ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC 2PM]MY DARE DEVIL…ปีศาจที่รัก [YAOI] CHANHO

    ลำดับตอนที่ #22 : [LF 2PM]“MY DARE DEVIL…ปีศาจที่รัก” PART 21

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.56K
      11
      6 มิ.ย. 55



    “MY DARE DEVIL…ปีศาจที่รัก

     

     

    Part 21

     

    “อย่าได้คิดหนีฉันไปไหนเชียวนะ อี จุนโฮ”

     

    เคยคิดไหม คำเพียงไม่กี่คำ..จากปากคนที่เรารักทำได้ทุกอย่าง ทำให้เราดีใจสุดแสน ราวกับไม่เคยมีเรื่องใดจะทำให้เรายิ้มได้อีกต่อไป และมมันก็อาจทำให้เราร้องไห้จนแทบเป็นแทบตายเสียให้ได้ เจ็บปวดทนทรมานไปกับมัน

     

    เหมือนคำไม่กี่คำที่เขาเพิ่งได้ฟัง

     

    และคำไม่กี่คำ ก็เป็นแม้กระทั้งโซ่ตรวน หรือแม้กระทั้งเป็นกรงขัง ให้เราไม่สามารถหนีไปไหนได้อีกเลย

     

    “ผมจะหนีไปไหนได้ครับ ผมไม่สามารถไปไหนได้หรอกครับ ชานซองก็รู้..มันยังไม่ถึงเวลาของผมเลย”จุนโฮยิ้มเล็กๆขึ้นมาที่มุมปาก คำพูดของชานซองเป็นดาบสองคมที่กำลังทิ่มแทงเข้ามาอย่างช้าๆ

     

    คมมีดด้านหนึ่งปักลงที่กลางใจของเขา..มันสร้างความรู้สึกดีๆ ให้เขาคิดไปเองว่าชานซอง อยากให้เขาอยู่ แต่เพียงอีกด้านของมันกำลังลงหลักปักยึดที่ปลายเท้าของเขา มันเจ็บแต่ก็ทำให้เขาไปไหนไม่ได้

     

    “ไม่…ไม่ใช่ตอนนี้ซินะ”ชานซองว่าพลางจับปลายคางนั้นเบาๆพลิกไปมา สำวจใบหน้าของอีกคนราวกับว่าเขาไม่เคยมองมันให้ดีๆ ไม่ได้มองมันจะละเอียดและใกล้ชิดิย่างนี้

     

    “ฉันมันเห็นแก่ตัว ที่อยากให้นายอย่กับฉันไปนานๆ ทั้งๆที่หัวใจฉันมันประหลาดอย่างนี้”ชานซองว่าพลางจับมืออีกคนมาแนบอก รู้สึกถึงดวงใจที่มันกำลังเต้น

     

    จุนโฮไม่ได้ฝัน มันเต้นจริงๆ ตอนนั้นที่เขาได้ยิน..เขาคิดว่ามันเป็นแค่ละเมอไป แท้จริงมันกำลังมีชีวิต แต่เขาล่ะจะทำยังไงดี..มันทรมานนะ ที่ต้องเป็นแบบนี้

     

    แล้วสุดท้าย จุนโฮไม่ใช่คนที่ถูกเลือก เพราะเค้าน่ะเป็นคน..เจ็บที่ละนิด เจ็บมันซ้ำๆ ไปทุกๆวัน

     

    “อยู่กับฉันเถอะนะ”ชานซองบอกเสียงเบา เขาสองใจ…แต่เขารู้ดีว่าถ้าไม่รั้ง จุนโฮจะเริ่มตัดใจไปจากเขาทีละนิดๆ จนสุดท้ายเมื่อถึงวันที่นั้น เขาจะจุนโฮไปอย่างไม่มีวันได้คืน

     

    เขาพูดอะไรไม่ได้..เพราะเขาคือคนเห็นแก่ตัว

     

    จุนโฮมองใบหน้าคมในยามนี้..มองลึกลงไปดวงตาสีดำสนิทนั้นอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ ชานซองกำลังเอาความผูกพัน เอาน้ำเสียงที่เขาชอบ เอาความอบอุ่นมาเป็นตัวรั้งเขาเอาไว้ ทั้งๆที่เขาตัดสินใจว่าจะพยายามจะก้าวถอยออกมา

     

    เขามาทีหลัง เขายอมเป็นฝ่ายที่จะต้องเจ็บและเสียใจ แต่ตอนนี้..หัวใจเขากลับเต้นแรง เต้นเสียจนแทบจะระเบิดแค่เพียงคำพูดรั้งที่มันกำกวม ตอนนี้เขากำลังอ่อนไหว กำลังใจสั่น กับคำพูดของชานซอง แต่นั้นกลับไม่ร้ายเท่าหัวใจของชานซองที่มันกำลังเต้นใต้ฝ่ามือเขาตอนนี้

     

    เขาจะทนมันได้อีกไหมนะ..ถ้าจะต้องเจ็บปวดรุนแรงในตอนท้ายเรื่องอีกซักครั้ง

     

    “ผ..ผม…”

    “อยู่กับฉันนะ…จุนโฮ”

     

    จุนโฮมันคนโง่ จุนโฮคนโง่…ที่พยักหน้าตอบเขาไป จุนโฮมันก็แค่คนที่หัวใจไม่แข็งแรงพอ มันแข็งแรงไม่พอที่จะปฏิเสธชานซองได้เลย มันไม่เคยทำได้เลยซักครั้งเลย

     

    “ม..เมื่อถึงตอนนั้น อ..อย่าทำร้่ายผมรุน ฮ..แรงมากนักนะครับ..ฮึก ผมอาจจะทนมันไม่ไหว..ฮ..ฮึก”

     

    ทั้งๆที่ชานซองรู้ดี รู้ดีแก่ใจ แต่เขากลับไม่สามารถปล่อยมือจากจุนโฮไปได้เลยจริง ในใจมันแสบร้อนเหลือเกิน ที่น้ำตาเม็ดใสมันไหลลงอาบแก้มนวล ตกกระทบลงมาตรงที่อกของเขา ตรงที่หัวใจนั้นเต้นพอดี

     

    ………………………..

    …………………

    ……….

     

    ชานซองยังนอนกอดเขาเอาไว้อยู่เลย อ้อมกอดนี้ยังคงไม่ไปไหน วินาทีนี้..เป็นวินาทีที่เขาตระหนักได้อย่างดี ว่าเขาไม่ได้เป็นตัวแทนของใคร ไม่ใช่การถูกกอดเพราะเป็นเงาของคนอื่น

     

    ชานซองกอดเขา..ที่เป็นเขา เป็นอี จุนโฮ

     

    อย่างนั้นหรือ..

     

    จุนโฮยอมรับว่ามันช่างอบอุ่นนัก ลมหายใจที่เป่ารดหน้าผากมันก็อุ่นร้อน และเสียงหัวใจที่กำลังเต้น..ช่างไพเราะนัก หากให้เขานอนฟังมันไปตลอดกาลก็ยังได้

     

    เสียงแบบเดิมๆ เหมือนที่เขามี เสียงตึก..ตึก..ตึก..ที่มันแผ่วกว่าที่เขาเคยได้ยินมา แต่กลับน่าฟัง จนหัวใจเขามันอยากเต้นให้เป็นจังหวะเดียวกันกับคนตรงหน้า

     

    และสายตาที่ตอนนี้ มันมองเขาแค่เพียงคนเดียว ดวงตาสีแดง..ที่ตอนนี้มันเป็นสีแดง ดวงตาคู่ที่มีสเน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ ลูกแก้วสวยที่จับจ้องมาที่ดวงตาที่แสนธรรมดาอย่างเขาคนนี้ ไม่มีคำพูด ไม่มีการสนทนา แค่เพียงดวงตาของเราจ้องตอบซึ่งกันและกัน เป็นความเงียบที่แสนยาวนานราวกับชั่วกาลป์

     

    ทั้งหมดนี้เป็นของเขาจริงๆหรอ..แม้จะแค่ในเวลานี้

     

    แต่มันเป็นเรื่องจริงน่ะหรอ

     

    “เลิกคิดมากเถอะ..ตอนนี้ฉันคิดถึงแต่นายจริงๆ”ชานซองใช้ปลายนิ้วสะกิดเพียงแต่เบาๆที่ปลายคางของจุนโฮให้อีกคนหงายหน้าขึ้น เห็นริมฝีปากเล็กที่เม้มกันแน่นเสียจนเขาอยากจะประทับมันลงไปจริงๆ

     

    “นิสัยไม่ดี”จุนโฮต่อว่าน้อยๆ ดวงตาที่ช้ำจากการร้องไห้มากมายออกอาการค้อนอย่างน่ารัก ที่ต่อว่าเพราะอีกคนถือวิสาสะเอาเรื่องในหัวของเขามาพูดอีกแล้วน่ะซิ นี่ล่ะ..คนนิสัยไม่ดี

    “ใช่..ฉันมันนิสัยไม่ดี เพราะอย่างนั้นก็เลิกว่าฉันในใจเสียทีซิ”เสียงทุ้มกระซิบลงที่ข้างใบหูเล็ก กดใบจูบแรงๆที่กลุ่มผมนุ่มหยักศกสีเข้มนั้น จนอีกคนถึงกับหรี่ตาลงด้วยความเขินอาย

     

    ใจเขาเต้นแรง มันเต้นเหมือนกำลังบ้าคลั่ง ตอบรับการกระทำของชานซองเป็นอย่างดี ร่างกายและหัวใจของจุนโฮนั้นแสนซื่อสัตย์ทั้งต่อตัวเอง และคนที่เขารักเหลือเกิน

     

    เขาไปไหนไม่ได้แล้ว เขาไม่มีที่จะให้ไป..นอกจากตายแทบเท้าของชานซองเท่านั้น

     

    คำพูดที่ไม่มีเหตุผล คำบอกกล่าวที่ไม่มีที่มา แต่ไม่รู้ทำไม จุนโฮถึงไม่รู้สึกเสียใจที่เขาเลือกที่จะทำร้ายตัวเอง เพื่อให้เขาได้เป็นแค่เพียงเงาในสายตาของชานซองซักครั้ง

     

    และฝันของเขาก็ได้เป็นจริงแล้วเห็นไหม ที่เขาฝันว่าซักวินาที ที่ชานซองจะมีจุนโฮในห้วงของความคิด

     

    แม้ในขณะที่ชานซองอาจจะต้องการทั้งเขา และอูยอง หรือต้องการใครอีกก็ไม่อาจรู้ได้ เพียงแต่ใจของจุนโฮไม่ต้องการอะไรนอกเสียจากคนตรงหน้าของเขา

     

    “นายรู้ไหม..ว่าฉันชอบอะไรมากที่สุดในตอนนี้”ชายหนุ่มถามเสียงเบาในขณะที่อีกคนกลับเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตากลมเรียวเล็กนั้น

     

    จุนโฮทำเพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆกับอกแข็งแรงของอีกคน ดวงตาช้ำที่พอมีประกายนั้นสื่อแทนคำพูดคำถามที่เจ้าตัวรู้สึกนึกคิดขึ้นมา

     

    “ฉันชอบที่จะได้ยินในสิ่งที่นายคิด ถึงแม้ว่าฉันจะเคยรำคาญมันมาก เพราะไม่ว่ายังไง ฉันก็ห้ามให้ไม่รับฟังมันไม่ได้ มันไม่มีเหตุผล แต่ตอนนี้ช่างหััวมันประไร..”ชานซองใช้ปลายนิ้วของเขาหมุนเอาปอยผมที่เริ่มยาวของจุนโฮขึ้นมาส่วนหนึ่งก่อนจะเริ่มหมุนมันเล่นเบาๆ

     

    “ดีเสียอีกในตอนนี้ ที่ทำให้รู้ว่านาย คิดถึงแต่ฉันมากแค่ไหน”ชายหนุ่มหยอดน้ำคำหวานจนหัวใจเล็กๆนั้นพองฟูขึ้นมาอีกครั้ง

     

    เขาไม่เคยได้ยินถ้อยคำแบบนี้จากชานซองเลย มาจนถึงตอนนี้..ความเจ็บที่ผ่านมามันแทบจะมลายหายไปเสียสิ้น ไม่เหลือเค้าของความเจ็บเอาไว้เลย

     

    “ฉัน..จะมองนายให้มากกว่านี้ จะพยายามคิดเรื่องนายให้มากกว่านี้ ทุกอย่างมันยากตั้งแต่มีนายเข้ามาวุ่นวายในชีวิต มันอาจจบไม่สวย เพราะฉันเองก็ยังไม่รู้ว่าฉันรู้สึกยังไงกันแน่ แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งไปไหนเลยนะ”ไม่มีคำไหนบรรยายคำพูดของชานซองได้ดีไปกว่า

     

    ผู้ชายที่โคตรเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้อยู่ฝ่ายเดียว นั้นคงเป็นคำจำกัดความที่ชายหนุ่มใช้ด่าว่าตัวเอง

     

    แต่เสี้ยวหนึ่งของคำพูดเหล่านั้นกลับทำให้ชีิวิตของจุนโฮดูมีค่า อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่แค่อาหารที่ชานซองต้องการ ไม่ได้มีค่าต่ำต้อยอย่างที่เขาเข้าใจมาตลอด

     

    อย่างน้อยๆมันก็น่าภูมิใจ ที่สองมือของเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สิ่งมีชีวิตท่ี่เรียกว่าหัวใจของคนไร้หัวใจ ที่แสนเย็นชาคนนี้เต้นเป็นจังหวะเบาๆ

     

    แม้ชานซองจะไม่เคยพูดคำว่าขอโทษที่เขาเห็นแก่ตัว แต่เขาก็ได้พูด เหนี่ยวรั้งจุนโฮว่าอย่าไป..มันจะมีความหมายอะไรไหมนะ

     

    กับอนาคตที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า

     

    ……………………….

    ……….………

    ……….

     

    “อย่าดันซิว่ะ…ชู่ว!! ไอ้ยักษ์เดี๋ยวเถอะแก!!”เสียงกระซิบหระซาบที่ทำเอาคนตัวหมีมีอันต้องสะดุ้งสะเทือนไปด้วยอีกคน เนื่องจากอีกห้าชีวิตกำลังแง่มประตูออกเพื่อดูสองคนที่กำลังนอนพลอดรักกันอยู่ในห้อง

     

    เอาเป็นว่าลุ้นตัวโก่งนี่ถ้าไปนอนอยู่ใต้เตียงได้พี่แกก็คงทำไปแล้วล่ะ

     

    ด้วยว่าความจริงท่านๆทั้งหลาย ยกเว้นคุณพ่อคุณแม่ของท่านเจ้าของบ้านน่ะนะ ได้มาเบียดเสียดอยู่หน้าประตูห้องนอนที่แง่มไว้เพียงนิด จะว่าหลังจากจัดการเรื่องโรงพยาบาลเสร็จก็เลยกลับบ้านมาเลย กลัวใจชานซองจะรุนแรงกับคนกำลังป่วยอย่างจุนโฮ

     

    ยิ่งบอกว่าจะร่วมมือกันช่วยสองคนนี้เสียทีก็ยิ่งแล้วใหญ่ คร้านจะให้ฝั่งสาวเจ้าบอบช้่ำไปมากกว่านี้ ก็เห็นเป็นเรื่องไม่ควรทำอย่างยิ่ง เลยต้องรีบแจ้นหากจุกตูดกลับมาดูอาการว่ายังครบสามสิบสองอยู่ไหม นั้นก็หมายถึงจุนโฮนั้นเอง

     

    ก็พ่อคุณรุณช่องเล่นกระชาก(สายน้ำเกลือ)และลาก(อุ้ม)ออกมาจากโรงพยาบาล ใครจะไม่จิตตกไหวล่ะว่ะ!!!!

     

    “แหม่…ไม่น่าเชื่อชานซองมันจะมีมุมอย่างนี้กับเขาด้วยนะ”แทคยอนที่ดูดูท่าจะกลัวว่าเหยื่อจะรู้ตัว จากการเบียดเสียดแล้วไอ้ประตูบ้านน้อยๆจะหลุดผลัวะเข้าไปเหมือนในละครน้ำเน่า และคำนวนดูแล้วนำหนักตัวเองนี่ล่ะที่จะเป็นตัวทำให้เกิดเหตุการณ์ที่สามารถพยากรณ์ไว้ได้

     

    เลยต้องโหย่งตัวด้วยท่าทางน่าเกลียดออกมาซะก่อน

     

    “นั่นซิเนอะ เห็นปกติทำแต่หน้านิ่งๆ เสียงดุๆ ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ”คราวนี้เป็นหน่วยเสือกตัวที่สองอย่างอูยองที่พอรู้เรื่องกับเขาแล้วก็เอาบ้าง อย่างเสือกอย่างเป็นทางการ

     

    ส่วนนิชคุณไปยืนสมทบอยู่กับแทคยอนและจางฮยอกที่กำลังทำท่าครุ่นคิดว่ากูจะเอายังไงกับไอ้คนในห้องสองตัวนั้นดี

     

    “เค้าก็ดูรักกันดีไม่ใช่หรอ เขาสองคนรักกันไม่ใช่หรอ”จางฮยอกแทบที่ติดนิสัยกัดเล็บของตัวเอง แทบจะกัดนิ้วของตัวเองเข้าไปเพราะอาการขบคิดมากของตัวเอง

     

    มันมีอะไรผิดพลาดตรงไหนหรือ สายตาของชานซองก็เต็มไปด้วยความรัก ความอาลัยอาวรณ์ในตัวจุนโฮ ด้านน้องชายเขาไม่ต้องพูดถึง นอกจากตกหลุมรักชานซองแล้ว ยังขุดหลุมกลบฝังตัวเองตายลงไปอีก

     

    แล้วทำไมมึงไม่ตกร่องปล่องชิ้นกันไปเลยล่ะ มาทรมานกันให้เจ็บให้ปวดอยู่ทำไม เพราะถ้าหากยังไม่มีการตัดสินใจอะไรที่แน่นอน ยิ่งดึงเวลากันต่อไป จุนโฮก็คงไม่แคล้วยิ่งลำบากหนักไปกว่าเก่า

     

    “ที่มันยังไม่ได้กันน่ะ เพราะไอ้ตัวที่นั่งหน้าแสล๋นอยู่นั้นไง จำไม่ได้เรอะ”แทคยอนเอามือชี้ไปยังน้องชายตัวเองที่นั่งทำแก้มอูมไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว ยุ่งเรื่องชาวบ้านเขาไปอย่างนั้นแหละ

     

    “นั้นซินะ คงต้องรีบทำอะไรบางอย่างให้ชานซองเข้าใจตัวเองซักที”สุดท้ายแจบอมก็เลือกที่จะปิดประตูให้สองคนนั้นได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

     

    “มันไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะ ตอนนี้..มีเรื่องใหญ่ไม่แพ้กันด้วยล่ะ”นิชคุณทำหน้าไม่สู้ดีนัก ในขณะที่แทคยอนเองก็พอจะรับรู้มาบ้าง

     

    ในนรกเขาเองก็ไม่เล็กหรอกนะ ตำแหน่งของเขาถือว่าไม่เล็กเลยจริงๆ

     

    “ชานซองขึ้นมาที่นี้ได้หลายวันแล้ว จะว่าไปก็เกือบเดือน แม้เวลาในนรกจะยาวนานกว่า แต่พวกนั้นกำลังเริ่มรู้ตัวว่า เจ้านายมันขึ้นมาบนโลก..นรกกำลังจะปั่นป่วนเพราะขาดคนดูแล”นิชคุณเม้มปากตัวเองแน่น เขามีท่าทีที่ไม่สู้ดีนักเลย

     

    เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แสนคอขาดบาดตาย

     

    “แล้วที่แย่กว่านั้น เราไม่สามารถแยกชานซองออกจากจุนโฮได้เลย เพราะตอนนี้..มีชานซองอยู่กับจุนโฮ มันเลยเหมือนกับปรกติดี แต่ถ้าพ้นเงาของชานซอง จุนโฮคงส่งกลิ่นหอมกำจายไปทั่ว ปีศาจจากทุกมุมโลก คงได้รุมทึ้งจุนโฮไม่ต่างจากอาหารชั้นดีแน่”แทคยอนถอนหายใจหนักขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

     

    คิดถึงเรื่องที่จะต้องเกิดหนทางก็ยิ่งตัน

     

    ทางเดียวที่จะแก้ปัญหาทุกอย่างได้อาจจะมีเพียงแค่ ทำให้ชานซองรู้ใจตัวเองขึ้นมาให้เร็วที่สุุด..และให้เจ้าตัวนั้นล่ะเป็นคนจัดการกับเรื่องนี้ จัดการอย่างไรน่ะหรือ ไม่ได้ยากหรอก

     

    ก็แค่..ให้ท่านพญายม ตีตราที่จุนโฮ ให้เป็นชายาปีศาจเสียก็หมดเรื่องไงล่ะ!!!!!!!!

     

    (50%)

     

    แต่กว่าจะได้เป็นคงไม่ง่ายหรอกนะไอ้ตำแหน่งนี้น่ะ..

     

    เรื่องรักพระสวามีเนี่ยไม่เป็นสองรองใครทุกคนเชื่อ แต่ไอ้เรื่องจะมามาดดาร์คน่ะพวกกูว่ายากนะ ลองคิดภาพตามกันช้านะครับ.. จุนโฮ เป็นนางพญา..ห่างไกลกับคำนั้นไปอีกสามสิบแปดชั่วโคตร

     

    แค่ลุกขึ้นมาหือชานซองยังยากเลย เหอๆๆๆ ไปเป็นชายาในนรกคงฮาพิลึก ไหนจะไอ้สนมที่คอยจะเลียแข้งเลียขาพระสวามีสุดหล่อแต่เถื่อนนั้นอีก

     

    โอย..แค่คิด แทคยอนลมจะจับฮ่ะ ใครก็ได้เอาลิงถือดอกท้อมาให้เค้าที!!!!!!! จะเอาเข้ารูจมูกทีเดียว ใช้ร่วมกับเซียงเพียวอิ้วก็บ่ยั่น!!!!!!!

     

    “แล้วไอ้ตำแหน่งชายาปีศาจของนาย..คือ..เมียพญายม..ใช่ไหม”ลูกเจ้าสมุทรก็ใช้คำได้ตรงเหลือเกิน

    “ถูก!!! คุณได้เข้าไปเล่นรอยต่อไปแล้วครับ”ก็ยังมีอารมณ์มาตลกอีกนะไอ้ฟันเยอะ

     

    “จุนโฮเป็นไม่ได้หรอก เป็นไม่ได้หรอก”จางฮยอกปฏิเสธเสียงแข็งแรงขึ้นมาทันที เกือบจะเสียงดังเสียจนแทคยอนต้องแร่เอามือใหญ่มาปิดปากเขาเอาไว้

     

    ไม่ต้องเสียงดังขนาดนั้นก็ได้ กูก็คิดแบบนั้นเหมือนกันแหละว่าจุนโฮเป็นไม่ได้!!!

     

    “เบาๆซิเดี๋ยวเสียเส้นหมด ไปๆๆ ลงไปคุยกันข้างล่างปล่อยให้สองคนนั้นได้อยู่ลำพังบ้างเถอะ ไอ้ตัวเล็ก…ไปได้แล้ว ไม่ต้องห่วงจุนโฮมันหรอก”แทคยอนว่าพลางคว้าแขนของหัวหน้าหน่วยเสือกอย่างปาร์ค แจบอมให้ตามมาด้วยกันก่อนจะเดินเบากริบไม่สมกับตัว

     

    ไม่พอแถมยังลากเอาคนรักที่ขนาดพกพาให้ตามมาด้วย แม้จะมีขืนๆอยู่บ้างในทีแต่กระนั้นก็ไม่กล้าจะพูดอะไรออกมามานักเดี๋ยวว่าจะเียงดังจนคนในห้องต้องรู้ตัวเสียก่อนจะได้เรื่องได้ราว

     

    …………………….

    ……………..

    ……

     

    “ปล่อยผมได้แล้วครับชานซอง”จุนโฮยิ้มออกมาน้อยๆ เขานอนท่าเดิมอยู่นานเสียจน ท้องฟ้ายามกลางวันเริ่มมืด ดูเหมือนไม่มีทางที่ชานซองจะคลายแขนออกจากตัวเขาได้เลย

    “ขออยู่อย่างนี้อีกซักพักได้ไหม”ชานซองสูดกลิ่นอ่อนจากกลุ่มผมนุ่มของจุนโฮเบาๆในขณะที่แขนอีกข้างแทนที่จะปล่อยตามคำขอกลับยิ่งกระชับแน่นไปกว่าเดิม

     

    “ไม่เอานะครับ เดี๋ยวผมต้องลงไปเตรียมอาหาร แม่ก็ไม่อยู่…คนที่บ้านจะทานอะไร ป่านนี้คงกลับมาแล้ว ไม่แขวนท้องรอกันหมดแล้วหรอกหรอครับ”จุนโฮว่ายิ้ม เอาปลายนิ้วเขี่ยนปลายจมูกของอีกคนเบาๆ เขาไม่รู้ว่าทำร้ายเอาคืนชานซองได้อย่างไร

     

    ใจน่ะไม่กล้าอะไรเลยซักอย่าง บ้างก็กลัวชานซองจะเจ็บ บ้างก็กลังจะอารมณ์เสีย

     

    “นายนี่มันขี้กลัวจริงๆเลย ตัวฉันใหญ่ขนาดนี้..ฉันน่ะไม่เจ็บง่ายๆหรอกนะ”ชายหนุ่มว่างับปลายนิ้วมือเรียวของคนจิ้มดังงับจนเกือบสะดุ้ง  แทบชักมือกลับไม่ทัน

     

    “ชานซองต่างหากที่น่ากลัว ชอบทำหน้านิ่งๆ ตาดุๆใส่ผมตลอดเลย พูดจาใจร้ายใส่ผมอีกต่างหาก ไม่ให้ผมกลัวหรอครับ”ว่าแล้วก็หน้างอใส่เขา อมลมทำปากจู๋ น่าเอ็นดูเสียไม่มี อดไม่ได้ที่ชานซองจะหัวเราะออกมาเบาๆด้วยนึกชอบใจที่ได้ยิน

     

    จะมีใคร…ทำให้เจ้าปีศาจคนนี้ สามารถอารมณ์เสีย โกรธได้มากที่สุด และก็ทำให้เขายิ้ม อารมณ์ดีได้ในเวลาเดียวกันแบบนี้ คงมีแต่จุนโฮล่ะมั้ง

     

    “นายมันชอบทำให้ฉันโมโหอยู่เรื่อย”ชานซองพูดในขณะที่มือของเขาก็ไล้แก้มเนียนนั้นไปพลาง ทำเอาคนฟังตาโต แม้จะโตได้ไม่มากนักแต่มันก็ใหญ่กว่าปกติหลายเท่าตัว

     

    “ผมไปทำตอนไหนกัน!!!!”

    “ทำทุกตอนน่ะแหละ ตอนที่นายไม่คุยทำเป็นเมินฉัน ตอนที่นายไปคุยกับไอ้ดูจุน ทำท่าสนิทสนมกับมันเสียเต็มที่ ไหนจะเรื่องพี่นายอีก..ชื่ออะไรนะ”เขาไม่ใช่คนช่างจำ แน่นอนอะไรที่ไม่มีผลประโยชน์หรือก่อความรำคาญให้กับเขา สมองมันเลือกจะคัดท้ายทิ้งไปเสียด้วยตัวของมันเอง

     

    แต่ที่เขาจำ ยุน ดูจุนได้ เพราะไอ้ลูกหมานั้นเกือบได้พรากพรหมจรรย์ชายของจุนโฮไป..ริอาจชิงตัดหน้าเขาเสียก่อน

     

    “พี่จางฮยอกหรอครับ”มีไม่กี่คนหรอก เพราะอย่างนั้นเขาเลยเดาได้ไม่ยาก

    “เออ..ใช่!! ไอ้นั้นล่ะ แถมยังไอ้หมอหมานั้นอีก เห็นไหมนายทำฉันอารมณ์เสียตั้งเยอะ”พูดได้อย่างหน้าตายมาทีเดียวแบบเสียงนิ่งๆ แม้รูปประโยคจะขัดกับใบหน้านั้นก็เถอะ

     

    จุนโฮได้แต่ทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออก เขากำลังทำหน้าตลกอยู่แน่ๆในตอนนี้เพียงแต่เขาจะแก้ต่างให้ตัวเองอย่างไรดี

     

    “ไหนจะแก้ตัวยังไงฮึ”

    “นิสัยไม่ดีน่ะครับ มาแอบฟังความคิดของอื่นอีกแล้ว”ยังไม่ทันได้เอ่ยปากอะไรมากก็ทักขัดเขามาเสียแล้ว แถมยังทำเสียงกวนอีกแน่ะ ไม่รู้พ่อปีศาจนี่ไปฝึกมาจากไหนนัก ยิ่งอยู่ก็ยิ่งดุเหมือนจะเจ้าเล่ห์ชอบกล

     

    “อย่ามัวแต่ว่าฉัน เร็วเข้า ว่ามา..”

    “อย่าเร่งซิครับ ผมตกใจนะ”จากที่เขาควรเป็นฝ่ายน้อยใจ..ไม่รู้อีท่าไหนถึงกลายมาเป็นว่าเขาจะต้องมาโดนชานซองสอบสวนเอาเสียได้ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

     

    “ถ้าบอกช้าฉันจะจูบจริงๆนะ”ชานซองกดยิ้มที่มุมปาก แต่คนฟังนี่ซิหน้าเหวอ

    “อะไรกันครับ..เรื่องดูจุนผมไม่รู้ซักหน่อยว่าเขาคิดกับผมอย่างนั้นได้ยังไง ผมคิดกับเขาแบบเพื่อนสนิทมาตลอดเลยนะครับ ส่วนพี่จางฮยอกเขาเป็นพี่ชายผมนะครับ ไม่มีทางคิดเป็นอย่างอื่นเลย หมอคุณ..เอ่อ..”พอพูดถึงนิชคุณกลับทำเอาจุนโฮพูดไม่ออก

     

    ในสมองเขากำลังประมวลผมอย่างรวดเร็วว่าเขาควรจะพูดดีไหม..ในเมื่อเขารู้ว่านิชคุณน่ะไม่ได้มาข้องแวะกับเขาเพราะสนใขในตัวเขาเลย แต่นิชคุณปลงใจแล้วกับอูยอง

     

    เขาไม่ได้ลืมว่าชานซองได้ยินที่เขาคิด แต่เมื่อชานซองถามสมองเขาไม่สามารถโกหกได้อยู่แล้ว

     

    นั้นทำให้ทุกอย่างเงียบงัน บรรยากาศที่เหมือนอบอุ่นในคราแรกดูเย็นตัวลงอย่างถนัดตา ทำให้จุนโฮทำอะไรไม่ถูก…รู้สึกผิดขึ้นมา..ทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลย

     

    เพียงแต่มันมีเรื่องที่จุนโฮไม่รู้เลย

     

    เรื่องที่เขาไม่รู้คือ มันน่าตลกที่หัวใจของชานซองมันกลับไม่มีความรู้สึกอะไรกับความคิดนั้นของจุนโฮ ความคิดที่ว่านิชคุณชอบอูยอง ทั้งๆที่มันควรจะมีอาการ ไม่ชอบ ไม่พอใจ

     

    แต่ใจเจ้ากรรมมันช่างสงบยิ่งนัก..เขาไม่เข้าใจ ทำไมมันถึงไม่รู้สึกอะไรเลย มันกลับมีผลมากมายนัก ทัั้งประท้วง บีบแน่น และหากมันเป็นสิ่งมีชีวิต คงคำรามเสียงดัง ถ้าเพียงแต่เป็นเรื่องของจุนโฮ

     

    สุดแสนประหลาดนัก ทั้งที่เขาคิดว่าเขารักอูยองแท้ๆ

     

    “ผ..ผม ผมขอโทษ”สุดท้ายจุนโฮก็เอ่ยออกมา เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เขารู้..แต่ที่มันผิดคือการทำให้อีกคนเสียใจ นั้นล่ะที่ทำให้เขาเกิดละอายออกมา

     

    ชานซองมองคนที่เขากอดเอาไว้แทบจะทั้งตัวด้วยดวงตาที่อีกคนยากจะเข้าใจ ชานซองเข้าใจยากเสมอ จุนโฮรู้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาชานซองมีหลากหลายอารมณ์ในเวลาเดียวกัน บางครั้งก็โกรธ อารมณ์ร้อน หุนหัน หรือบางคราก็นิ่งงันเสียจนแทบไม่ไหวติง หลายครั้งที่เขามักตามอีกคนไม่ทัน

     

    เดาไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้จุนโฮรักชานซองน้อยลงเลย

     

    “ขอโทษฉันทำไม..ไม่ใช่ความผิดของนายซักหน่อย”นิ้วยาวเกลี่ยไปตามแก้มนวลนั้นเบาๆ ยิ้มอ่อนๆทำให้คนที่อยู่นั้นใจชื่น หากปากก็ยังถามคำตอบที่เขารู้อยู่แล้ว

    “ผม..ทำให้ชานซอง…ร..รู้สึกไม่ดี ผมพยายามไม่คิดแล้ว แต่ผม..ห้ามไม่ได้”จุนโฮบอกปากคอสั่น

     

    เขากับชานซองเพิ่งจะดีกันได้ไม่เท่าไหร่ ไอ้ความคิดเมื่อกี้ก็พาลทำให้ชานซองไม่พอใจเขาเสียแล้ว

     

    “ฉันไม่ได้ ไม่พอใจซักหน่อย อย่าคิดมากเลยนะ”ชานซองกดศีรศะกลมอีกคนให้ลงมาใกล้ กดปลายจมูกลงที่หน้าผากเนียนนั้นเบาๆ ราวกับต้องการปลอบ

     

    “มันดีแล้วที่เป็นอย่างนั้น มันดีแล้วที่นายจะคิดอะไรออกมาอย่างซื่อตรง”ชายหนุ่มว่าเบาๆ

    “แต่ว่า…”

    “เรื่องนั้นช่างมันเถอะนะ ช่างมันเถอะ..สมควรแล้วนี่ คนโลเล เห็นแก่ตัวอย่างฉันน่ะ”นอกจากจะไม่เกรี้ยวกราดอารมณ์เสียแล้ว เจ้าตัวยังพูดราวกับปลงด้วยซ้ำไป ทำเอาคนฟังประหลาดใจพอควร..หรือความหวังอันน้อยนิดของเขาอาจจะกำลังค่อยๆเป็นจริง

     

    ความหวังที่ว่าตอนสุดท้ายของเรื่องนี้..เขาอาจสมหวังในรักครั้งแรก

     

    …………………..

    ………….

    …..

     

    “เฮ้ยๆๆๆ ลงมาแล้วๆ อึบเลย..อึบ”แทคยอนเอาเท้าสะกิดผู้ที่ร่วมกันประชุมเพลิงอยู่ด้านล่าง ให้หยุดการสนทนาลงเนื่องจากคนในหัวข้อสนทนากำลังก้าวเข้าครัว

     

    หากที่แปลกใจคือ กลายเป็นจุนโฮที่ลงมาคนเดียว

     

    “อ..อ้าว..เอ่อ ม..มา ถึงนานแล้วหรอครับ”คนมีศักดิ์เป็นเจ้าของบ้านออกเสียงตะกุกตะกักน้อยๆ ด้วยความรู้สึกกระดาก ด้วยว่าเขาไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดีที่หายเข้าไปอยู่ในห้องกับชานซองนานสองนาน แถมยังให้คนอื่นมานั่งรออยู่ด้วย ยิ่งมาถึงบ้านเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้ว่าเขาอยู่ในห้องกับชานซองมากเท่านั้น

     

    และอย่างยิ่ง เขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อหน้าอูยอง

     

    “ไม่นานหรอก เมื่อกี้เอง..กำลังคุยกันเรื่องมื้อเย็นจะกินอะไรดี”คยไหวพริบเป็นเลิศอย่างแทคยอนมีหรือจะปล่อยให้โดนจับไต๋ได้ น้อไปซะแล้ว เจ้าตัวเลยทำท่าทางเนียนพยักพเยิดไปทางคนรักที จางฮยอกที

    “อืม..เพิ่งถึงเมื่อกี้เอง กว่าจะเคลียร์เรื่องที่โรงบาล’ ก็ยาวพอดู เรื่องประกันสุขภาพกว่าจะผ่านนานอยู่”แม้จะเพิ่งรู้จักกันไม่นาน แต่จางฮยอกนี่ก็รู้งาน เข้าขาได้ดีกับแทคยอนเหลือเกิน

     

    “อ้าวหรอครับ ผมขอโทษจริงๆนะฮะที่ทำให้เดือดร้อน”

    “เฮ้ย..ขอโทษทำไม ความผิดนายที่ไหน โน่นความผิดไอ้คนโน่นมัน ว่าแต่มันไปไหนแล้วล่ะ”แจบอมที่ทุนเดิมเขาก็ไม่ค่อยพอใจหลายๆการกระทำของชานซองเอ่ยประชด ไม่วายทำสายตาประล่ำประเหลือกไปด้วย

     

    “อ่อ..เห็นว่าขอนอนต่อน่ะครับ เดี๋ยวผมทำอะไรให้ทานนะฮะ”จุนโฮเอ่ยอย่างเลี่ยงๆ

    “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันทำเอง ไหวแล้วหรอจุนโฮ ร่างกายนายยังต้องการการพักผ่อนอยู่ นายกลับขึ้นไปนอนเถอะ”เป็นนิชคุณเสียอีกที่ถามไถ่

     

    เขาไม่ได้คิดเกินเลยมากกว่าเพื่อนทั้งสองฝ่ายรู้ดี

     

    “อย่าเลยครับ ลำบากแขกเปล่าๆ”

    “พวกเราต่างหากที่รบกวน แถมเจ้าของบ้านก็ป่วยด้วย”คราวนี้พอเจอแทคยอนเสริมทับไปอีกที จุนโฮเลยได้แต่พยักหน้าเบาตอบรับคนทั้งคู่ไปอย่างช่วยไม่ได้

     

    “งั้นเดี๋ยวผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ ตั้งแต่เช้าก็ยังไม่ได้อาบมีเรื่องให้ไปโรงพยาบาล ถ้ายังไม่เสร็จเดี๋ยวผมมาช่วยนะครับ”คนพูดยิ้มอ่อนๆบอก หากคนที่เหลือก็ได้แต่พยักหน้ารับกลับไป

     

    เอาว่ะ..ยังไงวันนี้ก็ยังรอดตัวกลับไปคิดแผนอีกวัน ทั้งๆที่สมองทั้งหมู่คณะยังตันอยู่เลยว่าจะทำยังไงให้มันลงเอยกันซักที หนทางยังดูยาวไกลเหลือเกินเลยเชียว

     

    แต่จะอย่างไรก็เถอะ ขออย่าทำอะไรที่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเลย เดี๋ยวจะมันจะได้ซวยกันทั้งกกนี่ล่ะ

     

    *******************************************************************************

     

    TBC อ่า...ยังหวานอยู่...ไม่ซิ หวานมากเลยแหละเฮะ อยากใ้มันเป็นอย่างนี้อีกซักพักจังเลย

    BDer.
                  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×