ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Short-fic]MBLAQ ONLY CHOEN X HO [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #7 : [SF]Job in..งานนี้มีแต่ซวย

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 54


    [SF]Job in..งานนี้มีแต่ซวย

     

    การทำงานหนักถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะการได้ทำมาหากิน นั้นรวมไปถึงเม็ดเงินในบัญชีที่เพิ่มขึ้นอย่างหนาตา เป็นหลักประกันในอนาคตว่าเราจะไม่อดตายไปง่ายๆ เเละโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เราต้องทำมันเป็นบ้าเป็นหลังโดยไม่สนใจอารยธรรมของโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป นั้นทำให้ยิ่งดีเข้าไปใหญ่เพราะอะไรน่ะหรอ..เพราะเราจะไม่มีเวลาไปผลาญเงินน่ะซิ

     

    ใครๆก็เล็งเห็นถึงข้อดีข้อนี้ รวมทั้งตัวผมเองด้วย

     

    แต่ว่าการทำงานหนักเกินไปมันก็ไม่ดีทั้งกับร่างกายเเละสภาวะทางอารมณ์ อย่างที่ตัวผมเองประสบณ์อยู่ในตอนนี้ ซึ่งบอกได้อย่างเดียวว่า มันเลวร้ายมากเลย

     

    ผมกำลังหงุดหงิด เเละงุ่นง่านเป็นกำลัง ทั้งๆที่ความฝันของผมคืออยากเก็บเงินให้ได้มากๆ เพื่อความหวังเรื่องครอบครัวในอนาคตที่อยากให้มันมั่นคง แข็งแรง และอีกอย่างผมไม่เคยเบื่อที่ได้ทำในสิ่งที่ผมรักเช่นกัน ซึ่งถือว่าผมเป็นคนโชคดีที่ได้ทั้งการงาน เเละคนรักมาเกือบจะพร้อมกัน

     

    เเต่ตอนนี้คาดว่ามันกำลังจะทำพิษ..

     

    ก็ในเมื่อ..ผมกับพี่ซึงโฮเราไม่ได้ แสคว์รูท หารสองกันมาเกือบเดือนเล้ว เพราะตารางงานเเน่นเอี๊ยด ซึ่งพอกลับหอมาพี่แกก็เข้าห้องล๊อคกรึบ หลับเป็นตาย ไม่ได้เปิดโดกาสให้ย่องเข้าหาเลย นี่ล่ะ ปัญหาใหญ่กว่าการอดตายไปหลายปีเสียอีก ถ้า..เฮอร์ริเครนถล่มบ้านยังไม่เท่าความรู้สึกตอนนี้เลยนะ

     

    ผมคิดว่ารัฐบาบต้องเข้ามาแก้ไข ณ จุดๆนี้

     

    ผม..ปาร์ค ซังฮยอน หรือ ชอนดุงแอ๊ะ!!! เป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นผู้มีร่างกายสมบูรณ์เเข็งเเรง ดีในเเบบเด็กหนุ่มทั่วไป ทั้งยังได้รับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะทั้งจากการทำงาน ซ้อมเเละเข้ายิม ดั้งนั้นเรื่องที่ขาดคือการปลดปล่อยครับ!!!

     

    คุณอย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้น มีใครบอกคุณหรอครับ ว่าหน้าตาน่ารัก แล้วจะหื่นไม่เป็น..

     

    โดยปกติ ทั่วไปตามหลักมาตราฐานสากล พวกเราชายหนุ่มครับ จะต้องมีเรื่องพรรค์นี้อย่างน้อยอาทิตย์ ละสองครั้งเป็นอย่างดีครับ มองมันเป็นเรื่องปกติเเละภาวะทางอารมณ์ ซึ่งมันก็มีอยู่หลายวิธีครับที่ใช้จัดการกับมัน เผอิญว่าในกรณีของผม..ผมมีคู่รัก ดังนั้นตัดประเด็นในการช่วยเหลือตัวเองออกไปได้เลยครับ

    เพราะยังไงเราก็ไม่ต้องมาใช้วิธีนั้นให้เมื่อยมือจริงไหมล่ะ คนรักผมออกจะเต็มไม้เต็มมือขนาดนั้น อีกอย่าง ใครจะไปเลือกใช้มือหยาบๆ..ทั้งๆที่มี…(//=..=//)a

     

    เฮ้ยๆๆๆ…ชักติดไปเเล้วครับ กลับมาก่อน เอาเป็นว่าเพราะทั้งหมดนั้นเเหละครับ ผมถึงต้องมานั่งเเง่วอยู่อย่างนี้

     

    ****************************************************************************************************

     

    “ฮ่าโหลวววววววว กลับมาเเล้วจ้า มิตรรักแฟนเพลง จุนนี่กลับมาแล้วครับบบบบบบ”หลังจากอัดรายการที่ต้องไปออกเดี่ยว อีจุนเองก็รีบตรงกลับบ้านทันที เนื่องจากเขาเหนื่อย อยากนอนเต็มทน งานเยอะมากจนเวลาสองสามชั่วโมงที่จะได้พักผ่อนนั้นมีค่าหาไม่ได้จริงๆ

     

    ผลุก..

     

    “อ๊ะ….กูเตะโดนอะไรเนี่ย…เฮ้ยยยยย ไอ้ชอนดุง”เนื่องจากเดินดุ่มๆๆ เข้ามา เลยไม่ทันสังเกตว่ามีซากอะไรนอนตายอยู่กับพื้น ทำหน้าอึนๆเศร้าๆ

     

    ไอ้เราง่วงก็ง่วง เเต่เห็นน้องเป็นอย่างงี้ถามมันซะหน่อยดีกว่า

     

    “พี่ครับ…ช่วยผมด้วย..”ว่าเเล้วก็เห็นน้ำตา CG ของมันก็ไหลออกมาไม่ขาดสาย

    “อะไรของแก ไอ้หมาปั๊ก แล้วเมียแกไปไหนล่ะ มานั่งคร่ำครวญอะไรตรงนี้”ว่าเเล้วก็ก้มตัวลงมองหน้ามันอีกที

    “ไปออกรายการวิทยุ กับพี่จีโอกลับอีกทีเที่ยงคืนนู่น…”พอเด็กหนุ่มพูดจบก็สูดขี้มูกเข้ารูดังพรืด

     

    “อ้าว เเล้วมันยังไง..นี่สรุปแกต้องการอะไรจากสังคม ถึงมานั่นทำตัวอึมครึมอย่างงี้เนี่ย ว่ามาซิ”คราวนี้ก็เลยปักหลักว่าจะอยู่ช่วยไปเลย

    “พี่เเน่ใจนะว่าช่วยผมได้…จะไม่แป๊กนะ”เเน่ไอ้นี้เเอบมีกวนตรีนอีก อีจุนเลยทำท่าจะลุกไปมันซะเลย

     

    “งั้นกูไปนอนเเล้ว อุตส่าห์หวังดี..”

    “เดี๋ยว!!!!!!!! พี่ครับผมพูดเล่น…อย่าเพิ่งไป”เด็กหนุ่มทะยานไปกอดขาคนที่ตั้งท่ายืนดังหมับ ดูเเล้วชวนให้สมเพชอย่างไร บอกไม่ถูกเลยจริงๆแฮะ

     

    “เออๆๆๆ ตกลงจะยังไงก็ว่ามา เสียเวลาน่า..”อีจุนเลยกลับมานั่นอีกรอบ นี่ถ้ามันกวนตีนอีกครั้ง พ่อกะจะจรเข้ฟาดหางเป็นการตอบแทนไปเสีย

     

    “ผมไม่ได้ติ๊ดชึ่งกับเมียมานานเเล้วพี่ ผมอยากปล้ำพี่ซึงโฮ!!!!!!!!!!!!!!”

     

    ……………………..

    ……………..

    ………

     

    หลังจากที่ได้ท้าวความเล่ากันไปเสียชุดใหญุ่ เรื่องลงรายละเอียดปลีกเล็กปลีกน้อยก็เลยได้ความตามด้านบนที่กล่าวไปเเล้ว อีจุนจึงพยักหน้าตามทุกครั้งที่เด็กหนุ่มเล่า เเน่ล่ะ..เขาเข้าใจในสิ่งที่ชอนดุงเล่าเป็นอย่างดี เพราะก็เคยประสบมาเช่นกัน

     

    “ของพี่ยังโชคดีใช่ไหมล่ะ ที่นอนห้องเดียวกัน แต่ของผมน่ะคนละห้องนะครับ แถมพอกลับมาก็ปิดประตูลงกลอนสนิท ตัดสัญญาณดังฉับ”ชอนดุงเอามือเขี่ยพื้นไปมา ไม่ต่างจากเด็กกำลังคิดไม่ตก

    “เออ..มันก็จริงว่ะ ของฉันถ้าอยาก ก็เข้าคลุกวงในเลย เเต่บางทีเหนื่อยก็ไม่ไหว อย่างก่อนหน้านี้ก็เพิ่งตกลงกัน ว่าถ้าวันพรุ่งนี้ตื่นสายได้ก็จะทำ..”อีจุนบอกน้อยๆ

     

    เขาประหวัดคิดไปถึงเมื่อตอนที่งานเริ่มชุกใหม่ๆ เขาเองก็งุ่นง่านอย่างนี้ล่ะ บางครั้งแม้จะอยากคลุกวงในเหมือนกัน เเต่เห็นมีร์นอนหลับเป็นตาย ไม่ก็โอดครวญว่าเหนื่อยจะแย่คร้านก็ทำไม่ลง สุดท้ายเลยต้องมานั่งคุยกันว่าจะทำยังไง

     

    “อย่างงี้ผมจะทำยังไงดีล่ะพี่..”

    “เฮ้ย..เฮ้ยๆๆๆๆๆ รู้เเล้วๆ เอางี้ คืนนี้นายก็ไปรอท่าอยู่ในห้องดิ นี่มันยังไม่กลับมาไม่ใช่หรอ..เอาเลยดิ พอกลับมาปุ๊บ ก็เกาะหนึบไปเลย”เเล้วไอ้ตัวเจ้าความคิดก็เล็ดลอดออกมาจนได้ ทำเอาอีกคนมีความหวัง

     

    “เออ จริงด้วย…จริงๆด้วย!!!!!!!!!! พี่มันอัจฉริยะ ว้าวๆๆๆๆๆๆ            โอเคครับ ขอบคุณมากครับพี่ ขอให้ได้แอ้มไอ้มีร์ เช้าเย้นไม่เว้นวันหยุดราชการ  แต่ต้องหลังจากที่มันหายเจ็บหลังเเล้วนะพี่นะ” ยังมีแอบเป็นห่วงเพื่อนอยู่บ้างละนะ ว่าเเล้วก็ยิ้มแป้นเป็มหมาน้อยกระโดดโลดเต้นไปมาอย่างชอบใจ

     

    วิ่งหายเข้าห้องไปต่อหน้าต่อตา มันลืมพี่มันไปเลยก็ว่าได้น่ะนั้น

     

    ……………………..

    …………….

    ……..

     

    เเละแล้วชอนดุงก็ไปทำตามแผน ตอนนี้เวลาห้าทุ่มครึ่งเเล้วอีกครึ่งชั่วโมง ซึงโฮก็จะกลับมา เเม้จะเป็นเวลานานอยู่ เเต่ความตื่นเต้นมากกว่า เลยไปนอนรอท่าเสียอยู่บนเตียงปิดไฟมืด

     

    “ใจเย็นไว้ หัวใจ..ทำอย่างกับไม่เคยไปได้..ครั้งที่ร้อยเเล้วมั้งเนี่ยไม่ใช่ครั้งเเรก จะตื่นเต้นทำบ้าอะไร”ชอนดุงได้บอกตัวเองให้เย็นเอาไว้

     

    “กลับมาเเล้ว..”เสียงเเว่วๆมา ทำเอาชอนดุงนั่งไม่ติด คิดถูกที่เข้ามาก่อนเวลา ไม่งั้นคงได้คลาดกันอีก

     

    เสียงคนเดินใกล้เข้ามาอีก หัวใจของเขาระทึกหนักมาก จนกระทั้งอีกฝ่ายเปิดประตูเข้ามา..เเละจากนั้นจึงเปิดไฟ หากก็ยังไม่เอะใจอะไรว่ามีคนมาอยู่บนเตียง เด็กหนุ่มมองซึงโฮที่ปลดเสื้อกันหนาวออกอย่างเชื่องช้า จากนั้นจึงวางผ้าพันคอลง ตามด้วยนาฬิาแว่นตาเเละเครื่องประดับ

     

    อยากออกปากถามเหลือเกินว่า ต้องการคนช่วยไหม..มันจะเร็วกว่าทำด้วยตัวเองเยอะ

     

    ไม่นานเขากำลงมานั่งที่ขอบเตียง จึงเป็นจังหวะที่ให้ใครอีกคนที่รอเวลายื่นเเขนมาโอบกอดจากทางกด้านหลัง ซึ่งนั้นทำให้ซึงโฮตกใจสะดุ้งไปเล็กน้อย หากเพราะเขาไม่ใช่คนขวัญอ่อนจึงไม่ได้มีปฎิกิริยาตอบโต้รุนเเรงนัก

     

    “นาย….ทำไมมาอยู่…นี่..”

    “พี่ครับ..คิดถึงจัง”เสียงกระซิบเบาเอาอีกคนใจอ่อนยวบ

     

    มือไม้ยาว ค่อยๆลูบไปตามร่างกายอย่างบางเบา ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะพรมจูบไปตามซอกคอ กลิ่นร่างกาย เเละน้ำหอมอ่อน ทำให้เขารู้สึกดี เพราะความเคยชินกลับกลิ่นกายของอีกคน เป็นสัมผัสที่เขาต้องการมานาน

     

    “ด..เดี๋ยว..ชอนดุง..เดี๋ยว..เดี๋ยว!!”ซึงโฮจับมือที่ซุกซนของอีกคนเอาไว้ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

    “มีอะไร..หรอครับ”หากเเต่เเม้จะหยุดมือเเล้ว เเต่ก็ไม่ยอมปล่อยอีกฝ่ายออกจากอ้อมกอดเสียที

     

    “วันนี้อย่าเพิ่งเลยนะ..ฉันเหนื่อย..”วึงโฮพูดโดยไม่มองหน้าอีกคน เขารู้สึกเหนื่อยจริงๆ เเล้วก็ไม่ได้มีอารมณ์แบบั้นเลยแม้เเต่น้อย

    “ผม…คิดถึงพี่นะ เราไม่ได้มีเวลาร่วมกันมานานเเล้วนะครับ”ชอนดุงกระชับกอดเเน่นขึ้นซุกหน้าลงไปที่ต้นคอของอีกคนราวกับออกอ้อนให้อีกฝ่ายเห็นใจ

     

    “เเต่ฉันเหนื่อยจริงๆ วันนี้ฉันทำงานมาทั้งวันเเล้วน่ะ”ซึงโฮถอนหายใจบ่งบอกว่าเชาเหนื่อยจริงๆ

    “แต่ผมอยาก..อยากทำกับพี่จริงๆนะครับ..เราห่างกันมาเป็นเดือนเเล้วนะ”ชอนดุงเองก็ยังไม่เลิกล้มควมตั้งใจของตนเอง

     

    “วันนี้ฉันเหนื่อยจริงๆนะชอนดุง”ซึงโฮพยายามอธิบายกับเด็กหนุ่มเช่นกัน

    “พี่ครับ…อยู่กับผมเถอะนะ..”

    “ชอนดุงขอทีเถอะนะ ถ้านายอยากทำ..นายก็ช่วยตัวเองไปก่อนละกัน ฉันเหนื่อย”ความจริงเขาก็ไม่อยากจะพูดไม่ดีเท่าไหร่ เเต่อารามด้วยเพราะความเหนื่อยเเล้วก็มาเจอเเง่วๆอย่างนี้ ปากมันก็เลยพาไป

     

    กว่าจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปอีกคนก็กลับนิ่งไปแล้ว

     

    “อ..เอ่อ….ชอนดุง ฉัน..”

    “พี่ครับ ผมก็รู้ว่าพี่เหนื่อย เพียงแต่ ผมเเค่อยากใช้เวลาร่วมกันกับพี่เท่านั้นเอง ผมเเค่อยากทำรักกับพี่ ไม่ได้หมายถึงเรื่องเซ็กซ์ เเต่เป็นการทำรักน่ะครับ..ถ้าหากจะให้ผมทำอย่างที่บอกมันก็คงไม่ยากอะไร..”ชอนดุงคลายมือออกเล็กน้อย ขยับตัวมานั่งข้างๆอีกคน

     

    เพราะไฟที่มันสว่าง เเละเพราะไหล่ที่ชิดกัน ทำให้ซึงโฮได้เห็นเสี้ยวหน้าของคนข้างกายอย่างชัดเจน ก็ทำเอาใจหายไปมากเช่นกัน

     

    “ที่ผมอยากทำรักนี่ครับ…นั้นเพราะคนคนนั้นเป็นพี่นะครับ”ชอนดุงจับมืออีกฝ่ายมากุมเอาไว้เบาๆก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่าย เเม้จะมีร่องรอยผิดหวัง เเต่เขาเองก็ไม่ได้เเสดงออกมามากนัก

     

    “เเต่พี่คงเหนื่อยจริงๆ..ผมเองก็เข้าใจ งั้น..ผมไม่รบกวนพี่เเล้วกันนะครับ ฝันดีนะฮะ”เด็กหนุ่มโน้มตัวลงมาสัมผัสเเก้มอีกฝ่ายเบาๆ มอบเพียงเเค่จุมพิตเบาๆเท่านั้น

     

    หากด้วยคำพูดมากมายทำให้ความรู้้สึกผิดนั้นกอบกุมหัวใจคนฟังเหลือเกิน มือขาวเลยคว้าข้อมือหนาของอีกคนเอาไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันลุกขึ้น

     

    “ขอโทษ..”คำเพียงสั้นๆ แต่หากนั้นก็ทำให้ชอนดุงหันมามองก่อนยิ้มบางๆ ให้คนที่ก้มหน้าไม่มองหน้าของเขา

    “ขอโทษผมทำไมครับ ไม่เห็นมีเรื่องอะไรที่พี่ต้องมาขอโทษผมเลยนี่ครับ ฮึ”อีกฝ่ายเดินเข้ามา กดจูบไปที่เเก้มที่ยังไม่ได้รับการประทับเพื่อความเท่าเทียม

     

    “คือ…”ยิ่งเห็นอีกฝ่ายเป็นแบบนี้เขาก็ยอ่งกังวลใจ

    “พี่นอนได้เเล้วครับ อย่าคิดมากเลย..พี่พักผ่อนเถอะ ผมไม่ได้โกรธอะไรหรอก ใครจะไปกล้าโกรธพี่กันนะ”ชอนดุงพูดมันจากใจจริง

     

    เขาเองก็อาจจะผิดที่เซ้าซี้ตอนอีกฝ่ายกำลังกลับมาเหนื่อยๆด้วยเช่นกัน

     

    “พรุ่งนี้ได้ไหม…”อยู่ๆอีกฝ่ายก็ขัดขึ้นมาทั้งๆที่ยังไม่ปล่อยมือ ทำเอาคนฟังแทบไม่เชื่อหู

    “ถ้าเป็นคืนพรุ่งนี้ล่ะ..มะรืนนี้ไม่มีงาน หยุดวันนึง เเต่นายมีงานตอนเที่ยงของอีกวันน่ะได้ไหม”ซึงโฮพูดเร็วๆก่อนจะปล่อยมืออีกคนออกเบาๆ

     

    นั้นทำเอาชอนดุงนิ่งไปด้วยความตกใจ ปนอึ้ง ระคนดีใจ และอื่นๆอีกมากมาย

     

    “จะเอา ไม่เอา!!!”เเละนี่คือตัวเร่ง เสียงดังๆของเจ้าของห้องเป็นตัวเร้าได้อย่างดี

    “เอา!!!!!! ไม่เอาก็โง่ดิ..เอาอยู่เเล้ว”ชอนดุงเเทบจะถลาตัวเข้ามากอด หากไม่เจอฝ่ามือห้ามญาติเสียก่อน

     

    “หยุด ฉันจะนอนเเล้ว ฝันดี..ออกไปล๊อคห้องด้วยนะ”ว่าเเล้วก็พลิกตัวหันเข้าฝาผนังหลับตาลงทันที พยายามทำเป็นไม่สนใจทั้งคนที่ยังยืนอยู่ที่เดิม เเละเสียงหัวใจที่เต้นดังอยู่ในอกที่พยายามจะห้ามไม่ให้มันเต้นดังจนเกินไป

     

    “งั้น..ฝันดีนะครับ ผมจะตั้งตารอ คืนพรุ่งนี้”เสียงที่พูดอยู่ริมหู ทำให้คนฟังเป็นเอามาก จนน่ากลัวว่าหัวใจมันจะทะลุออกมากระโดดใส่อีกคนที่เป็นเจ้าของร่วมกันเสียแล้ว

     

    เลิกเต้นบ้าๆอย่างนี้ซะที คนจะนอน!!!!!

     

    ****************************************************************************************************

     

    “อรุณสวัสดิ์”

    “อรุณสวัสดิ์ครับ..”เสียงทักทายกันยามเช้าเป็นเรื่องที่ดี เป็นมารยาทที่ควรทำอย่างยิ่งเมื่อเจอหน้ากัน

     

    “เป็นไง ดูหน้าตาชื่นมื่นนี่ เมื่อคืนจัดไปกี่ดอกล่ะ..”อีจุนผู้รู้เหตุการณ์สอบถามเล็กน้อย เห็นหน้าเบิกบาน

    “ยังเลยครับ..”ชอนดุงเองก็ยิ้มจนตาปิดบอกเช่นกัน

     

    เขาพูดเรื่องจริงทุกประการเลยนะ

     

    “อ้าวเเล้วทำไมยังยิ้มดีได้อีกล่ะ..หรือมีเรื่งออะไรดีกว่าหรือไง..”อีจุนคว้าเอากาแฟมที่ตัวเองชงเอาไว้เมื่อกี้ขึ้นมาจิบน้อยๆ เพราะความร้อนจากข้างแก้วบอกว่าถ้าดื่มเลยมีหวังกอนอาหารไม่รู้รสไปอีกหลายวัน

    “มีซิครับ เรื่องนั้นน่ะมีเเน่ๆอยู่เเล้ว”ว่าเเล้วก็มองไปทางประตูที่ปิดสนิทด้วยสายตามากความหมาย

     

    “เห….”อีจุนมองตามอีกคน หากอีกฝ่ายได้เเต่ยิ้มพร้อมกับหัวเราะออกมาพร้อมกัน

    “เอาเป็น คืนนี้ก็ดูโทรทัศน์เสียงดังๆ ไม่ก็นอนเเต่หัวค่ำนะครับ..”ชอนดุงว่าพลางตักอาหารเช้าคำสุดท้ายเข้าปาก ก่อนจะรวบช้อนไปวางไว้ในอ่างล้างจานรวมทั้งแก้วน้ำที่ทานเสร็จแล้วด้วย หันหลับมาเจอเเต่สายตาเอ๋อของอีจุน..

     

    คนอะไรเข้าใจยากชะมัดเลย

     

    “คืนนี้ผมจะพาพี่ซึงโฮไปร้องเพลงครับ..@^_________^@”

     

    ……………………

    ……………..

    ……..

     

    วันนี้ทั้งวันเป็นวันที่ประหลาด…ในความคิดของยาง ซึงโฮ…ประหลาดมาก…

     

    อย่างเเรกคือเขาตื่นเช้า ตื่นมาตั้งเเต่เก้าโมงเห็นจะได้ บ้านเมืองอื่นอาจจะบอกว่า เฮ้ย ซึงโฮเก้าโมงไม่เช้าเเล้วนะเว้ย มันสายเเล้ว เเต่สำหรับหมูบ้านหมีแพนด้า พันธุ์ปากห้อยของผมมันเช้าครับ

     

    “งั้น..ฝันดีนะครับ ผมจะตั้งตารอ คืนพรุ่งนี้” คำๆนี้ยังจำได้ขึ้นใจอยู่เลย หรืออาจจะเพราะเรื่องนี้เลยทำให้เขานอนไม่หลับเเละตื่นเช้ากว่าปกติกันนะ..

     

    โอ้ย!!!!! .. แค่คิดก็อยากจะบรรลุนิพพานซะให้รู้เเล้วรู้รอดไปเลย

     

    เเล้วจะทำหน้ายังไงดีเนี่ย ไม่อยากเจอหน้ามันจนถึงคืนนี้เลย…หรือจะหลบจนกว่าจะมืดเลยดีไหมนะ เเต่ยังไงก็แอบหิวข้าวนะ เเถมในห้องก็ไม่มีอะไรให้แทะเสียด้วยซิ..

     

    ซึงโฮเองได้เเต่ค่ำครวญกับตัวเองอย่างนิ่งๆไปคนเดียว อยู่ในสภาพสับสนชีวิตอย่างหนัก เเต่ยังไงเสียสัญญาต้องเป็นสัญญา จะมามัวกังวลทำบ้าอะไรก็ไม่รู้ ใช่ว่าไม่เคยเสียตัว วัวเคยค้า ม้าเคยขี่ นับไม่ถ้วน เเต่พอห่างไปนานๆก็ชักประหม่าเหมือนกันแฮะ

     

    “ท่าทางจะเป็นเอามากแฮะเรา..เอาเถอะทำเนียนๆไปก็ได้แหละมั้ง เอาว่ะ..อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด อะไรจะเสียก็ต้องเสียเเหละแม่ง…”นี่ถึงขนาดกับต้องทำใจกันเลยหรอเนี่ย..

     

    ตกลง..ไปออกรบใช่ไหม..ซวยกูละทีนี้..

     

    ………………….

    …………..

    ….

     

    เขาว่าถ้าเรานั่งรอเวลามันจะช้า เพราะอย่างนั่น ชอนดุงเลยมานั่งฆ่าเวลาอยู่ในห้องของซึงโฮตั้งเเต่กลับมาจากอัดรายการเมื่อตอนสามทุ่ม เเถมมองหน้าเจ้าของห้องนิ่งๆเพื่อทำให้มันผ่านไปเร็วอีกต่างหาก

     

    จนเจ้าคนโดนจ้องที่นั่งเล่นคอมอยู่ถึงกับทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียวเชียว

     

    “เฮ้ย..ไปหาอะไรอย่างอื่นทำก่อนดีไหม..”ซึงโฮพูดโดยไม่มองหน้าคู่สนทนาเลยแม้แต่น้อย ทำใจไม่ได้จริงๆเรื่องแบบนี้

    “ทำอยู่ไงครับ..”ชอนดุงว่าพลางเอามือท้าวคาง เขาเหลือบมองนาฬิกาเล็กน้อย อีกไม่กี่นาทีมันจะบอกเวลาสี่ทุ่มเเล้ว

     

    “นี่ก็มืดมานานเเล้วนะครับ…”นั้น!! มีเรียกร้อง

    “ไปอาบน้ำก่อนซิ..กลับมายังไม่ได้อาบน้ำเลยนี่..”นี่ก็พยายามหาเหตุผลยืดเวลา

    “ไม่อาบ เดี๋ยวเหงื่อก็ออกอีก”เอ่อ…ดูมัน

     

    “งั้นฉันอาบก่อนก็ได็”ว่าพลางหาทางหนีทีไล่จนได้ เเถมหันมายิ้มหวานคว้าผ้าเช็ดตัวที่เก้าอี้ไปด้วยอีกแน่ะ..

    “ถ้าอย่างนั้นอาบด้วยกันก็ได้ครับ..”เจ้ยยยยยยย…เอากับมันซิ

     

    “บอกมาคำเดียว ว่าจะทำแล้ว ง่ายกว่าไหม..”นี่เเน่ะ รุ่นใหญ่เขาต้องเเน่จริง อย่างนี้ซิ ถึงจะเรียกว่าคุยกันแบบลูกผู้ชายตัวจริง

     

    “จะบอกว่า พร้อมมาตั้งเเต่กลับมาเห็นหน้าเเล้วล่ะ..”ชอนดุงใช้แรงไม่มากดึงอีกคนให้เข้ามาใกล้ทันที จนใบหย้าของทั้งสองคนห่างันเพียงเเค่สมหายใจขั้นเท่านั้น

     

    กระเเสเสียงทุกอย่างกลับเงียบอย่างไม่น่าเชื่อ..มีเพียงเสียงของหัวใจเท่านั้นที่ดังเป็นจังหวะชัดเจน มันเต้นเป็นเสียงที่เท่ากันอย่างน่าประหลาดใจ..

     

    คนตัวสูงกว่าจับฝ่ามือของอีกคนให้มันเเตะที่อกของเขาเบาๆ ในขณะที่ตัวเขาเองก็เอาอีกข้างซ้อนไปสัมผัสอกของเจ้ามือที่เขาจับอยู่นั้น..

     

    “ได้ยินไหมครับ ว่ามันต้องการพี่ขนาดไหน”เสียงหัวใจถี่รัวที่มันดังไม่ต่างกันทำเอาซึงโฮต้องเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตนเอง เเล้วจึงขบฟันเม้มมันไว้เบาๆ

     

    “ได้ยิน..เเล้วนายล่ะ ได้ยินเหมือนกันไหม..”ดวงตาเรียวมองไปที่ปากได้รูปของอีกคน ก่อนเลยไปสบดวงตารีเล็กของเด็กหนุ่ม จนดวงตาของคนทั้งคู่ประสานกัน

     

    ราวกลับมีเเรงดึงดูดที่มองไม่เห็น ฉุดให้ใบหน้าของคนทั้งคู่จึงค่อยๆเลื่อนเข้าใกล้อย่างเชื่องช้า ลบช่องว่างที่มันเคยมีให้ชิดใกล้กันมากขึ้น จบสุดท้ายริมฝีปากนั้นกลับแนบสนิทกัน

     

    จูบแสนหวาน ที่ห่างหายมานาน แต่กลับไม่มีวินาทีไหนที่จะลืมความหวานล้ำ ที่ติดอยู่บนริมกลีบฉ่ำนั้นได้เลย ยากที่จะผละจาก ยังคงคลอเคล้าอ้อยอิ่งไม่เลิกรา เพียงเเต่เขาต้องการมากกว่าเเค่จูบที่ลึกซึ้ง ทำให้ต้องอดใจ ล่าถอยออกมาอย่างห้ามใจ

     

    มือที่เคยโอบกอดรอบกายนั้นค่อยๆ สัมผัสไปตามร่างกายที่เขาเรียกร้องต้องการอย่างเบาบาง อดกลั้นต่อเเรงอารมณ์ความต้องการอันมากล้นของตน เพื่อถนอมความร่างกายของอีกคนเอาไว้ให้มากที่สุด

     

    อาภรณ์หละหลวมของอีกฝ่ายนั้น ค่อยๆถูกปลดออกอย่างง่ายตาย จากกระดุมเม็ดเเรก ไปยังเม็ดที่สอง..สาม..ตลอดจนมันเผยเนื้อเนียนที่ล่อตาล่อใจให้อวดโฉมลอยเด่นอยู่ตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะต้อง กดริมฝีปากลงไปยังไหล่ขาวตรงหน้า ขบฟันลงเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของอย่างชอบธรรม

     

    อ….อา…..

     

    เนื้ออิ่มนุ่มนั้นทำให้เขาชิมมันตะกละตระกราม เสียงครางหวานเเหบที่ดังข้างหูยิ่งเร้าอารมณ์ ให้เตลิดไปไกล เขาเอามือเกี่ยวปราการอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายของคนรักออกจนหมดตัว

     

    ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันแน่ที่ทั้งคู่มานอนอยู่บนที่นอนนุ่ม เช่นเดียวกับที่ร่างกายของเขาสองคนไร้ซึ่งสิ่งกีดขวางต่อกัน เพียงเเต่ใครกันจะสนใจ…

     

    ไม่เลย..ไม่มี เพียงเพราะเเรงปรารถนาเท่านั้นที่นำพาความสนใจให้อยู่กับการกระทำเสียมากกว่า

     

    กลิ่นเนื้อกายที่เขาชอบกำลังส่งกลิ่นเย้ายวนมาจากทุกซอกหลืบของมัน จนอดไม่ได้ที่จะดอมดมไปทั่วเรือนร่าง ผิวลื่นเเละเต็มตึงนั้นชวนให้สัมผัสบีบรัดจนยากจะอดใจ

     

    อ..อืม…อา..

     

    เสียงร้องทรมานที่เป็นสุขเเละเร่งเร้าทำให้เขาต้องการมากยิ่งขึ้น บ่งยอกว่าถึงเวลาที่เขาควรจะปรนเปรออีกคนเสียเดี๋ยวนี้ ความช่างเรียกร้องทำให้แทบทนไม่ไหว

     

    สัมผัสร้อนนั้นค่อยๆคลืบคลานไปตามร่างกายอย่างเชื่องช้า จากปลายเท้าจรุดเส้นผม นั้นเป็นสิ่งที่เขารู้สึกพายุที่โหมกระหน่ำจากเเรงอารมณ์ทำให้เขาเเทบควบคุมมันเอาไว้ไม่อยู่

     

    ยิ่งร่างกายตรงหน้าบิดเร้าเท่าไหร่เขายิ่งต้องการมันมากขึ้นไปอีก จนมันเหมือนจะไม่รู้จักคำว่าพอ

     

    อ…อ๊า…

     

    เสียงร้องที่เจ็บปวด..เเต่สุขสม เต็มใจ ร่างกายที่ห่างหายจากบทรักที่เร่าร้อนมาเเสนนานนั้นกำลังทำท่าประท้วงต่อสิ่งที่คลืบคลานล้วงล้ำอย่างตัวเขาเอง ทว่าความอดทน อดกลั้นของเขาก็หมดลงเช่นกัน

     

    เสียงหอบหายใจกระเส่า ดังมาเป็นระลอก ไม่ขาดสาย พอๆกับเสียงลมหายใจที่ติดขัด เป็นเเรงขับชั้นดี..ที่กระตุ้นให้รู้ว่าคนตรงหน้าเขามีความสุขกับบทรักครั้งนี้มากเเค่ไหน

     

    ความปั่นป่วนของพิษสเน่หาทำเอาทัั้งคู่เเทบคลั้ง หากก็ยังปล่อยให้มันดำเนินไปอย่างไม่ยอมหยุด โหยหาซึ่งกันเเละกัน ราวกับไม่อยากให้มันจบลงง่ายๆ ริมฝีปากที่บดเบียดกันไม่ยอมห่าง นั้นก็เช่นกัน

     

    เด็กหนุ่มมองใบหน้าบิดเร้านั้นเป็นตัวบ่งชี้ทุกอย่างได้อย่างดีเส้นผมสีอมเเดงที่สะบัดไปมาจนมันกระจายไปทั่วหมอนขาว..หยาดน้ำพราวทั่วผิวเต็มตึง ตลอดจนร่างกายร้อนที่เเนบชิดใกล้เสียจนแทบละลายก็อีก..เก็บภาพที่ได้เห็นนั้นเอาไว้กับตัว มองมันด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความตองการที่มากขึ้น..เเละมากขึ้น

     

    แล้วอย่างนี้…เขาจะตัดใจ ยอมจบบทรักที่เเสนวิเศษอย่างนี้ลงได้อย่างไรกันนะ นอกเสียจากปล่อยให้มันดำเนินไป กระทั้งความปรารถนาที่มากล้นนั้นจะได้รับปลดปล่อยเสียจนพอ

     

    ……………….

    ………….

    ……

     

    เเสงเเดดของวันใหม่นั้นค่อยๆทำหน้าที่ปลุกคนที่หลับไหลให้ตื่นขึ้นมารับอรุณด้วยกัน เพียงเเต่จะพูดว่าอรุณนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะมันเริ่มจะกลายเป็นบ่ายคล้อยเสียเเล้วซิ

     

    หากตัวคนที่โดนพระอาทิตย์รังเเกนั้นกลับซุกหน้าลงกับหมอนใบโตของตนเองอย่างเเรง ร่างกายนั้นเหนื่อยล้าจากศึกหนักของเมื่อคืน ยังไม่พร้อมจะรับรู้อะไรทั้งสิ้น…มือขาวพยายามควานไปตามที่นอน หวังว่าจะเจอร่างกาย และวงเเขนของใครบางคนเพียงเเต่มันกลับไร้ร่องรอย เหลือเพียงไออุ่นๆที่อีกคนฝากเอาไว้เท่านั้น..

     

    ซึงโฮปรือตาน้อยๆ เพื่อมองให้เเน่ใจ ทั้งๆที่ยังไม่อยากเเม้เเต่จะขยับไปไหน  ซึ่งภาพที่เห็นก็ตอบรับกับสิ่งที่คาด..

     

    ชอนดุงไม่ได้อยู่ตรงนั้น..

     

    สมองอันชาญฉลาดร้องเตือนว่า วันนี้ชอนดุงมีงาน เขาจึงหลับตาลงอีกครั้งแล้วพลิกตัวกลัมาอีกฝั่งเสียแทน..พลางเอามือควานหานาฬิกาปลุกที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู เนื่องจากจำได้เลาๆว่า ครั้งสุดท้ายของการทำรักที่ชอนดุงใช้เรียกคือ..ตีห้าเข้าไปแล้ว…

     

    ไม่รู้ว่านี่จะทำไปเเข่งขันลงกินเนสต์เวิร์ลเรคคอร์ดหรือเปล่า

     

    “บ่ายสองเเล้วหรอเนี่ย..มันตื่นไปทำงานไหวได้ไงว่ะ ขนาดกูยังจะตายเลยเนี่ย”ซึงโฮงึมงำบอกเสียงเบา ก่อนวางมันไว้ที่เดิม เพียงเเต่ไปสะดุดกับเจ้ากระดาษโน้ตสีหวานติดเอา..เลยต้องคว้ามาอ่านเสียหน่อย

     

    ‘พี่ครับ..ตื่นมาเเล้วอย่านอยด์ที่ไม่เห็นผมนะครับ ผมมีงานต้องรีบไปก่อน เสร็จเเล้วจะรีบกลับ ผมบอกให้พี่จีโอเอาข้าวไปให้พี่กินเเล้ว เผื่อพี่ไม่มีเเรงออกมาเอง ยังไงก็โทรศัพท์บอกเขานะครับ..รักพี่ตลอดเวลา..ชอนดุง ปล. เมื่อคืนนี้ผมโคตรมีความสุขเลยครับ ’

     

    หลังจากอ่านจบ..ซึงโฮก็ขยำเจ้ากระดาษที่น่าสงสารนั้นทันที ก่อนขว้างมันออกไปให้ไกล

     

    “ไอ้เด็กบ้า แกไปบอกจีโอเเล้วอย่างงี้มันไม่รู้ทั้งบ้านเลยหรือไง ไอ้โทรโข่งนั้นน่ะ ปากรั่วจะตาย”ซึงโฮบ่นอุบอิบไปมา..เพียงเเต่ไม่รู้ทำไมที่เขาเองก็หุบยิ้มไม่ได้เลย

     

    รักพี่ตลอดเวลา..ชอนดุง ปล. เมื่อคืนนี้ผมโคตรมีความสุขเลยครับ

     

    “ความจริง..หาเวลามาทำเรื่องพรรค์นี้ซักอาทิตย์ละครั้งสองครั้งก็ไม่เลวเหมือนกันนะ…”

     

    ***********************************************************************************************


    END

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×