คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ความทะเยอทะยาน
โทโดโรกิไปพักที่ห้องพยาบาลอีกครั้งอีกฝ่ายแค่ใช้อัตลักษณ์เกินขีดจำกัดเลยทำให้หมดสติ ริมุรุไม่ได้ทำร้ายร่างกายของโทโดโรกิจนลุกไม่ไหวแค่ใช้แรงมากกว่าคนธรรมดาเล็กน้อยเท่านั้น พอเปลี่ยนชุดเสร็จและกลับมายังอัฒจันทร์เพื่อนๆ ในห้องก็เอ่ยชมเขากันใหญ่
"สุดยอดไปเลยนะริมุรุจัง สามารถทำให้โทโดโรกิคุงยอมใช้อัตลักษณ์ไฟได้แถมยังชนะแบบไม่บาดเจ็บเลยด้วย" มิโดริยะบอกด้วยสายตาเป็นประกาย
"ก็ผมไม่ได้คุมอัตลักษณ์ไม่ได้เหมือนใครบางคนนี่" ริมุรุพูดเหน็บแนมเบาๆ ทำเอามิโดริยะหัวเราะแห้งสงสัยเขาคงต้องซื้อของกินมาง้ออีกฝ่ายเยอะๆ ซะแล้วสิ
"จะว่าไปยังไม่เคยเห็นริมุรุมีแผลเลยสักครั้งนี่นา" เซโระพูดขึ้น
"เพราะร่างกายผมเป็นสไลม์ยังไงล่ะ ไม่มีเลือดออกมาให้เห็นหรอกน้า~" ริมุรุบอกอย่างร่าเริงต่างจากตอนคุยกับมิโดริยะเพราะอยากให้สำนึกผิดเขาเลยจะไม่ยอมคุยดีๆ ด้วย1วัน
"เอ๋ แบบนี้ก็ขี้โกงสิ" คามินาริร้องขึ้นด้วยความอิจฉาทำเอาริมุรุหัวเราะเบาๆ เพราะไม่มีหน้ากากปกปิดใบหน้าเลยทำให้ทุกคนเห็นทุกอิริยาบถที่แสดงออกพลางคิดไปในทิศทางเดียวกันว่าน่ารักชะมัด
หลังจากคุยเล่นกันสักพักสนามประลองก็กลับมาเรียบร้อยเหมือนเดิมและเริ่มคู่ต่อไปของรอบรองชนะเลิศ บาคุโกและโทโคยามิ
รอบผ่านๆ มาโทโคยามิใช้อัตลักษณ์ได้อย่างไร้ที่ติและเอาชนะด้วยความรวดเร็วแต่ในครั้งนี้ดูเหมือนจะตกเป็นรองบาคุโกและทำได้แค่ตั้งรับอย่างเดียว เนื่องจากดาร์กชาโดว์มีจุดอ่อนเป็นแสงพอมาโดนประกายระเบิดของบาคุโกเข้าเลยทำอะไรไม่ได้ บาคุโกเองก็ไม่ใช่คนโง่เขาคอยสังเกตอัตลักษณ์ของคู่ต่อสู้อยู่เสมอเพราะงั้นจึงทำการปิดฉากโดยใช้แสงระเบิดทำให้โทโคยามิใช้ดาร์กชาโดว์อีกไม่ได้จนต้องเอ่ยยอมแพ้ในที่สุด
"ถ้าอย่างนั้นการแข่งขันนัดสุดท้ายก็เป็นการต่อสู้ระหว่างริมุรุและบาคุโก!!" พรีเซ้นไมค์ประกาศออกลำโพง ทุกคนวิจารณ์กันไปต่างๆ นานา เด็กห้องBเองก็เจ็บใจที่สุดท้ายเหลือแต่ห้องA
"โอ๊ะต้องไปเตรียมตัวแล้วสิ" ริมุรุพูดก่อนจะลุกขึ้นยืน
"ฝากอัดเจ้าบาคุโกด้วยนะริมุรุ" คิริชิมะพูดทีเล่นทีจริงแม้จะหมั่นไส้เจ้าบาคุโกที่อัดเขาอยู่ฝ่ายเดียวตอนแข่งแต่ขืนริมุรุลงมือจริงฝ่ายนั้นคงจะสาหัสเกินไปหน่อย
"อื้ม! ไว้ใจได้เลย" ริมุรุตอบรับพร้อมรอยยิ้มกว้างแล้วโบกมือลาทุกคนก่อนไปก็ไม่ลืมที่จะขอกำลังใจจากเพื่อนๆ ด้วยเล็กน้อย
"คิดว่าผลจะออกมาเป็นยังไงเหรอมิโดริยะคุง" อุรารากะถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
"ผมไม่แน่ใจแม้คัตจังจะเก่งเอามากๆ แต่ริมุรุจังก็ไม่เคยใช้อัตลักษณ์อย่างเต็มที่ให้เราเห็นเลยคาดเดาไม่ถูกแต่ถ้าจากความรู้สึกของผม ริมุรุจังน่าจะชนะครับ" มิโดริยะตอบ เขาลองเปรียบเทียบหลายๆ อย่างของทั้งคู่ดูแล้วไม่ว่ายังไงริมุรุจังก็ดูเหนือกว่าคัตจังอยู่
"อื้มฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน มาเชียร์ริมุรุคุงกันเนอะ" อุรารากะบอกพร้อมชูกำปั้นขึ้นข้างหนึ่ง มิโดริยะก็พยักหน้าตอบ
เสียงตะโกนของผู้ชมดังกึกก้องสมกับเป็นรอบชิงชนะเลิศ การแข่งขันของปีหนึ่งในครั้งนี้น่าติดตามกว่าปีไหนๆ ทั้งคู่ต่างก็แสดงความสามารถกันอย่างดุเดือดและถูกยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะ
"ฉันจะอัดแกให้เละเลยไอ้เจ้าก้อนสีฟ้าเด้งดึ๋ง" บาคุโกบอกและแทนตัวริมุรุด้วยฉายาแปลกๆ
"คำเรียกไม่น่ารักเลยบาคุโกคุง ผมไม่น่ารักตรงไหนอ่า~" ริมุรุเย้าแหย่อีกฝ่ายเสียงอ่อนพลางทำหน้าตาน้อยใจเรียกเสียงโห่ใส่บาคุโกจากคนรอบสนาม
'การแกล้งคนอื่นนี่สนุกเนอะคุณราฟาเอล' ริมุรุคิดก่อนจะได้ยินเสียงถอนหายใจจากอีกฝ่ายเบาๆ
"อย่ามาทำเป็นเล่นนะโว้ย!!" บาคุโกตะโกนก่อนจะพุ่งเข้ามาโจมตีริมุรุ เขาเพิ่มแรงส่งตัวและหมุนเข้าไปในระเบิดราวกับกระสุนปืนใหญ่ก่อนจะปล่อยมันออกมาใส่ฝ่ายตรงข้าม
เกิดแรงระเบิดลูกใหญ่ขึ้น ริมุรุรับมันไว้ด้วยแขนข้างซ้าย ภาพที่ปรากฏออกมาคือแขนข้างซ้ายหายไปทั้งแขนสร้างความตกใจให้กับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งบาคุโก มิดไนท์เกือบจะประกาศหยุดการแข่งขันทว่าก็เกิดบางอย่างขึ้นซะก่อนตรงส่วนที่หายไปแทนที่ด้วยของเหลวสีฟ้าเป็นรูปแขนก่อนจะเปลี่ยนกลับมาเป็นสีเนื้อไร้รอยบาดแผล
ความจริงแล้วระเบิดแค่นั้นทำอะไรริมุรุไม่ได้อยู่แล้วแต่ถ้าไม่ยอมบาดเจ็บซะบ้างก็ไม่ต่างจากบอกว่าเขาเป็นอมตะน่ะสิ เพราะงั้นก็เลยแกล้งได้รับดาเมจหนักแต่ฟื้นฟูขึ้นมาได้ด้วยร่างกายที่เป็นน้ำและยังช่วยให้เจ้าเด็กที่อยากจะชนะดีใจที่สามารถสร้างความเสียหายให้เขาได้ด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเชียวนะ
"อะ...อะไรกันครับเนี่ยแขนที่เสียหายฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว อัตลักษณ์สไลม์จะน่ากลัวเกินไปแล้ว" พรีเซ้นไมค์พูดด้วยความตกตะลึงไม่แพ้กัน
"แหมๆ มันเจ็บนะครับ คัตจัง" ริมุรุพูดพร้อมรอยยิ้มพลางเรียกชื่อเล่นที่มิโดริยะใช้เรียกบาคุโกอยู่ตลอดและอีกฝ่ายก็ไม่ชอบนัก
บาคุโกลุกขึ้นด้วยความเชื่องช้าเพราะกล้ามเนื้อที่เริ่มล้าจากการใช้อัตลักษณ์มากเกินไปเพราะรู้ว่าร่างเล็กแข็งแกร่งถึงได้ทุ่มสุดแรงตั้งแต่การโจมตีแรก ถึงอย่างงั้นก็แอบดีใจอยู่ลึกๆ ที่สามารถสร้างดาเมจต่อริมุรุได้
"อย่ามาเรียกฉันแบบนั้นนะโว้ย!" บาคุโกโวยวายและวิ่งเข้าใส่ริมุรุอีกครั้งแต่รอบนี้ดูเหมือนจะช้ากว่ารอบแรกเอามากๆ
"ใช้สายฟ้าของแกสิวะเจ้าเตี้ย" บาคุโกพูดด้วยความหงุดหงิดเพราะท่าทางของริมุรุดูไม่จริงจังเอาซะเลย
"ถ้าทำแบบนั้นเธอจะตายเอานะ" ริมุรุเอ่ยหยอกแต่นั่นน่ะเรื่องจริง ต่อให้ปรับเป็นระดับต่ำสุดสายฟ้าทมิฬก็แรงเกินกว่าจะใช้กับมนุษย์โดยตรง แขนเรียวปัดการโจมตีของบาคุโกออกด้านข้างและสวนกลับให้อีกฝ่ายหลบเป็นบางครั้ง
บาคุโกน่ะเป็นพวกมีพรสวรรค์จริงๆ ริมุรุเองก็เร่งความเร็วขึ้นอีกนิดแต่อีกฝ่ายก็ยังพลิกหลบได้อย่างหวุดหวิดถึงบางทีจะโดนบ้างก็เถอะ สายตาที่บาคุโกใช้มองริมุรุมีแต่ความอยากเอาชนะ ทุ่มสุดตัวเพื่อคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งและคิดที่จะเหนือกว่าอย่างไม่ย่อท้อแม้ร่างกายจะร้องเตือนว่าถึงขีดจำกัดแต่เขาก็ยังไม่ยอมหยุด ความทะเยอทะยานอยากจะเป็นที่หนึ่งได้เหมือนฮีโร่อย่างออลไมท์ทำให้เขามาได้ถึงจุดนี้และจะไม่หยุดจนกว่าจะทำความฝันได้สำเร็จ
ลึกๆ แล้วบาคุโกเป็นเด็กดีเพียงแต่อารมณ์ร้ายไปหน่อยก็เท่านั้นอาจจะเพราะสังคมที่ยกยอเขาตั้งแต่ได้อัตลักษณ์มาเลยทำให้กลายเป็นคนที่มีความมั่นใจในพลังสูงจนไม่ยอมรับความช่วยเหลือ อาจจะดูเหมือนแตกต่างจากโทโดโรกิแต่ความจริงทั้งคู่ก็ไม่ต่างกันมากนัก พวกเขาเพียงแค่ต้องการใครสักคนมาทำลายทิฐิในตัวเหล่านั้นทิ้งไปซะเพื่อก้าวข้ามมันและพัฒนาตนเองให้ไปได้ไกลยิ่งขึ้น
ระเบิดของบาคุโกเริ่มหมดลงพร้อมกับร่างกายที่หนักอึ้งหมัดเปล่ากระทบตัวริมุรุเบาๆ ก่อนที่เจ้าตัวสลบไปในอ้อมแขนเล็กที่รอรับอยู่เพราะความสูงที่ต่างกันเลยทำให้บาคุโกอยู่ในท่าชันเข่าส่วนใบหน้าเกยไหล่บาง มิดไนท์ประกาศผลการแข่งขันและเรียกหน่วยพยาบาลมารับร่างของบาคุโกไปหารีคัพเวอรี่เกิร์ล
"ผู้ชนะ ริมุรุ เทมเพสต์ ห้องA!!!!" พรีเซ้นไมค์ตะโกนใส่ไมค์เสียงของผู้ชมโห่ร้องชื่นชมริมุรุรอบด้าน ร่างเล็กโบกมือไปรอบๆ พร้อมยิ้มกว้างจนตาปิดก่อนจะโดนกอดจากเพื่อนๆ ที่เข้ามารวมกันในสนามกลายเป็นก้อนใหญ่
"การแข่งขันงานกีฬาโรงเรียนยูเอของชั้นปีที่1ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ต่อไปจะเป็นพิธีมอบรางวัลค่ะ" มิดไนท์พิธีกรภาคสนามเอ่ยพร้อมกับแท่นอันดับที่โผล่ขึ้นมาจากด้านหลัง
ที่1 ริมุรุยืนอยู่ตรงกลางพร้อมยิ้มจนแก้มปริ
ที่2 บาคุโกยืนอยู่ด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์
ที่3 โทโคยามิยืนด้วยท่าทีสงบนิ่งข้างๆ กันมีโทโดโรกิอยู่ในแท่นเดียวกัน
อีดะไม่ได้มาร่วมพิธีมอบรางวัลเพราะเหตุผลทางบ้าน เจ้าตัวบอกมิโดริยะกับอุรารากะว่าพี่ชายถูกทำร้ายเลยต้องไปดูอาการด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก
ผู้ที่มอบเหรียญรางวัลในครั้งนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากออลไมท์ฮีโร่อันดับ1 อีกฝ่ายโผล่ขึ้นมาจากหลังคาอัฒจันทร์พร้อมเสียงหัวเราะก่อนจะกระโดดลงมาหน้าแท่นอันดับแบบผิดจังหวะไปหน่อย มิดไนท์เลยให้ออลไมท์มอบรางวัลไปเลย
"ยินดีด้วยนะ หนุ่มโทโดโรกิและหนุ่มน้อยโทโคยามิ พวกเธอเก่งกันมากเลย แต่ว่าการต่อสู้จะมัวแต่พึ่งอัตลักษณ์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องฝึกอย่างอื่นเพื่อเป็นทางเลือกในการต่อสู้มากขึ้น" ออลไมท์บอกก่อนจะสวมเหรียญทองแดงให้และกอดทั้งสองคนพร้อมกัน
"หนุ่มน้อยบาคุโก ยินดีด้วย เธอแข็งแกร่งมาก รับเหรียญนี่ไปซะในฐานะรอยด่างพร้อยจะได้ไม่ลืมว่ายังมีคนที่เก่งกว่าเธออยู่และจงอย่าลืมที่จะพัฒนาตัวเอง" ออลไมท์ว่าพลางสวมเหรียญเงินให้
"หนุ่มน้อยริมุรุ เธอนี่สุดยอดจริงๆ สมแล้วที่ผู้อำนวยการหวาดระแวงเล่นซะเขาไปต่อไม่ถูกเลย" ออลไม์พูดพร้อมกับสวมเหรียญทองให้กับอีกฝ่าย พอนึกถึงสีหน้าเหนื่อยใจของเนซึก็ทำเอาเขาอยากจะขำไม่เคยมีใครทำให้หนูขาวเจ้าปัญญาปวดหัวได้ขนาดนี้มาก่อน
"แหมไม่ต้องชมกันหรอกครับ ผมก็แค่ใช่ช่องโหว่ของสัญญานิดๆ หน่อยๆ" ริมุรุยอมรับแต่โดยดีและไม่คิดจะสำนึก
"เอาล่ะพวกเขาคือผู้ชนะในครั้งนี้ แต่ว่านะทุกคนไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์จะได้ยืนตรงนี้ดังนั้นฉันมีอย่างหนึ่งอยากจะพูด ทุกคนพูดพร้อมกันนะ" ออลไมท์หันมาพูดกับทุกคน
"ขอบคุณที่เหน็ดเหนื่อย!" "Plus Ultra!"
"เอ๋!! มันต้องเป็น Plus Ultra ไม่ใช่เหรอออลไมท์" เพราะประโยคเหนือคาดของออลไมท์สร้างเสียงเฮฮาของทุกคนงานจึงจบลงด้วยความสนุกสนาน ริมุรุเองก็ชักจะติดใจที่นี่ซะแล้วสิ
ความคิดเห็น