คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [SF 2PM]DESTINY ME : PART 3
Part 3
“อาหารพอไหมครับ พี่แทค พี่เจย์..ขาดเหลือจะเอาอะไรอีกไหมครับพี่”จุนโฮวางจานอาหารที่ไปตักมาเพิ่มรอบที่สามแล้ว ในขณะที่มือก็ถือหม้อสปาเก็ตตี้ที่ยังเหลืออยู่ไปด้วย แต่ก็ไม่ได้ออกปากบ่นอะไรออกมาจริงจังเสียที ยังคงเต็มใจทำอย่าไม่เลิกลาอยู่นั้นล่ะ
“ไม่เป็นไรหรอก มีแค่ไหน หมดเท่าไหร่ ก็เท่านั้นแหละ ขอบใจมากนะจุนโฮ ลำบากนายจริงๆเลย นี่จะบอกนะว่าถ้าไม่มีไอ้ชานล่ะก็ ได้อิ่มไปสามบ้านเจ็ดครัวเรือนเลยเหอะ”แทคยอนพูดก่อนตักสปาเก็ตตี้เข้าปาก ว่าแต่เขานี่ก็ปาเข้าไปจานที่สามแล้วเหมือนกัน
“ตัวเอง..เขาอยากเติมอีก เอาหม้อมาเลยก็ได้..ไม่ต้องไปเติมให้พี่แทคแล้ว คนอะไร ดำเล้วยังฟันยื่นอีก สงสัยเอาฟันกักอาหารแน่ๆเลย”ชานซองคว้าข้อมือของคนที่ถือหม้อเอาไว้ ดังเข้ามาใกล้ ก่อนโอบเอวของร่างโปร่งเข้ามาออดอ้อน เอาหน้าถูไถไปกับหน้าท้องแบนราบนั้น จนอีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ เพราะจั๊กกระจี้
“ฮ..ฮ่าๆๆๆ พอๆๆๆ ชาน นายทำอะไรเนี่ย..เดี๋ยวสปาเก็ตตี้หก!!! ฮ่าๆๆๆ”จุนโฮที่พยายามกำเอาไว้จนแน่น ได้บิดตัวไปมาหนี เพียงแต่คนแรงเยอะเองก็ล๊อคตัวเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ชอบใจที่ได้ทำแบบนี้จริงๆ
ผัวะ!!!!
“น้อยๆหน่อยไอ้ชานซอง เมื่อกี้ด่าฉันแล้วยังไปอ้อนไอ้จุนโฮอีก มันไม่ใช่เมียแกนะเว้ย เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิดขายไม่ออกทำไง..มาจุนโฮเอาสปาเก็ตตี้มา..”แทคยอนทนไม่ไหว กับฉากรักหวานเลี่ยน เลยเอาทัพพีเสยกบาลทุยๆไปเสียที
“โอ้ยเจ็บนะ..เรื่องของผมซิ ..ดี!!จุนโฮขายไม่ออก จะได้อยู่กับผมไง ที่เรื่องพี่กับพี่เจย์ผมยังไม่เคยเห็นก้าวก่ายเลยซักครั้ง ทำมาว่าเขาอีเหนาเป็นเองกางเกงหลุดตูดเลย..ฮิ้วๆๆๆ”คราวนี้ยิ่งเห็นว่าสิ่งกีดขวางอย่างหม้อสปาเก็ตตี้ถูกฉกไปแล้ว แขนแกร่งก็ยิ่งโอบแน่นกว่าเดิมอีก
“อ้าว!!ไอ้ชานพูดงี้ก็สวยดิ เรื่องฉันกับไอ้เหยินนี่เกี่ยวไรด้วยล่ะ..แล้วมันเหมือนกันตรงไหน..”แจบอมที่นั่งดูดเส้นอยู่อย่างเพลินๆ อุตส่าห์ทำเป็นไม่สนใจสถานการณ์ตรงหน้าแต่สุดท้ายถูกเอาไปทั้งพาดพิงจนได้
“โหๆๆ เหยินเลยหรอ..นึกว่าตัวเองดีไง ไอ้เตี้ย เงียบไปเลย ความชันสูงเขาจะกัดกัน ความชันต่ำไม่เกี่ยว..”แหม..ด่าพ่อไม่ว่า ด่าเรื่องฟันทีนี้ของมันขึ้นเอาง่ายๆเลยนะ
“โอ้โห ว่าเตี้ยอย่างนี้ ฉันไปเหยียบเงาพ่อแกตอนไหนว่ะ หาเรื่องหรือไง..เดี๋ยวๆๆ ไอ้เหยินดำ..”แจบอมเองก็ไม่ยอมบ้างแล้ว ผลุดยืนขึ้นเต็มความสูงเท่าที่ตัวเองมีมองหน้าอีกคนออกแนวเหวียงแบบเต็มอัตรา
“อ้าว คราวนี้กรูเจอทั้งเหยินทั้งดำเลยไง แน่จริงมาลองนับฟันไหมล่ะว่ามันเยอะหรือเหยิน มาเลย ลองดูไหมล่ะ..”คนตัวใหญ่เองก็ยื่นฟันไปใกล้ จนอีกฝ่ายได้แต่ทำหน้าเซ็ง
“นี่จะวัดหรือจะเอามาเฉาะหน้าฉัน เอาออกไป!!!!”มือเล็กเอาดันหน้าอีกฝ่ายให้ออกห่าง ประหนึ่งรังเกียจจนเกินทน แต่คนแรงเยอะกว่าก็พยายามดึงให้เขาหาตัว
“เอ่อ..พี่สองคนครับ ถ้าจะเลิฟซีนดุเดือด ผมแนะนำว่าห้องผมก็ได้นะครับ ไม่ว่าอะไร..”จุนโฮที่มองรุ่นพี่ทั้งสองคนที่ไม่รู้ว่าจะตีกันหรือกำลังเข้าได้เข้าเข็มโดยมีเพื่อนสนิทกอดเอวอยู่เอ่ยห้ามทัพขึ้นมา เพราะดูท่าศึกสงครามจะกินเวลาเสียจนลุล่วง อย่างนี้ต้องห้ามเสียก่อนจะใหญ่หลวงนัก
“ใครจะไปทำอย่างนั้นกับหมอนี้/ มัน กัน!!!!”สุดท้ายทั้งคู่ก็พูดออกมาเป็นเสียงเดียวจนได้
“งั้นโอเค..อิ่มแล้วใช่ไหม ผมจะได้เก็บของ เห็นชานบอกว่าพี่มีงานต้องทำกันนี่..นี่ก็เย็นแล้ว จะได้ไม่กลับบ้านดึกเนอะ..”จุนโฮหันไปเนอะกับคนข้างกาย โดยอีกคนก็ยิ้มรับ
สำหรับเขา แม้ว่าไม่ได้เป็นคนรัก แต่เท่านี้ก็คงเพียงพอ การกระทำเท่านี้ เขาก็ดีใจมากแล้ว
“โอเค..งั้นไปชาน..ไปคุยกัน มีเรื่องจะวานให้ทำ”
**********************************************************
“นิชคุณครับ..ผมฝากห้องหน่อยนะครับ เอ่อ..คุณนิชคุณครับ ฝากด้วยนะฮะ...”เด็กชายตัวเล็กเดินเข้ามาใกล้ๆ จนได้ตลบของกลิ่นแป้งฝุ่นขาวที่ทาหน้าจนวอกนวล พร้อมกับยิ้มอ่อนๆ
“อย่าลืมว่า ห้ามอาบน้ำนะฮะ..ถ้ารำคาญก็แค่เช็ดๆไปก่อน เอ่อ โทรศัพท์ผมเอาไว้ที่คุณก่อน เผื่อมีอะไรคุณก็จะได้เรียกผม เบอร์ของโจควอนนะครับ แล้วผมจะเอาใบเสร็จทุกใบมาให้นะครับ รวมถึงอาหารเย็นด้วย จะรีบไปรีบกลับนะครับ”เมื่อสรุปได้ว่ายังไงก็ต้องรับตัวผู้ชายคนนี้เอาไว้ใต้ชายคา อูยองเลยตัดสินใจอยู่กันอย่างสันติ
“เรื่องเงินน่ะ นายใช้ๆไปเถอะ ส่วนเรื่องห้องไม่ต้องห่วง ฉันอยู่ได้”ชายหนุ่มว่าพลางยิ้มอ่อน อย่างคนกำลังไม่สบาย ทำให้อูยองอดเป็นห่วงไม่ได้
ก็มีรู้ทำไมซิน่า..แต่ก็เป็นห่วงจริงๆ ยอมรับเลย เห็นหน้าซีดๆอย่างนั้น แล้วก็บาดเจ็บด้วย ทิ้งไว้คนเดียวเป็นไปอะไรขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ
“งั้นผมไปนะ..”ล่ำลา พร้อมกับหันมามองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนค่อยๆปิดประตูลงลงกลอนอย่างเคยชิน และทันทีที่เสียงลั่นกลอน ชายหนุ่มดันตัวเองขึ้นมายืนอย่างรวดเร็ว แม้จะเจ็บอยู่บ้างแต่ก็สลัดท่าทางเจ็บปวดก่อนหน้าออกไปได้อย่างเกลี้ยงเกลา..จนเหมือนกับดูเป็นคนละคน
ชายหนุ่มยืนขึ้นเต็มความสูง บิดไหล่ข้างที่ไม่เจ็บให้เข้าที่เข้าทางไล่อาการกล้ามเนื้อตึง ขยับร่างกายที่ปัดความเมื่อยขบออกไป ความเป็นจริงเขาก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากนักหรอก แต่ไม่รู้จะยังไงดีว่า..
มันเกิดอยากจะสำออยขึ้นมาแบบไม่ได้นัดหมาย
ไม่เข้าใจแต่เห็นหน้ากลมๆ เห็นทีไร มันเกิดอยากจะสำออยทุกทีให้ได้..แต่เอาเถอะ ไม่เป็นไร ถือว่าจะได้เรียกคะแนนความสงสารจากเจ้าถิ่นไปในตัวไงล่ะนะ
ร่างสูงค่อยๆเดินไปยังตู้เสื้อผ้าที่เด็กหนุ่มน้อยเจ้าของห้องวางปืนเอาไว้ ก่อนจะคว้ามันอย่างรวดเร็วแล้วกระชับไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวซึ่งผลที่ออกมาคือ มันสั่นเล็กน้อย เพราะอาการล้าและบาดเจ็บของแขนด้านที่ถูกทำร้ายเมื่อก่อนหน้า นิชคุณชั่งใจอยู่ซักพักจึงเหวี่ยงมันไปไว้มืออีกข้างหนึ่ง ซึ่งก็ยอมรับว่าไม่ถนัดนัก...
เขาเล็งปืนขึ้นตั้งตรงให้ขนานไปกับแขนอย่างเช่นทุกครั้ง หากคราวนี้มันนิ่งกว่าเดิมมาก นิ่งจนแทบไม่ขยับ พลางเล็งไปยังจุดหมายแล้วจึงกดยิง..
เพียงแต่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เพราะว่าปืนนั้นไม่ได้ขึ้นไกเอาไว้ ชายหนุ่มทำซ้ำๆแบบเดิมอยู่หลายต่อหลายครั้งจนแน่ใจดีแล้วว่ามันเริ่มชินกับการที่ต้องใช้แขนซ้าย จึงวางมันลงที่เดิม
“เฮ้อ..รู้วึกแปลกๆกับงานนี้จริงๆ”นิชคุณกลับมานั่งทบทวนเรื่องงานอีกครั้ง เขารู้สึกแค่เพียงว่ามันง่ายเกินไปต่อลงมือทำ หลังจากที่ฆ่าเหยื่อไปตามคำสั่งเสร็จ และหลังจากนั้น ความกลับแดงขึ้นมาราวกลับมีคนรู้ความเคลื่อนไหวทุกฝีเก้าเพียงแค่รอให้งานสำเร็จก่อน ถึงได้ถูกตามล่าอยู่แบบนี้
แต่อย่างว่าเรื่องนี้เริ่มจะบานปลาย โดยเฉพาะที่อูยองช่วยเขามา มันดีที่เขายังไม่ตาย แต่มันจะแย่ ก็เพราะว่า เด็กหนุ่มคนนั้นคงไม่แคล้วติดบ่วงมีเรื่องตามไปด้วย!!
................................
.....................
.........
“กลับมาแล้วฮะ..”เสียงแจ๋วๆของคนน่ารักที่หายไป ดังแว่วมาพร้อมกับการเปิดประตูห้องอย่างเบาๆ คิดเอาว่าเขาก็ไปนานพอดูน่าจะมากพอจนอีกคนได้นอนหลบพักผ่อนเสียแล้ว แต่ก็รู้ได้เลยว่าเข้าใจผิด
“กลับมาแล้วหรอ..”ก็พ่อตัวดียังนั่งตาแป๋ว ดูโทรทัสน์ด้วยท่วงท่าที่ดูไม่สบายตัวเท่าไหร่นัก
“อ้าวคุณ ทำไมยังไม่นอนอีก นี่ตั้งแต่ผมไป ได้นอนบ้างหรือยัง”อูยองรีบวางของพะรุงพรังในมือลง ก่อนรีบเดินเข้าไปหา พร้อมกับถามไถ่ ด้วยความที่พื้นฐานนั้นเป็นเด็กจิตใจดี จึงห่วงเขาไปทั่วอย่างนี้
“ยังเลย ว่าแต่เพื่อนนายคนนั้นล่ะ”นิชคุณถามเมื่อไม่เห็นเงาคนที่ออกไปด้วยกันเมื่อบ่าย
“อ๋อ โจควอนน่ะหรอ โน่น..เอาของมาส่งแล้วรีบไปแล้ว คุณพ่อท่านรีบตามให้กลับเห็นบอกว่ามีแขกไปใครมาไม่แน่ใจ เอ่อ เรื่องคนอื่นน่ะเอาไว้ก่อน ว่าแต่หิวข้าวไหม เดี๋ยวผมไปเตรียมให้ คุณจะได้ทานยาแล้วนอน เนี่ย ผมซื้อฝูกใหม่มาแล้วสองอัน แล้วก็ของใชที่จะเป็น ใบเสร็จอยู่ในกระเป๋าเดี๋ยวเอาให้นะ”เจ้าตัวเล็กพูดยาวก่อนจะคว้าถุงอาหารเข้าครัวที่อยู่ถัดไปไม่เกินสองก้าว พลางแกะอาหารลงจานอย่างเบามือ
“ฉันบอกแล้วไงว่าช่างเถอะ..ว่าแต่นายยังเรียนอยู่ใช่ไหม”นิชคุณว่าพลางค่อยถามไถ่ประวัติของเจ้าของชายคาเล็กๆน้อย ถือซะว่าเรียนรู้กันไป
“ครับ..ผมเรียนเชฟ ที่มหาลัยนัม แต่เพราะว่าต้องอยู่คนเดียว เงินที่ทางบ้านส่งให้มันก็ไม่พอ ลำพังคุณป้าคนเดียวท่านก็ส่งผมไม่ไหว เลยต้องทำงานช่วงเย็นบ้าง หรือ จ๊อบนอกอย่างอื่นบ้างไปด้วยน่ะครับ..”อูยองวางอาหารลงตรงหน้า ข้าวผัดกิมจิ ใส่เนื้อหมูที่ดูท่าจะกินง่ายๆ พร้อมกับช้อนอีกคัน
“หรอ..แล้วพ่อแม่นายล่ะ..”เม้จะไม่ถนัดมากนักแต่ก็นับว่าดีที่อีกคนส่งช้อนให้อย่างรู้ทัน
“พ่อแม่ทิ้งผมไว้กับป้า เพราะพ่อกับแม่ ไม่มีเงินพอจะเลี้ยงผม ท่านบอกว่าผม..เดจากความไม่ตั้งใจ แต่ก็ไม่เป็นครับ เพราะยังไง ป้าก็รักผมมาก..ถึงแม้ว่าตอนนี้ท่านจะอายุมากแล้ว..”อูยองเพียงแค่ตอบเท่านั้น ไม่ได้ถามต่อกลับ เพราะในใจก็รู้ว่าอีกคนอาจอยากเก็บเรื่องของตัวเองไว้เป็นความลับ
“แล้วนาย..ไม่อยากรู้หรอ..ว่าฉันเป็นใคร..”นิชคุณเงยหน้าขึ้นมองดวงหน้ากลมน่ารักน้อยๆ
“ไม่ล่ะครับ ขนาดคุณยังต้องหนีมาอยู่ที่นี้เลย เพราะงั้นก็อย่าบอกเลยดีกว่าฮะ เผื่อมีใครจับผมไปเค้นหาอะไรบางอย่าง ผมจะได้บอกเขาไปว่าไม่รู้ไม่เห็นไงครับ ให้เรารู้จักแค่เพียงชื่อคุณมาเป็นผู้อาศัยของผมเถอะ..”ไม่ใช่ว่าไม่อยากคบหาหรืออยากรู้จัก และไม่มีเหตุผลอื่นๆแอบแฝง
เพียงแต่กลัวความสนิทสนมจะทำให้ลำบากใจเมื่อยามจากลา
“ผมลืมบอกไปหรือเปล่าครับ..ยินดีต้อนรับสู้รังแคบๆของผมนะฮะ”อูยองยิ้มหวานยื่นมือไปด้านหน้า ความร่าเริงสดใสที่เติมเต็มโลกที่เคยมืดมนให้มชีวิตชีวาอย่างไม่รู้ตัว
“ฉันนิชคุณ..ฝากเนื้อฝากตัวด้วยละกันนะ”ชายหนุ่มเองก็เอื้อมมือมาจับกันเอาไว้แน่น..
ใครจะรู้วว่าพันธผูกพันนี้มันจะสั้นมากแค่ไหน...หรือที่จริงแล้ว มันอาจจะยาวนาน จนคนทำสัญญาทั้งสอง ไม่อาจคาดคิดเลยก็เป็นได้
********************************************************
เสียงพุดคุยที่ดังมาเบามากเสียจน จุนโฮที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานนี้ได้ยินเพียงแค่อื้ออึงนิดๆ น่าแปลกที่ผู้ชายตัวโตๆ อย่างสามคนนั้นที่เวลาทะเลาะกันเสียงดังไปสามบ้านเจ็ดบ้าน แต่พอคุยเรื่องเป็นการเป็นงาน กลับเสียงเบาเสียจนขนาดปิดโทรทัศน์แล้วก็ไม่ได้ยินอะไรเลย
สุดท้ายก็เลยเลิกสนใจไปเลยนี่ซิ..ต่างกับความเคลื่อนไหวของอีกห้องสิ้นเชิง
“พี่ว่างานนี้มีลับลมคมนัย โดยเฉพาะบอส พี่ว่าบอสแปลกไป..”แจบอมพูดออกมาน้อยๆ เข้าเรื่องให้อีกคนได้รับรู้ และอย่างยิ่งพาดพิงถึงนายเหนือหัว
“อะไรนะพี่ เจ้านายอะนะ พี่บ้าหรือเปล่า ว่าแต่ทำไมพี่คิดอย่างนั้นล่ะ”ชานซองมองหน้าเพื่อนร่วมงานที่มีศักดิ์เป็นพี่อย่างสงสัย เขาทำงานด้วยกันมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นแค่เด็กมัธยมปลายที่ถูกฝึก ให้กับเจ้านายคนเดิม จะว่าเจ้านายทำตัวแปลกก็ดูจะไม่มีเหตุผลเท่าไหร่
และอย่างยิ่ง คนโปรดของบอส อย่างนิชคุณที่ไม่เคยทำงานพลาด
“รู้ไหม ฉันเข้าไปรายงานบอสตามระเบียบ ยืนยันการตายของงาน และ ยืนยันสถานะของเจ้าหน้าที่ว่ายังอยู่ แว่บนึง ฉันเห็นแววตาผิดหวังของบอส ถึงจะแค่แว่บเดียวแต่ฉันก็เห็น..”แจบอมย้ำเตือนว่าสิ่งที่เขาเห็นน่ะเป็นจริง
“เฮ้ย..นายตาฝาด เปล่าเนี่ย”แทคยอมเอามือเท้าโซฟาหงายหน้ามอง ชวนให้กวนอารมณ์จนบอกไม่ถูก
“นี่..ตาฉันน่ะมันไม่ฝาดหรอกนะจะบอกให้..ไม่ฝาดเลยจริงๆขอบอก..นายอย่ามาหาเรื่องได้ไหม..”แจบอมที่เริ่มรำคาญเลยหันไปแฟ่ดเข้าให้อีกที
“ก็แค่คิดว่ามันไม่น่าจะป็นไปได้เท่านั้นเอง”แทคยอนยักไหล่ตอบ
“งั้นก็เงียบปากไปเลยเหอะ อย่าออกความเห็น ถ้าไม่มีอะไรดีกว่านี้”แจบอมสวนขึ้นมา คราวนี้องค์เหวี่ยงเริ่มจะลงมาประทับกลายๆ จนชานซองได้แต่ส่ายหัว
“เดี๋ยวๆๆๆ พี่เอางี้ อย่าเพิ่งตีกัน แนวโน้มของพี่เจย์ ผมก็ว่ามีทาง อย่างที่บอก พี่คุณไม่เคยพลาดเลยซักครัง มาพลาดท่าเอาอย่างนี้ก็น่าแปลก เหมือนมีใครซักคนรู้แผน ซึ่งนอกจากเรา ก็มีเจ้านาย เพราะงั้นจับตาดูเจ้านายเอาไว้ อ่อ..อีกอย่างเรื่องที่อยู่นั้น..ผมจะบอกบอสว่าผมไม่รู้ พี่คุณฝากโน้ต มาให้แค่นั้นโอเคไหม..”ถึงแม้เวลาเล่น ชานซองจะดูไม่สมประกอบไปบางแต่ถ้าต้องจริงจัง เขาก็รู้หน้าที่ของตัวเองดี
“เอางั้นก็ได้..ยังไงซะ ฉันอยากให้นายไปหาไอ้คุณพรุ่งนี้ ไปดูให้แน่ใจว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือ แล้วค่อยติดต่อกลับมา..โอเค”หัวหน้าสั่งการอย่างแทคยอนสรุป ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อลูกน้องแต่ขอความแน่ใจโดยใข้เวลาเป็นตัวพิสูจน์อรกซักนิดคงดี
“ครับผม..ยังไง ผมจะหาจังหวะดีๆไปให้เร็วที่สุดนะครับ”
“ดีแล้วล่ะ งั้นไม่มีอะไรแล้วพวกฉันขอกลับก่อนก็แล้วกันนะ..”แทคยอนหันมาบอก พร้อมยิ้มอ่อนๆที่ดูก็น้ว่มีเรื่องที่ต้องคิดอีกมาก แล้วจึงพยักเพยิดให้เพื่อนคู่กัดลุกขึ้นตาม
“โอเคครับ แล้วเดี๋ยวเจอกัน ยังไงก็กลับดีๆนะครับ..”
.....................................
........................
.........
“กลับกันไปหมดแล้วหรอ..”จุนโฮที่เดินเข้ามาในครัวเพื่อหาน้ำดื่มตอนกลางคืน มองเห็นชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงห้องนั่งเล่นแต่เพียงลำพัง ไร้เงาแขกที่มาเมื่อเย็นทั้งสอง
เขามองดูใบหน้าด้านข้างใต้กรอบแว่นทันสมัยของคนที่กำลังทำหน้าเครียดพยักหน้าแทนคำตอบโดยไม่หันมามอง แล้วจึงเดินเข้าไปหาราวกลับมีแรงดึงดูด
“ดื่มน้ำก่อนไหม..ดูซิหน้าเครียดจังเลย งานยากหรอ”จุนโฮส่งแก้วน้ำให้ หย่อนตัวลงนั่งด้านข้างอีกคนที่เอามือรวบเอกสารมาไว้เป็นกองเดียว พลางรับน้ำในมือของจุนโฮมาดื่มแบบรวดเดียวหมดเลย หากก็ยังไม่ใช้เสียงตัวเองตอบคำถามใดๆที่อีกฝ่ายถามมาเลยซักข้อ
“หิวหรือเปล่า เดี๋ยวไปหาอะไรให้กินเอาไหม..”จุนโฮยิ้มอ่อน อยากเอาใจอีกคน ก่อนทำท่าจะลุก หากไม่ติดที่อีฝ่ายเอามือคว้าเอาไว้ฉุดให้นั่งลง..
ชายหนุ่มคนเดิมยังคนจับข้อมือของจุนโฮเอาไว้แน่นลางใช้มือข้างว่างถอดแว้นตาของตัวเองออก ก่อนจะซบศีรษะลงกับไหล่ของเขาเบาๆ พลางถอนหายใจอย่างคนที่คิดอะไรมากมาย ซึ่งจุนโฮเองก็ไม่อาจรู้ได้
“ไม่เอาอะไรทั้งนั้นล่ะ เขาขออยู่อย่างนี้ซักพักก่อนจะได้ไหม..” สิ้นคำพูดที่ออดอ้อนออเซาะนี้..กลับมีแต่ความเงียบ ไร้ซึ่งคำอนุญาติหรือตอบรับ
หากแต่จุนโฮเองกลับไม่ผลักไส หรือลุกหนี อย่างมากที่สุดก็ทำได้แค่เพียง กุมมือของชานซองและบีบมันเอาไว้เบาๆเท่าที่เขาทั้งสองจะสัมผัสได้ซึ่งความอบอุ่นของกันและกันเท่านั้นเอง
**********************************************************
TBC
ความคิดเห็น