คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ซากุระไม่หวนคืน
ซากุระไม่หวนคืน
ดาวเดือนเคลื่อนคล้อยตามฤดูกาล นับตั้งแต่วันที่เด็กหญิงเข้าโรงเรียนใหม่เป็นวันแรกจนกระทั่งวันนี้ ผ่านเลยมานับ 5 ปีที่วิถีชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม.
เปลี่ยน...จนหัวใจดวงน้อยของเด็กสาววัย 15 ปีสั่นไหวยามห่าง ไกล กับใครอีกคนที่หายลับไปจากชีวิตของเธอ
ดวงหน้าหวานแหงนเงยขึ้นรับอากาศเย็นพิสุทธิ์และกลีบดอกซากุระที่ร่วงหล่นลอยล้อตามสายลมที่พัดไหวกระทบผิวหน้า ผิวกายและเรือนผมยาวสยายจนคล้ายร่างน้อยนั้นถูกโอบอุ้มไปด้วยกลีบดอกสีชมพูเล็กๆ ราวภาพประติมากรรมที่งดงามปานนางพราย สะกดสายตาทุกคู่ให้ติดตรึงยากเกินกว่าจะละสายตา
พิธีเปิดปีการศึกษาใหม่เป็นอะไรที่เธอเข้าร่วมเป็นประจำอย่างแข็งขันอยู่ทุกปี แต่ปีนี้หัวใจดวงน้อยๆกลับร่ำร้องให้เธอยืนชื่นชมความงามของต้นซากุระที่สวนหลังโรงเรียนแทน
อย่างน้อย สถานที่แห่งนี้ก็ทำให้จิตใจของเธอสงบลง แม้มันจะเป็นที่สุดท้ายที่เธอได้พบคุณอาก็ตาม
“ดอกซากุระสวยจังเลยค่ะคุณอา”
รมย์ชลีในวัย 10 ปีเอ่ยกับถังหย่งคังในวันแรกที่เธอได้ก้าวเท้าเหยียบย่างเข้าสู่โรงเรียนแห่งนี้
“รอให้ถึงเทศกาลโอฮะนะมิเสียก่อน อาสัญญาว่าจะพาน้องลีไปชมดอกซากุระบานที่นาโกย่า”
รอยยิ้มอันงดงามปรากฎที่มุมปากของชายหนุ่มขณะเอื้อนเอ่ยคำสัญญากับเด็กหญิงที่ตอนนี้เกาะแขนเขาแน่นราวกับกลัวว่าเขาจะเลือนหาย
“คุณอาสัญญาแล้วนะคะ!”
“ใช่ อาสัญญา...” ถังหย่งคังตอบรับเด็กน้อยพลางยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับนิ้วเล็กที่ยื่นรออยู่ตรงหน้าเขา พร้อมกล่าวย้ำให้กับรอยยิ้มสดใสของเด็กหญิงร่างบางที่จ้องมองเขาอย่างตื่นเต้น “อาสัญญา รมย์ชลี”
“แล้วคุณอาก็ไม่ทำตามสัญญา...”
ถ้อยคำตัดพ้อดังลอดออกจากริมฝีปากสีแดงสดแผ่วเบา คล้ายกระซิบฝากไปกับสายลมให้ใครอีกคนรับรู้พร้อมทั้งหยาดน้ำตาที่พรั่งพรู รินไหลลงมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว จวบจนกระทั่งกลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่เธอคุ้นเคยโชยมากับสายลมจนรมย์ชลีอดไม่ได้ที่จะรีบซับน้ำตาด้วยปลายนิ้วมือ ก่อนหันไปส่งยิ้มหวานให้เจ้าของกลิ่นกายหอมกรุ่นนั้นด้วยความคาดหวัง แต่อนิจจา...
เขาคนนั้นไม่ใช่ใครที่เธอกำลังเฝ้ารอ
ฉับพลันรอยยิ้มสว่างไสวที่ทำเอาหัวใจของผู้มาเยือนไหวโอนเต้นไม่เป็นจังหวะกลับเลือนหายเมื่อสายตาของสาวน้อยเล็งเห็นว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นใครอีกคนที่ไม่ได้อยู่ในห้วงคำนึง
“น้ำตา ไม่เหมาะสำหรับวันแรกของการมาเรียน”
เด็กหนุ่มแปลกหน้าเอ่ยกับเธอเป็นประโยคแรกพลางยื่นผ้าเช็ดหน้าแบรนด์ดังให้
“คะ?”
“รับไว้ ซากุระสวยๆไม่เหมาะที่จะเคล้าไปด้วยน้ำตา”
เขาย้ำ เมื่อเห็นเด็กสาวตรงหน้ายังมีท่าทีงุนงงพลางถือวิสาสะจับมือบางนั้นแบออกพร้อมทั้งวางผ้าเช็ดหน้าลงบนมือนิ่มก่อนเดินจากไป
“ขอบคุณค่ะ”
รมย์ชลีเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา ในขณะที่คนกำลังเดินหันหลังให้หยุดชะงัก ยิ้มร่าเมื่อเห็นว่าเธอยอมใช้ของๆเขาซับน้ำตา ด้วยหวัง ว่าเขาและเธอจะได้พบเจอกันอีกครั้งใต้ต้นซาดุระต้มเดิม เหมือนที่เคยเป็นมา
ใช่...เหมือนที่เคยเป็นมา แม้เธอจะไม่เคยรู้ก็ตาม
เสียงกลุ่มคนที่เริ่มทยอยออกจากหอประชุมเสมือนสัญญาณช่วยเรียกสติของรมย์ชลีให้ออกจากภวังค์ เด็กสาวกำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่นพลางยกกระเป๋านักเรียนขึ้นแนบอกก่อนออกแรงวิ่งอย่างสุดแรงเกิด เพื่อที่จะได้ไปถึงห้องเรียนก่อนใคร และนั่นก็หมายถึงโอกาสอันดีที่จะได้หลีกหนีการตอบคำถามยากๆที่จะตามมาอีกด้วย
“อรุณสวัสดิ์ลีจัง”
มิยูกิเพื่อนสนิทของรมย์ชลีตั้งแต่สมัยเรียนประถมเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มพร้อมยกมือขึ้นโบกยามเห็นเธอวิ่งหน้าแดงเข้ามาภายในห้องเรียน
“มิกิ ทำไมเธอ...เฮ้อ!”
เสียงหวานเอ่ยออกมาทีละคำอย่างยากเย็น ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจปล่อยวางแล้วยืดตัวตรงสูดลมหายใจเข้าลึกจนเต็มปอด ก่อนจะค่อยๆผ่อนลมหายใจออกเพื่อเอาแรง ในขณะที่เพื่อนสาวหัวเราะคิกเมื่อเห็นท่าทีของเธอ
“มานั่งนี่ซี ฉันจองที่ไว้ให้เธอรู้ไหม” ว่าพลางตบมือลงบนโต๊ะตัวริมหน้าต่างที่อยู่ติดกันก่อนจะชี้ไปอีกตัวที่อยู่ด้านหลัง และอีกตัวที่อยู่ด้านข้างทางซ้ายมือ “ตรงนั้นของยูคิเมะ และตรงโน้น ของฮิโรชิล่ะ”
“ขอบใจจ้ะ”
“เหนื่อยเหรอ?”
เอ่ยถามเมื่ออีกฝ่ายทรุดตัวลงนั่ง ดวงหน้าขาวเนียนมีเลือดสูบฉีดจนแดงระเรื่อ
“อื้อ”
“เอาน้ำไปกินก่อนซี”กล่าวพลางยื่นขวดน้ำแร่ในช่องเก็บของส่งให้
“ขอบใจจ้ะ” รมย์ชลีรับมาดื่มทันทีอย่างกระหายก่อนจะเอ่ยถามคำถามที่ค้างคาใจ “เธอไม่ไปเข้าร่วมพิธีเหรอ?”
“ไม่!”
เสียงใสตอบอย่างร่าเริงก่อนจะส่งยิ้มล้อเลียนให้เพื่อนสนิทที่มีสีหน้างุนงง
“ถ้าฉันไปก็อดเห็นชอตเด็ดน่ะซี ใครก็ไม่รู้ไปยืนร้องไห้ขี้มูกโป่งใต้ต้นซากุระจนมีหนุ่มรูปงามใจดีเอาผ้าเช็ดหน้ามาให้ น่าอิจฉาเนอะ”
“เธอเห็น?”
เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจนเพื่อนสนิทอย่างมิยูกิจับกระแสเสียงที่แฝงความนัยนั้นได้ จึงอดไม่ได้ที่จะถามกลับด้วยความห่วงใย
“ยังคิดถึงเขาอยู่อีกเหรอ?”
อีกฝ่ายนิ่งเงียบไปชั่วอึดใจก่อนตัดสินใจเอ่ยออกมา
“ถ้าฉันบอกว่าใช่ เธอจะหาว่าฉันโง่ไหมมิกิ”
“ไม่หรอก แต่ฟังฉันนะน้องลี เรื่องนี้มัน...”
“เฮ้!รมย์ชลี...มิกิ!”
เป็นมิยาโมโตะ ฮิโรชิที่เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียงดังพร้อมทั้งเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆที่ตอนนี้เริ่มพากันเข้ามาในห้องเรียน เรื่องที่ทั้งสองคนคุยค้างจึงมีอันต้องจบไปโดยปริยาย
“ทายซิว่าอาจารย์ประจำชั้นเราเป็นใคร?”
“ทาเคดะเหรอ?” มิกิเริ่ม
“ไม่ใช่..”
“งั้น อาจารย์ฮอนดะ” รมย์ชลีตอบบ้าง ในขณะที่ฮิโรชิส่ายศีรษะอีกครั้งก่อนจะลากเก้าอี้เข้ามาประชิดและทรุดตัวลงนั่ง “ไม่ใช่หรอก อาจารย์เข้าใหม่น่ะ สวยเช้งเลย!ไม่เชื่อถามยูคิดูสิ”
“จริงเหรอยูคิเมะ?”
“จริง! อาจารย์ใหม่นะ เธอสวย หรู เลิศ อลังการไปเลยละ”
ยูคิเมะเน้นย้ำทีละคำพลางวาดมือปัดผมสะบัดขึ้นไปในอากาศด้วยท่วงท่าราวกับนางพญา “แบรนด์เนมทั้งชุด! หน้าอกตึงเปรี๊ยะ!จนไอ้บ้าแถวนี้มันเกือบทำน้ำลายไหลเลยล่ะ”
ไอ้บ้าแถวนี้สะดุ้งเฮือกหันไปส่งสายตาวาววับให้ยูคิเมะเพียงนิดก่อนจะส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มให้มิยูกิอย่างประจบ
“ยูคิเขาหมายถึงพวกผู้ชายในห้องน่ะ ถึงยังไงฉันก็รักเธอคนเดียวนะมิกิ”
“แหวะ!!!”
อีกสามสาวพากันประสานเสียงอย่างนึกขันกับอาการหมาหยอกไก่ของฮิโรชิก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกันทั้งสี่คนอย่างร่าเริง การสนทนาหัวข้ออาจารย์คนใหม่ยังคงดำเนินไปอย่างสนุกสนาน เหตุเพราะข่าวสารที่ฮิโรชิและมิยูกิได้รับรู้นั้นออกแนว รู้ลึก รู้จริง ขนาดชมรมหนังสือพิมพ์ของโรงเรียนยังอาย และน่าใจหายยิ่งกว่านั้น เมื่อคำบอกเล่าของยูคิเมะส่งผลให้รมย์ชลีรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจ
“อาจารย์ซาโยโกะเป็นถึงหลานเจ้าของโรงเรียนแหละ แถมเขายังลือกันอีกว่าคุณหนูตระกูลโฮโจอย่างอาจารย์ซาโยโกะกำลังจะเข้าพิธีดูตัวกับคุณชายใหญ่ตระกูลซานาดะล่ะ!”
ปัง! ขวดน้ำที่อยู่ในมือรมย์ชลีล่วงลงสู่พื้น รอยยิ้มที่อยู่บนดวงหน้าหวานเหือดหายไปพร้อมกับสีเลือดที่สูบฉีดบนใบหน้าจนมันขาวซีดอย่างน่ากลัว คุณชายตระกูลซานาดะ ตระกูลคุณแม่ของคุณอา แล้วคนที่อาจารย์ซาโยโกะกำลังจะดูตัวคงเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่คนที่ชื่อ ถังหย่งคัง
คุณอาใจร้ายสิ้นดี!
“น้องลี...”
มิยูกิเอ่ยเรียกเพื่อนสนิทพลางกุมมือบางนั้นไว้อย่างอ่อนโยนเพื่อเป็นกำลังใจ และช่วยเรียกสติของคนที่ตอนนี้หน้าขาวซีดยิ่งกว่ากระดาษจนกลัวเหลือเกินว่าเพื่อนเธออาจจะอยู่ในอาการช๊อค ท่ามกลางความงุนงงของฮิโรชิและยูคิเมะที่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกและความผูกพันของรมย์ชลีที่มีต่อถังหย่งคัง
ทั้งสองรับรู้แค่ว่ารมย์ชลีเป็นลูกบุญธรรมของชายชาวจีนที่มีนามสกุลว่าจางและเป็นมือขวาของผู้มีอิทธิพลท่านหนึ่งเท่านั้นเอง
ซึ่งแตกต่างจากเพื่อนสนิทอย่างมิยูกิอย่างสิ้นเชิงที่ถึงแม้จะอยู่กลุ่มเดียวกันแต่เธอก็รู้เรื่องมากกว่านั้น
อาจเป็นความถูกชะตาและนิสัยใจคอที่เข้าและยอมรับกันได้ จึงทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่เคยมีความลับต่อกันไม่เว้นแม้กระทั่งความรู้สึกนึกคิดของรมย์ชลี เด็กหญิงตัวเล็กที่จากบ้านเกิดเมืองนอนและกำพร้าครอบครัวที่แท้จริงจากเมืองไทยเมื่อครั้งที่มีอายุเพียง 10 ปี เดินทางสู่ดินแดนอาทิตย์อุทัย แล้วไยชายคนนั้นจึงต้องห่างเหินเพื่อนของเธอไปอย่างไม่หวนคืนเช่นนี้เล่า เธอเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน...
เสียงพูดคุยภายในห้องเรียนเงียบกริบดั่งต้องมนต์สะกดเมื่ออาจารย์ประจำชั้นคนใหม่ที่ถูกกล่าวถึงเยื้องกรายเข้ามาภายในห้องด้วยท่วงท่าสง่างามดุจนางพญา ซาโยโกะเป็นที่สุดของสัญลักษณ์แห่งความเป็นหญิง เธอมีใบหน้างดงามราวเทพธิดา ทรวดทรงของเธอนั่นเล่าช่างอรชรอย่างยั่วยวนใจ ทั้งเอวคอดกิ่วและทรวงอกอวบอิ่มดุจรูปร่างของนาฬิกาทรายที่ไม่ว่าชายใดต่างก็ยอมสิโรราบเพียงแค่ได้พบสบตา
คุณอาของเธอก็คงจะเป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน แต่เธอก็ยังหวังว่า ขออย่าให้มันเป็นเช่นนั้นเลย
“สวัสดีค่ะนักเรียนทุกคน ครูชื่อโฮโจ ซาโยโกะนะคะ มาเป็นอาจารย์ประจำชั้นของปี 1/2 นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปยังไงก็...”เสียงหวานทิ้งทวนเล็กน้อยก่อนขยิบตาซ้ายให้นักเรียนภายในห้องอย่างขี้เล่น “ฝากตัวด้วยนะจ้ะ!”
เสียงโห่ฮาและเสียงปรบมือดังขึ้นทันทีที่อาจารย์สาวแสนสวยกล่าวจบ ก่อนจะเงียบกริบด้วยความแปลกใจระคนตกใจเมื่อคุณครูประจำชั้นคนใหม่เอ่ยถามถึงรมย์ชลี
“คนไหนชื่อรมย์ชลีจาง จ้ะ?”
“หนูค่ะ”
เด็กสาวขานรับเสียงแผ่วด้วยความประหลาดใจพลางยกมือขึ้นสูง ในเมื่อวันนี้เปิดการศึกษาเป็นวันแรก อาจารย์ใหม่อย่างครูซาโยโกะไม่น่าจะถามถึงเธอหรือรู้ชื่อของเธอได้
เรือนร่างระหงเคลื่อนกายเข้าหาเธออย่างเชื่องช้า ประดุจนางสิงห์เตรียมเข้าจู่โจมขย้ำเหยื่อ ตากลมโตของอาจารย์คนใหม่เปล่งประกายแรงกล้าอย่างน่ากลัว เมื่อความนัยในนั้นมันคือ ความเกลียดชัง!
ริมฝีปากอิ่มสีชมพูเข้มจ่ออยู่ข้างใบหูของรมย์ชลีพลางเอื้อนเอ่ยถ้อยคำอย่างแผ่วเบา แต่ดังก้องซ้ำๆกันอยู่ในโสตประสาทของเธอตลอดไป ราวกับย้ำในหัวใจของตนเองว่า ไร้ซึ่งสิทธิ์และเสียงที่จะเกี่ยวพันแม้ความทรงจำก็ไม่เหลือค่าอันใด ก่อนร่างงามจะผละเดินออกจากห้องไปทิ้งไว้แต่ความทุกข์ทรมานที่ฉายชัดอยู่บนดวงหน้าขาวซีดของเด็กสาวพร้อมทั้งน้ำตาที่รินไหลออกมา
“ลีจัง!!”สามเสียงประสานกันอย่างแผ่วเบา ก่อนจะรีบแย่งกันเอ่ยถามเธอดังลั่นด้วยความห่วงใย
“อาจารย์เขาพูดอะไรกับเธอ?”
“น้องลี เป็นอะไรไป”
“เฮ้! อย่าร้องไห้ซี”
ฮิโรชิเอ่ยพลางซับน้ำตาให้เพื่อนด้วยปลายนิ้ว โดยหารู้ไม่ว่านั่นเสมือนเป็นการกระทำที่ซ้ำรอยกับใครอีกคนที่เธอนึกถึงเขาเสมอมา
“ฉันอยากกลับบ้าน...”
ริมฝีปากสีแดงสดราวลูกเชอร์รี่เอ่ยออกมาอย่างยากลำบากเหตุเพราะมันคั่นไปด้วยเสียงสะอื้นไห้ แต่ถึงกระนั้นเพื่อนสนิททั้งสามคนต่างก็ยอมทำตามใจเธอแต่โดยดี เพราะมันน้อยครั้งนักที่จะเห็นอาการตื่นตะลึงและเศร้าโศกเสียใจถึงขนาดนี้ของรมย์ชลี
ทั้งสามช่วยกันเก็บของใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมที่จะเก็บข้าวของของรมย์ชลีมาด้วย ก่อนจะพากันเดินออกจากห้องไปท่ามกลางความงุนงงของใครหลายคนภายในห้องเรียน
“สี่คนนั้นมันโดดกันตั้งแต่เช้าวันแรก พรุ่งนี้ไม่ใครก็ใครคงได้เจอดี”
นั่นคือคำพูดของหนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นที่ดังแว่วมา แต่ใครจะไปสนล่ะ! ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องรีบพารมย์ชลีออกจากโรงเรียนและตรงไปสู่บ้านครอบครัวจางให้ไวที่สุด ก่อนคนหน้าซีดจะเป็นลมล้มลงไปจริงๆ
“เธอบอกฉันได้ไหม ว่าอาจารย์ซาโยโกะเขาพูดอะไรกับเธอ”
มิยูกิเอ่ยถามเพื่อนสนิทระหว่างที่รอฮิโรชิโบกรถเรียกแท็กซี่ แต่คำตอบที่ได้ก็เหมือนเดิม คือ อาการส่ายหน้าจนเส้นผมกระจายของแม่ร่างบาง
ฉันจะบอกเธอได้ยังไงมิกิ เมื่อคำพูดของผู้หญิงคนนั้นมันช่างทำร้ายจิตใจของฉันเหลือเกิน
“เป็นแค่เด็กที่เขาเก็บมาเลี้ยงอย่าได้คาดหวังอะไรมากนัก ของขวัญที่เธอคอยส่งไปให้เขาน่ะ มีที่เดียวที่มันจะอยู่นั่นคือในถังขยะแค่ความเอ็นดูเล็กๆน้อยๆที่เขาเคยมีให้ต่อเธออย่าได้ตีความไปผิดๆล่ะ ครูไม่อยากเห็นลูกศิษย์เสียใจ อ้อ!แล้วก็อย่าได้ห่วงไปนะจ้ะว่าใครจะคอยดูแลเขาเพราะต่อไปนี้คุณอาของเธอจะมีครูคอยดูแล เทคแคร์เขาตลอดเวลา ทั้งวัน...ทั้งคืนเลยล่ะหากเขาต้องการ...”
“พวกเรา! รถมาแล้วขึ้นรถเร็ว!”
ฮิโรชิตะโกนเรียกเพื่อนๆในขณะที่มิยูกิและยูคิเมะต่างพากันกึ่งลากกึ่งจูงรมย์ชลีให้เดินตามมา
หมดสิ้นแล้วสายไยผูกพันระหว่างเรา นี่คือสาเหตุที่คุณอาไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับน้องลีใช่ไหมคะ? เพราะคุณอามีคนสำคัญเข้ามาในชีวิต น้องลีจึงไม่ควรพบเจอคุณอาอีกต่อไป เปรียบดั่งดอกซากุระที่หลุดออกจากกิ่งก้านของลำต้นแล้วไม่อาจหวนคืน เหมือนความสัมพันธุ์ดีๆของเราสองคน
น้องลีจะยอมเข้าใจและยอมรับมันค่ะหากคุณอาต้องการให้เป็นเช่นนั้น น้องลีจะลืมคุณอาให้หมดไปจากหัวใจ แม้มันอาจต้องใช้เวลานานเพียงใด แต่น้องลีขอสัญญาว่าจะลืมมันให้ได้ น้องลีขอสาบานด้วยเกียรติของบริรักษ์นุกุล!!
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รายละเอียดตามภาพ กรุณาอ่านให้ครบนะคะ
ราคาปกติ 420-
ราคาจองเหลือ 390- บาท ส่งฟรีลงทะเบียน!!!
เปิดจองวันนี้ 4/9/2557 - 4/10/2557
จัดส่งไม่เกิน 24 ตุลาคม 2557
โอนเงินมาที่
ธ.ไทยพาณิชย์ 5432305678
สุวิมล ถาวร
แล้วเมล์รายละเอียด วันเวลาที่ทำรายการ+ชื่อที่อยู่
ทาง sweet_berryii@hotmail.com
*** พิมพ์ตามจำนวนยอดจองเท่านั้นค่ะ ***
หรือถ้าใครอดใจรอแบบรูปเล่มไม่ไหว แนะนำ E-book ตามลิงก์ด้านล่างนี้ค่ะ
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NToiMjY3MDEiO3M6NzoiYm9va19pZCI7czo1OiIxNjA2OSI7fQ
และที่นี่ค่ะ
http://www.hytexts.com/ebook/book/B003147
ความคิดเห็น