ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC EXO} Broken Wing .. แบคนางฟว้า [ChanBaek] Yaoi

    ลำดับตอนที่ #4 : - Broken Wing - 3 (60%)

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.พ. 58


     

     

     

    THREE

     

     

     

     

    “อ…อ๊ะ…อ๊ะ…ฮึก”ร่างกายเล็กบิดเร้าไปมา ขาบางเบียดเสียดกัน ราวกับสะกดกลั้นอารมณ์ ทั้งหอบหายใจแรงเสียจนตัวเกร็ง

     

    มือบางขยับคว้าท่อนแขนแข็งเอาไว้อย่างไม่มีสติ จับยึดแน่นเสียจนแทบจิกเล็บลงรอยเพียงแต่เจ้าของแขนนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร

     

    “แบคฮยอน กลั้นไว้ก่อน..กลั้นไว้”เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหูเล็ก แขนที่หนาไปด้วยกล้ามเนื้อโอบล้อมกายคนที่เอนพิงอกเปลือยเปล่าของเขาเอาไว้ จนสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร้อนที่ส่งมาจากตัวของอีกฝ่ายรวมไปถึงเหงื่อเม็ดเล็กและกลิ่นกายหอมอ่อนที่รินรดออกมาราวกับไม่รู้หมด

     

    ชายหนุ่มสังเกตได้ว่าเมื่อแบคฮยอนเกิดอารมณ์อย่างเต็มที่ จะส่งกลิ่นหอมหวานอบอวลและช่างเย้ายวนเหมือนดอกไม้หอมซึ่งเป็นเรื่องที่ออกจะแปลกประหลาดอยู่มากเลยทีเดียว

    ผิวเนื้อกายขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงเสียจนน่ากลัวว่าเนื้อกายจะปริแตกออกมาหรือไม่ เสียงร้องครางหงิงตรงหน้าไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มนึกสงสารแม้แต่น้อย เพียงแต่เกิดความเอ็นดูแค่เศษเสี้ยวหนึ่ง

    ก่อนจะยิ่งขยับมือรูดรั้งตามแก่นกายขาวของคนตัวเล็กให้เร็วขึ้นไปเพื่อให้คนที่นั่งอยู่บนตักอารมณ์พลุ่งพล่าน

     

    “อดทนไว้อีกนิด..ให้นานกว่านี้ก่อน”มือหนาดึงจังหวะให้ช้าลงจากเมื่อกี้ หากแต่นั่นทำให้คนตัวเล็กกลับสะดุ้งเฮือกทั้งๆที่ดวงตายังคงปิดสนิทอยู่

    “อ..อึก..อื้อ!!!!..”เพียงแต่ท่าทางจะไม่ทันแล้วเมื่อ เจ้าตัวปลดปล่อยออกมาเสียจนแทบหมดตัว

    “ยังหลั่งออกมาเร็วเกินไปซินะ”เสียงทุ้มพูดกับตัวเอง ก่อนจะช้อนคนตัวเล็กลงวางแนบกับที่นอนนุ่ม จัดแจงแต่งตัวให้คนตัวเล็กราวกับว่าเรื่องราวเมื่อกี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาก่อน

     

    อาจจะต้องขอบคุณยานอนหลับที่มันออกฤทธิ์ดีเสียจนไม่ทำให้อีกคนตื่น ขนาดเขาทั้งบีบเค้นลูบไล้ไปเสียมาก ต่อให้ไม่ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้บนเนื้อนวล หรือแตะต้องกับช่องทางด้านหลังของแบคฮยอน แต่ก็นับได้ว่าเขาเองก็ไม่ได้เบามือกับร่างเล็กเหมือนกัน

    นี่เป็นคืนที่เจ็ดแล้วที่แบคฮยอนมาอยู่ที่นี่ ในเจ็ดคืนที่ผ่านมาเขาแทบสอนงานให้แบคฮยอนวันเว้นวัน เพื่อให้เจ้าตัวจดจำสัมผัสที่เขาสอนให้ได้อย่างแม่นยำ

    นอกจากนั้นที่เหลือในวันหลังจากที่ชานยอลพาออกไปซื้อของเด็กหนุ่มก็แทบไม่ได้ไปไหนเนื่องด้วยชานยอลนั้นมียุ่งด้วยธุรกิจ จึงได้บอกให้แบคฮยอนอยู่ที่ห้องนี้เพื่อความปลอดภัย โดยใช้คำขู่ที่ว่าหากความแตก คนภายนอกรับรู้ว่าเขาเป็นนางฟ้าแล้วละก็แบคฮยอนอาจจะไม่ได้กลับสวรรค์อีก

    เหมือนคำหลอกเด็กที่ใช้ได้ผลกับคนไม่ประสาอย่างแบคฮยอน

     

    ชานยอลมองผู้คนที่เข้าร่วมและแสดงความเห็นที่กำลังทยอยพิมพ์ข้อความมากมายให้กับสิ่งที่เขาลงค้างเอาไว้เมื่อต้นคืนผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของเขาด้วยใบหน้าพึงใจ

     

    ‘นางฟ้าตกสวรรค์’ คำจำกัดความพร้อมกับการแนบรูปถ่ายของแบคฮยอนแค่เพียงใบหน้า ลงสู่เว็บตลาดมืดของปาร์ค ชานยอล

     

    กลับมีลูกค้ามากมายทั้งชายหญิงต้องการตัวเป็นอย่างมาก โดยที่เขาเองก็ยังไม่ได้บอกรายละเอียดที่แท้จริงแม้แต่นิดเดียว แต่กลับได้รับการตอบรับมากเกือบเป็นประวัติการ

    ยังไม่ทันที่จะตั้งราคาก็มีคนเสนอเกาะส่วนตัวมาให้แค่แลกกับเด็กที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า เพียงเพราะรูปเสี้ยวใบหน้าเพียงใบเดียว มันช่างดีเหลือเกิน

     

    ถ้าหากถึงตรงนี้ก็น่าจะพอทราบว่าชานยอลกำลังเริ่มหว่านแหหาลูกค้า และล่อเหยื่อให้มาสนใจสินค้ามีชีวิตอย่างแบคฮยอน ซึ่งมันได้รับการตอบรับมากเสียยิ่งกว่ามาก

    ชายหนุ่มใช้ปลายนิ้วเคาะโต๊ะไม้สักงามเบาๆ เหลือบตามองไปยังคนที่นอนหลับอยู่ด้วยรอยยิ้มที่เมื่อแบคฮยอนตื่นขึ้นมาจะไม่มีวันได้เห็นก่อนจะผุดลุกขึ้นสาวเท้าเข้าหาเป้าหมาย

     

    “ฉันจะเลี้ยงเธอเป็นอย่างดี ฉันฟูมฟักเธอด้วยความรักจอมปลอมของฉัน”ชานยอลกระซิบที่ข้างหู รู้เต็มที่ว่าอีกคนไม่มีทางรับรู้และได้ยินเพราะฤทธิ์ยานอนหลับที่เขาวางเอาไว้ตั้งแต่ก่อนนอน

    “เธอจะทำเงินให้ฉันมหาศาลแน่ๆ”ชานยอลลูบแก้มใสที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูจางๆ จากก่อนหน้าที่เป็นสีเข้มเพราะกิจกรรมที่ชานยอลช่วยปลดปล่อยให้กับแบคฮยอน

     

    ใบหน้าใสที่แสนไร้เดียงสา ไม่มีแม้แต่ราคี ริ้วรอยตำหนิใดๆ แม้แต่ในร่มผ้าเขาเองก็ได้ตรวจตรามาดีแล้ว

    ในหัวสมองของเขากำลังเริ่มคิดสิ่งที่ต่างกว่านั้น เขาสอนการปลุกอารมณ์ของแบคฮยอนด้วยวิธีเดิมๆมาเจ็ดวัน และคิดว่าในคืนพรุ่งนี้เขาคงต้องเริ่มสอนอะไรที่มากกว่านี้

     

    “รอก่อนนะ ไม่ต้องรีบ..ฉันเองยังไม่รีบร้อนเลย”ชานยอลบอกอย่างนั้น ใจก็ไม่ได้นึกสงสัย ไม่รู้ทำไมพวกลูกค้าถึงต้องการตัวเด็กคนนี้แค่เพียงได้เห็นเสี้ยวใบหน้าของรูปใบเดียว

     

    ชานยอลไม่อยากจะคิดภาพต่อจากนี้ ถ้าหากคนพวกนั้นได้เห็นตัวจริงๆ พร้อมปีกสีเงินสวยคู่นั้น เขาแทบไม่ต้องเดาเลยว่า แค่เพียงเกาะส่วนตัวที่มาเสนอให้คงยังน้อยเกินไปกับค่าที่ควรและเหมาะสม

    มันเกินกว่าสิ่งที่ชานยอลลงทุนไปมหาศาล เรียกว่าได้กำไรไม่ต่างจากการจับเสือมือเปล่าเลยสักนิด

     

    “ไม่ต้องรีบ ค่อยๆโต ฉันอยากให้เธอค่อยๆโต…แบคฮยอน”

     

     

    ความรักมันก็เหมือนกับการเลี้ยงลูกหมาตัวเล็กๆ

    การเลี้ยงลูกหมาตัวหนึ่ง ต้องมีเวลา ต้องใส่ใจ ต้องให้ความรัก ความอบอุ่นกับมันและคอยฝึกให้มันเชื่องและสอนให้จดจำ ดุบ้างเป็นบางเวลาให้มันเชื่อฟังแต่เจ้าแค่เพียงผู้เดียว

    ชานยอลคิดว่าการอยู่กับแบคฮยอนเองก็ไม่ต่างกัน แม้จะเป็นความรักปลอมๆแต่มันจะไปยากตรงไหนที่เขาจะทำแบบนั้น มันไม่ได้ยากเลย

     

    “วันนี้อยากออกไปไหนไหม”ชานยอลถามเสียงทุ้มน่าฟังเมื่อวันนี้เขาไม่ได้มีงานทำอะไรเป็นหลักแหล่งอย่างที่เคย แม้จะอยากพักผ่อนอยู่บ้างแต่ก็ยังมีเรื่องให้ต้องทำอยู่เหมือนกัน

    “ถามแบคฮยอนหรอครับ คุณชานยอล”คนตัวเล็กที่นั่งมองวิวทิวทัศน์และท้องฟ้านอกหน้าต่างห้องด้วยความเหม่อลอยถึงกับสะดุ้งเฮือกหันมาถาม

     

    ตอนนี้แบคฮยอนพยายามไม่สบตา นับวันเจ้าตัวยิ่งฝันประหลาดมากขึ้นจนชักเข้าหน้าไม่ติด นับวันยิ่งฝันถลำลึกลงไป หากแต่ก็มีความสุขสมในฝันเสียเหลือเกิน

     

    “ม..ไม่ครับ”แบคฮยอนตอบเสียงอ่อย

    “หรอ..มานั่งใกล้ๆนี่มา”ชานยอลว่าพลางดึงคนตัวเล็กที่นั่งห่างให้เข้ามาเกยอกเอาไว้ มือใหญ่ลูบศีรษะเล็กเบาๆ ให้เจ้าตัวเล็กนอนพิงอกเอาไว้อย่างนั้นโดยแบคฮยอนไม่กล้าแม้แต่หายใจแรง

     

    หัวใจดวงเล็กเต้นตึกตักขึ้นมา เมื่อได้รับการกระทำที่แสนอบอุ่นและอ่อนโยนที่ในชีวิตของเขาไม่เคยได้รับมาก่อน

    การเป็นนางฟ้ามีเรื่องซับซ้อนมากมาย พวกเราโตจากการอนุบาล เราได้รับความรักและความอาทรณ์จากผู้อนุบาล ซึ่งเป็นงานของแบคฮยอนในตอนนี้ การที่เขารับผิดชอบเด็กจำนวนยี่สิบคนไม่ต่างจากการที่เขาเป็นแม่เด็กเหล่านั้น แต่ก็มีหน้าที่ดูแลจนกระทั่งอายุได้พอเข้าศึกษาพื้นฐาน เด็กเหล่านั้นก็จะออกจากอกเขาไป

    และมันจะวนเวียนอย่างนี้จนกว่าแบคฮยอนจะเกษียณอายุขัยของตัวเอง เหมือนการทำงานซ้ำเดิมๆแต่ก็เป็นวิถีของคนบนฟ้า

     

    “เอาล่ะ..แล้ววันนี้อยากทำอะไรไหม”ชานยอลถามย้ำอีกครั้ง น้ำเสียงทุ้มนุ่มจงใจกระซิบที่ข้างใบหูขาว รู้อยู่แล้วว่าไม่กี่วินาทีใบหูเล็กนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดง

    “แบคฮยอนไม่..ไม่รู้จักที่ไหนเลยครับ”คนตัวเล็กตอบตามจริงเขาไม่รู้จักอะไรเลยบนโลกนี้

    “งั้น..ฉันพาเธอไปรู้จักโลกนี้ดีกว่าเนอะ นางฟ้าตัวน้อยของฉัน”เขาจงใจหยอด ไม่ได้ใช้น้ำเสียงหวาน แต่พูดแบบสบายๆให้รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องปกติที่คุยกัน เพื่อให้อีกคนคุ้นชินกับการได้รับการใส่ใจ

    “ถ้าคุณชานยอลว่าง”

    “สำหรับเธอน่ะฉันว่างเสมอ”ชานยอลกดปลายจมูกโด่งของเขาลงที่พวงแก้มใส สูดกลิ่นดอกไม้อ่อนบริสุทธิ์ จากผิวบางอีกคนเสียเต็มปอดทำเอามือเล็กต้องลูบแก้มของตนเองเบาๆ ขบเม้มริมฝีปากแน่น เป็นอีกครั้งที่หัวใจของนางฟ้านั้นเต้นแรงราวกับบ้าคลั่งก็ไม่ปาน

     

     

    สรุปแล้วชานยอลจึงเลือกสถานที่ที่คิดว่าเหมาะสมกับแบคฮยอน แม้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะบอกว่าตนเองเกิดมาจากดอกไม้สิบแปดปีแล้ว แต่เขาก็คิดว่าสำหรับคนที่ไม่เคยเรียนรู้โลกเลยคงตื่นตาตื่นใจไม่น้อย

    แม้ว่ารูปการณ์ที่ออกมาจะดูแปลกที่แปลกทางสำหรับชานยอล และผู้ติดตามทั้งสามของเขาไปเสียมากก็ตาม

     

    “คุณชานยอลฮะ..ดูนั้นซิ มันคือตัวอะไร มันตัวใหญ่กว่าเราอีก”คนตัวเล็กในชุดลำลองชี้มือไปยังสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่มันกำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ใบหน้าขาวยิ้มเสียจนแก้มตึงไปทั้งสองข้าง

    “นั่นน่ะฮิปโป” ชานยอลตอบอย่างอบอุ่นราวกับพี่ชายแสนดีที่พาน้องชายมาเที่ยวเล่นสวนสัตว์จนผู้ติดตามทั้งสามของเขาทำหน้าแปลกๆไป

     

    เอาจริงๆว่าชานยอลแบบนี้ดูน่ากลัวอย่างประหลาด

     

    “มันพ่นน้ำได้ด้วย น่ารักจังเลยแบคฮยอนไม่เคยเห็นเลย ที่บนฟ้าหน้าตาไม่น่ารักแบบนี้เลย มีแต่พวกตาเยอะๆ น่ากลัวไม่น่ารักแบบนี้หรือไม่ก็พวกสัตว์ตำนาน พวกหมาแมวสิงโต มังกร แต่แบบนี้ไม่เคยเห็น”มือเล็กชี้ไปมาที่สัตว์ตรงหน้าและอีกหลายๆตัว

    “น่ารักก็ดูมันซิ ดูให้พอเลย”ชานยอลก้าวเข้ามายืนเคียงข้างและจึงเอามือโอบเอวเล็กให้แนบชิดเค้ามาใกล้ วันนี้อากาศค่อนข้างเป็นใจไม่หนาวไม่ร้อนแต่ก็มีลมเย็นๆที่ทำให้แกมขาวนั้นแดงขึ้นมาได้

    “คุณชานยอลมันคุยแบคฮยอนด้วย มันตลกจังเลย..”แบคฮยอนเจื้อยแจ้ว เพียงแต่ชานยอลเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยิน

    “แล้วมันพูดว่าอะไรล่ะ”

    “มันบอกว่าแบคฮยอนไม่ควรมาที่นี่ แบคฮยอนไม่ควรอยู่ที่นี่ ควรกลับไปในที่ของแบคฮยอน ดูซิมันไล่แบคฮยอนใหญ่เลย เจ้าสัตว์ใจร้าย”แบคฮยอนทำหน้างอตัดพ้อเจ้าฮิปโป

    “งั้นหรอ..”ชานยอลว่าอย่างนั้นก่อนใช้สายตานิ่งๆมองไปยังเจ้าสัตว์ตัวใหญ่ที่ตอนแรกทำเหมือนเล่นน้ำแต่อยู่ก็มาจดจ้องคนตัวเล็ก

    “ไปที่อื่นเถอะครับ แบคฮยอนไม่ชอบมันแล้ว มันไม่ดี..มันว่าคุณชานยอล บอกคุณชานยอลไม่ดี แบคฮยอนไม่ชอบฮิปโปแล้ว”แบคฮยอนว่าพลางดึงแขนอีกคนแบบเร็วๆ ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะทำตามอย่างไม่ขัดข้อง แน่นอนว่า..เขามองลึกไปยังเจ้าฮิปโปตัวนั้นไม่วางตาก่อนจากกัน

     

    เดินมาอีกไม่ไกลเท่าไหร่กลับกลายเป็นกรงเสือเบงกอลสีขาวตัวเขื่อง แบคฮยอนอดไม่ได้ที่จะตาโตขึ้นมาอีกครั้ง เขารู้จักเสือ แน่นอน..สัตว์พื้นฐานเป็นดังตำนานสมมติเทพนั้นมีเช่นกันที่สวรรค์

     

    “เสือ…เสือๆๆๆๆ”แบคฮยอนร้องเรียกเสียงดัง มันอยู่ในกระจกอย่างหนาเพื่อกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้นแบคฮยอนจึงเรียกเสียงดัง โดยมีชานยอลยืนมองอยู่เพียงไกลๆ

     

    นางฟ้าในคราบมนุษย์เดินเข้าไปใกล้กระจกโดยไม่รู้ว่านั้นคือสิ่งที่ตัวเองไม่ควรทำเลย เมื่อเจ้าตัวนั้นอ่านหนังสือไม่ออกว่าห้ามเข้าใกล้เพื่อความปลอดภัย คนเริ่มหันมามองแต่ชานยอลกลับยังนิ่งเฉย

    สีขาวปลอดและลายพาดกรสีดำกำลังดึงดูดให้แบคฮยอนเขาใกล้ ขนที่พองฟูท่าทางจะนุ่มมือน่าดูไม่ต่างจากแมวตัวใหญ่ ถึงเขาจะรู้จักแต่ก็ไม่เคยเห็นมันตัวเป็นๆเลยสักครั้งเดียว

     

    “เสือ..มานี่..ออมกยองใช่ไหม..ออมกยองมานี่”แบคฮยอนเรียกชื่อ เจ้าเสือที่นอนหลับอยู่กระดิกหูขึ้นมาเล็กน้อย มันเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงเรียกอย่างน่าประหลาดใจ ชานยอลยังคงจับจ้องอยู่ไม่วางตา

     

    เขากำลังพิสูจน์ว่าแบคฮยอนสามารถคุยกับมันได้จริงหรือไม่..เหมือนที่แบคฮยอนคุยกับเจ้าสัตว์อ้วนหน้าตาน่าเกลียดรู้มากตัวเมื่อกี้

    เจ้าเสือตัวนั้นค่อยๆขยับร่างของมันเข้ามา มันยังคงไม่เข้าใกล้แบคฮยอนหากแต่ก็วนเวียนไปมาเหมือนกำลังอวดโฉมความน่าเกรงขามให้คนตัวเล็กกลัว พร้อมทั้งยังใช้ตาสีฟ้าของมันจ้องมองมายังคนตัวเล็กอีกต่างหาก

    เพียงแต่ฝ่ามือน้อยๆยังคงแตะกระจกไม่ไปไหน สายตาอ่อนมองไปยังเจ้าเสือที่กำลังสำรวจเขาอยู่อย่างนั้นโดยไม่ได้สื่อสารอะไรกัน

    แต่สิ่งที่ทุกคนไม่คิดคือ มันเอาหัวอันใหญ่โตของมันมาถูไถกับกระจกตรงที่ฝ่ามือเล็กนั่นแนบเอาไว้ ราวกับว่าอยากให้มือเล็กนั้นลูบหัวก่อนนอนหมอบลงที่แทบเท้าเล็ก แม้จะมีสิ่งกีดขวางอยู่ก็ตาม

     

    “ออมกยอง เด็กดี..”แบคฮยอนบอกอย่างนั้นมันยังคงนอนหมอบอย่างน่ารักราวกับแมวถูไถหัวที่ปลายเท้าของแบคฮยอนจนคนรอบข้างมองมาอย่างนึกประหลาดใจ

     

    ชานยอลกระซิบกระซาบบางอย่างกับเทาคนสนิทที่พยักหน้าพร้อมทั้งทำตาม ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้แบคฮยอนที่ยังคงยืนยิ้มอ่อนพูดคุยกับเจ้าเสือตัวเขื่องตัวนั้น แต่เมื่อชานยอลเดินเข้ามาใกล้แบคฮยอนเพียงเท่านั้น

    เจ้าตัวใหญ่กลับรีบพลิกตัวลุกขึ้นมองหน้าและแยกเขี้ยวอย่างน่ากลัวจนชานยอลต้องดึงคนตัวเล็กให้ออกห่างจากกระจก

     

    “ออมกยองหยุดนะ คุณชานยอลมากับแบคฮยอน ช่วยแบคฮยอนเอาไว้..คุณชานยอลใจดี อย่าพูดไม่ดีทำไม่ดีนะ”แบคฮยอนพูดเสียงเข้มแบบที่คิดว่าดุแม้ว่ามันจะดูน่ารักมากก็ตาม

     

    แต่เจ้าเสือที่ทำท่าทางน่ากลัวใส่ชานยอลกลับหยุดแยกเขี้ยวแต่มันยังจ้องชานยอลอย่างไม่วางตาราวกับจดจ้องทุกการกระทำ ระวังภัยให้คนตัวเล็ก

     

    “พวกเธอไม่รู้อะไร..อย่าพูดถึงเขาไม่ดี..”แบคฮยอนบอกเล็กน้อย ผละตัวออกมากจากชานยอลเพื่อเดินเข้าไปใกล้กระจกอีกครั้งแนบหน้าลงไปกับกระจก โดยที่เจ้าเสือก็ทำแบบเดียวกัน มันกลับมาเป็นเจ้าแมวอีกครั้งเมื่อแบคฮยอนทำท่าทางอ่อนโยนใส่

    “เข้าใจเนอะออมกยอง..เจ้าตัวน่ารัก”แบคฮยอนบอก

     

    ชานยอลยังคงเลิกคิ้วมอง เขายกยิ้มเมื่อมีความคิดที่แม้จะประหลาดแต่ก็คิดว่ามันคงจะดีถ้าเขากันเอาไว้ดีกว่ามันจะมีปัญหาในภายภาคหน้า

    เขาคิดว่าจะไม่ให้แบคฮยอนมาสวนสัตว์หรือแม้แต่เข้าใกล้สัตว์ถ้าไม่จำเป็น โดยเฉพาะสัตว์ป่าพวกนี้ พวกมันมีสัญชาตญาณระวังภัยและแยกแยะอันตรายกับศัตรูได้อย่างดี

     

    มันจะทำให้เรื่องยุ่งยากขึ้นเพราะพวกมันย่อมรู้ว่า สัตว์เดรัจฉานอย่าง ปาร์ค ชานยอลเป็นตัวอันตรายที่ไม่ควรเข้าใกล้ สัตว์ฟ้าอย่าง บยอน แบคฮยอน

     

     

     

    (60%) นั้น..นางนึกจะมานางก็มา….นางอยากมา…มันเป็นอารมณ์!!!  ฝากเล่นแทค #แบคนางฟว้า กันโต้ยนะคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×