ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC 2PM]MY DARE DEVIL…ปีศาจที่รัก [YAOI] CHANHO

    ลำดับตอนที่ #7 : [LF 2PM]“MY DARE DEVIL…ปีศาจที่รัก” PART 7

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 55




    "MY DARE DEVIL…
    ปีศาจที่รัก"

     Won Der.

     

    Part 7

     

    “เอ่อ…คุณ..เอ่อ ไม่ซิ ชานซองฮะ..”จุนโฮออกจะกระดากเล็กน้อยหากว่าต้องเอ่ยถึงชื่อนี้เพียงอย่างเดียว จะว่าไม่ชินปากก็น่าจะใช่อยู่ แต่คุณเจ้าของชื่อมือกระตุกกึกนี่ซิน่ากลัวของแท้เลย

     

    สายตาอย่างกับจะกระโดดกัดคอเขาอย่างนั้นแหละ กับอีแค่เรียกชื่อผิดเอง

     

    “ว่าไง..”ชานซองเลือกที่จะมองข้ามเสียงในหัวของตัวเองไปเสียอย่างนั้น เพราะจะว่าไปมันก็ดีเหมือนกันในบางกรณี

    “คือ…เอ่อ  คุณจะย้ายออกจากห้องผม..เมื่อไหร่หรอครับ”จุนโฮกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เขาไม่อยากถามแต่มันคงจำเป็น เพราะเขากลับอยากรู้คำตอบ ดูออกจะเสียมารยาทไปซักหน่อยหวังว่าชานซองคงจะไม่คิดอย่างนั้นหรอกนะ

     

    เขาแค่อยากเตรียมตัวเท่านั้นเอง

     

    “ทำไม..นายจะไล่ฉันแล้วอย่างนั้นซิ”ชานซองว่าตักของหวานจากอาหารเช้าเข้าปากเหลือบตามองอีกคนไม่วายกินอาหารที่อีกคนทำต่อไปเรื่อยๆ เขารู้ดีจุนโฮน่ะไม่มีทางไล่เขาหรอก

     

    อย่างน้อยๆ อาจเพราะไม่กล้า

     

    “คือ..ยังไง คุณก็เจอคนรักคุณแล้ว..เอ่อ อีกอย่างคุณจะอยู่อย่างนี้ มันก็คงแปลกๆว่าไหม เพราะถ้าคุณมาอยู่กับผม ทางเขาจะไม่มองว่ามัน…แปลกๆหรอครับ ทางนั้นอาจจะเข้าใจผิดก็ได้”จุนโฮกอดหมอนแน่น พูดทุกอย่างที่ตัวเองคิดเอาไว้ออกมาหมด

     

    ดวงตาเล็กมองหน้าอีกคนเพื่อรอคอยคำตอบ ที่ก็ไม่รู้ว่ามันจะออกหัวหรือก้อย รู้เพียงแต่..ต้องยอมรับในสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีตรงหน้า

     

    เมื่อคำตอบออกมาจากปากของคนตรงหน้า คนที่ไม่มีสิทธิ์อย่างเขาพร้อมจะฟัง

     

    ชานซองมองหน้าเล็กที่กำลังจ้องเขาอย่างไม่วางตา เจ้าตัวมองมาที่ริมฝีปากของเขาอย่างเดียวเลยก็ว่าได้ อาจจะมองมันว่ากำลังจะเอ่ยอะไรออกมา เพราะเพียงแค่เขาขยับถอนหายใจอย่างอึดอัด คนตัวเล็กกว่าถึงกลับหลุดขยับตัวขึ้นมาเหมือนกัน

     

    น่าหนักใจนะว่าไหม..

     

    มันน่าแปลกจริงๆซินะ หากถ้าเป็นวันแรกที่ขึ้นมาเหยียบโลกแห่งนี้แล้วล่ะก็ เขาคงไม่ลังเลเลยที่จะบอกว่า เขาจะย้ายออกทันทีที่เจออูยอง แล้วจะไม่มาตั้งกฏบ้าบอคอแตกที่เกิดขึ้นเมื่อวาน หรือแม้กระทั้ง ลุกออกมาโดยมีอูยองนั่งอยู่บนตัก ไม่แน่ๆ..คงไม่มานั่งลังเลอยู่แบบนี้ว่าจะตอบอะไร

     

    ถ้าเขาไม่มาเจอกีบ อี จุนโฮ

     

    “เอ่อ..แล้วถ้าฉันไปเย็นนี้ล่ะ”ชานซองถามน้อยๆ เขาคิดเพียงแต่อยากต่อบทสนทนาอีกนิด แม้จะซักสองสามนาที แต่ก็เพื่อคิดหาคำตอบที่ดีีสุด

     

    คราวนี้เป็นจุนโฮที่ถอนหายใจอย่างอึดอัด เขาคิดว่านั้นคงเป็คำตอบที่แท้จริงแล้ว ได้แต่ก้มหน้าลงช้าๆ  ปวดหนึบในอก ก็แปลกที่ยิ่งรู้ว่าเหตุผลที่เขาเป็นแบบนี้เพราะอะไร คนเราก็ยิ่งรู้สึกถึงมันมากขึ้นเท่านั้น

     

    แต่ถ้าแสดงความเสียใจออกมา คงน่าเกลียด อย่างน้อยเขาก็เพิ่งรู้จักกันได้แค่สัปดาห์เดียวด้วยซ้ำ

     

    “ถ้าอย่างงั้น เดี๋ยว..ผมไปเก็บข้าวของให้คุณเองนะ ชานซอง แล้วก็..เดี๋ยวผมเตรียมอาหารกลางวันให้ นั่งตรงนี้ไปสบายๆนะ ถือซะว่า..ตอบแทนเงินตั้งเยอะแยะที่คุณให้มา”จุนโฮทำเป็นแสร้งยิ้มร่าเริง เขาจะไม่รั้ง ไม่ยื้อ ไม่ทำอะไรทั้งนั้นกับของที่ไม่ใช่ของของเขา

     

    หากในใจกลับครวญคราง ร่ำไห้..ขนาดชานซองยังไม่ไป เขายังรู้สึกเหงาขึ้นมาเลย

     

    “ฉันยังไม่ได้บอกว่าจะไป ฉันบอกแค่ว่าถ้า..”ชานซองคว้าข้อมือของคนที่กำลังจะเดินไปยังตู้เสื้อมุมห้องเอาไว้ก่อนจะกระตุกให้นั่งลงข้างๆกัน

     

    “ก..ก็เดี๋ยวเผื่อคุณปุ๊บปับจะไป คุณจะได้ไม่ลืมอะไร”จุนโฮว่าหากก็ยอมนั่งลงโดยง่าย

    “ฉันจะอยู่ที่นี้ ไม่ไปไหนหรอก ฉันว่าจะอยู่ที่นี้แหละ”ว่าลแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนตักอีกคนอย่างแรง จนอีกคนตกใจ

     

    “ต..แต่เอ๊ะ..อย่างนั้นมัน..”

    “เรื่องของฉันน่า ฉันเป็นคนตัดสินใจ ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน นายอย่ามาถามมาก เป็นแค่ทาส ฉันบอกว่าอย่างไหนก็อย่างนั้นซิ..ตัดเล็บเป็นใช่ไหมนายน่ะ รู้สึกว่าเล็บฉันมันชักจะยาวแล้วไปไปเอากรรไกรมาตัดซิ!!!!”เจ้าคนตัวโตว่าพลางเฉไฉไปเรื่องอื่น โดยที่อีกคนได้แต่ตาโตขึ้นมาอย่างไม่เชื่อหู

     

    “นี่เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะครับ ว่าทำไม..”จุนโฮแย่งขึ้นมามองคนเอาแต่ใจที่นอนมองหน้าเขาด้วยสายตาเซ็งอีกแน่ะ

    “แต่สำหรับฉันรู้เรื่องแล้ว เอาเป็นฉันจะอยู่นี้ แค่นั้นแล้วเลิกถามต่อซักที”พูดเหมือนดุจนคนถามต้องหุบปากฉับ เอื้อมมือไปหยิบกรรไกรตัดเล็บที่อยู่ในลิ้นชักข้างเตียงมาอยู่ในมือเพื่อเตรียม

     

    “คุณนี่มัน..จริงๆเลย”ถึงปากจะบ่นไปอย่างนั้นก็เถอะ แต่ในใจที่มาห่อเหี่ยวไปเมื่อกี้ กลับค่อยๆพองโตอย่างช้าๆ ละลายความหมองหม่นลงไปกว่าครึ่ง เพียงแค่คำพูดว่าไม่ไป

     

    หัวใจคนเรานี่มันช่างซื่อสัตย์จริงๆเลยซินะ

     

    จุนโฮเอื้อมมือไปจับฝ่ามือใหญ่ของอีกคนมาไว้ในมือ ใช้สายตามองไปยังปลายนิ้วของอีกคน เพื่อดูสภาพการณ์ ปลายเล็บที่ทั้งยาวและคมทำให้เจ้าตัวต้องส่ายหัวเบาๆ จริงอย่างเจ้าของมันว่า มันยาวมากแล้วจริง แถมบางนิ้วยั่งดูมีทีท่าว่าจะฉีกได้ง่ายทำให้เขาต้องรีบลงมือ

     

    ชายหนุ่มทำมันอย่างตั้งใจมากเหลือเกิน ตัดมันอย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะทำให้อีกคนเจ็บตัวได้ เขาทำมันได้เบามือจริงๆจนไม่คิดว่าจะเป็นแรงของผู้ชายด้วยซ้ำไป ไม่พอยังลบรอยคมออกเสียหมด เดี๋ยวมันจะเป็นอันตรายไป

     

    ทำทุกอย่างไปโดยที่ไม่รู้ว่าคนนอนอยู่มองเขานานมากแค่ไหนแล้ว

     

    ความเงียบอย่างนี้ที่ชานซองต้องการ มันไม่ได้น่าอึดอัดเหมือนเมื่อวันก่อน และมันก็ไม่ได้หดหู่เหมือนก่อนหน้านี้ มันเงียบเพราะจุนโฮเพียงแค่จดจ่อโดยไม่ได้คิดอะไรซักอย่างนอกจากไอ้เรื่องเล็บๆ

     

    มันดีพอที่เขาจะมีเวลาคิดกับเรื่องของตัวเขาเอง

     

    ใบหน้าที่อยู่เหนือหัวตรงนี้ ดวงตาเล็กและปากจิ้มลิ้มนั้นทำให้เขายิ้มเมื่อมอง พร้อมจะบอกตัวเองว่า อดมองไม่ได้จริงๆ เขาทิ้งที่นี้ไปไม่ได้ ไม่มีเหตุผลลองรับกับมันเลยซักข้อ จะบอกว่า เพราะความรู้สึกเจ็บปวด เศร้าสร้อย ความเหงาที่ตีวนออกมาจากจุนโฮทำให้เขาทิ้งไม่ลงงั้นหรือ

     

    ถ้าบอกอย่างนั้นคือข้ออ้่าง เขาเป็นคนที่ชั่วร้ายที่สุดในจักรวาลกับอีแค่ความเหงาของมนุษย์ ทำไมเขาต้องมาใส่ใจ

     

    เพียงแต่นั้นเป็น อี จุนโฮ เพราะเป็นอี จุนโฮ แล้วจาง อูยองล่ะ คนที่เขารักนักรักหนาล่ะ เวลาเขาอยู่กับ จุนโฮ เขาแทบลืมไปด้วยซ้ำว่ามี ชื่อของจาง อูยองอยู่ในหัวเลยแม้แต่นิดเดียว

     

    จะผิดไหม ถ้าจะให้ตอบว่า เขาคงรักอูยอง และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคิดอะไรกับจุนโฮ เพียงแต่เขาก็แค่ต้องการ อี จุนโฮเหมือนกัน…และในเมื่อจุนโฮเองก็ต้องการเขาเช่นกัน

     

    “เดี๋ยวก่อน..”ชานซองพูดขุึ้นมาเบาๆ เอามือข้างที่ถูกจัดการเรียบร้อย มาจับมือที่กำลังง่วนกับอีกข้างอยู่

    “หือ..ว่าไง จะเอาอะไรหรอครับ..”จุนโฮวางกรรไกรตัดเล็บลงข้างตัวโน้มใบหน้าลงอีกนิด ถามเขาเผื่อว่าเขาอยากได้อะไร

     

    “เปล่า..ก็แค่…”ชานซองพูดเพียงนั้น แล้วใช้มือที่สะดวกโน้มคออีกคนลงมา จนใบหน้าและจมูกแนบชิดกัน กดอีกฝ่ายลงให้แนบริมฝีปากลงพอดีกับปากของเขาเพื่อจูบ

     

    และนั่นคือสิ่งที่ ชานซองต้องการในตอนนี้

     

    “ฉันหิวน่ะ จุนโฮ…”เขาปล่อยอีกคนให้เป็นอิสระจากจูบที่เป็นแค่ปากสัมผัสกัน ก่อนจะเปลี่ยนมันให้เป็น รสจูบที่ลึกซึ้งและตักตวงมากขึ้นไปกว่าเก่าเท่านั้นเอง

     

    ………………………….

    ……………………

    ………………

     

    แสงแดดสุดท้ายของวันกำลังริบหรี่ เมื่อรู้ว่านี้เป็นเวลาสุดท้ายที่ดวงอาทิตย์จะได้อวดโฉม มันจึงยิ่งสาดแสงสีส้มแรงกล้าก่อนจะหายไป เพื่อรอวันใหม่อีกครั้งตามกฏของธรรมชาติ

     

    หากมันไม่เป็นที่ต้องการของคนที่กำลังนอนสบายก็เท่านั้นเอง ก็คนมันนอนอยู่ แสงแยงตาอย่างนี้น่ารำคาญตายชักเถอะ

     

    “ตื่นเถอะครับ ตื่นได้แล้วนะครับ ห้าโมงแล้ว เดี๋ยวตื่นมาหลังจากตะวันตกดินแล้วจะปวดหัวนะครับ”นอกจากแสงสุดท้ายแล้ว ยังมีเสียงงุ่งงิ่งๆนี่อีก คนนอนเลยขยับตัวเอาเลิกหันหน้าเข้ากำแพงมันซะเลย

     

    จุนโฮได้แต่ถอนหายใจหนักๆ ราวกับเหนื่อยหน่ายใจเป็นกำลังเลยทีเดียว คร้านจะดื้อดึงคนที่ปลุกยากเย็นอย่างนี้ก็ไม่อยาก เดี๋ยวจะหาว่าทำให้ตื่นอีก

     

    “ถ้านอนต่อ ก็…เดี๋ยวผมออกไปข้างนอกก่อนนะครับ อาหาร..ทำเสร็จแล้วอยู่บนโต๊ะแล้ว ถ้าตื่นมาแล้วมันเย็นก็อุ่นทานนะครับ”จุนโฮก่อนจะเอามือตบๆกลุ่มผ้าห่มนั้นเบาๆบอกอีกคน

     

    เขาส่ายหน้าเบาๆก็จะยิ้มน้อยๆ แล้วจึงตัดสินใจว่า ควรออกไปตอนนี้ได้แล้วเดี๋ยวมันจะสาย แล้วธุระที่ต้องทำจะได้มีการเลื่อนวันออกไปเสียก่อนน่ะ

     

    คงจะได้ไปนะ ถ้าไม่มีคนคว้าข้อมือเขาทัั้งที่หัวยังหันเข้ากำแพงแต่แม่นยำสุดยอดจริงๆ

     

    “ไปไหน..”เสียงงัวเงียแบบนิ่งๆทำให้จุนโฮ ส่ายหน้าเบาๆ จะอยากรู้อะไรไปทุกเรื่องขนาดนั้น แต่ไม่ตอบคงโดนก้านคอเอาได้ง่ายๆ

    “ไปทำธุระครับ เดี๋ยวจะรีบไปรีบกลับครับ”จุนโฮตอบในขณะที่อีกคนงัวเงียลุกขึ้นมานั่งทั้งที่ไม่ยอมปล่อยอีกฝ่าย  มือข้างว่างเสยผมที่ปรกหน้าตัวเองออกเบาๆ ด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์มากนัก

     

    ไม่รู้หงุดหงิดที่ทำให้ตื่น ถ้าเป็นอย่างนี้ไปไม่บอกแล้วรีบกลับดีกว่า

     

    “ถ้าไปไม่บอก กลับมานายโดนเป็นสองเท่านะ..ธุระอะไร นี่มันก็เย็นแล้วจะไปไหนอีก”ว่าแล้วไอ้รังสีโดนขัดใจและคุกคามก็ทำให้จุนโฮกลืนน้ำลายลงคอไม่ถนัด

    “ผมต้องออกไปส่งจดหมาย กับโอนเงินให้ที่บ้านน่ะครับ แล้วว่าจะไปจ่ายค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำค่าไฟอะไรแบบนี้ด้วย”จุนโฮว่าไปตามจริง ที่พูดมามันเป็นธุระจริงๆนะ

     

    เอาทั้งประโยครวมกันแล้วบอกว่าธุระมันสั้นกว่านี่

     

    ชานซองเอามือถูใบหน้าตัวเองเล็กน้อยไล่ความง่วงงุน ยอมปล่อยมืออีกคนเพราะรู้เรื่องที่ตัวเองอยากรู้แล้ว จนอีกคนที่ดูเวลาต้องลุกขึ้นยืนในท่าเตรียมตัว

     

    “งั้นผมไปก่อนนะครับ”จุนโฮยิ้มน้อยเมื่อเห็นว่าเรื่องจบแล้ว

    “ใครบอกให้ไป ฉันจะไปด้วย”เท่านั้นล่ะคนที่กำลังเดิน หยุดขาแทบไม่ทัน

    “จะไปทำไมครับ..ชานซอง”คนตัวเล็กว่าก่อนจะทำตาเหลือก ไม่เข้าใจ

    “ฉันไปไม่ได้หรือไง ฉันแค่จะไปซื้อขนมกินเท่านั้นแหละ อยู่แต่ห้องมันน่าเบื่อนี่ ไปเอาข้าวเข้าตู้ไป ฉันจะได้แต่งตัว”ว่าแล้วก็สั่งๆๆ อย่างเอาแต่ใจจนอีกคนได้แต่ทำตาม

     

    เอาเถอะ อย่างน้อยก็มีคนไปเดินเป็นเพื่อน แม้ว่าความจริงธุระที่ทำเสร็จน่ะแป่บเดียวก็ตามนะ แต่คาดว่าวันนี้กว่าจะเข้าห้องก็คงมืดแน่ๆ

     

    ***********************************************************************************

     

    **~~~~~~~~~~**

     

    เสียงกริ่งประตูที่ดังอยู่ในตอนนี้กำลังสร้างความรำคาญให้กับผู้อยู่อาศัยหนึ่งในสามของบ้านได้อย่างไม่น่าเชื่อ หากเจ้าตัวก็ยังไม่มีทีท่าที่จะขยับตัวและก้นไปเปิดเลยซักนิดเดียว

     

    ยังนั่งๆนอนๆอยู่บนโซฟาเป็นทองไม่รู้ร้อนอีกแน่ะ แถมกระดิกปลายเท้าสบายอารมณ์อีกแน่ะ

     

    “อูยอง…ไปเปิดประตูซะ!!!”แจบอมที่นั่งเอามืออุดหู รำคาญกับเสียงกริ่งที่มาเป็นจังหวะๆ อันที่จริงก็ไม่ได้รำคาญมากหรอก เพราะดูท่าคนกดจะแอบมีความเกรงใจสอดใส่อยู่ด้วยนี่ซิ

    “ทำไมผมต้องเปิดด้วยล่ะ เดี๋ยวไม่เปิดซักพัก เขาก็ไปเองแหละน่า พี่เจย์”เจ้าคนตัวเล็กว่าพลงทำท่าอมลมให้แก้มมันพองไปกว่าเดิมอีกเท่าตัว

     

    “แต่ฉันรำคาญ!! เขาแค่มาส่งข้าวส่งน้ำให้นายจะอะไรนักหนา ก็รับๆไปเถอะของฟรี แถมไม่อดตายอีกด้วย!!!!!”แจบอมว่าพลาง เดินไปปิดโทรทัศน์ที่อีกคนดูค้างอยู่ลงต่อหน้าต่อตา จนเจ้าตัวโวยวายลั้นๆ

    “ผมไม่ได้ต้องการจากเขาซักหน่อยนี่นา…ใครจะไปอยากได้จากไอ้หมอนั้นกัน ไม่เอา!!”อูยองยังคงพลิกตัวหนีซะอย่างนั้นแหละ แหม…เสียมารยาท

     

    “แล้วนายจะไปหาจากใคร คนเก็บขยะหรือไง หรือไปจีบสาวหาแฟน น้ำหน้าอย่างแกน่ะเรอะ ฝันไปเหอะ แค่คุยกับผู้หญิงเขายังเดินหนีเลย อย่าว่าจะให้เขาจูบเลย ถุ้ย!!! ไปเปิดเดี๋ยวนี้..ไม่งั้นฉันจะโทรศัพท์บอกแทคยอน ในฐานะฉันเป็นเจ้าของบ้าน ขอสั่ง!!!”ว่าแล้วก็ใช้สิทธิ์ทั้งพี่สะใภ้และเจ้าของเรือนไปพร้อมๆกันเลยทีเดียว

     

    “ฮึ้ย!! ก็ได้..พี่ดูถูกผมจริงๆเลย”ว่าแล้วก็เดินปึงปังไปเปิด

     

    เท่านั้นล่ะ พอเปิดออกมาก็เจอพ่อหน้าหล่อยืมยิ้มเผล่ ด้วยใบหน้าทีี่สมกับเป็นเทวดามาให้ ทั้งตาทั้งปากนั้นล่ะ ออร่านี่มันสว่างเสียจนกระแทกตาดังผลัวะชวนให้น่าหมั่นไส้เสียเป็นกำลังจริงๆ

     

    “นายจะยิ้มทำไม!!! ไม่ต้องมายิ้ม มาบ้านคนอื่นเขาอยู่ได้เจ้าของเขาไม่ได้ชวนไม่ได้เชิญซักหน่อย กดออดอยู่ได้ รู้ไหม..คนอื่นเขารำคาญ!! เข้าใจไหม!!”พอป่ะหน้ากันก็มาเป็นชุดเลย

     

    แต่มีหรือคนที่ยืนอยู่จะรู้สึกอะไร ไม่มีก็ยังยิ้มรับอยู่ดีก่อนจะเดินตามอีกคนเข้ามาอย่างไม่คิดจะต่อคำด้วยเลยซักนิด ปล่อยให้อีกคนโวยวายต่อไปแบบไม่ห้าม

     

    “สวัสดีครับ แจบอม”แถมยังสวัสดีเจ้าของบ้านตัวจริงเสียอีกแน่ะ

    “อาว สวัสดีครับ หมอคุณ มาก็ดี..ผมไม่อยากอยู่ดูฉากส่งข้าวของคุณหรอก กำลังจะออกไปข้างนอกพอดี แทคส่งข้อความมาให้ไปหา ยังไงฝากอูยองฝากบ้านด้วยนะครับ”เจ้าของรูปร่างฉบับกระเป๋าว่า พลางเดินไปหยิบเสื้อคลุม แล้วเดินออกมาโดยไม่ลืมจะหันมามองคนที่ทำหน้าหงิกยืนอยู่ก่อน

     

    “ส่วนนายอูยอง เดี๋ยวเย็นนี้กลับมาจะมาคุยด้วยแบบเคลียร์ๆโอเคไหม..ไปล่ะ”ว่าแล้วก็โบกมือก่อนปิกประตูปังทิ้งให้เขาอยู่กัยสองคนดีที่สุด ส่วนเกินไปก่อนนะจ๊ะ

     

    เสียงงับประตูทำให้นิชคุณหันกลับมามองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆด้วยสายตาเอ็นดูอย่างไม่ปกปิดซักนิด

     

    นี่ก็ปาเข้าไปสองสัปดาห์กว่าแล้วที่นิชคุณ คุณหมอสัตวแพทย์สุดหล่อมาหาเขาถึงบ้านทุกๆเย็น เพื่อมาส่งอาหารหรือพลังชีวิตที่เขาควรได้อย่างสม่ำเสมอด้วยวิธีการที่คุณก็รู้ว่าทำยังไง แต่แม้จะไม่เต็มใจแต่ก็ต้องรับเพราะไม่อยากกลับไปโลกใต้ดิน แถมพี่ชายเขาก็เห็นดีเห็นงามอีกแน่ะ

     

    จนเรียกได้ว่าสำหรับแจบอมน่ะเป็นแขก แต่สำหรับอูยองน่ะห่างไกลจากคำนั้นเยอะ

     

    “มองอะไร มองอยู่ได้ หน้าตาเหมือนญาติผู้ใหญ่หรือไง”ว่าแล้วปากไม่ใช่ย่อยเลยทีเดียว

    “มองว่าที่คนรักในอนาคตไง”นี่ก็หยอดแบบหน้าตานิ่งได้อีกแน่ะ ช่างกล้านัก

    “ใครบอกว่าจะเป็นคนรักนายกัน ละเมอหรือเปล่าเนี่ย!!!!!!!”อูยองแหวขึ้นมาเสียงดังมองอีกคนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อให้ได้เสียอย่างนั้น ทั้งๆที่ความจริงแล้ว

     

    ไอ้หัวใจที่อยู่ในอกนี้มันก็เต้นตึกๆๆๆเสียงออกจะดังขึ้นเรื่อยๆ พอๆกับมที่ใบหน้ามันเกิดจะร้อนขึ้นมานี่ซิ

     

    “ไม่มีใครบอกหรอก แต่คิดเองเออเองว่าในอนาคตจะใช่และถ้ามันได้อย่างนั้นจริงๆก็คงจะดีซิ”คนหล่อว่าะลางยิ้มอ่อนไปให้ มองใบหน้าขึ้นสีอีกคน แล้วนึกพอใจในผลตอบรับที่เกิดขึ้น

     

    “งั้นก็คิดเองเออเองไปคนเดียวเหอะ ไม่มีใครเขาอยากเป็นคนรักของหมอโรคจิต หน้าหนาอย่างนายหรอก พูดมาได้”อูยองมองหน้าอีกคนด้วยสายตาประมาณ

     

    เพียงแต่ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ เจ้าตัวเล็กก็ไม่ได้มองหน้าอีกคนอย่างเต็มตาเลยซักครั้งเดียว ไม่รู้ว่าไม่อยากมอง หรือกลัวใจตัวเองจะแกว่งกันแน่ไม่แน่ใจตัวเหมือนกัน

     

    จึงพลาดโอกาสเสียจะได้เห็นดวงตาคู่สวยและอ่อนโยน ซึ่งกำลังมองเขาด้วยสายตาพราวระยับ เหมือนกันจ้องมองในสิ่งที่ถูกอกถูกใจของชายหนุ่มรูปงามไปเลย

     

    “ไม่หรอก มันแค่ต้องใช้เวลาหน่อยเท่านั้นเอง แต่ผมว่าผมไม่พูดเองคนเดียวแน่นอนครับ”นิชคุณว่ายิ้มๆ แต่อีกคนนี่ซิหน้าตาหงิกงอจนจวักยังแทบจะชิดซ้ายไปเลย

    “มั่นใจตัวเองชิบเป๋งเลย..”อูยองบ่นกับตัวเองน้อย ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าคนหูนรกอย่างนิชคุณต้องได้ยินอยู่แล้ว

     

    แต่เจ้าตัวก็ไม่ว่ากระไร โดนแค่นี้น่ะสิว เทียบกับไอ้ตลอดสองสัปดาห์นั่นไม่ได้เลย

     

    เจ้าของใบหน้าสลักเลยใช้วิธิรวบรัดตัดตอนมันน้อยๆ โดยการเอามือไปโอบเอวอีกคนให้เข้ามาชิดตัว จนคนทีทำหน้ามุ่ยนั้นตกใจมองหน้าเจ้าหนุ่มฉวยโอกาสเต็มตา

     

    “มองหน้าได้ซักทีเนอะ”นิชคุณว่าราวหยอกหากอีกคนเบ้ปาก

    “ใครอยากมองกัน!! ปล่อยเลยไอ้หมอชีกอ!!!!!”อูยองดิ้นปัดๆ หากอีกคนก็มือกาวพอที่จะไม่ปล่อย

     

    “ผมไม่ได้ชีกอนะครับ เปล่าเสียหน่อย..อย่ากล่าวหาซิ ผมแค่ทำในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้นเอง”นิชตุณว่ายิ่งกระชับกอดแน่นขึ้นเมื่ออีกคนเอามือมายันอกเขาเอาไว้อย่างนี้

    “กอดนี่มันจำเป็นตรงไหนว่ะ!!!!!!! ไม่เห็นจะมีความจำเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกันเลยซักนิดปัดโธ่!!”กระนั้นก็เถอ ไอ้ตัวเล้กก็ไม่เห็นความจำเป็นเลยจริงๆ

     

    “จำเป็นจริงๆ นี่ไง..บอกว่าจำเป็นครับ..”ว่าแล้วก็เอามือช้อนหน้าอีกคนหนึ่งขึ้นมากดจูบลงไปที่ริมฝีปากช่างจ้อทันที ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองแล้วยิ้มให้กับคนที่เหวอไปแล้ว

     

    “เพราะถ้าไม่กอดก็ให้อาหารกันไม่ถนัดซิจริงไหมครับ อูยอง…”

     

    …………………………

    ………………….

    ………..

     

    “นายอยู่ไหนเนี่ยไอ้ยักษ์”เสียงแหลมๆของแจบอมที่ตะโกนกรอกรลงไปในโทรศัพท์ทำให้คนรอลข้างต้องหันมามอง แต่มีหรือเจ้าตัวจะใส่ใจ ฝันไปเถอะ!!!

     

    ก็ไอ้บ้าฟันใหญ่นั้นมันบอกให้เขารอตรงนี้มาครึ้งชั่วโมงแล้วเนี่ย ยังไม่เห็นแม้กระทั้งเงาของฟันมันเลยให้ตายซิ รากจะงอกแล้วนะเนี่ จะงอนกลับบ้านก็ไม่ได้ ในเมื่อห้องมันถูกยึดให้คู่ที่เกือบรักเขาจีบกัน

     

    “นายบอกให้รอก่อนๆๆๆ นายบอกมานานแล้วนัไอ้ยักษ์ แกอยากตายหรือไงเนี่ย ถ้ารู้ว่าจะมาช้าจะให้ออกมาก่อนเวลาทำไมว่ะ!!!”แจบอมยังคงระเบิดหูคนในสายต่อไป โดยไม่มีการจะสะทกสะท้าน และคาดว่าคนในสายจะหูแตกตามกันไปแล้วด้วยล่ะ

     

    นั่น…เป็นเรื่องจริง

     

    แทคยอนที่ทั้งรีบวิ่ง ทั้งหอบของในมือไปด้วยจากที่ทำงาน ชายหนุ่มรูปงาม ผิวสีแทนสวย ตัวโตกว่ามาตรฐานชายเกาหลีคนนี้ กำลังกลัวผู้ชายผิวขาวตัวเล็ก ตาสวยที่กำลังตวาดแฟ่ดๆ ขู่เป็นงูแมวเซาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่เขาเป็นปีศาจจากนรก แต่กลัวมนุษย์ตัวเล็กไปได้

     

    ถ้าคิดให้ดีๆแล้วล่ะก็ จะว่าไป เขาไม่น่าทิ้งน้อชายเขาไว้กับ เมียตัวเองเลยว่าไหม นิสัยเริ่มคล้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อเลย พับผ่า!!!!

     

    การขึ้นมาบนโลกนี่ก็ไม่ใช่ง่าย ถ้าไม่ได้แจบอมเก้บเขามาเลี้ยงแล้วล่ะก็จะทำยังไง เสือดำตัวใหญ่อย่างเขาที่วิ่งเพ่นพ่านหิวโซและอ่อนแรง ไม่มีแรงแม้แต่จะกลายร่างเป็นมนุยษ์ กำลังใกล้ถึงจุดที่จะเปลี่ยนเป็น ปีศาจที่ไร้จิตวิญญาณไปเสียแล้ว

    แต่ชายหนุ่มตัวเล็กคนนั้นล่ะ ที่อยู่ดีๆก็อาจหาญวิ่งมาจับเสือดำตัวเขื่องเฉยเลย ในขณะที่ทางกรมกำลังไล่ล่าเขา เพราะใครจะปล่อยให้เสือดำออกมาวิ่งเล่นในเมืองใหญ่อย่างนี้กัน ไม่พอแจบอมยังเรียกเขาราวกับเขาเป็นแมวตัวน้อยๆอย่างนั้นอีก

     

    ตอนนั้นเขาอาจจะทำอุกอาจกับแจบอมไปนิด โดยการจับปล้ำแม่งเลย…

    แต่อย่างว่าเขาใกล้ตายแล้วจริงๆมันช่วยไม่ได้ และกว่าจะเข้าใจกันได้ก็ใช่เวลาเป็นปีนั้นแหละ ตำนานรักแสนทรหด เพราะงั้นก็สมควรที่เขาจะกลัวแจบอมจริงไหม

     

    “นายมาช้ารู้ตัวบ้างไหม”นั้นเสียงมาก่อนตัวอีกแน่ะ งอนแน่ๆครับแบบนี้

    “รู้แล้วๆ ก็ตอนที่โทร.บอกกำลังจะออกมาแล้วไง แต่ท่านประธานเขาเรียกเข้าไปคุยด้วยเลยมาช้า โทร.ออกมาบอกก้ไม่ได้มันเสียมารยาท ขอโทษทีนะที่ให้รอ”คนตัวโตว่าอย่างจริงใจ ในขณะทีแจบอมก็หันขวับมามอง

     

    “เอ๋ แล้วเขาเรียกนายเข้าไปคุยทำไมหรอ หรือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ตอนคุยโทรศัพท์กันนายไม่เห็นบอกอะไรเลยนี่”เแลี่ยนจากอาการงอนเป็นรู้เรื่องทันที

     

    เห็นไหม..แจบอมห่วงแทคยอน มากกว่าเรื่องอื่นอยู่แล้ว

     

    “ไม่หรอก มีแต่ข่าวดี เขาปรับขึ้นเงินเดือนให้แล้วตอนนี้ฉันก็ได้เป็นผู้จัดการภาคแล้วนะ!!”ว่าแล้วอีกคนก็บ้าพลังจับเขายกจนตัวลอย ในขณะที่แจบอมแทบจะกระโดดขี่คออีกคนเลยด้วย

     

    ตอนนี้แทคยอนทำงานในบริษัทโมเดลลิ่งแห่งหนึ่งซึ่งเริ่มจากการเป็นนายแบบที่เจ้าตัวไม่ได้ชอบนัก จากนั้นก็ย้ายมาทำเรื่องคิว ย้ายไปทำเรื่องคุมคนทำโปรดิวซ์ และตอนนี้เป็นผู้จัดการสาขาในโซลแล้ว..

     

    เงินเดือนมหาศาล!!!!!!!!

     

    “จริงหรอ…ไอ้แทค..จริงหรอ…เย้ๆๆๆๆ เรารวยแล้วๆๆๆๆ”ที่บอกอย่างนั้นอย่าว่าอะไรเลยนะ แทคยอนที่ตอนนี้ทำงานอยู่คนเดียวหาเลี้ยงเมียยังพอว่า ต้องหาเลี้ยงน้องด้วยนี่ซิ

     

    ไม่ใช่อะไรหรอก ตอนแรกแจบอมก็มีการงานทำอยู่แล้ว แต่ด้วยความแมนของแทคยอนเองก็ไม่อยากให้เข้าจองบ้านเขาเหนื่อยเลยบอกให้ออกมาเถอะ เดี๋ยวเขาทำงานเอง

     

    อย่างแจบอมตอนแรกก็ไม่ยอมนัก แต่พอโดนรบเร้ามากๆก็ต้องทำตามใจ

     

    “โห..เรียกไอ้เลยหรอ ไปๆๆ เดี๋ยวพาไปเลี้ยงนะ ฉลองกัน ว่แต่อูยองล่ะ”แทคยอนว่าพลางโอบไหล่อีกคนเข้ามาใกล้

    “อยู่กับหมอคุณ ปล่อยไว้งั้นแหละ ให้มีคนปราบพยศบ้างก็ดีนะ น้องนายน่ะ”จบอมว่าอย่างสบายอารมณ์ ตอนนี้อยากหาของอร่อยกินเสียแล้วซิ เรื่องน้องๆนุ่งก็มีคนดูแลแล้ว สบายใจ

     

    “ก็ดีนะ ว่าแต่อยากกินอะไรล่ะ”

    “เนื้อย่าง..เนื้อย่างเลยได้ป่ะ อยากกินมากอะ”ว่าแล้วก็สอดส่ายสายตามองหา ด้วยตาแหลมๆของตัวเองนี่ล่ะแจบอม มีคมาเสนอของกินถึงปากก็ต้องรีบรับ แต่…ถ้าสายตาเขาไม่โฟกัสไปเห็นใครเสียก่อนนะ

     

    “เอ๊ะ…แทคๆๆ นั้น..นั้นใครคุณพญายมหรือเปล่า..”จำชื่อไม่ได้ เลยเรียกอย่างนั้นแทน มือเล็กเลื่อนมือมาสะกิดไหล่หนายิกๆๆ เป็นเชิงบอกให้ดูตาม

     

    “ไหน..เออจริงด้วยว่ะ นั้นท่านชานนี่…มาทำอะไรเนี่ย ว่าจะโทร.ไปหา จุนโฮว่าเป็นยังไงบ้าง”แทคยอนมองตามก่อนจะทำท่าประมาณสอดส่ายสายตา

    “นั้นไงจุนโฮ เดินหยิบอะไรซักอย่าง เหมือนคู่รักกันเลยแฮะ..จะเข้าไปทักไหม..”แจบอมว่าเล็กจนอีกคนคิดตาม

     

    “รอดูไปก่อนอีกนิดละกันว่าจะทักดีไหม..”ก็อยากสังเกตการณ์ แต่ก็กลัวผิดเวลาเหมือนกันแหละ

     

    ******************************************************************************


                      TBC

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×