คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : วันหยุดที่รอคอย
หลังจากจบงานกีฬาโรงเรียนก็หยุดพักสองวัน ไอซาวะบอกว่าจะมีโปรฮีโร่ที่สนใจมาเสนอให้ไปฝึกงานเป็นรายบุคคลเพราะงั้นให้รอฟังผลในวันเปิดเรียนอีกที
ทว่าคนที่ไม่ได้อยู่ฟังในตอนนี้เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจยามเห็นครอบครัวบาดเจ็บ ก่อนที่ความเสียใจจะกลายเป็นแรงผลักดันให้อยากแก้แค้นในภายหลัง
โทโดโรกิเองก็เปลี่ยนแปลงไป เขามาเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลอีกครั้งหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น เธอยอมรับและให้อภัยเขารวมถึงดีใจที่เขาสามารถยอมรับตัวเองได้เสียที
'แม่ครับ ผมสามารถก้าวต่อไปเพื่อความฝันได้แล้วนะและผมสัญญาว่าจะช่วยแม่ให้หลุดพ้นจากที่ไปให้ได้'
สองวันต่อมา นักเรียนห้องAต่างรู้สึกตื่นเต้นกันมากๆ หลังจากได้ออกทีวีในงานกีฬาพวกเขาก็ถูกจับตามองมากขึ้น ไอซาวะเข้ามาในห้องพร้อมกับบอกให้ทุกคนคิดโค้ดเนมฮีโร่ของตัวเองไว้ใช้ชั่วคราว ส่วนของจริงจะเริ่มในชั้นปีที่2และ3
สามอันดับแรกที่ได้รับการระบุชื่อมากที่สุดมีริมุรุ โทโดโรกิ และบาคุโก แต่ไม่ว่าผลจะออกมายังไงทุกคนก็ต้องฝึกปฏิบัติงานกับโปรฮีโร่อยู่ดีเพื่อเก็บประสบการณ์การทำงานโดยตรงและฝึกฝนตัวเอง เรื่องชื่อฮีโร่ชั่วคราวดูจะสำคัญกว่าที่คิดมิดไนท์จึงมาช่วยตรวจสอบว่าผ่านหรือไม่แทนไอซาวะที่ไม่ค่อยสันทัดเรื่องนี้
มิดไนท์ให้ทุกคนที่คิดชื่อได้แล้วออกมานำเสนอที่หน้าห้อง ริมุรุไม่ได้จริงจังกับมันเท่าไหร่นักเลยใช้ชื่อของคุณราฟาเอลไปทั้งอย่างนั้นเลยคนจะเรียกยังไงก็ช่างเพราะเขาไม่ได้คิดจะเป็นฮีโร่อย่างจริงจังอยู่แล้ว
ทุกคนผลัดกันออกไปเสนอชื่อของตัวเองจนเหลืออีกไม่กี่คนที่ยังไม่ได้พูดจนกระทั่งริมุรุเป็นคนสุดท้ายของห้อง
"ชื่อฮีโร่ก็ ราฟาเอล ละมั้ง" ริมุรุบอกด้วยท่าทางสบายๆ ไม่จริงจังนัก
"โอ้! ชื่อทูตสวรรค์สินะเหมาะสมมากริมุรุคุง" มิดไนท์พูด ทุกคนเองก็พยักหน้าเห็นด้วยเพราะหน้าตาที่งดงามของริมุรุเลยไม่มีใครคัดค้านได้สักคน
การฝึกงานใช้เวลา1สัปดาห์ สำหรับคนที่มีการระบุชื่อสามารถเลือกสถานที่ฝึกได้เลยส่วนคนที่ไม่มีให้เลือกจาก40หน่วยงานทั่วประเทศแทน ทุกคนต่างพากันคุยเรื่องสำนักงานที่อยากจะไปแต่ริมุรุน่ะไม่ความคิดแบบนั้นหรอกนะถึงยังไงเจ้าหนูขาวนั่นก็ไม่ยอมให้เขาไปไกลจากสายตาอยู่แล้วเพราะงั้นแล้วเวลา1อาทิตย์จะเอาไปเที่ยวให้เต็มที่ไปเลย
หลังงานกีฬาข่าวของพี่ชายอีดะก็ออกทีวี คนร้ายสังหารฮีโร่มาแล้ว17รายและอีก23รายบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถกลับมาปฏิบัติงานได้ชื่อของวิลเลินคือ สเตน มือสังหารฮีโร่ อีดะเลือกฝึกงานที่เมืองโฮสึซึ่งพี่ชายถูกทำร้ายที่นั่นโดยไม่บอกใคร
ริมุรุอยู่ว่างๆ ในห้องพักดูนู่นนี่ไปเรื่อยได้เพียงแค่วันเดียวก็คิดที่จะเที่ยวซะแล้วแต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากห้องเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
"โอ๊ะ ไอซาวะเซนเซย์มีอะไรเหรอครับ" ริมุรุถามและเชิญอีกฝ่ายเข้ามาด้านใน
"ฉันได้รับมอบหมายให้มาจับตาดูเธออย่างใกล้ชิด" ไอซาวะบอกด้วยท่าทางเบื่อหน่ายก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟาราวกับเจ้าของห้อง
"แหมพอโดนหลอกไปรอบนึงเลยให้คนเฝ้าทุกฝีก้าวเลยสินะครับ" ริมุรุเอ่ยอย่างใจเย็นแม้จะคิ้วกระตุกเบาๆ ก็ตาม
"ถ้าอย่างงั้นไอซาวะเซนเซย์~เราออกไปเที่ยวกันเถอะครับ" ริมุรุพูดพร้อมรอยยิ้มร้ายกาจที่อีกฝ่ายไม่อาจปฏิเสธได้
สุดท้ายไอซาวะก็โดนลากตัวออกมาในเมืองจนได้ ริมุรุปลอมตัวเล็กน้อยโดยการเปลี่ยนสีผมให้เป็นสีดำเพราะใบหน้าของเขาว่อนเต็มไปทั่วอินเทอร์เน็ตแล้ว แบบนี้เลยเหมือนไอซาวะพาลูกมาเที่ยวเล่นปกติแม้เจ้าตัวจะทำหน้าบอกบุญไม่รับตลอดทาง
ริมุรุไม่ได้สนใจว่าจะถูกจับตามองอยู่แล้ว ฝ่ายนั้นอยากทำอะไรก็ปล่อยให้ทำถ้าคิดว่าทนดูเขาได้ทุกฝีก้าวก็เอาเลยจะให้มาเป็นเพื่อนเดินเที่ยวจนกว่าจะเบื่อขี้หน้ากันไปเลย
โอซาวะมองคนตัวเล็กที่แวะเข้าร้านอาหารไม่ต่ำกว่า20ร้านและซื้อมันทุกเมนูที่มีทั้งของหวานและของคาว เขาเองก็นึกสงสัยว่าอีกฝ่ายไปเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหนในเวลาไม่นานแถมยังกินแบบไม่บันยะบันยังได้เรื่อยๆ อีก
เจ้าคนที่ดูเหมือนเด็กน้อยเจอของเล่นใหม่อยู่ตลอดเวลานี่จะก่อเรื่องเลวร้ายเนี่ยนะ ผู้อำนวยการระวังตัวมากเกินไปรึเปล่าที่ผ่านมาอีกฝ่ายก็ไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไรนอกจากตอนงานกีฬาที่จะออกแนวเล่นซนซะมากกว่านอกจากนั้นก็ไม่มีท่าทีแปลกๆ อะไรเพิ่มเติม
กิน นอน เที่ยว กิจวัตรประจำวันก็มีอยู่แค่นี้ทำไมเขาต้องมารับหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กด้วยเนี่ยแค่งานที่ต้องทำในก็มีเยอะมากพออยู่แล้วยังต้องมาคอยจับตามองเจ้าหนูนี่อีก
ทุกวันริมุรุจะลากตัวไอซาวะออกมาข้างนอกตลอดอย่างไม่หยุดพัก พอเที่ยวในเมืองจนหมดก็ลามไปเมืองข้างเคียงโดยมีไอซาวะเป็นไกด์นำทางจำเป็นชั่วคราว แน่นอนว่าคงไม่พ้นเรื่องของกินแล้วก็มีบ้างที่จะซื้อของอย่างอื่น
"นี่ๆ ไอซาวะเซนเซย์ผมอยากดูหนังล่ะ" ริมุรุบอกพลางกระตุกแขนร่างสูงและชี้ไปทางโรงหนัง ไอซาวะตอบกลับด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายแต่ก็โดนลากไปอยู่ดี
"เอาเรื่องนี้สองที่นั่ง พร้อมเซ็ตป๊อปคอร์นถังใหญ่หนึ่งชุดครับ" ริมุรุสั่งเสร็จสรรพไม่ถามความเห็นคนที่มาด้วย มาโรงหนังก็ดีเหมือนกันเขาจะได้หลับสักทีไอซาวะคิด
หนังที่ริมุรุเลือกเพราะตัวอย่างน่าสนใจเป็นแนวแอ็คชั่น ต่อสู้สุดอลังการ ฉากบู๊เลือดสาดดังลั่นไม่ได้ขัดขวางการนอนของไอซาวะ โชตะแม้แต่น้อยสมแล้วที่เป็นนอนดักแด้สีเหลือง ฉายาที่ริมุรุแอบตั้งตอนอีกฝ่ายสอนในคาบทั้งที่สวมถุงนอนประจำตัว
พออยู่ด้วยกันบ่อยๆ ริมุรุก็สังเกตได้ถึงความชอบอย่างหนึ่งของอีกฝ่ายนั่นก็คือทาสแมวเพราะงั้นเขาก็เลยจะตอบแทนที่เจ้าตัวช่วยเป็นไกด์นำเที่ยวด้วยการพาไปคาเฟ่แมวยังไงล่ะ ถึงยังไงขึ้นชื่อว่าคาเฟ่ก็ต้องมีอาหารเพราะงั้นให้เจ้าตัวไปเล่นกับแมวระหว่างรอเขาจัดการอาหารทุกอย่างในร้านก็แล้วกัน
"เอ้า! ไอซาวะเซนเซย์วันนี้คุณจะได้อยู่กับน้องแมวคนเดียวเต็มที่เลยเพราะผมเหมาร้านไว้แล้ว ขอให้สนุกนะคร้าบ~" ริมุรุพูดพร้อมกับดันร่างสูงเข้าไปในห้องของแมวและยัดขนมแมวเลียไว้ในมืออีกฝ่ายด้วยก่อนจะปิดประตูห้องลง
เจ้าก้อนขนทั้งหลายเมื่อเห็นมนุษย์เข้ามาพร้อมของโปรดในมือก็เข้ามาคลอเคลียออดอ้อนกันใหญ่ทำเอาไอซาวะใจอ่อนยวบ พอนั่งลงเจ้าแมวขนฟูฟ่องสีขาวก็มานั่งตักเขาทันทีราวกับแสดงความเป็นเจ้าของ สุดท้ายอาจารย์หนุ่มก็โดนริมุรุซื้อใจด้วยก้อนขนทั้งหลายอย่างง่ายดายบางครั้งก็เลยปล่อยเจ้าตัวออกไปข้างนอกเองโดยที่ไม่ตามมาคุม
ซึ่งความจริงไอซาวะก็จะทำแบบนั้นตั้งแต่วันที่4แล้วทว่าริมุรุก็ใช้วิธีนี้ซะก่อน ในเมื่อเสนอมาให้เขาก็ไม่คิดจะปฏิเสธน้ำใจนั่นแล้วก็ตัวเขาจะได้มีเวลาพักผ่อนด้วยพอดี การเดินทางไปมาระหว่างเมื่อกับอีกฝ่ายทำเอาปวดกล้ามเนื้อไปหมด ร่างเล็กไปเอาพลังงานกระตือรือร้นขนาดนี้มาจากไหนนักหนานะ
พอไม่มีไอซาวะคอยจับตามองริมุรุก็ใช้เวทเดินทางไปไหนมาไหนได้สักทียังมีอีกหลายร้านที่เขายังไม่ได้ลองทั้งร้านใหญ่และร้านเล็กๆ ข้างทางหรือแม้กระทั่งในซอกหลืบที่ดูอันตรายซึ่งไอซาวะไม่ยอมให้เขาเข้าไปแต่มีหรือที่ริมุรุคนนี้จะเชื่อฟัง หนทางยิ่งอันตรายก็ยิ่งมีขุมทรัพย์รออยู่ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเจอร้านในตำนานแถวนั้นก็ได้จริงไหม
ริมุรุพาตัวเองเข้ามาในตรอกที่ดูมืดมนแห่งหนึ่งซึ่งเคยผ่านตอนมากับไอซาวะ ร่างกายเล็กๆ ในผมสีดำเดินเข้ามาพาให้คนมองเหมือนกับอีกฝ่ายเป็นเด็กหลงส่วนใหญ่คนในนี้เป็นพวกอันธพาลไม่ก็ผู้ที่ไม่มีบ้านถ้าให้เปรียบก็เหมือนสลัมในสมัยที่เขายังเป็นมิคามิ ซาโตรุ
"เฮ้ยเจ้าหนู หลงทางหรือยังไง รู้รึเปล่าว่าที่นี่มันที่ไหน" ผู้ชายหน้าตาอันธพาลถามขึ้นพร้อมแก๊งของตัวเองเดินมาล้อมวงรอบตัวของริมุรุ
"อื้อ พี่ชายช่วยพาผมออกไปหน่อยได้ไหมครับ" ริมุรุตอบพร้อมยิ้มกว้างทำตัวใสซื่อสมวัยของรูปลักษณ์ภายนอก
"ได้สิ เดี๋ยวพวกพี่ชายพาไปส่งเอง" ชายคนนั้นบอกพร้อมกับพยักหน้าให้เพื่อนตัวเองอย่างรู้กัน นานๆ ทีจะมีเด็กหน้าตาน่ารักหลงเข้ามาของดีแบบนี้เอาไปขายคงได้เงินก้อนโต
ชายตรงหน้ายื่นมือมาให้ริมุรุจับทว่ายังไม่ทันที่จะได้วางมือลงไปไฟสีฟ้าก็ลุกโชนขึ้นบนร่างของอีกฝ่ายเสียก่อน รายต่อมาก็เป็นพรรคพวกคนอื่นๆ เพียงไม่นานไฟก็ดับลงร่างของพวกนั้นไหม้เกรียมไร้สัญญาณชีวิตก่อนจะมีชายอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาหาริมุรุแทน
อีกฝ่ายมีแผลบนผิวหนังหลายที่มีรอยถูกเย็บหยาบๆ ลักษณะเหมือนแม็กเย็บกระดาษใต้ดวงตาและใบหน้าส่วนล่างปากจนถึงอกบนลามไปถึงแขน แผลมีสีม่วงคล้ำออกช้ำเลือด ดวงตาสีเขียวให้ความรู้สึกว่าเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนกับทรงผมชี้ฟูสีดำ
"กลับบ้านไปซะเจ้าหนู นี่ไม่ใช่ที่วิ่งเล่น" ชายคนนั้นพูดขึ้นก่อนจะทำท่าเดินออกไป
"ผมหลงทาง พี่ชายพาผมออกไปด้วยได้ไหม" ริมุรุถามพลางดึงชายเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้
"เฮ้อ...ตามมา" เขาทำเสียงหน่ายใจแต่ก็ยอมเดินนำทางให้แต่ขาสั้นๆ ของร่างเล็กก้าวตามความเร็วของร่างสูงไม่ทันฝ่ายนั้นจึงยอมเดินช้าลงและยื่นมือมาให้ริมุรุจับ
มือเล็กจับมือของอีกฝ่ายพร้อมยิ้มกว้างก่อนจะเอ่ยถาม "พี่ชายเป็นฮีโร่เหรอฮะ" อีกฝ่ายแค่นหัวเราะอย่างนึกดูถูกแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรจนเดินมาถึงถนนที่พอมีผู้คนสัญจรอยู่บ้าง
"ขอบคุณนะครับพี่ชาย" ร่างเล็กกล่าวขอบคุณพลางโบกมือลาชายหนุ่มตรงหน้าก่อนจะเดินไปตามเส้นทางปกติ
"เฮอะ ฮีโร่งั้นเหรอ" ชายหนุ่มแค่นเสียงสมเพชยามนึกถึงใบหน้าของใครคนหนึ่งและหายเข้าไปในตรอกมืดอีกครั้ง
ความคิดเห็น