้องพักผ่อนอยู่เพราะงั้นฝากทั้งสองคนด้วยนะ" ริมุรุบอกด้วยความเร่งรีบก่อนจะมุ่งเข้าไปยังลานกว้างโดยไม่ฟังคำค้าน

    สถานการณ์ตรงกลางลานกำลังย่ำแย่ แม้ออลไมท์จะหลุดจากการจับของโนมุมาได้แต่พอชายผมฟ้าออกคำสั่งมันก็ขยับตัวและปล่อยให้ส่วนแขนกับขาแตกก่อนจะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่

    [แจ้งเตือน: เหลือเวลาอีก5นาทีก่อนออลไมท์จะคืนร่างค่ะ]

    'อ่า เหลือเวลาไม่มากแล้วสินะ ต้องรีบไปแล้ว'

    ออลไมท์ใช้พลังเต็มที่อัดโนมุในตอนสุดท้าย แม้จะกระอักเลือดแต่เขาก็ไม่คิดจะหยุด ปล่อยหมัดใส่ศัตรูตรงหน้าไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทนรับไม่ไหว การโจมตีครั้งสุดท้ายอัดโนมุที่ลอยอยู่กลางอากาศจมลงพื้นดินตรงหน้าของวิลเลินที่เหลือ ควันร้อนที่ขึ้นตามตัวของออลไมท์บ่งบอกสัญญาณว่าหมดเวลาแล้ว

    'นั่นคือพลังของฮีโร่อันดับ1แล้วสินะ' ริมุรุคิดอย่างเยือกเย็นถึงจะทำให้เจ้าโนมุอะไรนั่นขยับไม่ได้แต่หากมันฟื้นขึ้นมาอีกออลไมท์ก็หมดหนทางแล้ว

    "โนมุลุกขึ้นมาซะ" ชายผมฟ้าตะโกนขึ้น ร่างของสัตว์ประหลาดที่เคยแน่นิ่งขยับเขยื้อนอีกครั้ง มันลุกยืนอย่างง่ายดายและฟื้นฟูตัวเองสร้างความหวาดกลัวให้กับฝั่งฮีโร่เป็นอย่างมากจังหวะนั้นเองที่มีบางอย่างพุ่งผ่านตัวของออลไมท์ไป

    ริมุรุลอยอยู่เหนือพื้น มือกำรอบลำคอของวิลเลินตัวผอมแห้งไว้แน่น อีกฝ่ายพยายามดีดดิ้นและใช้อัตลักษณ์เสื่อมสลายใส่เขาทว่าต่อให้จะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแขนของริมุรุก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

    "ชิงาราคิ โทมุระ!" หมอกสีดำพูดขึ้นด้วยความตกใจ

    "ริมุรุ!!" ทั้ง5คนประสานเสียงกัน

    "แค่ก ปล่อย" ชิงาราคิพูดติดขัดพยายามใช้อัตลักษณ์เพื่อให้หลุดจากมือเล็กที่ราวกับคีมหนีบก่อนจะแตะไปโดนหน้ากากเข้า

    หน้ากากสีขาวลวดลายแปลกประหลาดที่มีรอยร้าวค่อยๆ สลายหายไปเผยให้เห็นใบหน้างดงามหมดจดและนัยน์ตาสีทองคำอันสงบนิ่งมองอีกฝ่ายราวกับมดปลวกพร้อมที่จะฆ่าชีวิตตรงหน้าอย่างไม่ลังเล

    "หนุ่มน้อยริมุรุปล่อยมือของเธอออกก่อน" ออลไมท์ตะโกนห้าม ร่างเล็กปรายตามองอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะยอมปล่อยมือ

    "โนมุ จัดการเจ้าเด็กนี่ซะ" ชิงาราคิออกคำสั่ง ร่างของสัตว์ประหลาดวิ่งเข้าใส่ริมุรุด้วยความรวดเร็ว

    ร่างเล็กยืนนิ่งอยู่กับที่โดยไม่คิดจะหลบแม้เพื่อนๆ จะตะโกนบอก หมัดของโนมุพุ่งเข้าใส่เต็มแรง เขาใช้มือเล็กรับหมัดของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายโดยไม่เกิดผลอะไร หมัดที่แม้แต่ออลไมท์ก็ไม่สามารถรับโดยไม่เกิดความเสียหายได้ถูกหยุดด้วยเจ้าของร่างเล็ก

    [แจ้งเตือน: ฝ่ายตรงข้ามกำลังจะหนีค่ะ ทำการขัดขวางไหมคะ]

    ราฟาเอลแจ้งเตือนริมุรุที่กำลังรับมือกับโนมุด้วยท่าทีสบายๆ

    'ไม่เป็นไรครับปล่อยไปก่อนราฟาเอลซัง เราจะหาเจ้าพวกนี้ใหม่ตอนไหนก็ได้' ริมุรุตอบอย่างเย็นชาและสนใจกับตรงหน้าต่อ ไหนๆ เจ้านี่ก็เป็นสัตว์ประหลาดที่ฮีโร่อันดับ1อัดไม่ตายแล้วขอดูหน่อยสิว่าจะทนแรงของเขาได้มากขนาดไหน

    การปะทะกันทั้งสองรุนแรงเสียยิ่งกว่าตอนสู้กับออลไมท์เสียอีกแม้ส่วนใหญ่จะเป็นริมุรุฝ่ายเดียวที่โจมตีก็เถอะ พอโนมุหน้าคว่ำลงกับพื้นเขาไม่รอช้ารีบลงมาเหยียบซ้ำทันทีด้วยแรงมหาศาลของริมุรุทำให้โนมุไม่สามารถขยับเขยื้อนได้อีกต่อไป พวกชิงาราคิก็หนีไปผ่านประตูมิติเรียบร้อยแล้ว

    ไม่นานโปรฮีโร่ก็มาถึงและจัดการจับพวกวิลเลินที่ได้สติ สถานการณ์ถูกคลี่คลายท่ามกลางความตกตะลึงของคนทั้ง5 ร่างเล็กในชุดสีดำกับเรือนผมสีเงินเข้ากับดวงตาสีทองสว่าง ใบหน้าราบเรียบและนิ่งสงบ ใต้ร่างมีโนมุนอนแน่นิ่งราวกับไร้ชีวิต

    "อ๊ะ เจ้านี่น่ะยังไม่ตายหรอกนะครับแค่หยุดเคลื่อนไหวเพราะคนออกคำสั่งไม่อยู่แล้ว" ริมุรุพูดขึ้นด้วยท่าทางสบายๆ พร้อมรอยยิ้มต่างจากบรรยากาศกดดันเมื่อครู่ เขาเดินลงจากร่างของโนมุไปทางออลไมท์

    "สภาพดูไม่ได้เลยนะครับยางิซัง" ริมุรุเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงที่กลับมาเป็นปกติมองสภาพอีกฝ่ายที่กลับเป็นคนขี้โรคไปแล้ว

    "ฮะฮะ รู้เรื่องนี้อยู่แล้วสินะ" ออลไมท์ถามอย่างเหนื่อยๆ เพราะใช้พลังไปเกินขีดจำกัดเลยทำให้ร่างกายขยับไม่ได้

    "นั่นสิครับ ยังไงกันนะ" ร่างเล็กตอบทีเล่นทีจริง

    "ริมุรุคุง!!" มิโดริยะตะโกนเรียกเสียงดังและกำลังวิ่งมาหาเขาพร้อมกับอีก3คนที่เหลือ แต่ก่อนจะได้เข้าใกล้ไปมากกว่านี้พื้นซีเมนต์ก็ผุดขึ้นมาขวางซะก่อน

    "พวกเธอไปรวมกลุ่มกันข้างนอกก่อนทางนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง" โปรฮีโร่ซีเมนต์โทสพูด

    "แต่ว่า..." มิโดริยะกำลังจะเอ่ยขัดแต่ก็โดนริมุรุพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน

    "ไม่ต้องห่วงคุณออลไมท์ปลอดภัยดี อ๊ะแล้วก็เรื่องของฉันน่ะช่วยเก็บเป็นความลับด้วยนะ" ริมุรุโผล่หน้าออกมาจากหลังกำแพงซีเมนต์และบอกกับเด็กหนุ่มทั้ง4คนพร้อมยิ้มกว้างด้วยใบหน้าน่ารักทำเอาอีกฝ่ายเขินกันเป็นแถบๆ

     

    หลังจากนั้นตำรวจก็เข้ามาตรวจสอบความเสียหายและลงมือสืบสวนต่อทันทีนำโดย ซึกะอุจิ นาโอมาสะ ตำรวจคนที่เคยสอบสวนริมุรุมาก่อนนั่นเอง พวกเด็กๆ ก็พากันกลับไปยังโรงเรียนกันเรียบร้อยแล้ว ส่วนออลไมท์ก็มารักษาตัวกับรีคัพเวอรี่เกิร์ลโดยมีริมุรุนั่งอยู่ข้างๆ

    "เพราะว่ารอบนี้สถานการณ์บีบบังคับ ฉันคงบ่นอะไรไม่ได้ละนะ" รีคัพเวอรี่เกิร์ลเอ่ยเสียงเรียบ

    "ผมว่าบางทีเวลาของผมคงสั้นลงไปอีกแน่ๆ เลยครับ" ออลไมท์พูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ

    "จะว่าไปแล้วเรื่องไอซาวะคุงน่ะ เด็กๆ บอกว่าเธอเป็นคนรักษาเขาสินะ" รีคัพเวอรี่เกิร์ลหันมาถามกับริมุรุที่นั่งว่างอยู่ในห้อง

    "ฉันไม่เคยเห็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพขนาดนั้นมาก่อนเลย ถึงขนาดซ่อมแซมกระดูกที่แตกละเอียดให้กลับมาเหมือนใหม่ได้ในไม่กี่นาทีน่ะ" รีคัพเวอรี่เกิร์ลพูดต่อ ออลไมท์เลยหันไปหาริมุรุและถามทางสายตาด้วยอีกคน

    "เป็นอีกหนึ่งในความสามารถที่ผมทำได้น่ะครับ" ริมุรุตอบพร้อมรอยยิ้มประจำตัว

    "ถ้าอย่างนั้นไม่แน่บางทีเธออาจจะช่วยรักษาบาดแผลของโทชิโนริคุงได้" หญิงชราบอกและปลดผ้าพันแผลของออลไมท์ออก บาดแผลผ่าตัดซ้ำๆ หลายรอบจนเกิดเป็นอาการเรื้อรังแถมยังโดนโนมุซ้ำเข้าไปอีกถึงจะรักษาแผลใหม่ได้แต่ของเก่าก็ไม่ได้หายไป

    'ราฟาเอลซังพอจะเป็นไปได้ไหมครับ'

    [คำตอบ: สามารถรักษาบาดแผลและสร้างอวัยวะใหม่ได้แต่พลังเอากลับมาไม่ได้ค่ะ]

    "ผมรักษาได้" ริมุรุพูดขึ้นเรียกสีหน้าดีใจให้กับคนทั้งสอง ประโยคถัดมาก็ทำเอาเก็บสีหน้าไม่ทัน "แต่พลังของคุณคงไม่ต่างจากตอนนี้หรอกนะ" 

    "แค่นั้นก็มากพอแล้วล่ะ" ออลไมท์พูดพร้อมรอยยิ้ม อย่างน้อยตอนเป็นร่างกล้ามก็ไม่ต้องกังวลเรื่องบาดแผลอีก

    "งั้นตกลงตามนี้นะครับ" ริมุรุบอกก่อนจะโยนโพชั่นใส่ตัวของออลไมท์จนชุ่ม บาดแผลสมานตัวอย่างรวดเร็วทั้งของเก่าและใหม่แม้แต่รีคัพเวอรี่เกิร์ลเองก็ยังตกใจ

    "โอ้!! รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันทีเลย" ออลไมท์บอกและกระโดดอยู่กับที่แม้จะเป็นร่างกายที่ผอมแห้งเหมือนเดิมแต่ก็ไม่ได้ดูขี้โรคเหมือนก่อนหน้านี้ แผลตรงช่วงท้องเองก็หายสนิท การหายใจก็กลับมาปกติไม่รู้สึกปวดข้างในอีกต่อไป

    "ขอบคุณเธอมากหนุ่มน้อยริมุรุ" ออลไมท์พูดพลางจับมือริมุรุโยกขึ้นลง นิสัยของตาลุงนี่ทำให้นึกถึงเวลโดร่าเลยป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงกันบ้างแล้ว ถ้ายังอยู่ที่นี่นานๆ เดี๋ยวก็รู้สึกผูกพันขึ้นมาอีกหรอก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×