ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC EXO} DISABLE..พิการ [ChanBaek] Yaoi

    ลำดับตอนที่ #10 : - Disable - 9

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 16.15K
      216
      9 ส.ค. 57

     

     

     

    NINE

     

     

     

     

     

    อีกไม่กี่วันก็ได้ฤกษ์ดีที่แบคฮยอนจะได้ผ่าตัดข้อเท้าข้างที่มีปัญหา ในขณะที่ขาอีกข้างก็ค่อยๆมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเขาเริ่มยืนได้บ้างแล้วโดยไม่เจ็บปวดนักและสามารถเดินก้าวสั้นๆได้แล้วโดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำ จงแดเจ้าของไข้เลยลงความเห็นว่าเขาควรจะได้เปลี่ยนจากการนั่งรถเข็นเป็นราวจับมีล้อสำหรับช่วยหัดเดินแทนเพื่อการบริหารแต่ถ้าหากเจ็บปวดมากก็ให้กลับมานั่งรถเข็นตามเดิม

    นั่นคือสิ่งที่แบคฮยอนดีใจเสียยิ่งกว่าดีใจ ตั้งแต่วันที่เขาฝันถึงแม่ เขาบอกกับตัวเองว่าจะตั้งใจบำบัดให้หายให้ได้จริงๆ

     

    “น้องแบคฮยอนครับวันนี้พักก่อนดีไหมพี่ว่า เดี๋ยวช่วงเย็นพี่อยู่ช่วยทำบำบัดให้”ยงฮวาเป็นแขกประจำของที่นี่ไปแล้ว นอกจานั้นถ้าวันไหนที่ตอนเย็นๆ ชายหนุ่มว่างก็จะมาคอยช่วยเขาบำบัดถึงแม้ไม่มากก็พอจะช่วยหยิบจับอะไรต่อมีอะไรได้อย่างขยันขันแข็ง

    “ดีครับ งั้นก็แสดงว่าจะฝากมื้อกลางวันกับเย็นไว้ที่นี้สินะครับ วันนี้ลู่หานกับคยองซูมาพอดีเลย”แบคฮยอนฉีกยิ้มหวานตอบ เขาชอบพูดคุยกับยงฮวาเพราะชายหนุ่มชอบทำให้เขาอารมณ์ดี สรรหาเรื่องตลกมาเล่าให้เขาฟังเสมอ

     

    ทั้งคู่เรียนหนังสือต่อไปอีกสักพักเสียงเดินลงเท้าหนักๆเหมือนคนรีบร้อนมากมายก็มาถึงประตูห้อง เสียงเคาะประตูระรัวดังจนคนทั้งสามอันประกอบด้วย แบคฮยอน ยงฮวา และจุนซูต้องรีบหันมามอง ปรากฏเป็นจงอินที่เดินเข้ามาท่าทางรีบร้อน ประกอบกับสีหน้าเคร่งเครีบดทำให้คนตัวเล็กรู้แล้วว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น

     

    “คุณท่านกำลังเดินทางกลับมานะครับ อาการท่านทรุดหนักมาก คุณหนูและคุณชายเพิ่งทราบว่าท่านป่วยเป็นมะเร็งไขสันหลังตั้งแต่ก่อนเดินทางไปต่างประเทศรบกวนคุณแบคฮยอนช่วยไปรอท่านที่ห้องของท่านด้วยครับ”สิ่งที่ออกมาจากปากทำให้แบคฮยอนใจหายวาบตัวชา

     

    แน่นอนว่าเด็กหนุ่มรู้มาตั้งนานแล้วว่าคุณปาร์คป่วย และเดินทางไปเพื่อพักผ่อนรักษาแต่อาการที่ทรุดเร็วอย่างนี้ก็อดทำให้เขาใจไม่ดี มะเร็งไขสันหลังเป็นอะไรที่รุนแรงอย่างไม่คาดคิด แบคฮยอนวานจุนซูให้พาเขาไปยังห้องนอนที่ถูกสั่งไว้ว่าให้ไปรอ

    หากเมื่อเข้าไปใจยิ่งเสียเครื่องมือแพทย์มากมายถูกติดตั้งและตระเตรียมรอคนป่วยเสียจนห้องกว้างนี้กลับแคบลงถนัดตาซึ่งดูไม่ควรจะเป็นห้องนอนด้วยซ้ำไป แทบไม่อยากคิดว่าคนที่เขาเคารพจะมาถึงในสภาพเช่นไร

    นั่งอยู่ได้ไม่เกินชั่วโมงประตูห้องก็เปิดออก ชายมากวัยที่แบคฮยอนเคยเห็นถูกลูกชายของเขาประคับประคองเข้ามาในห้องด้วยท่าทางอ่อนโยนอย่างที่แบคฮยอนไม่เคยเห็นมาก่อนภาพที่ชานยอลประคองให้คุณพ่อของเขานั่งลง ก่อนปรับตัวเอนนอน ชายหนุ่มก้มลงไปคุยกับคนป่วยใกล้ๆใบหน้าของชานยอลอาจดูนิ่งเฉยแต่เขาก็เห็นสายตาเศร้าโศกที่แฝงอยู่ในนั้นเมื่อมันหันมาสบตาของเขา

     

    “คุณพ่อเรียกเธอน่ะ”ชานยอลมองเขาเหมือนเขาเสนอหน้ามาอยูในห้องนี้ก่อนเดินออกไปด้านนอกแบคฮยอนกระเถิบตัวไปใกล้เตียงหลังใญ่ พยายาไม่เหยียบโดนเจ้าสายระโยงระยางต่างๆการ์ดคนหนึ่งหยิบเก้าอี้มาให้เขาหนัง

     

    ภาพที่เห็นทำเขาใจหายแค่เพียงหนึ่งเดือนชายมากวัยที่เขาเคยเข้าใจว่าแข็งแรงดีตอนนี้กลับเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิม ผมแซมขาวที่เขาเคยเห็นเปลี่ยนเป็นสีดอกเลาไปทั้งหัว ใบหน้าที่เคยคิดว่าอ่อนกว่าวัยบัดนี้ชราลง ทั้งซูบผอมดูไม่มีกำลัง แบคฮยอนน้ำตาคลอหากพยายามกลั้นใจไม่ให้ไหล แต่เพียงมันทำยากเกินไป

     

    “หนูอย่าร้องไห้นะ”คุณปาร์คบอกเสียงเบา น้ำเสียงที่เคยหนักแน่นเจือจางลงด้วย ไม่มีหลงเหลืออำนาจที่เคยเห็น

    “คุณปาร์ค..เจ็บมากไหมครับ”แบคฮยอนกระถดตัวก้าวสั้นๆเข้ามาหา คุณปาร์คยกยิ้มด้วยความพอใจ

    “เดินได้บ้างแล้วหรือ”ท่านไม่ตอบแต่เปลี่ยนเรื่องคุยไปเพียงเท่านั้น

    “ครับ ได้เล็กๆน้อยๆแล้ว คุณปาร์ค”แบคฮยอนยิ้มตอบเมื่อเห็นท่านเองก็ยิ้ม

    “เรียกฉันคุณพ่อเถอะ..ยังไงก็คนในตระกูลกัน”คุณปาร์คยกมือลูบหัวเล็กของอีกคนอย่างนึกเอ็นดู

    “คงไม่ดีหรอกครับ ผมยังเป็นคนนอกอยู่เลย”แบคฮยอนเอ่ย เขาไม่ได้มีความต้องการที่จะเป็นหนึ่งในครอบครัวเลยสักนิด หรือแม้แต่อยากใช้นามสกุลร่วมด้วย

    “แล้วที่ลูกชายฉันทำกับหนูล่ะ จะเรียกว่าเป็นได้ไหม”คุณปาร์คทำให้แบคฮยอนตกใจมากถึงมากที่สุด ดวงตาเรียวเบิกกว้างขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ

    “ท่านทราบ”

    “ใช่..ฉันรู้เรื่อง จุนซูรายงานฉันหมดแล้ว”คุณปาร์คบอกด้วยรอยยิ้มแต่แบคฮยอนหน้าเสียจนอยากจะร้องไห้แล้วมือเย็นเฉียบด้วยความกลัว

    “ผ…ผมขอโทษจริงๆนะครับ คุณปาร์ค ผมขอโทษนะครับ”แบคฮยอนก้มหัวขอโทษหลายต่อหลายครั้งหากคุณปาร์คได้แต่ส่ายหน้า

    “มันผิดที่ลูกฉัน ถ้าหากนับจริงๆก็คงผิดที่ฉันเองที่ตัดสินใจทุกอย่างเร็วไป”คุณปาร์คพูดเมื่อน้ำตาของแบคฮยอนร่วงเผาะออกมาเม็ดใหญ่ เขาให้คนตัวเล็กนั่งลงที่ข้างเตียง ดึงเอกสารฉบับหนึ่งออกมาให้อ่าน

     

    แบคฮยอนรับมาก่อนเปิดอ่าน เด็กหนุ่มมองมันทุกบรรทัดและตัวอักษร อ่านมันอย่างถี่ถ้วนซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบแล้วทำหน้าฉงนใส่คุณปาร์ค ส่ายหน้ารัวและเร็ว

     

    “ผมรับไม่ได้หรอกครับ ผมรับไม่ได้ ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นเจ้าของในส่วนของคุณชานยอลเลยครับ”แบคฮยอนยื่นกระดาษคืนทันทีราวกับต้องของร้อน

     

    สมบัติในส่วนของโซราหล่อนยังได้ตามเดิมแต่ส่วนของชานยอล 90% เป็นชื่อของแบคฮยอนนั้นไม่ถูกต้องเลยสักนิด แบคฮยอนไม่ควรได้รับอะไรเลยด้วยซ้ำที่ได้รับอยู่ก็มากพอแล้วเพราะอย่างนั้นของเหล่านี้ไม่ใช่ของของเขา

     

    “เงินเมียก็เหมือนเงินของผัว ชานยอลจะต้องรับผิดชอบในตัวของหนู เขาทำหนูเจ็บช้ำน้ำใจมามากแล้ว”นั่นคือสิ่งที่คุณปาร์คบอกแต่แบคฮยอนกลับไม่มองเป็นอย่างนั้นเลย เขากลับมองว่าการทำแบบนี้จะทำให้เรื่องมันกลับแย่ลงไป

    “หนูไปพักผ่อนเถอะฉันอยากคุยกลับลูกๆบ้าง”คุณปาร์คเอ่ย แบคฮยอนพยุงตัวด้วยไม้ค้ำเพื่อออกไปด้านนอก เห็นจุนซูเข้ามาพยุงเขาที่ดูเหมือนไม่มีสติเป็นของตัวเอง เขาบอกจุนซูอย่างเลื่อนลอยเล็กน้อยว่าคุณปาร์คต้องการพบลูกๆทั้งสองในขณะที่เขาอยากพักผ่อนแล้วไม่ขอบำบัดอะไรทั้งสิ้นในวันนี้

    เพราะสมองเขายังรับเรื่องราวที่ประดังเข้ามาไม่ไหว

     

      

    หลังจากนั้นสองสามวันให้หลัง คุณปาร์ค มินซุกได้จากไปอย่างสงบ การจากไปอย่างกระทันหันทำให้หนังสือพิมพ์ทุกฉบับนำมาขึ้นหน้าหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของเกาหลีจากไปและข่าวของทายาทอย่างปาร์ค ชานยอลก็ตีคู่กันมา

    พิธีในงานถูกจัดอย่างสมเกียรติ แขกเหรื่อชั้นสูงได้รับการเชื้อเชิญมาร่วมงานเพียงแต่แบคฮยอนถูกเก็บตัวเงียบเอาไว้ ไม่มีใครกล่าวถึง ซึ่งคนตัวเล็กมองว่านั้นเป็นเรื่องดีแล้ว ทุกอย่างของแบคฮยอนถูกเลื่อนออกไปตามความเหมาะสมทั้งเรื่องเรียน เรื่องรักษาและเรื่องผ่าตัด

    ทุกคนกำลังวุ่นวายกับงานศพ จนตลอดงานผ่านไปอย่างราบรื่นดีท่ามกลางความเสียใจที่ชานยอลไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียวแต่ชายหนุ่มกลับเงียบมากขึ้นทั้งที่ปกติก็เงียบมากอยู่แล้ว ต่างที่โซราร้องไห้แทบตลอดเวลานั่นทำให้ยงฮวาเป็นคนอาสาดูแลเขาในตอนนี้และจุนซูไปทำหน้าที่อยู่เคียงข้างหญิงสาวแทน

     

    “พี่ยงฮวาไปทำธุระเถอะครับอย่าเสียเวลาเลย”แบคฮยอนบอก ขณะที่ยงฮวาหันมายิ้มแล้วนั่งมองเขาต่อ

     

    วันนี้เป็นวันไว้อาลัยและเปิดพินัยกรรม แบคฮยอนกอดตัวเองเอาไว้แน่น เขากำลังกลัว กลัวใจชานยอลเหลือเกินมันไม่ใช่เรื่องที่ดีนักกับการกอดเงินของคนอื่นเอาไว้แบคฮยอนไม่สบายใจ

     

    “คุณแบคฮยอนครับ ทนายได้มาเปิดพินัยกรรมแล้วครับ”จุนซูมาเรียกถึงห้อง พร้อมกับพาตัวแบคฮยอนไป ตอนนี้เขาก้าวย่างได้มากขึ้น จากระยะทางสั้นๆก็มากพอจะเดินเหินในบ้านอย่างสะดวกบ้าง จึงพยายามประคองตัวเดินเองมาจนถึงที่

     

    เขาเข้ามานั่งอยู่ในห้องทำงานของคุณปาร์คเพื่อรอสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น มันเหมือนเวลายาวนานที่คุณทนายวัยมากอายุกำลังกางพินัยกรรมเพื่อเปิด

     

    “ตามพินัยกรรมที่ได้ระบุไว้ คุณโซราบุตรสาวคนโตจะได้รับ บ้านตากอากาศ เงินสด และเครื่องเพชร….”คุณทนายไล่ไปตามรายการอันยาวเหยียด จนแบคฮยอนนับมันไม่ไหวเขาไม่ต้องการรับรู้ เขาไม่อยากอยู่ในห้องห้องนี้ด้วยซ้ำไป

    “และส่วนที่เหลือทั้งหมดนอกเหนือรายการนี้จะเป็นของคุณชานยอล ซึ่งตามที่คุณท่านได้ระบุเอาไว้ตอนนี้ 90% เป็นชื่อของคุณพยอน แบคฮยอนครับ”นี่คือช่วงเวลาที่เขาทั้งรอคอยและไม่รอคอย ทุกสรรพสิ่งในห้องนั้นเงียบไปทุกสายตาหันมามองที่แบคฮยอน

     

    คนตัวเล็กนั่งเขี่ยมือไปมาอยู่คนเดียว ไม่กล้าสบสายตาใคร คนคนเดียวที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับตระกูลนี้กลับได้ทรัพย์สมบัติมากที่สุด

     

    “เธอรู้อยู่แล้วใช่ไหม”เสียงทุ่มที่กดต่ำลงทำให้แบคฮยอนใจหาย ช้อนสายตาหวาดกลัวขึ้นมามองใบหน้าของร่างสูง แบคฮยอนมองเห็นแววตากรุ่นโกรธในดวงตาคู่สวยคู่นั้นที่เหมือนจ้องจะทำลายให้แบคฮยอนกลายเป็นจุล

    “ผ..ผม..ผม”แบคฮยอนหาลิ้นตัวเองไม่เจอ เขาไม่รู้จะปฏิเสธหรือบอกปัดอย่างไร

    “สมใจเธอแล้วสิ อยากแก้แค้นฉันสินะ”ชานยอลพูด เพียงแค่เขายืนอยู่เฉยๆ แต่ทำให้แบคฮยอนรู้สึกได้ว่าถูกคุมคาม แบคฮยอนได้แต่นั่งอยู่ตรงนั้นไม่สามารถพูดอะไรได้

    “อยากได้มากนักใช่ไหม อยากได้นักก็เอาไปเลย ฉันยกให้เธอทุกอย่าง..เธอชนะแล้ว จากนี้ไปคงไม่ได้เจอกันอีก หึ..ฉันเกลียดคนอย่างเธอจริงๆ”ชายหนุ่มพูดแค่นั้นก่อนเดินก้าวออกไปเลยโดยไม่มอง แบคฮยอนแค่อยากลุกขึ้นเพื่อวิ่งตามเพียงแต่ขาเขาไม่แข็งแรงพอเลยได้มองตามอีกคนไป

     

    เขาควรดีใจที่ชานยอลจะหายไปจากชีวิตของเขา ควรมีความสุขที่จะไม่โดนคนใจร้ายย้ำยีเขาอีก แต่ไม่รู้ทำไมในใจถึงเจ็บเสียยิ่งกว่าโดนทำร้ายอีกก็ไม่รู้

     

    “แบคฮยอนใจเย็นๆนะ…พี่ว่าคุณพ่อคงมีเหตุผลของท่าน…แบคฮยอน..แบคฮยอน!!!!”โซราที่เห็นท่าไม่ดีนักจึงรีบเข้ามาพูดคุย หล่อนยังคงเชื่อมั่นว่ามีบางอย่างที่พ่อต้องการสื่อเพียงแต่ท่านอาจพูดไม่ได้แล้วในตอนนี้ พอพูดได้ไม่เท่าไหร่เห็นหน้าซีดๆตาลอยๆของคนตัวเล็กเธอจึงตกใจ รู้ตัวอีกทีคนตัวเล็กกลับล่วงลงไปกองแทบเท้าเสียแล้ว

     

    แบคฮยอนตื่นขึ้นมาอีกทีในเวลาสามชั่วโมงหลังจากนั้น ภาพแรกที่เขาเห็นกลับเป็นคนหมอจงแดที่มีสีหน้ากังวลนั่งมองเขาอยู่ แบคฮยอนเหม่อมองไปรอบๆห้องอย่างคนที่สติยังไม่สมประกอบดี ภาพห้องนอนที่เขามาอาศัยจนเกินหนึ่งเดือนมาได้เสียเกือบอาทิตย์ แบคฮยอนหันไปมองใบหน้าคุณหมออีกครั้ง ยังคงเป็นแววตาที่กังวลด้วยอะไรสักอย่าง

     

    “คุณแบคฮยอนเป็นอย่างไรบ้างครับ”จงแดถามพยุงคนตัวเล็กขึ้นนั่ง

    “เวียนหัวน่ะครับแล้วก็เพลียๆ ผมเป็นอะไรหรอ”แบคฮยอนถามแต่ คิม จงแดมีท่าทีกระอักกระอ่วนที่จะตอบ

    “คือ..”จงแดมองหน้าจุนซูเล็กน้อย อีกคนมีสี่หน้าไม่สู้ดีเช่นกันแต่ก็พยักหน้าให้คิม จงแดพูด

    “คืออะไรครับ”

    “คุณท้อง..คุณท้องได้สามอาทิตย์แล้ว”เหมือนฟ้าผ่าลงมาที่กลางหัวใจแบคฮยอน เขากำลังคิดว่าคิม จงแดพูดเรื่องตลกอยู่เพียงแต่มันไม่ตลกเลย

    “คุณหมอพูดอะไร ตลกจังเลยครับ..มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน ผมเป็นผู้ชายจะมีมดลูกได้ยังไงครับ”แบคฮยอนพยายามพูดติดตลกแต่สีหน้าของคนทั้งสองไม่ได้ทำให้เขารู้สึกว่าโดนหลอกเลย

    “เป็นไปแล้วครับ ในทางการแพทย์เรียกว่าเป็นคนสองเพศ ในกรณีเด็กแรกเกิดบางคนอาจมีอวัยวะเพศสองอันแต่ในกรณีของคุณ มันคงเป็นการสร้างมดลูกแบบไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะมีโพรงปากมดลูกอยู่ใกล้กับทวารหนัก แต่นั่นถือว่าเกิดขึ้นได้เนื่องจากเด็กในครรภ์มารดาไม่ได้มีเพศ จะเกิดเป็นหญิงก่อนแล้วแต่จะมีการพัฒนาสร้างเพศเป็นชายหรือหญิงตามแต่จะเกิด”จงแดอธิบายอย่างละเอียด

     

    คนตัวเล็กพูดอะไรไม่ออกได้แต่พยายามจับต้นชนปลาย สมองเขาตื้อไปหมดวันนี้มีเรื่องมากมายเหลือเกินแต่เรื่องนี้เกินรับไหวที่สุด

     

    “คุณหมอแน่ใจหรือครับ”

    “ผมเอาผลตรวจเลือดกับปัสสาวะของคุณแบคฮยอนไปตรวจหลายรอบแล้วครับ ตั้งแต่วันที่ตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัดแต่ตอนนั้นครรภ์คงอ่อนเกินไปเลยทำให้ผลไม่แน่นอน..แต่ตอนนี้ได้ผลยืนยันชัดเจนแล้วครับ”จงแดอธิบายให้แบคฮยอนหายสงสัย

     

    คนตัวเล็กเอื้อมมือไปที่ท้องน้อยของเขา ลูบมันเบาๆอย่างทะนุถนอมมีความรู้สึกอุ่นวาบอยู่ภายในนั้นมันก่อตัวขึ้นเหมือนวันที่เขาได้รับเม็ดพลอยสีชมพูจากแม่ นี่สินะคือสิ่งที่แม่มอบให้เขา..ความรู้สึกของความเป็นแม่ ความรู้สึกรักที่มันบรรยายไม่ถูกมันอาจเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่เขาเป็นผู้ชายและท้องได้ 

     

    “ใครรู้เรื่องนี้บ้างครับ”แบคฮยอนอมยิ้มให้กับสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่ถือกำเนิดขึ้นในท้องของเขา ก่อนที่จะเงยหน้ามองคนที่เหลืออยู่ในห้องอีกสองคน

    “ไม่มีเลยในตอนนี้ครับ มีแค่ผมแล้วก็คุณจงแด..คนยิ่งรู้น้อยผมว่าจะเป็นทางดี”จุนซูตอบ แบคฮยอนเม้มปากแน่นในหัวของเขาคิดสาระตะไปมากมายอยู่พักใหญ่แล้วยิ้มเศร้าเล็กน้อย ช้อนขึ้นมาอีกครั้งด้วยดวงตาที่แปลกไป

    “ผมวานคุณจุนซูช่วยเป็นธุระให้ผมสักเรื่องสิครับ”แบคฮยอนยิ้มอ่อนให้ จุนซูเดินเข้ามาหาเข้าทันทีแบคฮยอนพูดเสียงเบาในสิ่งที่มีเพียงเขาและจุนซูได้ยินเท่านั้นหากชายหนุ่มกลับทำตามทันทีโดยไม่ติดใจถามพร้อมกับสะกิดให้จงแดเดินตามกันออกไป

     

    คนตัวเล็กยิ้มอีกครั้งด้วยใบหน้าเต็มอิ่มยิ้มให้กับเจ้าตัวน้อยที่ถือกำเนิด เขามองมันว่ามันช่างสวยงาม เขาจะรักเด็กคนนี้ให้มากกว่าชีวิตที่เขามี จะรักมากกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง จะมอบความรักทดแทนในส่วนที่ขาดหายไปจากคนเป็นพ่อเสีย และจะเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำได้ให้


                  แม้ในท้องของเขากำลังมีชีวิตเล็กที่เติบโตจากความเกลียดชังของคนเป็นพ่อ

     

    “เราคงต้องลำบากกันหน่อยนะลูก..”


     

     

    เพล้ง!!!!

     

    เสียงแก้วกระทบฝาผนังแตกกระจัดกระจายดังก้องไปทั่วห้องชุดขนาดใหญ่ ชานยอลนึกหงุดหงิดใจที่อกของเขามันเจ็บแปลบๆมาตั้งแต่ก้าวออกจากบ้านใหญ่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะใบหน้าที่เสียใจผิดหวังของแบคฮยอนมันลอยเด่นไปมาจนเขานึกรำคาญตัวเองที่สลัดมันไม่ออกเสียที

    ชานยอลไม่เข้าใจทั้งๆที่เขาออกจะเกลียดแบคฮยอนขนาดนั้นแต่ทำไมถึงต้องนึกถึง มันดูไม่มีเหตุผลเลยสักนิดเดียว มันไม่มีอะไรที่สมเหตุสมผลกัน

     

    ‘หึ..ฉันเกลียดคนอย่างเธอจริงๆ’

     

    ทั้งๆที่เป็นคนพูดเองแต่ในอกกลับสั่นสะเทือนจนเจ็บ ชานยอลยกมือขึ้นนวดขมับของตัวเองที่เกร็งขมวด แก้วใบใหม่ถูกสับเปลี่ยนมาวางให้พร้อมทั้งรินเหล้าจนเต็มด้วยคนสนิททั้งสองก็กลับไปยืนที่เดิม

    ทั้งที่ความจริงมีเรื่องของแบคฮยอนที่เซฮุนจำเป็นต้องรายงาน และเขาก็เห็นสมควรด้วยที่จะรายงานตอนนี้

     

    “คุณชายครับ เรื่องคุณแบคฮยอน..”

    “ไม่ต้อง ฉันไม่อยากฟังเรื่องเขาอีก”ชานยอลปัดมือออกเมื่อเขากำลังพูดเซฮุนจึงกลับไปยืนที่เดิม เรื่องที่บยอน แบคฮยอนป่วยและเรียกคนเข้ามาทำเอกสารบางอย่างจึงต้องพับเก็บเอาไว้เหมือนเดิม

     

    ชานยอลมองออกไปนอกหน้าต่าง หวังให้วิวทิวทัศน์ด้านนอกช่วยทำให้อารมณ์กรุ่นในอกถูกบรรเทาหากมันกลับร้อนรุ่มไม่หายไปเสียที

    เพราะมองไปที่ไหนกลับนึกถึงแต่ใบหน้าใสที่มีนัยน์ตาแสนเศร้า นัยน์ตาคู่นั้นคอยจับจ้องเขาอยู่เสมอ เขาเกือบหลงเชื่อในความบริสุทธิ์ของแบคฮยอน เกือบจะไว้ใจในความเศร้าสร้อยที่อีกคนมักพกมันติดตัวเสมอ เพียงแต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นเหยื่อล่อที่ทำให้คนอย่างเขาตายใจเท่านั้นเอง

    ชานยอลหลับตาพยายามไม่นึกถึงให้จิตใจของเขาไคว้เขว ยังมีงานอยู่อีกมากที่เขาต้องทำแม้ว่าเงินปันผลมันจะต้องเป็นของแบคฮยอนส่วนหนึ่ง แต่คนจำนวนนับหมื่นนับแสนใต้ยังคับบัญชาของเขาจะพลอยเดือดร้อนไปด้วยถ้าหากเขาไม่เข้าไปบริหารงานเขาไม่อยากให้แบคฮยอนมาชุบมือเปิบไปก็จริงแต่เขาก็ยังมีตำแหน่งประธานค้ำคอ การบริหารคือ 10 เปอร์เซ็นต์ที่เขาได้จากพินัยกรรมทั้งหมด นั่นคือข้อผูกมัดที่ทำให้เขาต้องรับผิดชอบ

     

    “เธอมันงูพิษ..แบคฮยอน ฉันไม่มีวันขอเงินเธอสักเศษวอนเดียว”

     

     

     

     

    แบคฮยอนได้ของที่เขาต้องการแล้วโดยจุนซู โดยรับมาและกำชับว่าอย่าให้ใครรู้เด็ดขาดเป็นความลับเพียงอย่างเดียว คนที่จะรู้ไม่ได้เลยคือคุณหนูและคุณชายของบ้าน ถุงกระดาษมีน้ำหนักเล็กน้อยถูกวางไว้บนโต๊ะ ตอนนี้แบคฮยอนเริ่มทำกายภาพบำบัดด้วยตัวเองได้บ้าง เขาทำมันถี่ขึ้นเนื่องจากเขารู้ตัวแล้วว่าตนเองไม่ได้ตัวเปล่าๆ จะเดินเหินไม่สะดวกอย่างสมัยก่อนไม่ได้ มันจะลำบากลูกเพราะอย่างนั้นเขาจึงต้องหายให้ทันก่อนเด็กตัวเล็กจะลืมตาดูโลก

    มือบางวางหนังสือลงกับโต๊ะไม้ อาศัยจับราวที่ติดตามผนังห้องเกาะเดินมาเรื่อยๆก็ถึง ยิ้มให้ตัวเองที่สามารถมาได้ไกลขนาดนี้ นั่นคืออีกวิธีที่หมอซูจีบอก การให้กำลังใจกับตัวเองเพื่อให้เขามีแรงในการสู้ต่อไป มือเล็กหยิบหนังสือแม่และเด็ก พร้อมเอกสารสองสามฉบับออกมา วางหนังสือเอาไว้ก่อนและหยิบเอกสารมาแทน เด็กหนุ่มเปิดออกมาอ่านอย่างถี่ถ้วนกระบวนความ ไม่ลังเลที่จะเซ็นชื่อลงไปในทุกฉบับที่กำกับว่าต้องลงลายมือชื่อของเขา จนกระทั้งถึงหน้าสุดท้ายจึงวางปากกาลง เชื่อว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิด

    แบคฮยอนปิดหน้ากระดาษและไม่สนใจมันอีก หันกลับมาให้ความสนใจกับหนังสือที่เขาต้องการ แผ่นเพลงที่แถมมากับหนังสือคนตัวเล็กก็เอามันมาเปิดเพื่อฟังในระหว่างที่เขาอ่าน

     

    “หนูจะต้องแข็งแรงนะลูก”แบคฮยอนเปรยเสียงเบา พยายามจะยิ้มหวานให้กับเด็กที่ยังมองไม่เห็นเพียงแต่เรื่องในใจของเขามันกลับทำให้เขาไม่มีทางสงบใจ

     

    ‘หึ..ฉันเกลียดคนอย่างเธอจริงๆ’

     

    คำคำนี้เขาสลัดอย่างไรก็ไม่หลุดมันติดแน่นอยู่ในหัวสมองกับสองหูจนเอาออกยาก ให้เอาออกอย่างไรก็ไม่ได้ สมาธิที่จะอ่านหนังสือเลยถูกริดรอนออกไปเสียหมด

    แบคฮยอนถอนใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายอยากร้องไห้แต่ก็ไม่อยากร้องไห้ ในอกมันวาบโหวงและปวดแปลบขึ้นมาอยู่เรื่อยๆเมื่อนึกถึงใครสักคนที่มีส่วนในชีวิตน้อยๆที่กำลังจะเกิดมา แบคฮยอนเอื้อมมือไปประคองที่ท้องน้อยของตัวเขาเองบางเบา เม้มปากเล็กๆแล้วจึงฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย

     

    “ไม่เป็นไรนะลูก ไม่เป็นไร แม่เชื่อว่าถ้าพ่อเขารู้ว่ามีหนู ถึงเขาจะไม่รักแม่แต่เขาก็จะรักหนู”แบคฮยอนบอกทั้งที่ไม่มั่นใจแท้ๆ แต่เเขาไม่อยากปลูกฝังความเกลียดชังให้กับลูกของตัวเองมันโหดร้ายเกินไป

     

    แบคฮยอนหยิบโทรศัพท์ในลิ้นชักขึ้นต่อสายหาเพื่อนของตัวเองที่ความจริงอีกสองวันก็ต้องได้เจอกันขึ้นมา เขานอนทบทวนดีแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจดีกับทุกฝ่ายยกเว้นตัวของเขาเองแต่ถ้าหากเขากับลูกผ่านมันไปได้ทุกอย่างจะดีงาม

     

    “คุณโดหรอ..เรามีเรื่องรบกวนคุณโดล่ะ..”

     

     

     

     

     

    วันนี้เป็นอีกวันที่คุณหมอจงแดเข้ามาดูอาการแบคฮยอนและแนะนำให้คนตัวเล็กไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลของเขาซึ่งนั้นจะทำให้ความลับไม่รั่วไหล แบคฮยอนเชื่อและทำตามอย่างเคร่งครัด เขาได้ทำการอัลตร้าซาวด์เพื่อยืนยันผลการตั้งครรภ์ซึ่งมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขาตั้งครรภ์สามสัปดาห์ราวปาฏิหารย์

    ขั้นตอนการฝากครรภ์ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากแค่ตรวจสุขภาพความพร้อมของร่างกายมารดาซึ่งในกรณีของแบคฮยอนไม่สามารถคลอดอย่างคนทั่วไปได้เขาจำเป็นต้องผ่าคลอดและดูแลครรภ์เป็นพิเศษ อาจจะต้องรับฮอร์โมนเพศหญิงด้วยแต่เท่าที่เช็คดูแล้ว คิม จงแดบอกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องรับแต่ต้องทานยาบำรุงครรภ์ให้ครบ พร้อมทั้งเข้ามาเช็คอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น

     

    “จากนี้ไปต้องระวังให้มากนะครับ เพราะว่าครรภ์อ่อนๆอย่างนี้คุณมีโอกาสแท้งได้ง่าย ก็ต้องระวังเยอะๆ แต่เท่าที่ตรวจดูตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเลยครับ”คิม จงแดบอกเขาจัดยาให้แบคฮยอนแค่สองสามอย่าง ส่วนมากคือวิตามินบำรุงครรภ์ทั้งสิ้น

     

    แบคฮยอนกัดปากเล็กน้อยที่ได้ยินแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร แค่ใจเสียกับคำว่าแท้งง่ายเท่านั้นเอง เขาไม่ชอบคำนี้เลยเมื่อรู้ว่ามีลูกอยู่ในท้อง นั่นคือฝันร้ายที่น่ากลัวของคนเป็นพ่อเป็นแม่

     

    “เอ่อ..คุณจะไม่บอก เจ้าชานยอลจริงๆหรือครับ”จงแดออกอาการเป็นห่วงเล็กน้อย

    “ไม่ครับ ไม่”แบคฮยอนเอ่ยยิ้มๆ เขาไม่เคยคิดจะบอกเลย

    “แต่ในท้องของคุณ ถือเป็นทายาทคนแรกของตระกูลปาร์คเลยนะครับ”จงแดย้ำในสิ่งที่แบคฮยอนลืมคิด แขนสองข้างยกขึ้นมากอดตัวเองทันที สมองเล็กพยายามคิดหาทางออกที่จะตอบ

    “เดี๋ยวถึงเวลาผมจะบอกเขาเองครับ”แบคฮยอนเลี่ยงคำตอบแล้วจึงยิ้มเบาๆ

     

    แน่นอนว่าเขากลัวจะถูกแย่งลูกไป เด็กคนนี้ไม่ได้เกิดจากความรักที่แท้จริงจากคนเป็นพ่อเป็นแม่แค่นั้นก็แย่พออยู่แล้ว จะให้เขาไปวิ่งร้องแร่แห่กระเฌอ แล้วถ้าเด็กคนนี้ไม่เป็นที่ต้องการ ใจของคนเป็นแม่ก็คงเจ็บปวด

    แค่เท่าที่เป็นก็เจ็บปวดมากพออยู่แล้วอย่าให้มันลุกลามไปที่เด็กอีกเลย

     

    “คุณจุนซูครับผมต้องการกลับบ้าน วันนี้คยองซูกับลู่หานมาด้วยผมว่าจะจัดการเรื่องให้เสร็จวันนี้เลย”แบคฮยอนพูดในขณะที่เขากำลังนั่งรถกลับบ้าน ทุกอย่างถูกตระเตรียมไว้แล้วอย่างเรียบร้อยดีเท่าที่เวลาของเขาจะจำกัดมี

    “แน่ใจแล้วหรือครับอีกสักวันสองวันดีกว่าไหมครับ แบบนี้จะไม่ยิ่งไปกันใหญ่หรอกหรือ”จุนซูแม้จะไม่เห็นด้วยแต่ก็ห้ามไม่ได้จริงๆ

    “ครับ แน่ใจที่สุด..ผมว่ามันผิดมาตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ”แบคฮยอนละสายตาก้มลงมองหน้าท้องแบนราบของตนเองแล้วยิ้มออกมาอ่อนๆ

     

    นั่งรถไม่นานเท่าไหรก็ถึง เพื่อนทั้งสองคนวิ่งมาหาเขาอย่างกระหืดกระหอบทั้งสองคนกอดเขาเอาไว้แน่นค่อยๆประคองแบคฮยอนที่เดินอย่างเชื่องช้า สีหน้าตกอกตกใจเล็กน้อย

    “มีอะไรหรือเปล่าคุณบยอนทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ”คยองซูถามอย่างร้อนรนแต่แบคฮยอนกลับส่ายหน้าเบาๆเป็นคำตอบ

    “เราเข้าไปคุยกันที่ห้องเถอะนะ”แบคฮยอนยิ้มหวานอย่างที่เขาชอบทำ

    “คุณบยอนทำเราตกใจมากเลย พี่ฮยอนอาแทบเต้นแน่ะ”ลู่หานสำทับอีกแรงหากแบคฮยอนก็ยังไม่ตอบจนกระทั่งเดินขึ้นมายังห้องของเขา แบคฮยอนจึงขอจุนซูให้อยู่เป็นส่วนตัวกับเพื่อนๆ

     

    แบคฮยอนที่เรียกเพื่อนตัวเองมาทั้งๆที่ทั้งสองคนไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็ทำการเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังอย่างละเอียดและบอกเจตจำนงค์ของตัวเองให้เพื่อนได้ฟัง คยองซูและลู่หานมีท่าทีที่ค่อนข้างช็อคกับเรื่องที่ได้ยินจนลมแทบจับแต่ก็ไม่ได้ดูถูกหรือรังเกียจอะไรในตัวของแบคฮยอนนอกจากสงสารเพื่อนตัวเองอย่างมากมาย

     

    “เฮ้อ..กรรมเวรแท้ๆ”ลู่หานเปรยออกมาเบาๆคิดอย่างที่พูดจริงๆ เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเรื่องร้ายๆถึงเกิดกับเพื่อนเขามากมายขนาดนั้น

    “ไอ้หมอนั่นมันอยู่ไหน เราจะไปคุยกับมันให้รู้เรื่อง ลูกมันทั้งคนมันจะไม่ดูดำดูดีได้ยังไง”กลับกลายเป็นคยองซูโมโหแทน ทำท่าลุกขึ้นเต้นเร่าๆ ค่อนขอดคนที่อยู่ไกลออกไปด้วยใจเจ็บ

    “อย่าเลยคุณโด เราสงสารลูก เรากลัว ให้มันจบอย่างนี้แหละ เรากับเขาก็ไม่ได้มีความข้องเกี่ยวอยู่แล้ว ลูกเราเราดูแลได้ ว่าแต่เรื่องที่เรารบกวนคุณโดทำให้เราทันไหม”แบคฮยอนที่พับเสื้อผ้าและของใช้ของเขาใส่กระเป๋าอย่างเรียบร้อยเขาคิดว่าตอนมาเอาอะไรมา ตอนกลับก็เอากลับไปเท่านั้น

     

    ใช่..บยอน แบคฮยอนกำลังจะไป จะว่าหนีก็ใช่..เขาคิดดีแล้วที่จะทำ มันดีทั้งตัวเขา ลูกและตระกูลปาร์ค สำหรับเขามันดีที่เขาจะได้อิสระคืนมาไม่ต้องมาอยู่ในวงเวียนที่ถูกทำร้ายอีก สำหรับลูกจะได้ไม่ต้องทนเป็นที่ไม่ต้องการของคนเป็นพ่อ และสำหรับตระกูลปาร์ค ก็ไม่ต้องมีชื่อเสียงที่ตกต่ำนักข่าวจะเล่นข่าวขนาดไหน หากรู้ว่าคนที่มาเป็นคู่หมั้นของลูกสาวกลับท้องกับลูกชายของบ้านทั้งๆที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน

    การที่ไม่มีเขาเสียสักคนอะไรก็จะดียิ่งขึ้น

     

    “เฮ้อ…คุณบยอนนี่จริงๆเลย เราจัดการเสร็จแล้ว พี่ฮยอนอาหาให้ไม่ไกลจากที่เก่านั่งรถประจำทางไปสองป้ายก็ถึง ติดสวนสาธารณะด้วยนะ บังเอิญดีเหมือนกัน..ดีเลยหลานเราจะได้มีที่เล่น”คยองซูบอกออกมาอย่างร่าเริงดับอารมณ์โกรธเมื่อนึกถึงหลานตัวน้อยสมาชิกใหม่

    “ขอบคุณมากนะคุณโด เราเป็นหนี้พวกนายอีกแล้ว”แบคฮยอนทราบซึ้งใจที่สุด

    “อย่าขอบคุณเราเลย ช่างเถอะ..เราไม่อยากให้หมอนั่นรู้แล้วว่านายมีลูก หลานเราเราจะช่วยนายเอง”ว่าแล้วก็ช่วยกันเก็บของ ของมีไม่มากนักเหมือนขามา ของที่แบคฮยอนหยิบติดมือไปจากที่นี้มีเพียงแค่หนังสือ คู่มือแม่และเด็กกับใบนัดหมอของจงแดเท่านั้น เขาอยากจะย้ายโรงพยาบาลเพียงแต่จะไปบอกกับโรงพยาบาลอื่นๆก็คงเป็นเรื่องใหญ่โต กับคุณหมอจงแดคงพอให้ช่วยเก็บเป็นความลับจากบ้านตระกูลปาร์คได้บ้าง

    ถือเสียว่าเอาบุญเด็กที่กำลังเกิด

     

    แบคฮยอนเก็บของเสร็จหมดแล้ว หยิบแฟ้มสองเล่มออกมาด้วย เพื่อนของเขาคนหนึ่งช่วยถือกระเป๋าอีกคนช่วยจับแขนเขาเวลาเดิน ตอนนี้แบคฮยอนเดินเองได้มากแล้วนั่นถือเป็นความสำเร็จที่งดงาม

    พอลงมาด้านล่างกลับเจอจุนซูและแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างยงฮวาทำให้เขาค่อนข้างหนักใจแต่ก็ยากจะเอ่ยปัดได้

     

    “จะไปไหนกันครับเอากระเป๋าลงมา”ชายหนุ่มวิ่งเข้ามาถามหากแต่แบคฮยอนหนักใจเล็กน้อย

    “ผมกำลังจะออกจากบ้านแล้วครับ ขอโทษด้วยที่ยังไม่ได้เอ่ยลา เสียมารยาทจริงๆ”เด็กหนุ่มเอ่ยตามจริง

    “ทำไมล่ะครับแล้วจะไปอยู่ที่ไหน”ยงฮวาตกใจมากกว่าเดิม

    “เอ่อ..อยู่บ้านเดิมน่ะครับ ตั้งแต่คุณปาร์คเสียผมก็ไม่ได้มีความข้องเกี่ยวอะไรอีก พี่โซราเองก็จะได้เป็นอิสระจากข้อผูกมัดเสียที”แบคฮยอนเลี่ยงตอบในขณะที่จุนซูก้าวเข้ามา แม้ยงฮวาจะติดใจสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

    “เดี๋ยวผมจะไปส่งคุณนะครับ”จุนซูบอก สำหรับแบคฮยอนเขาเป็นคนเดียวที่เจ้าตัวเชื่อใจได้

    “ครับรบกวนที ส่วนเอกสารฝากมอบให้คุณชานยอลทีนะครับจะได้ไม่ติดค้างอะไรกันอีก”แบคฮยอนกล่าวเช่นนั้น จุนซูจึงรับมา

    “จะเป็นไรไหม ถ้าหากพี่ขอไปด้วยรับรองพี่จะไม่บอกใครว่าน้องแบคฮยอนอยู่ที่ไหน”แบคฮยอนทำสีหน้าหนักใจอยู่ครู่เดียว หากคยองซูแตะบ่าแล้วพยักหน้าให้ แบคฮยอนเลยอ่อนใจ

    “ครับ..เชิญครับ”คนตัวเล็กตอบเพียงเท่านั้น

     

    แบคฮยอนก้าวออกมายืนหน้าบ้านครั้งนี้ไม่มีคนขับรถใดๆ จุนซูเป็นคนขับด้วยตัวเองเพื่อความลับจะสามารถปลอดภัยได้ต่อไป แบคฮยอนหันกลับมามองบ้านใหญ่หลังนี้เป็นครั้งสุดท้ายนึกขอบคุณคุณปาร์คในหลายๆเรื่องที่เขาอาจไม่มีโอกาสดีดีแบบนี้ถ้าไม่ได้เจอกัน แล้วจึงหันหน้าเดินขึ้นรถหอบเอาความเจ็บปวดไปด้วยแล้วทิ้งเรื่องราวหลายๆอย่างที่เคยเกิดไว้ที่นี้

     

    ****************************************************************************************

     

    TBC หนีค่ะลูกหนี!!!!!! ฟิ้วววววววววววววววววววววววว 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×