คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [SF 2PM]DESTINY ME : PART 6
Part 6
ผลัวะ!!!!
ปัง!!ปัง!!ปัง!!ปัง!!
เสียงประตูที่ถูกกระแทกเปิดอย่างแรง ทำให้อีกสองคนต้องหาที่กำบังตัวเอาไว้เสียก่อน ทันที่ที่นักฆ่าคนเรกเดินก้าวขาเข้ามากระสุนชุดแรก จึงถูกส่งเข้ามาเป็นชุดใหญ่..บอกเป็นสัญญาณเริ่มต้นการต่อสู้ จากการบุกรุกในสถานที่ของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคนข้างใน ซึ่งผู้บุกรุกเองก็ถูกระบุว่าเป็น นักฆ่าเช่นเดียวกัน..
“ไม่ให้ ตั้งตัวอย่างนี้ กะจะเอาให้ตายโดยไม่ไดรู้ตัวเลยหรือไง..ใจร้ายกันจังเลยนะ”เสียงเย็นๆที่พูดล้อเลียนนั้น แสยะออกอย่างฟังแล้วชวนให้ขนลุกในเวลาแบบนี้ คนที่แอบซ่อนอยู่หลังประตู อาศัยความมืดพลางตัวเอง แล้วจึงเลื่อนกระบอกปืนไปนิ่งอยู่ที่ขมับของนักฆ่าที่โง่เขลาและอายุสั้นทันที..
ดวงตาของชานซองมองนิ่งไปที่ปลายกระบอกปืนไม่มองหน้าคนที่มีสัญลักษณ์ร่วมองกรค์เลยแม้แต่น้อย ปลายนิ้วกดลงที่บนไกปืนอย่างรวดเร็วจนร่างนั้นลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น ในขณะที่ทีมงานของชายคนนี้ตกตะลึงอยู่นั้น นิชคุณกลับ ส่งกระสุนอีกลูกนึกให้มันไปปักที่กลางหน้าผาก ของคนที่กำลังจะยกปืนขึ้นหันมาทางเขา
ปัง!!
จนคนที่เคยมีชีวิตนั้น ลงไปนอนรวมกันเหลือแต่ศพ..และเลือดบางส่วนนั้นยังกระเด็นมาติดอยู่ที่ใบหน้าของเขาอยู่เลย ทุกอย่างจึงเงียบลงไปทันตาเห็น..หากเขาเองก็ยังไม่วางใจนัก ชายหนุ่มแอบซ่อนตัวอีกครั้ง ที่หลังกำแพงมุมในอับเพื่อรอฟังเสียง ว่าทีมของหมอนี้จะหนี..หรือสู้..
เขารู้ดีว่าที่ที่เขาทำงานอยู่ เราทำงานกันเป็นทีม ซึ่งทีมหนึ่งจะประกอบไปด้วยคนสี่คน ซึ่งจะเป็นนักวางแผน หัวหน้าทีม ประสานงาน และที่แข็งแกร่งที่สุก คือ นักฆ่า..
ไม่มีใครพูดกับใครซักคนเดียว นิชคุณจับจ้องไปที่สายตาของชานซอง ที่ส่งซิกมาว่าปลอดภัยเขาจึงค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากมุมอับนิดๆ
ปัง!!ปัง!!ปัง!!ปัง!!
“ไอ้ชาน!!! นี่ปลอดภัยบ้านเตี่ยแกหรอ..”นิชคุณไหวตัว โยกหลบเข้าที่กำบังเดิมทันที พร้อมกับตะโกนด่าเพื่อนรุ่นน้องของตัวเองไปด้วย..
“โทษที พี่คุณ ผมมองทางนั้นไม่เห็นจริงๆ..”พอขยับได้นิดเท่านั้นล่ะ ลูกปืนห่าใหญ่ก็สาดเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน เล่นเอาหลบกลับไม่ทัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของการต่อสู้แย่งชิงลมหายใจในครั้งนี้คือ การปกป้องห้องที่อยู่ด้านใน.. เพราะยังมีอีกสองชีวิตที่เขาต้องรับผิดชอบ
และสมรภูมิศึกครั้งนี้เขาเองก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ เขาต้องอยู่ในห้องที่แคบ เหมือนหนูในกรง ทำได้มากที่สุดก็คือล่อให้คนเข้ามา..หรือไม่ก็..นิชคุณที่หลบอยู่เหลือบตาไปเห็นกระจกบ้านใกล้มือ จึงค่อยๆ ใช้เท้าเตะมันมาให้เข้ามาใกล้ตัวมากขึ้น จากนั้นก็ลดตัวลงไปหยิบมันขึ้นมาทันที..
เขารู้ดีว่า คนเราไม่มีดวงตาด้านหลัง ดังนั้นกระจกคงจะช่วยได้..ในขณะที่เขายกมือขึ้นมาส่องอย่างช้าๆ เสียงปืนด้านนอกกลับดังขึ้นอย่างน่าตกใจ..
ปัง!!ปัง!!ปัง!!ปัง!!ปัง!!ปัง!!ปัง!!ปัง!!
นิชคุณหลบตัวอยู่ซักพัก รอจนเสียงด้านนอกเงียบไป ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่ว่าไม่มีเศษกระสุนซักนัดที่เข้ามาในห้อง เขาจึงรีบวิ่งไปที่ประตูห้องน้ำผ่านหน้าชานซองไปอย่างรวดเร็วทันที มือหนาคว้ามันเปิดออกอย่างแรง ไม่สนใจว่าล๊อคมันจะพังหรือห้องจะเป็นอย่างไร ปล่อยด้านนอกไว้ให้ชานซองเป็นคนป้องกัน
ด้านในของห้องน้ำเผยให้เห็น เด็กหนุ่มสองคนที่นั่งเอามือคลุมศีรษะตัวเองอยู่ด้วยท่าทีหวาดหลัว ดวงหน้ากลมยังมีรอยของน้ำตาหล่อเลี้ยงอยู่ ไม่ต่างจากจุนโฮที่กอดเพื่อนใหม่ของเขาเอาไว้แน่น หลับตาจนสนิทไปทั้งสองข้างไม่อยากรับรู้เรื่องภายนอก..
“จุนโฮ..อูยองลุกขึ้นมานี่..”นิชคุณสอดตัวเข้าไปดึงทั้งคู่ให้ลุกขึ้นจับแขนของทั้งสองคนให้เดินออกมาด้วยกันด้วยเสียงเครียดซึ่งทั้งสองคนก็ทำตามอย่างว่าง่าย
“พี่คุณ..พี่เจย์ กับพี่แทคมา..แล้ว”ชานซองว่าเข้ามาคว้าตัวของจุนโฮเอาไว้ แล้วเอามืออีกข้างปาดเลือดของคนอ่นออกจากใบหน้า..หากก็ยังไม่ทันที่จุนโฮจะได้เห็นมัน
“ชาน..ชาน..นาย...”จุนโฮมองหน้าของแทนที่เลือดบางส่วนยังติดอยู่ด้วยสายตาหวาดกลัวน้อยๆ
แต่สายตาแบบนั้น เป็นสิ่งที่ชานซองเคยกลัวมันมาตลอด..
หวอ!!!!!!!!!!!!!!!!
“อย่าเพิ่งถามอะไรกันตอนนี้เลย..รีบหนีก่อนที่จะมีอีกชุดมาเหอะ เร็ว!! รถอยู่ข้างล่างแล้ว..”แทคยอนพอกด้วยใบหน้าจริงจัง ในขณะที่ทั้งสี่คนก็รีบเดินตามไปอย่างไม่รีรอ และเสียงไซเรนที่ดังจากด้านหลังนั้นก็เป็นตัวกระตุ้นชั้นดี ให้ขามันทำงานได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
เพียงแต่มีสองชีวิตที่กำลังคิดเหมือนกันว่า..ตอนนี้ชีวิตของเขาทั้งสองคงเปลี่ยนไปจากแล้วซินะ..
********************************************************
ความเงียบในรถทำให้คนทั้งหมดรู้สึกอึดอัด ไม่มีใครพูดกัน และไม่มีใครสยตากันเลย มีแต่เสียงลมหายใจของความอดอัดเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่บนรถตู้ขนาดเล็กที่มีเนื้อเหล็กกล้าของเบนซ์คันนี้..
ก็เข้าใจว่ามันคงรับยาก..เพียงแต่ บางคนก็แค่มาอยู่ผิดที่ผิดทางเกินไปเท่านั้น ผิดมากเกินไปจริงๆ อย่างนี้คงทำให้ตั้งตัวได้ลำบาก
“เจ็บไหม..ได้แผลหรือเปล่า..” เสียงถามท่ามกลางความเงียบงันของจุนโฮทำให้ชานซองต้องหันไปมองตาม เห็นก็แค่เสี้ยวหน้าของคนที่หันออกไปยังหน้าต่าง พาลนึกว่าหูฝาด..
ใขขณะที่ทุกคนในรถก็คอยลุ้นตามกัยตัวโก่ง โดยมีเจย์ผู้แกล้งทำเป็นชมนกชมไม้นอกหน้าต่าง แทคยอนผู้ตั้งใจขับรถ นิชคุณที่นั่งหลังสุดเอามือโอบไหล่บางของอูยองให้พิงตัวเองนอนหลับในตอนนี้
“ทำไมไม่ตอบล่ะ..ถามว่าบาดเจ็บตรงไหนไหม..”อีกคนพูดเสียงดังขึ้นเพื่อบอกว่าเขานั้นแหละที่เป็นคนถาม
“นาย..ไม่โกรธหรอ..”ชานซองทำเสียงอ่อยถามกลับทั้งๆที่ยังไม่ตอบ
“ฉันถามนาย ไม่ใช่ให้นายมาถามฉันกลับนะ”จุนโฮถามเรียบๆ เริ่มมีอารมณ์กรุ่นให้ได้ยินในประโยคคำถามนั้นแล้ว คนถามหันไปมองหน้าคนตัวโตทั้งๆที่มีน้ำตาคลออยู่เต็มตา..
เป็นครั้งแรกที่ชานซองเห็นเพื่อนเขาร้องให้ หลังจากที่แมวตัวเก่าตายไป..
“เอ่อ...ไม่..ไม่เจ็บ ไม่เป็นไร..แต่..นายร้องไห้ทำไม..ฉ..ฉันขอโทษ..เอ่อ..จุนโฮ.!!.”ชายหนุ่มตอบคำถามพร้อมกับมองหน้าคนที่ทำท่าปาดน้ำตาที่ดูจะไม่มีทางหยุดไหลได้เลย
“จุนโฮ...ไม่เอาน่า...อย่าร้องไห้ซิ..ว้า..”
มือหนาเลยได้แต่คว้าด้วยความบ้าพลังและแรงฮึด ใช้ว่าอีกฝ่ายจะตัวเล็กที่ไหน ทำให้อีกคนข้ามทางเดินแคบเล็กๆที่ข้างระหว่างที่นั่งซ้ายแล้วขวา มานั่งปุลงตรงตักของตัวเองมันนี่ล่ะ ไม่รู้จะทำยังไงแล้วนี่..ชายหนุ่มกดหัวของคนขี้แยลงให้จบไปหับอกกว้างของตัวเอง จนสัมผัสได้ถึงแรงดิ้นน้อยๆ..
“ปล่อยๆ..ปล่อยเลยนะ..ฮึก.”คนตัวเล็กกว่าพยายามดันตัวออกหา
“ขอโทษ... ขอโทษ..”แต่แขนที่แข็งแกร่งนั้นกลับไม่ยอมเช่นกัน เขายังคงฝืนมันเอาไว้ด้วยท่าทีแบบเดิม ปากก็พร่ำกล่าวแต่คำขอโทษอีกฝ่ายไม่หยุดจนอีกฝ่ายเริมสงบ..
“ฉันยอมให้นายด่าว่าอะไรก็ได้ จะทุบจะตีก็เอาเถอะ แต่อย่าทำอย่างนี้ เลิกร้องไห้เถอะนะ..ทำอย่างนี้ฉันใจไม่ดีเลย”ชานซองว่าพลางเอาวมอลูบเส้นผมที่ค่อนไปทางหยักศกของอีกคนเบาๆ ทั้งที่อีกคนยังสะอื้นอยู่
“นาย..ร..รู้ไหม ตอนที่นาย..ค..ควักปืน..ฮึก..อ..ออกมา ฉันต..ตก ฮ..ฮึก..ใจ...มากแค่ไหน”จุนโฮพูดน้ำเสียงอู้อี้อยู่ที่อกของอีกคน เอามือของตัวเองปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ
“แถม..ต..ตอน..ท..ที่ได้ยิน..ส..เสียง.ฮึก ปืน..ฉันตกใจ แล้วก..ก็กลัว..มากด้วย..”มือบางกำเสื้ออีกคนไว้เสียจนแน่น ยามเมื่อได้เล่าออกมาอย่างนี้
“ฉันกลัวว่านายจะบาดเจ็บ..ถ้านายเป็นอะไรไปล่ะ..ชาน..ฉ..ฉัน..จะทำยังไง”จุนโฮมองหน้าอีกคน ด้วยดวงตาแสนเศร้า เอามือลูบใบหน้าคมของคนที่เขานั่งหนุนตักอยู่
ตอนนี้ไม่เหลือเวลาที่จะกลัวการแสดงออกที่โจ่งแจ้งอีกแล้ว..
“ฉันรู้...ฉันรู้แล้ว ขอโทษ..”มือหนาสอดประสาน กับมือบางนั้นเอาไว้กระชับอ้อมกอดให้อีกคนเข้ามาใกล้กันมากขึ้น..ซึ่งคราวนี้อีกฝ่ายก็ยอมโอนอ่อนตามอย่างง่ายดาย
“ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง แต่เชื่อใจฉันนะ ว่าจะดูแลตัวของฉันเองอย่างดี..แต่ตอนนี้เชื่อฉันนะ พักผ่อนเสียก่อนเถอะนะ..แล้วสัญญาว่าถ้านายตื่นเมื่อไหร่ ฉันจะตอบนายทุกคำถามที่นายอยากรู้เลย”ชานซองลูบผมนุ่มน้อยๆ ราวกับอยากให้คนในอ้อมกอดหลับฝันดี
สัมผัสที่อบอุ่น ทำให้จุนโฮเลือกที่จะทำตาม เขาค่อยๆหลับตาลงอย่างช้า ภายใต้ความอบอุ่นที่โอบ และความรู้สึกปลอดภภัยรอบกายอย่างนี้ แม้จะมีคำถามอีกมาย แต่เขาเองก็มั่นใจว่า คนให้สัญญาจะทำเช่นนั้น
เรื่องที่เจอมาวันนี้มันหนักหนาสาหัสเสียเหลือเกิน..เกินกว่าจะแบกมันเอาไว้บนบ่าได้แล้วซิ..
...................................
......................
..........
“พี่คุณ พี่มีอะไรอยากบอกผมไหม”คนที่คิดว่าหลับไปแล้ว ค่อยๆพูดขึ้นอย่างเบาๆให้พอได้ยินเพียงแค่สองคน แม้ว่าจะนอนพิงอยู่บนไหล่ข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บนั้น
“มี แต่ไม่ใช่เรื่งที่เป็นมือปืน เพราะคิดว่านายเองก็คงรู้อยู่แล้ว”นิชคุณเปรยเสียงเรียบเหลือบตามองกลุ่มผมเส้นเล็กที่อยู่ปลายคางนั้นนิดๆอย่างนึกเอ็นดู
“แน่นอน เพราะผมมันฉลาด รู้ไหม ตอนแรกนึกว่าเป็นนักเลงหัวไม้ที่ไหนซะอีก”อูยองนึกถึงตอนที่เจออีกฝ่ายครั้งแรกแล้วกลับหัวเราะในความคิดตัวเอง
“เห..นักเลงทีไหนจะหล่อขนาดนี้..”นิชคุณเองก็เอ่ยอย่างนึกตลกทำเอาเจ้าตัวเล็กหัวเราคิก
“หือ..ชมตัวเองก็ได้ด้วยคนเรา..”อูยองส่ายหัวนิดๆให้กับความหลงตัวเองที่ไม่ค่อยได้เห็นมากนัก
“ตกใจไหม..ตกใจมากหรือเปล่า ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน จนมาถึงวันนี้ ฉัน..ทำให้นายต้องลำบาก”นิชคุณมองออกไปยังท้องฟ้ามืดมิดที่ไร้หมู่ดาวด้านข้าง ที่ไม่ต่างจากหนทางที่ไม่มีแสงให้เห็นของเขา
“ ใครบอกว่าผมลำบาก ตั้งแต่พี่มาอยู่ ผมสบายขึ้นตั้วเยอะไม่ต้องมาอดหลับอดนอน ทำงานหามรุ่ง หามค่ำ สบายจะตาย”เด็กหนุ่มยิ้มให้กับความคิดเล็กๆของตัวเอง แหงนหน้ามองอีกคนอย่างนิ่งนาน
“อีกอย่าง ผมภูมิใจนะที่เกิดมาครั้งนึงเคยได้ช่วยใครซักคนเอาไว้..”
“ไม่กลัวฉันงั้นหรอ..”ชายหนุ่มถามหยั่งเชิงเมื่อรู้ว่า ฮุยองเองก็รู้แล้วว่าอาชีพการงานเขาคืออะไร
“ก็กลัวแหละ แต่ว่า..อยู่มาขนาดนี้แล้ว ไม่กลัวหรอก คนเราเลือกเกิดไม่ได้นี่ครับ ผมเองก็ไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงของพี่ แล้วก็เพื่อนๆของพี่ แต่ผมเชื่อว่าทุกคนต้องมีเหตุผลนั้นแน่”อูยองบอกเหตุผลในใจตามจริงของตัวเองอย่างอารมณ์ดี
“งั้น มันก็คงเป็นโชคดีของฉัน ที่ได้มาเจอคนอย่างนาย สัญญาว่าจบเรื่องแล้ว จะตอบแทนอย่างดี และตอนนี้ฉันจะคอยปกป้องนายเอง”นิชคุณบอกด้วยความมั่นใจ ใบหน้าของเขายามนี้กลับดูจริงจังมากเหลือเกิน
หากคำพูดบางคำก็ทำให้คนบางคนรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด แม้จะไม่ใช้คพบอกรักหวานหู แต่ก็ทำให้อุ่นซ่านไปถึงหวัใจได้อย่างง่ายๆ
“พูดแล้วห้ามคืนคำรู้ไหมพี่ คนผิดสัญญา น่ะป็นคนไม่ดีรู้ไหมฮะ..”เจ้าตัวเล็กหันมาอมลม หรี่หน้าหรี่ตาบอก ทำเอาคนมองยิ้มอย่างนึกขันที่ได้เห็น
เขาคงเลือกถูกแล้วล่ะที่จะอยู่กับเด็กคนนี้ คนที่ทำให้โลกที่เคยเป็นสีเทาอย่างเขา เปลี่ยนเป็นมีสีสันมากกว่าวันที่มันเคยเป็นมาก่อน
“หึ..ไม่คืนหรอก ถ้าฉันทำได้ จะให้นายเป็นคนรักเลย แต่ถ้าฉันผิดสัญญา ฉันจะเป็นคนรักนายเอง”นิชคุณพูดจายิ้มๆใส่ตาของคนฟังเล่นเอาหน้าขึ้นสีไปได้เลย
เจ้าเล่ห์กว่าที่เห็นอีกแฮะ..ตาคนนี้นี่
“อะไร ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องชัดๆเลยนี่..แต่...อย่าลืมที่บอกก็แล้วกัน ฮ้าว..ง่วงแล้วนอนดีกว่า..”ด้วยอารามความเขินเจ้าตัวเลยหันหน้าลงนอนที่เดิมมันซะเลย ปล่อยให้ร่างสูงคนเขานอนหนุนอยู่ยิ้มค้างไปคนเดียว..
ชีวิตที่อยู่ตัวคนเดียวมาตลอด ถ้าจะมีใครมาร่วมแบ่งปันก็คงดีไม่น้อย
*************************************************************
TBC
ความคิดเห็น