ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC EXO} DISABLE..พิการ [ChanBaek] Yaoi

    ลำดับตอนที่ #8 : - Disable - 7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.76K
      161
      4 ส.ค. 57

     

     

    SEVEN

     

     

     

     

     

    “คุยอะไรกันอยู่หรือครับ ท่าทางดูสนุก”

     

    เสียงของคนมาใหม่เรียกให้คนทั้งหมดหันไปมอง แบคฮยอนตัวแข็งเกร็งขึ้นมาเล็กน้อย เสียงหัวเราะเงียบลงอย่างกระทันหันจนยงฮวานึกแปลกใจ

     

    “อ้าว คุณชานยอลนี่เอง ผมนึกว่าออกไปทำงานเสียอีก”ยงฮวายกยิ้มให้น้องชายเพื่อนสนิทเล็กน้อยในขณะที่อีกคนแค่ยิ้มเป็นพิธีกลับมา ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งด้วยกัน..ข้างแบคฮยอน โดยที่ร่างบางมือสั่นน้อยๆ

    “ครับ พอดีวันนี้ไม่มีประชุมเลยอยากพักบ้างน่ะครับ”ชานยอลนั่งไขว่ห้างทำตัวตามสบาย ด้วยท่าทางที่เขาชอบไว้เชิง

    “งั้นหรอครับ ผมนี่เสียมารยาทจังเลยไม่ยอมทักทายเจ้าของบ้านก่อน”ยงฮวากล่าวโทษก้มหัวเล็กน้อย ชานยอลไม่ได้รับและก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร

    “แบคฮยอนเองก็เหมือนเจ้าของบ้าน ทักเขาแล้วไม่ต้องทักคนอื่นก็ไม่เสียหายครับ”ชานยอลพูดด้วยเสียงทุ้มนุ่ม แบคฮยอนขบริมฝีปากตัวเองเล็กน้อยที่โดยเสียดสีด้วยคำพูดของชานยอล แต่ก็ไม่ตอบโต้อะไรออกไป

    “คงไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”หากยงฮวาที่ไม่รู้ถึงสถานการณ์กลับยังคงคุยเล่นเหมือนเดิม

    “เอ่อ..แล้วนี่คุยเรื่องอะไอยู่หรือครับเห็นกำลังสนุก เลยอยากขอร่วมวงด้วย”ชานยอลเอ่ยปาก ขณะที่ จุนซู เซฮุน และจงอินพยายามซ่อนอาการตกใจเอาไว้ภายใต้ใบหน้าที่เฉยชาของตนเอง

     

    ด้วยรู้ว่าคุณชายของตนไม่ใช่คนที่จะมาใส่ใจขอร่วมสนทนาพาทีกับคนไม่สนิทสนม จะว่าไอ้เรื่องตลกเห็นคนอื่นเข้าคุยเล่นหัวแล้วอยากมาเป็นส่วนหนึ่งนี้ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

     

    “ผมแค่เล่าประสบการณ์การทำงานของผมให้ น้องแบคฮยอนเขาฟังน่ะครับ เห็นชอบใจใหญ่”ชายหนุ่มพาซื่อเล่าไปตามจริงทั้งหมด

    “อย่างนี้นี่เองนะครับ”ชานยอลยกแก้วชาที่จุนซูรินให้ตั้งแต่เขาเข้ามานั่งที่นี่ขึ้นดื่ม สายตาคมดุเหลือบมองคนข้างกายที่นั่งหลังตรงปิดปากเงียบไม่หลงเหลือร่องรอยความสนุกสนานแล้วจึงกดยิ้ม ออกจะสะดุดหูเล็กน้อยกับคำว่าน้องแบคฮยอนแต่ก็ไม่แสดงอาการอะไรไม่ควร

    “ว่าแต่ น้องแบคฮยอนดูสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะครับ”ยงฮวาทักเมื่อแบคฮยอนเริ่มมีสีหน้าซีดเซียวมากขึ้น ชานยอลหันไปมองใบหน้าเล็กอย่างเต็มตา

    “สงสัยคงจะออกมานั่งตากลมนานๆทั้งที่ยังไม่หายดี เดี๋ยวผมพาไปพักผ่อนก่อนนะครับ”ชานยอลเอ่ยรวบรัดไม่ให้ยงฮวาได้คิดปฏิเสธ เดินไปยกคนตัวเล็กขึ้นอุ้มแนบอกด้วยตัวเองและเดินผ่านหน้าชายหนุ่มที่เป็นคุณครูคนใหม่ของคนในอ้อมแขนโดนไม่ล่ำลา ลำบากจุนซูที่ต้องส่งแขกอย่างเร่งรีบ

     

    แบคฮยอนที่เอามือยึดบ้ากว้างเอาไว้กำที่เสื้อนอกของชานยอลเสียจนข้อนิ้วขึ้นสีขาวด้วยอาการเกร็งกลัว กำแน่นเสียจนมือสั่นไปหมด นั้นคงไม่แค่มืออย่างเดียวแต่ตอนนี้ทั้งตัวแบคฮยอนสั่นไม่ต่างจากลูกนกเลย

     

    “ป..ปล่อย..ผม..เถอะครับ…ค…คุณชานยอล”แบคฮยอนบอกเสียงเบาหวิว ยิ่งระยะทางใกล้ห้องนอนเขาเท่าไหร่แบคฮยอนยิ่งใจสั่นกลัว

    “ปล่อยแน่แต่ไม่ใช่ตอนนี้”ชานยอลกระซิบที่ข้างหูเล็กจนคนตัวเล็กหุบปากฉับ

    “อ..อย่าทำ..อะไร..ผมเลย”

    “หึ ทำไมทีเมื่อกี้ยังหัวเราะต่อกระซิกกับไอ้ครูนั้นอยู่ไม่ใช่หรอ”ชานยอลใช้สายตาบอกให้หนึ่งในคนสนิทของเขาเปิดประตูห้องนอนของแบคฮยอนซึ่งลูกน้องของเขาก็ทำตามอย่างดี

    “ห้ามให้ใครเข้ามาจนกว่าฉันจะออกมาเอง”ชานยอลพูดแค่นั้น แล้วเสียงปิดประตูลงกลอนจึงดังเป็นเสียงทิ้งท้าย

     

    ชายหนุ่มปล่อยมือจากตัวแบคฮยอนให้อีกคนร่วงลงบนเตียงนอนอย่างไม่ใส่ใจนัก แม้ว่าเตียงจะนิ่มอย่างดีแต่แรงกระเทือนก็ทำให้แบคฮยอนครางแผ่วด้วยความเจ็บแผลที่ยังมีอยู่ค่อนข้างมากได้เหมือนกัน

     

    “มาไม่กี่วันให้ท่าไปกี่คนแล้วละ”ชานยอลปีนขึ้นมาบนเตียงจับข้อมืออีกคนเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้แบคฮยอนขยับตัวไปไหน

    “ผม…เปล่าทำ”แบคฮยอนเอ่ยด้วยสายตาเจ็บปวด กี่ครั้งแล้วที่ชานยอลหาว่าเขาเป็นคนไม่ดี

    “เหรอ แต่เท่าที่เห็นนี่ฉันว่าทำเยอะเลยนะ ทำไม..นอนกับฉันแล้วติดใจขึ้นมา เลยอยากนอนกับคนนั้นคนนี้ไปทั่วเลยสิ”ชานยอลยื่นหน้าเข้าไปเสียชิดจนปลายจมูกแทบจะเสียดสีกับปลายจมูกเล็กของแบคฮยอน

    “ไม่จริง…ฮ…ฮึก ผมไม่ได้ทำ”แบคฮยอนน้ำตาร่วงเผาะ ใจเขาถูกทำให้เจ็บด้วยคำใจร้ายของชานยอลมาตั้งแต่เจอกันวันแรกจนถึงตอนนี้

    “ไม่ต้องมาบีบน้ำตา อย่าลืมสิว่ากำลังจะมาเป็นผัวพี่สาวฉัน อย่าร่านให้มากนัก ถ้าต้องการมากไม่บอกฉันล่ะฉันพร้อมจะสนองให้ อ่อยไปทั่วอย่างนั้นตระกูลฉันเสียหายรู้ไหม”ชานยอลเอ่ยวาจาหยาบคายจนคนฟังอยากจะเอามีดกรีดหัวใจของคนตรงหน้าดูว่าจิตใจของชายหนุ่มทำด้วยอะไรเหลือเกิน ทำไมจิตใจของเขาถึงได้ดำมืดเช่นนั้น

    “คุณมันคนใจร้าย ..ฮ..ฮึก..ฮือ เกลียดผมนัก..ก..ก็อย่ามายุ่งกับผม ฮึก..ปล่อยผมไป”ทั้งโกรธ ทั้งกลัวหากวาจาว่าร้ายของอีกคนกลับทำให้แบคฮยอนเอ่ยปากเถียง

    “คิดว่าอยากยุ่งนักเหรอ อย่างเธอมีอะไรให้น่าพิศวาสนัก ใช่..ฉันเกลียดเธอ เกลียดจนอยากทำลายให้ตายไปเลยไง รอให้เธอย่อยยับไปก่อนแล้วฉันค่อยเลิกยุ่งกับเธอ หรือไม่ก็รีบๆไปบอกพ่อฉันให้ยกเลิกเรื่องหมั้นกับพี่สาวฉันสักที ออกจากชีวิตพวกฉันไปได้แล้ว..”ชานยอลกล่าวด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยไฟโทสะ

     

    แบคฮยอนมองอย่างนึกกลัว เขาอยากจะทำอย่างที่ชานยอลพูด อยากออกไปจากชีวิตของชายตรงหน้าแล้วคิดว่าชาตินี้ทั้งชาติอย่าได้มาเผาผีกันอีก ทั้งเรื่องงานหมั้นที่ไม่มีวันจะเกิดขึ้นนั้นก็ด้วย เขาบอกหลายครั้งแล้วแต่ชานยอลก็ไม่เคยฟัง

    ที่ยังทนอยู่นี่เพราะคำขอของคุณปาร์ค คำขอที่อยากให้เขาอยู่บ้านหลังก่อนที่คุณปาร์คที่เคยมีบุญคุณกับครอบครัวของเขาจะหมดลมหายใจในอีกไม่ช้า เขาอยากจะตะโกนใส่หน้าของชายหนุ่มเหลือเกินว่า ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปาร์คป่วยและกำลังใกล้จะตายเขาเองก็จะเป็นฝ่ายเก็บเสื้อผ้าหนีหายไปไม่กลับมาอีก

    แต่เพราะชานยอลไม่รู้ว่าพ่อกำลังเป็นมะเร็งและจากไป เพราะพี่โซราเองก็ไม่รู้ การสูญเสียคนที่เรารักมันเจ็บปวดแค่ไหนไม่มีใครรู้ดีเท่าแบคฮยอนเชื่อเถอะ เขารู้ดีเสียยิ่งกว่าดี

    คุณปาร์คเองก็รู้ว่าการที่ตัวเขากำลังจะต้องจากลาลูกที่รักนั้นมันทรมานใจเหลือเกิน แบคฮยอนจึงต้องทนอยู่แบบนี้ไง

     

    “…..”แบคฮยอนเม้มปากแน่น คิ้วเรียวสวยขมวดจนชิดกัน และดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำมองใบหน้าคมดุของอีกคนด้วยดวงตาเจ็บช้ำ ห้ามใจไม่พูดอะไรในใจออกไปแม้แต่คำเดียว

    “ที่ไม่พูดคือไม่ยอม?? ฉันไม่แปลกใจเลย พยอน แบคฮยอน”ร่างสูงแค่นยิ้มเยาะ หากอีกคนได้แต่สะบัดหน้าของตัวเองหลีกหนีคำสบประมาทร้ายกาจนั้น

    “อยากได้บ้าน อยากได้รถ อยากได้เงินใช่ไหม อยากได้นัก..จะเอาไปฟรีๆก็คงไม่ดีหรอกนะแบคฮยอน”ชานยอลว่าด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ไม่น่าฟัง ทำให้แบคฮยอนส่งสายตาหวาดกลัวกลับมามองเขาอีกครั้ง

    “ค..คุณ..คุณจะทำอะไรน่ะ..”

    “ก็อยากได้ไม่ใช่เหรอ งั้นนายก็ตอบแทนฉันให้สมกับของที่กำลังจะได้ไง”ชายหนุ่มเล็มเลียลิ้นของลงที่ใบหูขาว ตวัดเบาๆกระซิบประโยคคำตอบที่เขาไม่อยากรับรู้ทั้งยังโดนยัดเยียด

    “ไม่..ไม่เอา..ผมไม่ต้องการ..ฮึก..ผมไม่อยากได้..”แบคฮยอนออกแรงดิ้น หวังว่าครั้งนี้จะช่วยอะไรเขาได้บ้างหากมันก็ดูจะริบหรี่เหลือเกินในปลายทาง

    “ไม่อยากได้..แน่ใจหรอ”ชานยอลลากมือไปตามเนื้อตัวของคนตัวเล็กผ่านเสื้อนอนตัวบางของอีกคนลงต่ำมาเรื่อยจนถึงขอบกางเกงนอน

    “ม..ไม่อย่าทำผมเลย..ฮึก…ได้โปรด..หยุดถอะ..”แบคฮยอนสะอื้นอย่างน่าสงสาร มันคงจะดีถ้าหากว่าคนที่อยู่เหนือร่างเขาจะรับฟังมันบ้าง

    “ของเคยๆกันแล้ว..ไม่ต้องดีดดิ้นเอาใจกันขนาดนั้นหรอกนะ..แบคฮยอน”มือหนาดึงกางเกงนอนผ้าเนื้อดีของอีกคนลงพร้อมกับชั้นในตัวจ้อยออกจากปลายเท้า แบคฮยอนรู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดของตัวเองโดยไม่ต้องมีใครบอก มือหนาที่เอื้อมมากดปิดปากของเขาเอาไว้ทำให้ใจหาย ได้แต่นอนหายใจรวยรินรอรับชะตากรรมข้างหน้า

     

    เสียงเสื้อผ้าของเขาที่ขาดออกจากกันทำให้รู้ว่าคำขอร้องอ้อนวอนนั้นไร้ซึ่งความหมาย เสียงร้องที่ขบกลั้นเอาไว้ทำให้ใจของเขาเจ็บช้ำแต่อย่างน้อยก็คือแรงอันน้อยนิดที่ไม่ทำให้ตัวเองรู้สึกต่ำต้อยและอับอายไปมากกว่านี้ แม้ว่าจะถูกอีกคนยัดเยียดความเป็นเจ้าของเข้ามามากเท่าไหร่ให้ร่างกายของเขาถูกจองจำ แต่อย่างน้อยเขาจะไม่ร้องขอ

    ความเจ็บปวดที่ร่างกายนับไม่ได้ กับการทารุณที่หัวใจและความรู้สึก การทำดีที่แลกมากับความเจ็บปวดคงเป็นการชดใช้กรรมที่เขาเคยทำไว้ทั้งกับปาร์ค ชานยอล และบุพการีของตัวเอง

    สุดท้ายก็ได้แต่หลับตาภาวนาให้ฝันร้ายนี้ผ่านไปอีกวันเท่านั้นเอง

     

     

     

     

    แบคฮยอนใช้ชีวิตอย่างทรมานมาได้พักใหญ่ จะว่ารวมๆก็สองเกือบจะสามสัปดาห์ แล้วหลังจากเรื่องวันนั้นแน่นอนว่าแบคฮยอนไข้กลับอย่างไม่ต้องสงสัยแต่มันก็ดีขึ้นในอีกสามสี่วันถัดมา เด็กหนุ่มเริ่มเข้าหน้ากับเซฮุนและจงอินไม่ติดเพราะรู้ดีว่าองครักษ์ของคุณชายได้ยินทุกอย่างเขาอับอายเกินไป จะมีก็แต่พี่โซราเท่านั้นที่ไม่รู้อะไรเลย

    ชานยอลเริ่มยัดเยียดสิทธิ์ของเป็นนายในร่างกายของเขามากขึ้น ร่างหว่างสองอาทิตย์ที่ผ่านมาหลังจากวันที่เขาถูกบังคับให้แลกเปลี่ยนร่างกายกับการมีสิทธิ์ที่จะเป็นว่าที่เขยปาร์ค ชานยอลแวะเวียนมาหาความสุขบนทุกข์เขาเสมอ เขาทำเพียงแค่นอนรอชะตากรรมเท่านั้นเอง

    พี่ยงฮวาก็มาเยี่ยมบ้างหากสัปดาห์ที่ผ่านมาชายหนุ่มขอตัวไปเตรียมเรื่องการเรียนการสอนหาซื้ออุปกรณ์หนังสือในการเรียนของเขาเลยไม่ได้เจอกันมาหลายวัน

    แต่สิ่งดีๆก็มีเข้ามาบ้าง พระเจ้าไม่ได้ร้ายกาจกับเขาเท่าไรนัก ท่านยังอุตส่าห์ประทานพรมาให้เขาในคืนอันแสนริบหรี่นี้ ท่านประทานพรข้อเล็กให้กับคนบาปหนาอย่างแบคฮยอนถึงสองข้อ ข้อแรกเขาได้รับการบำบัดเรื่องขามาเป็นเวลากว่าเจ็ดวันแล้วซึ่งมันยังไม่ได้เห็นผลอะไรจากคุณหมอ คิม จงแดผู้มีใบประกาศด้านศัลยแพทย์หนึ่งใบควบคู่คุณหมอซูจีที่มีใบรับรองการเป็นจิตแพทย์ชื่อดังด้วย พรข้อที่สองที่แบคฮยอนรอคอยมาตลอด วันนี้แบคฮยอนจะได้เรียนหนังสือเป็นวันแรกแล้ว

    เนื่องจากทุกครั้งที่แบคฮยอนกำลังจะหายป่วย ชานยอลชอบเข้ามาซ้ำรอยของแบคฮยอนเสมอจะหายก็ไม่ขาดซักที แต่เมื่อโดนกระทำซ้ำๆแบคฮยอนเกลียดตัวเองเหลือเกินที่จะต้องยอมรับว่าเขาเริ่มชินชา ความเกลียดชังเขายังพอพยายามกดมันให้ลึกที่สุด แต่ความทุกทรมานและความน้อยใจต่อชานยอลนั้นกำลังหยั่งรากลึกลงไปเรื่อยๆจนเขาไม่เคยเชื่อใจ หวาดกลัวนั้นมีมากเสียจนเขาไม่อยากเข้าใกล้ชายหนุ่ม

    ซึ่งความดีงามคือ ชานยอลจะไม่อยู่ข่มเหงน้ำใจเขาซักห้าหกวันเนื่องจากชายหน่มต้องบินไปดูงานที่เชจูเรื่องกาสิโนครบวงจรที่กำลังสร้าง

    วันนี้แบคฮยอนตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัวเสียเรี่ยมเร่ ใบหน้าขาวใสไม่แต่งแต้มด้วยการประทินผิวใดยังกระจ่างใสเหมือนเดิม แต่ดวงตาเรียวโศกที่หม่นแสงวันนี้มีประกายขึ้นมาเล็กน้อย

     

    “วันนี้เรียนหนังสือถึงบ่ายสองนะครับ แล้วบ่ายสามคุณหมอซูจีและคุณหมอจงแดจะเข้ามาพูดคุยเรื่องการบำบัด”จุนซูเอ่ยเตือนเล็กน้อยเข้ามาตรวจตราความเรียบร้อยของแบคฮยอนเหมือนทุกวัน

    “ครับ..”แบคฮยอนยิ้มหวานอย่างที่ไม่ได้ยิ้มมาหลายวันทำให้จุนซูต้องยิ้มตาม

    “นี่ตื่นเต้นซินะครับ”คนมากวัยกว่าถามขึ้นมาเพียงแต่แบคฮยอนแค่พยักหน้ารับ ดีใจที่ชายตนนี้สังเกตุเห็นได้

     

    จะแล้วตอนนี้คุณคิม จุนซูนี่แทบจะไม่ได้ห่างตัวเขาเลย อาจจะเพราะพี่โซรายังวางมือไม่ได้จากเรื่องงานเพราะอย่างที่คุณยงฮวาบอกว่าเธอสนุกกับการทำงานหนักมากแค่ไหน ยิ่งกาสิโนใหม่จะเปิดแล้วด้วยชานยอลจึงถูกดึงไปดูงานทางนั้นอย่างเต็มอัตรา พี่โซราจึงต้องนั่งแท่นดูงานแทน

    แบคฮยอนไม่ได้น้อยใจพี่โซราซักนิดเดียว เขาดีใจที่พี่โซรายุ่งจนไม่มีเวลามาดูเขาด้วยซ้ำ เขากลัวเหลือเกินที่พี่โซราจะเห็นร่องรอบความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขา ยังดีที่คุณจุนซูจะเข้ามาเก็บกวาดซากความอดสูเสียทุกครั้ง แบคฮยอนไม่รู้หรอกว่าจุนซูรู้สึกอย่างไร แต่ทุกครั้งหลังชานยอลเสร็จกิจ ชายหนุ่มไม่เคยนอนอยู่กับเขา คนใจร้ายจะเดินกลับไปอาบน้ำพร้อมเสียงหัวเราะเยาะทุกครั้ง โดยที่จุนซูจะพาเขาไปอาบน้ำทำแผล ให้กินยาและพาเข้านอนทุกครั้ง

    ….ช่างน่าอับอาย….

     

    “เอ่อ..คุณจุนซูครับทราบเรื่องที่เพื่อนผมทั้งสองคนจะมาช่วยเรื่องการบำบัดหรือยังครับ”แบคฮยอนเอ่ยถามหลังจากที่จุนซูพาเขาลงมารับประทานอาหารเช้าไปได้สองสามคำ

    “ทราบแล้วครับคุณหมอซูจีได้แจ้งผมไว้แล้วว่า ทางที่ดีควรมีคนที่คุณสนิทไว้ใจเอาไว้บ้างก็จะยิ่งช่วยให้อาการดีเร็วขึ้น”จุนซูตอบทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตระกูลปาร์คนั้นเขารู้หมดอยู่แล้ว

    “ครับทุกเสาร์อาทิตย์ ก็จะมานอนด้วยยังไงให้เขานอนที่ห้องผมก็ได้ ห้องใหญ่โตนอนได้สบายๆ”แบคฮยอนเสนอเล็กน้อยดีเสียอีกแม่บ้านจะไม่ต้องมาเสียเวลาจัดห้องหับอะไรเพิ่มให้เหนื่อยเปลืองแรงไปอีก จุนซูไม่ได้ตอบตกลงในข้อนี้หาก แต่กลับมีสีหน้าค่อนข้างลำบากใจพอควร

    “ผมว่าคงไม่ควรนะครับ”หากเสียงที่ไม่ใช่ของจุนซูกลับเป็นฝ่ายตอบเสียแทน

     

    แบคฮยอนเม้มปากเล็กน้อยเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกขัดใจ แบคฮยอนไม่มีปัญหาหรือแสดงอาการเมื่อถูกปฏิเสธความต้องการใดๆ เพียงแต่การปฏิเสธทุกครั้งนั้นมักมีคนใจร้ายเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ

     

    “ผมว่าคนชายคงไม่ชอบใจแน่ถ้าคุณทำแบบนั้น”เซฮุนเป็นฝ่ายเดินเข้ามาตอบเหตุผลที่ทำให้แบคฮยอนถอนใจแรง จุนซูลูบหลังเล็กเบาๆด้วยเข้าใจ

    “ครับ ผมทราบแล้ว ว่าแต่คุณเซฮุนไม่ไปกับเขาหรือครับ”แบคฮยอนที่หน้าหม่นไปเล็กน้อย พยายามเปลี่ยนเรื่องคุยเสียแทน เขารู้เหตุผลดีว่าทำไมเพื่อนรักทั้งสองของเขาถึงไม่สามารถมานอนร่วมเตียงกันได้ ถ้าหากชานยอลอยากจะเข้ามาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ คงไม่ดีแน่ถ้าหากเพื่อนเขาจะมาพักพิงอย่างนี้

    “คุณชายท่านให้ผมคอยดูเรื่องบ้านใหญ่อยู่ทางนี้ครับ”เซฮุนตอยอบ่างที่่เขาเคยตอบเสมอ ทั้งๆทีี่รู้แก่ใจแล้วว่าความจริงเจ้านายของเขาสั่งให้เขาจับตาดูใครเป็นพิเศษ

    “งั้นนี่เอง ครับผมเข้าใจ แล้วเรื่องเวลาเรียนล่ะครับ”แบคฮยอนขมวดคิ้วเล็กน้อย เซฮุนจะตามติดเขาเช่นเดียวกับจุนซูเลยหรืออย่างไร

    “ครับ ตลอดเวลายกเว้นเวลานอนครับ”แบคฮยอนอยากถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนในใจเขาอยากถอนหายใจออกมาแรงๆไม่อยากให้เซฮุนลำบากใจ

     

    อันที่จริงแบคฮยอนไม่ได้มีปัญหากับเซฮุนหรอกนะเรื่องของเจ้านายก็ส่วนเจ้านาย เรื่องของคนทำงานก็ส่วนคนทำงานเขาแยกแยะได้ว่าคนละคนกัน เซฮุนจำเป็นต้องทำหน้าที่ของเขาจะมาโกรธเคืองกันก็คงไม่เห็นสมควร

    แบคฮยอนเองก็รู้แต่พยายามเลี่ยงไม่พูดเพราะตัวเองเริ่มใกล้เคียงกับคำว่าเชลยเข้าไปทุกที

     

    “เอาตามที่สะดวกเถอะครับ ผมไม่อยากให้คุณมีปัญหากับเขา แต่ยังไงก็ตามแต่..ช่วยทำความสนิทสนมกันไว้เถอะนะครับ”แบคฮยอนค้อมตัวเล็กน้อยเท่าที่เขาจะทำได้เมื่อต้องอยู่บนรถเข็น

    “เอ่อ..คงไม่สมควรหรอกครับ”เซฮุนบอกเอาไว้ มันคงไม่ดีที่จะตีตัวเสมอนาย

    “สมควรซิครับ ผมไม่เห็นว่าจะมีอะไรไม่เหมาะสมเลยซักนิด คุณก็คนผมก็คน..ความจริงแล้วผมต่างหากที่อาจจะไม่เหมาะสมเป็นเพื่อนกับคุณด้วยซ้ำไป”แบคฮยอนคิดอย่างนั้น..ความจริงค่าความเป็คนของเขาอยู่ที่ไหนเขายังไม่รู้เลย

     

    บอดี้การ์ดหนุ่มบอกไม่ถูกว่าเขาควรรู้สึกอย่างไรดี ทั้งสงสารอย่าบอกไม่ถูก เขามองออกว่าแบคฮยอนเป็นเด็กดีแค่ไหน เพราะตลอดเวลาที่เกิดขึ้นแบคฮยอนไม่เคยว่าร้ายคุณชายคนดีของเขาเลย ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือรับหลัง ไม่เคยปริปากพูดเลยซักน้อยเดียว

    แค่เจ้านายของเขาให้จับตาดูแบคฮยอนทุกฝีก้าวเขาเองก็แปลกใจไม่น้อยอยู่แล้ว ความจริงต่อให้ชานยอลอุ้มแบคฮยอนหายไปหรือไม่ก็ขจัดทิ้งไปซะเชื่อว่านายท่านจะมีข้ออ้างดีๆ แม้แต่คุณจุนซูเองก็ไม่กล้าจะพูดอะไร ไม่เคยมีคู่นอนคนไหนหรือคู่รักคนไหนที่ได้ความสนใจขนาดนี้ ขนาดที่ต้องยอมให้เขาเสียงานมานั่งๆนอนดูพฤติกรรมทั้งวัน

    จะว่าป่านนี้ให้เพื่อนซี้เขาจะได้เรื่องไหมว่ะ ไอ้คนสะเพร่านั้นมันดีแต่ใช่กำลังจนอยากจะเอาหัวจมกองหญ้าเสียให้ได้เวลามันเรียงตารางงานของคุณชาย แต่ก็ไม่อยากไปก้าวก่ายมันหรอกเดี๋ยวมันด่ากลับมาพูดภาษาคนก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง

     

    “คุณยงฮวามาแล้ว ไม่ทราบว่าจะไปพบเลยหรือเปล่าครับ”จุนซูหาออกไปครู่เดียว

    “ครับ รบกวนด้วยนะครับ”แบคฮยนบอกจุนซูเล็กน้อยให้พาเขาไป เซฮุนเดินตามไปเงียบๆ และบอกว่าจะไม่นึกกวน

     

    ไม่ถึงนาทีเขาก็หยุดอยู่ห้องหนังสือขนาดใหญ่ที่ทุกชั้นไม้เนื้อดีอัดแน่นไปด้วยหนังสือมากมาย ที่ตอนนี้มีการเพิ่มเครื่องมือเครื่องใช้มากมายทั้งกระดานเขียนหนังสือ โปรเจ็คเตอร์ และโต๊ะการเรียนการสอนที่สามารถนำรถเข็นสอดเข้าไปได้ ทำให้ห้องนี้เป็นห้องเรียนที่ล้อมรอบไปด้วยหนังสือมากมาย

    ยงฮวายิ้มกว้างนัยตาหวานขึ้นมาทันทีที่เห็นหน้าเขา แบคฮยอนเองก็ยิ้มตอบรับตาใสตื่นเต้นและเป็นประกายสดใส

     

    “เป็นยังไงบ้างตัวเล็ก  พร้อมหรือยังครับ..หน้าตาอย่างนี้ท่าทางเต็มที่”สำหรับแบคฮยอนยงฮวาอบอุ่นจนอยากเรียกว่าพี่ชายให้เต็มปากชายหนุ่มหยอกเขาเล็กน้อยเดินเข้ามารับคนตัวเล็กที่ยิ้มให้เขาใจสั่นได้เสมอ

    “เมื่อเช้าผมตื่นแต่เช้าเลยพี่ยงฮวา ผมอยากเรียนเร็วๆ”ยิ้มหว้างเสียจนโชว์ฟันขาวสวย

    “โอ้โห ขนาดนั้นเลยหรอครับ วันนี้พี่มีคนมาช่วยสอนด้วยนะ”ยงฮวาใช้ภาษพูดคุยราวกับแบคฮยอนเป็นเด็กเล็กๆ แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกดี..เขาพอทราบเรื่องอดีตของแบคฮยอนจากป่กเพื่อนสนิทมาบ้างและเด็กคนนี้ต้องการความรักและความใส่ใจ

    “ใครครับ”แบคฮยอนทำตาโตอย่างสนอกสนใจเป็นอย่างมาก

    “พี่เองจ้ะ แบคฮยอน”คนเข้ามาใหม่ทำให้แบคฮยอนยิ้มกว้างมากกว่าเดิม

    “พี่โซรา!!”คนตัวเล็กร้องเรียกอย่างมีความสุข เขาได้เจอหญิงสาวไม่บ่อยนักเนื่องจากเธอต้องทำงานเขาไม่ได้น้อยใจเลยที่โซราไม่มีเวลาดูแลเขาแต่เขากลับปล่อยให้เธอทำในสิ่งที่เธอชอบแม้ว่าจะผิดคำพูดไปบ้าง

    “พี่จะมาช่วยสอนเป็นครั้งคราวนะคะ เห็นอย่างนี้พี่เก่งวิชาคณิตย์นะจะบอกให้”หญิงสาวลูบมือไปที่หลังบาง ใบหน้าเล็กหันซ้ายหันขวามองคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างชอบใจ

     

    การมีทั้งพี่ชายและพี่สาวมาเอาใจเขาอย่างนี้มันทำให้ลืมเรื่องโหดร้ายไปได้แม้จะช่วงเวลาหนึ่งแต่เขาเองก็ดีใจจริงๆและอยากให้เป็นอย่างนี้เสมอแม้ว่าหล่อนจะไม่ได้มีเวลาให้เขามากนักแต่มันก็มีค่า เขาไม่กล้าทวงถามเรื่องความใส่ใจอะไรนั้นนักหรอก งานตระกูลปาร์คมีล้นมือขนาดนี้จะให้ทำยังไงได้

     

    “จริงหรือครับ สงสัยผมต้องได้อะไรมากแน่ๆเลย ปกติก็ได้แค่พอผ่านเท่านั้นเอง”แบคฮยอนยิ้มเขินเขาค่อนข้างอารมณ์ดีมีความสุขกว่าปกติมากพอดู

    “จริงซิเชื่อมือพี่เลย”โซรารับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ

    “แต่ตอนนี้ขอมาทดสอบแต่ละรายวิชาก่อนนะว่ามีทุนเท่าไหร่”ยงฮวาหยิบกองเอกสารออกมาตั้งเพื่อดูรายวิชาหลักๆ เขาจะได้สามารถต่อยดที่มีของแบคฮยอนได้ถูกทางรวมถึงสามรถรู้ได้ด้วยว่าส่วนไหนที่ต้องเน้นหนัก โดยมีโซราคอยช่วยตรวจตราด้วยอีกที เรื่องความรอบคอบน่ะต้องให้ผู้หญิงคนนี้เลย

     

    และทุกรายละเอียดที่เกิดในห้องนั้นก็ได้ส่งตรงไปยังคนที่ทำงานอยู่ห่างไกลออกไปโดยคนสนิทที่เขาไว้ใจมากที่สุดหนึ่งในสองของเขา ชายหนุ่มทำเพียงแค่กระตุกยามบางเมื่อมองภาพในนั้น

     

    “ครอบครัวสุขสันต์หรือยังไง กาฝากอย่างนายกล้าทำหน้าระรื่นเชียวนะ..ถ้าฉันกลับจะยังระรื่นได้แบบนี้อีกไหม”

     

     

      

    ขณะที่แบคฮยอนเรียนหนังสืออย่างสนุกสนานกับการสอนสบายๆของยงฮวาและโซรา ทั้งยังสามารถหายใจหายคอได้อย่างสะดวกสบายเพราะใครบางคนไม่อยู่ให้เห็น ทางด้านของชายหนุ่มที่ต้องมาดูงานถึงเกาะเชจูกลับมีความรู้สึกที่แตกต่างกันกว่านั้นมาก

    อีกฟากฝั่งหนึ่งของเกาะเชจูช่วงหาดไกลตัวเมืองที่ค่อนข้างสงบ กำลังมีการระดมก่อสร้างโรงแรมใหญ่ที่เป็นทั้งกาสิโนพร้อมที่พักของปาร์ค คอเปอร์เรชั่น ซึ่งชานยอลเป็นผู้ลงมาดูงานด้วยตัวเอง เขาให้ชาวบ้านแถบนี้ที่ขาดงานมาช่วยกันทำงานก่อสร้าง เขาไม่ได้เพียงแค่ซื้อที่ทำบ่อนแต่เขามองว่าหากมันแล้วเสร็จชาวบ้านที่นี้นอกจากจับของทะเลไปวันก็จะมีงานทำไม่ต้องวิ่งแห่เข้าเมืองใหญ่ให้อึดอัดใจ จะเรียกว่าการพัฒนาชุมชนก็ไม่ผิด และเขาเองก็ทำสัญญาว่าจะไม่รบกวนธรรมชาติอย่างที่ชาวบ้านกลัว ซึ่งแถบนี้ค่อนข้างเชื่อใจเขาพอควรดูจากรีสอร์ทอีกแห่งที่อยู่อีกฝั่งก็ไม่ได้ทำลายสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน

    สำหรับคู่ค้าของเขาจากฮ่องกงตอนนี้เป็นไปในทางที่ดีหลังจากมีการปล่อยข่าวออกไปในด้านชื่อเสียหายของคิม มยองซูทำให้ทางฮ่องกงขาดความเชื่อมั่นหันกลับมาลงทุกกับทางปาร์คเต็มที่แล้ว แต่ทางมยองซูกลับกัดไม่ปล่อย พยายามหาทางกว้านซื้อที่ดินอีกหนึ่งผืนที่เขาวางแผนกำลังจะซื้อในอนาคต เนื่องจากเขามองว่าหากมีสนามกอล์ฟก็ครบวงจรสำหรับสถานที่ให้บริการ

    จะว่าคิม มยองซูแห่งคิมกรุ๊ปก็มีอิทธิพลพอตัว แต่แค่ไม่กินเส้นด้วยเพราะคนวัยเดียวกันทำธุรกิจคล้ายกันแต่ตัวชานยอลเองก็พยายามไม่ให้ทับไลน์ เขาไม่ได้กลัวอะไรในตัวมยองซู แต่เขาไม่ชอบปัญหาแค่ที่มีอยู่มันก็น่ารำคาญพอดูอย่างว่าขนาดจะลงงานยังต้องมาดูเองไว้ใจใครเขาได้ที่ไหน เป็นเจ้าคนนายคนจะมายืนสบายรองานเสร็จล่ะคงไม่มีหรอก

     

    “นายครับ..ทางตรงฝั่งนั้นดูท่าทางไว้ใจไม่ได้ครับ มีเรือเร็วขับวนมาสองรอบแล้วครับ”หนึ่งในฝ่ายอารักษ์ขาบอกด้วยหน้าตาไม่สู้ดีนัก

    “ จงอินออกไปดูลาดเลา ส่วนนายรีบให้คนของเราเอาชาวบ้านออกจากท่าเรือโดยด่วยไปหลบในที่ปลอดภัย”ชานยอลพิจรณาอยู่ครู่เดียวจึงหันไปบอกให้จงอินออกไปตรวจสอบ เพียงไม่ถึงสิบห้านาทีก็กลับมาด้วยท่าทางเครียดขึงและสีหน้าไม่มีแววเฉื่อยชาอย่างที่มักจะเป็น

     

    ตอนนี้ตัวเขาเองอยู่ใต้เต๊นท์ที่ทำเอาไว้สำหรับกันแดดและฝนเบาๆ จัดทำแค่เพียงเฉพาะกิจสำหรับการลงมาดูไซด์งานก่อสร้างนี้เท่านั้นจึงไม่ได้มีบริเวณอะไรที่จะปลอดภัยเท่าไหร่นัก ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดจะหลบอยู่แล้วยังไงก็ต้องสู้ด้วยกับลูกน้องแน่ๆ

     

    “ครับเมื่อกี้เหมือนขับมาดูลาดเลาอีกหนึ่งรอบ ลักษณะตรงกับที่คนของเราบอกมาก่อนหน้านี้เลยครับ คุณชายจะเอายังไงดี”จงอินรายงานทุกสิ่งที่เขาคิดว่าจำเป็น หยิบกล้องส่องทางไกลส่งให้เจ้านายเขาดูเรือเร็วที่มีชายชุดดำหกเจ็ดคนอยู่บนนั้น

    “ถ้าเป็นอย่างที่คิด รอบหน้ามาถึงคงยิงแน่ ให้คนเตรียมให้พร้อมเอาอาวุธออกมาให้เสร็จในสามนาที!!”ชานยอลตะโกนก้อง ความโกลาหลขนาดย่อมเกิดขึ้น

     

    ปังๆๆๆๆ

    หากไม่ทันถึงสามนาทีเสียงปืนกลับยิงกราดเข้ามาเฉียดแขนเสื้อเขาไปไม่มาก ชานยอลล้วงมือไปใต้โต๊ะควักปืนกลขึ้นมาถือไว้ทันทีเช่นเดียวกับจงอินที่คว้าปื่นออโต้สองกระบอกจากใต้เสื้อสูทแล้วยิงโต้ตอบกลับไป

    ดวงตาคมสวยมองไปยังท่าเรือคราวนี้เขาเห็นชัดขึ้นเมื่อเรือยนต์นั้นพยายามทอดสมออาวุธครบมือมีมากมายจนเขาไม่ต้องคาดเดาเลยว่าใครส่งมา

     

    “คนของไอ้มยองซูแน่ๆครับคุณชาย”จงอินเอ่ยอย่างตรงใจ

    “จะมีหมาตัวไหนลอบกัดได้อย่างงี้ ส่งพวกนี้มาคงกะฟลุ๊คจะยิงฉันได้น่ะซิ โง่ๆอย่างงี้มีมันเท่านั้นล่ะ”ชานยอลเอ่ยยิ้มเยาะเลือดที่แขนไหลออกมาจนปลายเสื้อโปโลสีเข้มชุ่มโชกด้วยของเหลว แต่กลับไม่ได้มีความรู้สึกเจ็บปวดอะไรซักนิดเดียว

     

    ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ…..บึ้ม!!!!

    เสียงปืนยิงยาวจากมือชายหนุ่มที่เล็งเจาะจงไปยังถังน้ำมันเครื่องยนตร์เรือเร็วจนมันระเบิดส่งผลให้คนสองสามคนที่โดนแรงอัดนั้นกระเด็นกระดอนไปต่อหน้าต่อตา แต่ก็มีบางส่วนของคนในชุดดำอีกประมาณห้าหกที่คนสามารถขึ้นฝั่งได้แล้วแต่ตอนนี้ คนของตัวชานยอลเองมีเพียงแค่สี่คนเท่านั้น เพราะบางส่วนให้กะเกณฑ์ดูแลชาวบ้านและคนงาน แต่กระนั้นเขากลับคิดว่าไม่คณามือซักนิด

     

    “คุณชายจะไม่เรียกกำลังเสริมซักหน่อยหรือครับ”จงอินถามเพื่อความแน่ใจ กลับเจอสายตานิ่งงันของคนที่ยิงปืนโดยไม่ได้มองซึ่งกระสุนเป็นพรวนนั้นปักเข้าอกของหนึ่งในคนร้ายที่ตั้งท่าจะปาระเบิดเข้ามาอย่างแม่นยำ

    “ถ้าคนห้าหกพวกนายเอาไม่อยู่ก็ลงหลุมไปพร้อมกับมันเลยดีไหม”ว่าแล้วก็วางปืนของตัวเองลงก่อนจะจุดบุหรี่ขึ้นมา โดยไม่สนใจกระสุนที่กำลังเข้ามาห่าใหญ่แม้แต่น้อย

     

    เขาแค่เสียอารมณ์ในเรื่องที่คนสนิทตัวเองพูดเท่านั้นเอง

     

    “คุณชายครับ ผมล้อเล่นเฉยๆหยิบปืนมาป้องกันตัวเถอะครับ ไม่มีอารมณ์ขันบ้างเลยหรือไง”ไม่บ่อยนักที่ต่อหน้าลูกน้องคนอื่นแล้วจงอินจะกล้าเถียงกับเจ้านายตัวเอง แต่ก็อย่าลืมว่าจงอินและเซฮุนน่ะไม่ต่างจากเพื่อนสนิทของชานยอลแม้แต่น้อยถ้าไม่นับเรื่องงานว่ากลัวจะเสียการปกครองชานยอลก็อยากให้สองคนนี้เลิกเรียกว่าคุณชาย

    “ถ้ามันยิงโดนนี่คือแกอ่อนมาก รีบๆจัดการซักทีจะเล่นอะไรนักหนา”ยังคงอัดบุหรี่เขาปอดล้วงกระเป๋ามองลูกน้องที่ยิงพวกลูกสมุนของมยองซูราวกับชมละครไม่มีผิด

     

    จงอินกระตุกมุมปากเล็กน้อยด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ลูกน้องภายใต้การปกครองของหัวหน้าฝ่ายอารักขาจัดการไปได้แล้วสองคนหาก คนของเขาก็มีถูกยิงจนไม่สามารถตอบโต้ได้แล้วหนึ่งจากสอง ชายหนุ่มผิวเข้มจึงคิดว่าควรปิดบัญชีก่อนที่ฝ่ายนั้นจะควักปืนใหญ่ออกมา

     

    ปัง ปัง ปัง

    แม่นราวกับนึกคิดที่กระสุนทั้งสามนัดเข้าจุดตาย ร่างคนร้ายร่วงลงพร้อมกับบุหรี่ที่ชานยอลทิ้งลงพื้นแล้วเอาเท้าขยี้ เลือดยังคงไหลออกจากแผลเขาแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องสนใจเอาเสีย

     

    “คุณชายครับรีบไปทำแผลเถอะครับ”จงอินเหน็บปืนก่อนวิ่งเข้ามาถึงตัวอีกคน ชานยอลพยักหน้าเบาๆก่อนเดินนำจงอินไปยังรถแฮมเมอร์คันใหญ่สีดำที่จอดอยู่ด้านหลังของที่ก่อสร้างแห่งนี้ แล้วขึ้นนั่งแท่นเป็นคนขับเสียเอง

    “เก็บกวาดให้เรียบร้อย ดูด้วยว่าชาวบ้านบาดเจ็บแล้วคนของเราเป็นยังไงบ้าง ไปรายงานที่โรงแรม ให้เซฮุนโทรมาหาภายในห้านาที”ชายหนุ่มสั่งงานทั้งหมดปิดประตูรถขับออกไปไม่รอให้ลูกน้องรับคำแม้แต่น้อยหากเจ้าของผิวสีเข้มกลับรีบควักโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายหาคู่หูตัวเองทันที

     

    “ว่าไง”เสียงรับสายของเซฮุนดังออกมา เขาค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อยที่จงอินโทรศัพท์มาหาในเวลานี้ และก็ไม่ผิดเพี้ยนเมื่อเรื่องราวต่างๆถูกบอกเล่าใบหน้าที่มักจะเฉยเมยของเขาก็ขมวดเกร็งจนคิ้วสวยเกือบชนกัน

     

    ด้วยอาจจะคำนึงถึงนายเหนือหัวมากจนเกินไปจึงทำให้เขาลืมไปว่าตอนนี้กำลังอยู่ในห้องการเรียนการสอนของแบคฮยอนแต่ปกติก็ไม่ใช่คนเสียงอะไรจึงไม่ได้เป็นการรบกวนที่เขารีบร้อนจะตอสายหาชานยอลโดยไม่ประวิงเวลาแม้แต่เพียงนาทีเดียว

     

    “คุณชายไม่ทราบเป็นอย่างไรบ้างครับ”คำถามเดียวหากเซฮุนที่นิ่งฟังปลายสายตอบกลับมาอย่างมากมายด้วยใบหน้าเครียด สมองเขาจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่ ชานยอลพูดได้ในครั้งเดียวหากก็คลายควากังวลลงเพียงแค่เล็กน้อย

    “แน่ใจนะครับว่าไม่ให้ผมลงไปสมทบพร้อมกับการ์ดอีกชุด”เซฮุนถามแค่นั้น หากอีกฝ่ายก็สั่งงานมาอีกไม่มาก

    “ครับผมจะเร่งดำเนินการครับ แล้วเดี๋ยวจะโทร.เรียกหมอไปรอดูแผลก่อนคุณชายที่โรงแรมนะครับ”เซฮุนกล่าวเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนจะวาง จากนั้นจึงเดินหน้าเคร่งไปหาจุนซุที่อยู่อีกฟาก กระซิบพูดคุยอีกสองสามที่ทำให้จุนซูเองก็มีใบหน้ากังวลไม่ต่างกันและทำท่าเหมือนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกัน เพียงแต่อาจจะหลงลืมไปซักนิดนึงว่าโซราเองก็อยู่ในห้องนี้ด้วย เฉกเช่นเดียวกับแบคฮยอนที่รู้สึกใจหายกับบทสนทนาอย่าไม่เข้าตัวเองว่าทำไมถึงนึกห่วงคนใจร้ายคนนั้นขึ้นมา

     

    “เดี๋ยวเซฮุน มีเรื่องอะไรที่เชจูหรอ”โซราที่หยุดการสอนหนังสือของตัวเองเพื่อถาม ในขณะที่แบคฮยอนเองก็มองด้วยความสนใจเช่นกัน

     

    หากคำถามที่ทำให้คนตอบกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย พอๆกับคำตอบที่ทำให้แบคฮยอนใจไม่ดีรู้สึกในอกมันวูบโหวงขึ้นมาเสียจนมือไม้สั่นอย่างควบคุมไม่ได้ทันทีที่ได้ฟัง

     

    “คุณชายถูกคนร้ายซุ่มยิงที่เชจูน่ะครับ”

     

    ********************************************************************************************

     

    TBC เดี๋ยวเรื่องมันจะดาวพระศุกร์ไปนิด แล้วที่ปูมาว่า #ปาร์คไม่แคร์ แกเป็นผู้มีอิทธิพลจะไม่ได้เกิดเราต้องทำให้มันจ้นเจ้มกันซักนิด ให้ #แบคพิการ เขาอกสั่นขวัญแขวนกันซักหน่อยนะแจ๊ะ

    ที่หายไปไม่ได้อู้ นี่กระโดดข้ามไปแต่งตอนหลังกระโดดไปกระโดดมาเลยมาทีละกระปิ๊ดๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×