คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [LF 2PM]“MY DARE DEVIL…ปีศาจที่รัก” PART 3 (แก้คำผิด)
PART 3
“น่าเบื่อ…”
เสียงทุ้มต่ำว่าพลางพลิกตัวไปมาอย่างเเสนเบื่อ ขยับยุกยิกไม่อยู่กับที่จนคนที่นั่งอยู่ด้วยกันต้องส่ายหน้าไปมาอย่างระอาเหนื่อยใจอยากจะเอามือทุบอักเข้าให้เเต่ก็ได้เเค่คิด
“ฉันบอกเเล้วใช่ไหม..อย่าคิดจะประทุษร้ายฉันเชียวนะ..”อาจจะด้วยเผลอลืมตัว ทำเอาจุนโฮส่ายหัวไปมาเล็กๆ กับความอึดอัดเเบบน้ี จะคิดหรือทำอะไรไม่ได้เลยซักอย่าง
“เเล้วมันน่าไหมละ คุณให้ผมทำแผลให้ ส่วนคุณก็ขยับไปมาเเบบนี้ เเล้วผมจะทำได้ยังไงเเล้วเนี่ยแผลคุณมันก็ปริออกมาอีกเเล้ว ผมจะพันผ้าเเล้วนะครับถึงจะน่าเบื่อก็ช่วยอยู่เฉยๆซักครู่เถอะครับ”คนตัวเล็กกว่าถอนใจอีกครั้งก่อนจะลงมือแก้ผ้าพันแผลที่มันไม่เป็นรูปเป็นร่างเเล้วเอาออกมาทำใหม่อีกครั้งคราวนี้ยังดีที่คนเจ็บให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทุกอย่างจึงทำได้อย่างง่ายดายมากขึ้น
ไม่นานนักก็เสร็จสมใจ ชานซองจึงลุกขึ้นขยับเเขนไล่ความเมื่อยขบออกไปจากร่างกายเสียหน่อย จุนโฮจึงได้เเต่มองไล่ไปตามร่างกายของอีกคน เสื้อผ้าที่เขาซื้อมาให้อีกคนดูจะสวมมันได้พอดี ทำให้พอตระหนักว่าอีกคนตัวโตมากเเค่ไหน
“เอ่อ..เจ็บแผลมากไหมครับ”จุนโฮถามขึ้นเสียงเบา มองอีกคนตาแป๋ว
“ทำไม..ฉันเจ็บไม่เจ็บนายจะมายุ่งอะไรด้วยล่ะ”ชานซองมองหน้าของอีกคนอย่างเฉยเมย ทั้งๆที่คนถามก็เเค่อยากผูกสัมพันธ์ด้วยเท่านั้น
“ก็เเค่ไหนๆอีกหน่อยต้องอยู่ด้วยกันไม่ใช่หรอครับ จะพูดดีๆกันไม่ได้เลยหรอฮะ”ไม่รู้ว่าถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ของวัน เเต่นี่ก็นับเป็นอีกครั้งที่เขาทำแบบนั้น
เจ้าของใบหน้าสมบูรณ์เเบบหันมามองเล็กน้อย ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจนัก เป็นเชิงบอกเเบบนัยๆว่าเขาจะลองคิดถึงเรื่องนั้นดูบ้างก็เเล้วกัน
“อีกอย่างถ้าคุณไม่ค่อยเจ็บเเล้ว จะออกไปซื้อของด้วยกันไหมครับ เห็นว่าไม่ค่อยได้ขึ้นมาที่โลกมนุษย์ไม่ใช่หรอครับ”ด้วยความที่เป็นคนจิตใจดีเสมอ ดวงตาที่สามารถยิ้มได้นั้นเลยเอ่ยชวนอีกคนไปด้วย อย่างน้อยก็คงแก้บรรยากาศอึดอัดแบบนี้ไปได้มากล่ะนะ
“ก็ดีเหมือนกัน เผื่อจะมีอะไรน่าสนใจขึ้นมาบ้าง”ชานซองขยับไปมาอีกสองสามครั้งเเล้วจึงฉุดอีกคนให้ลุกขึ้นตาม เเล้วพานำเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้คนตัวเล็กกว่าได้เเต่คิดไปว่า
นี่ขนาดอยู่ด้วยเเค่สองวัน อะไรจะช่างเหวี่ยงเเละเอาเเต่ใจอย่างนี้นะ
………………………
……………….
……….
“ไม่ได้มาซะนาน..อะไรๆเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน”ชานซองบ่นออกมาเล็กน้อย เห็นผู้คนที่คราคร่ำไปหมดเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจ
“หรอครับ..แล้วนรกเป็นยังไงหรอครับ คือไม่ได้อยากไปหรอกนะครับ แต่แค่อยากรู้”จุนโฮที่กำลังขยับมือดูเสื้อผ้า เเละเสื้อเชิ๊ตเนื้อดีสีเข้มสองสามตัวให้คนที่มาด้วยกัน
เนื่องจากว่าเจ้าตัวเกิดขี้เกียจ ถ้าอยากได้ตัวไหนเเบบไหนก็บอกให้เขาช่วยดูช่วยเลือก ทั้งสีเเละขนาด ว่าง่ายๆล่ะก็คือ ชี้นิ้วก็สั่งอย่างเดียวเท่านั้น ในขณะที่ตัวเองก็ชมนกชมไม้ไปหาอะไรกินเข้าปากไม่ขาด เพราะฉะนั้นหน้าที่อันสูงส่งที่นำพาเขามาห้างหรูแห่งนี้ จึงพ่วงกับการเป็นเบ้ดีๆนี่เอง
เเต่ก็ไม่อยากยอมรับเท่าไหร่ว่า ตั้งเเต่ออกมาด้วยกัน คนๆนี้ดูดีสมบูรณ์เเบบมากเสียจนเกินไป ทำเอาทั้งสาวเเท้เเละเทียมมากมายมองตามตาเป็นมัน บางคนเกือบใจกล้าเข้ามาทำความรู้จัก หากเเต่รังสีที่น่ากลัวเเต่ไอเย็นบางอย่างที่บ่งบอกความอันตรายนั้นทำให้ผู้คนถอยหนี
“นี่คุณชานซอง เอาตัวนี้ดีไหม..ผมว่าผ้าเน้ือนิ่มดี ท่าทางจะใส่สบายด้วย..”จุนโฮยื่นเสื้อคอโปโลท่าทางจะสวมขึ้น เเบบก็ดูภูมิฐานอีกต่างหาก
“ขอบใจ…นายอยากรู้หรอ ว่านรกเป็นยังไง”ชายหนุ่มคว้าเสื้อนั้นเอาไว้ ก่อนจะหยิบมันขึ้นมามองดู เอียงคอเล็กน้อยบอกว่ามันใช้ได้ ก่อนจะคว้ามันไปยังห้องลอง
“เดี๋ยวนายจะได้รู้ว่านรกเป็นยังไง แต่ขอเวลาเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ”ชานซองหลิ่วตาให้เล็กน้อย ก่อนจะรูดผ้าม่านปิดต่อหน้า ทิ้งให้อีกคนยืนหนักใจอยู่ด้านนอก
เฮ้อ…คนเราหนอคนเรา ทำไมน่า
“ถ้านายจะไม่มัวแต่มานั่งอมทุกข์ในความซวย ของตัวเองล่ะก็ ช่วยหยิบเเบบอื่นมาให้ลองด้วยนะ”เสียงตะโกนลั่นๆนั้นทำให้จุนโฮอยากวิ่งหนีไปให้ไกลจริงๆ แต่ตราบใดที่ชานซองรู้ว่าเขาคิดอะไร เเน่นอนชายหนุ่มจะรู้เเน่ว่าเขาอยู่ที่ไหน
“นายคิดถูก ฉันรู้แน่”จุนโฮส่งเสื้ออีกตัวให้ผ่านทางด้านบนของห้องลอง ได้ยินเสียงไหวๆที่ตอกย้ำความคิดของเขา
“จะดีมากครับ ถ้าคุณจะไม่ต้องเอ่ยทุกอย่างที่ผมคิด..ก็ได้”ชายหนุมเอ่ยหันหลังเดินออกมาจากห้องลองเสื้อผ้าอย่างเซ็งๆ ไม่ให้คิดอะไรคนเราก็คงสมองกลวงนะซิ ให้ตายเถอะ
“นายนี่ก็รสนิยมดีใช้ได้ ฉันเอาทุกตัวที่นายหยิบมานี่ล่ะ”ว่าเเล้วชานซองก็โยนทั้งกองเสื้อเเละกางเกงใส่คนที่ตกใจผวาเอาสองมือโอบอุ่มเอาไว้ทันที
“ม…หมดนี้น่ะนะ”
“ใช่!!!หมดนั้นน่ะล่ะ เอาบัตรนี้ไปใช้รูดเอาเเล้วกัน..”ชานซองยื่นบัตรทองให้ ก่อนจะเดินตัวปลิวออกไปรอหน้าร้าน ไม่ก็มองขาสวยๆของผู้หญิงที่เดินผ่านด้านหน้าไปตามประสาของผู้ชาย
“เดี๋ยวนี้ ลูซิเฟอร์เขามีบัตรทองด้วยหรอเนี่ย..”จุนโฮอยากเอามือขึ้นเกาศีรษะตัวเอง แต่ก็นะ..เดี๋ยวค่อยออกไปถามที่หลังเอาก็ได้
รอไม่นานนัก เขาก็ออกมาพร้อมกับถุงที่เต็มไปด้วยสิ่งของที่ไม่ใช่ของของเขาเอง พร้อมกับปากที่คาบการ์ดทองออกมาด้วยเช่นกัน
“อื้ออ..อื้อๆๆๆ”จุนโฮส่งความคิดที่ว่า ช่วยเอามันออกไปจากปากของเขาที พร้อมกับมองคนหน้าตาดีที่ยืนเท่อยู่ตรงหน้า เพียงเเต่ชายหนุ่มเเค่ปรายตามองเท่านั้น
“คาบไว้อย่างนั้นก่อนน่ะดีเเล้ว เผอิญว่าฉันเมื่อยมือซะด้วยซิ”ชานซองมองหน้าอีกคนกระตุกรอยยิ้มขึ้น อย่างกวนอารมณ์จนจุนโฮเองก็อยากจะร้องโวยวายให้มันดังลั่นห้างไปเลย ไอ้คนใจร้ายเเต่ความกระดากอายก็ทำให้เขาตัดใจเสียก่อน ยอมจำนนเดินคอตกตามเขาไปอีกจนได้
“เอาเถอะ สงสาร ด่าซะดัง”เพียงเเต่เหมือนจะสงสารมาก ไม่ใช่อย่างนั้นเลย ชายหนุ่มเเค่เพียงคว้าเอาเฉพาะสิ่งที่อยู่ในปากออกมาเท่านั้นเอง เเล้วคราวนี้ไม่มีการหันมาอีกเลยนี่ซิ
นี่ล่ะคนใจร้ายจริงๆสมกับเป็นพญามารที่สุด สงสัยนี่ละมั้งคือ นรกที่ว่า!!!!!!
……………….
…………
……
“หิวข้าว…เเล้วครับ..”จุนโฮที่เดินลากขาตามชานซองมาได้เกือบทั้งวันเปรยเสียงขึ้นมา เพื่อหวังให้อีกคนชะลอเท้าลงบ้าง เเละมันก็ได้ผล
“นั่นซินะ นี่ก็จะเย็นอยู่เเล้ว”ชานซองเดินเข้ามา ลากเเขนอีกคนไปทันที ก่อนที่เจ้าตัวจะตกใจจนตาเหลือก
เพราะคนที่บอกว่าหิวข้าวน่ะหมายถึงเขา ไม่ได้หมายความว่า คนที่จะต้องกินตอนนี้คือชานซองเสียหน่อยๆ
“เดี๋ยวๆๆๆๆ คุณ..เดี๋ยว”จุนโฮร้องเรียกเสียงหลงก่อนที่อีกคนจะพาเขาเข้ามายังห้องน้ำ โชคดีที่มันปลอดคนเพราะอย่างน้อยการเป็นผู้ชายที่ต้องเข้่าห้องน้ำพร้อมกันสองคน คงดูไม่งามนักหรอก
“อะไรของนายอีกเนี่ย..”ชานซองคำรามต่ำทำเอาคนตััวเล็กกว่าหน้าเสียไปเล็กน้อย
“คือ…ตอนนี้ คนที่หิวข้าวมันคือผม เเล้วเอ่อถ้าเกิดคุณอยากกินขึ้นมาตอนนี้ ผมจะเอาพลังที่ไหนมาให้ล่ะครับ ใช่ไหม อย่างน้อยๆ ก็ขอให้ผมได้เติมพลังก่อนเถอะครับ”จุนโฮร้องขอน้อยๆ เขาคาดหวังจะได้รับการตอบรับที่ดี
ชานซองมองอีกคนอย่างชั่งใจ เขาคิดตามที่อีกฝ่ายว่าเเละเห็นตามนั้นจริง ออกจะหงุดหงิดไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องจำใจยอมรับไปโดยดุสดี
“เข้าใจละ..”ชายหนุ่มว่า พลางปล่อยอีกคนออกจากอ้อมเเขนของตนเอง
จุนโฮรีบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ในหัวคิดอย่างดีใจไปว่าอย่างน้อยก็ถือซะว่ารอดตัวไปไหน เพราะต่อให้อีกกี่สิบร้อยพันครั้งเขาก็ไม่มีทางชินกับการให้อาหารต่อสายเเบบนี้อยู่ดีนั้นเเหละ แถมเเต่ล่ะครั้งเขาก็แทบเป็นลมหมดสติทุกทีจะยังไงไหวล่ะ
มือขาวลูบอกตัวเองเบาๆ ปลอบขวัญที่กระเจิงไปเล็กน้อยกอนจะสะดุ้งมืออีกคนที่ทำท่าว่าจะเดินนำไปแล้วหันขวับกลับมา
“นายอย่าคิดนะว่าจะรอด ไม่ใช่ตอนนี้แต่ก็ไม่ได้หมายถึงชั่วโมงหน้า..เสียหน่อย”
*******************************************************
อาหารตรงหน้าเเลดูน่ากินอย่างมาก กลิ่นของมันก็หอมเย้ายวนจนแทบอดไม่ไหว เส้นสีขาวนวลขนาดเล็ก เเละครีมซอสสีขาวที่มีทั้งหอยลายเเละแฮมชิ้นเล็กน่ารักที่หั้นอย่างประดิษฐ์ประดอยก็อีก
ไม่ใช่ว่าจานตรงหน้าไม่ใช่ของเขา หรือเขากินมันไม่ได้
ถ้าหากว่าไม่มีซาตานหน้าหล่อมานั่งจ้องเขาด้วยสายตาเร่งเร้าอย่างไม่ปกปิด ในขณะที่ตัวเขาเองก็มัวแต่จ้องเจ้าจานสปาเก็ตตี้ครีมซอสตรงหน้าตาเป็นมันเช่นกัน
“เมื่อไหร่นายจะรีบๆกิน ฉันเองก็หิวเหมือนกันนะ”เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเร่งเร้าเขาเสียงเข้ม จนอีกคนถอนหายใจพรั่งพรู
"ถ้าจ้องขนาดนั้นผมก็กินไม่ลงหรอกครับ ไม่เข้าใจเลย..ทำไมมันไม่มีวิธีการกินอาหารที่ปกติกว่านี้หรอครับ อย่างเช่นจับตัวเฉยๆ หรืออย่าง"จุนโฮบ่นเสียงเบา อุบอิบพยายามวนเจ้าเส้นให้ได้เป็นคำ
"มันก็มีวิธีอื่นอยู่หรอก แต่ถ้านายไม่ว่า เราคงต้องเปลี่ยนสถานที่กันหน่อยน่ะ....."ชานซองทำท่านึกๆด้วยรอยยิ้มประหลาดหากคนซื้อมีผรือจะรู้ทัน ได่แต่ทำท่าดีใจว่าอาจมีหนทางรอดตัว
"จริงหรอ ทำที่ไหนยังไงล่ะครับ"นอกจากยัดเอาของกินเข้าปากไปอย่างสบายใจยังทำหน้าร่าเริงอีกต่างหาก อาหารมันคล่องคอขึ้นเยอะ
"ก็นอนบนเตียงแล้ว....."
"เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆ คุณอย่าบอกนะว่าเราต้อง เอ่อ..นอนกัน"จุนโฮเบิ่งตาเล็กจนมันโตขึ้นอย่าน่าอัศจรรย์ใจ
"ใช่ แต่วิธีนั้นน่ะ ฉันอยู่ไปได้ซักสองสามวันเลยนะ นายสนใจไหมล่ะ ไม่ต้องมาจูบกับฉันเช้า กลางวัน เย็น"ชานซองเท้าคางมองคนที่หน้าตาซีดลงๆๆๆ แถมส่ายหน้าคอแทบหลุด
ขนาดกับผู้หญิงเค้ายังไม่เคยเลย แล้วกับผู้ชายล่ะก็ ไม่ไหววววววววววววนะ
"ฮะ นี่นายยัง....มิน่านายถึง รสชาติดีนัก"ชานซองพยักหน้ากับตัวเองเบาๆ
"หยุดพูดเลยครับ ผมยังไม่เคยแล้วมันทำไมล่ะครับ เรื่องนั้นช่างผมเถอะครับ ว่าแต่...ทำไมไอ้วิธีการกินของคุณมันต้องอีโรติกขนาดนั้นด้วยครับ"จุนโฮ งับอาหารแรงๆเข้าไปอีกซักที ระบายอาราณ์การแก้ปัญหาที่หนีเสืิอปะจระเข้อย่างนี้
"ก็ทุกคนก็ทำมาแบบนี้ เหมือนนายต้องกินข้าวทางปาก พวกฉันเวลาอยู่ที่นั้นฉันก็มีอาหารของฉัน พลังชีวิตจากวิญญาณของคนตายแต่พอมาอยู่ที่นี้ มันไม่มีนี่ ฉันก็ต้องหาเอาจากพวกนายน่ะ ก็แค่ทำอย่างไรก็ได้ให้ของเหลวภายในมีการถ่ายเทหากัน อย่างจูบ หรือไม่ก็มีเซ็กซ์"คำพูดของชานซองไม่ได้ทำให้จุนโฮรู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย
"งั้นผมเลือกจูบ และคุณต้องสัญญาว่าจะไม่ฝืนใจผมด้วยวิธีอื่น ตกลงไหม ไม่งั้นล่ะผมยอมตายแน่ๆ!!! แต่เดี๋ยว ทำไมคุณไม่ไปหาคนอื่นล่ะ อย่างผู้หญิงน่ารักๆ หรือสวยๆ ทำไมต้องมาเป็นผู้ชายธรรมดาๆอย่างผม"จุนโฮเริ่มเสนอทางที่น่าสนใจมากกว่า
"หึ.... ช่างต่อรองเจรจาเหลือเกินนะ เอาเป็นว่าตกลง ส่วนเรื่องที่ถาม อย่างแรก..นายเป็นคนช่วยฉัน ซึ่งฉันเลยคิดว่านายนี่ล่ะน่าจะโอเค อย่างที่สอง นายรสชาติดีมากในระดับที่หาตัวจับยากมาก ไม่รู้ว่านายรอดมาถึงทุกวันนี้ได้ยังไง และข้อสุดท้ายฉันไม่มีปัญหาเรื่องเพศ"ชานซองหลิ่วตาเล็กน้อยทำเอาคนกำส้อมหลบตาเล็กน้อย ความจริงก็ยังมีเรื่องสงสัยเป็นข้อที่สี่เหมือนกันคือเรื่อง ที่ทำไมเขาถึงห้ามเสียงจุนโฮไม่ได้
และแน่นอนนั้นก็เป็นเรื่องน่าสงสัยว่า มีทั้งมนุษย์และเทวดาปีนขึ้นมาอยู่ปะปนกับคนทั่วไปด้วยหลายเหตุผล เบื่อความวุ่นวาย อยากเรียนรู้เรื่องต่างๆ และอีกมากมายเหตุผล แต่มันก็มีข้อจำกัดในเรื่องนั้นเช่นกัน
เทวดาอาจโชคดีที่เขาสามารถเป็นได้อย่างมนุษย์ และแถมยังมีอำนาจพิเศษในขณะที่ ปีศาจไม่สามารถอยู่ได้ถ้าไม่เสพไอพลังชีวิตของมนุษย์
จากพฤติกรรมที่กล่าวมาข้างต้นเพราะมนุษย์สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ตราบใดที่ยังไม่ตาย ถ้าหากปีศาจไม่กินพวกเราจะค่อยๆตายลงอย่างช้า และกลายเป็นปีศาจไร้จิตวิญญาณ และสร้างความเดือดร้อนให้มนุษย์ ซึ่งนั้นทำให้ต้องมีเทวดาควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้น
และถ้าเป็นแบบนั้นจุนโฮถือว่ามีแรงดึงดูดและพลังทีมีกลิ่นดึงดูดแรงเหลือร้าย แต่แปลกที่ไม่ถูกจับจอง..ซึ่งมันถือเป็นโชคดีที่ได้แหล่งอาหารชั้นดีและโอชะ ไม่ซิควรจะเรียกว่า…พรีเมี่ยมเลยล่ะ
ในขณะที่ชานซองคิดบางอย่าง เจ้าหนุ่มแอบลอบมองใบหน้าคมนิดๆ พลางคิดเช่นกันเขายอมรับจริงๆว่าชานซองมีเสนห่ห์และหล่อมากจนตัวเขาเองยังใจเต้นเลย แต่ก็เถอะผู้ชายที่โดนชมว่ารสชาติดีจนหาตัวจับยากน่ะ มันไม่น่าดีใจซักหน่อยนะ!!!!
"ขอบใจที่ชม"ชานซองผิวปากเบาๆ อย่างว่าจุนโฮเองก็ลืมไปว่าเขาคิดอะไรอีกคนน่ะได้ยินไปเสียหมด
"ไม่เป็นไรไม่ได้ครับ"จุนโฮประชด!!!!
"เอาล่ะกินเสร็จแล้วใช่ไหม งั้นนายควรมาให้อาหารฉันได้เเล้ว"
………................
...................
.........
“คุณขยับมานี่หน่อยนะครับ ผมจะไม่พันผ้าเอาไว้ให้นะครับ แต่ตอนนี้ผมฉีดยาชาให้แล้ว และอีกเดี๋ยวมันจะดีขึ้น ตอนฉีดอาจเจ็บเล็กน้อยแต่ผลคือมันจะกล้ามเนื้อมันจะคลายตัว”ทางที่ดีช่วงนี้อย่าเพิ่งแปลงเป็นสัตว์ประจำตัวเลยนะครับ”นิชคุณพูดกับเจ้าแมวตัวน้อยที่กำลังส่ายหางไปมาไม่ยอมให้จับง่ายๆราวกับกวนโมโห
“นี่..คุณแมวอูยองครับ หยุดส่ายหางก่อนดีไหมครับ ไม่งั้นผมจะแกล้งให้คุณอยู่ที่นี้อีกซักวันสองวันดีไหม..”คุณหมอหนุ่มปรายตามอง เจ้าน้องเหมืยวตัวดำสนิท ซึ่งมันเองก็..หันมามองเเบบตาหาเรื่องเช่นกัน
เเต่ก็ยอมวางหางไว้เฉยๆในที่สุด
“อย่างนั้นล่ะครับ อ่อ..ผมขอถามหน่อยได้ไหม ว่าเจ้าของคุณทราบไหมว่าคุณเป็น..”
“หงาว~~~”มันลากเสียงยาวน้อยๆ ตอบรับซึ่งนิชคุณเองก็ยักไหล่ประมาณว่ารับทราบเช่นกัน เขาฉีดยาน้อยๆ ซึ้งเจ้าตัวเล็กกลับสะดุ้งเฮือกเบาๆ และครางอือออกมา แน่นอนเพราะมันเจ็บ
“เพราะผมขอแนะนำว่า..คุณควรแปลงเป็นมนุษย์ตลอดนะครับ เพราะมันจะดีที่หางจะได้รับการรักษาและสมานตัวมันเอง”คุณหมอว่าพลางละมือจากบาดแผลและเดินอ้อมไปหาแมวน้อย เท้าคางมองใบหน้าเล็กของมันที่พยายามมองไปทางอื่น มันอาจใจเต้นได้เพราะใบหน้าหล่อเหลาสมกับเทพบุตรไม่ปานอย่างนี้
“เอาล่ะครับ เดี๋ยวผมจะเอาเสื้อคลุมมาให้นะครับ ยังไงก็..ช่วยทำให้เป็นคนแล้วเดี๋ยวผมจะกลับมา”ชายหนุ่มยิ้มหล่อในขณะที่เขาขอตัวออกไปให้อีกคนได้ใช้เวลาของตัวเอง
และเมื่อประตูปิดลง อูยองพึมพำบางสิ่งบางอย่างออกมา ด้วยคำพูดที่คล้ายกับคุณหมอสุดหล่อเมื่อวาน ไม่นานนักจากเจ้าแมวสีปลอดสวย จึงกลายเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักไปได้ และเมื่อคนที่จากไปเก่งพอจะกะเวลากลับมา อีกคนจึงรีบวิ่งไปหลบในเสื้อกราวด์ที่แขวนไว้ตรงผนังได้ทันพอดี
“นี่ครับ เสื้อผ้าที่คิดว่าคุณน่าจะใส่ได้พอดี ผมให้คนหาไว้ให้แล้ว นี่ครับเปลี่ยนซะ ผมรับรองผมจะหันหลังให้”นิชคุณเอาเสื้อผ้าวางเอาไว้ ก่อนที่อีกคนจะรับมา
“ขอบคุณครับ”ชายหนุ่่มว่าเสียงหนักราวกับต้องการบอกบางอย่าง
“ชิ…ขอบคุณ!!!”เด็กหนุ่มเจ้าของใบหน้ากลมกระแทกเสียงบอก ก่อนจะรีบสวมมันเข้าไปทั้งตัว และทันทีที่สวมเสร็จน่ะนะ
“เดี๋ยว!!! นี่นายจะให้ ฉันใส่ชุดนี้จริงๆหรอ!!!”
“ใช่ครับ ผมว่ามันเหมาะกับคุณออก”สายตาอบอุ่นนั้นยิ้มอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นอีกคนสวมชุดนั้นเข้าไปทั้งตัว เสื้อยืดลายน้องแมวสีดำ กับกางเกงขาสั้นคลุมเข่าสีขาว นั่นน่ารักมากเลยในสายตาคนมอง
“ฉันไม่ใช่เด็กนะ!!!!!”อูยองว่าเสียงแหลมด้วยใบหน้าบึ้งตึงเล็กๆ
“โอเคครับๆ เอาล่ะ คุณอูยอง เดี๋ยวผมจะให้คนรักมารับคุณกลับบ้านนะครับ”ชายหนุ่มว่า พลางเชิญคนไข้จอมเหวี่ยงนั่งลงตรงหน้า ซึ่งอีกคนก็นั่งลงแต่โดยดี
แม้ใบหน้าจะบอกว่าบุญไม่รับจ้าาาาาาาาา
“เค้าไม่ใช่คนรักของฉันซะหน่อย อย่ามาซี้ซั้วว่านะ”ว่าแล้วก็ทำท่าอมลมไปเสียอย่างนั้นแน่ะ คำตอบที่ดีของคนฟังจริงๆนะ
“งั้นแล้วเขาเป็นใครล่ะครับ ผมจะได้วางคำเรียกถูก”นิชคุณยังคงเอามือประสานไว้ถามอย่างเนิบนาบ
“เขาเป็นคนรักของพี่ชายฉัน โอเคไหม!!! นี่นายจะถามไปทำไมเนี่ย!!! มันเรื่องอะไรของนาย แล้วเมื่อไหร่ฉันจะกลับบ้านได้”อูยองจ้องหน้าอีกคนที่มองนิ่งนานไว้ก่อนแล้ว ก็เจ้าตัวน่ะมัวแต่ทำหน้าเชิดหันไปมองทางอื่น แล้วจะรู้ตัวไหมว่ามีคนจ้องไม่วางตาน่ะ
ตึกตักๆๆๆๆๆๆๆ….อ้าวๆๆๆ เต้นทำบ้าอะไรน่ะหัวใจเอ่ยยยยย แค่เขาหน้าตาดี ยิ้มมีเสน่ห์ พูดจาเพราะ สุภาพ ใจเย็น เป็นเทวดา…เหอะแล้วยังไง เป็นเทวดาน่ะ ยิ่งไม่ควรเต้นใหญ่เลยนะ!!!
“เป็นอะไรไปครับ แผลอักเสบหรือเปล่า หน้าแดงๆไปนะ”ชายหนุ่มว่า พลางถามอาหาร
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละ เลิกจ้องได้แล้ว มันน่ารำคาญ!! ฉันถามว่าเมื่อไหร่จะได้กลับบ้าน ทำไมไม่ตอบซักทีล่ะ”ไอ้แก้มป่องๆนั้น กับพองตัวมากกว่าเก่าเสียอีก
คนมองจึงยิ่งยิ้มกว้าง พยายามอดใจไม่ให้ส่งมือไปบีบมันเล่นอย่างที่อยาก
“ก็ต่อเมื่อผมเซ็นต์ยินยอมให้..ว่าที่พี่สะใภ้ของผมมารับคุณนี่ล่ะครับ”เจ้าของใบหน้าเทวดานั้นพูดเสียงทุ้มนุ่มน่าฟัง เพียงแต่มันมีบางอย่างสะกิดหูให้สนใจ
“เดี๋ยวนะ..นายเรียกพี่แจบอมว่าอะไรนะ..”อูยองว่าเสียงสูงเสียดหู ไม่แน่ใจว่าได้ยินผิดไหม แต่เชื่อเถอะ เพราะหน้าเจ้าของคำพูดน่ะติดไว้หราเชียวล่ะ ว่าพูดคำนั้นแน่ๆ
“ครับผม คุณได้ยินไม่ผิดหรอกครับ ผมเรียกเขาว่า ว่าที่พี่สะใภ้ เพราะผมอยากเป็นน้องเขยเขานี่ครับ..”และคำพูดนั้นมาพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจอีกแล้วซิ
และที่แน่ๆ ไอ้หัวใจบ้าของอูยองมันเต้นตอบรับคำพูดของชายหนุ่มเสียด้วย หลังจากมันไม่เคยเต้นอย่างนี้มาก่อนในชีวิตเลยซิน่าให้ตายเถอะ!!!!!!!!!!
********************************************************************************
TBC
ความคิดเห็น