คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [SF]Wanna loose weigh
[SF]Wanna loose weigh..อ้วนยังไงก็รัก
“เฮ้อ..”เสียงทอดถอนใจดังมาอยู่ไกลๆ แว่วเบาๆ เเต่คนทั้งห้องซ้อมกลับหันมาดูเว้นแต่ใครบางคนที่มีความตั้งใจมากกว่าคนอื่นเท่านั้นที่จะไม่ได้ยิน
“เป็นอะไรไปน่ะพี่..”เสียงของเจ้าคนชอบอู้วิ่งรี่ออกจากแถวมา จะช้าอยู่ใย
“ก็ไม่ได้เป็นอะไรหรอกน่า..”ซึงโฮพลิกหน้าหนีสิ่งที่มองอยู่ก่อนจะเอามืออีกข้างเเคะหูราวกับว่าไม่ได้มีเรื่องอะไรสลักสำคัญเลยแม้เเต่น้อยนิด
“อย่ามาชิวกลบเกลื่อนเลยน่า
.มีอะไรก็บอกมาเถอะ เผื่อผมช่วยได้นะพี่นะ”ชอลยงเอานิ้วมือตัวเองเเหย่ไปที่เเก้มนิ่มๆ เฉียดปากที่แอบกินเนื้อที่บนใบหน้าไปนิดเดียวเอง
“บอกไม่มีอะไร ก็ไม่มีอะไรซิ...นายนี่ถามเซ้าซี้จริงๆ”ซึงโฮสะบัดหน้าไปอีกทาง ไม่วายเอามือตัวเองผลักหัวเจ้าคนที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นให้ไกลออกไป
“โอ้ย
อารมณ์ไม่ดีเเล้วอย่ามารังแกผมซิ ผมก็แค่เป็นห่วงเองนะ..”เจ้าตัวเล็กเอามือลูบตัวเองที่โดนประทุษร้ายปรอยๆ
“อ้าวๆๆๆ แล้วมันใช่หรอไง มาลงที่ชอลยงของฉันเฉย..ว่าเเต่ตกลงเป็นอะไรไปล่ะเนี่ย”อีกคนที่มานั่งเม้าท์กับเขาบ้างไม่วายพะเน้าพะนอคนรักตัวเองไปด้วย
“โอ้ย ผลักแค่เนี่ยหัวมันไม่หลุดหรอกน่า น่าหมั่นไส้ชะมัดเลย พวกแกนี่”ซึงโอบ่นอีกซักรอบก่อนจะหันไปดูคนที่เหลือสองคนที่ยังซ้อมกันต่อไปอย่างดูไม่เหน็ดเหนื่อย
“ทะเลาะกันหรอ..”อีจุนมองหน้าคนที่ทำตาละห้อยเเล้วจึงถามออกมา ด้วยเพราะทุกคนก็รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งชองดุง เเละซึงโฮ
“เปล่า..ไม่ได้ทะเลาะ”คนตอบคำถามเอามือประสานไว้ ก่อนจะเอาคางเกงบนหลังมือที่ซ้อนทับกันอยู่เบาๆ จนคนที่มองทั้งสองคนต้องเลิกคิ้ว
“ไม่ได้ทะเลาะ แต่ท่าทางนายมันบอกว่ามีเรื่องนี่”อีจุน อ้อมมาอีกฝั่ง อยากประจันให้ได้ ไม่วายคู่หูคู่ใจ หันไปดักอีกฝั่ง คงกะว่าถ้าไม่ได้ยุ่งก็คงไม่ได้เเล้วจริงๆ
“โอเค..โอเค เรื่องมันก็ไม่ได้มีอะไรหรอกโว้ยค้าบ..แต่แค่คิดว่า เจ้าหมอนั้นน่ะ..นู่นๆๆ ยืนซ้อมหัวโด่นั้นน่ะ”ว่าเเล้วก็เอาปากบุ่ยใบ้ไปทางนั้นให้คนอื่นมองตาม
เเละนั้นคือนาย ดุงกี้ ดุงกี้ ดุงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ชอนดุงคับผม
“อ่า
เเล้ว
.ยังไงล่ะว่ะ บอกมากกว่านี้ดิ แกชี้แค่ไอ้ชอนดุง อย่างเดียว เอ..หรือว่าแกมีซัมติ้งกับ จีโอ..คงไม่ม้างงงงงง”อีจุนทำหน้าเหยเมื่อคิดถึงสิ่งที่ตัวเองจินตนาการ
“เดี๋ยว ปั๊ดตบกะโหลก โชว์ไอ้มีร์ และเพื่อนฝูงเลยนี่..คิดได้ไงล่ะ ถ้าอย่างนั้น ชอนดุงได้เอาฉันตายซิ แค่วันคริสมาสต์ที่ผ่านมาก็ลุกไม่ขึ้นเเล้ว”ซึงโฮบ่นอุบไปมา ไม่อยากพูดดังนัก คนอย่างเขาเเค่ตกไปเป็นเมียคนอื่นก็เสียมากเเล้วนา
“งั้นอะไรล่ะ บอกมาซิ จะได้รู้ซะที พี่ก็อมอยู่นั้นเเหละ อมจนปากห้อยเเล้วเนี่ย”เจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเอ่ยออกมาอย่างไม่กลัวตาย จนคนฟังส่ายหัวเบาๆ คนจะมีความลับบ้างก็ไม่ได้
“นายเห็นไหม หมอนั่นน่ะ..ยิ่งโตยิ่งหล่อ..เเถมยิ่งโต ตัวก็ยิ่งใหญ่ขึ้นๆ แล้วดูฉันซิ มีเเต่พุง กับย้วยๆๆๆๆ”ว่าเเล้วก็เอามือขยี้พุงน้อยๆของตัวเองไปมา
“แล้วนี่..คิดดู คิดดูซิ
ผู้หญิงในวงการก็มีตั้งเยอะ เอวบางร่างน้อย หุ่นดีน่ารัก ตาแป๋ว เอวขอบชีส ตาตี่ปากห้อยอย่าฉันจะไปสู้ได้ที่ไหนเล่า
อีกหน่อยก็โดนเขี่ย ดังซึ่บ ก็เท่านั้นเอง”ซึงโฮแบไต๋ออกมาในที่สุด
“คิดมากไปหรือเปล่าพี่น่ะ มันรักที่พี่เป็นพี่ แล้วจะกังวลทำไม”ชอลยงเข้ามาคลอเคลียบอกพี่ตัวเองน้อยๆ หวังจะให้อีกคนเลิกคิดมากไป
“ไม่มากหรอก..คนเรารักได้ก็เบื่อได้ ไม่ใช่หรือไงล่ะ ใช่ม้าาาาาา”ว่าเเล้วก็กลับไปทำท่าถอนหายใจอีก จนอีจุนเเละมีร์มองหน้ากันน้อยๆ
คิดไปคิดมา ซึงโฮก็ให้ความสำคัญกับอีกฝ่ายมากเหมือนกันนะ
“เอางี้ไหม..ฉันมีทางออก”
..
..
“หา
.แค่นี้ฉันกินไม่อิ่มหรอกเว้ย..”ซึงโฮมองกระดาษในมือของอีจุนที่เอามาให้ด้วยสายตาไม่พึงประสงค์นัก
“กินๆเข้าไปเหอะน่า
ไม่อยากให้เอวมีชีส ก็กินน้อยๆ ฝึกเยอะๆไปนั้นเเหละ คราวนี้รับรองหุ่นดี เช้งเเน่ๆ เชื่อมือซิ”อีจุนยิ้มโชว์ฟันเรียงกันทุกซีกให้ดู เพื่อเเสดงความมั่นใจ
“เเต่มันไม่น้อยไปหรอ..ฉันต้องใช้พลังงานนะ”ซึงโฮขมุบขมิบปากบอก เหลือบตามองคนที่ถือกระดาษมาให้นิดๆราวกับขออุธรณ์
“นายอยากมีขอบชีสที่ใหญ่ขึ้น เเล้วตอนที่ติ๊ดชึ่งกัน ไอ้ชอนดุงก็มองเห็นพุงของนาย อย่างนั้นก็ท่าจะดีไหมล่ะ”อีจุนยิ้มร้ายใส่ไฟอย่างเต็มที่
“เออ
..ก็ได้ว่ะ แต่ฉันไม่มั่นใจว่าจะทำได้ไหมน่ะซิ นายก็รู้ว่าฉันชอบกินจะตาย มาให้งดกินแป้งอย่างงี้จะไหวหรอ อะไรๆมันก็ใส่แป้งทั้งนั้นล่ะ”ซึงโฮเลยใช่วิธีโวยวายมันเสียเลย
“เอาอย่างงี้ดีไหม ถ้านายเกิดคลั่งฉันจะสกัดดาวรุ่งให้ เดี๋ยวให้ชอลยงช่วยด้วยอย่างนี้ฟังเข้าท่ากว่าไหม”อีจุนผู้มีน้ำใจแสดงความแมนออกมาอย่างไม่ปกปิด
“โอเคเอาไงก็เอาว่ะ!!!!!!!!!!”
******************************************************************************
เช้าอีกวันที่ต้องเข้าห้องซ้อม เจ้าของหัวสีอ่อนที่เมื่อสมัยก่อนเคยเป็นสีน้ำตาลเข้มนั่งสะบัดไปมาอย่างเซ็งๆ ท้องของเขาไม่ถือว่าว่างมากเเต่มันก็ไม่ได้อิ่มอย่างที่คิด เมื่อเช้าเขาได้กินเเค่เพียงผักกาดต้ม กับอกไก่อีกชิ้นครึ่งเท่านั้น
น้ำย่อยระบบเทอร์โบว์สิบหกวาวของเขามันกำลังประท้วงว่าของเเค่นี้ไม่คณามือมันหรอกเพียงเเต่ว่าอีจุน จีโอที่รู้เรื่องทีหลัง ก็คอยจ้องเขาเขม็งเเถมเวลากินก็ต้องหลบๆซ่อนๆ ไม่อยากให้ชอนดุงรู้อีกต่างหาก
“เป็นอะไรไปน่ะ..พี่”ชอนดุงเดินเอาน้ำเย็นมาแปะที่เเก้มนุ่มของคนที่นอนเเบบอยู่เบาๆ รอยยิ้มพิมพ์ใจ เหงี่อโทรมกายเเละร่างกายที่ดูเป็นหนุ่ม ทั้งความสูงที่มาพร้อมซิกเเพ๊คทำเอาเขาน้ำลายไหลด้วยความอิจฉา
เเน่ล่ะไม่มีซิกเเล้วยังพุงกะทิอีก โถ
ชีวิตของห้อย
“ไม่เป็นไรหรอก เเค่เพลียๆอะ”ซึงโฮยิ้มเเบบเเกนๆ จะบอกได้ยังไงล่ะว่าหิวข้าว เดี๋ยวก็ต้องมีเรื่องให้คุยกันอีกยาว
“หรอ หน้าตาไม่สดชื่นเลย เอานี่ไหม ผมได้มาจากแฟนคลับเมื่อวาน”ชอนดุงถอยไปสองสามก้าว ก่อนจะคว้ากระเป๋าใกล้ตัวมาเปิดออก ไม่รอช้าร่างสูงคุ้ยเขี่ยไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายเขาก็เจอ มือยาวหยิบเอาขนมปังแผ่นที่มีไส้ช๊อคโกเเลตเล็กๆอยู่ตรงกลางออกมาทันที
“อะ..พี่น่าจะชอบ”เด็กหนุ่มว่าพลางยื่นให้คนที่ตาวาวมองทันที
“ขอบใจนะ..อ..เอ่อ..”ซึงโฮเเทยกระโดดคว้าเอาไว้ทันทีเเต่ความคิดบางอย่างกับแทรกเข้ามาเสียก่อน
‘นายอยากให้หมอนั้นเห็นพุงขอบชีสของนายหรือไง’
“ขอบใจนะ เเต่ฉันไม่ค่อยหิวนายกำลังโตนี่ นายกินเถอะ”ซึงโฮยิ้มแกนๆ ก่อนเขาจะส่งมันคืนให้เจ้าของ พยายามไม่มองมันอีก
ชอนดุงได้เเต่มองมือขาวที่ส่งกลับมาด้วยความสงสัย คำพูดที่ปฏิเสธนั้นผิดไปจากที่เคยเป็น คนตรงหน้าบอกว่าอิ่ม แต่สายตาที่ต้องการจะเขมือบแม้กระทั้งถุงพลาสติกเขาไปมันช่างขัดกันจริงๆ
ปกติให้อะไรไปไม่เคยเลยเหลือซักอย่าง แต่นี่อะไรบอกไม่เอา เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
“ไม่เอาจริงอะ เป็นไรหรือเปล่าเนี่ย”ชอนดุงเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะยิ้มพิมพ์ใจให้ไปอีกครั้ง เอามือไปแตะใบหน้าของอีกคนอย่างนึกห่วง
“ไม่เอาจริงๆ อิ่มเเล้ว..ขอบใจนะ ไปซ้อมเต้นกันต่อเหอะ..”มือขาวคว้าเอามือของอีกคนเอาไว้ก่อนจะชี้ชวนให้ไปทำอย่างอื่นแทน
ความจริงก็ไม่ได้ขยันซ้อมอะไรหรอก เเต่การหาอย่างอื่นทำก็ทำให้ลืมเรื่องหิวไปได้มากเหลือเกิน
******************************************************************************
เนื่องจากหลายวันนี้มีงานหลายที่ เเละมีให้ต้องเเยกกันอัดรายการบ้าง ชอนดุงจึงไม่ได้พบเจอกับซึงโฮมากนัก อย่างมากที่สุดก็เจอกันแค่เพียงเวลาก่อนนอน เวลาซ้อมบ้างเท่านั้น
แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ อีกฝ่ายดูอ่อนเปลี้ยเพลียเเรงลง ใบหน้าดูทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด ขอบตาที่คล้ำอยู่เเล้วก็ยิ่งฉายเเววหมีแพนด้า จนคิดว่าเทศกิจมาอาจจับผิดตัวได้ถ้าไม่มองให้ดีเสียก่อน
“อะไรมันก็แปลกๆ..จริงๆนะ แปลกแน่ๆ”
เขาว่าเด็กฉลาดชาติจะเจริญ..อันได้เเก่ นาย ปาร์ค ซังฮยอน ผู้เป็นเด็กหน้ามึนแต่มีปัญญา
นอกจากทางกายภาพที่ตรวจเเค่ภายนอก เลยไม่เเน่ใจว่ามันเพราะงานหนักหรืออะไรกันเเน่ เพราะยังไม่ได้มาทดสอบกำลัง เเละตรวจภายใน เนื่องจากยังไม่มีเวลามากขนาดนั้น
“เเต่เเค่งานหนักจะซูบซีดอย่างงั้นเลยหรอ” เเล้วก็วิเคราะห์ต่อ ตอนนี้นอกจากจะเป็นนักร้อง เเล้วเป็นน้องของนักร้องอีกทีเเล้ว จะกลายร่างเป็นโคนันหน้าหล่อไปเสียอีกอย่างก็คงไม่เป็นไร
จะว่าไป..ถ้ามัวแต่มานั่งสงสัยอยู่อย่างงี้ท่าทางจะไม่ดีเเน่
เเล้วคนอย่าง ยาง ซึงโฮน่ะหรอจะตอบง่าย โฮะๆๆๆ ฝันไปเถอะ รอให้ชอนดุงปั้มลูกให้อีกฝ่าย และซึงโฮท้องออกลูกเป็นแพนด้า กับ หมาปั๊กหน้ากลมก่อนเถอะเเล้วค่อยว่ากัน
“สงสัยคงต้องทำอะไรซักอย่างซิน่า
”
..
..
“อรุณสวัสดิ์
ฮ้า..ว
หาวววว”ซึงโฮหาวปากกว้าง หวอดใหญ่เเล้วจึงไถลตัวลงนอนไปกับพื้นไม้เย็นๆ ตอนนี้
การลดน้ำหนักของเขาได้ผลอย่างมาก เพราะน้ำหนักตอนนี้ก็หายไปเเล้วสองถึงสามกิโลกรัม เจ้าพุงย้อยๆนั้นก็ได้รับการ up and down และเต้นอย่างหนักหน่วง ผลมันเลยเป็นที่น่าพอใจอย่างนี้
แต่ผลที่ตามมาคือเขาเริ่มรู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียเเรง เเละยังรู้สึกลอยๆ เหวงๆ ชอบกล ไหนจะยังไอ้ท้องบ้านี่ก็ร้องไม่เลิกราเสียที เขาอยากกินขนมปัง อยากกินซาลาเปาใส้ครีม ช๊อคโกแลต และอื่นอีกมากมายก่ายกอง
โอย
..อยากกินโว้ย!!!!!!!!!!!
“พี่ซึงโฮ..เป็นอะไร”ชอลยงที่เดินนำหน้า ชอนดุงเข้ามาก่อน ใหน้าหล่อเหลาเหล่มองอีกคนอย่างสังเกตการณ์
“ฉ
ฉัน แค่เหนื่อย..น่ะ”ซึงโฮคอบปัดๆ ก่อนจะเดินไปนั่งหงอยๆอยู่อีกมุม พลางเอามือลูบท้องของตัวเองปรอยๆ ดูก็ทางสายตาก็รู้ว่าหิวมาก เมื่อเช้าก็กินแค่ไก่ต้มชิ้นเดียวกับผักเท่านั้น มันจะไปพออะไรกับร่างกายที่ต้องใช้อย่างหนัก
หากแต่ชอนดุงเองก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเเค่ทำเป็นเฉยไปก่อน อากรู้ว่ามันจะยังไง เจ้าตัวเลยแสร้งทำเป็นเดินไปเปิดเป้ใบโปรด หยิบปลาหมึกอบแห้งของโปรดใครบางคนขึ้นมา ทำทีเป็นแกะกิน อาจจะเพราะกลิ่นมันเเรง หรือ เพราะคนมันหิวจมูกมันก็เลยดีไปหน่อย ซึงโฮจึงหันขวับมามองทันที
ปากอิ่ม ทำท่าขมุบขมิบน้อย สายตาร่องลอยราวกับเจอของฟ้าประทาน แต่ก็ยังไม่มีท่าทีจะขยับเข้ามาใกล้ แม้เเต่น้อย ชอนดุงเองก็อดมองอย่างนึกขำไม่ได้เช่นกัน
“อยากกิน??” เด็กหนุ่มทำเป็นยื่นของในมือไปให้ หากอีกคนพยักหน้าลอย แต่หากเหมือนสติกลับมา อย่างกระทันหันจึงรีบส่ายหน้าทันควัน
“ม
ไม่กินหรอก ฉ
ฉันไม่ค่อยอยากกินน่ะ นายกำลังโต กินไปเถอะ”หลังจากบอกด้วยประโยคคลาสสิค ว่าเเล้วก็สะบัดหน้าไปอีกทาง พร้อมกับสะกดกลั้นความอยากเข้าไปด้วยอย่างสุดกำลัง
เด็กหนุ่มร่างสูงจึงได้พยักหน้าขึ้นลงอย่างช้าๆ อย่างพอจะเดาทางออก มือยาววางขนมในมือตัวเองลงข้างตัว ทำท่าจะเดินเข้าใกล้ อีกฝ่ายที่อยู่ถัดไปไม่ไกลนัก
“เอาล่ะ พักมานานเเล้ว
มาซ้อมได้เเล้วเร็ว” ครูฝึกลับเดินเข้ามาขัดเอาเสียก่อน
ชอนดุงจึงได้เเต่ทำท่าไม่สบอารมณ์นัก เเต่ก็ยอมทำตามโดยง่าย คิดเอาว่าหลังซ้อมยังมีเวลาให้คุยกันอีก รอให้ถึงตอนนั้นก็คงไม่เสียหายเท่าไหร่นัก เนื่องจากวันนี้ไม่มีงานอะไรเสียหน่อย ยังไงก็คงหลบไม่พ้นแล้วล่ะ
เสียงเพลงจากอัลบั้มใหม่ดังขึ้นทันที่ที่ทุกคนพร้อม และประจำที่ ท่าเต้นที่ซ้อมมามากกว่าร้อยครั้งก็ทำให้เข้าจำมันได้อย่างเเม่นยำ หากเเต่การฝึกฝนจะทำให้มันสมบูรณ์แบบมากกว่าที่เคย นั้นก็คือเรื่องที่พวกเขาไม่เคยละเลยที่จะทำ
ยิ่งซ้อม ก็ยิ่งเป็นผลประโยชน์กับตัวเองเเละวง
เพียงเเค่หัวหน้าวงเท่านั้นที่มีอาการผิดไป ซึงโฮเริ่มรู้สึกตัวเบาอย่างประหลาด สายตาที่มองชัดๆก็เริ่มเบลอไปไม่เหมือนเคย หากเเต่ความคุ้นชินนั้นทำให้ร่างกายขยับไปโดยไม่รู้ตัว อาการปวดท้องเริ่มรุมเร้าอย่างหนัก ประท้วงจนตัวเองยังนึกรำคาญใจ
กว่าจะรู้ตัวอีกครั้ง
ใบหน้าของคนที่ตัวเองรักสุดใจก็ เเว่บเข้ามา พร้อมกับเสียงโวยวายรอบกาย ที่เขาฟังไม่ได้ศัพท์ เพราะหลังจากนั้นทุกอย่างก็มืดมิดโดยไม่รู้ตัวน่ะซิ
.
..
..
แสงสว่างสีขาวทำให้คนที่นอนอยู่ปรือตาขึ้นมาเล็กน้อย เนื่องจากว่าเเสงกล้าจนเกินไป..ทำให้คนที่ตื่นยากอย่างเขาจำใจต้องปรือตาขึ้นมองอย่างเสียไม่ได้ สายตาเรียวมองไปรอบกาย ภาพของห้องที่คุ้นเคยทำให้เขาแน่ใจว่าตอนนี้เขากลับมาอยู่หอพักของตัวเองเรียบร้อยเเล้ว
แต่มายังไงนี่ซิสำคัญ..
เพราะตัวเองก็จำได้ ว่าก่อนหน้าที่จะหลับไป..หรืออะไรซักอย่าง เขากำลังซ้อมอยู่ ซึงโฮจึงค่อยๆปะติดปะต่อเรื่องราวของตัวเองที่ละเล็กละน้อย จนได้ใจความว่า
เขาเป็นลมไป..ใช่ เขาปวดท้อง และเป็นลมไปนี่เอง
มือขาวยกขึ้นกุมศีรษะที่เริ่มโคลงๆของตนเบาๆ ยังรับรู้ได้ว่าร่างกายของตนยังอ่อนเพลียอยู่มากนัก จนอยากล้มตัวลงนอนอีกครั้งเสียให้ได้เลยเชียว
แกร๊ก..
เสียงประตูเรียกสายตาที่กำลังหรี่ลงให้หันไปมองที่มาของมัน เห็นเป็นใครบางคน กำลังถือถาดอะไรบางอย่างเข้ามาให้ ปากอิ่มจึงคลี่ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว บางครั้งเวลาเหนื่อยหรือป่วย เห็นแบบนี้ก็รู้สึกดีขึ้นมากเหลือเกิน
“ตื่นเเล้วหรอ..กินนี่ก่อนซิพี่ พี่ผู้จัดการเขาไปซื้อมาให้”ชอนดุงยิ่มอบอุ่นให้ ใบหน้าหล่อเหลาว่าพลางยื่นซุปอ่อนๆ ที่มีขนมปังเเละ ไก่ฉีกหน้าตาน่าทานมาให้ดู ทำเอาคนที่หิวอยู่แล้วน้ำลายสอ หากก็ต้องจำใจเอ่ยปากบอกผ่าน
“ฉัน..ไม่..”
“เลิกเสียทีเหอะ เรื่องลดความอ้วนบ้าบอนั้นอะ..”จากที่ยิ้มดีก็เริ่มนิ่งเป็นผีจีนเสียแล้วซิ เด็กหนุ่มวางถาดลงบนตักของอีกคน ก่อนจะเอาช้อนนั้นตักบางส่วนขึ้นมาเป่าสองสามที เเล้วจึงเอามันมาจ่อที่ปากเจ้าตัวการ
“อ้าปาก..”เสียงเย็นที่ไม่ค่อยได้ฟังมากนัก ทำให้ซึงโฮกลืนน้ำลายเบาๆ หากก็พยายามไม่ทำตาม
“อย่าให้ใช้กำลัง
กินเเบบนี้อร่อยดีอยู่เเล้ว อย่าให้ใช้วิธีอื่น อ้าปากครับ”ชอนดุงบอกอีกครั้ง เพิ่มดีกรีความโหดของตนขึ้นอีกระดับ จนอีกคนขมวดคิ้วทำหน้าเหวี่ยงใส่บ้าง
แต่ก็ยังเจอเข้ากับผีจีน..เลยต้องจำใจทำตาม
“อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะเรื่องที่ลดน้ำหนักไม่ยอมกินอะไรน่ะ ผมไปถามพี่ลีจุนมาเเล้ว พี่เขาเอาตารางอาหารที่พี่กินมาให้ผมดูหมดแล้ว บ้ากันไปใหญ่..”เด็กหนุ่มพูดไปพลาง ป้อนไปพลาง มองหน้าอีกคนที่มองไปทางอื่นไม่สบตาของไปพลาง ไม่พอเจ้าตัวคนนั้นยังทำท่าไม่สำนึกอีก
“ขอทีเหอะนะ..เลิกเหอะ จะลดไปทำไม ถึงคนจะบอกว่าพี่อ้วน เเต่พี่ก็ไม่ได้อ้วนขนาดนั้นซะหน่อยจะลดไปทำไมกัน..”เมื่อเขาเห็นว่ามันหมดไปเยอะเเล้วจึงวางลงจนคนที่กำลังกินเพลินต้องหันมามอง
หากพอเห็นใบหน้ายิ้มๆอย่างรู้ทันของเด็กหนุ่มเลยต้องเบะปากออกอย่างเซ็งๆ
“อยากกินอีกหรอ ผมให้เขาซื้อมาเยอะเลย เเต่ก่อนหน้านั้นตอบผมมาก่อน นึกยังไงมาลดน้ำหนักอย่างนี้”เเล้วก็กลับมาทำหน้าตาจริงจังอีกครั้ง จนซึงโฮเองก็ไม่รู้จะตอบยังไง
“คือ
”คนมากวัยกว่าทำหน้าปั้นยาก มองมือตัวเองน้อยๆ
“ตอบมาเถอะ..เพราะผมใช่ไหม”ดูท่าเเล้วอีกคนคงไม่ยอมพูดเองเเน่ตามนิสัย เลยชิงพูดนำร่องมันเสียก่อน แล้วก็ได้รับคำตอบที่น่าพอใจเสียด้วยคือการพยักหน้ารับ
“เเล้ว
”เจ้าหนุ่มชอนดุงยังคงกดดันให้อีกคนตอบอยู่ดี
“ก็..นายน่ะโตขึ้นทุกวัน ในขณะที่ฉันเผละขึ้นทุกวัน เเถมขี้เหร่ด้วย อีกอย่างนายก็ดันหน้าตาดีขึ้นรับกับตัวนายด้วย..เเล้วจะให้ฉันอยู่เฉยๆได้ไงล่ะ คนอื่นเขาก็จ้องจะเขมือบนายทั้งนั้นล่ะ ไปออกรายการไหน สาวๆเขาก็อยากได้นายทั้งนั้นน่ะแหละ”ซึงโฮพ่นลมหายใจของตัวเองออกแรงๆ อธิบายให้อีกคนเข้าใจ อย่างชัดเจน เหลือบตามองเพดาน มองกำแพงไป ไม่อยากสบตาคนพูดด้วยทั้งเขิน ทั้งอาย ทั้งกระดาก
“แล้วผมเคยบอกเมื่อไหร่ ว่าชอบคนพวกนั้น..”มือยาวเอื้อมมือมาจับมือของอีกคนเอาไว้เบาๆ อยากให้อีกคนสบตาของเขาตอนนี้เหลือเกิน
เพราะไม่ใช่ว่าไม่ดีใจที่อีกคนทำ แต่มันห่วงมากกว่า
“ผมเคยบอกเมื่อไหร่ว่าพี่อ้วน ว่าพี่ไม่ดีครับ.. ผมเคยบอกพี่อย่างนั้นหรอ”เด็กหนุ่มเว้นวักอีกครั้งเอื้อมมือไปลูบปลายผมสีทองอ่อนที่เริ่มยาวก่อนจะเอามือลงมาผสานเข้าด้วยกันที่มืออีกคน
“ถึงจะอ้วนยังไงผมก็รักของผมน่า
พี่ก็น่าจะรู้ ต่อให้พี่อ้วนเป็นตุ่มผมก็รักอย่างนี้แหละ ผมเป็นผู้ชายนะครับ ตอนพี่เป็นลมน่ะ ผมตกใจแทบตาย วิ่งแบกพี่กลับมาได้ เพราะงั้น พี่ไม่ได้อ้วนเสียหน่อย”ชอนดุงว่าพลางยิ้มประจบอย่างที่ชอบทำจนอีกคนอดทำปากยู่ใส่ไม่ได้
“แบกเลยหรอ
”
“เอ้า..ก็คนมันตกใจนี่
เอาน่า เลิกเหอะนะ ผมขอเรื่องลดความอ้วนอะไรนั้นน่ะ ทรมานตัวเองทำไม นะครับ ขอเถอะ อย่าทำให้ผมเป็นห่วงพี่มากไปกว่านี้เลยนะครับ” ชอนดุงถอนหายใจเบาๆ คบืออีกฝ่ายน้อยๆอย่างขอคำตอบ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้มีท่าทีตอบรับเท่าไหร่นัก
“นะครับ..แค่นี้ผมก็รักพี่จะแย่ ผมรักของผมคนเดียวดีแล้ว แล้วถ้าเกิดผอมขึ้นมามีแต่คนมารุม ผมไม่ลำบากหรอ เพราะงั้น สัญญานะ..ว่าจะเลิก”ต้องมีหยอดยาหอมกันบ้างล่ะ
“อือ
ก็ได้”ถึงจะตอบแบบเเกนๆเเต่นั้นก็นับว่าดีมาก จนคนขอยิ้มออกมาได้อย่างโล่งอกเสียที
“แต่
ถ้าฉันอ้วนไป อย่ามาบ่นทีหลังละกันนะ”แน่ะ..ซึงโฮแอบมีต่อรองดักคอเอาไว้กันล่วงหน้าเลยล่ะ เเต่มีหรือเจ้าหนุ่มจะบอกไม่ จะบอกบ่น ไม่มีเสียล่ะ
เพราะอะไรน่ะหรอ
“จะไม่พูดให้ได้ยินซักคำเลยครับ..เพราะพอพี่เริ่มอ้วนเกินไป..ผมก็มีวิธีออกกำลังกายในที่ร่มให้พี่กลับมาผอมได้เหมือนกันครับ
.”เด็กหนุ่มกระซิบเสียงเบาด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ใส่ ไม่วายจูบปากอีกคนเบาๆ
แต่คนฟังนี่ซิ
หน้าเหวอจนไปต่อไม่เป็นกันเลยล่ะ จะว่ากรรมเวรหรือยังไง เปลี่ยนไเป็นบอกว่าขออดอาหารเหมือนเดิมจะทันไหมนะ ซึงโฮเอ๋ย!!!!!!!!
เด็กมันฉลาดก็ว่าดี แต่ฉลาดไปก็เหนื่อยตัวเองเหมือนกันนะโว้ย..
********************************************************************************
ความคิดเห็น