ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC 2PM]MY DARE DEVIL…ปีศาจที่รัก [YAOI] CHANHO

    ลำดับตอนที่ #13 : [LF 2PM]“MY DARE DEVIL…ปีศาจที่รัก” PART 13

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.12K
      11
      20 ม.ค. 55

     

     “MY DARE DEVIL…ปีศาจที่รัก
    Won Der.


     

    Part 13 (หลังจากออเดิฟเราต้องล้างปากซักนิดหนึ่ง)

     

    “ด..ดูจุน ได้..โปรด..ฮ..ฮึก”

     

    เพล้ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! พลั่ก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    “แฮ่กๆๆๆๆๆ….กรรรรร!!!!!”เสียงหอบและเสียงขู่นั้น เกิดขึ้นเร็วๆ พอๆกับภาพตรงหน้า ชานซองในร่างกายไม่ปกติกำลังจ้องเอาเท้าเหยียบยอดอกของดูจูนเอาไว้ใต้แทบเท้า

     

    ทั้งคู่…ดูไม่เหมือนคนที่เขาเคยรู้จักเลยซักนิด

     

    “ฉันเคยบอกแกว่ายังไง ไอ้แวมไพน์ ชั้นต่ำ แกสมองเสื่อมหรือจำไม่ได้กันแน่ หา!!!!!”น้ำเสียงดุดันเอ่ยพร้อมกับนัยตาสีแดงฉานที่จดจ้องไปยังร่างที่นอนกองอยู่ใต้เท้านั้นเย็นเยียบเยียบไปถึงขั้วหัวใจ

     

    ดูจุนไม่เคยกลัว…แต่ตอนนี้เขากลับเรียนรู้ว่าความกลัวเป็นเช่นไร

     

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวดเร็วเมื่อกี้ คือ ชานซองที่ไม่รู้มาจากไหน บินทะลุหน้าต่างเข้ามา เอาเท้าเตะอีกคนลงไปนอนกองกับที่พื้นก่อนจะเอาเท้าเหยียบอีกคนไว้ด้วยฝ่าเท้าเดียว ในขณะที่จุนโฮมีแต่เสื้อผ้าหลุดลุ่ย จวนเจียนจะถูกดูจุนล่วงเกินแล้ว

     

    “ป..ปล่อย..ปล่อย..อ..อั๊ก!!”ดูจุนดิ้นรนไปมา หากขาอีกคนกลับไม่มีทีท่าว่าจะขยับ กลับเหมือนกับว่าจะบดขยี้ลงไปมากกว่าเก่าเสียอีก

     

    ชานซองที่บัดนี้สยายปีกสามคู่สีดำสวยของตัวไปมา จนมันเกือบจะเต็มพื้นที่ห้อง รอยคล้ายรอยสักสีดำขนาดใหญ่พาดกรลงไปตามสองแขนจรดปลายนิ้วมือ เขี้ยวคู่คมยาออกมาจนเห็นเด่นชัด และเขาแพะที่ตั้งสูงจากขอบหน้าผากนั้นทำให้ชานซองดูน่ากลัวเหลือเกิน

     

    ไอวิญญาณนับร้อยที่รายล้อมไปรอบตัวรูปร่างใหญ่นั้น กำลังส่งเสียงโหยหวนราวกับตอบรับการคำรามของเจ้านายมันเป็นอย่างดี

     

    เคยคิดว่าชานซองน่ากลัวแล้ว…แต่สิ่งที่เห็นอยู่ตอนกลับน่ากลัวยิ่งกว่า

     

    “ตอนแรกฉันว่าจะขอบใจ ที่แกช่วยจุนโฮไว้จากไอ้อาจารต้าร์เฮงซวยนั้น..ฉันแค่เสียเวลาไปส่งมันกลับนรกแป่บเดียว แกคิดจะงาบเหยื่อของฉันอีกตัวงั้นหรอ..”ชายหนุ่มกดปลายเท้าใต้รองเท้าหนังมันปลาบลงไป จนคนข้างใต้กระอักออกมาเป็นเลือด

     

    “อ้าก!!...อัั่ก..แฮ่กๆๆ แล้ว..แล้วยังไงล่ะ ในเมื่อท่าน..ก็ไม่ได้สนใจใยดีเขาอยู่แล้วนี่..อย่างจุนโฮน่ะ ท่านหาที่ไหนก็..อ้ากกกกกกกกกกก”ดูจูนในร่างแวมไพน์เต็มตัวโหยเสียงร้อง เมื่อชายหนุ่มกระแทกส้นเท้าลงไปที่หน้าอกของเขาอย่างแรง

     

    “หุบปาก!!!!! แกไม่มีสิทธิ์มาสอดรู้เรื่องของฉัน!! ของๆฉันถ้าฉันไม่ให้!! ใครหน้าไหนก็เอาไปไม่ได้!!”ชานซองกระชากตัวของดูจุนขึ้นมาด้วยมือเดียว ในขณะที่อีกมือก็ทำท่าเหมือนจะล้วงเข้าไปในหน้าอกของคนที่เสียเปรียบ

     

    “ไหนๆแกก็ตายไปแล้ว ฉันจะส่งเศษเขี้ยวของแกไปให้พ่อแม่แกเป็นที่ระลึก หลังจากที่แกโดนสัตว์เลี้ยงในนรก ไอ้เซอร์บิรัสนั้นแทะเล่นละกัน”ชานซองยิ้มโชว์เขี้ยวของตัวเอง พูดเสียงเย็นจนคนฟังหนาวเยือก

     

    เมื่อมองลงไปในนัยตาสีเพลิง กลับเห็นภาพตัวเองกำลังถูกเจ้าหมาสามหัวนั้นฉีกทึ้งไปมาอย่างไม่มีชิ้นดี นั้นคือภาพหลอนที่เขาไม่ได้คิด แต่เป็นสิ่งที่ชานซองอยากให้เห็น

     

    “อ้าก!!!!!!! ไม่!!!!!!!!! อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”ดูจูนร้องหวยหวนดิ้นไปมาอยู่คนเดียว ร้องทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดจากภาพหลอนที่คิดว่าเป็นของจริง

     

    ในขณะที่ชานซองทำเพียงแค่ยิ้มที่มุมปากมองภาพตรงหน้าอย่างเย็นชาระคนสะใจเท่านั้นเอง นี่ยังน้อยไปดัวยซ้ำ ถ้าเทียบกับไอ้งูนรกที่เขาไปกระชากลิ้นแฉกของมันออกจากปากโทษฐานไม่รู้ที่ต่ำที่สูง อย่างดูจุนน่ะ น่าจะเลาะลูกตาออก พร้อมกับเย็บปากไม่รักดีของมันเสีย

     

    “พ..พอที…พอที..ชานซองครับ..พ…พอเถอะ”จุนโฮร้องอ้อนวอนเอามือปิดหูของตัวเองสะบัดหน้าไปมาอย่างนึกกลัว เรียกความสนใจของเขาได้เป็นอย่างดี

     

    ใบหน้าใสที่เปื้อนน้ำตากำลังเงยสบดวงตาสีแดงอย่างร้องขอและหวาดกลัว เตือนสติเล็กๆว่าตอนนี้ในห้องไม่ได้มีแค่ดูจุน กับชานซอง แต่ยังมีจุนโฮอยู่ด้วยอีกคน

     

    “ชาน..ชานซองครับ..ห..หยุดเถอะ อ…อย่า ทำดูจุนเลย”จุนโฮนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าเขา ตัวบางสั่นระริกด้วยความกลัว เพียงแต่ก็ยังขอร้อให้ไว้ชีวิตเพื่อนของเขา

     

    “ทำไม..รักมันมากหรอ เมื่อกี้มันเกือบจะเอานายอยู่แล้ว ยังไปปกป้องมันอีก!!!”ชานซองเอ่ยถาม ก้มหน้าลงจนเกือบชิดใบหน้าของอีกคนที่ตัวสั่นอยู่กับพื้น หลับตาแน่นเมื่อชานซองยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้

     

    จุนโฮไม่ได้ตอบ เพียงแต่เขาแค่สะบัดหน้าไปมาจนเส้นผมกระจาย พร้อมกับน้ำตาเท่านั้นล่ะ ที่แทนคำตอบของคำถามได้เป็นอย่างดี

     

    “ถ้าไม่รักมัน ก็ปล่อยให้มันตายๆไปซะ!!!”

    “อ..อย่า อย่า เขา..เขาเป็นเพื่อน..เพื่อนของผม”จุนโฮจับมือใหญ่ของอีกคนเอาไว้ ออกแรงเขย่าราวกับเด็ก มองสบดวงตาสีแดงฉานของอีกคนด้วยความเว้าวอน ทั้งๆที่น้ำนองหน้า

     

    ชานซองจึงได้แต่ถอนใจออกมาอย่างหน่ายๆ ยอมรับกับตัวเอง..ไม่เคยใจอ่อนให้ใคร แต่กี่ครั้งแล้วที่ใจอ่อนกับสายตาแบบนั้นของจุนโฮ

     

    มองไอ้รอยช้ำตามตัว ตามมือ นั้นยิ่งทำให้เขาใจอ่อนหนักกว่าเดิม

     

    “จุนโฮ ไหนตอบฉันมาซิ…ว่านายเป็นของใคร”ชานซองถามเสียงนิ่งมองใบหน้าเปื้อนน้ำตานั้นอย่างไม่แสดงอารมณ์ใดๆ จนคนสะอึกสะอื้นนั้น ถึงกับกัดปากแน่น

     

    “ผ..ผม…ผมเป็นของชานซอง..ฮ..ฮึก..ครับ”จุนโฮพยายามพูดให้มันชัดเจนแม้จะร้องไห้ไปด้วยก็ตาม

     

    ชายหนุ่มเอามือลูบไปตามใบหน้าเล็กที่ชื้นน้ำตา อีกคนหลับตาแน่น..หากก็อดรู้สึกดีไม่ได้ในสัมผัสที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี ต่อให้จะกลัวแค่ไหน แต่ก็ไม่น่ารังเกียจและขยะแขยงเหมือนก่อนหน้า

     

    “ดี งั้นจำคำนายเอาไว้นะ…// ป๊อก”ชานซองว่าพลางดีดนิ้วของตัวเองไปเสียที ร่างที่ทุรนทุรายของดูจุนกลับสงบลงลง ตามด้วยการถอนใจอย่างโล่งอกของคนตัวเล็ก ที่เอามือปาดน้ำตาออกจากหน้าตัวเอง

     

    พอๆกับชานซองที่กำลังกลับมาเป็นมนุษย์เหมือนเดิม

     

    “เลิกร้องไห้ได้แล้วน่า…เห็นฉันเป็นยักษ์เป็นมารหรือยังไง!!!”ชานซองเอ่ยเสียงดุ หากคนโดนถามได้แต่นึกในหัวใจดวงเล็กของตัวเอง

     

    อ้าว….แล้วนี่ไม่ใช่ยักษ์ ก็ต้องเป็นมารซินะ

     

    และแน่นอน ชานซองหันควับไป แต่ไม่รู้จะว่าอย่างไรได้ ในเมื่อมันก็จริงอย่างที่อีกคนคิด เพียงแต่พอหันไป กลับเห็นจุนโฮที่ทำท่าจะเอามือสัมผัสตัวดูจุนอยู่

     

    คนตัวเล็กกำลังชั่งใจตัวเอง เขายื่นมือไปอยากจะแตะตัวเพื่อน แต่เรื่องที่เพื่อนทำกับเขามันยังคงติดอยู่ในหัวไม่ไปไหนเลย จะแตะก็ไม่กล้า พอยื่นมือออกไปจะจับ กลับต้องชักมือคืนมาเสียทุกที เป็นอย่างนี้อยู่หลายหน หลายครั้ง

     

    พยายามมองในแง่ดีว่าอย่างน้อย…ดูจุนอาจจะมีเหตุผลบางอย่างก็ได้ เพียงแต่…..มือที่จะจับตัวดูจุนของเขามันสั่นเกินไปเอง..

     

    “มันยังไม่ตายหรอก มันไม่ใช่มนุษย์มันตายไม่ได้…อย่างน้อยจนกว่าฉันจะสั่งให้มันตาย..”ชานซองเดินเข้ามาใกล้ๆอีกคนมองใบหน้าเล็กที่อิดโรย ดวงตาบวมแดงแล้วก็ต้องถอนใจเป็นรอบที่หลายร้อย

     

    “จะร้องไห้อะไรกันนักหนา..เดี๋ยวมันก็รักษาตัวมันเองได้แหละน่า ไม่สบายอยู่ไม่ใช่หรอไง”ชายหนุ่มร่างใหญ่เอามือจับไปตามใบหน้าและลำคอของอีกคน รู้สึกได้ถึงความร้อนที่กำลังสุมไปทั้งตัวแล้วนึกขมวดคิ้ว

     

    หากแม้ชานซองอาจจะดูน่ากลัวไปบ้าง แต่ไม่รู้ทำไมภายใต้ปีสีดำนี้เขากลับรู้สึกปลอดภัย จุนโฮจึงไม่ได้แสดงอาการหวาดกลัวออกไปเหมือนเมื่อซักครู่

     

    ทำไมชานซองจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับอี จุนโฮบ้างเขาเห็นทุกอย่างนั้นล่ะ..เพียงแต่โลกไม่ใช่ที่ที่เขาคุ้นเคย กว่าจะตามไปเจอไอ้งูนรกอาจารต้าตัวนั้นก็เสียเวลาส่งมันกลับนรก นี่ก็เร่งที่สุดแล้ว…ถึงขนาดบินมาขนาดนี้..

     

    ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้ แต่…สันดานของชานซอง อะไรที่เขาตีตราเอาไว้แล้ว…ถ้าเขาไม่ยกให้ใครแล้วละก็ หน้าไหนก็ไม่มีวันมาเอาไปได้ทั้งนั้นล่ะ

     

    และจุนโฮเอง…ก็เป็นของของเขาเช่นกัน

     

    “ห้องน่ะ มันคงนอนไม่ได้แล้ว ไปหาที่อื่นนอนเถอะ”ชานซองมองหน้าต่างห้องที่มันเป็นรูโหว่ แล้วหันกลับมามองเจ้าของห้องแบบเนือยๆ

     

    “เอ่อ…แล้วดูจุนล่ะ…ครับ”จุนโฮเหลือบมองดูจุนที่นอนไม่ได้สติอยู่ใกล้ๆ เขายังคงนึกห่วงอยู่กับเพื่อนของเขา

    “ถ้านายยังเป็นห่วงมัน ก็นอนที่นี้กับมันเลยเอาไหม!!!”ชานซองว่าเสียงงวดขึ้นจนจุนโฮตัวสั่นอีกนิด ภาพชานซองที่เกิดขึ้นเมื่อซักครู่ยังติดหัวเขาอยู่ไม่ไปไหน

     

    เจ้าตัวเลยได้แต่ส่ายหน้าดิ้กๆ

     

    ภาพร่างจริงของชานซองมันช่างน่ากลัว..กลัวถ้าวันนึง เขาทำให้ชานซองไม่พอใจ เขาอาจจะเป็นเหมือนที่ดูจุนเป็นก็ได้ เขากลัววันนั้น

     

    “ฉันเคยบอกนายแล้วไง..นายไม่ตายหรอก ส่วนไอ้ผีดูดเลือดนั้น ทิ้งมันไว้นี่แหละ อย่าให้ต้องพูดซ้ำสอง”ชานซองเริ่มกลับมาขู่อีกครั้ง จนคนตัวเล็กได้แต่พยักหน้าเบาๆ

     

    “แล้ว…ให้ผมไปทั้งอย่างนี้หรอครับ แล้ว…จะไปนอนที่ไหน ถ้าชานซองจะไปนอนบ้านแทคยอน..ผมเกรงใจ”จุนโฮมองอีกคนตาใส หากเจ้าปีศาจได้แต่ส่ายหัวเบาๆ

     

    เขาไม่อยากไปอีก..ถ้าเป็นไปได้

     

    “ไปแบบนี้แหละ ไปหาเอาข้างหน้าก็ได้ ส่วนเรื่องห้อง…ฉันว่าที่จริงห้องนายมันก็เล็กไปแล้ว..ถือว่าไปหาห้องอยู่ใหม่เลยละกัน”แทนคำตอบ เจ้าหนูจำไมที่ทำท่าสงสัยจะถามอะไรออกมาอีกเลยโดนรวบตัวขึ้นพาดบ่าเสียเลย

     

    “ช…ชานซองครับ ท..ทำอะไรน่ะ ปล่อยผมลงเถอะ”จุนโฮว่าเสียงสั่น มีหรืออีกคนจะสนใจ

    “ไม่ทำอย่างนี้ก็ถามอยู่ได้ น่ารำคาญ ไปกันได้แล้ว..”

     

    ***********************************************************************************

     

    ตอนนี้แทคยอนกำลังเดินเป็นหนูติดจั่น…ไม่ๆ แมวติดจั่นมากกว่า ถ้าให้นับเรื่องจริง

     

    เขามัวแต่เป็นห่วงจุนโฮ ตอนที่วิ่งออกไปอย่างนั้น รู้ทั้งรู้ว่าเป็นอันตราย แม้ว่าไม่นานชานซองจะทะลึ่งพรวดตามออกไปก็ตามแต่ แต่กลัวว่าจะไม่เจอตัวกัน

     

    ทั้งๆที่ชานซองน่าจะรู้ตัวว่า จุนโฮน่ะสำคัญกว่าตัวเองแค่ไหน รู้ว่าทั้งห่วงทั้งหวงมากเท่าไหร่ แต่ติดที่ว่ายึดติดกับอูยองมากจนเกินไป เรื่องมันเลยออกมาในรูปแบบนี้

     

    “แทค..จุนโฮจะเป็นยังไงบ้าง”นี่ก็อีกคนแม่นมชัดๆ

    “ไม่เป็นไรหรอก ฉันเชื่อว่าชานซองจะหาจุนโฮเจอ”ไม่่รู้ว่านั้นเอาไว้ปลอบใคร ระหว่างปลอบตัวเอง…หรือปลอบแจบอมกันแน่

     

    “จุนโฮน่ะเป็นคนดี เชื่อเถอะเขาต้องไม่เป็นไร”นิชคุณที่มาทีหลังแต่พอรู้เรื่องเลยพูดขึ้นบ้าง..เขามาถึงตอนที่สวนกับชานซองออกไป รับรู้ได้เลยแค่เพียงสวนกันว่า ชานซองไม่ธรรมดาเลยซักนิด เขาแค่จะมาหาอูยองซึ่งมาถึงก็หลับไปแล้ว เพียงแต่ไม่คิดว่าจะได้เข้ามาพัวพันในเรื่องอะไรที่เกิดขึ้น

     

    เมื่อพูดถึงจุนโฮ..เขาจำได้ดีเด็กคนนั้น คนที่วิ่งอุ้มอีกาเข้ามาหา โดยไม่รู้ว่า อีกาตัวนั้นจะมาเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไปตลอดชีวิต

     

    ถ้าจัดอันดับเรื่องตลกของพระเจ้าแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องบังเอิญที่แสนตลกเหลือเกิน

     

    “แล้ว…คุณมีวิธีช่วยจุนโฮบ้างไหม”แจบอมเอ่ยถาม

    “บอกเลยว่ายากครับ ถ้าคนนั้นไม่ใช่ชานซองเรื่องคงง่ายกว่านี้”นิชคุณว่าก่อนจะเอามือประสานไว้ที่หัวเข่า

     

    “แล้วเรื่องชานซองกับอูยองล่ะ คุณไม่รู้สึกอะไรหรอ”แทคยอนเดินมานั่งบ้างก่อนถามเรื่องสำคัญ

    “ถ้ามันเป็นอย่างที่คุณเล่ามา และอย่างที่ผมรู้สึกได้ ชานซองแค่เป็นคนโง่ที่ไม่รู้หัวใจตัวเองเท่านั้นล่ะครับ เป็นที่แยกระหว่างความรัก และความผูกพันไม่ออกเท่านั้นเอง แล้วผมควรจะกังวลเรื่องอะไร ในเมื่ออูยองไม่เล่นด้วยกับชานซอง”นิชคุณยักไหล่พูดด้วยความมั่นใจ

     

    “อยากให้ไอ้ชานซอง มันหายทึ่มเสียที บอกตรงๆสงสารจุนโฮ”แทคยอนออกอาการเปรยๆ เรื่องนี้น่ะเขารู้มานานแล้ว ถึงได้ว่าควสามรักระหว่างชานซองมันเป็นไปไม่ได้

     

    มันจะไม่มีวันเติบโตขึ้นมา และงอกงาม เพราะมันเป็นแค่คำว่าเพื่อนสนิท

     

    “เรื่องของหัวใจ ควรปล่อยให้เรียนรู้กันเอาเองคงจะดีกว่า พระเจ้าท่านสร้างพวกเรามา ให้ต่างกันเห็นไหมครับ แต่ท่านก็ไม่เคยบังคับ หรือห้ามปรามให้เรารักกันไม่ได้”นิชคุณมองไปที่แจบอมและแทคยอน ก่อนจะพูดต่ออีกครั้ง

     

    “พระเจ้าสร้างความรักขึ้นมา เพราะมันเป็นสิ่งสวยงาม และแม้ความรักจะมีสองด้าน คือด้านที่เจ็บปวด แต่เมื่อเราก้าวข้ามผ่านความเจ็บปวดมาได้ เราจะได้พบกับความรักที่ทั้งงดงาม และเข้มแข็งกว่าเก่า”นิชคุณเอ่ยออกมาอย่างสบายๆ

     

    นี่เป็นสิ่งที่เขาเชื่อ ชาวสวรรค์อย่างเราเชื่อในปาติหารย์แห่งรักเสมอ

     

    “ถ้ามันเป็นอย่างที่คุณพูดแล้วจริงๆ ก็ขอให้ความเจ็บปวดของจุนโฮมันผ่านไปเร็วๆทีเถอะนะครับ”แจบอมจึงได้แต่ภาวนา

     

    เขารู้ดีเรื่องความเจ็บปวด หรือสิ่งต่างๆที่นิชคุณพูด เพราะระหว่างเขากับแทคยอน มันก็เคยมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นมาแล้วเช่นเดียวกัน

     

    ******************************************************************************

     

    “อย่างนี้..ผมว่า…ไม่เกินไปหรอครับ”จุนโฮที่ยืนคว้างอยู่กลางห้อง

    “ไม่หรอก จะได้อยู่สบายๆ จนกว่าดราจะหาห้องใหม่อยู่ได้”ชานซองถอนหายใจ ถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก พร้อมกับรองเท้าที่ดูท่าจถอดยากคู่นั้น

     

    จุนโฮได้แต่อมยิ้มในหน้า คำว่าเราในประโยคเมื่อกี้ทำให้เขาดีใจ ความสุขเล็กๆของจุนโฮหาได้กับสิ่งเหล่านี้

     

    “ห้องใหญ่ขนาดนี้..มีโซฟาด้วย…งั้น ผมนอนโซฟาละกันนะครับชานซอง”จุนโฮออกตัวเอาไว้เสียก่อนเป็นการตกลงกัน

     

    ตอนนี้ทั้งคู่ ไม่ซินะ..แค่ชานซองเท่านั้นที่ตัดสินใจว่า เขาจะหาโรงแรมซักแห่งอยู่ด้วยกันไปก่อน ถ้าหากหาที่เช่าอยู่ที่ใหม่ได้เมื่อไหร่ก็ค่อยย้ายออกไป

     

    เพียงแต่ถ้าชานซองจะไม่จองห้องสวีทสุดหรือที่มีหนึ่งห้องนอนและหนึ่งห้องนั่งเล่นเอาไว้แบบนี้ แม้แต่ตอนที่จะเดินเข้ามาจุนโฮยังนึกหวั่นใจ ที่หรูหราแบบนี้ไม่ได้อยู่ในสารบบของเขาเลยซักนิด ตอนเข้ามาพนักงานต้อนรับมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งเท้าเขาก็ไม่ได้ใส่อะไรไว้ ถ้าไม่ใช่อีกคนอุ้มเขามา พอถึงหน้าเค้าเตอร์ เพิ่งจะวางลง

     

    ที่บอกว่าออกมาทั้งอย่างนั้น..คือแค่ชุดนอนจริงๆ

     

    ถ้าไม่ติดที่ชานซองวางบัตรทอง ทำเสียงราวกับจะบีบคอพนักงานต้อนรับคนนั้น จนเจ้าตัวเขาลนลานหาห้องให้แทยไม่ทันนะ เขาคงเสียความรู้สึกเอามากๆเลยล่ะ

     

    “ไม่ต้อง!!! นอนเตียงด้วยกันนั้นล่ะจบ”ชานซองถอดเสื้อที่สวมอยู่ออก โชว์แผงอกที่มีกล้ามเนื้อสวยเรียงตัวอยู่ จนจุนโฮอดหันหน้าหนีไปทางอื่นด้วยไม่ได้

     

    แม้จะเคยเห็นแล้ว แต่มันก็ไม่ชินง่ายๆหรอกนะ

     

    “อะไร..เห็นออกจะบ่อย”ชานซองแกล้งเดินเข้ามาใกล้ พูดเสียชิดริมใบหู

    “อ…อย่างนั้นก็เถอะครับ เอ่อ..ผม..ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายแล้ว ข..ขอตัวไปนอนแล้วนะครับ”จุนโฮรีบว่าก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป ทิ้งให้อีกคนยักไหล่อยู่อย่างนั้นแล้วเลือกที่จะเดินเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัวเสีย

     

    ส่วนด้านจุนโฮน่ะหรือ พอเข้าห้องนอนมาได้ก็รีบตะกาเตียงใหญ่นอนทันที ซุกตัวในผ้าห่มผืนนุ่ม คิดเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ไปคนเดียว

     

    ชานซอง…มักโยนเขาขึ้นที่สูง และปล่อยให้เขาตกลงมากระแทกพื้นจนเจ็บเสมอ จนเขาเองก็เจ็บนะบมไปทั้งตัว เพียงแต่…เขากลับจดจำแต่ช่วง้วลาที่ชานซองโยนเขาขึ้นสูงเท่านั้น

     

    ไอ้หัวใจไม่รักดี มันไม่รักเจ้าของของมันเลย มันกลับไปรักคนอื่นมากกว่าเจ้าของตัวเอง!!

     

    ……………………….

    …………………

    ………….

     

    ชานซองที่อาบน้ำเสร็จแล้วค่อยๆเดินออกมาจากห้องน้ำเดินเช็ดหัวออกมาจากห้องน้ำอย่างสบายอารมณ์ ทางเดินที่เข้าเดินมีจุดหมายคือห้องนอน

     

    กลิ่นน้ำนมหวานที่ลอยตลบอบอวลบอกได้ว่า จุนโฮอยู่ไหน

     

    ชายหนุ่มค่อยๆไล่ความชื้นออกไปเจากเส้นผมเรื่อยๆ เช่นเดียวกับขาของเขาที่ก้าวไปชิดเตียง ก่อนจะก้าวขาไปนอนที่นอนข้างว่างที่เหลืออยู่นั้น โทรทัศน์ในห้องนอนกำลังเปิดอยู่ เพียงแต่คนที่นอนอยู่นั้นไม่ลืมตาดู

     

    เพียงแต่เข้าสู่ห่วงนิทราของตัวเองไปแล้วก็เท่านั้นเอง

     

    เขากำลังต่อสู้กับความรู้สึกตัวเองอย่างหนักเหลือเกิน เขากำลังเริ่มรู้ตัวว่าจุนโฮกำลังเข้ามามีอิทธิพลกับความรู้สึก และหัวใจของเขามากมาย

     

    ไม่ว่าจะเป็นอะไรหลายเรื่องๆที่เขาทำมันลงไปอย่างไร้เหตุผล ทั้งเรื่องกางอาณาเขตอย่างไม่จำเป็นนั้นเขาก็รู้ เพียงแต่…เขายังเชื่อมั่นว่าใจของเขามีอูยอง

     

    แต่จุนโฮมักเข้ามาแทรกแซงเสมอ จนบางครั้งเขากลับลืมไปด้วยซ้ำว่า…มีอูยอง

     

    และยิ่งวันนี้ พอรู้ว่าจุนโฮอยู่ในอันตรายเขากลับร้อนใจจนบอกไม่ถูกเลย ทิ้งทุกอย่างวิ่งออกมา...ยิ่งไม่รู้ว่าอยู่ไหน พอหาไอ้ตัวเล็กนี่ไม่เจอก็ยิ่งโกรธพาลไปทั่ว เจอไอ้งูบัดซบนั้นก็เล่นลากไส้ออกมาซะ

     

    พอมาเจอตัว ไอ้ตัวดูดเลือดเวรนั้นก็กำลังจะรวบหัวรวบหางจุนโฮ บอกได้เลยเลือดขึ้นหน้าแทบตาย เขายอมรับ..ว่าถ้าจุนโฮไม่ห้ามเอาไว้ ดูจุนได้ทุกข์ทรมานมากกว่านี้เป็นสิบล้านเท่า

     

    จุนโฮกำลังทำให้อะไรบางอย่างเขาเปลี่ยนไป ซึ่งมันยังกำกวมเหลือเกิน

     

    คงไม่ผิดใช่ไหม ถ้าเขาจะรั้งเอาทุกอย่างเอาไว้แบบนี้ เขาเก่งทุกอย่าง ฉลาดไปเสียหมด อำนาจนั้นไม่มีใครเทียมได้ นอกเสียจากพระเจ้า..

     

    แต่ถ้าหากเขาจะโง่เรื่องของความรู้สึกของตัวเองได้ไหม เพราะตอนนี้ใจมันสับสนว่า…มันมีอูยอง หรือ จุนโฮอาศัยอยู่กันแน่

     

    ชานซองถอนใจเอามือลูบไปที่หน้าผากขาวของคนท่ี่นอนอยู่ อังมันน้อยๆอยากรู้ว่าไข้ของอีกคนลดลงบ้างหรือยัง หากความร้อนที่มีอยู่ก็ยังดูท่าจะไม่ลดลงเท่าไหร่นัก

     

    อย่างชานซองน่ะ..ไม่รู้หรอกว่ายาอะไรคือยาอะไร เขาไม่เคยป่วย..ไม่รู้หรอกนะว่าทำยังไงถึงจะหายได้..

     

    “อ..อือ..อาบน้ำเสร็จแล้วหรอ..ครับ”เพราะแรงสัมผัสทำให้คนรู้สึกตัวไว ปรือตาขึ้นมาถาม

    “อืม..อาบเสร็จแล้ว”ชานซองมองภาพอีกคนที่พลิกตัวเข้าหาฝ่ามือของเขา จุดรอยยิ้มบางๆที่เกิดขึ้นเพราะความเอ็นดูอย่างไม่รู้ตัว

     

    “ผม..มึนหัวจังเลย”จุนโฮพูดเสียงอ่อน ไม่สบายแล้วเกิดอยากจะอ้อนขึ้นมา

    “จะให้ฉันทำยังไงล่ะ”ชานซองว่า นอนตะแคงมองหน้าคนขี้อ้อนน้อย ยังไว้ลายความเป็นชานซองเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น คือไม่แสดงอารมณ์เท่าไหร่นัก

     

    จุนโฮส่ายหัวเบาๆ ทำหน้าเศร้าบอกเขาไปว่าตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จนชานซองอดไม่ได้ที่จะรวบคนตัวหอมเข้ามากอดเอาไว้จนชิดตัวเอง อย่างนี้คงดีกว่าเยอะเลยซินะ ซึ่งอีกคนก็ยอมให้เขากอดแต่โดยดีไม่ขัดขืน

     

    “ชานซองครับ..เราจะทำยังไงกับห้องเก่าของผมดี..ฮ…ฮ้าว”จุนโฮเอ่ยถามเสียงงัวเงีย ได้กอดอุ่นๆเข้าหน่อย เริ่มสบายจนอยากนอน

    “ก็ปล่อยเอาไว้อย่างนั้นล่ะ จะให้ทำยังไงได้”ชายหนุ่มเอามือใหญ่ลูบหลังบางเบาๆ ราวกับกล่อมคนขี้อ้อนไปเรื่อยๆด้วยเพลินมือ

     

    “อย่างนั้นป้าเจ้าของตึกต้องโกรธผม…แน่…เลย..ครับ อื้อ..”คนตัวเล็กซุกหน้าไปที่แผงอกกว้าง มีหรือถ้าปกติเจ้าตัวเล็กนี้สบายดีจะทำอย่างนี้น่ะ แล้วเสียงก็เริ่มอ่อยลงๆ

    “งั้น..เดี๋ยวฉันจัดการให้เองแหละ..เขาจะคิดค่าซ่อมก็ปล่อยเขาไปเถอะ”ชานซองว่าเหลือบตามองอีกคนที่ท่าทางใกล้จะหลับไปแล้วจริงๆ

     

    “ต้องคุย..กับเขา..จริงๆ..นะ..ฟรี้”ว่าแล้วก็หลับไปจริงๆ อดไม่ได้ที่ชานซองจะหัวเราะในลำคอเบาๆ

    “ได้ๆ ฉันจะไปคุยจริงๆ สัญญา”รู้ทั้งรู้ว่าตอบไปอีกคนคงไม่ได้ยิน แต่ก็อีกเขาก็อยากตอบอยู่ดีนั้นล่ะ

     

    ชายหนุ่มตั้งท่าจะหลับตาอีกคนเสียจริงๆ เลือกที่จะคิดว่า..ตอนนี้ขอไม่คิดอะไรก่อนได้ไหม ขอนอนกอดอีกคนเอาไว้อย่างนี้ให้ผ่านไปอีกซักคืนก่อนเถอะนะ

     

    *********************************************************************************

     TBC + TALK : บิจะไม่อยู่ซักหลายวันเลยลงสองตอนติดกันให้ชื่นใจนะคะ..ไปกระบี่และ ไปหัวหิน และเรียนหนักหน่วงมาก ดังนั้นอาจหายไปอีกซักอาทิตย์สองอาทิตย์ ยังไงก็อย่าเพิ่งขย้ำคอชานซองของบินะคะ ด้วยรักจากใจคนแต่ง อ่านแล้วเม้นนิดเม้นหน่อยบิจะดีใจมากเลยค่ะ(แต่ไม่บังคับนะคะ ตามสะดวกใจดีกว่า)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×