คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [LF 2PM]“MY DARE DEVIL…ปีศาจที่รัก” PART 4
“MY DARE DEVIL…ปีศาจที่รัก”
PART 4
การฉุดกระชากลากถู แบบไม่มีการแคร์สายตาใครนี่ก็เล่นเอาคนโดนลาก อายเสียยิ่งกว่าคนลากอีกนะ ใบหน้านั้นนิ่งและน่ากลัวมากพอที่จะทำให้คนรอบข้างคิดว่าถ้าซอกตึกไหนอยู่ใกล้ๆคงได้เห็นคู่นี้ฆ่ากันตาย หรือไม่งานนี้ก็มีได้ขึ้นเป็นข่าวหน้าหนึ่งแน่นอน
“นี่คุณ…คุณชานซอง เดี๋ยวๆๆๆ อะไรจะรีบขนาดนั้น ใจเย็นๆนะครับ ผมไม่หนีไปไหนหรอก”ทั้งๆที่มือของเขาข้างหนึ่งถือของเอาไว้เสียเต็ม แถมยังหนักอึ้งเสียด้วย
“ฉันให้เวลานายเอื่อยเฉื่อยมานานแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาของฉันบ้าง ถ้ายังถ่วงเวลามากกว่านี้ ฉันจะกินโดยปล้ำนาย แบบที่ต้องฉีกข้อสัญญาก่อนหน้านี้ทิ้งแล้วนะ”อีกคนหันมาว่า นัยตาสีแดงสดนั้นจ้องลึกเข้ามาในดวงตาเล็กๆของจุนโฮ บอกความกระหายในดวงตาคู่นั้น
นั้นทำให้จุนโฮเงียบปากได้อย่างสนิท แทบจะหุบฉับเลยด้วยซ้ำไปนะ…
“คุณ...”เอาน่าอย่างน้อยก็แค่จูบ จุนโฮไม่มีคำโต้เถียงหรือต่อต้านใด..เลยเงียบไว้ดีกว่า
จุนโฮกรอกตาไปมาพยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่า เสียจูบกับเสียก้น…ไม่เอาน่า เป็นเด็กอมมือก็รู้ว่าต้องเลิอกอันไหนกันแน่ ยังไม่เคยได้แอ้มผู้หญิงเลยนะ ไม่เคยเลย!!!!!!! แล้วจะให้ต้องมานอนกับผู้ชายไม่ไหวนะ ไม่ๆๆๆๆ ไม่ไหวๆๆๆๆ เพราะงั้นจูบชัวร์
“ฮึ…ความคิดนายนี่ใช้ได้อยู่นะ แต่ฉันเองก็ยังไม่เคยลองไอ้ข้อหลังซะด้วย..เลยคิดว่าลองเปลี่ยนดูซักทีดีไหม กับผู้หญิงน่ะมันชักจะน่าเบื่อไปซะแล้วซินะ”ชายหนุ่มหยุดเดินอย่างกระทันหัน ก่อนจะเหลือบตากลับมามองคนที่ทำหน้าตาเหลอหลา
ประมาณว่า..ฮะ..เมื่อกี้ว่าอะไรนะ กูว่ากูหูฟวดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!
“ก็เรื่อง..ที่นายยังไม่เคยกับคนไหนเลยไง ไม่ฝาดหรอกหูน่ะ และท่าทางว่าฉัน อยากจะลองทำมันดูซะแล้ว และโดยอย่างยิ่ง กลิ่นหอมน่ากินอย่างนี้แล้วล่ะก็..บางที่ฉันอาจอดใจไม่ไหว และอาจติดใจจนกินมันทั้งวัน”ชานซองเอามือลูบใบหน้าขาวเบาๆ พร้อมกับส่งกลิ่นอะไรบางอย่างออกมาทำให้จุนโฮรู้สึกได้
เขารู้สึกอ่อนเพลีย หมดแรง แข้งขาอ่อน และร้อนรุ่มไปทั้งตัว แม้แต่จุดไวสัมผัสที่อ่อนไหว กลิ่นหอมอ่อนๆที่ไม่เหมือนทั้งน้ำหอม และกลิ่นครีมหรืออะไรก็ตาม แต่ที่แน่ๆมันมาจากชานซองซึ่งหอมมากจนมึนหัวเลยล่ะ เป็นตัวปลุกเร้า ทำให้จุนโฮทิ้งของในมือลงและคว้าท่อนแขนแข็งแรงของชายหนุ่มตรงหน้าเอาไว้
มันทำให้เขาเริ่มรู้ตัวว่า..ชานซองอาจจะทำอะไรบางอย่างกับเขา
“..น…ไหน…ไหนบอก ว่าจะไม่ฝืนใจผมไง..ค..ครับ”ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ตามแต่แน่นอนเขาต้องสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อศักดิ์ศรีที่มีอยู่ เพื่อตัวเอง แบบออกจะกระเส่าไปหน่อยก็เถอะ
ซึ่งชานซองรู้และได้ยินมันอย่างชัดเจน ทั้งคำพูดและความคิด ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะหยุดปล่อยฟีโรโมนของเขาทันทีที่ได้ยิน
“อย่างงั้นก็ได้ แต่..ฉันบอกว่าฉันจะไม่ฝืนใจนาย แต่ฉันไม่ได้บอกว่าฉันจะอดทนกับมันได้นานแค่ไหน เอาล่ะ..งั้นก็ จูบ…”ชานซองบอกก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนที่หอบหายใจลึก
ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ตรงที่ที่ปลอดคนแล้ว แต่มันก็ยังมิดชิดไม่พอที่จะไม่มีใครเดินผ่านมาอยู่ดี นั้นทำให้จุนโฮกลัว ว่าถ้ามีใครผ่านมาเห็นแล้วมันจะยิ่งแย่ ที่นี้เกาหลีและเรื่องรักร่วมเพศยังไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้ในสังคม
ถึงแม้ว่าคนทั้งคู่จะไม่ได้เป็นแค่พฤติกรรมมันส่อเฉยๆ
“ฉันให้เลือกระหว่างกลัวคนเห็น…กับกลัวตาย เลือกเอาละกัน..”ชายหนุ่มยิ้มร้ายจนอีกคนกลัวใจเขาเหลือเกิน
จุนโฮค่อยๆก้าวเข้าไปหาอย่างช้าๆ มือเขาสั่นเบาๆ แต่ก็พยายามควบคุมมันอย่างดีที่สุด เขาก้าวอย่างเชื่องช้า ยื่นมือที่สั่นเทาหนักขึ้นไปหาปกเสื้อเชิ๊ตของคนตัวสูง กระตุกมันเบาๆ ซึ่งชายหนุ่มเองก็โน้มตัวลงมาโดยไม่มีอิดออด
จุนโฮเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้อีกคนมากขึ้นไปอีก มองใบหน้าสมบูรณ์แบบนั้นอย่างเต็มตา หากเขาก็ยังสามารถสบดวงตาคมสวยนั้นได้อยู่ดี
“ถ้าจะช่วยหลับตาหน่อยก็จะดีมากเลยนะครับ”แม้ว่าช่วงระยะทางของสองใบหน้า จะมีแค่ไอลมหายใจคั้น แต่จูบทั้งๆที่จ้องหน้ากันอย่างนี้ ทำใจไม่ลงจริงๆนะ
“แต่ฉันไม่มีปัญหาสำหรับมัน..”ให้ตายเถอะแกล้งหมอนี่สนุกชะมัดเลย ยิ่งเวลาได้ยินเจ้าตัวคิดอะไรไปไกล
“เอ่อ…ผม..”
“งั้นฉันทำเอง..”แต่เขาก็แอบหิวจริงๆนั้นแหละ เพียงแต่ตอนนี้…ท่าทางจะต้องกินจริงๆแล้วล่ะ
มือใหญ่กดหัวของอีกคนเข้ามาใกล้ทันที จนสุดท้าย..ริมฝีปากของทั้งคู่จึงติดกัน และเพราะความตกใจของจุนโฮเขาจึงเผลออ้าปากรอท่าให้อีกคนกดจูบและเก็บเกี่ยวสิ่งที่ต้องการอย่างง่ายดาย
ลิ้นหนาเกี่ยวกระหวัดไปทั่วโพรงปากนุ่มของอีกคน และเมื่อของเหลวนั้นถูกถ่ายเทเข้าหากัน ราวกับเกิดประจุไฟฟ้า ที่สายตามองไม่เห็น การถ่ายเทพลังงานชีวิตเริ่มขึ้นจากจุดนั้น ราวกับสิ่งเสพติด ชานซองไม่เข้าใจเหมือนกันเขารู้สึกกินจนอิ่มหนำ แต่มันก็ยังไม่รู้สึกกราวกับว่ามันเติมไม่เต็มเสียที
มือขาวที่กำชายเสื้อเขาไว้แน่นจนเนื้อผ้าเริ่มตึง และเสียงครางครือที่เริ่มเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สติที่กำลังมัวเมาไปกับรสจูบที่แสนอร่อยนั้นคืนมาจนต้องผละออกจากกัน
“อ..ฮ้า..ฮ้า..พ..พอก่อนได้ไหม ผม..ผมเหนื่อย คุณกินมากเกินไป..ผม..ม..ไม่ไหว”จุนโฮบอกเสียงอ่อย มือที่เกาะเกี่ยวเแขนแกร่งเอาไว้เป็นหลักยึด ไม่อย่างนั้นเขาคงล้มลงไปแล้วเพราะไม่มีแรง
“อย่าทำหน้าและเสียง หรือพูดอย่างนั้นอีกนะ ถึงฉันเป็นผู้ชาย และนายเป็นผู้ชาย แต่ฉันไม่รับรองเรื่องความปลอดภัยเรื่องเพศของนายแน่”ชานซองว่าก่อนจะเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายเต็มพื้นขึ้นมาถือไว้ด้วยมือเดียว หากมือข้างว่างเขากับคว้าต้นแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ แล้วจึงลากอีกคนกลับบ้านอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่จุนโฮเองตอนนี้สมองของเขาไม่มีเอาไว้คิดถึงคำพูดอะไรที่ชานซองพูดออกมาหรอกนะ เพราะมันขาวโพลนไปเพราะจูบเมื่อกี้หมดแล้วน่ะซิ
……………………
…………….
…….
“ขอบคุณ คุณหมอมากนะครับ นี่ถ้าไม่ได้คุณหมอผมคงแย่”แจบอมยิ้มจนตาปิด ขอบอกขอใจคุณหมอหน้าตาหล่อเหลาเป็นอย่างดี
ตอนนี้เป็นเวลาครบสองวันที่แจบอมเอาสัตว์เลี้ยงแสนรัก หรืออีกนัยคือน้องชายของคนรักในร่างแมวมารักษา เนื่องจากพี่มันดันเดินเหยียบเข้าให้อย่างเต็มรัก
ซึ่งที่โรงพยาบาล นิชคุณพาแจบอมเข้ามาในห้องตรวจด้วย เพื่อให้มันเป็นส่วนตัวเหมือนครั้งที่แล้ว แต่คราวนี้มันจะต่างออกไปเพราะมีองครักษร่างยักษ์ใหญ่เข้ามาด้วยเช่นกัน
ซึ่งปราดเดียวเขาก็มองออกว่าคนตรงหน้านี้ไม่ทำธรรมดาเช่นกัน
“สวัสดีครับ คุณคงเป็นพี่ชายอูยอง..ผมนิชคุณครับ”และคำพูดนั้นทำให้แจบอมสะอึกขึ้นมา มองหน้าคุณหมอที่เขาเพิ่งยิ้มดีให้เมื่อครู่อย่างไม่เชื่อสายตา
แต่พ่อคุณหมอนี่ซิ พอเห็นพี่ชายเขาก็เลยคิดจะฝากตัวเอาเสียแล้วซิ
“สวัสดีครับ .. โห ตำแหน่งใหญ่ไม่ใช่เล่นนะครับเนี่ย ผมแทคยอนนะครับ”ด้วยความแทคยอนเองก็ไม่ได้มีอคติกับเทวดาเป็นทุนเขาจึงสามารถเป็นมิตรกับเทพบุตรคนนี้โดยง่าย
“เอ่อ..คุณเป็นดรอปเพลเกงเกอร์หรอครับเนี่ย ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่าจะยังหลงเหลืออยู่”นิชคุณพูดด้วยความชื่นชม ดูจากร่างจริงของแทคยอนท่าทางอาจจะมีไม่คนละพ่อก็คนละแม่ล่ะ แต่ปีศาจทั้งสองถือได้ว่าเชื่อมโยงกัน เพราะคนหนึ่งก็เป็นตัวกินฝัน อีกคนกลับเป็นจิตเลียนแบบ ซึ่งของแทคยอนนั้นหายาก ปีศาจที่สิงตามกระจก หรือสามารถลอกเลียนได้แม้กระทั้งความคิด และกลืนความทรงจำได้
“ไม่หรอกครับ ก็ว่าเกินไป”แทคยอนว่าอย่างถ่อมตัว
“เดี๋ยวก่อน แทค…ฉันงงไปหมดแล้ว..นี่มันยังไง ทำไม..คุณหมอถึงได้รู้ได้ล่ะครับ”แจบอมที่เหมือนจะถูกดันออกมาจากวงสนทนาชั่วคราว
“อ่า ขอโทษทีนแจบอม ฉันไม่ได้ตั้งใจ คือ..คุณหมอเค้าเป็น…สิ่งที่ตรงข้ามกับพวกฉันน่ะ..หมายถึงถ้าฉันต้องอยู่ในนรก เขาก็จะอยู่…บนสวรรค์ไง”แทคยอนอธิบายอย่างง่าย เล่นเอาตาเล็กๆของแจบอมเหลือกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“จะบอกว่านายเป็นเทวดาหรอ..หมอ ไม่จริงน่า…แค่ไอ้สองตัวนี้มาอยู่ที่บ้านของผมก็หัวใจจะวาย นี่กว่าจะปรับตัวได้ก็ปาไปเกือบเป็นปี ไม่ซิตอนแรกมีแค่ไอ้ยักษ์นี่ตัวเดียวเมื่อสองวันที่แล้ว เจ้าอูยองก็เพิ่งตามมา..โอ้ว…โน้วเวย์!!!!!!”เหมือนจะหลุดโลกออกไปเสียหน่อย แต่ก็ดูน่ารักดีอย่างบอกไม่ถูกนะเนี่ย
“เรียกฉันว่าตัวเลยหรอเจย์ นายนี่ ถ้ามันมีนรก ก็ต้องมีสวรรค์ซิ นายนี่แต่เอาเถอะ ว่าแต่เรื่องของเจ้าอูยองว่ายังไงบ้างครับ”แทคยอนถามน้อยๆ จนนิชคุณยิ้มขั้นมา
“อ๋อ..ตอนนี้เขารออยู่อีกห้องน่ะครับ ผมหาเสื้อผ้าให้ใส่แล้วครับ ส่วนเรื่องพลังชีวิต ของผมมีเหลือเฟือ…แต่คุณคงไม่ว่าอะไร ถ้าผมจะต้องแบ่งให้เขาด้วยตัวเอง”นิชคุณว่าพลางกระดกยิ้มน้อยๆ ซึ่งทำให้แทคยอนเลิกคิ้วสูง
“อยากจับจองน้องผมหรอครับ”แทยอนถามเสียงหนักขึ้น ก็ไม่ได้หวงน้อง แต่ก็นิดนึงน่า
“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิงหรอกครับ ผมต่างหากที่จะถูกจับจอง…ถ้ามองในแง่ของการอยู่รอด แต่ถ้าในความหมายของคำว่าชอบพอล่ะก็ใช่ครับ”นิชคุณยอมรับได้โดยง่าย
แม้ว่าตัวเขาเองอาจถูกกังขาในเรื่องระยะเวลาก็ตามที ว่าเขากับเจ้าปีศาจน้อยเพิ่งพบเจอกันไม่นาน แต่คำว่าถูกใจ ต้องตาเอาเสียมากนั้นก็คงใช้ได้ในเวลาแบบนี้ และนอกจากนั้นเขายังต้องการจะสานความสัมพันธุ์เสียด้วยซิ
“คุณให้อาหารเขาไปแล้วหรอ…”แทคยอนหลิ่วตาถามหยั่งเชิง แน่นอนล่ะ..ตอนนี้อูยองยังไม่มีคู่ เพราะอย่างนั้น หากต้องขึ้นมาอยู่ข้างบนนี้ เจ้าตัวต้องมีคู่ หรือไม่ก็หาเก็บเกี่ยวไปเรื่อย..เรื่องนั้นแทคยอนรู้ดี ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่พยายามไล่ไอ้เด็กบ้านี้กลับบ้านหรอ
แล้วเป็นไงล่ะ มาได้สองวัน จะมีคนเอามันทำเมียเสียแล้วซิเนี่ย ให้ตาย เอากับมันซิ
“ครับ..ใช่ มันไม่มีทางเลือก เพราะเขาเริ่มอ่อนแรง ผมเลยจำเป็น แต่..ก็แค่จูบ เลยคิดว่ามันอาจจะดีกว่านี้ ถ้าให้ผมเป็นคนดูแลเขาไป และตัวผมเองก็อยากเป็นมากกว่าแหล่งอาหารด้วย”นิชคุณเอาหัวเทวดาเป็นประกันเลยว่าเขาไม่โกหกซักคำเดียว
“อืม ถ้าคิดแน่ใจอย่างนั้นก็เอา แต่มันขึ้นอยู่กับไอ้อูยองด้วยนะครับ ผมว่าทุกคนก็โตแล้ว แต่ถ้าอูยองไม่เล่นด้วยก็ขอให้เลิกแล้วละกัน ผมไม่อยากเป็นศัตรูกับคุณนักหรอก”แทคยอนยักไหล่ เห็นความแน่วแน่ในนัยตาคู่นั้นแล้วก็ต้องถอนหายใจ
ยังไงเค้าจะเอา ห้ามไปก็เสียเวลาเปล่า น้องเรามันนี่มันเสน่ห์แรงจริงเว้ย ขนาดเทวดายังเกินห้ามใจ แถมไอ้ตัวในนรกนั้นก็ยังมีอีกตัว
“ถ้าไม่รังเกียจ..ขอแลกที่อยู่กับเบอร์โทร.เอาไว้นะครับ เพราะดูท่าทางจะต้องเจอกันไปอีกซักพักใหญ่เลยล่ะครับ”
*********************************************************************************
จากที่รู้สึกว่าบ้านหลังน้อยนี้ไม่เงียบเท่าไหร่นัก อาจจะเพราะเสียงโทรทัศน์ที่ภาพบนหน้าจอกำลังรายงานสภาพอากาศในแต่ละวัน หรือเสียงสายน้ำกำลังไหล เสียงเครื่องยนตร์มากมายที่ดังมาจากรถรวงภายนอกตัวตึก
ทั้งหมดนั้นมันแค่สิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่มันกลับไม่มีเสียงของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ร่วมห้องนี้เลย..ถ้าหากจะไม่นับรวมเรื่องใบหน้าที่นิ่งสนิทเป็นตูดนั้นก็ด้วยล่ะก็ ทุกอย่างบอกความไม่พอใจอย่างสมบูรณ์แบบ
คนที่นั่งดูโทรทัศน์เพื่อการศึกษาและการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยนั้้นเหลือบตามองแผ่นหลังที่เขาเคยสัมผัสนั้นหลังยามที่ดูดกลืนพลังงาน เขามองมันอย่างสนใจ..
ในเมื่อตอนนี้ไม่มีแม้ภาพหรือเสียงซึ่งมันน่าแปลก
ไม่นานนักเมื่อสายน้ำหยุดไหล ชานซองกลับให้ความสนใจกับมันทันที แน่นอนตั้งแต่กลับมาจากห้างตอนนั้นและถึงเช้าวันนี้ เขายังไม่ได้คุยกับจุนโฮซักคำ ไม่ยินอะไรซักประโยคเดียว
ไม่รู้ทำไม แต่รู้สึกว่ามันน่าหงุดหงิดเหลือเกิน
จุนโฮเดินอย่างเชื่องช้าและเหม่อลอย เจ้าของตัวจริงเดินมานั่งลงตรงพื้นข้างเตียงที่คนตัวโตนอนเอกเขนกอยู่ด้านบน ตั้งแต่ชานซองมานอนที่นี้ เตียงของเขาถูกยึดและเขากลับกลายเป็นหมอนข้าง
“นาย..”เสียงเรียกห้วนๆทำให้จุนโฮหันไปมอง
“ครับ..”และนั้นเป็นคำตอบรับแค่สั้นๆ ซึงดูท่าทางชานซองจะไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่นัก
“นายเป็นอะไร…ของนาย”ชานซองจับอีกคนด้วยมือเดียวราวกับตัวเขาเป็นนุ่น มาหล่นปุ๊ลงบนเตียงหันหน้าเข้าหาใบหน้าหล่อพอดี เพียงแต่จุนโฮกลับก้มหน้าลงไม่สบตา
“คุณสนใจด้วยหรอ..ช่างมันเถอะ..”จุนโฮว่าพลางทำท่าจะลุกหนี เพียงแต่เขาโดนกระชากให้กลับมานั่งอยู่ที่เดิมอีกครั้งหนึ่ง
“อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะ อี จุนโฮ ไม่ใช่ว่าฉันใจดีให้หน่อยแล้วนายจะทำเป็นหยิ่งนะ”ชานซองจับหน้าใสของอีกคนมาจ้องตา พร้อมกับคำขู่ซึ่งนั้นทำให้จุนโฮไม่มีทางเลือกที่จะหลบหนี
“ผมไม่ได้ทำอย่างนั้นเสียหน่อย คุณ..คิดไปเอง..”จุนโฮพยายามหาข้อแก้ตัวอย่างถึงที่สุด เพียงแต่แรงของเขาไม่สามารถดิ้นหลุดจากมือแกร่งนี้ไปได้เลย
“แล้วที่หลบหน้าซ่อนความคิดอย่างนี้มันคืออะไร ตอบมานายคิดอะไรกันแน่”
“แล้วคุณจะสนใจทำไมเล่า เรื่องของผมซิ..”จุนโฮเถียงเสียงดังจนอีกคนที่พยายามอดทนเลือดขึ้นหน้าง่ายๆ เพียงแต่เขาพยายามอย่างหนักที่จะไม่ทำร้ายอีกคน
อย่างน้อยๆจิตใต้สำนึกบอกไว้ว่าเขาเองก็เป็นหนี้จิตวิญญาณ จุนโฮ แต่เจ้าแห่งโลกวิญญาณชั่วก็ไม่ชอบการถูกขัดใจเหมือนกัน
“ฉันจะถามอีกแค่…คำเดียว!!”คราวนี้เริ่มลงคีย์ต่ำจนจุนโฮหนาวเยือก รังสีที่บอกว่าถ้าไม่ตอบละได้ไปเดินเล่นเจอนรกทั้งชาติอย่างที่อยากรู้แน่ๆ
“ก็…คุณไม่ฟังผมเลย ผมบอกให้คุณอย่าจูบในที่สาธารณะอย่างนั้น คุณก็น่าจะรู้..”จุนโฮบ่นอ้อมแอ้ม ความจริงที่สมองเขาขาวขนาดนั้นไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ซะทีเดียวหรอก
แต่มันว่างเปล่าตั้งแต่จูบและคำพูดกระชากวิญญาณเมื่อคืนแล้วต่างหาก เล่นเอาเขาไม่กล้าสบตาชานซองจังๆเลยซินั้น
“แต่เวลาฉันหิว ฉันก็ต้องกิน”และเมื่อรู้เหตุผลแล้ว เรื่องอารมณ์โกรธจึงถูกเขี่ยออกไปอย่างสิ้นเชิง
“นั้นผมก็เข้าใจ แต่ช่วยอดทนไปหาที่มิดชิดหน่อยไม่ได้หรือไงครับ..”คนอย่างผมก็มียางอายนะครับ จุนโฮคิดต่อในใจเสียอย่างนั้น แบบว่าเขาอายจริงๆนะ
“นี่นายกล้าว่า ว่าฉันไม่มียางอายงั้นหรอ..”ชานซองขึ้นเสียงใส่คนที่นั่งทำหน้ามู่เริ่มกลับมาเป็น จุนโฮคนเดิม
“คุณก็อย่าฟังซี่!!! “แรงมาก็แรงกลับเอาดิ มาฟังเขาคิดทุกอย่างอย่างนี้ก็แย่ซิ
“ก็มันได้ยินนี่!!! เอาล่ะ นอกเรื่องมาตั้งนานแล้วตกลงที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับมาตั้งแต่เช้าเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม”ชานซองที่คิดว่าเขาเริ่มเอือมกับการทะเลาะอย่างนี้เต็มทีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้มันสงบมากขึ้น
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ ถือว่าผมขอละกัน แลกกับที่ผมจะช่วยคุณตามหาคนรัก..อย่างนั้นดีไหม”จุนโฮบอกอีกฝ่ายอย่ามีข้อต่อรอง
และนั้นทำให้ชานซองคิด…คิดอะไรที่มันไม่น่าจะผุดขึ้นมาในสมองเขาได้เลย เขาลืมไปเลยถึงเรื่องนั่น เขาลืมไปตั้งแต่มาอยู่กับจุนโฮว่าสาเหตุที่แท้จริงของการขึ้นมาบนโลกใบนี้คืออะไร
เพื่อมาตามหา….อูยองนี่ซิ
“นั้นซินะ เอาอย่างงั้นก็ได้ ว่าแต่..นายจะให้ช่วยฉันตามหายังไง..”ชานซองว่าเสียงนิ่งไปมากหลังจากที่ คนตัวเล็กกว่าอาสาจะช่วยเขาตามหาคน หากความนิ่งนั้นทำให้จุนโฮนึกเอะใจ รวมถึงไอ้คำตกลงง่ายๆนั้นก้ด้วย
“เอ่อ..ผมมีเพื่อนอยู่คนนึง คนที่ให้เขาไปช่วยซื้อเสื้อผ้าให้คุณน่ะ ผมเพิ่งรู้จักเขาไม่นานตอนที่ผมไปรับจ้างทำเอกสารให้เขา ดูเหมือนเขาจะรู้จักคนเยอะ ผมว่าเขาอาจจะรู้จักคนที่คุณกำลังตามหาอยู่ก็ได้นะ”จุนโฮอธิบายอย่างใจเย็น ในขณะที่คนฟังหรี่ตามองหน้าเขาอย่างไม่ไว้ใจ
“นายคิดจะไล่ฉันแล้วงั่นซิ”
“นี่คุณอย่ามองผมด้วยสายตาอย่างนั้นซิ คุณเห็นผมเป็นคนยังไงกัน”สาบานได้เลยว่าความจริงแล้ว จุนโฮไม่ได้คิดถึงเรื่องไล่ชานซองเลยจริงๆใจ
ในใจของเขามีแต่อยากช่วย และถึงแม้ชานซองออกจะเอาแต่ใจ ขี้โมโห ปากเสีย …และอีกสารพัดข้อเสียที่เขาผจญมาในช่วงสามวันนี้ แต่ยังไงก็ไม่ได้มีความรู้สึกอยากไล่ให้ไปเลย
“ฉันรู้แล้วว่านายไม่อยากไล่ แต่ไม่ต้องด่าฉันขนาดนั้นหรอกนะ”ว่าแล้วก็โน้มใบหน้าลงมาใกล้อีกคนจนเกือบชิด ทำเอาคนแอบบ่นยิ้มแห้งๆตอบ
“ก็บอกแล้วไงครับ..ว่า..ไม่ต้องฟังทุกคำก็ได้”จุนโฮกระเง้ากระงอดอย่างน่ามอง .. ใช่ในสายตาชานซอง เขามองว่ามันน่าดูจริงๆนะ จนต้องส่ายหน้าไปมา ไล่ความคิดประหลาดนี่ออกไป
“ก็นายอยากคิดเอง…แล้วคนที่นายจะให้เขาช่วยนี่..เป็นใคร ชื่ออะไรล่ะ”หลังจากผ่านซีนอารมณ์ไปก็เลยกลับมานั่งโุโทรทัศน์เหมือนเดิมซักที
“อืม…อ๊ค แทคยอน ใช่ๆๆๆ แทคยอนๆ”จุนโฮเกินตามมาติดๆ ก่อนจะมายิ้มจนตาหยีให้อีกคนมองเล่น ซึ่งแน่นอน มันน่ามองอีกเหมือนกันแต่ตอนนี้สิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจมากกว่า คือ ชื่อที่หลุดออกมาจากปากของจุนโฮน่ะซิ
“หา…นายว่าอะไรนะ!!!”
แหมทำไมโลกมันกลมขนาดนี้นะเนี่ย!!!!!!!!!!!!!
******************************************************************************
TBC
ความคิดเห็น