คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [SF]Who love first??..ใครรักใครก่อน??
[SF]Who love first??..ใครรักใครก่อน??
จะมีแฟนเด็ก
ต้องทำยังไง..
นั้นซิมีแฟนเด็กต้องทำยังไงดีนะ
คนอ่านช่วยผมได้ไหมล่ะครับ
ว่าถ้าจะมีแฟนเด็กต้องทำยังไง
ผมนาย ยาง ซึงโฮ หันไปถามอี จุน เพื่อนยาก ผู้มีความรู้ในเรื่องนี้มาก่อน มันหันมาตอบได้อย่างชัดเจนว่า กรูลอยลำมาเเล้วเรื่องไอ้มีร์ มีแฟนเด็กไม่ยากอย่างที่คิด เเต่
เด็กผมกับเด็กมันเราไม่เหมือนกันนี่
ถ้าจะแฟนเป็นเด็กหน้าตาดี หุ่นดี ดูดี เเข็งเเรง สมบูรณ์มีทุกอย่างครบสามสิบสอง ไม่ขาด และไม่มีส่วนไหนเกิน แถมช่างเอาใจ เป็นคนดี ไม่เจ้าชู้ ไม่หน้าม่อ..
เสียอย่างเดียวมันชอบผู้ชาย และบังเอิญที่ผู้ชายคนนั้นคือผม
เรามาท้าวความกันอีกซักรอบนะครับ อย่างเพิ่งเบื่อเวลาผมจะระลึกชาติให้ฟัง เหมือนครั้งที่เเล้วที่ระลึกเรื่องครั้งเเรกมาให้ฟังกัน .. คงเพราะผมอายุมาก เลยได้เเต่นึกถึงเรื่องเก่าๆ แทนที่จะถามหาเรื่องใหม่ๆ อย่างวัยรุ่นทั่วไป
มาทายกันซิครับ ว่าใครชอบใครก่อน
ผมหรือเขา หรือเราสองคนรักกันแต่ไม่มีใครรู้ตัว อืม
หรือความจริงเเล้ว มันคือรักแรกพบต่างหาก.. เอ๋
หรือเราจะเดินสวนกันเเล้วรักเลยกันแน่
เวลาเรารักใครซักคน เคยอยากรู้ไหมครับ ว่าใครรักก่อนกัน สำหรับผม ผมอยากรู้นะ แล้วผมก็รู้ด้วยว่าใคร ฮ่าๆๆๆๆๆๆ อยากรู้อะดิ..อยากรู้ใช่ไหมล่ะครับ
จะให้ผมเล่า หรือให้เด็กนั้นเล่าดี
จะซึงโฮ หรือ จะชอนดุงดี..
.
..
ผมอยากเด่นครับ เพราะงั้น ซึงโฮจะเล่าครับ แกหลบไปไอ้หน้าหมาปั๊ก ฮ่าๆๆๆ
***************************************************************************************************
หลังจากที่เราเป็นเด็กฝึกมาด้วยกัน เรื่องราวมันยากลำบากมากมาย กว่าจะกลายมาเป็น เอ็มแบล๊คได้เหมือนอย่างทุกวันนี้ การเป็นเด็กฝึกต้องอดทน ต้องมีวินัย เเละต้องไม่ท้อแท้ ต่อความเหนื่อยล้า
ที่สำคัญที่สุดคงไม่พ้นการปรับตัวให้เข้ากับคนที่เราจะต้องมาอยู่ด้วยกัน
คนร้อยพ่อพันเเม่ เเน่ล่ะ พันนิสัย หมื่นความคิด ตัวผมเองก็เป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใครนัก ผมไม่ใช่คนช่างพูด ช่างเจรจาเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ การใช้ปากของผมจะหมดไปกับการกินหรือไม่ก็ปล่อยให้มันย้อยลงไปตามเเรงโน้มถ่วงของโลก แม้ว่ามันจะย้อยกว่าคนอยู่อยู่มากก็ตาม
ที่สนิทๆหน่อยก็คงจะเป็น จีโอ .. เพราะอะไรหรอ.. เพราะมันตลกครับ มันเป็นคนตลก อยู่ด้วยเเล้วสบายใจดี เเต่ผมไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเข้ากับใครไม่ได้ เพราะผมมีจีโอนั้นก็เป็นอีกข้อดีของมัน คือ ความช่างจ้อของมันพาผมให้เข้าสังคมได้เป็นอย่างดี และเเม้ผมจะเป็นเด็กในเมือง เเต่เราก็เข้ากับคนที่มาจากต่างถิ่นได้โดยไม่ปัญหาแม้เแต่น้อย
จนผมมาเจอไอ้หมอนั้น
ตอนเห็นครั้งบอกได้คำเดียว พวกเราทุกคนกลัวมันมากเลยครับ
ไม่ได้กลัวที่มันเป็นผู้ทรงอิทธิพลหรอกครับ เเต่เพราะสำหรับบางคนที่แค่มองก็รู้ว่า ยังไงเจ้านั้นก็ต้องได้เดบิวด์แน่ๆ เหมือนอี จุนไงครับ หมอนั้นน่ะเป็นทางเลือกเเรก เเละพวกเราอีกหลายคนก็เป็นตัวเลือกเอาไปรวมกับเขา
แต่ผมก็ไม่เคยอิจฉาใครหรอก เพราะถ้าวันไหนที่โอกาสมาถึงมือ เราก็จะได้ฉายแสงเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ
เอาล่ะ..ย้อนกลับไปที่ไอ้หมอนั้นอีกครั้ง..หมอนั้นตอนที่เราเห็นครั้งเเรกคือหน้าตาใสๆกลมๆของเขา ทุกคนลือกันให้เเซ่ดว่านั้นเป็นน้องของซันดาร่าปาร์คครับ ตื่นเต้นซิครับ น้องของคนดังทั้งคน
นั้นยิ่งการันตีได้เลยว่า หมอนั้นได้เกิดเเน่ๆ ผมกับจีโอยังคุยกันเรื่องนี้ครับ เราแอบนินทากันอยู่สองคนด้วยความเมามันส์เลยครับ จีโอมันขาเม้าท์มอยอยู่เเล้วไม่ต้องห่วงเลย
เเละวินาทีที่มันหันมามองหน้าผม เราสบตากันครับ
มันจ้องผมตาเป็นมันเลย ความรู้สึกเเรกคือ มันมองเหมือนผมไปฆ่าพ่อมัน หรือไม่ก็ เหยียบเงาหัวเเม่มันอย่างนั้นล่ะครับ ทั้งๆตอนนั้นมันก็อยู่กับเจ้ามีร์
เเต่บอกตรงๆเลยว่าพอเห็นหน้าตาชัดๆ หมอนี้หน้าตาดีมากๆเลยครับ หล่อแบบที่กระเดียดไปทางน่ารัก ดูๆไป..ก็เหมือนคิม คิบอม วงซูเปอร์จูเนียร์ เหนือสิ่งอื่นใดมันมีสิ่งที่ผมไม่มี คือความสูงที่น่าอิจฉา
เเล้วเรื่องราวของเราก็เริ่มต้นขึ้นหลังจากวันนั้นครับ เพราะพอ ปาร์ค ซังฮยอนเข้าสังกัดมาไม่นาน เราก็ได้รวมกลุ่มกันเลยครับ..
และอาจเพราะคำๆเเรกในวันนั้นด้วยครับ ประโยคเเรกที่ทำให้เราได้รู้จักกัน
“สวัสดีครับ..ผมปาร์ค ซังฮยอน เรียก ชอนดุงก็ได้ครับ”
.
.
..
“จากนี้ไป พวกนายต้องอยู่หอเดียวกันนะ พยายามปรับตัวเข้ากันให้ได้ล่ะ อย่างน้อยๆ ก็เคยเป็นเด็กฝึกกันมาเเล้วนี่”เสียงของเมเนอเจอร์ร่างสูงใหญ่บอก ก่อนจะเดินออกไปนอกห้องทิ้งพวกเราเเบ่งห้องกันตามใจชอบ
เเละด้วยความที่ซึงโฮอายุมากที่สุด ตำแหน่งหัวหน้าเลยตกไปเป็นของเขาโดยปริยาย
“เอ่อ
มันมีสองห้อง จะให้แบ่งตามอายุเลยไหม เพราะยังไง พวกนายสองคนก็สนิทกัน หรือจะให้ฉัน จีโอ กับลีจุน เเล้วพวกนายสองคนก็นอนด้วยกัน เอาไหม” เดี๋ยวจะหาว่าบ้าอำนาจเลยต้องบอกเอาไว้ก่อนว่าให้ทางเลือก ทั้งๆที่ใจจริง
กูขอนอนไหนก็ได้ เเต่ได้นอนกับไอ้จีโอจะดีมาก
“ไม่เอาครับผมจะนอนกับพี่จีโอ”อยู่ดีๆชอนดุงก็โพล่งขึ้นมา ดวงตาเรียวเล็กคู่นั้นมองหน้าผมนิ่ง เป็นสายตาที่ผมไม่เข้าใจ จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานขึ้นมาทันที หากมันก็เกิดขึ้นเร็วมาก
เอ..หรือมันจะแอบชอบไอ้จีโอ
.หึย..อย่าบอกนะ..ว่าได้เด็กนี้
หึยยยยยยยยยย ไม่หรอกมั้ง
“งั้น..ฉันไปนอนกับไอ้..”
“ไม่เป็นไรครับ สองคนนั้นเขาสนิทกันอยู่เเล้ว ปล่อยเขาไปเถอะ ผมนอนกับพี่สองคนได้ครับ”ยังไม่ทันที่ซึงโอจะพูดจบก็ถูกแทรกขึ้นมาก่อนที่อีกคนจะทันพูดจบ
“อ่าๆๆ เอางั้นก็ได้ คนอื่นว่าไงล่ะ”
เเล้วเมื่อลงคะแนนเสียงกันเป็นที่เรียบร้อยเเล้วไม่มีใครมีปัญหายกเว้นไอ้เด็กคนนี้คนเดียวเเล้ว ก็เเยกย้ายกันเข้าห้องเก็บของเเยกของส่วนตัวกันเสีย
ความจริงเขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับชอนดุงเลยซักนิด เพียงเเต่เเค่คิดว่า..ถ้าเกิดให้มาอยู่ร่วมห้องเดียวกัน จะเกิดความรู้สึกกระอักกระอ่วนไหมนะ เพราะผมกับเขาก็ไม่ได้สนิทกันมาก เเต่ก็ยังดีมีไอ้จีโอที่เป็นเหมือนเซเว่นอีเลเว่น เพราะปากมันเปิดยี่สิบสี่โมง แถมมีทุกอย่างให้เลือกสรรค์จริงๆ
“นี่..ซึงโฮยา
ฉันขอยืมกางเกงในหน่อยดิแหะๆ”หลังจากที่เข้าห้องกันมาเรียบร้อยเเล้ว รื้อกระเป๋าออกมา จีโอจึงหันมาถามอะไรที่ดูน่าสมเพชเเละน่าเกลียดในคราวเดียว
“อี๋
ใครจะให้แก...โสโครก แกไม่ได้เอามาหรือไงว่ะ”ซึงโฮส่งสายตาเหยียดหยามไปให้อย่างแรง
“เอาน่า
ซึงโฮยา
ยาปโป(= ที่รัก)..เอามาเหมือนกันแหละ เเต่เอามาน้อย ยืมก่อนเดี๋ยวซักคืน”ว่าเเล้วไอ้คนขอก็กระโดดไปเกาะหลังทันที ทำเอาเจ้าตัวถึงกับต้องผงะหนี เเต่ไม่ทันเเล้ว มาเป็นตัวเลย
“ไออ้วน
เอามายืมโหน่ยยยยยยย”
“อ
เออๆๆๆๆ
.อุ..เอ่อ..”ซึงโฮหมายมั่นว่ากูเอาให้มึงยืมเเล้วกูก็จะยกให้ไปเลย ไม่เอาคืนเเม่มเเล้ว ใครจะไปใช้ต่อจากมันว่ะ มีเเต่เเม่มนี่ล่ะที่ทำได้ เเต่พอจังหวะที่สลัดหลุดเเล้วส่งของให้นี่ล่ะ เลยได้สบตาอีกคนที่จ้องมองมาไม่วางตาเหมือนเคย
สายตาแบบนั้นอีกเเล้ว แถม
ยังทำแบบเดิมอีกคือมองนิ่งๆแล้วกลับมายิ้ม หรือสิ่งที่ตัวเขาเองคิดจะเป็นเรื่องจริงกันนะ..เรื่องที่ไอ้เด็กนี่ชอบจีโอ
“พวกพี่นี่สนิทกันดีนะครับ”ชอนดุงทักขึ้นน้อยๆ หากซึงโฮเองก็ไม่ได้ตอบอะไร เนื่องจากในหัวสมองกำลังประมวลเรื่องที่อยู่ในหัวอยู่น่ะซิ
“สนิท..หรอ สนิทๆๆ สนิทกันดี ตอนเข้ามาเป็นเด็กฝึกอะ เข้ามาพร้อมๆกันพอดี เลยรุ่นเดียวกันด้วย”จีโอเป็นฝ่ายตอบในขณะที่ซึงโฮเองก็เป็นคนฟังเเละสังเกตการณ์
นั้นไง
กูว่าเเล้ว
เเม่งมีเเววตาผิดหวัง ไอ้เด็กนี่เเม่งตุ๊ดชัวร์ ชอบจีโอเเหงมๆ..งั้น กูไม่ยุ่งดีกว่า..นี้เเหละ คือ สิ่งที่ ถูกต้องเเล้ว ความคิดในโลกใบน้อยๆของซึงโฮมันบอก
“อืม..เฮ้ย..จีโอ ฉันว่า..มันมีห้องเหลืออีกห้องนี่หว่า พี่เมเนเจอร์เขาบอกว่าจะมานอนบ้างเเต่ไม่บ่อย ฉันว่าฉันไปนอนห้องนั้นดีกว่า”พอคิดได้ กูก็ขอปลีกวิเวกวังเวงวิเหวงโหวงดีกว่าเว้ย
“อ้าว..เฮ้ย ไมงั้นอะ..”จีโอวิ่งเข้ามากอดคอเขาอีกครั้ง
คราวนี้ยิ่งพอเดาเรื่องไปในทางทิศเดียวกันเเล้ว เขายิ่งจับสังเกตเข้าไปใหญ่ นั้นไง มันเมียงมองมาอีกเเล้ว คราวนี้สายตาโหยเลย
ชัวร์เลย
“ชอนดุงนาย ช่วยห้ามมันหน่อยดิ”จีโอหันมาขอความช่วยเหลือ เเละสิ่งที่ซึงโฮสิ่งที่เห็นกลับยิ่งย้ำเตือนความมั่นใจเข้าไปใหญ่เลยทีเดียวเชียว เพราะเขาเห็นหน้าชอนดุงที่ยิ้มจนตาปิดไม่กินเลือดเเบบเมื่อกี้
แบบนี้ล่ะ ชัดเลย กูควรจะปล่อยให้เข้าสร้างเวลาสีม่วงกันตามลำพัง เเล้วกูคอยหัวเราะเยาะเเซวที่หลังดังกว่ามันสะใจ ตอนไอ้อีจุนกับ มีร์โดนไปทีไม่เข็ด เอาตามตรงเเล้วเขาไม่ได้มีปัญหากับรักร่วมเพศเลย ไม่มีเลยเเม่เเต่น้อยคับขอบอก
เเค่กูไม่เป็นเหมือนพวกมันก็พอเเล้วนี่นา..
“เอ่อ ไม่ต้องลำบากหรอก เเกก็รู้นี่ หว่าฉันนอนกรนสนั่นเลย แกเคยไปนอนกัยฉันเเล้วไง ไม่ใช่หรอ”ซึงโฮพูดออกมาเฉยๆ พยายามไม่จุดประกายความหึงหวงอะไรทั้งสิ้น
“พี่ครับ ผมว่า..”
“อ่า
เอาน่าๆๆ แค่ห้องนอนเอง..คนนอนน้อยๆก็ดีเเล้ว จะได้นอนสบายๆ จะมาเบียดกันทำไม..”สุดจะอ้าง เลยใช้วิธีโยนกางเกงในให้ไอ้จีโอเเล้วก็เผ่นออกมาทันที
เริ่มต้นมาก็เจอเรื่องงี้เเล้วกูจะไอ้จีโอจะยังไงดีว่ะเนี่ย..
************************************************************************************************************
หลังจากย้ายมาอยู่ด้วยกันซักพัก คนทั้งหมดก็เริ่มสนิทกันอย่างเข้าที่เข้าทาง ทั้งงานเดบิวด์ที่เป็นไปในทางที่ดี เเม้จะยังไม่ดังเปรี้ยงป้าง หากกระเเสความสนใจก็เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก
เว้นก็เเต่ความสัมพันธ์ของจีโอ ชอนดุง กับซึงโฮเท่านั้น
คงเป็นที่ซึงโฮระวังตัวเองมากเกินไป เขาเลยดูห่างๆกับจีโอออกมา ซึ่งในข้อนี้ที่เขาไม่กล้าเล่นมากนักก็เพราะ เขาเองก็ไม่รู้ว่า จีโอเองก็รู้หรือยังว่า ชอนดุงชอบตัวเอง เลยยิ่งทำตัวไม่ถูกใหญ่เลยแฮะ
เวลาที่จีโอไม่อยู่ หมอนั้นก็มาเล่น มายิ้มดีเป็นมิตรกับเขา ไม่ก่อร่างสร้างศัตรูให้งงงวยหัวใจกันไป ถ้าเป็นเวลาแบบนั้นไอ้หมอนี้ก็น่ารักดีนะ
เเต่ถ้ามีจีโอ ก็จะรู้สึกเหมือนมีมือที่สาม..ซึ่งมือนั้นก็คือเขานี่เอง
มายโอนลิตเติ้ลเวิร์ด มันบอก
“พี่ซึงโฮ..กินนี่ไหม”ชอนดุงเดินหยิบขนมมาให้เขา ในขณะที่เขากำลังนั่งเเต่งอินโทรเพลงไปเพลินๆ เขาหันไปยิ้มเล็กน้อยพยักหน้ารับ เเล้วจึงหันไปสนใจกับอินโทรที่แต่งค้างเอาไว้ต่อ
โดยที่เด็กหนุ่มก็เขยิบมานั่งลงข้างๆเช่นกัน ผมที่เริ่มยาวจนสามารถมัดเป็นจุกได้ ยิ่งทำให้เด็กคนนี้ดูเหมือนเด็กน่าเอ็นดูไปใหญ่ เเต่เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนัก
“เหนื่อยไหมพี่..”ชอนดุงถามขึ้นในขณะที่เขาก็ส่ายหัวตอบทั้งๆที่ตาจับจ้องไปที่คอมพิวเตอร์ตรงหน้า
“แล้วมันสนุกไหม”ยังคงถามต่อราวกับชวนคุย เนื่องจากวันนี้จีโอเองก็ไม่อยู่ ไปกับท่านประธานเสียตั้งเเต่หัววัน เเถมเจ้ามีร์กับอีจุนไปไหนก็ไม่รู้เลยเหลือกันอยู่สองคนนี่ล่ะ
“ไม่สนุก เเต่มีความสุขดีน่ะ บางทีฉันก็แอบเขียนเนื้อแปลกๆด้วย นี่ไง”มือขาวเอาดินสอจิ้มลงบนกระดาษที่มีเเต่รอยขีดฆ่า พลางยิ้มกว้าง เมื่อได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักเเละชอบ เนื่องจากว่าเขาชอบที่จะเขียนมันลงบนกระดาษก่อนที่จะพิมพ์เข้าไปในคอมพิวเตอร์
หากเเต่ก็ต้องชะงักเมื่อชอนดุงเองก็ยิ้มค้างมองเเต่หน้าเขาไม่มองไปที่กระดาษเลยแม้เเค่นิดเดียว จนเขาเองก็เริ่มเก้อไปบ้างเหมือนกัน เลยต้องมีสะกิดกันมั้งเเหละ
“เฮ้ย..ให้มองกระดาษ มองอะไรของนายน่ะ..ยิ้มอย่างกับคนบ้า”ซึงโฮส่ายหัวน้อยๆ มองอีกคนด้วยแววติดตลก
“ก..ก็บ้าอยู่นี่ล่ะ..”อีกคนพึมพำเสียงเบา หากมันคงไปไม่ถึงหูของซึงโฮอย่างเต็มที่
“หา..นายว่าอะไรนะ ขอโทษทีเมื่อกี้ไม่ได้ฟัง”ซึงโฮหันมาถามหน้าเหรอหรา หากอีกคนกลับยิ้มเเล้วส่ายหัวเบาๆเป็นคำตอบ
“นายนี่ก็แปลกเด็กจริงๆ ว่าเเต่ ไม่มีอะไรทำ มัวแต่มานั่งจ้องฉันเเต่งเพลงไม่เบื่อหรือไง”ซึงโฮหันหลับไปมองหน้าจออีเล็กโทรนิคอีกครั้ง..ถ้าเขาหันกลับมาบ้าง หรือเพียงเเค่หันกลับมาคุยอีกซักครั้ง ก็คงรู้ว่าชอนดุงมัวเเต่มองหน้าตาของเขาอยู่ ไม่ยอมเลื่อนสายตาตามไปที่คอมพิวเตอร์เเม้เเต่วินาทีเดียว
“ไม่เบื่อหรอก..ผมอยู่อย่างงี้ได้ทั้งวันแหละ”ชอนดุงบอกเสียงเบา เขากำลังมีความสุขที่ได้มองหน้าอีกฝ่ายตอนกำลังมุ่งมั่นอย่างงี้จริงๆ
“นายแปลกจริงๆด้วยเเหละ”อีกคนหันมายิ้มขำหัวเราะจนตาเล็กหรี่หากอีกคนก็ยิ้มตามเช่นกัน
“แล้วพี่ชอบเเบบแปลกๆไหมล่ะ..”ชอนดุงถามติดเสียงทะเล้นทำเอาอีกคนเลิกคิ้วสูง
“เหอะ
แปลกๆน่ะหรอ..ไอ้มีร์น่ะตัวแปลกเลยเเหละเลย เเต่อย่างงั้นก็ไม่ไหว..อย่างนายก็ไม่เลวหรอก ไอ้หนู..ฮ่าๆๆๆ ตลกดี”
.
..
.
นี่ก็ผ่านมาเกือบสองเดือนเห็นจะได้ นับจากวันแรก ความสัมพันธ์ระหว่างชอนดุงกับซึงโฮก็ยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นไปอีกขั้น ในขณะที่กับจีโอแปลกออกไป ซึงโฮจะพยายามทำตัวเฉยมากที่สุดเมื่อเวลาที่ชอนดุงอยู่ด้วย เขาจะไม่คุยทั้งกับชอนดุงเเละจีโอ เเต่ถ้าหากชอนดุงไม่อยู่ กับจีโอก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
เช่นเดียวกับชอนดุง ถ้าหากจีโอไม่อยู่ ชอนดุงก็จะเข้าหาเขามาก ซึ่งมันมีผลกระทบทำให้เข้าเเละจีโอรู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างแปลกๆ แต่อันที่จริงแล้ว ก็แค่ไม่อยากให้ชอนดุงเข้าใจผิดเท่านั้นเอง
จนตอนนี้เขาเริ่มไม่เเน่ใจเเล้ว ว่าเขารู้สึกกับชอนดุงแบบไหนกันเเน่ แต่ที่เเน่ๆ เขายังมั่นใจว่าชอนดุงชอบจีโอ แต่แค่เด็กคนนี้มนุษยสัมพันธ์ดี ช่างเอาใจ และที่ดูเเลเทคแคร์เขาสารพัด คงแค่เพราะอยากสนิทกับเขาเท่านั้นจึงทำดีด้วย
เเต่การทำดีมากเกินไป..ก็มีผลต่อหัวใจเหมือนกันนะ
“พี่ซึงโฮ
”เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ต่อให้ไม่หันไปมองก็รู้อยู่ดีว่าใคร
“อะไรหรอ”เจ้าของชื่อขานรับ
“เปล่า ผมแค่อยากเรียกพี่เฉยๆ”ชอนดุงมองหน้าอีกคนนิ่งด้วยรอยยิ้มที่มันมักจะประดับอยู่บนใบหน้าที่จากน่ารัก กลับค่อยๆพัฒนาเป็นหล่อเหลาอย่างช้าๆ
“แล้วจะเรียกทำไม..กำลังจะตั้งท่าซ้อมเปียโนเลย ไอ้เด็กบ้านี่”ซึงโฮชูกกำปั้นขึ้น ทำเอาอีกคนหัวเราะเอิ้กอ้ากชอบใจ หากพอตัวเองหันหลังให้กลับแอบลอบยิ้มอยู่คนเดียว
เขาอยากบอกว่ามันรู้สึกดีเป็นบ้าเลย แต่ก็ไม่สามารถเข้าข้างตัวเองได้ว่าอีกคนก็สนใจเขาเช่นกัน
“พี่ซึงโฮ
.”เเล้วก็โดนเรียกไปอีกครั้ง
“ว่าไง
”เจ้าของชื่อหันกลับมาอีกรอบ กลับเจอใบหน้าเปื้อนยิ้มอีกครั้ง
“พี่ซึงโฮ
.”ไม่ตอบเเต่กลับ เรียกอีก
“หือ
”ที่ว่าจะตั้งท่าเล่นเปียโนเลยหันกลับมาจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาสงสับไปเสียเเทน
“พี่ซึงโฮครับ
”เด็กหนุ่มใช้เสียงที่ทุ้มนุ่มมากขึ้น ทำเอาคนฟังหน้าขึ้นสีไปเล้กน้อย เเต่ก็พยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดไปไกล
“เรียกทำไม..”ซึงโฮถามอีกครั้ง เสียงดขากลับแหบลงอย่างประหลาด
“พี่ซึงโฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เพียงแต่ชองดุงเองก็ยังไม่ยอมบอกจนเขาเองก็อ่อนใจ เลยต้องลุกไปหา ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปใกล้อีกคน
“มีอารายยยยยย เรียกอยู่ได้ รู้เเล้วน่า ฉันไม่ลืมหรอก ว่าตัวเองชื่อซึงโฮ”ว่าเเล้วก็ยิ้มจนตาปิดใส่ เเต่อีกคนนี่ซิ มองค้างเพราะระยะประชิดไปแล้ว
งานนี้มีจิตหลุดออจากร่างเลยทีเดียวเชียว ชอนดุง
ก๊อกๆๆๆ
“เฮ้ย..ซึงโฮขอคุยด้วยหน่อยดิ..”บรรยากาศสีหวานถูกทำลายลงน้อยๆ เพราะท่านชายนายจีโอที่เอามือเคาะประตูเข้ามาขัดเสียก่อน ทำหน้าเครียดก่อนที่ซึงโฮเองก็ผละออกมาเช่นกัน
“มีอะไรหรือเปล่า..”ซึงโอถามน้อยๆ ทำท่าเป็นนิ่งๆไป
“ไม่มีอะไรเเล้วคุยไม่ได้หรือไง”จีโอเริ่มทำหน้าเครียด จนซึงโฮคิดว่าจีโอเองก็คงมีเรื่องจริงๆ เพราะปกติก็ไม่ได้เป็นเเบบนี้เช่นกัน
“อ้าวเฮ้ย เป็นไรว่ะ ได้ดิๆ ไปคุยที่ห้องฉันละกัน”ซึงโฮเดินเข้าไปโอบคอเพื่อนตัวเอง ก่อนจะทิ้งให้อีกคนนั่งมองตามด้วยสายตาที่ติดนิ่งกว่าที่เคยเห็นเป็นครั้งไหนๆ
**********************************************************************************************************
“ว่าไง..มีเรื่องอะไรหรอ”ซึงโฮลากอีกคนเข้ามาในห้อง พาตัวเองไปนั่งลงบนพื้นก่อนจะมองหน้าคนที่ลงมานั่งด้วยกัน
“แกว่าชอนดุงเป็นไงบ้างว่ะ”จีโอเปิดประเด็นเเรก แต่หากนั่นราวกับหมัดฮุกขวา ทำเอาหัวหน้าวงที่แม้จะดูแมนเเต่ก็แอบหน้าสวยเอ๋อไปเล็กน้อย
“ก็ดีนะ..ก็ น่ารักดีมั้ง..”ซึงโฮยิ้มงงๆตอบ แอบคิดไปเองว่า..เอ หรือว่าคู่นี้เขาจะสปาร์คกันเเล้ว
ทำเอาเเอบจุกไปเยอะเหมือนกันเลยทีเดียว แต่ยังไงซะชอนดุงชอบจีโอไม่ใช่เขาเสียหน่อย ก็ต้องทำใจ
“หรอ..เเล้วนายคิดยังไงกับน้องมัน”จีโอถามนิ่งเหมือนเดิมเเต่สำหรับซึงโฮ มันกลับทำให้รู้สึกไม่ดี
“ก็ไม่คิดยังไง..ว่าเเต่นายถามฉันทำไมว่ะเนี่ย..”ซึงโฮเริ่มรู้สึกอยากเลี่ยงคำตอบของคำถามจึงพาเลี่ยงประเด็นออกมาเสียเอง ไม่อยากตอบคำถามอะไรที่มันจะยุ่งยากกว่านี้
เเค่คิดว่าจีโอเรียกเขามาคุย เเล้วชอนดุงจะเข้าใจผิด ก็รู้สึกไม่ดีอยู่เเล้ว ใจก็ชอบหรอก เเต่ก็อยากให้ชอนดุงสมหวังมากกว่านี่นา
“ก็ตั้งเเต่เด็กนั้นเข้ามานายก็เปลี่ยนไป”จีโอว่าออกมาซึงเป็นสิ่งที่ซึงโฮเองก็รู้ดีเเต่ไม่สามารถอธิบายได้
“ฉันไม่ได้หมายความว่า ฉันไม่ชอบหน้าชอนดุงนะโว้ย แล้วก็ไม่ได้หมายความว่า ฉันชอบแบบนั้นเหมือนกันด้วย อย่าเข้าใจผิด” จีโอทำท่าสับสนเเบบอยากอธิบายให้ฟัง ส่วนเจ้าของปากอิ่มได้เเต่หัวเราะกับท่าทางของอีกคน
เขาเข้าใจความหมายของจีโอดี เเต่ท่าทางมันโคตรตลกเลย เรื่องเครียดนะเนี่ย
“นั้น
ยังจะมาหัวเราะอีกไอ้นี่ เดี๋ยวดีดให้
”จีโอหันมามองคนหัวเราะด้วยอารมณ์เสีย
“เอ้า..ก็มันตลกนี่หว่าจะให้ร้องไห้หรือไง
ไอ้บ้า..เเล้วสรุปเข้าประเด็นดีกว่า เอาคำถามเเบบตรงประเด็นเลยได้ไหม”ซึงโฮพยายามอั้นขำโดยเอาปากของเขากลั้นมันเอาไว้ เพราะอีกคนก็จริงจังจนไม่อยากขัด เดี๋ยวจะหาว่าทำเป็นเล่นไปหมด
“ก็เวลาที่แกอยู่กับฉัน มันก็ไม่มีอะไร อย่างตอนนี้อะ เเต่พอเวลามีไอ้ชอนดุงอยู่ด้วยเเล้ว..มันยังไงกันว่ะเนี่ย แกทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีนะเว้ย เหมือนเมื่อกี้ พอแกอยู่กับมัันอะ แกก็ปกติดี เเต่พอมารวมสามคน แกก็ทำเฉยๆ ไม่สุงสิง แล้วก็ไปอยู่กับจุนนี่ ไอ้มีร์ซะงั้นอะ”จีโอบอกทุกอย่างที่ซึงโฮทำมาตลอดสองสามเดือนกว่า ซึงมันมากพอที่เขาจะคิดว่ามันแปลกมาแล้ว
“คือ
ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงดีว่ะ..เอาเป็น ฉันขอโทษละกันนะเว้ย..ยังไงฉันก็..รักแกนะโว้ย..อย่าคิดมากเลย มันไม่มีอะไรหรอก แต่ต่อจากนี้จะทำให้ดีขึ้นละกัน แค่มีเรื่องอะไรในใจนิดหน่อยน่ะ ”ซึงโฮเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน เลยได้เเต่พูดเลี่ยงไป ก่อนจะเดินไปตบบ่าอีกคนสองสามที
“เฮ้อ..ถ้าเเกไม่อยากบอกก็ช่างเถอะ แต่แกฉันรักจริงอะ เพื่อนคิดไม่ซื่อป่าววะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”พอรู้ว่าเพื่อนไม่ได้มีอคติหรืออะไร คนอย่างจีโอเองก็ไม่อยากถามต่อ เดี๋ยวจะมีอะไรหมางใจไปจริงๆ
อย่างน้อยๆ รู้ว่าเพื่อนไม่ได้เปลี่ยนไปก็พอเเล้วนี่ ยังไงก็เพื่อน
จีโอเดินไปตบบ่าอีกคนคืนเช่นกันก่อนจะกอดเอากำลังใจไปอีกที อย่างน้อยมิตรภาพก็คือมิตรภาพอยู่วันยังค่ำ คำว่าเพื่อนบางทีไม่ต้องถามมากก็เข้าใจกันได้เหมือนกัน
เเต่จะรู้ไหมว่าคนที่ฟังอยู่หน้าประตูคิดยังไง
..
..
.
‘ยังไงฉันก็..รักแกนะเว้ย’
‘แกรักฉันจริงอะ เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อป่าว’
มันอาจดูบังเอิญอย่างเหลือเชื่อ เพียงเเต่ด้วยความสงสัยที่เห็นสงคนนี้หายกันมานานพอควร เลยคิดว่าควรจะลองมาตามดูได้เเล้ว หากพอมาถึงเขากลับได้ยินประโยคเด็ดไปได้ มันเลยทำให้พลอยโมโหไปว่า
ที่พี่พูดกับผมมากขึ้น เพราะอะไร
พี่เริ่มใส่ใจกับผม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้แทบไม่มองผมเลยล่ะ
แล้วที่เวลาผมพูดกับพี่หวานๆ เเล้วพี่หน้าแดงกับผมล่ะ
แล้วที่พี่ยื่นหน้ามาใกลๆ้ ยิ้มให้ผมด้วยใบหน้าแบบนั้น มันคืออะไร
ร่างสูงสูดลมหายใจลึกๆอยู่หน้าประตูห้อง เขาพยายามนับเลขหนึ่งถึงสิบไปเรื่อยๆ แล้วคิดว่าจะเดินหันหลังให้กับประตู พร้อมกับจากไปโดยไม่ให้ใครรู้ตัวซักคนเดียว
เพียงแต่ร่างกายมันกลับไม่ทำตาม มือยาวมันพาให้ไปกระชากประตูออกโดยไม่ได้รับอนุญาต และสิ่งที่เห็นกลับทำให้ยิ่งควบคุมอารมณ์อยากเหลือเกิน
คนตัวสูงเลือกใช้วิธีที่ทุกคนไม่คาดคิด คือการเอามือทั้งสองข้างจับ คนสองคนแยกออกจากกัน ก่อนจะเอามือข้างหนึ่ง ผลักอกของจีโอให้ออกห่าง
“ฮ
เฮ้ย..นายทำอะไรของนายเนี่ย..”จีโอร้องออกมาด้วยอารามตกใจ หากพอเจอสายตาจะกินเลือดกินเนื้อของชอนดุงเลยต้องเงียบปากลง
“ชอนดุง..เป็นอะไรเนี่ย..นายกำลังทำฉันเจ็บนะเนี่ย”มือขาวที่ดูบาง ไม่เคยคิดเลยเวลากำข้อมือของเขาเเน่นๆเเล้วมันจะรู้สึกเจ็บ
หากอีกคนก็ยังปิดปากเงียบก่อนจะปล่อยมืออีกคนออกเบาๆ และทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดอีกครั้งคือ ดันหลังให้จีโออกไปจากห้อง เเล้วปิดประตูลงกลอนทันที
ทิ้งให้พ่อหนุ่มเครางามงงเป็นไก่ตาแตกว่า ตกลงกูทำผิดอะไร..เเต่คนฉลาด เขาว่าจะไม่ใช้เวลานึกนาน เลยคิดออกในเวลาต่อมาในเวลาอันรวดเร็วว่า..
ท่าทางไอ้เด็กนั้นต้องชอบซึงโฮเเน่ๆ เพราะตั้งกะวันเเรกก็จ้องจะแดกอยู่แล้วนี่..
.
.
..
คราวนี้ในห้องก็เหลือกันอยู่เเค่สองคนเท่านั้น คือ..ชอนดุงเเละซึงโฮ
ที่ก็เงียบเป็นเป่าสากไปกันทั้งคู่ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร ทำให้ซึงโฮได้เเต่คิดไปว่า ทำไมวันนี้มีเเต่คนอยากอยู่กับกูสองต่อสองเยอะจริงๆ เมื่อกี้ก็ไอ้จีโอทีนึงละ มาคราวนี้ก็ชอนดุงอีก
เเต่ไอ้คนที่มันยืนหันหน้าเข้าประตูนี่ล่ะ น่ากลัวกว่าเพราะมันค้างอยู่ท่านั้นไม่ขยับเลยอะดิ
“ชอนดุง
เป็นอะไรไปอะ..”เนื่องจากมันเงียบจนเกินไปแถมไม่มีใครขยับไปไหนเลย บรรยากาศรอบด้านเลยยิ่งกระอักกระอ่วนเข้าไปใหญ่ มือขาวเลยต้องยกขึ้นมาคลำเบาๆที่ข้อมือเเดงที่ถูกทำร้าายไปเมื่อครู่
“ชอนดุง นายกำลังเข้าใจเข้าใจอะไรผิดอยู่หรือเปล่าเนี่ย”ซึงโฮเอามือเกาท้ายทอยตัวเองแก้เก้อ ทางที่ดีคือต้องพยายามอธิบาย
“แล้วเรื่องที่ผมเข้าใจผิด
มันเป็นเรื่องระหว่าง พี่กับเขา หรือเรื่องระหว่างเรากันแน่ครับ”เด็กหนุ่ม ยังคงไม่กล้าหันหน้ากลับมาอยู่ดี
ซึงโฮ ออกอาการงงเล็กน้อย เขาเอียงคอเล็กๆ พยายามคิดใหม่กับรูปประโยคที่ว่า ระหว่างเรา
เรา
เราไหนอะ
“ห..หา
.ฉันไม่เข้าใจ..”ซึงโฮคิดกับตัวเองไปด้วยใบหน้าประหลาด เขาไม่เข้าใจจริงๆในสิ่งที่คนพูด
“พี่เเกล้งไม่เข้าใจ หรือพยายามไม่เข้าใจกันเเน่!! // ปัง”เขาไม่อยากโมโหใส่ใครเลย เเต่บังเอิญว่าเพราะอีกฝ่ายกลับทำท่าจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย มันยิ่งน่าเจ็บใจ เขาเดินเขามาหา ผลักอีกคนเข้ากับกำแพงห้องเเคบ ทุบมือลงเเรงเฉียดข้างหูบางไปเล็กน้อย
เพราะคนที่ทำไม่ได้ต้องการทำร้ายซึงโฮเสียหน่อย
“เฮ้ย..”
“พี่เคยเข้าใจผมบ้างไหมอะ..”ชอนดุงหันหน้าหนี ความรู้สึกของเขามันเเสดงออกมาจากดวงตาที่เริ่มมีน้ำคู่นั้น ร่่างสูงกว่าจึงไม่อยากให้อีกคนเห็น เเต่มันคงช้าเกินไป
“แล้วจะให้ฉันเข้าใจว่าอะไร ว่านายไม่พอใจ ฉันไม่ได้ตั้งใจไปแย่งคนที่นายชอบน่ะนะ”ตอนนี้ในหัวมันตื้อไปหมด
“What?!!..”ชอนดุงถามเสียงสูง ตอนเเรกที่เกือบจะน้ำตาไหลพราก ตอนนี้กลายเป็นอื้ออึงไปแทนแล้ว
“อ้าว..ก็
ก็ นายไม่ชอบเวลาที่ฉันเข้าใกล้ ไอ้จีโอมัน เพราะนาย ชอบมันไม่ใช่หรอ..”ซึงโฮอธิบายสิ่งที่อยู่ในใจ
“NO WAY
.OH MY GOD
.SHIT!!!! WHAT THE HELL IS GOING ON?? .. @#$%^&*()_!@#$%”หากพอเด็กหนุ่มได้ฟังกลับต้องทำหน้าประหลาด ไปทันที เอามือยาวของตัวเองตีเผลียะไปที่หน้าผาก ก่อนจะสบถเป็นภาษาอังกฤษเท่าที่ตัวเองจะนึกได้ออกมาอย่างต่อเนื่อง จนคู่สนทนาทำหน้างง เพราะอากัปกริยาที่กำลังกระทำต่อหน้าของชอนดุง
“เอ่อ นี่ฉันเข้าใจอะไรผิดไปเองใช่ไหม..”ชายหนุ่มยิ้มเเหย บอกเสียงเบา พลางหัวเราะเเหะๆกลบเกลื่อน แต่อีกคนกลับหันขวับมาตามเสียงของอีกคนทันที
“มากอะ..”
“หรอ..ขอโทษนะ เเล้วสรุปว่าความจริงแล้ว มันคืออะไรกันเเน่ว่ะ”อีกครั้งที่ยกมือขึ้นเกาท้ายทอยตัวเอง แก้เก้อ เข้าใจผิดมาตั้งสองเดือนเเน่ะ หน้าเเตกดังเพล้งเลยเว้ยเฮ้ยครับ
โลกใบน้อยของซึงโฮ ทำพิษซะเเล้วซิ
“ความจริงหรอ..”
“ก็เวลาฉันเข้าใกล้ไอ้จีโอทีไร นายมองอย่างกับจะฆ่าฉันอย่างงั้นเเหละ จะให้ฉันคิดยังไงล่ะ ฉันก็เลย..ให้เวลาพวกนายไง..”ซึงโฮอธิบายหน้าซื่อ โดยที่เด็กหนุ่มเองก็ลุงขึ้นมามองใกล้ๆ ซึ่งก็เห็นว่าท่าทางคนคนนี้จะไม่โกหกจริงๆ
“เอาเข้าไป..เห็นผมเป็นคนยังไง..ใครจะไปชอบตาหนวดนั้นล่ะ ไม่ได้มีความงามเลยจริงๆ”ชอนดุงส่ายหัวไปมาเบามองคนพูดอีกครั้ง ด้วยอารมณ์ที่เปลี่ยนไป
“ใครจะไปรู้ล่ะ ก็แกทำแบบนั้นนี่หว่า แล้วสรุปมันเรื่องอะไรกันแน่ว่ะเนี่ย”ซึงโฮโวยวายออกมาเสียงเบา
“เอางี้ ผมขอถามพี่ก่อน แล้วจะบอกให้ฟัง อย่างเเรกคือ พี่ชอบพี่จีโอหรือเปล่า”เนื่องจากความสูงที่ต่างกันอยู่หลายเซ็นต์เลยต้องก้มมามองหน่อย เรื่องความสูงไอ้ที่เขียนในโปรไฟล์น่ะลืมๆไปได้เลย
“บ้าหรอ!!! ใครจะไปเอามัน บ้าเเล้ว หึย ขนลุก อี๋!!!”ท่าทางเเสดงความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด
“โอเค..ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันเลยใช่ไหม..”อีกครั้งเพื่อความเเน่ใจ
“อย่าพูดอะไร ให้ชวนอ้วกได้ไหมว่ะ ตกลงบอกมาได้ยังเนี่ย ถามก็ถามเเล้ว”พอเห็นเด็กหนุ่มหัวเราะงอหายเเล้ว เลยเกิดหมั้นไส้ อยากโบกกบาลไปเสียทีเเต่ต้องยับยั้งเอาไวก่อน
“คือ..ใช่ครับผมไม่พอใจที่พี่อยู่กับพี่จีโอ ไม่ชอบที่พี่เข้าใกล้พี่เขามากเกินไป..นั้นก็เรื่องจริง อย่างที่พี่คิด”ชอนดุงมองหน้าอีกคนที่พยักหน้าตามแบบแปลกๆ หน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
“แต่ไม่ใช่เพราะ ผมชอบพี่จีโอหรอกนะครับ ผมชอบคนนี้ต่างหาก”นิ้วยาวจิ้มจึกไปที่ตัวอีกคนแล้วจึงส่งยิ้มจนตาปิด อีหคนซิหน้าเหวอไปเลย
“อ..อ้าว..อ้าว แล้ว
.ตอนที่นายดีใจที่ฉันไปนอนคนเดียว”
“แล้วพี่เคยรู้ไหม ว่าตอนกลางคืน โดนจูบไปกี่ที คนอะไรหลับลึกชะมัดยาดเลย”ชอนดุงยิ้มร้ายขึ้นมาในบัดดล คราวนี้จากเหวอเลยกลายไปเอ๋อทันที
“อ..ไอ้เด็ก..ไอ้เด็กนี่..มัน”ซึงโฮไม่รู้จะพูดอะไรดี เลยได้เเต่เอามือขึ้นมาชี้เอาไว้ จนรอยเเดงที่ข้อมือลอยเด่นขึ้น
“เมื่อกี้ที่ผมทำนี่ เจ็บไหมครับ”อีกคนจับมันมาดูเบาๆ ทำหน้าสำนึกผิด มีหรือคนมองจะไม่ใจอ่อน
“ฉันน่ะผู้ชายนะเว้ย..เรื่องเเค่นี้จะไปเจ็บได้ยังไง ช่างมันเถอะ”ซึงโฮเม้มปากน้อยๆ แก้เขินอย่างที่เขาชอบเผลอทำ ก่อนยิ้มให้อีกคนใจชื้นขึ้นมา
“ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้พี่เจ็บนะ เเต่มันโมโหจริงๆนี่ อยากไปกอดกับลุงหนวดนั่นทำไมล่ะ”ชอนดุงขมุบขมิบปากบอก ทำปากยื่นปากยาว
“อ้าวๆๆ ที่พูดนั้นมันเพื่อนฉันนะลามปามๆ”ซึงโฮเอามือขยี้หัวร่างสูงเเรงๆ จนผมยุ่งไม่เป็นทรงดูตลกไปอีกแบบ
“นั่นๆๆ มีปกป้องอีก ตกลง ผมบอกชอบพี่ไปแล้ว พี่จะเอายังไงอะ”มันมีมาทวงคำตอบด้วยเว้ย เล่นเอาคนฟังหัวเราะครืน ก่อนจะยิ้มหวาน กว้างๆให้ได้เคลิ้มเล่น
“อ้าวๆๆ ยังไม่จีบแล้วอยากได้แฟน หวังสูงไปมั้ง
ไอ้น้อง”
เเน่ล่ะ..เรื่องอะไรจะยอมง่ายๆล่ะ อย่างงั้นก็เท่ากับกลืนน้ำลายว่าจะไม่มีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนกันพอดี..แถมงานนี้ มีท่าโดนกดมาเลาๆชอบกลด้วยเเหละ
*********************************************************************************************************
END
ความคิดเห็น