คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [SP]Flirt me like you are my valentine
[SP MBLAQ]Flirt me like you are my valentine.
“อ้าวๆๆ ยังไม่จีบแล้วอยากได้แฟน หวังสูงไปมั้ง
ไอน้อง”
เพราะประโยคนี้ประโยคเดียวเลยที่ผมพูดออกไป ประโยคนี้เลยครับ ผมเลยได้เงาตามตัวหน้าตาหล่อเหลา และดูดี ตัวใหม่ ชื่อ..ปาร์ค ซังฮยอน
เพราะไม่ว่าผมจะเดินไปไหน จะทำอะไร กินข้าว ฟังเพลง ดูโทรทัศน์ ซ้อมเต้น หรือเเม้เเต่นอน เงาตามตัวตัวนี้จะคอยสอดส่องอย่างใกล้ชิด ขอย้ำอีกครั้ง..ว่าใกล้ชิด ชิดจนแทบจะแนบสนิทเลยทีเดียว บางครั้งก็มีรำคาญบ้างเเต่ขี้คร้านหน้าใสๆมันสามารถเอาชนะทุกอย่างได้จริงๆ
“นี่
ชอนดุง นายไม่ต้องตามฉันขนาดนี้ก็ได้นะ”ซึงโฮมองมือที่กอดเอวเขาเอาไว้พร้อมกับเอาคางมนมาเกยเอาไว้ที่ไหล่ของเขา
“ไม่เอา ไม่อยากรู้สึกห่างเหิน”เด็กหนุ่มตามเสียงใสกระชับกอดให้เเน่นมากขึ้นไปกว่าเดิม ใบหน้ายิ้มเเย้มอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ
“แต่บางทีมันก็ใกล้ไปอะไรไปนะ”ซึงโฮถอนหายใจเฮือกทำคอตก
ความจริงเขาเองก็รู้สึกดีมาก เพราะแทนที่จะรู้สึกอึดอัด แต่กลับรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
“ไม่หรอก จริงๆผมอยากใกล้ลกว่านี้อีกนะ เเต่มันคงเร็วเพราะเราเเค่จีบกันเฉยๆ”ชอนดุงว่าหน้าตาเฉยเเอบพูดสองแง่สองง่าม จนอีกคนเอามะเหงกเขกหัวทุยๆไปเสียที
“เดี๋ยวนี้เอาใหญ่เเล้วนะเราน่ะ..เป็นเด็กเป็นเล็ก แก่แดดนักนะ แล้วเลิกกอดอย่างงี้ได้เเล้ว มันเดินไม่ถนัดโว้ย เดี๋ยวคนอื่นเขาก็เข้าใจผิดกันหมด”ชายหนุ่มว่า พลางต้องหันไปหยิบของลงตะกร้าที่ถืออยู่
นานๆจะได้มีเวลาวันหยุดเป็นของตัวเองเสียที ไอ้เจ้าตัวข้างๆนี่ก็ชวนให้ออกมาซื้อของด้วยกัน ดีนะที่ยังไม่ได้ดังขนาดนั้น เลยไม่ได้กังวลเรื่องที่ต้องพลางตัว เเต่ด้วยหน้าตาเเละรูปร่างที่เป็นจุดสนใจ ก็ต้องมีใส่หมวก ใส่เเว่นไปตามระเบียบ
“ใครเข้าใจผิด พวกเขาน่าเข้าใจถูกแล้วว่าเรารักกัน”ชอนดุงมองซ้ายมองขวา เอามือมาคว้าส่งที่อีกคนถือเอาไว้เอง เป็นการช่วยเหลือ
“รักกัน?? จีบติดเเล้วหรอ..ช่างกล้าเนอะเร็วๆ จะซื้อะไรก็รีบๆหยิบจะได้ไปที่อื่นต่อ เดี๋ยวเมเนเจอร์ฮยอง ด่าอีกกลับเย็น”ซึงโฮหันไปพูด เห็นไอ้หนุ่มมัวเเต่เอ่อระเหยลอยชายมันน่ากระโดดไซด์คิกไปซักที
“ยังไม่ติด..แต่เดี๋ยวก็ติดเองเเหละ
ไม่ให้กำลังใจแล้วอย่าตัดกำลังกันซิครับ ไม่เอาๆๆ นานๆทีจะได้ออกมาเดทกันทั้งที ใครจะอยากกลับไปให้เจอคนอื่นกวนกันล่ะ”ชอนดุงจึงทำเป็นเลือกนู่นไปเลือกนี่ไป แต่หากสุดท้ายก็ไม่ได้อะไรซักอย่าง
“แล้วจะไปไหนของนาย ฉันเเค่นึกว่าจะออกมาซื้อของเฉยๆเอง”ซึงโฮละสายตาจากชั้นวางขวดยาสระผม เเล้วหันมามองอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง ทำหน้ามู่ทู่คนเดียว เเต่พอได้ยินสัญญาณที่ว่าอยากจะไปไหน หมาปั๊กตัวนี่ก็ทำหน้าตาตื่นเต้นขึ้นมาทันที
นั่นๆๆๆ ดูมันไอ้หางที่เป็นเกลียวๆนั้นกระดิกเชียว
“ไม่ต้องรีบกลับได้หรอ..ได้จริงๆหรอ..”เห็นไหมครับระริกระรี้เชียว
“ก็วันนี้ไม่มีงาน ไม่มีอะไรให้ทำจะรีบทำไม..”ซึงโฮบอก อดยิ้มไม่ได้ที่เห็นอีกคนทำท่าแบบนี้ เพราะมันดูเข้ากันเป็นอย่างดี
“งั้น..”เด็กหนุ่มวางตระกร้าลงข้างตัวในขณะที่นั่งคุกเข่าลง ทำเอาคนที่ยืนอยู่ทั้งงงทั้งตกใจ
“ผมจะพาคุณไปเที่ยวนะครับ..ให้โอกาสผมทำวันนี้ให้ดีนะครับคุณยาง ซึงโฮ”ว่าแล้วเด็กหนุ่มก็ใช่คำอย่างเป็นทางการถือโอกาสจับมืออีกฝ่ายเอาไว้แน่น มองด้วยรอยยิ้มที่ทำให้อีกคนอดเขินไม่ได้
ทำเอาซะกูเป็นสาวน้อยเลย มองมุมไหนกูก็ไม่เหมือนนะเมิง..
เเละเเทนที่การตอบรับมันจะสวยหรูดูชื่นมื่น นางเอกก็ต้องขวยเขินทำหระมิดกระเมี่ยนไป หน้าเเดงเรื่อ ไม่กล้าสบตาพระเอกสุดหล่อพ่อรวย พลางตอบเสียงกระเส่าเบาๆให้มีเล่นตัวว่า ‘ถ..ต้องการอย่างนั้น..ก็ ย..ยินดีค่ะ’
นั่นมันมีเเต่ละครหลังข่าวเท่านั้นล่ะ เพราะไอ้ความเป็นจริงน่ะนะ
“เออ
.เออๆๆๆ ไปก็ไปดิ ลุกๆๆๆ ลุกได้เเล้วคนเเม่ม มองกันใหญ่เเล้ว”
ได้เเค่นี้ก็ดีแล้วเว้ยชอนดุงเอ้ย..
“งั้น..ตอนนี้ก็บ่ายเเล้วเดี๋ยวผมพาพี่ไปกินข้าวนะครับ”แม้จะไม่ได้รับอะไรอะไรอย่างที่หวังเเต่แค่ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันมันก็มีค่าคุ้มมากเกินพอแล้ว
..
“อยากกินอะไรสั่งเลยครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”ชอนดุงยิ้มหน้าแป้นนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“นายเเน่ใจนะจะเลี้ยง มั่นใจเเล้วหรอ”ซึงโฮหันมองไปรอบๆร้่านอาหารเกาหลีที่ชอนดุงพามา ถึงที่นี้จะตกแต่งเเบบธรรมดา มองไปมองมาก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย เเต่ราคาอาหารบอกได้อย่างดีว่า มันต้องอร่อยแน่ๆ
“สั่งเลยครับ สั่งเถอะไม่ว่ากัน”ชอนดุงยังคงมั่นใจอย่างถึงที่สุด เค้าเองก็รู้เรื่องการกินของซึงโฮเป็นอย่างดี แต่เเค่อวบๆคนเดียวคงไม่น่าจะถึงตายหรอกมั้ง
พูดจาหารู้ไม่ซะแล้วไอ้น้อง..เดี๋ยวงี้พี่แดกไม่เกรงใจเเล้วน้องจะมาโทษทีหลังไม่ได้นะ
“งั้นสั่งล่ะนะ..”ซึงโฮยิ้มหวานนำร่อง ให้อักคนงงงวยกันไป ในมือก็ทั้งจดๆๆๆ สั่งๆๆๆ จนคนที่เริ่มหลุด ได้สติต้องมองสิ่งที่อีกคนเขียนจนตาค้าง
“ด
เดี๋ยวนะครับ..หกเจ็ดอย่างนี่ จะกินหรือห่อกลับไปกินบ้านกันแน่”ชอนดุงจับที่เเขนของคนที่เมามันกับการสั่งแหลกอย่างบ้าคลั่ง
“เห
.นี่ๆๆๆ ไม่กลัวอ้วนหรือยังไงเราเป็นไอดอลกันไม่ใช่หรอเนี่ย” ชอนดุงพยายามห้ามปรามแต่มีหรืออีกคนจะฟัง โฮะๆๆๆ ฝันไปเถอะ เรื่องกินน่ะ เป็นเรื่องใหญ่ของซึงโฮนะฟร้อย
“ใช่ไง..เเต่เพราะมันอ้วนอยู่เเล้ว จะไปกลัวทำไม แถมยังไง..เราก็ต้องทั้งซ้อมทั้งเต้น กินไปก็ได้ใช้ทั้งนั้น ไม่เห็นจะมีอะไร น่ากลัวเลย..”ว่าเเล้วก็เอาเหตุผลที่ฟังขึ้นฉิบเป๋งมาอ้าง
“หรือว่านาย ไม่มีตังค์ ถ้าไม่มี หรือมีไม่พอ ฉันไม่กินก็ได้นะ”และแล้วชอนดุงก็เจอลูกดอกอาบยาพิษไปเสียหนึ่ง แทงเข้าที่อกดังอึก!!!!
“ผมไม่ได้บอกซักคำว่าไม่มี เชิญสั่งตามสบายเลยครับ เอาให้เต็มที่ อย่าได้เเคร์”ชอนดุงผายมือตัวเองออกยาวมากขึ้น ก่อนจะทำหน้ามั่นใจเสียเต็มประดา ความจริงเเล้วซึงโฮเเค่หยอกเล่นเท่านั้นเอง
อย่างน้อยๆเขาสั่งไปก็ดูราคาไปด้วยน่า ถึงเเม้ว่าจะเยอะ เเต่จริงๆเเล้วเขาเองก็รู้ว่าชอนดุงจ่ายได้ อยากหาเรื่องใส่ตัวเลี้ยงเขาดีนัก เพราะอย่างนั้นต้องเอาเสียให้เข็ด
ไม่นานนักเขาก็ยื่นกระดาษคืนให้กับบริกร ซึ่งเดินรับด้วยใบหน้างงงัน บริการชายก้มลงมองกระดาษในมือสลับไปมากับหน้าของคนทั้งสองอยู่สามสี่ครั้ง เเต่ก็ไม่ได้รับการเปลี่ยนเเปลงอะไรซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่ากระดาษที่อยู่ในมือได้รับการจดบันทึกอย่างถูกต้องเเล้ว
ก็อาหารตั้งหก เจ็ดอย่าง แต่กินแค่สองคนจะหมดหรือนั้น
เเต่อยากให้รู้ว่าทุกคนคิดผิดเเล้ว..
เพราะตั้งเเต่ต๊อกโบกิ จานเเรกวางลง ตะเกียบที่ทำหน้าที่ประหนึ่งอาวุธอานุภาพแรงก็จ้วงเอาๆ ไปกับอาหารตรงหน้า เเถมพอคิมบับวางต่อพ่อคุณทูนหัวก็จับมันยัดเข้าปากไป โดยไม่ลืมเอาแป้งต๊อกพลุ้ยใส่กระพุ้งแก้มขวาเอาไว้ด้วย เเล้วทำการเคี้ยวมันไปให้รสชาตินัวไปทั่วปาก
จากนั้นเมื่อเริ่มรู้สึกว่าอาหารชักฝืดคอ เลยคว้าเอาถ้วยเล็กตักแยกบะหมี่เเละน้ำ ซดมันกลั้วให้ลื่นคอ ก่อนจะตักหมูผัดเข้าปากไปอย่างง่ายได้ เขาอาจจะทานมากเกินไป จนเริ่มเลี่ยนเเล้ว เลยต้องตักไชเท้าดองเข้าปากไปเสียหน่อย เพื่อจะกลบรสชาติไปได้บ้าง
สรุปแล้วพ่อคุณจะกินหรือจะยัดดี
บ้านเขาเรียกว่าตะกละนะคะคุณขา
ชอนดุงได้แต่มองอย่างเหลือเชื่อ เขาเห็นวิธการกินของซึงโฮมาเเล้วหลายครั้ง เเต่ไม่เคยเห็นเเบบระยะกระชั้นชิดแบบติดขอบซักที เลยเชื่อหมดใจว่า ต่อเเต่นี้ไปเขาขอตั้งปณิธานกับตัวเองเสียใหม่ว่า
ชอนดุงจะตั้งใจทำงานให้หนักขึ้นเป็นสองเท่า เพื่อตอบสนองความต้องการอาหารที่ไม่มีวันสิ้นสุดของพี่ซึงโฮให้จงได้ นี่ล่ะความฝันของชอนดุง!!!!!!
“พี่ครับ ระวังติดคอนะ..”ชอนดุงบอกเสียงเบา หาจังหวะขัดอีกคนไม่ได้เลย
“ไม่มีทาง
เจ้าแห่งการกินอย่างฉันต่อให้กินไปพูดไปก็ไม่เคยมีติด”ในขณะที่อาหารเต็มปากชายหนุ่มยังอุตส่าหหันมาพูดได้จริงๆ ไม่วายเอากิมจิใส่ตามไปเมื่อเห็นว่ามีช่องให้ใส่เพิ่ม
“เอาเถอะครับ ยังไงก็กินเยอะๆนะครับ ไม่เป็นไรผมชอบแบบเต็มไม้เต็มมือ”เด็กหนุ่มยิ้มทะเล้นจนอีกคนเเทบพุ่งเเต่ด้วยศักดิ์ศรีเจ้าเขมือบมันค้ำคอ เลยเม้มปากเอาไวได้
“ฉันจะกินน้อยก็ไอ้ตรงที่นายพูดนี่ล่ะ
ชอนดุง”
*********************************************************************************************
“ฮ้า
อิ่มจังเลยยยยยยยยยยย”ซึงโฮบิดตัวซ้ายขวาไล่อาการเมื่อยขบที่เกิดขึ้นจากการนั่งท่าเดิมนานๆ แล้วจึงเอามือขาวลูบพุงน้อยๆของตนที่มันขยายขึ้นมาอีกนิดเพราะมีอาหารเข้าไปกักเก็บอยู่ภายใน
“ไม่อิ่มก็อ้วกเลยเเหละครับ..”ชอนดุงเปิดกระเป๋าเงินตัวเองดู ก่อนจะรู้สึกว่ามันพร่องไปเยอะเหลือเกินไอ้ธนบัตรใบละหมื่นวอนของเขาเนี่ย
เเต่เอาว่ะ เเค่นี้ไม่หวั่นเเม้วันมามากอยู่แล้ว
“จะกลับกันเลยไหม”คนที่เดินทำหน้าชื่มมื่นออกมาก่อนหันมาถาม เเน่ล่ะ..พออิ่มเเล้วเขาก็อยากนอนขึ้นมาเเล้วซิ หนังท้องน้อยๆมันตึงๆ หนังตาคล้ำๆมันก็อยากปิดขึ้นมา
“อะไรกัน ใครจะอยากกลับ..ไปดูหนังกันเถอะ”ว่าเเล้วนิ้วมือยาวก็คว้าเอาตั๋วภาพยนต์ขึ้นมาโชว์ให้อีกคนดู ซึ่งซึงโฮได้เเต่ทำหน้างง เพราะเขาสองคนก็แทบจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เอาเวลาที่ไหนไปซื้อ
“ไปซื้อมาตอนไหนเนี่ย..เเล้วรู้ได้ไงว่าฉันอยากดูหรือเปล่า”ซึงโฮมองตั๋วภาพยนต์ในมืออีกคนมาดู ก่อนจะทำหน้าเบ้
หนังรักโรเเมนติก
เข้ากับหน้าเขาตายล่ะ..อ่อนหวานมาก..
“ไม่รู้เเหละ ก็ผมอยากดูนี่ ไปดูกับผมเถอะนะ”ชอนดุงยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนจะยิ้มจนตากหยีประจบอีกคน
“เออๆๆๆ ไปก็ได้..”..อย่างน้อยก็นะ ลองดูหน่อยก็ไม่เสียหายหรอกมั้งว่ะ
หลังจากนั้นชอนดุงก็นำพาท่านชายแพนด้า มายังห้างใหญ่ใจกลางเมือง ที่มีทุกอย่างครบครันนั้นรวมถึงโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่นี้ด้วย
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เมื่อพอมาถึง ก็จวนเจียนเวลาที่ภาพยนตร์จะเริ่มฉายพอดีเเล้ว และเก้าอี้ที่พวกเขานั่งเป็นแบบส่วนตัวมาก ฮันนีมูน ซีท..
อยากถามอีกซักครั้งว่าคิดได้ไง..ผู้ชายสองคนนั่ง ฮันนีมูน ซีท
“ผมรู้นะว่าพี่คิดอะไร เเต่เอาน่ายังไงก็ มันเป็นส่วนตัวเเถมนั่งสบายดีออกไม่ใช่หรอ”ชอนดุงตบที่นั่งข้างๆลง ซึ่งซึงโฮเองก็มองอย่างหมั่นไส้หากก็ทำตามอย่างว่าง่าย
พอนั่งปุ๊บ ภาพยนตร์บนจอก็เริ่มตั้นฉายทันที ไล่เรียงไปเรื่อยจากตัวอย่างภาพยนตร์ในอนาคต เเละมาจนถึงปัจจุบัน เรื่อยไปจนกระทั้ง เรื่องหลักฉายตั้งเเต่เริ่มต้น
เรื่องดำเนินไปเป็นความรักระหว่างชายหญิงสองคนที่รักกันมาก หากวันหนึ่งผู้ชายหายไปจากชีวิต วันที่..เขาอยากให้คนรักของเขาได้ทำบางอย่างในสิ่งที่สาวเจ้าอยากทำ จึงทิ้งของล้ำค่าคือจดหมายเอาไว้ ซึ่งเขาจะส่งให้เจ้าหล่อนทุกวัน ซึ่งลงท้ายเอาไว้ด้วยคำว่ารัก..
ชีวิตของหล่อนดำเนินไปราวกับมีเขาเคียงข้างหากแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นจริงๆ เเต่คำว่ารักเเละจดหมายทุกฉบับนั้น
เทียบเท่าความอบอุ่นของเขา..เเละเมื่อมาถึงจุดสำคัญของเรื่อง
ชอนดุงจึงเหลือบมองไปยังคนที่นั่งเอาหัวพิงไหล่ของเขาน้อยๆ อีกฝ่ายกลับหลับตาลงสนิทเสียได้ คร้านตอนเเรกก็ไม่มั่นใจนัก เเต่เมื่อสังเกตจากลมหายใจที่สม่ำเสมอจึงรู้ว่าอีกคนหลับลึกไปเเล้ว
เด็กหนุ่มจึงได้เเต่ส่ายหัวไปมาเบาๆ คิดเอาไว้เเล้วว่าอะไรเเบบนี้ต้องไม่เหมาะกับคนอย่างซึงโฮเป็นเเน่ เขามองใบหน้ายามหลับของอีกคนอย่างช้าๆ เเสงรำไรจากโรงหนังมืด ทำให้เห็นอีกฝ่ายได้ไม่ชัดนัก เเต่ก็พอเลือนราง
เขาเฝ้าเเต่ถามตัวเองอยู่เสมอว่า คนเรามีรักเเรกพบจริงๆหรือไม่..คำตอบที่อยู่ตรงหน้า วินาทีที่เขาเห็นคนคนนี้ครั้งเเรก ความรู้สึกเหมือน ได้รู้คำตอบของทุกคำถามที่เคย ถามตัวเองว่า เหงาไหม หรือต้องการใครซักคนเพื่อเติมเต็มช่วงเวลาของความฝันร่วมกันหรือเปล่า
เด็กหนุ่มเลื่อนมือไปยังคนมากวัยกว่าก่อนจะไล่ปลายนิ้วไปที่เเก้มของอีกคนเบาๆ เเล้วจึงขโมยจูบที่ริมฝีปากอิ่มอย่างที่ชอบทำเวลาที่อีกคนหลับลึก หากก็ไม่ได้ปล่อยให้มันเลยเถิดมากนัก แค่อยากจูบซักที อยากบอกว่ารู้สึกรักมากเท่านั้นเอง ก่อนที่อีกคนจะตื่น
เพราะจะว่าไป การพาอีกคนมานอนในโรงภาพยนตร์อย่างนี้ก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียวนี่..
..
.
.
“พี่ครับ ตื่นเถอะครับ..ตื่นนะ”ชอนดุงพยายามปลุกอีกคนให้ตื่นขึ้นจากความฝันอันแสนหวาน ทั้งๆที่ถูกขโมยจูบไปหลายต่อหลายครั้งเเต่ก็ไม่เคยรู้เลยแม้เเต่ครั้งเดียว
“อ
อือ
.”อีกคนทำท่ารำคาญก่อนจะซุกลงกับเเขนของคนปลุกมากขึ้น ยิ่งดูก็ยิ่งน่าถ่ายภาพเก็บเอาไว้ให้ประทับใจ
เเต่ก็ไม่ใช่เวลาเท่าไหร่นัก เพราะคนเริ่มทยอยออกกันไปหมดเเล้ว
“ตื่นนะครับ..ผมยังอยากให้พี่ทำอะไรกับผมอีกซักอย่าง”ชอนดุงพยายามปลุกอย่างไม่ทำให้อีกคนต้องเสียอารมณ์ในการโดนปลุกซึ่งชายหนุ่มเองก็กระพริบตาอย่างเชื่องช้า ก่อนที่จะเอามือขาวขยี้ไปมา
“หนังสนุกเนอะ..”พอตื่นขึ้นมาก็เเอบยิงมุกใส่ไปเสียที
“ครับสนุก นางเอกปากอิ่ม เเถมนิ่มมากเลยครับ..”ชอนดุงยิ้มตาหยีเจ้าเล่ห์ใส่อีกครั้ง ความนัยทำให้อีกคนเดาได้อย่างไม่ยาก
“ชอนดุง นี่แก..”
“เอาเถอะครับ ก็อยากหลับก่อนทำไมล่ะ..ไปๆๆ กลับบ้านๆๆๆ”ชอนดุงจับเเขนอีกคนให้ขึ้นมาควงเขาก่อนจะพาอีกคนออกจากโรงหนังไปอย่างง่ายดาย
“จะกลับแล้วหรอ
ทำไมฉันถึงยังรู้สึกเหมือนไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”เจ้าของฉายาไอดอลน้ำหนักเกิน ที่พยายามสลัดความง่วงงุนออกจากตนเองออก
“เพราะพี่หลับไงครับมันเลยเหมือนผ่านไปเร็ว”นั้นก็ช่วยตอบได้มาก
“งั้นหรอ ตอบได้สวยมากอะ”อีกคนก็ช่างประชด
“หรืออยากเดทกับผมต่อหรอ..”
“ไม่เอาและ มันดึกเเล้วอยากกลับบ้านนอนแล้ว กลับเหอะ..”ว่าเเล้วก็มีการหาวหวอดใหญ่ไม่อายใคร โชว์ไปเสียอีกที
น่าเอ็นดูดีจริงๆ หลินโฮของชอนดุง
“ครับ
แค่บอกผม..ผมจะทำให้พี่ทุกอย่าง..”
..
..
หลังจากนั่งรถประจำทางมาไม่นาน ก็ถึงที่หมายเสียที ซึงโฮมองนาฬิกาน้อยๆ ก่อนจะถอนใจเฮือก วันเวลาที่ได้รับการผ่อนผันเเละพักผ่อนกำลังผ่านไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงเวลาที่น่าจดจำนี่ก็เช่นกัน
เวลาที่ได้ใช้ร่วมกับคนที่อยู่ด้วยเเล้วมีความสุข คนที่รักเรา
“วันนี้มีความสุขไหมอะครับ”ชอนดุงลองถามหยั่งเชิงดูเล็กน้อยกับการที่ได้ออกไปข้างนอกด้วยกันตามลำพัง
“อืม..ถ้านับรวมเรื่องกินโดยไม่ต้องออกเงินก็ถือว่ายอดเลยล่ะ เเต่ถ้านายไม่ว่าอะไร เรื่องฉันหลับในโรงก็ทำเป็นงงๆไปละกันนะ”คนอายุมากกว่าหัวเราะกลบเกลือนอย่างนึกขำ
“ผมไม่ถือหรอกครับ ยังไผมก็ได้กำไรอยู่เเล้วนี่..ว่าเเต่ ผมมีอะไรจะให้พี่ก่อนนอนด้วย”ชอนดุงว่าพลางเดินหาย เข้าไปในห้องของตัวเอง ซึ่งปล่อยซึงโฮเอาไว้ที่ขอบประตูห้อง..
เพียงเเต่เเทนที่พระเอกของเราจะกลับมาอย่างรวดเร็วเร็ว ผ่านไปหลายนาทีอยู่เจ้าชอนดุงก็ยังไม่ออกมาเสียที ซึงโฮเลยคิดว่าเขาควรไปตามอีกคนออกมาไดแล้ว..
ชายหนุ่มเดินตามร่างสูงไปอีกครั้ง เขาได้ยินเสียงดังกุกกักเหมือนคนรื้ออะไรซักอย่าง โดยมีเสียงจีโอช่วยกันอีกเเรง เลยตัดสินใจว่าจะเปิดเข้าไปโดยไม่เคาะก็แล้วกัน
“พี่..ผมหาไม่เจออ้าาาาาาาาา”เสียงเเง้วๆอย่างงี้มีคนเดียวเท่านั้นเเหละ
“เเล้วมันมาหายอะไรตอนเวลาสำคัญอย่างนี้ว่ะ แกน่ะควรเก็บในที่ที่มันเห็นชัดๆดิ..”ผู้อยู่อาศัยอีกคนบ่นขึ้น
“หาอะไรอยู่หรอ..ฉันรอนายตั้งนานเเน่ะ”ซึงโฮโผล่หัวเข้ามาทำเอาคนที่อยู่แตกฮือ หันมาแทบตาถลน เเต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ เลยต้องปล่อยตามเลย
จะทำให้ประหลาดใจ เเเต่ไอ้คนที่ควรจะประหลาดกลับบุกมาถึงถิ่นเเล้ว เเถมของก็ยังหาไม่เจออีกต่างหาก
“เอ่อ
คือผมหาอะไรที่ผมจะให้พี่ไม่เจอ กะจะให้วันนี้มันจบสวยๆเสียหน่อยน่ะ”เด็กหนุ่มบอกเสียงอ่อย
“โคตร โรแมนติกเลยอะ จะเซอร์ไพรซ์แต่ทำของหาย”ซึงโฮอ้าปากหัวเราะครืนใหญ่จนอีกคนเกาหัวด้วยความอาย เพราะความแอบโง่ของตัวเอง
“พี่ไปนั่งรออยู่ที่เตียงผมนั้นล่ะ..ผมขอหาอีกแป่บ แค่นี้ผมก็อายจะเเย่เเล้วนะครับ”ชอนดุงโบ้ยมือไปอีกทางอีกคนเลยทำเป็นส่ายหัวเเล้วไปนั่งรอดีๆ ตามที่อีกคนขอร้อง
“เห
อะไรเนี่ย..”หลังจากที่มาหามุมเหมาะๆรอ พอหย่อนก้นลงปุ้บ ก็ทับกับอะไรบางอย่างปั๊บ มือขาวคว้ามันขึ้นมาดู มันคือกล่องกระดาษเล็กๆที่ถูกทับจนเเบน เลยหยิบขึ้นมาเปิด เห็นเป็นสร้อยมือเส้นสวยสีเงิน
“อันนี้อะไรอะ..ของนายป่าว..”
“ไอ้หยา
.อันนั้นเเหละๆๆๆ ตายล่ะ..ผมหาตั้งนาน พี่นั่งทับซะแบนเลย”ชอนดุงแอบล้อเลียนคนกระทำไปเสียเล็กน้อย ค่อยๆหยิบของในมือมาถือเอาไว้เสียเอง
“เเล้วนี้อะไรอีกอะ..”ว่าเเล้วก็เห็นหนังสือหน้าตาประหลาดเข้าให้อีก
“เฮ้ย
อย่าดูนะพี่..”ชอนดุงทำท่าทางจะคว้าเอาไว้หากไม่ทันเสียแล้วเพราะว่า ซึงโฮเปิดมันออกมาเสียก่อน
หนังสือนิตยสารสองสามเล่มที่ถูกขีดขั้นเอาไว้ บางหน้าก็ตัดออกมาเรียบเรียง เเถมมีเจ้ากระดาษสีที่เรียกโพสอิส ขั้นเอาไว้มากมาย พร้อมกับการจดรายละเอียดเล็กๆให้พออ่านรู้เรื่อง..
“ร้านนี้ คิมบับอร่อย
ดาญา ที่นี้แพนเค้กทะเลอร่อยมาก
เฮ้ย!! นี่มันร้านที่ไปกินวันนี้นี่หว่า
เอ๋
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น recommend ว่าคนมีคู่ต้องไปดู..”ชายหนุ่มอ่านออกเสียงเสียดัง ราวกับประจาน
ทำเอาเจ้าของหนังสือเขินจนหน้าแทบไหม้ไปข้าง
หมดกัน
หมดกัน รู้หมดเลยล่ะงานนี้ จะมีอะไร ที่จะทำให้ซึงโฮน่าตื่นเต้นอีกไหมนะ
จะให้ของขวัญ เเต่เจ้าของมันก็ดันมาเจอเสียก่อน แถมตอนเเรกก็หาไม่เจออีก
พยายามหาร้านดีๆให้ไปด้วยกัน โดยอยากเก็บเป็นความลับ ทำเหมืือนไม่มีอะไร เเต่เจ้าตัวก็ดันมาเห็นอีกเหมือนกัน
โถ
ชีวิตของนายชอนดุง
“นี่นายเตรียมมาหรอเนี่ยตั้งเเต่เเรกหรอเนี่ย ”ชายหนุ่มพูดว่าทำตาโตมอง กองหนังสือที่ถูกขั้นเอาไว้ด้วยโพสต์อิสติดมาแนบมาด้วยหลากหลายสี อีกหลายเล่มที่ยังไม่ถูกเปิด
“ก็เเค่อยากให้พี่ประทับใจ เราไม่ได้มีเวลาออกมากันสองคนอย่างนี้บ่อยๆนี่”เด็กหนุ่มเกาท้ายทอยตัวเองแก้เก้อ เขาอายจนอยากเอาหน้ามุดดินเเล้วล่ะ ก็มันเล่นออกมาแบบนี้ได้อย่างไรก็ไม่รู้
“แต่วันนี้ม้ันไม่ใช่วันสำคัญอะไรซักหน่อยนี่นา..”ซึงโฮว่าพลางมองหน้อีกคน ในใจน่ะอยากจะบอกว่าลิงโลดไปแล้ว ดีใจซิที่มีคนมาทำอะไรเเบบนี้ให้
การมีคนให้ความสำคัญขนาดนี้ ต้องดีใจเป็นธรรมดา เเละโดยเฉพาะคนคนนั้นเป็น ชอนดุง
“สำหรับผม แค่เราได้มีเวลาร่วมกันมันก็เป็นวันที่สำคัญเเล้วครับ”เด็กหนุ่มใส มองหน้าอีกคนเอาไว้
ตอนนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าจีโอหายออกไปจากห้องตั้งเเต่เมื่อไหร่อย่างรู้หน้าที่ จึงเหลือเเค่คนสองคนที่เป็นมือใหม่หัดรักกันเท่านั้นเอง
“นี่ครับ..ผมรู้ว่าพี่คงเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรที่มันชัดเจน เเละผูกมัดจนเกินไป จะให้แหวนก็คงมากเกินไป จะให้สร้อยก็ไม่อยากให้พี่รู้สึกไม่เป็นอิสระ ผมให้ข้อมือมัดจำเอาไว้ก่อนละกันนะครับ”เด็กคว้าข้อมืออีกคนขึ้นมา โยนเจ้ากล่องที่แปลสภาพไปให้พ้นทาง ก่อนจะบรรจงใส่มันในที่ที่มันควรอยู่
“ข..ขอบใจมากนะ
”ซึงโฮเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีกเหมือนกัน นี่คงเป็นคำที่ดีที่สุดในตอนนี้
“แล้วท่าอย่างนั้น
จะรับรักผมได้หรือยังครับ เพราะผมรักพี่จริงๆนะ”ชอนดุงจับมืออีกฝ่ายไว้เบาๆ ก่อนจะมองหน้าอีกคนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม หากก็ดูจริงใจอย่างถึงที่สุด
“แล้วฉันบอกไม่เอาหรือยังล่ะ
เด็กบ๊องเอ้ย
ยังไง..ต่อจากนี้ไป ก็ช่วยทำทุกวันของฉันให้เป็นเหมือนวันวาเลนไทน์ทีเถอะนะ..”
รอยยิ้มงามมักเริ่มต้นจากหัวใจ เเละมันก็มีไว้เพื่อมอบให้คนที่สมควรได้รับมันที่สุด อย่างปาร์ค ซังฮยอนคนนี้ไงล่ะ
*****************************************************************************************
END
ความคิดเห็น