คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [LF 2PM]“MY DARE DEVIL…ปีศาจที่รัก” PART 2 (แก้คำผิด)
“MY DARE DEVIL…ปีศาจที่รัก”
Part2
แคร้ง…แคร้ง…
“อ..ฮึ่ม ”
“อ๊ะ……”เสียงร้องสะดุดเมื่อของในมือล้วงลงไปกองอยู่กับพื้น ดีที่ตอนนี้เขาเเค่ล้างมันอยู่ มันเลยเเค่ตกลงไปกองอยู่กับพื้น จนต้องรีบคว้าเก็บขึ้นมาวางไว้ที่เดิม
“ขวัญอ่อนจริงๆ”น้ำเสียงเย้ยหยันดังส่งมาเล็ก เเต่นั้นจุนโฮกลับทำเป็นไม่สนใจเพราะถ้าสนใจเเล้วมันก็จะกลายเป็นความคิดในที่สุด
ตอนนี้ทั้งคู่เพิ่งทานอาหารเย็นเสร็จหลังจากที่เจ้าของบ้านเป็นคนออกไปซื้อมาทำให้ เขาเรียนรู้ว่าชายหนุ่มที่อยู่ด้วยเป็นปีศาจที่คงกินจุเป็นอันดับหนึ่งของนรกเเน่ๆ ทำซะข้าวหมดหม้อ นี่กินแค่สองคนเท่านั้นเองนะ
“นี่..เสื้อผ้าคุณ ผมให้เพื่อนผมช่วยเลือกมาน่ะ เขาน่าจะตัวพอๆกับคุณ”จุนโฮนึกไพล่ไปถึงเพื่อนที่เขาบังเอิญเจอในร้ายขายเสื้อผ้า มันเลยเป็นความโชคดีไป อีกอย่างเพื่อนเขาเองก็ท่าทางคล้ายๆกับชานซองด้วย
“เเล้วก็…ผมซื้อมาเเค่สองสามชุดนะครับเพราะว่ากลัวไม่ถูกใจ ไว้คุณออกไปเลือกเองหลังจากหายแล้วดีกว่า”พอพูดจบก็หันหลังกลับไปนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงของตัวเองเหมือนก่อนหน้านี่เเค่ต่างสถานที่เท่านั้น
ชายหนุ่มมองตามของที่อีกฝ่ายส่งมาให้ เขาเปิดดูเล็กน้อยแล้วจึงหยิบมาขึ้นมาเปิดดูเพื่อความมั่นใจ สรุปได้ว่ามันถือว่าดูดีในระดับหนึ่งเลยล่ะเเละเขาเองก็พอใจ กางเกงสีซีดที่มีรอยขาดในจุดสวย เดนิมสีเข้ม เสื้อยืดสกรีนลายสีมืดและเสื้อยืดคอวีสีดำอีกตัว ไหนจะยังเครื่องใช้ส่วนตัวอีกบางส่วน ก็นับได้ว่าคนที่หามาให้รอบคอบพอสมควรทีเดียว
“ใช้ได้นี่..เอางั้นก็ได้”ชานซองวางมันลงข้างตัว ขยับเเขนข้างที่บาดเจ็บไปมาเล็กน้อย สายตาเหลือบไปมาคนที่นั่งกอดตัวเองอยู่บนเตียงเล็กๆ
เขามีความคิดที่อยากสงสัย มีความคิดบางอย่างที่แม้เเต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงเป็นเช่นนั้นไปได้ เขาได้ยินที่อย่างที่อยู่ในหัวของจุนโฮทุกอย่างเเละทุกคำพูด แม้กระทั้งเรื่องราวในโทรทัศน์ที่คนตัวเล็กกว่ากำลังนั่งเสพมันเข้าไปอยู่นี้
เขาได้ยินความคิดที่อีกฝ่ายพยายามห้ามไม่ให้ตัวเองคิดอะไร มันใช่อยู่ที่ไม่แปลกเพราะมันเป็นความสามารถของตัวเขาเอง เเต่หากเมื่อไหร่ที่เขาไม่ต้องการจะรู้ เขาจะห้ามไม่ให้ฟังได้ เเต่กับจุนโฮไม่ เขาพยายามเเล้วเเต่มันกลับไม่เกิดผล สิ่งที่เด็กหนุ่มคิดยังคงไหลเวียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนน่ารำคาญไปหมด
นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาฉุนเฉียว..จนต้องห้ามไม่ให้อีกคนคิดเสียงดัง ถึงจะฟังดูบ้าไปหน่อยก็เถอะนะแต่เขาเองก็ควรจะหาคำตอบ
“คุณ…อย่าหาว่าผมสู่รู้เลยนะ”จุนโฮหันหน้าเนือยไปยังอีกคน ลิ้นเล็กเล็มเลีย ริมฝีปากทที่แห้งผากของต้นยามกลั้นใจที่จะถามอะไร ราวกับกำลังถูกบังคับให้ดื่มยาพิษ เเต่ความอยากรู้อยากเห็นก็ไม่ต่างจากพิษร้ายที่หอมหวาน
“รีบถามมาเถอะน่า มัวแต่กลัวอยู่ได้ เเต่จะตอบหรือเปล่าไม่รู้”
“เอ่อ…คุณมาที่นี้ทำไม แล้วทำไม..ถึงถูกทำร้าย..”จุนโฮเอียงคอเล็กน้อยดูน่าเอ็นดูไปอีกเเบบ ควมคิดเเละคำพูดที่ออกมาจากปากนั้นตรงเเละพร้อมกันจนชานซองนึกขอในความตรงไปตรงมา เเต่ก็กลัวของคนตรงหน้า
“ฉันมาตามหา…คนที่ฉันรัก..”ชานซองเหม่อมองออกไปที่นอกหน้าต่าง สายตาเลื่อนลอยทำให้รู้ว่า ชายหนุ่มกำลังคิดถึงใบหน้าคนที่เขากำลังพูดถึงอยู่เป็นเเน่
“หรอ..งั้น..โลกออกกว้างใหญ่ คุณจะเจอหรอ..”ความไร้เดียงสานั้นไม่ได้ผสมถ้อยคำหมิ่นประมาท หรือสาปแช่งใดๆ ทำให้ชานซองหันมามองเล็กน้อยก่อนตอบอีกครั้ง
“ไม่รู้ซิ….เเต่เดี๋ยวก็คงเจอล่ะมั้ง..แต่เอาเถอะ ฉันขี้เกียจมาตอบคำถามให้คนช่างอยากรู้อย่างนายฟังเเล้ว เพราะงั้นเขยิบไป ฉันเจ็บแผลเเล้วก็ง่วงมาก จะนอนเเล้ว”เขาเอาปากไล่พลางใช้มือเดียวเขี่ยอีกคนตกลงมาจากเตียงอย่างง่ายดาย จนต้องลงมานั่งจุมปุ๊กอยู่กับพื้น ให้ได้ก่นด่าในใจมือเล็กสองข้างยกขึ้นเหนือหัวราวกับอยากจะทุบลงไปเเรงที่แผ่นหลังกว้างเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อสวยเสียจริงๆ
“อย่าแม้เเต่จะคิดเชียวลี จุนโฮ ไม่งั้นฉันเอานายตายแน่”นั้นเเหละเป็นเบรคชั้นดีที่ทำให้ เจ้าดวงตาเส้นเล็กนั้นสำเหนียกตัวเองไปว่า
นี่เขาคิดดังอีกแล้วหรือเนี่ย..
จุนโฮเบะปากเล็กน้อยกับอีกคนที่รู้ทันความ คาดว่าต้องไประบายอารมณ์กับอะไรบางอย่างอย่างเช่นหมอนไม่ก็ตุ๊กตาซักตัว จะทำร้าของเเข็งก็กลัวเจ็บตัวอีกมันเเย่นะ เท่าที่เป็นมาก่อนหน้านี้ก็หน้าสมเพชพออยู่แล้วพอเจอเรื่องแบบนี้ก็ยิ่งมากเข้าไปใหญ่เลย
*********************************************************
“ฉันว่าอย่างนี้ไม่ดีแน่..”มือขาวลูบตัวเเมวสีดำตัวกลมเล็กอย่างเบามือ มันส่งเสียงครางเบาๆราวออดอ้อนด้วยความเจ็บปวดคลอเคลียทิ้งตัวลงอยู่เหนือยตัก ครวญครางเสียงแผ่ว ค่อยๆเพิ่มความถี่ขึ้นเรื่อยๆ
“น่า..ยังไงมันก็เป็นสัตว์เดี๋ยวมันก็หาย..”ชายหนุ่มอีกคนเดินเนิบนาบออกมาทำท่าไม่หยี่หระ
“จะบ้าหรือไงเเทคยอน ไปขับรถออกมาเดี๋ยวนี้..อย่าให้รอนานล่ะเเละถ้าพูดอย่างเมื่อกี้อีกคำ รับรองฉันเหยียบหางนายให้หักอย่างงั้นบ้างเอาไหมล่ะ”เจ้าของดวงตาเฉี่ยวเล็กหันมองเล่นเอาคู่สนทนาหนาวเยือกไปได้มากพอสมควร
จนชายร่างใหญ่ต้องรีบเเจ้นตัวเองไปหยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะห้องทันทีโดยไม่จำเป็นต้องให้บอกอีกครั้งให้เสียกริยา
“แค่นี้เองไม่เห็นต้องดุเลยนี่นา…เเจบอมง่า..”ระหว่างใส่รองเท้าผ้าใบก็ได้เเต่บ่นเสียงงึมงัมๆไปด้วยความไม่สบอารมณ์ที่นึกเกิดอิจฉาไอ้เจ้าเเมวตัวเล็กที่เขาเหลือบตามองตาม เลยได้เห็นว่าชายอีกคนเอามันใส่ตระกร้ารองผ้านวมอย่างดีด้วยความทะนุถนอมอย่างเบามือยิ่งสะกิดต่อมเข้าไปใหญ่
“อ้าว..มัวเเต่มองอยู่ได้..รีบไปซิ..ชักช้าทำอะไรอยู่นั้นล่ะ ไปได้เเล้วเร็วๆ ถ้าฉันลงไปเเล้วนายยังไม่เอารถออกมา นายตายเเน่”นี่เป็นวาระสุดท้ายเเล้วของนาย อ๊ค แทคยอน คนตัวใหญ่ใจปลาบิ๊กเบิ้ม ที่มีข้อละเว้นว่าจะปลาซิวครอบงำก็เฉพาะ ปาร์ค แจบอมนี่ล่ะ
คนตัวเล็กกว่าได้เเต่ส่ายหัวด้วยความเอือมระอาอยู่กับอีกคนเหมือนอยู่กับเด็กไม่มีผิด หากเสียงหง่าวๆของเจ้าเหมียวน้อยกลับดึงความสนใจไปจากเขาได้มาก ดวงตาเรียวสวยมองไปยังเจ้าเเมวตัวเล็กสีดำสนิท พลางเอามือลูบไล้คางมันไปหวังบรรเทาความเจ็บหากมันก็ยังครางไม่เลิก
“รอแป่บนึงนะ เดี๋ยวก็ได้เจอหมอเเล้ว..”
ไม่นานนักสองคนกับอีกหนึ่งที่โดยสานนถยนตร์ส่วนบุคคลก็จอดลงหน้าโรงพยาบาลสัตว์อย่างปลอดภัยแม้ว่าความเร็วในการขับขี่จะอันตรายมากแค่ไหนก็ตามที
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าน้องเป็นอะไรมาคะ”นางพยาบาลสาวเดินเข้ามาต้อนรับทันทีที่เหยียบย่างเลยก็ว่าได้
“น้องโดนเหยียบหางครับ อยากให้รีบช่วยดูให้หน่อยได้ไหมครับ”เเจบอมอุ้มเจ้าตัวเล็กที่ยังร้องเสียงเเหงวๆ ดังให้รู้ว่าตนเจ็บปวดราวกับรู้ว่ายิ่งทำแบบนั้นยิ่งได้รับความสนใจ
“อ๋อ ค่ะๆๆๆตอนนี้คุณหมอไม่มีคิวพอดีเชิญเลยค่ะ”พยาบาลสาวสวยรีบนำทางไปในทันที จากนั้น อีกคนจึงรีบอุ้มอีกฝ่ายตามไปติดๆ ทิ้งให้เเทคยอนนั่งรออยู่ข้างนอกคนเดียว
ก๊อกๆๆ
“คุณหมอคะ วันนี้คนไข้ด่วนค่ะ..โดนเหยียบที่หางมาน่ะค่ะ ช่วยดูด้วยนะคะ”พยาบาลเปิดแระตูเข้ามาเล้วจากนั้นหล่นจึงเดินไปด้านหลังเพื่อเตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์ทันที
“ครับ เจ้าของช่วยพาน้องมาด้วยครับ”สัตวแพทย์หนุ่มบอก ซึ่งเเจบอมเองก็ทำตามอย่างว่าง่าย หากพอมาถึงที่เตียงตรวจเเล้วล่ะก็ ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะวางเจ้าตัวเล็กลงบนโต๊ะกลางขนาดสูง เจ้าเเมวตัวเล็กกลับตะกาย เสื้อขึ้นไปไม่ยอมลง
“อ้าว เป็นอะไรไปฮึ..อย่าดื้อซิ เจ็บก็ให้หมอเขาดู..”ราวกับเจ้าเเมวน้อยจะรู้เรื่อง มันจึงหันมามองคนเป็นหมอซักครู่ จึงตะกายกลับ ร้องหง่าวเสียงดังลั่นอีกครั้ง ไม่ยอมท่าเดียว
ขณะเดียวกันนั้น นายเเพทย์หนุ่มได้เเต่กระตุกยิ้มที่มุมปากน้อยๆให้ใบหน้านั้นยิ่งดูหล่อเหลาเสียเหลือเกินก่อนจะก้าวเท้าเข้าหาเจ้าเเมวตัวเล็ก
“มาผมช่วยนะครับ..”ชายหนุ่มว่าพลางเอื้อมมือเข้าไปหมายจะช่วย
“อ..โอ้ย…”เจ้าตัวเล็กเเสนดื้อนั้นเเว้งเข้ามากัดหมับที่นิ้วมือยาวของอีกคนจนเลือดอก เล่นเอาทั้งหมอ พยาบาล เเละเจ้าของไข้อย่างเเจบอมเองก็ตกใจไม่น้อย ไม่วายยังตั้งท่าขู่ฟ่อๆๆๆ ทั้งหาง ทั้งขนพองไปทั้งตัว
“นี่…ทำไมทำเบบนี้น่ะ..ขอโทษนะครับหมอ”
“ไม่เป็นไรครับ..สงสัยต้องใช้วิชากันหน่อย..”ชายหนุ่มพูดไม่มองหน้า หากจ้องตาเจ้าเเมวตัวนั้นอย่างหมายมาด มือเรียวใช้ความเร็วสูงน้อยๆ คว้าเข้าไปตรงหางที่ตั้งชันหากมันกลับไปตรง มองดูผิดรูปที่ชูอยู่ตรงหน้าด้วยมือเดียว
“เเหง่ววววววว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”เจ้าเเมวดำตัวเล็กร้องลั่นด้วยความเจ็บ มันทำท่าอ่อนลง ไม่ขู่ ไม่วิ่งอย่างคราเเรก อาจเพราะความเจ็บอันมากมายที่เพิ่งเกิดขึ้นก็เป็นได้
“เอ่อ..คุณหมอครับ..”
“ขอโทษทีนะครับ ที่ต้องใช้วิธีนี้ เเต่ผมอยากเรียกว่า กระดูกข้อต่อ อาจจะเเตก หรือเคลื่อน ยังไม่ทราบเเน่ชัด…สงสัยคงต้องให้นอน พักที่โรงพยาบาลซักสองวัน เพื่อดูว่าจะต้องผ่าตัดไหมน่ะครับ”ชายหนุ่มปล่อยมืออกเเล้วจึงมองไแที่เเมวตัวนั้นด้วยรอยยิ้มมุมปาก หากดวงตากลับไม่ได้ยิ้มตาม
เจ้าตัวเล็กครางหงีดๆเบาๆ คลายกลับไปออดออ้อนเจ้าของอย่างเคย หากอุ้งมือมันตะบบเบาบนมือแจบอมราวกับอยากบอกว่าไม่อยากอยู่ที่นี้
“เอ่อ ต้องให้นอนนี้เลยหรอครับ”เเจบอมเองก็อดห่วงไม่ได้
“ครับ เพื่ออาการของน้องคงต้องจำเป็น..”ในฐานะเเพทย์เขาควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้คนไข้
“เอางั้นก็ได้ครับ ยังไงก็ทนๆเอาหน่อยนะ…อูยอง..”
……………………..
………………
……….
“สวัสดีครับคุณคนไข้..”เสียงทุ้มนุ่มว่าน้อยๆพลางเดินอ้อมกรงเล็กไป นัยตาหวานคมมองเจ้าสัตว์ตัวน้อยที่หันหน้าเข้ามุมตึก ราวกับเเมวมีปัญหา
เเน่นอน..เเมวตัวนี้มีปัญหา มีปัญหาอย่างมากเลยล่ะ
“ถ้าเธอไม่หันมาฉันก็รักษาไม่ได้ เเล้วถ้าเป็นอย่างนั้นฉันก็ปล่อยเธอกลับบ้านไม่ได้เช่นกัน หวังว่าคงเข้าใจ”นิชคุณยิ้มใจดีให้กับสัตว์ตัวเล็กมองตัวแมวเจ้าของสีดำปลอดสวยที่หันมามองตามเขาอย่างช้าๆ ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองที่ผนังตามเดิม
ชายหนุ่มรู้อยู่เเล้วว่าเป็นอย่างนั้น จึงไม่ได้มีท่าทีเหนื่อยใจเลย
“เอาล่ะ งั้นผมคงต้องใช้ความรุนเเรง..”เขาพูดจบชายหนุ่มพูดเสียงเบา หากสัญชาตญาณของสัตว์บอกให้รู้ว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามา มันเลยขู่ฟ่อเสียยกใหญ่
ชายหนุ่มเอื้อมมือเปล่า โดยไม่เกรงกลัวเล็บยาวเเหลมคมที่ถูกกางออกมารอท่า เเละเมื่อเขาเอามือเข้าไปกรง เล็บที่รอเวลาก็ตวัดผ่าอากาศดังควับ จนเลือดออกเป็นเเนวยาว หากเขาก็ยังไม่หยุดต้อนเจ้าตัวเล็กจนไปถึงมุมกรง มือใหญ่คว้ากลางลำตัวเจ้าเเมวสีดำบีบมันเบาๆ ไม่สนใจกรงเล็บที่ตะกุกไปทั่วลำเเขนของเขา ใบหน้านั้นนิ่งเฉยราวกัไม่เจ็บไม่ปวดเลยแม้เเต่น้อย
“อยู่นิ่งๆเถอะครับคุณคนไข้..เเม้เราจะไม่ถูกกันเเต่ให้ผมทำหน้าที่ของผมให้มันเสร็จๆไปดีไหมครับ เเล้วถ้าไม่อยากจะต้องเจอกันมากละก็..ขอความร่วมมือด้วยจะได้ไม่เสียเวลา”นิชคุณจับมันมาจ้องตาอย่างนิ่งนาน
ทั้งคู่จ้องกันอยู่ซักพัก ไอ้ตัวเล็กแผลงฤทธิ์ครวญครางออกมาหง่าวๆราวกับต่อว่าดังไปลั่นโรงพยาบาล ลำบากทั้งพยาบาลทั้งอาจารย์หมอคนอื่นต้องวิ่งเข้ามาดูกันวุ่นวาย พบเเต่เพียงร้อบข่วนไปทั่วใบหน้าเเละลำเเขน ของคุณหมอรูปหล่อ ที่บัดนี้ ถอดผ้าเหลือเเต่เสื้อกล้ามกับกางเกงเเสลค เเน่ล่ะเข้าไม่อยากให้เสื้อเชิ๊ตมันขาดโดยใช่เหตุหรอกนะ
“เอ่อ..ค..คุณหมอคะ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ เเค่เรื่องเเมวดื้อน่ะครับ รบกวนขอเวลาด้วยนะครับ”ชายหนุ่มยิ้มหวานตามเเบบฉบับก่อนจะหายมาดุใส่เจ้าเหมียวจอมดื้ออีกครั้ง
เจ้าตัวมองจ้องดวงตาสีเหลืองนวลอีกครั้งก่อนจะค่อย ขยับปากพูดอะไรบางอย่าง นั้นทำให้เจ้าตัวเล็กดีดดิ้นไม่อย่างเเรง ถีบเเขนถีบขาเสียยกใหญ่ สุดท้ายเขาจึงปล่อยมือที่จับเจ้าเเมวน้อยในอากาศนั้นออก ทันทีที่มันร่วงหล่นลงสู่พื้นมันกลับกลายร่างเป็นเด็กหนุ่มไปเสียเเทน
ใบหน้ากลมเเก้มขาวที่ดูหน้าหยิกนั้น หากสวยตาที่เป็นสีเดียวกันกับ เเมวเมื่อครู่ทำให้ดูไม่ยากเลยว่าเป็นใคร..
“นี่นายเป็นหมอเเน่หรือไงเนี่ย ปล่อยลงมาได้ รู้อยู่ว่าหางฉันโดนเหยียบ ดีนะที่กลายร่างเป็นคน เลยไม่มีหางให้เจ็บ!!!!!!!!”พอได้มีปากมีเสียงก็ร้องลั่นใหญ่ต่อว่าอีกคนยาวเป็นชุด ในขณะที่ชายหนุ่มเอามือลูบไปตามเนื้อตัวทำให้เลือดนั้นหยุดไหล หากมันก็ทิ้งราวเอาไว้มากเช่นกัน เขาทำราวกับไม่ได้ยินเสียงตรงหน้า
“นี่ๆๆๆๆๆ พูดด้วยเเล้วทำเป็นไม่ได้ยินหรือยัง…คิดว่าตัวเองเป็นเทวดาเเล้วสูงนักหรอ..ดี…ฉันกลับบ้านล่ะ อยู่นานเหม็นขี้หน้า“เจ้าเด็กในเสื้อฮู้ดสีเข้มหันมาบอกก่อนจะลุกเดินผ่านไปทันที
ควับ…
“เดี๋ยวก่อน..”ชายหนุ่มคว้ามือเอาได้เสียก่อนหากก็ยังไม่ได้มองหน้าอย่างจริงจัง
“อะไรของนายอีกเนี่ยปล่อยได้เเล้ว อยู่นานเหม็นขี้หน้าเข้าใจป่ะ”ไม่รู้ว่าเพราะเหม็นขี้หน้า หรือเพราะรู้ดีว่าศักยภาพของตัวเองไม่สามารถสู้เขาได้ก็ไม่เเน่ใจ
“ยังไม่ได้รักษาเลยจะกลับได้ยังไงล่ะ”นิชคุณจับให้อีกคนนั่งลงกับเก้าอี้ก่อนมองใบหน้าน่ารักนั้นใกล้ๆ
“รักษาอะไรล่ะ ฉันก็ไม่ได้เจ็บอะไรซักหน่อยนี่ แล้วจะเอาอะไรมาให้รักษา หา!!!”เขาถามคำเดียวเเต่ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม คำถามที่ถามกลับมาได้ยาวกว่าอีกเป็นกิโลเลย ตามด้วยน้ำเสียงประหลาดอีกต่างหาก
“เดี๋ยวพอคุณกลายร่าง..หางของคุณก็จะเป็นเหมือนเดิม ใช่ไหม…หืม” ชายหนุ่มเอามือล๊อค ขังอีกคนเอาไว้ด้วยวงเเขนเเข็งเเรง พลางสูดกลิ่นไอของอีกคนหนึ่งไปด้วย
“อินคิวบัส คุณเป็นอินคิวบัส” นิชคุณบอกก่อนจะยกยิ้ม อินคิวบัสมีหน้าที่เดียวคือกินฝันดี เเละทำให้คนฝันร้ายแค่นั้น ไม่มีอะไรพิเศษ แถมพลังงานน้อยนิดเหลือเกิน
“แล้วไงล่ะ ฉันเป็นอินคิวบัสแล้วยังไงละ มันผิดตรงไหน ถึงจะเป็นแค่ปีศาจปลายแถวก็เถอะ เเล้วจะยังไงฮะ มันจะยังไง”อูยองมองอีกคนอย่างหาเรื่อง ตวาดเสียงเเว้ดๆๆๆๆๆๆ มาเป็นชุด
“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณซักคำ”ชายหนุ่มผละออกมาเล็กน้อย นิสัยนั้นไม่ต่างจากตอนที่เป็นเเมวเลยซักนิด ยิ่งทำให้เขานึกเอ็นดู ระคนอยากแกล้งเข้าไปใหญ่ ยิ่งแหย่ยิ่งมีอาการ
คำพูดนั้นทำเอาคนที่โวยวายอยู่เงียบกริบ เเก้มที่อูมอยู่เเล้วพองลมมากไปกว่าเก่า จนมันกลมตึงไปหมด หากเเต่ก็ทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านั้นสรุปเเล้วที่ทำได้คือสะบัดหน้าไปทางอื่นเสียเเทน
“ที่ผมทำให้คุณเป็นคน เพราะคิดว่าเราคงต้องคุยกัน เรื่องการรักษาเท่านั้นเอง เพราะงั้นตอนนี้ ช่วยกลับเป็นเเมวเหมือนเดิมด้วยนะครับ..”นิชคุณสวมเสื้อผ้าคืนเช่นเดิม หันมามองคนไข้ที่ทำตาประล่ำประเหลือก ก็อดยิ้มไม่ได้ นั้นยิ่งทำให้คนตัวเล็กกว่าอารมณ์เสียหนักกว่าเดิม
“อ่อ ผมไม่อยากฉีดยาสลบนะครับ อย่าทำร้ายกันอีกก็พอ..”ชายหนุ่มหันมายิ้มให้อีกคน ซึ่งเจ้าตัวเขาก็ได้เเต่ถอนใจออกมายาวๆก่อนจะทำตามที่อีกคนว่า
เด็กหนุ่มค่อนข้างเหนื่อยกับการที่จะตะโกนโหวกเหวกโวยวายเอาเสียเเล้ว อีกอย่าง เขาก็ไม่อยากให้อาการบาดเจ็บมันเรื้อรังเสียด้วย เลยค่อยๆหลับตาเล็กก่อนที่ร่างกายจะเเปรเปลี่ยนเป็นเเมวเหมือนเดิม จากนั้นจึงเห็นผลดังว่า ที่ปลายหางจากที่เป็นรอยไม่ได้รูปตอนนี้มันกำลังนูนบวมเพราะอาการที่ไม่ได้รับการรักษา
“เห็นไหมครับ ผมว่าอย่างนี้ท่าทางจะหัก คงไม่แตกหรอกครับ..ไม่ต้องผ่าตัด เเต่ทางที่ดี คงต้องเอกเซรย์กันไว้”ชายหนุ่มจับหางสีดำลูบเบาๆมือ ต่างจากตอนเเรกเเม้จะรู้สึกเสียดบ้างเเต่ก็ไม่ได้ทำให้เจ็บอะไรนักหนา เลยส่งเสียงเหมียวๆหงาวๆ ตอบคุณหมอไปได้เป็นว่ารับรู้
“ว่าง่ายอย่างงี้เเต่เเรกก็ดีเเล้วครับ”
“เเง่ว!!!!!!!!!”เนื่องจากดีกันไม่ทันเท่าไหร่ พอคุณหมอเเหย่เข้าหน่อยอารมณ์ที่จุดเดือดต่ำก็กลับเข้าสิงได้อย่างง่ายดายเสียเเล้ว
“โอเคครับๆ ผมไม่ว่าอะไรเเล้ว เเต่อย่าลืมว่ายังไงก็ให้ความร่วมมือด้วยนะครับ”
*******************************************************************************
TBC
ความคิดเห็น